จังหวัดเฮียวโกะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากแนะนำให้คุณต้องไปเยือนในภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นอย่างปราสาทฮิเมจิ คฤหาสน์ชาวต่างชาติคิตาโนะในโกเบ ภูเขาร็อกโกะ และป่าสองมิติที่เป็นจุดเช็กอินของแฟนอนิเมะแล้ว อาหารท้องถิ่นอย่างเนื้อโกเบและอากาชิยากิก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน บทความนี้ได้รวบรวมวิธีการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ และอาหารที่ต้องลิ้มลอง สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเฮียวโกะไว้ให้แล้ว มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
แนะนำจังหวัดเฮียวโกะเบื้องต้น：มารู้จักข้อมูลสุดพิเศษก่อนออกเดินทางกัน
จังหวัดเฮียวโกะ ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่น มีอาณาเขตติดกับจังหวัดโอซาก้า จังหวัดเกียวโต จังหวัดโอคายาม่า และจังหวัดทตโตริ ทางเหนือติดกับทะเลญี่ปุ่น ทางใต้ติดกับทะเลเซโตะอุจิ มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบายและเชื่อมต่อหลายทิศทาง เมืองโกเบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัด ได้เปิดท่าเรือโกเบตั้งแต่ปี 1868 ทำหน้าที่เป็นประตูสู่โลกภายนอกของญี่ปุ่น นำเข้าวัฒนธรรมตะวันตกยอดนิยมในสมัยนั้น เช่น ภาพยนตร์และกอล์ฟ จึงมีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก นอกจากนี้ ปราสาทฮิเมจิ ยังเป็นมรดกโลก มีบ่อน้ำพุร้อนอายุพันปีอย่าง ออนเซ็นคิโนซากิ และ ออนเซ็นอาริมะ รวมถึง เกาะอะวาจิ สถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่กล่าวมาล้วนเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนเมื่อมาเที่ยวจังหวัดเฮียวโกะ ต่อไปนี้เราจะแนะนำวิธีการเดินทางจากเมืองสำคัญๆ ทั่วญี่ปุ่น มายังจังหวัดเฮียวโกะ กัน
| จากโอซาก้า | 【เครื่องบิน】สนามบินนานาชาติคันไซ → (รถไฟนันไค ประมาณ 45 นาที) → สถานีนันไกนัมบะ → (เปลี่ยนไปใช้รถไฟฮันชิน ที่ สถานีโอซาก้านัมบะ ประมาณ 50 นาที) → สถานีซันโนมิยะ |
|---|---|
| จากโอคายาม่า | 【เครื่องบิน】สนามบินโอคายาม่า → (รถบัสลิมูซีนสนามบิน ประมาณ 30 นาที) → สถานี JR โอคายาม่า → (รถไฟชินคันเซ็น SAKURA หรือ NOZOMI ประมาณ 35 นาที) → สถานีชินโกเบ → (รถไฟสายนิชิคามิ-ยามาเตะ ประมาณ 2 นาที) → สถานีซันโนมิยะ |
15 สถานที่ห้ามพลาดในจังหวัดเฮียวโกะ
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
ปราสาทฮิเมจิ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิเมจิ สร้างขึ้นในปี 1609 เป็นปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี ในปี 1993 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และกลายเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่น กำแพงสีขาวสะอาดตาดูคล้ายนกกระสาขาวกำลังกางปีก จึงได้รับฉายาว่า ปราสาทนกกระสาขาว หอคอยหลักมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยโครงสร้าง 1 ชั้นใต้ดินและ 6 ชั้นเหนือพื้นดิน นอกจากภายนอกที่ขาวสะอาดและหลังคาที่ออกแบบอย่างประณีตแล้ว การยืนบนหอคอยหลักเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองฮิเมจิก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์หากมาเยือนที่นี่ แนะนำให้มาในช่วงฤดูซากุระ เมื่อกำแพงสีขาวและดอกซากุระสีชมพูอ่อนสะท้อนซึ่งกันและกัน เป็นความสวยงามราวกับภาพวาด และทัศนียภาพของปราสาทฮิเมจิในยามค่ำคืนก็มีเสน่ห์อีกแบบไม่แพ้กัน
ภาพจาก 姫路城
ภาพจาก 姫路城
Himeji Castle (姫路城)
・ที่ตั้ง：68 Honmachi, Himeji, Hyogo
・เวลาทำการ：09:00-17:00 น.
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน | นักเรียนมัธยมปลาย-ประถม 300 เยน
・การเดินทาง：นั่งรถบัสจินกิจากประตูเหนือของสถานีฮิเมจิไปลงที่ป้าย Otemon-mae เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที / หรือเดินจากสถานี JR Himeji หรือสถานี Sanyo Himeji ประมาณ 20 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
สวนโคโคะเอ็ง (Koko-en Garden)
สวนโคโคะเอ็ง ตั้งอยู่ติดกับคูเมืองทางทิศตะวันตกของปราสาทฮิเมจิ เปิดให้บริการเมื่อปี 1992 ประกอบด้วยสวนญี่ปุ่น 9 แห่งที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน มีพื้นที่รวมประมาณ 3.5 เฮกตาร์ เหมาะสำหรับการเดินเล่น และสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่น สวนโคโคะเอ็งเป็นสวนแบบเดินชม ที่มีปราสาทฮิเมจิเป็นฉากหลัง ประกอบกับการจัดภูมิทัศน์ด้วยสระน้ำ ทำให้มีเสน่ห์แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล นอกจากนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังเรื่อง ซามูไรพเนจร ทำให้มีแฟนภาพยนตร์จำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมชม
ภาพจาก 好古園
ภาพจาก 好古園
Koko-en Garden (好古園)
・ที่ตั้ง：68 Honmachi, Himeji, Hyogo
・เวลาทำการ：09:00-17:00 น.
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 310 เยน | นักเรียนมัธยมและประถม 150 เยน
・การเดินทาง：นั่งรถบัสจินกิจากประตูเหนือของสถานีฮิเมจิไปลงที่ป้าย Otemon-mae เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที / หรือเดินจากสถานี JR Himeji หรือสถานี Sanyo Himeji ประมาณ 20 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
พิพิธภัณฑ์ท่าเรือโกเบ (Kobe Port Museum)
พิพิธภัณฑ์ท่าเรือโกเบ เป็นอาคารวัฒนธรรมรวมที่ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ศูนย์อาหาร และหอคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิก การออกแบบภายนอกสื่อถึงพื้นดินที่ถูกกัดเซาะโดยหยดน้ำ เส้นโค้งคลื่นที่นุ่มนวลสื่อความหมายถึงท่าเรือโกเบ แค่มาชมตัวอาคารก็คุ้มค่าแล้ว ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์คือศูนย์อาหาร TOOTH MART FOOD HALL & NIGHTFES ซึ่งเป็นศูนย์อาหารแห่งแรกของญี่ปุ่นที่คุณสามารถชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่บนเพดานได้ สามารถเพลิดเพลินกับวิวสวยของท่าเรือโกเบพร้อมทั้งลิ้มรสเนื้อวัวโกเบ สาเก และเบียร์คราฟท์ท้องถิ่น ส่วนชั้น 2 ถึง 4 คือ AQUARIUM × ART átoa พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและองค์ประกอบของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ให้คุณได้สัมผัสโลกใต้น้ำลึกลับในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ภาพจาก 神戸ポートミュージアム
ภาพจาก アトア
AQUARIUM x ART atoa (アトア)
・ที่ตั้ง：7-2 Shinko-cho , Chuo-ku , Kobe , Hyogo
・เวลาทำการ：10:00-19:00 น.
・ค่าเข้าชม：นักเรียนมัธยมขึ้นไป 2,600 เยน | นักเรียนประถม 1,500 เยน | เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 500 เยน | เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีเข้าฟรี (※ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในวันพิเศษ โปรดตรวจสอบราคาบัตรอีกครั้ง)
・การเดินทาง：นั่งรถบัสสาย Shinki จากป้าย Sannomiya Station ลงที่ป้าย Shinko-cho
・เว็บไซต์ทางการ
ย่านคิตาโนะ อิจินคัง (Kitano Ijinkan)
ภาพจาก 神戶北野異人館街
อิจินคัง คือบ้านเรือนที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในช่วงปลายสมัยเอโดะจนถึงยุคเมจิ หลังจากละครชุดทางโทรทัศน์ของ NHK เรื่อง คาเซมิโดริคัง ออกอากาศในปี 1977 ย่านคิตาโนะ อิจินคัง ในเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโกะ ที่ปรากฏในละคร ก็ได้รับความนิยมและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และต่อมายังได้รับเลือกให้เป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารประเพณีสำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดใน คิตาโนะ อิจินคัง คือ คาเซมิโดริคัง (บ้านไก่สลักทิศทางลม) ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1910 จุดเด่นที่สุดคือมีรูปไก่เหล็กตั้งอยู่บนหลังคา ซึ่งจริงๆ แล้วคือเครื่องบอกทิศทางลมรูปไก่ ตัวอาคารเองยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอาคารอิจินคังอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โมเอะกิคัง (บ้านสีเหลืองอมเขียว) และอุโรโกะโนะอิเอะ (บ้านเกล็ด) ใครที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมและการถ่ายภาพไม่ควรพลาดเลย
Kitano Ijinkan (神戸北野異人館街)
・เว็บไซต์ทางการ
อาณาจักรสัตว์โกเบ (Kobe Animal Kingdom)
ภาพจาก 神戸どうぶつ王國
อาณาจักรสัตว์โกเบ ตั้งอยู่บนเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นในเขตชูโอของเมืองโกเบ ที่นี่ไม่เพียงแค่ได้ชมดอกไม้หลากสีสัน นกนานาชนิด แต่ยังได้สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์น่ารักๆ อีกด้วย ที่นี่มี คาปิบาร่า สัตว์แห่งการบำบัดจิตใจ รวมถึงกิจกรรมให้อาหารสัตว์น่ารักขนฟูอย่างเรดแพนด้า และยังสามารถชมการแสดงของนกฮูกและเหยี่ยวอีกมากมาย ไม่ว่าจะมากับคู่เดทหรือครอบครัว อาณาจักรสัตว์โกเบ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกคน
Kobe Animal Kingdom (神戸どうぶつ王國)
・ที่ตั้ง：7-1-9 Minatojima-minamimachi , Chuo-ku , Kobe , Hyogo
・เวลาทำการ：10:00-17:00 น. (หยุดทุกวันพฤหัสบดี)
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ (มัธยมขึ้นไป) 2,200 เยน | เด็กประถม 1,200 เยน | เด็ก 4-5 ขวบ 500 เยน | ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 1,600 เยน
・การเดินทาง：จากสถานี JR Sannomiya เปลี่ยนเป็นรถไฟ Port Liner (ไปทางสนามบิน) ลงที่สถานี Keisan Kagaku Center
・เว็บไซต์ทางการ
สวนสมุนไพรนุโนบิกิโกเบ (Nunobiki Herb Garden)
สวนสมุนไพรนุโนบิกิโกเบ มีสวนดอกไม้ 12 ธีมที่แตกต่างกัน ประกอบด้วยดอกไม้และสมุนไพรประมาณ 200 ชนิด รวมกว่า 75,000 ต้น นับเป็นสวนสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ดอกไม้และสมุนไพรจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะไปเยือนเมื่อไหร่ คุณก็จะได้ชื่นชมพืชพรรณเฉพาะของฤดูกาลนั้นๆ สัมผัสความงามทั้งด้วยตาและกลิ่นหอม แนะนำให้แวะชมพิพิธภัณฑ์กลิ่นหอม เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหย และลองผ่อนคลายกับ การแช่เท้าสมุนไพร พร้อมชมวิวสวยงามของเมืองโกเบ ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้นตำรับเป็นของฝากด้วยนะ
ภาพจาก 神戸布引ハーブ園
ภาพจาก 神戸布引ハーブ園
Nunobiki Herb Garden (神戸布引ハーブ園)
・ที่ตั้ง：1-4-3 Kitanocho , Chuo-ku , Kobe , Hyogo
・เวลาทำการ：ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง (วันธรรมดา) และฤดูหนาว 10:00-17:00 น. | ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง (วันหยุด) และฤดูร้อน 10:00-20:30 น.
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ 2,000 เยน | นักเรียนประถมและมัธยม 1,000 เยน
・การเดินทาง：จากสถานี JR Shin Kobe เดินประมาณ 5 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
ภูเขาร็อกโกะ (Rokko Mountain)
ภูเขาร็อกโกะ ตั้งอยู่ชานเมืองโกเบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปี่ยมเสน่ห์ตลอดทั้งสี่ฤดู การเดินทางขึ้นภูเขาทำได้อย่างสะดวกสบายด้วยกระเช้าลอยฟ้าหรือรถบัส สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดคือทิวทัศน์อันงดงามยามพลบค่ำ ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามวิวกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมี พิพิธภัณฑ์เสียงแห่งป่าร็อกโกะ ที่ให้คุณสัมผัสความเปลี่ยนแปลงของทั้งสี่ฤดู และงานศิลปะการติดตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ หอชมวิวสัมผัสธรรมชาติ Rokko Shidare ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ในฤดูหนาวยังสามารถเล่นสกีได้ด้วย มีกิจกรรมให้เพลิดเพลินอย่างหลากหลาย
ภาพจาก photoAC
ภาพจาก photoAC
Rokko Mountain (六甲山)
・เว็บไซต์ทางการ
ทาวาจิยูเมะบุไต (Awaji Yumebutai)
ทาวาจิยูเมะบุไต เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะอาวาจิ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ทาดาโอะ อันโด ประกอบด้วยหลายอาคาร ทั้งหอประชุมนานาชาติ โรงแรมสำหรับพักผ่อน เรือนกระจก และเวทีกลางแจ้ง เมื่อเดินเล่นในบริเวณนี้ คุณจะได้สัมผัสถึงความงามของเส้นสายสไตล์อันโด เส้นเรขาคณิตเรียบง่ายที่สร้างพื้นที่อันหลากหลาย ทุกจุดมอบมุมมองที่แตกต่างกันไป อาคารต่างๆ ยังผสานความงามของธรรมชาติไว้ด้วย รวมถึง สวนขั้นบันได โบสถ์แห่งทะเล ลานวงกลม และ ลานรูปไข่ ล้วนน่าค้นหาและแวะมาเยี่ยมชม
ภาพถ่ายโดย issue
ภาพถ่ายโดย issue
☞ บทความที่เกี่ยวข้อง
・【อัปเดต 2024】 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำบนเกาะอาวาจิ จังหวัดเฮียวโกะ
อาวิจิ ยูเมะบุไต Awaji Yumebutai (淡路夢舞台)
・ที่ตั้ง：2 Yumebutai, Awaji , Hyogo
・เวลาทำการ：แตกต่างกันไปในแต่ละส่วน โปรดดูรายละเอียดจากเว็บไซต์ทางการ
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ 2,000 เยน | นักเรียนประถมและมัธยม 1,000 เยน
・การเดินทาง：นั่งรถบัสด่วนจากสถานี JR Sannomiya ประมาณ 50 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
ป่าอนิเมะสองมิติ (Nijigen no Mori)
ป่าอนิเมะสองมิติ ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเกาะอาวาจิ เฮียวโกะ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งใหม่สำหรับสาวกอนิเมะ นับตั้งแต่เปิดให้บริการ สถานที่แห่งนี้ได้ดึงดูดผู้ชื่นชอบอนิเมะและเกมมากมาย ให้มาสัมผัสประสบการณ์ ภายในสวนมีโซนธีมถาวร และสิ่งอำนวยความสะดวกบันเทิงจากผลงานอนิเมะชื่อดัง เช่น ชินจัง จอมแก่น , นารุโตะ , ดราก้อนเควสท์ และ ก็อดซิลล่า เป็นต้น และยังมีกิจกรรมพิเศษจำกัดเวลาอยู่เสมอ เช่น ในปี 2022 ได้มีการร่วมมือกับ ดาบพิฆาตอสูร แต่ละโซนธีมมีกิจกรรมบันเทิงที่แตกต่างกัน ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับฉากในอนิเมะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กก็สนุกได้อย่างเต็มที่
©岸本斉史 スコット／集英社・テレビ東京・ぴえろ
© 2021 ARMOR PROJECT/BIRD STUDIO/SQUARE ENIX All Rights Reserved.
☞ บทความที่เกี่ยวข้อง
・บุกโลกอนิเมะและวิดีโอเกมไปใน "Nijigen no Mori" ในจังหวัดเฮียวโกะ : สัมผัสก็อดซิลล่าขนาดเท่าตัวจริง, และแวะทักทายชินจังและนารูโตะ
Nijigen no Mori (ニジゲンノモリ)
・ที่ตั้ง：2425-2 Kusumoto, Awaji, Hyogo
・เวลาทำการ：แตกต่างกันตามแต่ละสิ่งอำนวยความสะดวก โปรดดูเว็บไซต์ทางการ
・เว็บไซต์ทางการ
เมืองอาโกชิ (Ako City)
เมืองอาโกชิ เป็นเมืองชายทะเลเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเฮียวโกะ ที่นี่คือสถานที่ที่เกิด เหตุการณ์อาโกชิ อันโด่งดัง ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นละครคาบุกิและทีวีซีรีส์ จูชินกุระ จนเป็นที่รู้จัก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่สนใจประวัติศาสตร์ เมืองนี้ตั้งอยู่ติดกับทะเลเซโตะ มีสภาพอากาศอบอุ่นน่าอยู่ ถนนชินเซโกซากะ เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟวิวทะเลมากมาย ศาลเจ้าโบราณ อิวาสึฮิเมะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องเครื่องรางแห่งความรัก ฮิเมะมาโมริ ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงหลังมานี้กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตแห่งใหม่ มาที่นี่แล้วจะได้ชมวิวทะเล แช่ออนเซ็นธรรมชาติ และเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่ ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
พระอาทิตย์ตกที่มิซากิ เมืองอาโกะ ได้รับการจัดอันดับให้เป็น "100 จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น"
ชื่นชมความงามของถนนชินเซโกซากะและวิวทะเลได้อย่างเต็มตา (ภาพถ่ายโดย: Angie)
☞ บทความที่เกี่ยวข้อง
・แนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอาโกะ จังหวัดเฮียวโกะ จุดถ่ายรูปสุดฮิต บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งวิวทะเลผ่อนคลายสุดๆ
สมาคมการท่องเที่ยวอาโกะ (赤穂観光協会)
・เว็บไซต์ทางการ
คิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
คิโนซากิออนเซ็น ได้รับการยกย่องว่าเป็น แหล่งออนเซ็นที่สวยที่สุดในคันไซ มีตำนานเล่าขานมากว่า 1,300 ปีว่า นกกระสาขาวที่บาดเจ็บตัวหนึ่งได้แช่น้ำที่ โคโนะยุ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดออนเซ็นสาธารณะของที่นี่ และบาดแผลก็หายสนิท ทำให้ออนเซ็นคินอิซากิมีชื่อเสียงในฐานะ ออนเซ็นเพื่อการบำบัด และถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เพียงแค่เข้าพักที่เรียวกังในท้องถิ่น สามารถซื้อตั๋วอาบน้ำสำหรับออนเซ็นสาธารณะทั้งเจ็ดแห่งและเพลิดเพลินกับประสบการณ์การท่องเที่ยวออนเซ็นที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ นอกจากจะได้สัมผัสออนเซ็นทั้งเจ็ดแห่ง เช่น มันดาระยุ และ ซาโตโนะยุ แล้ว ยังสามารถเดินเล่นไปตามถนนเก่าแก่ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศบ้านโบราณญี่ปุ่น ชมโรงอาบน้ำที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าพลาดชิมอาหารเลิศรสของจังหวัดเฮียวโกะด้วย โดยเฉพาะเนื้อวัวทาจิมะและปูมัตสึบะ
ริมฝั่งแม่น้ำมีเรียวกังชื่อดังมากมาย ภาพถ่ายโดย issue
มันดาระยุ หนึ่งในออนเซ็นสาธารณะทั้งเจ็ดแห่ง ภาพถ่ายโดย issue
☞ บทความที่เกี่ยวข้อง
・คิโนซากิออนเซ็น: เที่ยว 7 บ่อน้ำพุร้อน พร้อมชิมเนื้อทาจิมะและปูมัตสึบะ
สมาคมการท่องเที่ยวคิโนซากิออนเซ็น
・เว็บไซต์ทางการ
อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen)
อาริมะออนเซ็น เป็นหนึ่งในสามออนเซ็นโบราณชื่อดังของญี่ปุ่น น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินลึก 60 กิโลเมตรมีแร่ธาตุหลากหลายชนิด ประกอบด้วยน้ำแร่คาร์บอเนตเย็นและน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 98 องศา ซึ่งหาได้ยากมากในโลก ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ คินโนะยุ (น้ำแร่ทองคำ) ที่มีสีน้ำตาลแดงอุดมไปด้วยเหล็กและเกลือแร่ และ กินโนะยุ (น้ำแร่เงิน) ที่ใสไร้สี ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น เป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงมาก นอกจากบ่อน้ำร้อนสาธารณะสองแห่งนี้แล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสุขส่วนตัวในออนเซ็นของเรียวกัง สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ แนะนำให้ใช้แผนที่ของออนเซ็นอาริมะเพื่อค้นหาบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงทั้ง 7 แห่ง รวมถึงบ่อคาร์บอเนตและไทโคกุด้วยนะ
คินโนะยุ (น้ำแร่ทองคำ) ภาพจาก Wikipedia
กินโนะยุ (น้ำแร่เงิน) ภาพจาก Wikipedia
สมาคมการท่องเที่ยวอาริมะออนเซ็น
・เว็บไซต์ทางการ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โคชิเอ็ง (The Museum of Hanshin Koshien Stadium)
ภาพจาก Wikipedia
หากคุณเป็นแฟนเบสบอล ห้ามพลาด พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โคชิเอ็ง ! โคชิเอ็งถือเป็นสนามศักดิ์สิทธิ์ของวงการเบสบอลญี่ปุ่น และยังเป็นสนามเหย้าของทีมฮันชินไทเกอร์ส ที่นี่จะได้ชมข้อมูลประวัติศาสตร์ของเบสบอลระดับมัธยมปลาย ทีมเบสบอลอาชีพฮันชินไทเกอร์ส และสนามฮันชินโคชิเอ็ง นอกจากนี้ยังได้สัมผัสอุปกรณ์เบสบอลที่เคยใช้โดยทีมฮันชินไทเกอร์ส ซึ่งหาชมได้ยากมาก พิเศษสุดกับประสบการณ์ VR แบบ 360 องศาสุดฮิต ที่จะพาดื่มด่ำกับความเร้าใจและความยิ่งใหญ่ของเบสบอลญี่ปุ่น
The Museum of Hanshin Koshien Stadium (甲子園歴史館)
・ที่ตั้ง：8-15 Koshienjo , Nishinomiya , Hyogo
・เวลาทำการ：10:00-18:00 น. (เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เปิด 10:00-17:00 น.)
・วันหยุด：ทุกวันจันทร์และช่วงวันหยุดปีใหม่ญี่ปุ่น (ยกเว้นวันที่มีการแข่งขัน โปรดตรวจสอบเว็บไซต์ทางการ)
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ 900 เยน | นักเรียนมัธยมปลาย 700 เยน | เด็ก (4 ขวบ-มัธยมต้น) 500 เยน
・การเดินทาง：ลงที่สถานี Koshien ของรถไฟฮันชิน เดินประมาณ 7 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
สวนไมโกะ (Maiko Park)
ภาพจาก photoAC
สวนไมโกะ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1900 เป็นสวนสาธารณะเมืองแห่งแรกของจังหวัดเฮียวโกะ จากชายหาดไมโกะ สามารถชมสะพานแขวนที่มีความยาวช่วงเดียวเป็นอันดับสองของโลกอย่าง สะพานอะคาชิไคเคียว ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังสามารถเดินบน ทางเดินเหนือทะเลไมโกะ ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 47 เมตร เพื่อชมโครงสร้างภายในของสะพานอะคาชิไคเคียวและสัมผัสประสบการณ์การเดินบนที่สูงเหนือทะเล พร้อมชมวิวอันงดงามของทะเลเซโตะและอ่าวโอซาก้าไปพร้อมกัน หากมีเวลาเพียงพอ แนะนำให้แวะชมสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์อันโดดเด่น เช่น บ้านเก่าตระกูลคิโนชิตะ บ้านพักเก่าของยามะจิ มุโตะ และพิพิธภัณฑ์อิเซโจไค
Maiko Park (舞子公園)
・ที่ตั้ง：2051 Higashi Maiko jo , Tarumi , Kobe
・ค่าเข้าชม：แต่ละสิ่งอำนวยความสะดวกมีค่าบริการต่างกัน โปรดดูรายละเอียดบนเว็บไซต์ทางการ
・การเดินทาง：ลงที่สถานี Maiko ของรถไฟ JR สายซันโย หรือสถานี Maiko Park ของรถไฟซันโย เดินประมาณ 5 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
ซากปราสาทเมืองทาเคดะ (Takeda Castle Ruins)
ภาพจาก 竹田城跡公式ホームページ
ซากปราสาทเมืองทาเคดะ หนึ่งในร้อยปราสาทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ได้รับการขนานนามว่าเป็น มาชูปิคชูแห่งญี่ปุ่น ในยามเช้าที่มีหมอกลอยล่องห้อมล้อม ปราสาทเมืองทาเคดะดูราวกับลอยอยู่เหนือเมฆ ทะเลเมฆมักเกิดในช่วงที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิกลางวันและกลางคืนสูง โดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่ระหว่าง 7-8 นาฬิกา ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนธันวาคม แม้ไม่ใช่ช่วงที่มีทะเลเมฆ การเยี่ยมชมซากปราสาทเมืองทาเคดะก็ยังคุ้มค่า ด้วยความยิ่งใหญ่และงดงามของสถานที่ การได้ขึ้นไปยืนบนปราสาททาเคดะ ให้ความรู้สึกเหมือน ยืนอยู่บนฟ้า ชมวิวได้อย่างมีเสน่ห์แตกต่างไปอีกแบบ
Takeda Castle Ruins (竹田城跡)
・ที่ตั้ง：213-1 Higashitani, Wadayama-cho, Asago City, Hyogo
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) 500 เยน | เด็ก (มัธยมต้นลงมา) ฟรี
・เว็บไซต์ทางการ
5 อาหารเลิศรสห้ามพลาดของจังหวัดเฮียวโกะ"
เนื้อโกเบ
ภาพจาก Wikipedia
เนื้อโกเบ หนึ่งในสามวากิวชั้นเลิศของญี่ปุ่น คู่กับเนื้อมัตสึซากะและเนื้อโอมิ เป็นที่รู้จักในต่างประเทศหลังการเปิดท่าเรือโกเบในสมัยเมจิ ด้วยรสชาติอันนุ่มฉ่ำ ละลายในปาก จึงได้รับความสนใจจากชนชั้นสูงในยุคนั้น กลายเป็นสัญลักษณ์ของเนื้อระดับพรีเมียมของโลก เนื้อโกเบนอกจากต้องเลี้ยงโดยฟาร์มที่ได้รับการรับรองในจังหวัดเฮียวโกะแล้ว ยังต้องมีสายเลือดวัวทาจิมะด้วย จึงจะได้รับการรับรองว่าเป็นเนื้อโกเบแท้ นอกจากทำเป็นสเต๊กแล้ว ยังนำไปทำสุกี้ยากี้ ชาบู เทปันยากิ หรือแม้แต่ซาชิมิ เมื่อมาเที่ยวเฮียวโกะ ไม่ควรพลาดโอกาสลิ้มลองเนื้อโกเบเด็ดขาด
อากาชิยากิ
ภาพจาก 明石観光協会
อากาชิยากิ ไม่เพียงเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองอากาชิเท่านั้น แต่เชื่อกันว่าทาโกะยากิ ก็พัฒนามาจากอากาชิยากิด้วย ชาวท้องถิ่นเรียกอาหารนี้ว่า ทามาโกะยากิ ต่างจากทาโกะยากิที่มีเปลือกนอกกรอบ อากาชิยากิใส่ไข่มากกว่า ทำให้มีสีเหลืองและส่งกลิ่นหอมของไข่ แทนที่จะเติมมายองเนสและซอสแบบทาโกะยากิ อากาชิยากิมักรับประทานคู่กับน้ำซุปสดใหม่ ให้รสชาติที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
โกเบยากิเมชิ
ภาพจาก Photo AC
เมืองโกเบที่มีภาพลักษณ์หรูหราทันสมัย นอกจากมีอาหารและขนมหวานหลากหลายแล้ว ยังเป็นแหล่งกำเนิดของอาหารพื้นบ้านยอดนิยมอย่าง ข้าวผัดผสมบะหมี่ผัดโกเบ หรือ โกเบยากิเมชิ อาหารจานนี้มีต้นกำเนิดจากร้านโอซาก้ายากิในเขตนางาตะของโกเบ เล่ากันว่าเริ่มต้นจากการทำตามคำขอของลูกค้า โดยนำข้าวเย็นๆ มาผัดรวมกับยากิโซบะบนกระทะเหล็ก เป็นอาหารง่ายๆ แต่ให้ปริมาณอิ่มอร่อย ไม่คิดว่าจะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนกลายเป็นอาหารประจำวันของชาวโกเบ เมื่อมาเที่ยวที่นี่อย่าลืมลิ้มลองวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นแท้ๆ นี้ด้วยนะ
หัวหอมเกาะอาวาจิ
ภาพจาก うづ志ほ名産店
ของฝากที่แนะนำจากเกาะอาวาจิต้องยกให้ หัวหอมเกาะอาวาจิ ปลูกในฤดูใบไม้ร่วงและเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ หัวหอมนี้เติบโตอย่างช้าๆ ในสภาพอากาศที่เย็นแต่ไม่หนาวจัดของฤดูหนาว ทำให้มีน้ำเยอะ รสหวาน เนื้อนุ่ม และกลิ่นฉุนน้อยกว่าหัวหอมทั่วไป จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ที่นี่ยังมีอาหารพิเศษจากหัวหอมหลากหลายเมนู เช่น ซุปหัวหอม อาวาจิเบอร์เกอร์ แม้แต่คนที่ไม่ชอบกินหัวหอมก็สามารถลิ้มลองได้อย่างง่ายดาย ให้ได้สัมผัสรสชาติพิเศษที่แตกต่างจากความคาดหมาย
ขนมปัง
ภาพจาก photoAC
ท่าเรือโกเบเป็นท่าเรือนานาชาติที่ได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากวัฒนธรรมต่างประเทศ ทำให้วัฒนธรรมการกินแบบตะวันตกเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของชาวโกเบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ขนมปัง ที่ชาวโกเบชื่นชอบเป็นพิเศษ จะพบร้านขนมปังแทบทุกย่างก้าว ในตัวเมืองโกเบเพียงแห่งเดียวมีร้านขนมปังมากกว่า 100 ร้าน หากมาเที่ยวโกเบ แนะนำให้แวะไปที่ร้านดังอย่าง Ca marche (サ．マーシュ) และ boulangerie recolte (ブーランジェリー レコルト) หรือลองเดินเข้าร้านขนมปังที่พบตามท้องถนนเพื่อค้นหาสมบัติล้ำค่า แล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศยามบ่ายที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นขนมปัง
จังหวัดเฮียวโกะมีทั้งปราสาทฮิเมจิมรดกโลก เมืองท่าโกเบ นิจิเก็นโนะโมริ และอาหารขึ้นชื่ออย่างเนื้อโกเบ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิม ความทันสมัย และความอร่อยในทริปเดียว เที่ยวเฮียวโกะครั้งเดียวอาจไม่พอ เพราะมีสถานที่น่าสนใจให้ค้นหาตลอดทั้งปี
☞ บทความเพิ่มเติม
・12 ของฝากฮิตเมืองเฮียวโกะ ญี่ปุ่น 2025 - ขนมเซมเบ้ Kobe Fugetsudo ซุปหัวหอมอาวาจิ กาแฟคิโนซากิ และอื่นๆ
・แพลนเที่ยวเกียวโต 2025 ฉบับสมบูรณ์ รวมที่เที่ยวห้ามพลาด วางแผนง่ายใน 3 นาที
・แผนเที่ยวโอซาก้า 2025 อัพเดทล่าสุด! แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด พร้อมวิธีเดินทาง
・[เที่ยวนารา2025] แนะนำแผนเที่ยวสุดคลาสสิกทั้ง 5 วัน , 3 วันและ 1 วัน ! ศาลเจ้าคะสุงะไทฉะ ซากพระราชวังเฮย์โจ และภูเขาวาคะคุซายามะ
・ครบทุกซอกทุกมุมแห่งคันไซ 2024: คู่มือเที่ยวแบบจัดเต็ม ทั้งเกียวโต โอซาก้า นารา และโกเบ!