คู่มือเที่ยวคันไซ 21 ที่เด็ดโอซาก้า เกียวโต โกเบ

วันนี้ "JapaiJAPAN" จะพาทุกคนตะลุย "คันไซ" ดินแดนมหัศจรรย์แห่งญี่ปุ่นตะวันตกที่รวมทุกความสุดยอดไว้ในที่เดียว! นำเสนอทั้งวัดเก่าแก่อายุพันปี ปราสาทโบราณสุดอลังการ ธรรมชาติที่งดงาม ตั้งแต่ภูเขาจรดทะเล อาหารเลื่องชื่อจากทุกมุมเมือง และเทศกาลสุดคึกคักตลอดทั้งปี มาร่วมค้นหาไฮไลต์สำคัญ เคล็ดลับการเดินทาง และจุดเช็คอินห้ามพลาดทั่วภูมิภาคคันไซกันเถอะ!

ลานชมวิวของวัดคิโยมิซุเดระท่ามกลางใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงและท้องฟ้าสีครามสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในเกียวโต "วัดคิโยมิซุเดระ"
ที่มาภาพ: Photo AC

ภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?

"ภูมิภาคคันไซ" ดินแดนที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาแต่โบราณ เป็นภูมิภาคที่เป็นศูนย์รวมของเมืองสำคัญ อย่าง โอซาก้า เกียวโต และนารา ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับความทันสมัย พร้อมเสน่ห์ของภาษาถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสร้างบรรยากาศอบอุ่นแบบท้องถิ่นที่ไม่เหมือนที่ไหน

กิอนในเกียวโตที่ยังคงรักษาทิวทัศน์ถนนสมัยโบราณไว้อย่างสมบูรณ์กิอนในเกียวโตที่ยังคงรักษาทิวทัศน์ถนนสมัยโบราณไว้อย่างสมบูรณ์
ที่มาภาพ: Photo AC

ภูมิภาคคันไซประกอบด้วย 6 จังหวัดที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน เกียวโต โดดเด่นด้านวัดและศาลเจ้าในฐานะอดีตเมืองหลวง นาราเป็นเมืองหลวงแรกที่เต็มไปด้วยมรดกโลก โอซาก้า คือ สวรรค์แห่งอาหารและแหล่งชอปปิ้ง เฮียวโกะมีเมืองท่าโกเบและออนเซ็นชื่อดัง วากายามะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการแสวงบุญ และชิกะที่มีทะเลสาบบิวะอันงดงาม

โดตงโบริโอซาก้าโดตงโบริโอซาก้า
ที่มาภาพ: Photo AC
ทิวทัศน์เมืองโกเบที่ผสมผสานความเก่าใหม่ของภาคตะวันตกและตะวันออกทิวทัศน์เมืองโกเบที่ผสมผสานความเก่าใหม่ของภาคตะวันตกและตะวันออก
ที่มาภาพ: Photo AC

อาหารท้องถิ่นคันไซสะท้อนเสน่ห์วัฒนธรรมแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่โคนาโมโนะโอซาก้า เต้าหู้เกียวโต และคาคิฮะซูชินารา และเนื่องจากระบบขนส่งที่ทั้งสะดวกและทันสมัย เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ทุกยุคสมัย ภูมิภาคคันไซจึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวมือใหม่และสายลุยที่ชอบสัมผัสวัฒนธรรมเชิงลึกอย่างยิ่ง

สภาพอากาศและไฮไลต์ตามฤดูกาลในคันไซ

ภูมิภาคคันไซตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอนชู มีอากาศอบอุ่นน่าอยู่ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฤดูใบไม้ผลิอุณหภูมิแปรปรวน พอผ่านฤดูฝนเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิจะพุ่งสูงเกิน 30 องศา ฤดูใบไม้ร่วงต้องระวังพายุไต้ฝุ่น ส่วนฤดูหนาวอุณหภูมิประมาณ 10 องศา หิมะตกน้อย
เนื่องจากภูมิประเทศที่มีทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลญี่ปุ่นขนาบข้าง ทำให้แต่ละพื้นที่มีสภาพอากาศแตกต่างกัน เช่น นาราที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่กับวากายามะที่ติดทะเล อยากเที่ยวคันไซให้สนุก ต้องเช็กสภาพอากาศแต่ละที่ก่อนไปด้วยล่ะ!

สถานที่ท่องเที่ยวฝั่งทะเลญี่ปุ่นมีโอกาสเจอหิมะตกหนักมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งทะเลญี่ปุ่นมีโอกาสเจอหิมะตกหนักมากกว่า
ที่มาภาพ: Photo AC

ข้อมูลสี่ฤดูของนารา

หัวข้อ ฤดูใบไม้ผลิ
(มีนาคม-พฤษภาคม)
ฤดูร้อน
(มิถุนายน-สิงหาคม)
ฤดูใบไม้ร่วง
(กันยายน-พฤศจิกายน)
ฤดูหนาว
(ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
อุณหภูมิเฉลี่ย มีนาคม:8.5 องศา
เมษายน:14.0 องศา
พฤษภาคม:19.0 องศา
มิถุนายน:22.9 องศา
กรกฎาคม:26.8 องศา
สิงหาคม:27.8 องศา
กันยายน:23.8 องศา
ตุลาคม:17.7 องศา
พฤศจิกายน:11.8 องศา
ธันวาคม:6.8 องศา
มกราคม:4.5 องศา
กุมภาพันธ์:5.1 องศา
อุณหภูมิสูงสุด พฤษภาคม 24.9 องศา สิงหาคม 33.4 องศา กันยายน 28.8 องศา ธันวาคม 11.6 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด มีนาคม 3.6 องศา มิถุนายน 18.4 องศา พฤศจิกายน 7.3 องศา มกราคม 0.8 องศา
ปริมาณน้ำฝน
(สูงสุดในฤดู)
พฤษภาคมสูงสุด(138.5mm) มิถุนายนสูงสุด(184.1mm) กันยายนสูงสุด(159.0mm) กุมภาพันธ์สูงสุด(63.1mm)
ไฮไลต์การท่องเที่ยว ฤดูใบไม้ผลิในนารานอกจากซากุระแล้ว
ดอกบ๊วย ดอกคาเมเลีย ดอกวิสทีเรีย
ก็น่าชมเช่นกัน

คืนฤดูร้อนมีกิจกรรมจุดโคมไฟ
ที่มาจากพิธีบูชามากมาย
ใบไม้สีแดงและเทศกาลประเพณีอุเนเมะมัตสึริ
การตัดเขากวาง และนิทรรศการ
สมบัติแห่งชาติโชโซอินประจำปี
เดือนมกราคมมีงานใหญ่ที่สุดของนาราทั้งปี
"วากุสะยามะ ยามะยากิมัตสึริ"
มีการเผาไฟภูเขาที่ส่องสว่างทั่วนารา
เพื่อขอพรและปัดเป่าเคราะห์สำหรับปีใหม่
ข้อมูลสี่ฤดูของวากายามะ
รายการ ฤดูใบไม้ผลิ
(มีนาคม-พฤษภาคม)
ฤดูร้อน
(มิถุนายน-สิงหาคม)
ฤดูใบไม้ร่วง
(กันยายน-พฤศจิกายน)
ฤดูหนาว
(ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
อุณหภูมิเฉลี่ย มีนาคม 9.9 องศา
เมษายน 15.1 องศา
พฤษภาคม 19.7 องศา
มิถุนายน 23.2 องศา
กรกฎาคม 27.2 องศา
สิงหาคม 28.4 องศา
กันยายน 24.9 องศา
ตุลาคม 19.3 องศา
พฤศจิกายน 13.8 องศา
ธันวาคม 8.6 องศา
มกราคม 6.2 องศา
กุมภาพันธ์ 6.7 องศา
อุณหภูมิสูงสุด พฤษภาคม 19.7 องศา สิงหาคม 32.6 องศา กันยายน 29.0 องศา ธันวาคม 12.5 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด มีนาคม 5.8 องศา มิถุนายน 20.1 องศา พฤศจิกายน 9.9 องศา มกราคม 2.9 องศา
ปริมาณน้ำฝน
(สูงสุดรายฤดูกาล)
พฤษภาคมสูงสุด(146.6mm) มิถุนายนสูงสุด(183.5mm) กันยายนสูงสุด(181.3mm) พฤศจิกายนสูงสุด(95.9mm)
ไฮไลต์การท่องเที่ยว ช่วงซากุระบานสะพรั่ง
เหมาะสำหรับชมซากุระตามภูเขาอย่างโยชิโนะยามะ
หรือเดินเล่นตามเส้นทางคุมาโนะโคโด
หน้าร้อนต้องไปทะเล!
เล่นน้ำทะเลบนหาดทรายขาว
หรือดูดอกไม้ไฟในค่ำคืนฤดูร้อน
ฤดูกาลที่อากาศเย็นสบายและแจ่มใส
เหมาะสำหรับขึ้นภูเขา
ชมใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน
หมู่บ้านออนเซ็น
ที่กระจุกตัวอยู่ริมทะเล
พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสด
ที่อร่อยที่สุดในฤดูหนาว

ดูภาพรวมสภาพอากาศ 4 ฤดูของโอซาก้า

ดูภาพรวมสภาพอากาศ 4 ฤดูของเกียวโต

ฤดูซากุระในคันไซ

คลองและเรือท่องเที่ยวใต้ต้นซากุระ

ที่มาภาพ:PhotoAC

ซากุระในคันไซจะบานสะพรั่งในช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ช่วงที่ซากุระบาน สถานที่ห้ามพลาด อย่าง วัดคิโยมิซุเดระและปราสาทโอซาก้า จะถูกย้อมด้วยสีชมพูสวยงาม เหมาะกับการใส่กิโมโนถ่ายรูป พร้อมลิ้มรสอาหารตามฤดูกาล อย่าง ฮานามิเบนโตะ และขนมรสซากุระที่มีให้ชิมเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ใครอยากชมซากุระต้องไม่พลาดการเยือนคันไซ

สถานที่ชมซากุระแนะนำในโอซาก้า

สถานที่ชมซากุระแนะนำในเกียวโต

สถานที่ชมซากุระแนะนำในนารา

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในคันไซ

ผืนน้ำสะท้อนใบไม้แดงและท้องฟ้าแจ่มใสในฤดูใบไม้ร่วง

ที่มาภาพ:PhotoAC

ใบไม้เปลี่ยนสีในคันไซมีช่วงเวลาแตกต่างกันตามพื้นที่ โดยเกียวโต นารา ชิงะ จะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงกลางพฤศจิกายน ส่วนบนภูเขาโคยะซังจะเห็นสีสันตั้งแต่ต้นตุลาคม ใบไม้หลากชนิดผลัดเปลี่ยนสี สร้างภาพที่งดงาม โดยเฉพาะเมื่อผสานกับวัดเก่าแก่ ทะเลสาบ และแสงอาทิตย์ยามเย็น ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงที่คันไซเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง

สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำในเกียวโต

เทศกาลฤดูร้อนในคันไซ

โยอิยามะ ก่อนเทศกาลกิอนจะเริ่มอย่างเป็นทางการก็น่าตื่นตาตื่นใจมาก

"โยอิยามะ" ก่อนเทศกาลกิอนจะเริ่มอย่างเป็นทางการก็น่าตื่นตาตื่นใจมาก
ที่มาภาพ:The Gate to KANSAI

ถ้ามาเที่ยวคันไซฤดูร้อน ต้องไม่พลาดการเข้าร่วมเทศกาลกิอน เกียวโต งานฉลองฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่แห่งคันไซ โดยสืบทอดมากว่าพันปี จัดเต็มตลอดเดือนกรกฎาคม ไฮไลต์สำคัญ คือ ขบวนแห่เกวียน "ยามาโบโกะ จุงเกียว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกยูเนสโก ส่วนที่โอซาก้ามีเทศกาลเทนจิน จุดเด่นอยู่ที่ขบวนแห่ทางน้ำและดอกไม้ไฟสุดอลังการ ที่จะสร้างความประทับใจให้คุณแบบไม่รู้ลืม

การประดับไฟฤดูหนาวในคันไซ

ทางเดินแห่งแสง ไฮไลต์ของเทศกาลแสงไฟโกเบ

"ทางเดินแห่งแสง" ไฮไลต์ของเทศกาลแสงไฟโกเบ
ที่มาภาพ:KOBEルミナリエ

หลายเมืองในญี่ปุ่นจะจัดกิจกรรมประดับไฟในฤดูหนาว และเทศกาลแสงไฟโกเบ (Kobe Luminarie) งานประดับไฟสุดอลังการที่เริ่มต้นจากการรำลึกถึงเหตุแผ่นดินไหวฮันชินปี 1995 ก็เป็นหนึ่งในนั้น และได้กลายเป็นงานไฮไลต์ฤดูหนาวของภูมิภาคคันไซในปัจจุบัน ไฟประดับรูปทรงเรขาคณิตขนาดใหญ่ทอดยาวเป็นอุโมงค์ แสงสว่างสวยงามราวกับโลกแฟนตาซี ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับแสนมาเก็บภาพความประทับใจทุกปี

การเดินทางในคันไซ

การเดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตในภูมิภาคคันไซมีหลากหลายทางเลือก ทั้งเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศสู่สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) และสนามบินท้องถิ่น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวเชิงลึกในแถบคันไซ ส่วนการเดินทางภายในญี่ปุ่น มีทั้งชินคันเซ็น รถบัสด่วน หรือเลือกขับรถเองตามไลฟ์สไตล์และความสะดวก ว่าแล้วก็ไปดูวิธีเดินทางไปคันไซจากจุดท่องเที่ยวยอดนิยมกันเถอะ!

เดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตจากโตเกียว

โตเกียวกับคันไซอยู่ห่างกันพอสมควร แต่เนื่องจากการขึ้นลงเครื่องบินที่สนามบินในเขตเมืองหลวงใช้เวลานาน คนส่วนใหญ่จึงเลือกนั่งชินคันเซ็นที่มีจำนวนเที่ยวมาก และมีโอกาสเห็นภูเขาฟูจิ ส่วนการเดินทางไปคันไซทางด่วนพิเศษใช้เวลาพอดีกับช่วงเวลานอนของคน ประกอบกับรถบัสภายในมีการตกแต่งและบริการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถบัสกลางคืนจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

รถไฟชินคันเซ็นผ่านใกล้ภูเขาฟูจิ

ชินคันเซ็นช่วงโตเกียวถึงเกียวโตผ่านภูเขาฟูจิ ถ้าจองที่นั่งแถว G ได้ จะมีโอกาสชมวิวภูเขาฟูจิด้วยล่ะ
ที่มาภาพ: PhotoAC

โตเกียว→โอซาก้า

ชินคันเซ็น: โตเกียวไปโอซาก้า
เส้นทาง สถานีโตเกียว→สถานีชินโอซาก้า
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา 13,870 เยน
รถบัสด่วน: โตเกียวไปโอซาก้า
เส้นทาง จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเขตโอซาก้า
เวลา ประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 6,000-9,000 เยน
รถบัสกลางคืน: โตเกียวไปโอซาก้า
เส้นทาง จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเขตโอซาก้า
เวลา ประมาณ 7 ชั่วโมง-8 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 5,000-14,000 เยน
รถยนต์ส่วนตัว: โตเกียวไปโอซาก้า
ระยะทาง ประมาณ 500 กิโลเมตร
เวลา ประมาณ 6 ชั่วโมง
ราคา ประมาณ 10,000 เยน (ค่าผ่านทางด่วนแปรผันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน)

โตเกียว→เกียวโต

ชินคันเซ็น: โตเกียวไปเกียวโต
เส้นทาง สถานีโตเกียว→สถานีเกียวโต
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
ราคา 13,320 เยน
รถบัสด่วน: โตเกียวไปเกียวโต
เส้นทาง จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเขตเกียวโต
เวลา ประมาณ 7 ชั่วโมง 50 นาที
ราคา ประมาณ 6,000-12,000 เยน
รถบัสกลางคืน: โตเกียวไปเกียวโต
เส้นทาง จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเมืองเกียวโต
เวลา ประมาณ 6 ชั่วโมง-7 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 5,000-14,000 เยน
รถยนต์ส่วนตัว: โตเกียวไปเกียวโต
ระยะทาง ประมาณ 460 กิโลเมตร
เวลา ประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 7,700 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน)

เดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตจากนาโกย่า

สถานีนาโกย่า

ที่มาภาพ:Photo AC

นาโกย่าอยู่ใกล้กับเกียวโตและโอซาก้า ทำให้มีทางเลือกการเดินทางที่หลากหลาย นอกจากชินคันเซ็นแล้ว ยังสามารถเลือกนั่งรถไฟธรรมดาหรือรถไฟเอกชน เพื่อชมวิวที่แตกต่างได้ ส่วนรถบัส หากไม่มีความจำเป็นพิเศษ อย่าง การเดินทางข้ามคืน รถบัสด่วนทั่วไปจะคุ้มค่ากว่ารถบัสกลางคืน

นาโกย่า→โอซาก้า

ชินคันเซ็น: นาโกย่าไปโอซาก้า
เส้นทาง สถานีนาโกย่า→สถานีชินโอซาก้า
เวลา ประมาณ 50 นาที
ราคา 5,940 เยน
รถไฟ(JR): นาโกย่าไปโอซาก้า
เส้นทาง สถานีนาโกย่า→สถานีไมบาระ→สถานีโอซาก้า
เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง 10 นาที
ราคา 3,410 เยน
รถไฟ (คินเท็ตสึ) ": นาโกย่าไปโอซาก้า
เส้นทาง สถานีคินเท็ตสึนาโกย่า→สถานีโอซาก้านัมบะ
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
ราคา 4,990 เยน (รวมค่าที่นั่งสำรองรถด่วนพิเศษ)
รถบัสด่วน: นาโกย่าไปโอซาก้า
เส้นทาง จุดจอดในเมืองนาโกย่า (สถานีนาโกย่า/ซากาเอะ ฯลฯ) → จุดจอดในเมืองโอซาก้า (อุเมดะ/สถานีโอซาก้า ฯลฯ)
เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง
ราคา ประมาณ 3,000-4,500 เยน
รถบัสกลางคืน: นาโกย่าไปโอซาก้า
เส้นทาง จุดจอดในเมืองนาโกย่า (สถานีนาโกย่า/ซากาเอะ/สถานีคานายามะ ฯลฯ) → จุดจอดในเมืองโอซาก้า (สถานีนัมบะ/สถานีอุเมดะ/สถานีโอซาก้า ฯลฯ)
เวลา ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที~6 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 3,000-6,000 เยน
รถยนต์ส่วนตัว: นาโกย่าไปโอซาก้า
ระยะทาง ประมาณ 175 กิโลเมตร
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
ราคา ประมาณ 5,300 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามระยะทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน)

นาโกย่า→เกียวโต

ชินคันเซ็น: นาโกย่าไปเกียวโต
เส้นทาง สถานีนาโกย่า→สถานีเกียวโต
เวลา ประมาณ 35 นาที
ราคา 5,170 เยน
รถไฟ (JR): นาโกย่าไปเกียวโต
เส้นทาง สถานีนาโกย่า→สถานีไมบาระ→สถานีเกียวโต
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง
ราคา 2,640 เยน
รถไฟ (คินเท็ตสึ): นาโกย่าไปเกียวโต
เส้นทาง สถานีคินเท็ตสึนาโกย่า→สถานีเกียวโต
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
ราคา 3,930 เยน (รวมค่าที่นั่งสำรองรถด่วนพิเศษ)
รถบัสด่วน: นาโกย่าไปเกียวโต
เส้นทาง จุดขึ้นรถในนาโกย่า (สถานีนาโงยา/ซากาเอะ ฯลฯ)→จุดขึ้นรถในเกียวโต (สถานีเกียวโต ฯลฯ)
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 2,500-3,500 เยน
รถบัสกลางคืน: นาโกย่าไปเกียวโต
เส้นทาง จุดขึ้นรถในเมืองนาโกย่า (สถานีนาโกย่า/ซากาเอะ/สถานีคานายามะ ฯลฯ) → จุดขึ้นรถในเมืองโอซาก้า (สถานีนัมบะ/สถานีอุเมดะ/สถานีโอซาก้า ฯลฯ)
เวลา ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที-6 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 3,000-6,000 เยน
รถยนต์ส่วนตัว: นาโกย่าไปเกียวโต
ระยะทาง ประมาณ 175 กิโลเมตร
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
ราคา ประมาณ 6,000 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างตามระยะทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน)

เดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตจากฟุกุโอกะ

夜晚博多城百貨入口

ลานหน้าสถานีฮากาตะที่เชื่อมต่อกับสถานีฮากาตะ
ที่มาภาพ:photoAC

ระยะทางจากคิวชูไปคันไซนั้นไกลกว่าไปโตเกียวเสียอีก แม้ว่าคนญี่ปุ่นบางคนจะเลือกนั่งรถบัสกลางคืนเพื่อประหยัดค่าที่พัก แต่ถ้าคิดถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพด้านเวลา สายการบินภายในประเทศญี่ปุ่นหรือชินคันเซ็นจะเป็นตัวเลือกแรก

ฟุกุโอกะ→โอซาก้า

เครื่องบิน: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
เส้นทาง สนามบินฟุกุโอกะ FUK→สนามบินนานาชาติโอซาก้า ITM→ต่อรถไฟหรือรถบัสไปตัวเมืองโอซาก้า
เวลา เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที+เดินทางต่อประมาณ 40 นาที-1 ชั่วโมง
ราคา ตั๋วเครื่องบินประมาณ 7,000 เยน~+ค่ารถประมาณ 500-900 เยน
ชินคันเซ็น: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
เส้นทาง สถานีฮากาตะ→สถานีชินโอซาก้า
เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา 14,750 เยน
รถบัสกลางคืน: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
เส้นทาง จุดขึ้นรถแถวฮากาตะ→จุดลงในเมืองโอซาก้า
เวลา ประมาณ 8 ชั่วโมง-10 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 5,000-12,000 เยน
รถยนต์ส่วนตัว: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
ระยะทาง ประมาณ 610 กิโลเมตร
เวลา ประมาณ 7 ชั่วโมง
ราคา ประมาณ 9,900 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน)

ฟุกุโอกะ→เกียวโต

เครื่องบิน: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
ขั้นตอน สนามบินฟุกุโอกะ FUK→สนามบินนานาชาติโอซาก้า ITM→ต่อรถไฟหรือรถบัสไปตัวเมืองเกียวโต
เวลา เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที + เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ราคา ตั๋วเครื่องบินประมาณ 7,000 เยนขึ้นไป + ค่ารถประมาณ 1,000 เยน
ชินคันเซ็น: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
เส้นทาง สถานีฮาคาตะ→สถานีเกียวโต
เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที
ราคา 14,970 เยน
รถบัสกลางคืน: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
เส้นทาง จุดขึ้นรถแถวฮาคาตะ→จุดลงรถในเมืองเกียวโต
เวลา ประมาณ 10 ชั่วโมง-11 ชั่วโมง 20 นาที
ราคา ประมาณ 6,000-11,000 เยน
รถยนต์ส่วนตัว: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
ระยะทาง ประมาณ 640 กิโลเมตร
เวลา ประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที
ราคา ประมาณ 9,800 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน)

บัตรท่องเที่ยวคันไซสุดคุ้ม

รถไฟ JR West 287 Series

ที่มาภาพ:Photo AC

ภูมิภาคคันไซมีบัตรท่องเที่ยวหลายประเภทที่ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติโดยเฉพาะ คราวนี้ขอรวบรวมบัตรที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่ามาให้ก่อน ถ้าตัดสินใจเลือกจุดหมายแล้ว ลองเช็กดูอีกทีว่าท้องถิ่นนั้นๆ มีบัตรโดยสารท่องเที่ยวเหล่านี้หรือไม่

ประเภทตั๋ว▼ รายการ▶ Kansai WIDE Area Excursion Pass
KIX
Kansai Railway Pass
ITM
Osaka Amazing Pass
UKB
Kyoto Subway & Bus 1-Day Pass
SHM
ระยะเวลาใช้งาน
3 วัน 2 วัน/ 3 วัน 1 วัน/ 2 วัน ภายในวันเดียวกัน
ราคา ผู้ใหญ่ 12,000 เยน
เด็ก 6,000 เยน
ผู้ใหญ่ 5,600/ 7,000 เยน
เด็ก 2,800/ 3,500 เยน
3,500/ 5,000 เยน ผู้ใหญ่ 1,100 เยน
เด็ก 550 เยน
เขตที่ใช้ได้ ซันโย ชินคันเซ็น, JR West
และรถไฟเอกชนบางสายทางตะวันตกของคันไซ
รถไฟ/รถไฟใต้ดินทุกสาย
ยกเว้น JR, รถไฟเอกชนและรถบัสบางสาย
รถไฟใต้ดินโอซาก้า
รถบัสในเขตเมืองโอซาก้า
รถไฟเอกชนบางสายในเขตเมืองโอซาก้า
รถไฟใต้ดินเมืองเกียวโต
รถบัสเมืองเกียวโต
รถบัสบางสายในเขตเมืองเกียวโต

บัตรรถไฟภูมิภาคคันไซ (Kansai WIDE Area Excursion Pass)

บัตร JR West Wide Area Pass ใช้เที่ยวได้ 3 วันในพื้นที่คันไซและจังหวัดใกล้เคียง นั่งรถไฟ JR ไม่จำกัด รวมชินคันเซ็นบางสาย เหมาะสำหรับทริปข้ามเมืองไปเบือนสถานที่ดัง อย่าง โคยะซัง อามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้เยอะมาก ถ้าต้องไปหลายที่นอกเขตโอซาก้าและเกียวโต

บัตรรถไฟคันไซ (KANSAI RAILWAY PASS)

บัตรรถไฟคันไซคือ ตั๋วเดียวเที่ยวได้ทั่วคันไซ! นั่งรถไฟและรถไฟใต้ดินได้ไม่อั้นใน 6 จังหวัด มีให้เลือกแบบ 2-3 วัน พร้อมส่วนลดสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และชอปปิ้ง เหมาะสำหรับทริปเที่ยวคันไซแบบคุ้มสุดๆ

บัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาส (OSAKA AMAZING PASS)

บัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาสมีให้เลือก 1-2 วัน ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชน และรถบัสในเมือง พร้อมส่วนลดเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย คุ้มค่ามากขึ้น ถ้าวางแผนดี เหมาะกับสายเที่ยวที่อยากตะลุยโอซาก้าแบบจัดเต็ม

คู่มือบัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาส

บัตรรถไฟใต้ดินและรถบัสเกียวโต 1 วัน

นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟใต้ดินเกียวโตและรถบัสในเมือง (รวมรถบัสท่องเที่ยวด่วนที่จอดเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวหลัก) ได้ไม่จำกัดภายในวันที่ซื้อบัตร พร้อมรับส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารบางแห่ง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมสถานที่สำคัญหลายแห่งในเกียวโตภายใน 1 วัน โดยทั่วไปใช้แค่ 3-5 ครั้งก็คุ้มค่าแล้ว

แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในคันไซ

โอซาก้า: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ

สถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้า

โอซาก้าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก มีทั้งบรรยากาศเมืองสมัยใหม่และความมีชีวิตชีวาของชาวบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ และเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวในภูมิภาคญี่ปุ่นตะวันตกสำหรับคนส่วนใหญ่

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan)

มินเนี่ยนในสวนสนุก USJ

ที่มาภาพ:PRTIMES

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน หรือ USJ ที่ทุกคนรู้จักกันดี เป็นสวนสนุกระดับโลกที่อยู่ในโอซาก้า โดดเด่นด้วยเครื่องเล่นสุดมันส์มากมาย พร้อม โซนแฮรี่ พอตเตอร์ที่เนรมิตโลกเวทมนตร์มาไว้ให้สัมผัส และยังมีไฮไลต์ใหม่ล่าสุด Super Nintendo World โซนแรกในญี่ปุ่นที่จำลองโลกมาริโอได้สมจริงสุดๆ จุดเด่นของที่นี่ คือ การร่วมมือกับอนิเมะและเกมดัง เพื่อสร้างเครื่องเล่นลิมิเต็ด พร้อมประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่ทำให้ทั้งครอบครัวสนุกได้ไม่มีเบื่อ

คู่มือยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปนแบบครบวงจรเวอร์ชันล่าสุด

ปราสาทโอซาก้า

ภายนอกหอคอยปราสาทโอซาก้า

ที่มาภาพ:PhotoAC

ปราสาทโอซาก้า คือ สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ที่สร้างโดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ในศตวรรษที่ 16 เป็นฐานที่มั่นสำคัญรวมญี่ปุ่นยุคเซนโกคุ ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่า ชุดเกราะซามูไร พร้อมจุดชมวิวเมืองสุดอลังการบนหอคอย ความงามรอบปราสาทเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้งซากุระบานสะพรั่งและใบไม้สีแดงที่โอบล้อม เป็นแลนด์มาร์กที่ต้องมาเยือนเมื่อเที่ยวโอซาก้า

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทโอซาก้า

ศาลเจ้านัมบะยาซากะ

อาคารศาลเจ้ารูปหัวสิงโตอ้าปากกว้าง

ที่มาภาพ:PhotoAC

ศาลเจ้านัมบะยาซากะ โดดเด่นด้วยอาคารชิชิเดนรูปหัวสิงโตยักษ์สูง 12 เมตร ตั้งตระหง่านกลางย่านชอปปิ้งนัมบะ เชื่อว่าปากสิงโตที่อ้ากว้างช่วยกลืนกินสิ่งชั่วร้าย นำโชคลาภการค้า ผู้คนจึงนิยมมาขอพรเรื่องการเรียน งาน และความเจริญรุ่งเรือง อยู่ใกล้ชินเซไคและทสึเทนคาคุ เหมาะแก่การแวะมาสักการะ ขอพร และถ่ายรูประหว่างชอปปิ้ง

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ

หอคอยสึเทนคาคุ

หอคอยทสึเทนคาคุตั้งตระหง่านที่ปลายถนนที่คึกคัก

ที่มาภาพ:PhotoAC

หอคอยสึเทนคาคุ เป็นหอคอยสัญลักษณ์แห่งชินเซไค โอซาก้า ด้วยความสูงถึง 100 เมตร โดดเด่นจากการผสมผสานการออกแบบหอไอเฟลเข้ากับสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากจุดชมวิวสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีมาสคอตนำโชค "บิลลิเคน" ที่ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างแวะเวียนมาขอพร

อาหารเลิศรสของโอซาก้า

โอซาก้าได้รับการขนานนามให้เป็น "ห้องครัวแห่งญี่ปุ่น" เป็นวัฒนธรรมโคนะโมโนะ ซึ่งเป็นอาหารแป้งทอดราคาถูก อิ่มท้องที่พัฒนามาตั้งแต่สมัยเอโดะ จนกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องลิ้มลองเมื่อมาเยือน

คุชิคัตสึ

คุชิคัตสึ

ที่มาภาพ: PhotoAC

โอซาก้า เมืองที่มีอาชีพหลากหลายมารวมกัน ได้พัฒนาอาหารชาวบ้านที่กินอิ่มเร็วขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยเอโดะ "คุชิคัตสึ" ก็เป็นหนึ่งในนั้น คุชิคัตสึเป็นเมนูที่เสียบหมูหรือผักด้วยไม้ไผ่ ชุบแป้งทอดกรอบ ราดซอสสูตรเด็ด เป็นกับแกล้มสุดฮิตที่ใครก็ต้องลอง

โอโคโนมิยากิ

โอโคโนมิยากิราดซอสและมายองเนส

ที่มาภาพ: PhotoAC

โอโคโนมิยากิเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม "โคนะโมโนะ" ของโอซาก้า ผสมกะหล่ำปลีฝอย อาหารทะเล หมู กับแป้งแล้วย่างบนกระทะเหล็ก สุดท้ายทาซอส โรยสาหร่ายผง ปลาแห้งฝอย อาหารรสชาติหลากหลายที่อิ่มท้องก็เสร็จสมบูรณ์ โอโคโนมิยากิทรงกลมสามารถกินคนเดียวหรือแบ่งกินกับเพื่อนครอบครัวรอบกระทะเหล็กได้ เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมอาหารโอซาก้า

ของฝากที่ต้องซื้อจากโอซาก้า

551 โฮไร ฮงเทน

ซาลาเปาหมูแน่นๆ

ที่มาภาพ: 551 โฮไร ฮงเทน

"551 โฮไร" ร้านซาลาเปาชื่อดังโอซาก้า เริ่มต้นจากเจ้าของชาวไต้หวันที่เปิดร้านขายข้าวแกงกะหรี่ในปี 1945 จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อคิดสูตรซาลาเปาหมูที่ผสมผสานระหว่างเนื้อหมูนุ่ม หัวหอมหอมกรุ่น และแป้งหวานนุ่มละมุน จนกลายเป็นตำนานของฝากขึ้นชื่อแห่งโอซาก้าที่ยังคงความสดใหม่ด้วยการนึ่งหน้าร้านทุกวัน

ข้อมูลของฝากโอซาก้าเพิ่มเติม

ข้อมูลท่องเที่ยวโอซาก้าฉบับละเอียด

เกียวโต: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ

สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโต

เกียวโต มรดกโลกแห่งญี่ปุ่นที่งดงามด้วยวัด ศาลเจ้า และวัฒนธรรมดั้งเดิมอายุพันปี ดอกซากุระ ใบไม้สีแดง และบรรยากาศเกอิชาในตรอกเล็กๆ ถ้าอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่น บอกเลยว่าเกียวโตเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด!

วัดคิโยมิสุ

เวทีคิโยมิสึ

ที่มาภาพ: PhotoAC

วัดคิโยมิสุ สัญลักษณ์แห่งเกียวโตบนภูเขาโอโตวะ มีจุดไฮไลต์อยู่ที่ "เวทีคิโยมิสุ" โครงสร้างไม้ไร้ตะปูยื่นจากหน้าผา ใช้เสาไม้ยักษ์ 139 ต้นรองรับ จากจุดนี้สามารถชมวิวเมืองเกียวโตแบบพาโนรามาได้ ภายในมีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย มอบพรด้าน การเรียน สุขภาพ และอายุยืน และพลาดไม่ได้กับ ศาลเจ้าจิชู สำหรับขอพรด้านความรัก ช่วงที่ควรมาเยือนที่สุดคือช่วงซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสี

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดคิโยมิสุ

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ

ที่มาภาพ:PhotoAC

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ สัญลักษณ์แห่งเกียวโตที่โด่งดังไปทั่วโลกจากอุโมงค์โทริอิสีแดงนับพัน ก่อตั้งตั้งแต่ปี 711 เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอินาริกว่า 30,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น ที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งข้าวและการค้า จุดไฮไลต์คือ "อุโมงค์โทริอิสีชาด" อันงดงาม พร้อมรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ นิยมมาขอพรด้าน ธุรกิจ การเรียน และสุขภาพ สามารถเดินทางมาได้ง่าย เพราะมีสถานีรถไฟอินาริอยู่หน้าศาลเจ้า

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

อามาโนฮาชิดาเตะ

อามาโนะฮาชิดาเตะ

ที่มาภาพ:PhotoAC

อามาโนฮาชิดาเตะ สันทรายมหัศจรรย์ที่อ่าวมิยาสึ เกียวโต ทอดยาว 3.6 กิโลเมตร ปกคลุมด้วยป่าสนเขียวขจี ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น และยังมีเคล็ดลับการชมวิวสุดพิเศษ คือ การก้มมองผ่านหว่างขาที่สวนคาซามัตสึ จะเห็นภาพสะพานทอดสู่สวรรค์สุดอลังการ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น นั่งกระเช้า ล่องเรือ หรือปั่นจักรยานชมวิวได้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอามาโนฮาชิดาเตะ

อาหารเลิศรสของเกียวโต

อาหารเกียวโตโดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล โดยเฉพาะ "เคียวยาไซ" หรือ ผักท้องถิ่นที่ปลูกรอบเมือง ผสานกับอิทธิพลจากอาหารวัดที่เน้นเต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ทำให้ยูโดฟุและยูบะกลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเกียวโตที่ไม่ควรพลาด

ยูโดฟุ

ยูโดฟุที่มีแค่น้ำซุปคอมบุและเต้าหู้นุ่ม

ที่มาภาพ:PhotoAC

ยูโดฟุ เกียวโตโด่งดังด้านน้ำสะอาดคุณภาพเยี่ยม ทำให้ใช้ทำเต้าหู้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มลื่นพิเศษ เสิร์ฟในน้ำซุปคอมบุรสละมุน พร้อมเครื่องเคียงและน้ำจิ้มหลากหลายให้เลือกปรุงตามใจชอบ นี่คือเสน่ห์ของอาหารวัดที่อยู่คู่เกียวโตมานานนับพันปี

ยูบะ

ยูบะซาชิมิ

ที่มาภาพ:PhotoAC

ยูบะ หรือฟองเต้าหู้ในเกียวโต ไม่ใช่แค่วัตถุดิบทั่วไป แต่เป็นอาหารชั้นสูงที่มีประวัติยาวนานกว่าพันปีในวัฒนธรรมวัด นามายูบะ หรือยูบะสดที่ไม่ผ่านการทอด มีเนื้อสัมผัสนุ่มลื่น นิยมทานแบบซาชิมิ และเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม อย่าง ไคเซกิเรียวริและอาหารมังสวิรัติโชจินเรียวริ ปัจจุบันมีเมนูสร้างสรรค์ใหม่ๆ ทั้งยูบะดง ของหวาน และไอศกรีม นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติแบบเกียวโตในรูปแบบที่ทันสมัยและเข้าถึงง่ายขึ้น

ของฝากที่ต้องซื้อจากเกียวโต

ยัตสึฮาชิ

นามายัตสึฮาชิหลากสีสัน

ที่มาภาพ:PhotoAC

ยัตสึฮาชิ คือ วากาชิหรือขนมญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อของเกียวโต ทำจากแป้งข้าว น้ำตาล และอบเชย มี 2 แบบ คือ "ยากิยัตสึฮาชิ" แบบอบ และ "นามายัตสึฮาชิ" แบบไม่อบ (มีเนื้อเหนียวนุ่มคล้ายโมจิ) บางชิ้นมีไส้ถั่วแดงหวานอร่อย ปัจจุบันมีร้านทำยัตสึฮาชิรูปตุ๊กตาน่ารักๆ เป็นของฝากยอดนิยมที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือเลยล่ะ

ข้อมูลของฝากเกียวโตเพิ่มเติม

คู่มือท่องเที่ยวเกียวโตฉบับละเอียด

นารา: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ

สถานที่ท่องเที่ยวในนารา

นาราเป็นเมืองมรดกโลกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดดเด่นจากวัดโทไดจิและศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ และสิ่งที่มีเอกลักษณ์ที่สุดก็ คือ ฝูงกวางสุดน่ารักที่เดินเล่นอย่างอิสระในสวนนารา บรรยากาศเงียบสงบชวนให้หลงใหลจนต้องขอพักนานยิ่งขึ้น

สวนนารา

สวนนารา สวรรค์แห่งมรดกโลกญี่ปุ่นบนพื้นที่ 660 เฮกตาร์ รวมทั้งวัดโทไดจิ วัดโคฟุคุจิ และศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ พร้อมพระใหญ่นาราและฝูงกวางน่ารักที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชมความงามตามฤดูกาล ทั้งเทศกาลยามะยากิช่วงปีใหม่ ดอกซากุระฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้สีแดงฤดูใบไม้ร่วง เที่ยวชมบรรยากาศเมืองเก่าได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถให้อาหารน้องกวางได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด!

วัดโทได

วัดโทได สุดยอดวัดดังแห่งนารา โดดเด่นด้วยอาคารไม้ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไฮไลต์ คือ พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ยักษ์สูง 15 เมตร พระพักตร์เปี่ยมเมตตา นอกจากสักการะแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมล้ำค่าระดับชาติและมรดกโลก เหมาะกับการเที่ยวชมประวัติศาสตร์พุทธศาสนาญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม

สวนสนุกยอดเขาอิโคมะ

สวนสนุกบนยอดเขาที่มองเห็นวิวโอซาก้าได้ไกล

ที่มาภาพ:なら旅ネット

สวนสนุกบนยอดเขาอิโคมะสูง 642 เมตร แห่งเดียวในนารา ฟรีค่าเข้า จ่ายเฉพาะค่าเครื่องเล่นที่ต้องการ ราคาประหยัดกว่าสวนสนุกทั่วไป พร้อมวิวสวยที่สามารถมองเห็นอ่าวโอซาก้า ถ้าเดินทางจากโอซาก้า ใช้เวลาเพียง 45 นาที เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากพาเด็กเล็กมาเที่ยวอย่างยิ่ง

อาหารเลิศรสในนารา

นาราในยุคเมืองหลวงโบราณให้ความสำคัญกับอาหารเป็นอย่างมาก อาหารดั้งเดิมของนาราล้วนเป็นผลึกแห่งภูมิปัญญาของคนโบราณที่ใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อเก็บรักษาและได้มาซึ่งวัตถุดิบที่สดและอร่อย

ซูชิคาคิโนะฮะ

คาคิโนะฮะซูชิรสแซลมอนและปลาซาบะ

ที่มาภาพ:PhotoAC

ซูชิคาคิโนะฮะ อาหารโบราณจากนารา เป็นซูชิที่ห่อด้วยใบลูกพลับอันเป็นเอกลักษณ์ เล่าขานว่าเกิดจากชาวประมงนำปลาดองมาขายในเทศกาลฤดูร้อน ทำจากข้าวหมักน้ำส้มสายชูห่อปลาซาบะหรือแซลมอนดองเกลือ ใบลูกพลับช่วยฆ่าเชื้อและพกพาง่าย ปัจจุบันเป็นทั้งของฝากขึ้นชื่อและอาหารในงานเทศกาลสำคัญของชาวนารา

คุซุโยชิโนะ

คุซุโยชิโนะ แป้งสุดพิเศษจากเขตโยชิโนะที่มีแหล่งน้ำบริสุทธิ์และอากาศหนาวเย็น ทำให้ได้แป้งคุซุคุณภาพเยี่ยม ผ่านกระบวนการผลิตพิถีพิถันทั้งบด กรอง และตกตะกอน แป้งชนิดนี้คล้ายแป้งมันสำปะหลัง เดิมเป็นสมุนไพรจีน ก่อนพัฒนามาเป็นวัตถุดิบทำอาหารและขนมญี่ปุ่นที่โด่งดังในปัจจุบัน

ของฝากที่ต้องซื้อจากนารา

พุดดิ้งไดบุตสึ

พุดดิ้งไดบุตสึที่มีรูปพระใหญ่บนฝาขวด

ที่มาภาพ:まほろば大仏プリン本舗

พุดดิ้งไดบุตสึ ขนมขึ้นชื่อจากนารา จุดเด่น คือ ฝาขวดลายพระใหญ่ยิ้มแย้ม ผลิตจากนมและไข่ไก่สดในท้องถิ่น มีให้เลือก 2 รสชาติพิเศษ ทั้งชายามาโตะและสาเกนารา เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน หอมกลิ่นนมแท้ เป็นของฝากที่สื่อถึงเสน่ห์เมืองนาราได้อย่างลงตัว

ข้อมูลของฝากนาราเพิ่มเติม

คู่มือท่องเที่ยวนาราฉบับละเอียด

เฮียวโกะ: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ

สถานที่ท่องเที่ยวในเฮียวโกะและโกเบ

เฮียวโกะ จังหวัดที่รวมทุกความสวยงามไว้ในที่เดียว ทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แหล่งประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคเซ็นโงะกุถึงเอโดะ และสถาปัตยกรรมหลากสไตล์ ตั้งแต่คลาสสิกแบบยุโรป-อเมริกัน จนถึงญี่ปุ่นโมเดิร์น

ย่านคิตาโนะอิจินคังไก

ย่านคิตาโนะอิจินคังไกเป็นย่านบ้านพักสไตล์ตะวันตกสมัยเมจิของพ่อค้าต่างชาติ มีอาคารเก่าแก่กว่า 30 หลังที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม เช่น คาซามิโดริคัง โมเองิคัง และอุโรโกะโนะเอะ ปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านกาแฟสุดชิค และเวิร์กช็อปทำน้ำหอม พร้อมมุมถ่ายรูป 3D สวยๆ อีกมากมาย ที่นี่คือสวรรค์ของสายถ่ายรูปที่อยากสัมผัสมนต์เสน่ห์ตะวันตกในญี่ปุ่น

ปราสาทฮิเมจิ

ปราสาทฮิเมจิหรือ "ปราสาทนกกระยางขาว" โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสีขาวบริสุทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกและสมบัติประจำชาติ ภายในเป็นโครงสร้างเทนชูแบบเรนริตสึและระบบป้องกันชั้นเยี่ยม ความงามของปราสาทยิ่งเพิ่มขึ้นในฤดูชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวปราสาทพร้อมจิบชาที่สวนโคโคเอ็นได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทฮิเมจิ

ออนเซ็นคิโนซากิ

ออนเซ็นคิโนซากิ เมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี เปรียบเสมือนโรงแรมออนเซ็นขนาดใหญ่ที่ผสานกับวิถีชีวิตท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถสวมยูคาตะ ใส่เกี๊ยะไม้ เดินเล่นริมแม่น้ำโอโอทานิกาวะ พร้อมสัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซ็นสาธารณะ 7 แห่ง แต่ละที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน ปิดท้ายด้วยอาหารขึ้นชื่อ อย่าง ปูมัตสึบะและเนื้อวัวทาจิมะ

คู่มือออนเซ็นคิโนซากิฉบับสมบูรณ์

อาหารเลิศรสของเฮียวโกะและโกเบ

เฮียวโกะเป็นจังหวัดที่ได้ฉายา "ญี่ปุ่นย่อส่วน" เพราะมีทั้งทะเลญี่ปุ่นทางเหนือและทะเลเซโตะไนไคทางใต้ ทำให้เป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น ผลผลิตทั้งเกษตร ปศุสัตว์ และประมงที่นี่ล้วนติดอันดับ 1 ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ

เนื้อโกเบ

เนื้อโกเบ

ที่มาภาพ:Feel KOBE神戸公式観光サイト

เนื้อโกเบ สุดยอดเนื้อวากิวระดับพรีเมียมจากจังหวัดเฮียวโกะ โดยเป็นเนื้อที่ต้องมาจากวัวพันธุ์ทาจิมะแท้เท่านั้น จุดเด่น คือ ลายหินอ่อนสวยงาม เนื้อนุ่มละลายในปาก ซึ่งผ่านการเลี้ยงดูแบบพิเศษและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด พร้อมใบรับรองมาตรฐานที่การันตีความพิเศษในทุกชิ้น นับเป็นความภาคภูมิใจของเมืองโกเบที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก

ปูมัตสึบะ

ปูมัตสึบะ

ที่มาภาพ:まるごと北近畿

ปูมัตสึบะ สุดยอดอาหารฤดูหนาวหายากจากท่าเรือทาจิมะ คาซุมิ เมืองเฮียวโกะ อยู่ใกล้กับออนเซ็นคิโนซากิ เนื้อปูละเอียดหวานฉ่ำ นิยมนำมาต้มหรือทำหม้อไฟ ช่วงพฤศจิกายนเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวแห่ชิมความอร่อยระดับพรีเมียมนี้กันคับคั่ง

ของฝากที่ต้องซื้อจากเฮียวโกะและโกเบ

GAUFRES คุกกี้แผ่นบางของ Kobe Fugetsudo

คุกกี้แผ่นบางของ Kobe Fugetsudo

ที่มาภาพ:Kobe Fugetsudo

Kobe Fugetsudo แบรนด์ขนมดังจากญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 98 ปี ซิกเนเจอร์ คือ GAUFRES คุกกี้แผ่นบางสไตล์ฝรั่งเศส ผสมความละเมียดของขนมญี่ปุ่น สอดไส้หลากรส ทั้งวานิลลา สตรอว์เบอร์รี่ และช็อกโกแลต กรอบนุ่มละลายในปาก เป็นของฝากยอดนิยมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างหลงรัก

ข้อมูลของฝากเฮียวโกะเพิ่มเติม

ข้อมูลท่องเที่ยวเฮียวโกะและโกเบเพิ่มเติม

วากายามะ: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ

สถานที่ท่องเที่ยวในวากายามะ

วากายามะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการปฏิบัติธรรมตามความเชื่อภูเขาแบบดั้งเดิม เช่น คุมาโนะโคโดะและโคยะซัง ทิวทัศน์เงียบสงบและลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าแสวงบุญหรือการเดินทางไหว้พระ ล้วนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการชะลอจังหวะชีวิตและทำจิตใจให้สงบ

คุมาโนะโคโดะ

คุมาโนะโคโดะ เส้นทางแสวงบุญมรดกโลกในจังหวัดวากายามะ เป็นเส้นทางศักดิ์สิทธิ์อายุกว่าพันปีที่จักรพรรดิญี่ปุ่นเคยเสด็จผ่าน ตลอดทางสามารถพบเห็นป่าสนซุกิ หินมอสเขียว และลำธารใสสะอาด เหมาะสำหรับการเดินป่าระยะสั้นหรือแสวงบุญหลายวัน ให้ความรู้สึกสงบและชำระจิตใจอย่างยิ่ง

ปราสาทวากายามะ

ปราสาทวาคายามะ

ที่มาภาพ:PhotoAC

ปราสาทวากายามะ หรือ "โทระฟุเซโจ" ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1585 โดยตั้งตระหง่านกลางเมืองวากายามะ เป็นปราสาทสำคัญในสมัยโทคุงาวะ แม้ตัวปราสาทเดิมจะถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้สร้างใหม่ในปี 1958 ภายในมีสวนนิชิโนะมารุที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ ช่วงที่สวยที่สุด คือ ฤดูซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสี ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ของไดเมียวแห่งคิชูด้วย

ภูเขาโคยะ

โคยะซัน

ที่มาภาพ:和歌山県公式観光サイト

ภูเขาโคยะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาสูง 1,000 เมตร ถูกสร่างขึ้นโดยคูไคตั้งแต่ปี 816 เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่สำคัญของญี่ปุ่น ประกอบด้วยวัดคงโกบุจิ ดันโจการัน และโอคุโนะอินที่มีหลุมศพนับล้าน นักท่องเที่ยวสามารถพักที่ชูคุโบ สัมผัสประสบการณ์พิธีกรรมทางศาสนาพุทธ ทั้งทานอาหารเจ และฟังเสียงกลองธรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมในบรรยากาศสงบท่ามกลางธรรมชาติ

อาหาเลิศรสในวากายามะ

วากายามะอยู่บนคาบสมุทรคิอิ โอบล้อมด้วยทะเลถึง 3 ด้านและภูเขาสูง เป็นแหล่งผลิต ซอสโชยุชั้นเลิศ การเกษตรและประมงเฟื่องฟู ผลไม้ขึ้นชื่อ อย่าง ส้มและบ๊วยก็ถือเป็นของดีประจำถิ่น อาหารท้องถิ่นที่นี่ยังผูกพันกับวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างลึกซึ้ง

ราเมนวากายามะ

ราเมงวาคายามะเสิร์ฟพร้อมซูชิปลาซาบะและไข่ต้ม

ที่มาภาพ:PhotoAC

ราเมนวากายามะมีเอกลักษณ์จากซอสโชยุแท้ๆ ที่เป็นของดีประจำเมือง ราเมนนี้มีหลักๆ สองสไตล์ คือ น้ำซุปใสสดชื่น และน้ำซุปทงคัตสึเข้มข้น เสิร์ฟมาพร้อมเส้นบางนุ่ม หมูชาชู คามาโบโกะ หน่อไม้ดอง และต้นหอม บางร้านเพิ่มไข่ต้มและซูชิปลาซาบะให้อร่อยครบรส

ซูชิเมฮาริ

ซูชิเมฮาริเป็นอาหารพื้นบ้านของภูมิภาคคิชู เป็นข้าวปั้นที่ทำขึ้นเพื่ออิ่มท้องในช่วงที่ยุ่ง ห่อข้าวผสมน้ำส้มสายชูด้วยใบผักกาดเขียวดอง ใบผักมีรสเค็มตามธรรมชาติ เก็บได้นานและให้ความอิ่ม ที่มาของชื่อมีหลายแบบ บางคนบอกว่าเพราะ "ต้องอ้าปากกว้างเท่ากับลืมตาถึงจะกินได้" "อร่อยจนตาโต" (ตัวอักษรคันจิในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายเหมือนการลืมตาโต) จึงได้ชื่อนี้

ของฝากที่ต้องซื้อจากวากายามะ

เทมาริมิคัง

เทมาริมิคัง

ที่มาภาพ:โซวะคาจูเอ็น

เทมาริมิคังเป็นขนมส้มเชื่อมญี่ปุ่นทรงกลมน่ารัก ทำจากส้มวากายามะสดใหม่ แช่น้ำเชื่อมนาน 2 เดือนตั้งแต่ธันวาคม ทานเป็นขนมหวานหอมอร่อย หรือผสมโซดาเป็นเครื่องดื่มเปรี้ยวหวานชื่นใจ

ข้อมูลของฝากวากายามะเพิ่มเติม

ข้อมูลท่องเที่ยววากายามะเพิ่มเติม

ชิกะ (ทะเลสาบบิวะ): สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ

สถานที่ท่องเที่ยวในชิกะ (ทะเลสาบบิวะ)

จังหวัดชิกะโอบล้อมด้วยทะเลสาบที่ขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทะเลสาบบิวะ ทำให้เกิด "วัฒนธรรมแห่งดินแดนทะเลสาบ" และทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ก็มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับทะเลสาบบิวะเช่นกัน

ศาลเจ้าชิราฮิเงะ

โทริอิใหญ่ของศาลเจ้าชิราฮิเงะในทะเลสาบ

ที่มาภาพ: PhotoAC

ศาลเจ้าชิราฮิเงะ แลนด์มาร์กสำคัญริมทะเลสาบบิวะ โดดเด่นด้วยโทริอิสีแดงกลางน้ำสูง 16 เมตร ที่นี่บูชาเทพซารุตะฮิโกะโอคามิ ผู้คุ้มครองการเดินเรือและอายุยืน ยามเช้าเย็นโทริอิจะสะท้อนผิวน้ำเกิดเป็นภาพอันงดงาม และฤดูร้อนมีเทศกาลดอกไม้ไฟบิวะโกะ สร้างภาพที่ประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและช่างภาพ

ปราสาทฮิโคเนะ

ปราสาทฮิโคเนะ สมบัติประจำชาติญี่ปุ่นริมทะเลสาบบิวะ โดดเด่นด้วยหอคอยยุคเอโดะที่ยังสมบูรณ์ สร้างขึ้นในปี 1622 โดยตระกูลซามูไรอิอิ นอกจากตัวปราสาทแล้ว ยังมีสวนเกนคิวเอนและพิพิธภัณฑ์ให้เที่ยวชม พิเศษสุดคือได้พบฝูงหงส์ขาวและมาสคอตสุดน่ารัก "ฮิโคนยัง" ที่คูน้ำรอบปราสาท

พิพิธภัณฑ์ศิลปะซากาวะ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะซากาวะ สถาปัตยกรรมสุดล้ำที่ดูเหมือนลอยอยู่บนทะเลสาบบิวะ ภายในสะสมผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่น ไฮไลท์พิเศษ คือ ห้องน้ำชาบนน้ำที่ออกแบบโดยตระกูลราคุ ผสมผสานความงามของศิลปะและธรรมชาติได้อย่างลงตัว เป็นจุดถ่ายรูปสวยที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

อาหารเลิศรสของชิกะ (ทะเลสาบบิวะ)

จังหวัดชิกะมักถูกล้อว่าเป็นจังหวัดทะเลสาบบิวะ เนื่องจากทรัพยากรน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์และสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ได้หล่อหลอมวัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอยู่ร่วมกับทะเลสาบได้อย่างลงตัว

เนื้อโอมิ

เนื้อโอมิ

ที่มาภาพ:PhotoAC

เนื้อโอมิ หนึ่งในสามเนื้อวากิวระดับตำนานของญี่ปุ่น มาจากจังหวัดชิกะที่มีประวัติการเลี้ยงโคคุโรเกะมายาวนานกว่า 400 ปี เดิมเป็นของชั้นสูงสำหรับโชกุนและขุนนาง เนื้อนุ่มละมุน ไขมันแทรกสวยงาม รสชาติหวานกลมกล่อม ไม่ว่าจะทำเป็นสุกี้ยากี้ ชาบู หรือสเต็ก ก็อร่อยทุกเมนู

หม้อไฟเป็ด

หม้อไฟเป็ดเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดชิกะในฤดูหนาว เนื้อเป็ดแน่นหนับ ไขมันหอมมัน ส่วนใหญ่จับมาจากทะเลสาบบิวะ เดิมเป็นอาหารของชาวประมงท้องถิ่นที่จับนกอพยพ ก่อนพัฒนาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลองเมื่อมาเยือนชิกะในฤดูหนาว

ของฝากที่ต้องซื้อจากชิกะ (ทะเลสาบบิวะ)

บามคูเฮนทำมือโดยช่างฝีมือ "CLUB HARIE" มาพร้อมกล่องของขวัญอันงดงาม

บามคูเฮนของ CLUB HARIE

ที่มาภาพ:CLUB HARIE

CLUB HARIE แบรนด์ขนมดังจากจังหวัดชิกะ มีซิกเนเจอร์เป็นบามคูเฮน เนื้อนุ่มละมุน เคลือบน้ำตาลไอซิ่งด้วยมือ ปรับสูตรตามฤดูกาล เพื่อรสชาติที่สมบูรณ์แบบ นำเสนอเป็นกล่องลายหมากรุกสวยหรู เหมาะเป็นของฝากสุดพรีเมียม มีให้เลือกทั้งไซส์ปกติและมินิ

ข้อมูลของฝากชิกะเพิ่มเติม

ข้อมูลท่องเที่ยวรอบทะเลสาบบิวะเพิ่มเติม

ตัวอย่างแผนการท่องเที่ยวคันไซแบบอิสระ

คันไซมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจนแม้จะนั่งรถวิ่งไปเรื่อยๆ ก็ยากที่จะไปได้ครบทุกที่ ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างแผนเที่ยวเกียวโต โอซาก้า โกเบ และนารา 6 วัน 5 คืนแบบคลาสสิก มือใหม่แค่เดินตามนี้ก็ไม่พลาดแน่นอน! ถ้าอยากลองเที่ยวเชิงลึก ก็แค่เปลี่ยนสถานที่บางแห่ง ก็สามารถจัดโปรแกรมที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างง่ายดาย!

穿著和服的女性們在京都小徑上漫步

แค่เปลี่ยนชุดกิโมโนเดินเล่นในเมืองเกียวโต ก็เดินถ่ายรูปเล่นได้ทั้งวันแล้ว!
ที่มาภาพ:PhotoAC

Day1 เดินทางมาถึงตัวเมืองโอซาก้าจากสนามบินคันไซ → ตอนกลางคืนไปชมวิวที่จุดชมวิวอุเมดะ สกาย บิลดิ้งหรือ "จุดชมวิวอาเบโนะฮารุคาส"
Day2 โอซาก้า: สวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า, JO-TERRACE OSAKA → หอคอยสึเทนคาคุ → ศาลเจ้านัมบะยาซากะ → โดตงโบริ → ชินไซบาชิ
Day3 นารา: วัดโคฟุกุจิ → สวนสาธารณะโทได (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินารา, ให้อาหารกวาง) → อาหารกลางวันที่ร้านกาแฟเอโนโมโตะ → ศาลเจ้าคาสุกะไทฉะ → ซื้อของฝาก
Day4 เกียวโต: ตลาดนิชิกิ → วัดคินคาคุจิ → ปราสาทนิโจ → วัดคิโยมิสุและทางเดินโดยรอบ (ชาวันซากะ, ซันเนนซากะ, นิเนนซากะ) → ตอนเย็นเดินเล่นที่คาวาระมาจิ
Day5 โกเบ: ปราสาทฮิเมจิ → ย่านคิตาโนะอิจินกาอิ → สถานีโกเบซันโนมิยะและท่าเรือโกเบ (ห้างสรรพสินค้า, ชมวิวยามค่ำคืน)
Day6 เดินทางกลับจากสนามบินคันไซ แนะนำให้ไปถึงสนามบินเร็วหน่อย เพื่อชอปปิ้งและทานอาหาร

จุดสำคัญของโปรแกรม:

・การคมนาคมในภูมิภาคเคฮันชิน+นารามีความเจริญ ส่วนใหญ่จะผ่านตัวเมืองโอซาก้า การเลือกพักในตัวเมืองโอซาก้าที่มีหลายสายรถไฟผ่านจะทำให้เดินทางสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้น

・ในเมืองเกียวโตสามารถนั่งรถบัสไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจเจอรถติด และบริเวณรอบวัดคิโยมิสุมีพื้นที่เดินเล่นกว้าง อาจพิจารณาตัดสถานที่ท่องเที่ยว 1-2 แห่งตามความต้องการและสภาพร่างกาย

・ร้านอาหารใกล้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมักเต็มในช่วงเวลาอาหาร แนะนำให้จองล่วงหน้าหรือปรับโปรแกรมเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน

นอกเหนือจากรถไฟและรถบัสทั่วไป รถไฟท่องเที่ยวที่เริ่มได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นวิธีท่องเที่ยวที่น่าลอง รถไฟท่องเที่ยว "Blue Symphony" ของคินเท็ตสึ มีตู้โดยสารสไตล์วินเทจหรูหรา พาคุณเดินทางสู่ภูเขาโยชิโนะอย่างสบาย ทำให้การเดินทางในทริปกลายเป็นความเพลิดเพลินอีกแบบหนึ่ง

ตัวอย่างแผนการท่องเที่ยวคันไซเพิ่มเติม

ภูมิภาคคันไซพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกระดับด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ อาหารการกิน และระบบขนส่งที่สะดวกสบาย ทำให้การท่องเที่ยวคันไซเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยื่อนญี่ปุ่น