วันนี้ "JapaiJAPAN" จะพาทุกคนตะลุย "คันไซ" ดินแดนมหัศจรรย์แห่งญี่ปุ่นตะวันตกที่รวมทุกความสุดยอดไว้ในที่เดียว! นำเสนอทั้งวัดเก่าแก่อายุพันปี ปราสาทโบราณสุดอลังการ ธรรมชาติที่งดงาม ตั้งแต่ภูเขาจรดทะเล อาหารเลื่องชื่อจากทุกมุมเมือง และเทศกาลสุดคึกคักตลอดทั้งปี มาร่วมค้นหาไฮไลต์สำคัญ เคล็ดลับการเดินทาง และจุดเช็คอินห้ามพลาดทั่วภูมิภาคคันไซกันเถอะ!
สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในเกียวโต "วัดคิโยมิซุเดระ"ที่มาภาพ: Photo AC
ภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?
"ภูมิภาคคันไซ" ดินแดนที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาแต่โบราณ เป็นภูมิภาคที่เป็นศูนย์รวมของเมืองสำคัญ อย่าง โอซาก้า เกียวโต และนารา ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับความทันสมัย พร้อมเสน่ห์ของภาษาถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสร้างบรรยากาศอบอุ่นแบบท้องถิ่นที่ไม่เหมือนที่ไหน
กิอนในเกียวโตที่ยังคงรักษาทิวทัศน์ถนนสมัยโบราณไว้อย่างสมบูรณ์ที่มาภาพ: Photo AC
ภูมิภาคคันไซประกอบด้วย 6 จังหวัดที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน เกียวโต โดดเด่นด้านวัดและศาลเจ้าในฐานะอดีตเมืองหลวง นาราเป็นเมืองหลวงแรกที่เต็มไปด้วยมรดกโลก โอซาก้า คือ สวรรค์แห่งอาหารและแหล่งชอปปิ้ง เฮียวโกะมีเมืองท่าโกเบและออนเซ็นชื่อดัง วากายามะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการแสวงบุญ และชิกะที่มีทะเลสาบบิวะอันงดงาม
โดตงโบริโอซาก้าที่มาภาพ: Photo AC
ทิวทัศน์เมืองโกเบที่ผสมผสานความเก่าใหม่ของภาคตะวันตกและตะวันออกที่มาภาพ: Photo AC
อาหารท้องถิ่นคันไซสะท้อนเสน่ห์วัฒนธรรมแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่โคนาโมโนะโอซาก้า เต้าหู้เกียวโต และคาคิฮะซูชินารา และเนื่องจากระบบขนส่งที่ทั้งสะดวกและทันสมัย เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ทุกยุคสมัย ภูมิภาคคันไซจึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวมือใหม่และสายลุยที่ชอบสัมผัสวัฒนธรรมเชิงลึกอย่างยิ่ง
สภาพอากาศและไฮไลต์ตามฤดูกาลในคันไซ
ภูมิภาคคันไซตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอนชู มีอากาศอบอุ่นน่าอยู่ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฤดูใบไม้ผลิอุณหภูมิแปรปรวน พอผ่านฤดูฝนเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิจะพุ่งสูงเกิน 30 องศา ฤดูใบไม้ร่วงต้องระวังพายุไต้ฝุ่น ส่วนฤดูหนาวอุณหภูมิประมาณ 10 องศา หิมะตกน้อย
เนื่องจากภูมิประเทศที่มีทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลญี่ปุ่นขนาบข้าง ทำให้แต่ละพื้นที่มีสภาพอากาศแตกต่างกัน เช่น นาราที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่กับวากายามะที่ติดทะเล อยากเที่ยวคันไซให้สนุก ต้องเช็กสภาพอากาศแต่ละที่ก่อนไปด้วยล่ะ!
สถานที่ท่องเที่ยวฝั่งทะเลญี่ปุ่นมีโอกาสเจอหิมะตกหนักมากกว่าที่มาภาพ: Photo AC
ข้อมูลสี่ฤดูของนารา
| หัวข้อ | ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) |
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) |
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) |
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) |
|---|---|---|---|---|
| อุณหภูมิเฉลี่ย | มีนาคม:8.5 องศา เมษายน:14.0 องศา พฤษภาคม:19.0 องศา |
มิถุนายน:22.9 องศา กรกฎาคม:26.8 องศา สิงหาคม:27.8 องศา |
กันยายน:23.8 องศา ตุลาคม:17.7 องศา พฤศจิกายน:11.8 องศา |
ธันวาคม:6.8 องศา มกราคม:4.5 องศา กุมภาพันธ์:5.1 องศา |
| อุณหภูมิสูงสุด | พฤษภาคม 24.9 องศา | สิงหาคม 33.4 องศา | กันยายน 28.8 องศา | ธันวาคม 11.6 องศา |
| อุณหภูมิต่ำสุด | มีนาคม 3.6 องศา | มิถุนายน 18.4 องศา | พฤศจิกายน 7.3 องศา | มกราคม 0.8 องศา |
| ปริมาณน้ำฝน (สูงสุดในฤดู) |
พฤษภาคมสูงสุด(138.5mm) | มิถุนายนสูงสุด(184.1mm) | กันยายนสูงสุด(159.0mm) | กุมภาพันธ์สูงสุด(63.1mm) |
| ไฮไลต์การท่องเที่ยว | ฤดูใบไม้ผลิในนารานอกจากซากุระแล้ว ดอกบ๊วย ดอกคาเมเลีย ดอกวิสทีเรีย ก็น่าชมเช่นกัน |
คืนฤดูร้อนมีกิจกรรมจุดโคมไฟ ที่มาจากพิธีบูชามากมาย |
ใบไม้สีแดงและเทศกาลประเพณีอุเนเมะมัตสึริ การตัดเขากวาง และนิทรรศการ สมบัติแห่งชาติโชโซอินประจำปี |
เดือนมกราคมมีงานใหญ่ที่สุดของนาราทั้งปี "วากุสะยามะ ยามะยากิมัตสึริ" มีการเผาไฟภูเขาที่ส่องสว่างทั่วนารา เพื่อขอพรและปัดเป่าเคราะห์สำหรับปีใหม่ |
ข้อมูลสี่ฤดูของวากายามะ
| รายการ | ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) |
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) |
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) |
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) |
|---|---|---|---|---|
| อุณหภูมิเฉลี่ย | มีนาคม 9.9 องศา เมษายน 15.1 องศา พฤษภาคม 19.7 องศา |
มิถุนายน 23.2 องศา กรกฎาคม 27.2 องศา สิงหาคม 28.4 องศา |
กันยายน 24.9 องศา ตุลาคม 19.3 องศา พฤศจิกายน 13.8 องศา |
ธันวาคม 8.6 องศา มกราคม 6.2 องศา กุมภาพันธ์ 6.7 องศา |
| อุณหภูมิสูงสุด | พฤษภาคม 19.7 องศา | สิงหาคม 32.6 องศา | กันยายน 29.0 องศา | ธันวาคม 12.5 องศา |
| อุณหภูมิต่ำสุด | มีนาคม 5.8 องศา | มิถุนายน 20.1 องศา | พฤศจิกายน 9.9 องศา | มกราคม 2.9 องศา |
| ปริมาณน้ำฝน (สูงสุดรายฤดูกาล) |
พฤษภาคมสูงสุด(146.6mm) | มิถุนายนสูงสุด(183.5mm) | กันยายนสูงสุด(181.3mm) | พฤศจิกายนสูงสุด(95.9mm) |
| ไฮไลต์การท่องเที่ยว | ช่วงซากุระบานสะพรั่ง เหมาะสำหรับชมซากุระตามภูเขาอย่างโยชิโนะยามะ หรือเดินเล่นตามเส้นทางคุมาโนะโคโด |
หน้าร้อนต้องไปทะเล! เล่นน้ำทะเลบนหาดทรายขาว หรือดูดอกไม้ไฟในค่ำคืนฤดูร้อน |
ฤดูกาลที่อากาศเย็นสบายและแจ่มใส เหมาะสำหรับขึ้นภูเขา ชมใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน |
หมู่บ้านออนเซ็น ที่กระจุกตัวอยู่ริมทะเล พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสด ที่อร่อยที่สุดในฤดูหนาว |
ฤดูซากุระในคันไซ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ซากุระในคันไซจะบานสะพรั่งในช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ช่วงที่ซากุระบาน สถานที่ห้ามพลาด อย่าง วัดคิโยมิซุเดระและปราสาทโอซาก้า จะถูกย้อมด้วยสีชมพูสวยงาม เหมาะกับการใส่กิโมโนถ่ายรูป พร้อมลิ้มรสอาหารตามฤดูกาล อย่าง ฮานามิเบนโตะ และขนมรสซากุระที่มีให้ชิมเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ใครอยากชมซากุระต้องไม่พลาดการเยือนคันไซ
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในคันไซ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ใบไม้เปลี่ยนสีในคันไซมีช่วงเวลาแตกต่างกันตามพื้นที่ โดยเกียวโต นารา ชิงะ จะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงกลางพฤศจิกายน ส่วนบนภูเขาโคยะซังจะเห็นสีสันตั้งแต่ต้นตุลาคม ใบไม้หลากชนิดผลัดเปลี่ยนสี สร้างภาพที่งดงาม โดยเฉพาะเมื่อผสานกับวัดเก่าแก่ ทะเลสาบ และแสงอาทิตย์ยามเย็น ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงที่คันไซเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
เทศกาลฤดูร้อนในคันไซ

"โยอิยามะ" ก่อนเทศกาลกิอนจะเริ่มอย่างเป็นทางการก็น่าตื่นตาตื่นใจมาก
ที่มาภาพ:The Gate to KANSAI
ถ้ามาเที่ยวคันไซฤดูร้อน ต้องไม่พลาดการเข้าร่วมเทศกาลกิอน เกียวโต งานฉลองฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่แห่งคันไซ โดยสืบทอดมากว่าพันปี จัดเต็มตลอดเดือนกรกฎาคม ไฮไลต์สำคัญ คือ ขบวนแห่เกวียน "ยามาโบโกะ จุงเกียว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกยูเนสโก ส่วนที่โอซาก้ามีเทศกาลเทนจิน จุดเด่นอยู่ที่ขบวนแห่ทางน้ำและดอกไม้ไฟสุดอลังการ ที่จะสร้างความประทับใจให้คุณแบบไม่รู้ลืม
การประดับไฟฤดูหนาวในคันไซ

"ทางเดินแห่งแสง" ไฮไลต์ของเทศกาลแสงไฟโกเบ
ที่มาภาพ:KOBEルミナリエ
หลายเมืองในญี่ปุ่นจะจัดกิจกรรมประดับไฟในฤดูหนาว และเทศกาลแสงไฟโกเบ (Kobe Luminarie) งานประดับไฟสุดอลังการที่เริ่มต้นจากการรำลึกถึงเหตุแผ่นดินไหวฮันชินปี 1995 ก็เป็นหนึ่งในนั้น และได้กลายเป็นงานไฮไลต์ฤดูหนาวของภูมิภาคคันไซในปัจจุบัน ไฟประดับรูปทรงเรขาคณิตขนาดใหญ่ทอดยาวเป็นอุโมงค์ แสงสว่างสวยงามราวกับโลกแฟนตาซี ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับแสนมาเก็บภาพความประทับใจทุกปี
การเดินทางในคันไซ
การเดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตในภูมิภาคคันไซมีหลากหลายทางเลือก ทั้งเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศสู่สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) และสนามบินท้องถิ่น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวเชิงลึกในแถบคันไซ ส่วนการเดินทางภายในญี่ปุ่น มีทั้งชินคันเซ็น รถบัสด่วน หรือเลือกขับรถเองตามไลฟ์สไตล์และความสะดวก ว่าแล้วก็ไปดูวิธีเดินทางไปคันไซจากจุดท่องเที่ยวยอดนิยมกันเถอะ!
เดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตจากโตเกียว
โตเกียวกับคันไซอยู่ห่างกันพอสมควร แต่เนื่องจากการขึ้นลงเครื่องบินที่สนามบินในเขตเมืองหลวงใช้เวลานาน คนส่วนใหญ่จึงเลือกนั่งชินคันเซ็นที่มีจำนวนเที่ยวมาก และมีโอกาสเห็นภูเขาฟูจิ ส่วนการเดินทางไปคันไซทางด่วนพิเศษใช้เวลาพอดีกับช่วงเวลานอนของคน ประกอบกับรถบัสภายในมีการตกแต่งและบริการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถบัสกลางคืนจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

ชินคันเซ็นช่วงโตเกียวถึงเกียวโตผ่านภูเขาฟูจิ ถ้าจองที่นั่งแถว G ได้ จะมีโอกาสชมวิวภูเขาฟูจิด้วยล่ะ
ที่มาภาพ: PhotoAC
โตเกียว→โอซาก้า
ชินคันเซ็น: โตเกียวไปโอซาก้า| เส้นทาง | สถานีโตเกียว→สถานีชินโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | 13,870 เยน |
รถบัสด่วน: โตเกียวไปโอซาก้า
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเขตโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 6,000-9,000 เยน |
รถบัสกลางคืน: โตเกียวไปโอซาก้า
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเขตโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 7 ชั่วโมง-8 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 5,000-14,000 เยน |
รถยนต์ส่วนตัว: โตเกียวไปโอซาก้า
| ระยะทาง | ประมาณ 500 กิโลเมตร |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 6 ชั่วโมง |
| ราคา | ประมาณ 10,000 เยน (ค่าผ่านทางด่วนแปรผันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน) |
โตเกียว→เกียวโต
ชินคันเซ็น: โตเกียวไปเกียวโต| เส้นทาง | สถานีโตเกียว→สถานีเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที |
| ราคา | 13,320 เยน |
รถบัสด่วน: โตเกียวไปเกียวโต
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเขตเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 7 ชั่วโมง 50 นาที |
| ราคา | ประมาณ 6,000-12,000 เยน |
รถบัสกลางคืน: โตเกียวไปเกียวโต
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถในเขตโตเกียว→จุดลงรถในเมืองเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 6 ชั่วโมง-7 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 5,000-14,000 เยน |
รถยนต์ส่วนตัว: โตเกียวไปเกียวโต
| ระยะทาง | ประมาณ 460 กิโลเมตร |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 7,700 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน) |
เดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตจากนาโกย่า

ที่มาภาพ:Photo AC
นาโกย่าอยู่ใกล้กับเกียวโตและโอซาก้า ทำให้มีทางเลือกการเดินทางที่หลากหลาย นอกจากชินคันเซ็นแล้ว ยังสามารถเลือกนั่งรถไฟธรรมดาหรือรถไฟเอกชน เพื่อชมวิวที่แตกต่างได้ ส่วนรถบัส หากไม่มีความจำเป็นพิเศษ อย่าง การเดินทางข้ามคืน รถบัสด่วนทั่วไปจะคุ้มค่ากว่ารถบัสกลางคืน
นาโกย่า→โอซาก้า
ชินคันเซ็น: นาโกย่าไปโอซาก้า| เส้นทาง | สถานีนาโกย่า→สถานีชินโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 50 นาที |
| ราคา | 5,940 เยน |
รถไฟ(JR): นาโกย่าไปโอซาก้า
| เส้นทาง | สถานีนาโกย่า→สถานีไมบาระ→สถานีโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 3 ชั่วโมง 10 นาที |
| ราคา | 3,410 เยน |
รถไฟ (คินเท็ตสึ) ": นาโกย่าไปโอซาก้า
| เส้นทาง | สถานีคินเท็ตสึนาโกย่า→สถานีโอซาก้านัมบะ |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที |
| ราคา | 4,990 เยน (รวมค่าที่นั่งสำรองรถด่วนพิเศษ) |
รถบัสด่วน: นาโกย่าไปโอซาก้า
| เส้นทาง | จุดจอดในเมืองนาโกย่า (สถานีนาโกย่า/ซากาเอะ ฯลฯ) → จุดจอดในเมืองโอซาก้า (อุเมดะ/สถานีโอซาก้า ฯลฯ) |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 3 ชั่วโมง |
| ราคา | ประมาณ 3,000-4,500 เยน |
รถบัสกลางคืน: นาโกย่าไปโอซาก้า
| เส้นทาง | จุดจอดในเมืองนาโกย่า (สถานีนาโกย่า/ซากาเอะ/สถานีคานายามะ ฯลฯ) → จุดจอดในเมืองโอซาก้า (สถานีนัมบะ/สถานีอุเมดะ/สถานีโอซาก้า ฯลฯ) |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที~6 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 3,000-6,000 เยน |
รถยนต์ส่วนตัว: นาโกย่าไปโอซาก้า
| ระยะทาง | ประมาณ 175 กิโลเมตร |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที |
| ราคา | ประมาณ 5,300 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามระยะทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน) |
นาโกย่า→เกียวโต
ชินคันเซ็น: นาโกย่าไปเกียวโต| เส้นทาง | สถานีนาโกย่า→สถานีเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 35 นาที |
| ราคา | 5,170 เยน |
รถไฟ (JR): นาโกย่าไปเกียวโต
| เส้นทาง | สถานีนาโกย่า→สถานีไมบาระ→สถานีเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง |
| ราคา | 2,640 เยน |
รถไฟ (คินเท็ตสึ): นาโกย่าไปเกียวโต
| เส้นทาง | สถานีคินเท็ตสึนาโกย่า→สถานีเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที |
| ราคา | 3,930 เยน (รวมค่าที่นั่งสำรองรถด่วนพิเศษ) |
รถบัสด่วน: นาโกย่าไปเกียวโต
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถในนาโกย่า (สถานีนาโงยา/ซากาเอะ ฯลฯ)→จุดขึ้นรถในเกียวโต (สถานีเกียวโต ฯลฯ) |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 2,500-3,500 เยน |
รถบัสกลางคืน: นาโกย่าไปเกียวโต
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถในเมืองนาโกย่า (สถานีนาโกย่า/ซากาเอะ/สถานีคานายามะ ฯลฯ) → จุดขึ้นรถในเมืองโอซาก้า (สถานีนัมบะ/สถานีอุเมดะ/สถานีโอซาก้า ฯลฯ) |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที-6 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 3,000-6,000 เยน |
รถยนต์ส่วนตัว: นาโกย่าไปเกียวโต
| ระยะทาง | ประมาณ 175 กิโลเมตร |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที |
| ราคา | ประมาณ 6,000 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างตามระยะทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน) |
เดินทางไปโอซาก้าและเกียวโตจากฟุกุโอกะ

ลานหน้าสถานีฮากาตะที่เชื่อมต่อกับสถานีฮากาตะ
ที่มาภาพ:photoAC
ระยะทางจากคิวชูไปคันไซนั้นไกลกว่าไปโตเกียวเสียอีก แม้ว่าคนญี่ปุ่นบางคนจะเลือกนั่งรถบัสกลางคืนเพื่อประหยัดค่าที่พัก แต่ถ้าคิดถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพด้านเวลา สายการบินภายในประเทศญี่ปุ่นหรือชินคันเซ็นจะเป็นตัวเลือกแรก
ฟุกุโอกะ→โอซาก้า
เครื่องบิน: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า| เส้นทาง | สนามบินฟุกุโอกะ FUK→สนามบินนานาชาติโอซาก้า ITM→ต่อรถไฟหรือรถบัสไปตัวเมืองโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที+เดินทางต่อประมาณ 40 นาที-1 ชั่วโมง |
| ราคา | ตั๋วเครื่องบินประมาณ 7,000 เยน~+ค่ารถประมาณ 500-900 เยน |
ชินคันเซ็น: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
| เส้นทาง | สถานีฮากาตะ→สถานีชินโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | 14,750 เยน |
รถบัสกลางคืน: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถแถวฮากาตะ→จุดลงในเมืองโอซาก้า |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 8 ชั่วโมง-10 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 5,000-12,000 เยน |
รถยนต์ส่วนตัว: ฟุกุโอกะไปโอซาก้า
| ระยะทาง | ประมาณ 610 กิโลเมตร |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 7 ชั่วโมง |
| ราคา | ประมาณ 9,900 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน) |
ฟุกุโอกะ→เกียวโต
เครื่องบิน: ฟุกุโอกะไปเกียวโต| ขั้นตอน | สนามบินฟุกุโอกะ FUK→สนามบินนานาชาติโอซาก้า ITM→ต่อรถไฟหรือรถบัสไปตัวเมืองเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที + เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง |
| ราคา | ตั๋วเครื่องบินประมาณ 7,000 เยนขึ้นไป + ค่ารถประมาณ 1,000 เยน |
ชินคันเซ็น: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
| เส้นทาง | สถานีฮาคาตะ→สถานีเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที |
| ราคา | 14,970 เยน |
รถบัสกลางคืน: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
| เส้นทาง | จุดขึ้นรถแถวฮาคาตะ→จุดลงรถในเมืองเกียวโต |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 10 ชั่วโมง-11 ชั่วโมง 20 นาที |
| ราคา | ประมาณ 6,000-11,000 เยน |
รถยนต์ส่วนตัว: ฟุกุโอกะไปเกียวโต
| ระยะทาง | ประมาณ 640 กิโลเมตร |
|---|---|
| เวลา | ประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที |
| ราคา | ประมาณ 9,800 เยน (ค่าผ่านทางด่วนจะแตกต่างกันตามเส้นทาง ประเภทรถ และช่วงเวลา ยังไม่รวมค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน) |
บัตรท่องเที่ยวคันไซสุดคุ้ม

ที่มาภาพ:Photo AC
ภูมิภาคคันไซมีบัตรท่องเที่ยวหลายประเภทที่ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติโดยเฉพาะ คราวนี้ขอรวบรวมบัตรที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่ามาให้ก่อน ถ้าตัดสินใจเลือกจุดหมายแล้ว ลองเช็กดูอีกทีว่าท้องถิ่นนั้นๆ มีบัตรโดยสารท่องเที่ยวเหล่านี้หรือไม่
| ประเภทตั๋ว▼ รายการ▶ | Kansai WIDE Area Excursion Pass KIX |
Kansai Railway Pass ITM |
Osaka Amazing Pass UKB |
Kyoto Subway & Bus 1-Day Pass SHM |
|---|---|---|---|---|
| ระยะเวลาใช้งาน |
3 วัน | 2 วัน/ 3 วัน | 1 วัน/ 2 วัน | ภายในวันเดียวกัน |
| ราคา | ผู้ใหญ่ 12,000 เยน เด็ก 6,000 เยน |
ผู้ใหญ่ 5,600/ 7,000 เยน เด็ก 2,800/ 3,500 เยน |
3,500/ 5,000 เยน | ผู้ใหญ่ 1,100 เยน เด็ก 550 เยน |
| เขตที่ใช้ได้ | ซันโย ชินคันเซ็น, JR West และรถไฟเอกชนบางสายทางตะวันตกของคันไซ |
รถไฟ/รถไฟใต้ดินทุกสาย ยกเว้น JR, รถไฟเอกชนและรถบัสบางสาย |
รถไฟใต้ดินโอซาก้า รถบัสในเขตเมืองโอซาก้า รถไฟเอกชนบางสายในเขตเมืองโอซาก้า |
รถไฟใต้ดินเมืองเกียวโต รถบัสเมืองเกียวโต รถบัสบางสายในเขตเมืองเกียวโต |
บัตรรถไฟภูมิภาคคันไซ (Kansai WIDE Area Excursion Pass)
บัตร JR West Wide Area Pass ใช้เที่ยวได้ 3 วันในพื้นที่คันไซและจังหวัดใกล้เคียง นั่งรถไฟ JR ไม่จำกัด รวมชินคันเซ็นบางสาย เหมาะสำหรับทริปข้ามเมืองไปเบือนสถานที่ดัง อย่าง โคยะซัง อามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้เยอะมาก ถ้าต้องไปหลายที่นอกเขตโอซาก้าและเกียวโต
บัตรรถไฟคันไซ (KANSAI RAILWAY PASS)
บัตรรถไฟคันไซคือ ตั๋วเดียวเที่ยวได้ทั่วคันไซ! นั่งรถไฟและรถไฟใต้ดินได้ไม่อั้นใน 6 จังหวัด มีให้เลือกแบบ 2-3 วัน พร้อมส่วนลดสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และชอปปิ้ง เหมาะสำหรับทริปเที่ยวคันไซแบบคุ้มสุดๆ
บัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาส (OSAKA AMAZING PASS)
บัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาสมีให้เลือก 1-2 วัน ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชน และรถบัสในเมือง พร้อมส่วนลดเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย คุ้มค่ามากขึ้น ถ้าวางแผนดี เหมาะกับสายเที่ยวที่อยากตะลุยโอซาก้าแบบจัดเต็ม
บัตรรถไฟใต้ดินและรถบัสเกียวโต 1 วัน
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟใต้ดินเกียวโตและรถบัสในเมือง (รวมรถบัสท่องเที่ยวด่วนที่จอดเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวหลัก) ได้ไม่จำกัดภายในวันที่ซื้อบัตร พร้อมรับส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารบางแห่ง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมสถานที่สำคัญหลายแห่งในเกียวโตภายใน 1 วัน โดยทั่วไปใช้แค่ 3-5 ครั้งก็คุ้มค่าแล้ว
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในคันไซ
โอซาก้า: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้า
โอซาก้าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก มีทั้งบรรยากาศเมืองสมัยใหม่และความมีชีวิตชีวาของชาวบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ และเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวในภูมิภาคญี่ปุ่นตะวันตกสำหรับคนส่วนใหญ่
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan)

ที่มาภาพ:PRTIMES
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน หรือ USJ ที่ทุกคนรู้จักกันดี เป็นสวนสนุกระดับโลกที่อยู่ในโอซาก้า โดดเด่นด้วยเครื่องเล่นสุดมันส์มากมาย พร้อม โซนแฮรี่ พอตเตอร์ที่เนรมิตโลกเวทมนตร์มาไว้ให้สัมผัส และยังมีไฮไลต์ใหม่ล่าสุด Super Nintendo World โซนแรกในญี่ปุ่นที่จำลองโลกมาริโอได้สมจริงสุดๆ จุดเด่นของที่นี่ คือ การร่วมมือกับอนิเมะและเกมดัง เพื่อสร้างเครื่องเล่นลิมิเต็ด พร้อมประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่ทำให้ทั้งครอบครัวสนุกได้ไม่มีเบื่อ
ปราสาทโอซาก้า

ที่มาภาพ:PhotoAC
ปราสาทโอซาก้า คือ สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ที่สร้างโดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ในศตวรรษที่ 16 เป็นฐานที่มั่นสำคัญรวมญี่ปุ่นยุคเซนโกคุ ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่า ชุดเกราะซามูไร พร้อมจุดชมวิวเมืองสุดอลังการบนหอคอย ความงามรอบปราสาทเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้งซากุระบานสะพรั่งและใบไม้สีแดงที่โอบล้อม เป็นแลนด์มาร์กที่ต้องมาเยือนเมื่อเที่ยวโอซาก้า
ศาลเจ้านัมบะยาซากะ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ศาลเจ้านัมบะยาซากะ โดดเด่นด้วยอาคารชิชิเดนรูปหัวสิงโตยักษ์สูง 12 เมตร ตั้งตระหง่านกลางย่านชอปปิ้งนัมบะ เชื่อว่าปากสิงโตที่อ้ากว้างช่วยกลืนกินสิ่งชั่วร้าย นำโชคลาภการค้า ผู้คนจึงนิยมมาขอพรเรื่องการเรียน งาน และความเจริญรุ่งเรือง อยู่ใกล้ชินเซไคและทสึเทนคาคุ เหมาะแก่การแวะมาสักการะ ขอพร และถ่ายรูประหว่างชอปปิ้ง
หอคอยสึเทนคาคุ

ที่มาภาพ:PhotoAC
หอคอยสึเทนคาคุ เป็นหอคอยสัญลักษณ์แห่งชินเซไค โอซาก้า ด้วยความสูงถึง 100 เมตร โดดเด่นจากการผสมผสานการออกแบบหอไอเฟลเข้ากับสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากจุดชมวิวสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีมาสคอตนำโชค "บิลลิเคน" ที่ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างแวะเวียนมาขอพร
อาหารเลิศรสของโอซาก้า
โอซาก้าได้รับการขนานนามให้เป็น "ห้องครัวแห่งญี่ปุ่น" เป็นวัฒนธรรมโคนะโมโนะ ซึ่งเป็นอาหารแป้งทอดราคาถูก อิ่มท้องที่พัฒนามาตั้งแต่สมัยเอโดะ จนกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องลิ้มลองเมื่อมาเยือน
คุชิคัตสึ

ที่มาภาพ: PhotoAC
โอซาก้า เมืองที่มีอาชีพหลากหลายมารวมกัน ได้พัฒนาอาหารชาวบ้านที่กินอิ่มเร็วขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยเอโดะ "คุชิคัตสึ" ก็เป็นหนึ่งในนั้น คุชิคัตสึเป็นเมนูที่เสียบหมูหรือผักด้วยไม้ไผ่ ชุบแป้งทอดกรอบ ราดซอสสูตรเด็ด เป็นกับแกล้มสุดฮิตที่ใครก็ต้องลอง
โอโคโนมิยากิ

ที่มาภาพ: PhotoAC
โอโคโนมิยากิเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม "โคนะโมโนะ" ของโอซาก้า ผสมกะหล่ำปลีฝอย อาหารทะเล หมู กับแป้งแล้วย่างบนกระทะเหล็ก สุดท้ายทาซอส โรยสาหร่ายผง ปลาแห้งฝอย อาหารรสชาติหลากหลายที่อิ่มท้องก็เสร็จสมบูรณ์ โอโคโนมิยากิทรงกลมสามารถกินคนเดียวหรือแบ่งกินกับเพื่อนครอบครัวรอบกระทะเหล็กได้ เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมอาหารโอซาก้า
ของฝากที่ต้องซื้อจากโอซาก้า
551 โฮไร ฮงเทน

ที่มาภาพ: 551 โฮไร ฮงเทน
"551 โฮไร" ร้านซาลาเปาชื่อดังโอซาก้า เริ่มต้นจากเจ้าของชาวไต้หวันที่เปิดร้านขายข้าวแกงกะหรี่ในปี 1945 จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อคิดสูตรซาลาเปาหมูที่ผสมผสานระหว่างเนื้อหมูนุ่ม หัวหอมหอมกรุ่น และแป้งหวานนุ่มละมุน จนกลายเป็นตำนานของฝากขึ้นชื่อแห่งโอซาก้าที่ยังคงความสดใหม่ด้วยการนึ่งหน้าร้านทุกวัน
เกียวโต: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโต
เกียวโต มรดกโลกแห่งญี่ปุ่นที่งดงามด้วยวัด ศาลเจ้า และวัฒนธรรมดั้งเดิมอายุพันปี ดอกซากุระ ใบไม้สีแดง และบรรยากาศเกอิชาในตรอกเล็กๆ ถ้าอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่น บอกเลยว่าเกียวโตเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด!
วัดคิโยมิสุ

ที่มาภาพ: PhotoAC
วัดคิโยมิสุ สัญลักษณ์แห่งเกียวโตบนภูเขาโอโตวะ มีจุดไฮไลต์อยู่ที่ "เวทีคิโยมิสุ" โครงสร้างไม้ไร้ตะปูยื่นจากหน้าผา ใช้เสาไม้ยักษ์ 139 ต้นรองรับ จากจุดนี้สามารถชมวิวเมืองเกียวโตแบบพาโนรามาได้ ภายในมีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย มอบพรด้าน การเรียน สุขภาพ และอายุยืน และพลาดไม่ได้กับ ศาลเจ้าจิชู สำหรับขอพรด้านความรัก ช่วงที่ควรมาเยือนที่สุดคือช่วงซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสี
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ สัญลักษณ์แห่งเกียวโตที่โด่งดังไปทั่วโลกจากอุโมงค์โทริอิสีแดงนับพัน ก่อตั้งตั้งแต่ปี 711 เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอินาริกว่า 30,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น ที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งข้าวและการค้า จุดไฮไลต์คือ "อุโมงค์โทริอิสีชาด" อันงดงาม พร้อมรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ นิยมมาขอพรด้าน ธุรกิจ การเรียน และสุขภาพ สามารถเดินทางมาได้ง่าย เพราะมีสถานีรถไฟอินาริอยู่หน้าศาลเจ้า
อามาโนฮาชิดาเตะ

ที่มาภาพ:PhotoAC
อามาโนฮาชิดาเตะ สันทรายมหัศจรรย์ที่อ่าวมิยาสึ เกียวโต ทอดยาว 3.6 กิโลเมตร ปกคลุมด้วยป่าสนเขียวขจี ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น และยังมีเคล็ดลับการชมวิวสุดพิเศษ คือ การก้มมองผ่านหว่างขาที่สวนคาซามัตสึ จะเห็นภาพสะพานทอดสู่สวรรค์สุดอลังการ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น นั่งกระเช้า ล่องเรือ หรือปั่นจักรยานชมวิวได้
อาหารเลิศรสของเกียวโต
อาหารเกียวโตโดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล โดยเฉพาะ "เคียวยาไซ" หรือ ผักท้องถิ่นที่ปลูกรอบเมือง ผสานกับอิทธิพลจากอาหารวัดที่เน้นเต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ทำให้ยูโดฟุและยูบะกลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเกียวโตที่ไม่ควรพลาด
ยูโดฟุ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ยูโดฟุ เกียวโตโด่งดังด้านน้ำสะอาดคุณภาพเยี่ยม ทำให้ใช้ทำเต้าหู้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มลื่นพิเศษ เสิร์ฟในน้ำซุปคอมบุรสละมุน พร้อมเครื่องเคียงและน้ำจิ้มหลากหลายให้เลือกปรุงตามใจชอบ นี่คือเสน่ห์ของอาหารวัดที่อยู่คู่เกียวโตมานานนับพันปี
ยูบะ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ยูบะ หรือฟองเต้าหู้ในเกียวโต ไม่ใช่แค่วัตถุดิบทั่วไป แต่เป็นอาหารชั้นสูงที่มีประวัติยาวนานกว่าพันปีในวัฒนธรรมวัด นามายูบะ หรือยูบะสดที่ไม่ผ่านการทอด มีเนื้อสัมผัสนุ่มลื่น นิยมทานแบบซาชิมิ และเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม อย่าง ไคเซกิเรียวริและอาหารมังสวิรัติโชจินเรียวริ ปัจจุบันมีเมนูสร้างสรรค์ใหม่ๆ ทั้งยูบะดง ของหวาน และไอศกรีม นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติแบบเกียวโตในรูปแบบที่ทันสมัยและเข้าถึงง่ายขึ้น
ของฝากที่ต้องซื้อจากเกียวโต
ยัตสึฮาชิ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ยัตสึฮาชิ คือ วากาชิหรือขนมญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อของเกียวโต ทำจากแป้งข้าว น้ำตาล และอบเชย มี 2 แบบ คือ "ยากิยัตสึฮาชิ" แบบอบ และ "นามายัตสึฮาชิ" แบบไม่อบ (มีเนื้อเหนียวนุ่มคล้ายโมจิ) บางชิ้นมีไส้ถั่วแดงหวานอร่อย ปัจจุบันมีร้านทำยัตสึฮาชิรูปตุ๊กตาน่ารักๆ เป็นของฝากยอดนิยมที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือเลยล่ะ
นารา: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวในนารา
นาราเป็นเมืองมรดกโลกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดดเด่นจากวัดโทไดจิและศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ และสิ่งที่มีเอกลักษณ์ที่สุดก็ คือ ฝูงกวางสุดน่ารักที่เดินเล่นอย่างอิสระในสวนนารา บรรยากาศเงียบสงบชวนให้หลงใหลจนต้องขอพักนานยิ่งขึ้น
สวนนารา

ที่มาภาพ:สมาคมการท่องเที่ยวเมืองนารา
สวนนารา สวรรค์แห่งมรดกโลกญี่ปุ่นบนพื้นที่ 660 เฮกตาร์ รวมทั้งวัดโทไดจิ วัดโคฟุคุจิ และศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ พร้อมพระใหญ่นาราและฝูงกวางน่ารักที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชมความงามตามฤดูกาล ทั้งเทศกาลยามะยากิช่วงปีใหม่ ดอกซากุระฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้สีแดงฤดูใบไม้ร่วง เที่ยวชมบรรยากาศเมืองเก่าได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถให้อาหารน้องกวางได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด!
วัดโทได

ที่มาภาพ:สมาคมการท่องเที่ยวเมืองนารา
วัดโทได สุดยอดวัดดังแห่งนารา โดดเด่นด้วยอาคารไม้ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไฮไลต์ คือ พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ยักษ์สูง 15 เมตร พระพักตร์เปี่ยมเมตตา นอกจากสักการะแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมล้ำค่าระดับชาติและมรดกโลก เหมาะกับการเที่ยวชมประวัติศาสตร์พุทธศาสนาญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม
สวนสนุกยอดเขาอิโคมะ

ที่มาภาพ:なら旅ネット
สวนสนุกบนยอดเขาอิโคมะสูง 642 เมตร แห่งเดียวในนารา ฟรีค่าเข้า จ่ายเฉพาะค่าเครื่องเล่นที่ต้องการ ราคาประหยัดกว่าสวนสนุกทั่วไป พร้อมวิวสวยที่สามารถมองเห็นอ่าวโอซาก้า ถ้าเดินทางจากโอซาก้า ใช้เวลาเพียง 45 นาที เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากพาเด็กเล็กมาเที่ยวอย่างยิ่ง
อาหารเลิศรสในนารา
นาราในยุคเมืองหลวงโบราณให้ความสำคัญกับอาหารเป็นอย่างมาก อาหารดั้งเดิมของนาราล้วนเป็นผลึกแห่งภูมิปัญญาของคนโบราณที่ใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อเก็บรักษาและได้มาซึ่งวัตถุดิบที่สดและอร่อย
ซูชิคาคิโนะฮะ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ซูชิคาคิโนะฮะ อาหารโบราณจากนารา เป็นซูชิที่ห่อด้วยใบลูกพลับอันเป็นเอกลักษณ์ เล่าขานว่าเกิดจากชาวประมงนำปลาดองมาขายในเทศกาลฤดูร้อน ทำจากข้าวหมักน้ำส้มสายชูห่อปลาซาบะหรือแซลมอนดองเกลือ ใบลูกพลับช่วยฆ่าเชื้อและพกพาง่าย ปัจจุบันเป็นทั้งของฝากขึ้นชื่อและอาหารในงานเทศกาลสำคัญของชาวนารา
คุซุโยชิโนะ

ที่มาภาพ: กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง
คุซุโยชิโนะ แป้งสุดพิเศษจากเขตโยชิโนะที่มีแหล่งน้ำบริสุทธิ์และอากาศหนาวเย็น ทำให้ได้แป้งคุซุคุณภาพเยี่ยม ผ่านกระบวนการผลิตพิถีพิถันทั้งบด กรอง และตกตะกอน แป้งชนิดนี้คล้ายแป้งมันสำปะหลัง เดิมเป็นสมุนไพรจีน ก่อนพัฒนามาเป็นวัตถุดิบทำอาหารและขนมญี่ปุ่นที่โด่งดังในปัจจุบัน
ของฝากที่ต้องซื้อจากนารา
พุดดิ้งไดบุตสึ

ที่มาภาพ:まほろば大仏プリン本舗
พุดดิ้งไดบุตสึ ขนมขึ้นชื่อจากนารา จุดเด่น คือ ฝาขวดลายพระใหญ่ยิ้มแย้ม ผลิตจากนมและไข่ไก่สดในท้องถิ่น มีให้เลือก 2 รสชาติพิเศษ ทั้งชายามาโตะและสาเกนารา เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน หอมกลิ่นนมแท้ เป็นของฝากที่สื่อถึงเสน่ห์เมืองนาราได้อย่างลงตัว
เฮียวโกะ: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวในเฮียวโกะและโกเบ
เฮียวโกะ จังหวัดที่รวมทุกความสวยงามไว้ในที่เดียว ทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แหล่งประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคเซ็นโงะกุถึงเอโดะ และสถาปัตยกรรมหลากสไตล์ ตั้งแต่คลาสสิกแบบยุโรป-อเมริกัน จนถึงญี่ปุ่นโมเดิร์น
ย่านคิตาโนะอิจินคังไก

ที่มาภาพ:Feel KOBE เว็บไซต์ท่องเที่ยวโกเบ
ย่านคิตาโนะอิจินคังไกเป็นย่านบ้านพักสไตล์ตะวันตกสมัยเมจิของพ่อค้าต่างชาติ มีอาคารเก่าแก่กว่า 30 หลังที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม เช่น คาซามิโดริคัง โมเองิคัง และอุโรโกะโนะเอะ ปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านกาแฟสุดชิค และเวิร์กช็อปทำน้ำหอม พร้อมมุมถ่ายรูป 3D สวยๆ อีกมากมาย ที่นี่คือสวรรค์ของสายถ่ายรูปที่อยากสัมผัสมนต์เสน่ห์ตะวันตกในญี่ปุ่น
ปราสาทฮิเมจิ

ที่มาภาพ:คู่มือท่องเที่ยวฮิเมจิ
ปราสาทฮิเมจิหรือ "ปราสาทนกกระยางขาว" โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสีขาวบริสุทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกและสมบัติประจำชาติ ภายในเป็นโครงสร้างเทนชูแบบเรนริตสึและระบบป้องกันชั้นเยี่ยม ความงามของปราสาทยิ่งเพิ่มขึ้นในฤดูชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวปราสาทพร้อมจิบชาที่สวนโคโคเอ็นได้อีกด้วย
ออนเซ็นคิโนซากิ

ที่มาภาพ:เว็บไซต์ท่องเที่ยวเมืองโทโยโอกะ
ออนเซ็นคิโนซากิ เมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี เปรียบเสมือนโรงแรมออนเซ็นขนาดใหญ่ที่ผสานกับวิถีชีวิตท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถสวมยูคาตะ ใส่เกี๊ยะไม้ เดินเล่นริมแม่น้ำโอโอทานิกาวะ พร้อมสัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซ็นสาธารณะ 7 แห่ง แต่ละที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน ปิดท้ายด้วยอาหารขึ้นชื่อ อย่าง ปูมัตสึบะและเนื้อวัวทาจิมะ
อาหารเลิศรสของเฮียวโกะและโกเบ
เฮียวโกะเป็นจังหวัดที่ได้ฉายา "ญี่ปุ่นย่อส่วน" เพราะมีทั้งทะเลญี่ปุ่นทางเหนือและทะเลเซโตะไนไคทางใต้ ทำให้เป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น ผลผลิตทั้งเกษตร ปศุสัตว์ และประมงที่นี่ล้วนติดอันดับ 1 ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ
เนื้อโกเบ

ที่มาภาพ:Feel KOBE神戸公式観光サイト
เนื้อโกเบ สุดยอดเนื้อวากิวระดับพรีเมียมจากจังหวัดเฮียวโกะ โดยเป็นเนื้อที่ต้องมาจากวัวพันธุ์ทาจิมะแท้เท่านั้น จุดเด่น คือ ลายหินอ่อนสวยงาม เนื้อนุ่มละลายในปาก ซึ่งผ่านการเลี้ยงดูแบบพิเศษและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด พร้อมใบรับรองมาตรฐานที่การันตีความพิเศษในทุกชิ้น นับเป็นความภาคภูมิใจของเมืองโกเบที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก
ปูมัตสึบะ

ที่มาภาพ:まるごと北近畿
ปูมัตสึบะ สุดยอดอาหารฤดูหนาวหายากจากท่าเรือทาจิมะ คาซุมิ เมืองเฮียวโกะ อยู่ใกล้กับออนเซ็นคิโนซากิ เนื้อปูละเอียดหวานฉ่ำ นิยมนำมาต้มหรือทำหม้อไฟ ช่วงพฤศจิกายนเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวแห่ชิมความอร่อยระดับพรีเมียมนี้กันคับคั่ง
ของฝากที่ต้องซื้อจากเฮียวโกะและโกเบ
GAUFRES คุกกี้แผ่นบางของ Kobe Fugetsudo

ที่มาภาพ:Kobe Fugetsudo
Kobe Fugetsudo แบรนด์ขนมดังจากญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 98 ปี ซิกเนเจอร์ คือ GAUFRES คุกกี้แผ่นบางสไตล์ฝรั่งเศส ผสมความละเมียดของขนมญี่ปุ่น สอดไส้หลากรส ทั้งวานิลลา สตรอว์เบอร์รี่ และช็อกโกแลต กรอบนุ่มละลายในปาก เป็นของฝากยอดนิยมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างหลงรัก
วากายามะ: สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวในวากายามะ
วากายามะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการปฏิบัติธรรมตามความเชื่อภูเขาแบบดั้งเดิม เช่น คุมาโนะโคโดะและโคยะซัง ทิวทัศน์เงียบสงบและลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าแสวงบุญหรือการเดินทางไหว้พระ ล้วนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการชะลอจังหวะชีวิตและทำจิตใจให้สงบ
คุมาโนะโคโดะ

ที่มาภาพ:สมาคมการท่องเที่ยวคุมาโนะ
คุมาโนะโคโดะ เส้นทางแสวงบุญมรดกโลกในจังหวัดวากายามะ เป็นเส้นทางศักดิ์สิทธิ์อายุกว่าพันปีที่จักรพรรดิญี่ปุ่นเคยเสด็จผ่าน ตลอดทางสามารถพบเห็นป่าสนซุกิ หินมอสเขียว และลำธารใสสะอาด เหมาะสำหรับการเดินป่าระยะสั้นหรือแสวงบุญหลายวัน ให้ความรู้สึกสงบและชำระจิตใจอย่างยิ่ง
ปราสาทวากายามะ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ปราสาทวากายามะ หรือ "โทระฟุเซโจ" ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1585 โดยตั้งตระหง่านกลางเมืองวากายามะ เป็นปราสาทสำคัญในสมัยโทคุงาวะ แม้ตัวปราสาทเดิมจะถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้สร้างใหม่ในปี 1958 ภายในมีสวนนิชิโนะมารุที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ ช่วงที่สวยที่สุด คือ ฤดูซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสี ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ของไดเมียวแห่งคิชูด้วย
ภูเขาโคยะ

ที่มาภาพ:和歌山県公式観光サイト
ภูเขาโคยะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาสูง 1,000 เมตร ถูกสร่างขึ้นโดยคูไคตั้งแต่ปี 816 เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่สำคัญของญี่ปุ่น ประกอบด้วยวัดคงโกบุจิ ดันโจการัน และโอคุโนะอินที่มีหลุมศพนับล้าน นักท่องเที่ยวสามารถพักที่ชูคุโบ สัมผัสประสบการณ์พิธีกรรมทางศาสนาพุทธ ทั้งทานอาหารเจ และฟังเสียงกลองธรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมในบรรยากาศสงบท่ามกลางธรรมชาติ
อาหาเลิศรสในวากายามะ
วากายามะอยู่บนคาบสมุทรคิอิ โอบล้อมด้วยทะเลถึง 3 ด้านและภูเขาสูง เป็นแหล่งผลิต ซอสโชยุชั้นเลิศ การเกษตรและประมงเฟื่องฟู ผลไม้ขึ้นชื่อ อย่าง ส้มและบ๊วยก็ถือเป็นของดีประจำถิ่น อาหารท้องถิ่นที่นี่ยังผูกพันกับวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างลึกซึ้ง
ราเมนวากายามะ

ที่มาภาพ:PhotoAC
ราเมนวากายามะมีเอกลักษณ์จากซอสโชยุแท้ๆ ที่เป็นของดีประจำเมือง ราเมนนี้มีหลักๆ สองสไตล์ คือ น้ำซุปใสสดชื่น และน้ำซุปทงคัตสึเข้มข้น เสิร์ฟมาพร้อมเส้นบางนุ่ม หมูชาชู คามาโบโกะ หน่อไม้ดอง และต้นหอม บางร้านเพิ่มไข่ต้มและซูชิปลาซาบะให้อร่อยครบรส
ซูชิเมฮาริ

ที่มาภาพ:กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง
ซูชิเมฮาริเป็นอาหารพื้นบ้านของภูมิภาคคิชู เป็นข้าวปั้นที่ทำขึ้นเพื่ออิ่มท้องในช่วงที่ยุ่ง ห่อข้าวผสมน้ำส้มสายชูด้วยใบผักกาดเขียวดอง ใบผักมีรสเค็มตามธรรมชาติ เก็บได้นานและให้ความอิ่ม ที่มาของชื่อมีหลายแบบ บางคนบอกว่าเพราะ "ต้องอ้าปากกว้างเท่ากับลืมตาถึงจะกินได้" "อร่อยจนตาโต" (ตัวอักษรคันจิในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายเหมือนการลืมตาโต) จึงได้ชื่อนี้
ของฝากที่ต้องซื้อจากวากายามะ
เทมาริมิคัง

ที่มาภาพ:โซวะคาจูเอ็น
เทมาริมิคังเป็นขนมส้มเชื่อมญี่ปุ่นทรงกลมน่ารัก ทำจากส้มวากายามะสดใหม่ แช่น้ำเชื่อมนาน 2 เดือนตั้งแต่ธันวาคม ทานเป็นขนมหวานหอมอร่อย หรือผสมโซดาเป็นเครื่องดื่มเปรี้ยวหวานชื่นใจ
ชิกะ (ทะเลสาบบิวะ): สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวในชิกะ (ทะเลสาบบิวะ)
จังหวัดชิกะโอบล้อมด้วยทะเลสาบที่ขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทะเลสาบบิวะ ทำให้เกิด "วัฒนธรรมแห่งดินแดนทะเลสาบ" และทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ก็มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับทะเลสาบบิวะเช่นกัน
ศาลเจ้าชิราฮิเงะ

ที่มาภาพ: PhotoAC
ศาลเจ้าชิราฮิเงะ แลนด์มาร์กสำคัญริมทะเลสาบบิวะ โดดเด่นด้วยโทริอิสีแดงกลางน้ำสูง 16 เมตร ที่นี่บูชาเทพซารุตะฮิโกะโอคามิ ผู้คุ้มครองการเดินเรือและอายุยืน ยามเช้าเย็นโทริอิจะสะท้อนผิวน้ำเกิดเป็นภาพอันงดงาม และฤดูร้อนมีเทศกาลดอกไม้ไฟบิวะโกะ สร้างภาพที่ประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและช่างภาพ
ปราสาทฮิโคเนะ

ที่มาภาพ: คู่มือท่องเที่ยวฮิโกเนะ
ปราสาทฮิโคเนะ สมบัติประจำชาติญี่ปุ่นริมทะเลสาบบิวะ โดดเด่นด้วยหอคอยยุคเอโดะที่ยังสมบูรณ์ สร้างขึ้นในปี 1622 โดยตระกูลซามูไรอิอิ นอกจากตัวปราสาทแล้ว ยังมีสวนเกนคิวเอนและพิพิธภัณฑ์ให้เที่ยวชม พิเศษสุดคือได้พบฝูงหงส์ขาวและมาสคอตสุดน่ารัก "ฮิโคนยัง" ที่คูน้ำรอบปราสาท
พิพิธภัณฑ์ศิลปะซากาวะ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะซากาวะ สถาปัตยกรรมสุดล้ำที่ดูเหมือนลอยอยู่บนทะเลสาบบิวะ ภายในสะสมผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่น ไฮไลท์พิเศษ คือ ห้องน้ำชาบนน้ำที่ออกแบบโดยตระกูลราคุ ผสมผสานความงามของศิลปะและธรรมชาติได้อย่างลงตัว เป็นจุดถ่ายรูปสวยที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
อาหารเลิศรสของชิกะ (ทะเลสาบบิวะ)
จังหวัดชิกะมักถูกล้อว่าเป็นจังหวัดทะเลสาบบิวะ เนื่องจากทรัพยากรน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์และสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ได้หล่อหลอมวัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอยู่ร่วมกับทะเลสาบได้อย่างลงตัว
เนื้อโอมิ

ที่มาภาพ:PhotoAC
เนื้อโอมิ หนึ่งในสามเนื้อวากิวระดับตำนานของญี่ปุ่น มาจากจังหวัดชิกะที่มีประวัติการเลี้ยงโคคุโรเกะมายาวนานกว่า 400 ปี เดิมเป็นของชั้นสูงสำหรับโชกุนและขุนนาง เนื้อนุ่มละมุน ไขมันแทรกสวยงาม รสชาติหวานกลมกล่อม ไม่ว่าจะทำเป็นสุกี้ยากี้ ชาบู หรือสเต็ก ก็อร่อยทุกเมนู
หม้อไฟเป็ด

ที่มาภาพ:長浜・米原を楽しむ観光情報サイト
หม้อไฟเป็ดเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดชิกะในฤดูหนาว เนื้อเป็ดแน่นหนับ ไขมันหอมมัน ส่วนใหญ่จับมาจากทะเลสาบบิวะ เดิมเป็นอาหารของชาวประมงท้องถิ่นที่จับนกอพยพ ก่อนพัฒนาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลองเมื่อมาเยือนชิกะในฤดูหนาว
ของฝากที่ต้องซื้อจากชิกะ (ทะเลสาบบิวะ)
บามคูเฮนทำมือโดยช่างฝีมือ "CLUB HARIE" มาพร้อมกล่องของขวัญอันงดงาม

ที่มาภาพ:CLUB HARIE
CLUB HARIE แบรนด์ขนมดังจากจังหวัดชิกะ มีซิกเนเจอร์เป็นบามคูเฮน เนื้อนุ่มละมุน เคลือบน้ำตาลไอซิ่งด้วยมือ ปรับสูตรตามฤดูกาล เพื่อรสชาติที่สมบูรณ์แบบ นำเสนอเป็นกล่องลายหมากรุกสวยหรู เหมาะเป็นของฝากสุดพรีเมียม มีให้เลือกทั้งไซส์ปกติและมินิ
ตัวอย่างแผนการท่องเที่ยวคันไซแบบอิสระ
คันไซมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจนแม้จะนั่งรถวิ่งไปเรื่อยๆ ก็ยากที่จะไปได้ครบทุกที่ ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างแผนเที่ยวเกียวโต โอซาก้า โกเบ และนารา 6 วัน 5 คืนแบบคลาสสิก มือใหม่แค่เดินตามนี้ก็ไม่พลาดแน่นอน! ถ้าอยากลองเที่ยวเชิงลึก ก็แค่เปลี่ยนสถานที่บางแห่ง ก็สามารถจัดโปรแกรมที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างง่ายดาย!

แค่เปลี่ยนชุดกิโมโนเดินเล่นในเมืองเกียวโต ก็เดินถ่ายรูปเล่นได้ทั้งวันแล้ว!
ที่มาภาพ:PhotoAC
| Day1 | เดินทางมาถึงตัวเมืองโอซาก้าจากสนามบินคันไซ → ตอนกลางคืนไปชมวิวที่จุดชมวิวอุเมดะ สกาย บิลดิ้งหรือ "จุดชมวิวอาเบโนะฮารุคาส" |
|---|---|
| Day2 | โอซาก้า: สวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า, JO-TERRACE OSAKA → หอคอยสึเทนคาคุ → ศาลเจ้านัมบะยาซากะ → โดตงโบริ → ชินไซบาชิ |
| Day3 | นารา: วัดโคฟุกุจิ → สวนสาธารณะโทได (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินารา, ให้อาหารกวาง) → อาหารกลางวันที่ร้านกาแฟเอโนโมโตะ → ศาลเจ้าคาสุกะไทฉะ → ซื้อของฝาก |
| Day4 | เกียวโต: ตลาดนิชิกิ → วัดคินคาคุจิ → ปราสาทนิโจ → วัดคิโยมิสุและทางเดินโดยรอบ (ชาวันซากะ, ซันเนนซากะ, นิเนนซากะ) → ตอนเย็นเดินเล่นที่คาวาระมาจิ |
| Day5 | โกเบ: ปราสาทฮิเมจิ → ย่านคิตาโนะอิจินกาอิ → สถานีโกเบซันโนมิยะและท่าเรือโกเบ (ห้างสรรพสินค้า, ชมวิวยามค่ำคืน) |
| Day6 | เดินทางกลับจากสนามบินคันไซ แนะนำให้ไปถึงสนามบินเร็วหน่อย เพื่อชอปปิ้งและทานอาหาร |
จุดสำคัญของโปรแกรม:
・การคมนาคมในภูมิภาคเคฮันชิน+นารามีความเจริญ ส่วนใหญ่จะผ่านตัวเมืองโอซาก้า การเลือกพักในตัวเมืองโอซาก้าที่มีหลายสายรถไฟผ่านจะทำให้เดินทางสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้น
・ในเมืองเกียวโตสามารถนั่งรถบัสไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจเจอรถติด และบริเวณรอบวัดคิโยมิสุมีพื้นที่เดินเล่นกว้าง อาจพิจารณาตัดสถานที่ท่องเที่ยว 1-2 แห่งตามความต้องการและสภาพร่างกาย
・ร้านอาหารใกล้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมักเต็มในช่วงเวลาอาหาร แนะนำให้จองล่วงหน้าหรือปรับโปรแกรมเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน
นอกเหนือจากรถไฟและรถบัสทั่วไป รถไฟท่องเที่ยวที่เริ่มได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นวิธีท่องเที่ยวที่น่าลอง รถไฟท่องเที่ยว "Blue Symphony" ของคินเท็ตสึ มีตู้โดยสารสไตล์วินเทจหรูหรา พาคุณเดินทางสู่ภูเขาโยชิโนะอย่างสบาย ทำให้การเดินทางในทริปกลายเป็นความเพลิดเพลินอีกแบบหนึ่ง
ภูมิภาคคันไซพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกระดับด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ อาหารการกิน และระบบขนส่งที่สะดวกสบาย ทำให้การท่องเที่ยวคันไซเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยื่อนญี่ปุ่น

