รถไฟนั้นเรียกได้ว่าอยู่ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นก็มักใช้ตั๋วท่องเที่ยวหรือตั๋วรถไฟจากบริษัทรถไฟต่างๆ รถไฟญี่ปุ่นจึงเป็นพาหนะที่ผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันและการเดินทางอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การนั่งรถไฟในญี่ปุ่นมีมารยาทหลายอย่างที่ต้องระวัง ต่อไปนี้เราจะมารวบรวม 10 พฤติกรรมต้องห้ามเมื่อนั่งรถไฟหรือใช้บริการที่สถานีรถไฟ เพื่อที่ครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะสร้างความรำคาญให้ผู้อื่นหากมาเที่ยวญี่ปุ่น
พฤติกรรมต้องห้าม ①:ยืนขวางทางหน้าเครื่องจำหน่ายตั๋ว
นักท่องเที่ยวที่ไม่มีบัตร IC อย่าง Suica หรือ PASMO ส่วนใหญ่จำเป็นต้องซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วก่อนขึ้นรถ บางประเภทของตั๋วท่องเที่ยวหรือตั๋ววันเดียวก็ต้องซื้อที่เครื่องจำหน่ายตั๋วเช่นกัน ทำให้การมาญี่ปุ่นต้องใช้เครื่องจำหน่ายตั๋วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่คนมักไม่สังเกตคือตอนที่ไปซื้อตั๋ว หลายคนจะยืนดูแผนที่เส้นทางหรือหยิบเงินอยู่หน้าเครื่อง โดยไม่ทันสังเกตว่าไปขวางเครื่องข้างๆ ทำให้ผู้โดยสารคนอื่นไม่สามารถใช้งานได้ ส่งผลกระทบต่อการเดินของผู้คน แนะนำให้ศึกษาค่าโดยสารไปยังจุดหมายไว้ล่วงหน้า หรือตรวจสอบตารางราคาก่อนเข้าคิว และให้ตัวแทนหนึ่งคนเป็นคนซื้อตั๋วก็พอ
พฤติกรรมต้องห้าม ②:กีดขวางทางเข้าออกเพื่อหาตั๋ว
เมื่อเข้าหรือออกจากสถานี นักท่องเที่ยวควรเตรียมตั๋วหรือบัตร IC ไว้ล่วงหน้า อย่ารอจนถึงจุดตรวจตั๋วแล้วค่อยเริ่มค้นหา พฤติกรรมแบบนี้ไม่เพียงส่งผลต่อความคล่องตัวของการสัญจร แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นได้ นอกจากการเตรียมตั๋วไว้ล่วงหน้าแล้ว ยังควรตรวจสอบวิธีใช้ตั๋วแต่ละประเภท (แบบแตะหรือแบบเสียบ ผ่านเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติหรือต้องผ่านทางเจ้าหน้าที่) มิเช่นนั้น แม้จะหยิบตั๋วออกมาล่วงหน้าแล้ว แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็จะทำให้เกิดติดขัดสำหรับคนที่อยู่ด้านหลัง
พฤติกรรมต้องห้าม ③:หยุดเดินกะทันหัน

ภาพจาก photo AC
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานีหรือบนชานชาลา นักท่องเที่ยวต้องจำไว้ว่าอย่าหยุดเดินกะทันหัน ชาวโตเกียวเดินเร็วกว่ากว่าคนทั่วไป ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วนยิ่งไม่ต้องพูดถึง หากเดินไปแล้วหยุดกะทันหัน มีโอกาสสูงที่คนข้างหลังจะ ชนคุณ! จำไว้ว่า หากต้องการหยุดเพื่อทำอย่างอื่น ควรหันไปมองข้างหลังก่อนว่ามีคนอื่นอยู่หรือไม่ และพยายามหลบเข้าข้างทางให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่น
พฤติกรรมต้องห้าม ④:วิ่งบนชานชาลาหรือบันได
เมื่อเกือบพลาดขบวนรถ ทุกคนมักจะวิ่งโดยอัตโนมัติ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ทำเช่นนี้บ่อย แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นตัวอย่างของพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง การวิ่งในสถานีไม่เพียงเสี่ยงต่อการชนกับผู้อื่น แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะพลาดก้าวและล้มขณะขึ้นลงบันไดหรือบันไดเลื่อน นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นยังมีสถานีจำนวนมากที่เป็นชานชาลาแบบเปิด ไม่มีประตูกั้นที่ขอบชานชาลา หากพลาดพลั้งตกลงไปบนรางจะเป็นอันตรายอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย แนะนำให้ทุกคนวางแผนล่วงหน้า และเริ่มเดินทางก่อนเวลา 10-15 นาที ค่อยๆ เดินด้วยความระมัดระวัง คือหลักการความปลอดภัยสูงสุดในการปกป้องตัวเองและผู้อื่น
พฤติกรรมต้องห้าม ⑤:กินอาหารมากเกินไปบนรถไฟ

ภาพจาก いらすとや
รถไฟญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้มีกฎห้ามการรับประทานอาหารอย่างชัดเจน ดังนั้นการทานขนมขบเคี้ยว ขนมปังเล็กๆ หรือดื่มน้ำและเครื่องดื่มต่างๆ บนรถไฟนั้นไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ขอให้นักท่องเที่ยวคำนึงถึงผู้โดยสารคนอื่น โดยหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีกลิ่นแรง (เช่น ข้าวกล่องร้อนๆ อาหารทอด กาแฟ) และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หากบนรถไฟมีผู้โดยสารแออัด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันความไม่สะดวกที่อาจเกิดกับผู้อื่น
พฤติกรรมต้องห้าม ⑥:การฝืนขึ้นรถขณะประตูกำลังปิด

ภาพจาก photo AC
เมื่อเห็นประตูรถไฟกำลังจะปิด หลายคนมักจะมีปฏิกิริยาแรกคือรีบวิ่งขึ้นรถ บางคนถึงขั้นใช้ร่ม ไม้เท้า หรือสิ่งของอื่นๆ กั้นประตูที่กำลังปิด ขอเตือนว่าพฤติกรรมเช่นนี้อันตรายมาก ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้รถไฟล่าช้าอย่างมาก จึงขอแนะนำว่าหากได้ยินเสียงเตือนการปิดประตูรถไฟแล้ว กรุณารอรถไฟขบวนถัดไป อย่าเสี่ยงอันตรายเพียงเพื่อจะประหยัดเวลาไม่กี่นาที นอกจากนี้ เมื่อประตูรถไฟปิดแล้ว จะไม่มีการเปิดใหม่หากไม่มีเหตุผลพิเศษ ดังนั้นแม้จะพลาดรถไฟด่วนพิเศษหรือรถไฟที่ต้องจ่ายค่าโดยสารพิเศษ ก็ไม่ควรเคาะประตูเพื่อขอให้เปิด นอกจากจะสร้างความรำคาญให้ผู้อื่นแล้ว ยังอาจต้องจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอีกด้วย
พฤติกรรมต้องห้าม ⑦:การนำรถเข็นเด็กเบียดบนรถไฟแออัด

ภาพจาก photo AC
การพาเด็กเล็กเที่ยวโดยใช้รถเข็นเด็กนั้นไม่มีอะไรผิด แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนที่คนไปทำงานและกลับบ้าน และที่สำคัญอย่างยิ่ง อย่าพยายามเบียดขึ้นรถเมื่อมีผู้โดยสารแออัด เมื่อใช้รถเข็นเด็ก ควรรอบริเวณประตูที่มีสัญลักษณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ (มักอยู่ทางหัวหรือท้ายตู้รถไฟ) และยึดหลักว่าถ้ามีคนมากเกินไปก็รอรถไฟขบวนถัดไป พยายามอย่าให้รถเข็นเด็กชนกับผู้โดยสารอื่น เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
พฤติกรรมต้องห้าม ⑧:สะพายกระเป๋าเป้ด้านหลังเมื่อมีคนเยอะบนรถไฟ

ภาพจาก いらすとや
หลายคนเมื่อเห็นรถไฟมาถึงก็รีบขึ้นรถด้วยความดีใจ โดยไม่ทันสังเกตว่ากระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังอาจกีดขวางทางเดินหรือชนคนอื่น ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะสะพายกระเป๋าเป้ไว้ด้านหน้าอกก่อนขึ้นรถ วิธีนี้จะไม่เกะกะผู้อื่นและยังช่วยลดพื้นที่ที่แต่ละคนครอบครองบนรถ ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น แนะนำให้นักท่องเที่ยวทำตามธรรมเนียมนี้เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น นอกจากนี้ ถ้ามีสัมภาระเยอะจริงๆ ก็สามารถใช้ชั้นวางของเหนือที่นั่งได้
พฤติกรรมต้องห้าม ⑨:นั่งแบบขาแยกหรือยื่นเท้าออกไปรบกวนผู้อื่น

ภาพจาก いらすとや
จากผลสำรวจความคิดเห็นของสมาคมรถไฟเอกชนญี่ปุ่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับ พฤติกรรมที่น่ารำคาญในสถานีและบนรถไฟ พบว่า พฤติกรรมเกี่ยวกับการนั่ง ได้รับตำแหน่งอันดับหนึ่งถึง 4 ปี ที่นั่งบนรถไฟญี่ปุ่นค่อนข้างแคบ เมื่อบวกกับการนั่งแบบแย่ๆของผู้โดยสารบางคน จึงส่งผลกระทบต่อคนอื่นได้ง่าย การนั่งถ่างขากว้างหรือไขว่ห้างอาจทำให้ชนคนข้างๆ สร้างความไม่พอใจ ส่วนการยื่นเท้าออกไปอาจทำให้ผู้โดยสารที่เดินผ่านสะดุดหรือบีบพื้นที่ยืนของคนอื่น นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังในครั้งต่อไปที่ใช้บริการ
พฤติกรรมต้องห้าม ⑩:พูดโทรศัพท์หรือส่งเสียงดังบนรถไฟ

ภาพจาก photo AC
จะทำอย่างไรหากมีโทรศัพท์เข้าขณะอยู่บนรถไฟ? บางคนอาจรับสายและคุยยาวเป็นชั่วโมง แต่นี่เป็นพฤติกรรมที่ชาวญี่ปุ่นรับไม่ได้เลย ชาวญี่ปุ่นรู้สึกรำคาญมากเมื่อมีคนส่งเสียงดังหรือสร้างเสียงรบกวนบนรถไฟ การพูดคุยเบาๆ กับเพื่อนร่วมทางไม่เป็นไร แต่เมื่อมีโทรศัพท์เข้า คนส่วนใหญ่จะเลือกไม่รับสาย หรือถ้ารับก็จะพูดสั้นๆ ว่า ตอนนี้อยู่บนรถไฟ จะโทรกลับทีหลัง หากจำเป็นต้องรับสาย แนะนำให้ย้ายไปที่ทางเชื่อมระหว่างตู้โดยสารก่อนคุย แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดคือรอลงที่สถานีถัดไปแล้วค่อยโทรกลับนั่นเอง
การเรียนรู้มารยาทการใช้รถไฟในญี่ปุ่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและได้รับการยอมรับจากคนท้องถิ่น วางแผนทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปให้สมบูรณ์แบบด้วยการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้รถไฟในญี่ปุ่นได้ที่ "JapaiJAPAN" เลย!
☞อ่านเพิ่มเติมv
・10 อันดับรถไฟสายที่ "แออัดที่สุด" ในโตเกียว! อันดับ 1 จะเป็นสายไหนกัน??
・เรื่องควรรู้! 5 พฤติกรรมไม่ควรทำเมื่อไป "ร้านยากินิกุ" ที่ประเทศญี่ปุ่น