เมื่อเดินทางด้วยตัวเองในญี่ปุ่น แน่นอนว่าบัตรจ่ายค่าโดยสารที่ใช้งานสะดวกที่สุดคือ「บัตรซุยกะ (Suica IC card )」แต่ว่าในตอนนี้บัตรซุยกะในรูปแบบบัตรมีจำหน่ายในเฉพาะในสถานที่ที่กำหนดเท่านั้น หากอยากได้วิธีที่สะดวกที่สุดล่ะก็ แนะนำให้ผูกบัตรเชื่อมกับ Apple Pay อีกทั้งยังมี Welcome Suica แอปพลิเคชั่นบนมือถือ สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในบทความนี้จะมาแนะนำบัตรซุยกะเวอร์ชั่นต่างๆ รวมไปถึงวิธีการซื้อ วิธีผูกบัตร และวิธีการเติมเงิน นักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อบัตรโดยสารของญี่ปุ่น ปักหมุดไว้ได้เลย！
．บัตรซุยกะ (Suica Card)คืออะไร？
．สอนเชื่อมบัตรซุยกะ (Suica Card) กับ Apple Pay
．สอนใช้แอปพลิเคชั่นบัตรซุยกะ (Suica Card) และวิธีเติมเงิน
．จะซื้อบัตรซุยกะตัวจริงได้อย่างไร?
☞รายชื่อสถานที่ที่มีบัตรซุยกะ (Suica Card) จำหน่าย
．วิธีเติมเงินในบัตรซุยกะ (Suica Card)
．Welcome Suica คืออะไรและจะซื้อได้อย่างไร？
．วิธีคืนบัตรซุยกะ (Suica Card)
「บัตรซุยกะ (Suica Card)」คืออะไร? ทำไมถึงแนะนำให้ซื้อ?
「บัตรซุยกะ (Suica Card)」ก็คือ "บัตรสำหรับการเดินทาง" เป็นบัตรเติมเงินที่ออกโดย JR East คล้ายๆ กับในประเทศไทย โดยสามารถใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน รถราง และรถประจำทางในเขตมหานครโตเกียวได้ จริงๆ แล้วคำว่า"Suica" (スイカ) เป็นตัวย่อของ "Super Urban Intelligent Card" เนื่องจากการออกเสียงเหมือนกับคำว่า"แตงโม" ในภาษาญี่ปุ่น จึงได้รับฉายาว่า "บัตรแตงโม"
.jpeg)
แค่มีบัตรซุยกะ ก็จะสามารถสแกนเข้า-ออกจากสถานีได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องไปต่อคิวซื้อตั๋วทุกครั้ง หลังจากเงินในบัตรหมดเพียงแค่เติมเงินเข้าไปในบัตรก็จะสามารถใช้งานได้ต่อทันที นอกจากนี้บัตรซุยกะยังสามารถนำไปใช้ในเขตยังพื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่นได้อีกด้วย（แต่ก็ยังมีบ้างพื้นที่ที่ไม่รองรับ) จะเรียกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนักเดินทางเลยก็ได้ เพราะบัตรซุยกะยังมีฟังก์ชั่นหลักอีกอย่างก็คือ「บัตรจ่ายเงิน」ที่เหมาะสำหรับการชำระเงินเล็กๆน้อยๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ล็อคเกอร์แบบชำระเงิน หมดปัญหาเรื่องพกเงินและได้เงินทอนเป็นเหรียญ เวลาต้องจ่ายเงินเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถจ่ายแบบไร้เงินสดได้อย่างสมบูรณ์！
วิธีผูกบัตรซุยกะ (Suica Card) กับ Apple Pay
ปัจจุบัน บัตรจริงของ "บัตรซุยกะ (Suica Card)" สามารถซื้อได้ที่สถานีที่กำหนดเท่านั้น หากผู้ใช้ iPhone ต้องการซื้อ "บัตรซุยกะ (Suica Card)"แบบสะดวกรวดเร็วก็แนะนำให้ผูก Apple Pay กับบัตร "บัตรซุยกะ (Suica Card)" ในiPhone บัตรที่ถูกผูกไว้จะสามารถใช้งานได้เหมือนบัตรจริง โดยสามารถใช้ตอนนั่งรถโดยสารหรือชำระเงินในร้านสะดวกซื้อได้ทันที เพียงแค่แสกนจนมีเสียง "บี๊บ" เพียงครั้งเดียว รีบเลื่อนลงไปดูวิธีการผูกบัตรกันเลย!：
① อันดับแรกไปที่หน้า "การตั้งค่า" และคลิก "กระเป๋าเงินและ Apple Pay"
② กดที่「เพิ่มบัตร」
③ กดที่「บัตรเดินทาง」
④ เลื่อนหาและเลือกหมวดหมู่ประเทศญี่ปุ่น บัตร「Sucia」
⑤ กด "ดำเนินการต่อ" (ใช้ได้กับรุ่นที่ยังไม่เคยผูกมาก่อนเท่านั้น)
⑥เลือกจำนวนเติมเงินเริ่มต้น (ในครั้งแรก ต้องเติมเงินอย่างน้อย 1,000 เยนก่อนจึงจะสามารถออกบัตรได้)
⑦ หลังจากยืนยันเงื่อนไขการใช้งานแล้วให้กด "ยินยอม" (กดเฉพาะครั้งแรกเท่านั้น)
⑧ หลังจากเลือกบัตรเครดิตที่จะใช้ชำระเงินแล้ว ให้ดับเบิลคลิกที่การตั้งค่าเพื่อชำระเงินและผูกบัตรให้เสร็จสิ้น
การใช้แอปพลิเคชั่นซุยกะและวิธีการเติมเงิน
หากอยากใช้เวอร์ชัน Apple Pay ก็จะต้องผูกบัตรเครดิตกับ Apple Pay บนโทรศัพท์ก่อน หากไม่ได้ใช้ Apple Pay ก็ขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น "บัตรซุยกะ (Suica Card)" เวอร์ชันแอพลิเคชั่นที่มีวิธีใช้เหมือนกับเวอร์ชัน Apple Pay และบัตรจริง นอกจากการผูกบัตรเครดิตโดยตรงแล้ว Apple Pay และ Google Pay ยังสามารถเติมเงินได้อีกด้วย ไม่ต้องเสียเวลาไปหาที่เติมเงิน แค่ตั้งค่าเติมเงินอัตโนมัติทำให้แอปพลิเคชันยิ่งสะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถอ่านวิธีการผูกบัตรและลิงค์ดาวน์โหลดได้ด้านล่างเลย：
① หลังจากเข้าแอปแล้ว ให้กด「ออกบัตรSuica」ที่มุมขวาล่างหรือกด「＋」 ที่มุมขวาบนเพื่อเพิ่มบัตรใหม่
② หลังจากเลือกประเภทบัตรแล้ว (ครั้งนี้ใช้บัตรไม่ระบุชื่อเพื่อสาธิต) จากนั้นคลิก "ลงทะเบียน (発行手続き)" ที่ด้านล่าง。
③ หลังจากอ่านข้อควรระวังแล้ว ให้กด "ต่อไป" ที่มุมขวาบน ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข จากนั้นก็ไปที่ขั้นตอนถัดไป
④เมื่อเพิ่มบัตรซุยกะครั้งแรก ต้องเติมเงินอย่างน้อย 1,000 เยนก่อนจึงจะสามารถออกบัตรได้ กด "เลือกจำนวน" เพื่อเลือกจำนวนเงินที่ต้องการ (สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 เยน)
⑤ หลังจากเลือกจำนวนเงินแล้ว ก็ไปเลือกวิธีการชำระเงินเพื่อเติมเงิน การออกบัตรก็จะเสร็จสิ้น
ถึงแม้ว่า "บัตรซุยกะ (Suica Card)" เวอร์ชันแอปพลิเคชั่นจะสะดวกมาก แต่ก็มี 2 จุดที่ควรระวังเป็นพิเศษ อย่างแรกคือ"บัตรซุยกะ" เวอร์ชัน Google Play ไม่รองรับ โทรศัพท์ Android ที่ซื้อนอกประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวที่ใช้โทรศัพท์ Android จะไม่สามารถใช้ได้ นอกจากนี้ ระบบ iOS ก็ต้องเป็น iPhone 8 ขึ้นไป หรือ Apple Watch Series 3 ขึ้นไป (สำหรับผู้ที่ซื้อในญี่ปุ่นสามารถใช้ได้กับ iPhone 7 ขึ้นไปหรือ Apple Watch Series 2 ขึ้นไป) ดังนั้นโปรดตรวจสอบล่วงหน้าก่อนใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา อุปกรณ์ไม่รองรับในขณะที่ต้องการใช้งาน!
ลิ้งค์ดาวโหลด Suica APP
・App Store
・เวอร์ชั่นGoogle Play Store ※โทรศัพท์ Android ที่ซื้อนอกประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถใช้ได้
จะซื้อบัตรซุยกะจริงได้อย่างไร?？และจะเริ่มใช้งานอย่างไร？
ประเภทของ「บัตรซุยกะ (Suica Card)」
บัตรซุยกะ ในรูปแบบที่เป็นบัตรจริงสีเขียวมาตรฐานแบ่งออกเป็นสองประเภท คือบัตรแบบลงทะเบียน (My Suica) และแบบไม่ระบุชื่อ(Suica) โดยสามารถเลือกใช้ได้อย่างอิสระ หากเลือกสมัครบัตรแบบ "ลงทะเบียน" ก็จะต้องลงทะเบียนข้อมูลต่างๆ เช่นชื่อ อายุ และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะต้องลงทะเบียนหมายเลขหนังสือเดินทาง ข้อดีอย่างหนึ่งของบัตรแบบลงทะเบียนคือหากบัตรสูญหายสามารถแจ้งสูญหาย และสามารถขอคืนเงินคงเหลือในบัตร อักทั้งยังสามารถทำบัตรใหม่ได้ นอกจากนี้ การจะออก "บัตรเด็ก"ต้องใช้บัตรซุยกะแบบลงทะเบียนเท่านั้นถึงจะสามารถออกได้ โดยต้องนำบัตรประจำตัวเด็กไปที่เคาน์เตอร์ JR เพื่อสมัครและจะได้รับส่วนลดครึ่งราคาเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ บัตรเด็กที่ลงทะเบียนจะหมดอายุในวันที่ 31 มีนาคมแรกหลังจากวันเกิดปีที่ 12 และจะไม่สามารถใช้ได้อีก หลังจากนั้นจะต้องซื้อบัตรซุยกะใบใหม่ (ช่วงจบการศึกษาระดับประถมศึกษาในญี่ปุ่นสิ้นสุดก่อนวันที่ 31 มีนาคม)
| Suicaカード（แบบไม่ลงทะเบียน） | My Suica（แบบลงทะเบียน） ※ ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ อ้างอิงจากคำตอบของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก |
| วิธีการซื้อ | หน้าต่างสีเขียว | หน้าต่างสีเขียว |
| ฟังก็ชั่นบัตรเด็ก | ไม่รองรับ | หน้าต่างสีเขียว |
「ราคาบัตรซุยกะ (Suica Card)」
ไม่ว่าจะเป็นบัตรประเภทใดก็ตาม การซื้อครั้งแรกจะต้องมียอดอย่างน้อย 1,000 เยน ในจำนวนนั้นรวมค่ามัดจำ 500 เยน และเติมเงินในบัตรอีก 500 เยน เมื่ออยากจะเติมเงินเพิ่มก็สามารถเติมเงินที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติได้ โดยที่สามารถเลือกจำนวนเงินที่ต้องการได้ เช่น 500 เยน 1,000 เยน 2,000 เยน เป็นต้น จำนวนวงเงินสูงสุดในบัตรคือ 20,000 เยน
「วิธีใช้บัตรซุยกะ (Suica Card)」
"บัตรซุยกะ (Suica Card)" สามารถใช้งานได้ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงสามารถใช้บัตร IC นี้กับระบบขนส่งลักษณะเดียวกันในภูมิภาคอื่นๆ ของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน เช่น ในพื้นที่ฮอกไกโดที่ใช้ "บัตรเติมเงินคิตะคะ (Kitaca)" และ ในเขตคันไซ ที่ใช้บัตร "ICOCA" เป็นต้น โดยหลักการแล้ววิธีใช้งานก็เป็นแบบทั่วไป เช่นการรูดบัตรเมื่อเข้าออกสถานี และเติมเงินในบัตรด้วยเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ แต่ข้อควรระวังคือไม่สามารถใช้นั่งรถไฟต่อเนื่องข้ามภูมิภาคได้ จะต้องออกจากสถานีก่อนแล้วแตะบัตรเข้าไปใหม่ เช่น หากต้องการใช้บัตรซุยกะจ่ายค่าโดยสารรถไฟไปคันไซ ก็สามารถทำได้ แต่ว่าจะสามารถเดินทางได้เฉพาะในพื้นที่ท้องถิ่นเท่านั้น ไม่สามารถใช้บัตรซุยกะเพื่อขึ้นรถไฟจากโตเกียวต่อเนื่องมาถึงคันไซได้โดยตรง!
Klook ก็สามารถซื้อบัตรซุยกะได้นะ！☞ซื้อตอนนี้เลย
นอกจากนี้ หากต้องการใช้บัตร Suica จ่ายเงินเล็กๆ น้อยๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถใช้ได้ที่ร้านค้าที่มีโลโก้ด้านบนนี้ ไม่ว่าจะไปชำระเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านอาหารก็สามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย และหากเห็นว่าที่ล็อกเกอร์หรือตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมีโลโก้บัตรซุยกะ ก็แสดงว่าสามารถใช้บัตรซุยกะชำระเงินได้เช่นกัน
「ขั้นตอนในการซื้อบัตรจริง (Suica Card)」
「บัตรซุยกะ (Suica Card)」รายชื่อสถานที่จำหน่ายบัตรจริง
ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2023 เป็นต้นไป "บัตรซุยกะ (Suica Card)" เวอร์ชันบัตรจริงจะมีจำหน่ายในสถานที่ดังต่อไปนี้：
．ศูนย์บริการท่องเที่ยว JR East-สถานีโตเกียว
- ศูนย์บริการท่องเที่ยว JR East-สถานีชินากาว่า
- ศูนย์บริการท่องเที่ยว JR East-สถานีชินจูกุ
- ศูนย์บริการท่องเที่ยว JR East-สถานีอิเคะบุคุโระ
- ศูนย์บริการท่องเที่ยว JR East-สถานีอุเอโนะ
※ ข้อควรระวัง โดยปกติแล้ว แต่ละคนสามารถซื้อบัตรซุยกะได้เพียงหนึ่งใบต่อคนเท่านั้น
※ 「บัตรซุยกะ (Suica Card)」มีจำนวนจำกัด จนกว่าสินค้าจะหมด
※ ข้อมูลเดือนธันวาคม 2023
หากคุณต้องการซื้อบัตรซุยกะ แบบธรรมดา (ไม่ลงทะเบียน) ก็สามารถซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานี JR โดยมองหา "ตู้จำหน่ายตั๋วมัลติฟังก์ชั่นสีดำ" ที่มีคำว่า Suica เขียนไว้! ※ ในปัจจุบันบัตรซุยกะมีจำหน่ายที่ตู้ขายตั๋วตรงช่องสีเขียวในจำนวนจำกัด และเครื่องจำหน่ายตั๋วยังไม่เปิดให้บริการตามปกติ
.jpeg)
ขั้นตอนที่ 1 คลิก "เปลี่ยนภาษา" ที่มุมขวาบนเพื่อเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ และเลือกเมนู「ซื้อบัตรซุยกะใบใหม่」
ถ่ายภาพ：Chris
.jpeg)
ขั้นตอนที่ 2: เลือกจำนวนเงินในบัตรที่ต้องการเติม（ต้องรวมเงินค่าประกันบัตรอีก 500 เยน）
ถ่ายภาพ：Chris
.jpeg)
ขั้นตอนที่ 3: ใส่เงินตามจำนวนที่ซื้อ เท่านี้บัตรก็จะออกมาแล้ว！
ถ่ายภาพ：Chris
「บัตรซุยกะ (Suica Card)」การเติมเงินมีหลายวิธี และ ตู้เติมเงิน ATM เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด！
เมื่อพูดถึงการเติมเงินใน "บัตรซุยกะ (Suica Card)" วิธีแรกที่นึกถึงคือการเติมเงินที่ตู้จำหน่ายตั๋วตรงสถานีหลัก เพียงแค่ใส่บัตรซุยกะแล้วเลือกคำว่า "チャージ (เติมเงิน)" บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว จากนั้นก็เลือก จำนวนเงินที่ต้องการเติม จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนก็จะเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะดวกสุดๆ! แต่หากอยากจะใช้บัตรซุยกะแทน e-wallet และพบว่าจำนวนเงินในบัตรไม่พอ และอยู่ไกลจากสถานี ก็ให้ไปที่ร้านสะดวกซื้อได้ ร้านสะดวกซื้อในโตเกียวก็มีบริการเติมเงินบัตรซุยกะอยู่แล้ว หากต้องการใช้บริการเติมเงินก็สามารถไปที่จุดชำระเงินได้ทันที แต่หากไม่อยากทำรายการผ่านพนักงานร้านสะดวกซื้อ ก็สามารถเติมเงินในบัตรผ่านผ่านตู้ ATM ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 (Surbank ATM)ในการเติมเงิน แค่นี้ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดเวลาในการติดต่อสื่อสารกับพนักงาน และขั้นตอนก็ง่ายมาก ซึ่งเป็นวิธีเติมเงินที่แนะนำเลย!
เติมเงินบัตรซุยกะที่ ATMใน7-11
คลิกที่ตัวเลือก "เงินอิเล็กทรอนิกส์"。
ถ่ายภาพ：Chris
วางบัตรซุยกะไว้บริเวณที่อ่านบัตร ATM
ถ่ายภาพ：Chris
คลิกตัวเลือก "เติมเงิน" บนหน้าจอ。
ถ่ายภาพ：Chris
ระวัง：7-11 ในบางพื้นที่ ยังไม่ได้ตั้งค่าตู้ ATM หรือยังไม่ได้อัปเดตฟังก์ชันเติมเงิน Suica ดังนั้นการที่จะเติมเงินได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วย
เลือกจำนวนเงินที่ต้องการเติม
ถ่ายภาพ：Chris
รอจนกระทั่งช่องจ่ายเงินเปิดแล้วจึงใส่ธนบัตรเข้าไป
ถ่ายภาพ：Chris
รอจนวงเงินในบัตรมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะถือว่าเติมเงินเสร็จสมบูรณ์ และตัวเลือกคืนบัตรก็จะปรากฏขึ้น
ถ่ายภาพ：Chris
Welcome Suicaคืออะไรและจะซื้อได้อย่างไร？
นอกจากบัตรสีเขียวทั่วไปแล้ว JR East ยังได้ออกบัตรซุยกะสีแดงสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2019 เรียกว่า "Welcome Suica" บนบัตรจะไม่มีลายแพนกวิ้นสีดำและสีขาว แต่จะเป็นลายดอกซากุระซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแทน "Welcome Suica" เป็นบัตรที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้ปัจจุบันสามารถซื้อหรือรับได้ที่สนามบินฮาเนดะเท่านั้น วิธีการซื้อและการใช้งาน ของบัตร "Welcome Suica" นี้เหมือนกับบัตร Suica ทั่วไปทุกประการ หลังจากซื้อและเติมเงินแล้ว ก็จะสามารถใช้ขึ้นรถและชำระเงินเล็กๆ น้อยๆ ได้ ข้อแตกต่างคือบัตรนี้ไม่จำเป็นต้องเติมเงินมัดจำ แต่เงินที่เติมเข้าไปจะไม่สามารถขอคืนได้และระยะเวลาที่ใช้ได้ค่อนข้างสั้น! ความแตกต่างหลักๆก็มีเพียงเท่านี้：
| บัตรซุยกะแบบธรรมดา | บัตรWelcome Suica |
| ค่าบริการ | เริ่มต้น 1,000 เยน รวมค่ามัดจำ 500 เยน และต้องเติมเงินอย่างน้อย 500 เยน | ไม่ต้องมีเงินมัดจำ สำหรับการซื้อครั้งแรกก็สามารถเลือกเติม 1,000 เยนหรือ 2,000 เยนก็ได้ |
| สถานที่จำหน่าย | ศูนย์บริการการท่องเที่ยว R-East-สถานีโตเกียว ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR East-สถานีชินากาว่า ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR East-สถานีชินจูกุ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR East-สถานีอิเคะบุคุโระ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR East-สถานีอุเอโนะ สามารถตรวจสอบสถานที่ที่สามารถซื้อบัตรได้ที่ |
ปัจจุบันสามารถซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วเฉพาะของ Welcome Suica ที่ "สถานี Tokyo Monorail Haneda Airport Terminal 3" และ "สถานี Tokyo Monorail Haneda Airport Terminal 3" หรือเข้าไปในเว็บไซต์ท่องเที่ยวklookสั่งซื้อออนไลน์และรอรับที่สนามบินฮาเนดะ โปรดตรวจสอบสถานที่ที่สามารถซื้อบัตรได้เว็บไซต์ทางการ |
| อายุการใช้งาน | หลังการใช้งานครั้งสุดท้ายต่ออีก 10 ปี | มีอายุเพียง 28 วันเท่านั้น |
| เติมเงิน | เติมอย่างน้อย 500 เยน | เติม 1,000 เยน ต้องเติมเงินขั้นต่ำ 1,000 เยน (ไม่อนุญาตให้เติม 1,500 เยน) |
| วิธีการคืนบัตร | สามารถดำเนินการคืนเงินผ่านบัตรได้ โปรดดูคำแนะนำได้ที่ด้านบน | ยอดคงเหลือหลังจากที่เติมเงินในบัตร Welcome Suica แล้วจะไม่สามารถขอคืนได้ และไม่สามารถคืนบัตรได้ โปรดใช้ยอดเงินคงเหลือให้หมดภายในระยะเวลาที่กำหนด (สามารถนำบัตรกลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้) |
「เรื่องที่ต้องระวังของบัตรซุยกะ (Suica Card)และสรุปคำถามตอบทั่วไป
Q：สามารถเติมเงินบนบัตรซุยกะผ่านบัตรเครดิตได้หรือไม่?
A：ไม่ได้ บัตรจริงของบัตรซุยกะจะสามารถเติมเงินเป็นเงินสดเท่านั้น หากอยากเติมผ่านบัตรเครดิต โปรดดาวน์โหลดเวอร์ชั่นAPP。
Q：บัตรซุยกะสามารถใช้ร่วมกันหลายคนได้หรือไม่?？
A：ไม่สามารถใช้ร่วมกันหลายคนได้ เมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ ค่าโดยสารจะคำนวณจากการรูดเข้าและออกจากสถานี ดังนั้น 1 คนจำเป็นต้องใช้บัตรใบเดียวและไม่สามารถใช้หลายคนได้
Q：หากไม่ได้ใช้ จะสามารถยกเลิกบัตรซุยกะได้หรือไม่？
A：สามารถทำได้ หากต้องการยกเลิกบัตร ก็ต้องไปที่จุดบริการของสถานี JR East หลังจากหักค่าธรรมเนียมการจัดการ 220 เยนจากยอดคงเหลือของบัตรแล้ว ยอดเงินคงเหลือรวมกับเงินมัดจำ 500 เยน ก็จะได้คืนมา หากยอดคงเหลือในบัตรน้อยกว่า 220 เยน ยอดคงเหลือจะถือว่าเป็นค่าธรรมเนียมการจัดการเท่านั้นและจะถูกหักออกจนถึง 0 เยน และยังได้เงินมัดจำคืน500 เยน ดังนั้นจึงขอแนะนำใหเช็คยอดคงเหลือขั้นต่ำก่อนคืนเงิน
ตัวอย่างเช่น หากยังมียอดคงเหลือในบัตร 1,000 เยน เมื่อยกเลิกบัตรก็จะได้รับเงินคืน 1,000-220 เยน (ค่าธรรมเนียมการจัดการ) บวกกับเงินมัดจำ 500 เยน หากคืนบัตรก็จะคืนเงินรวม 1,280 เยน แต่หากในบัตรมียอดคงเหลือเพียง 100 เยน เมื่อคืนบัตร ก็จะคืนเงินมัดจำ 500 เยนเท่านั้น หากยอดคงเหลือในบัตรเป็นศูนย์ เงินมัดจำ 500 เยนจะยังไม่ถูกหัก และจะคืนเงินให้เมื่อบัตรถูกส่งคืน โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการเพิ่มเติม
.jpeg)
Q：หากบัตรซุยกะหายต้องทำอย่างไร?？
A：หากบัตรที่สูญหายเป็น "บัตรลงทะเบียน" ก็สามารถไปที่ช่องสีเขียวในสถานี JR สายหลักเพื่อแจ้งสูญหายและอายัดบัตรได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมย ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถออกบัตรใหม่ได้ด้วย โดยต้องชำระค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ 520 เยน และค่ามัดจำบัตรใหม่ 500 เยนอย่างไรก็ตาม หากเป็นบัตรธรรมดา แบบที่ไม่ระบุตัวตน หากบัตรสูญหายจะไม่สามารถออกใหม่ได้ และยอดเงินคงเหลือก็จะไม่สามารถขอคืนได้
Q：บัตรซุยกะมีวันหมดอายุหรือไม่?？
A：ระยะเวลาการใช้งานของบัตรซุยกะจะคิดจาก "วันที่ใช้งานล่าสุด" และจะหมดอายุโดยอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน หากบัตรซุยกะหมดอายุ ก็สามารถซื้อบัตรใหม่และโอนยอดคงเหลือทั้งหมดของบัตรเก่าไปยังบัตรใหม่ ส่วนบัตรเก่าก็สามารถคืนบัตรได้
Q：หลังจากเข้าไปในสถานีถึงพบว่ายอดคงเหลือในบัตรซุยกะไม่เพียงพอ สามารถออกจากสถานีได้หรือไม่?
A：หากยอดในบัตรไม่เพียงพอจะต้องไปเติมเงินที่ "เครื่องเติมเงินอัตโนมัติ" ก่อนถึงจะออกจากสถานีได้ จำนวนเงินที่ต้องเติมเข้าไปในตู้จะอยู่ที่ 10 เยน
เกร็ดเพิ่มเติม：มาสคอต เพนกวินน้อยของบัตรซุยกะ
มาสคอตชื่อดังของบัตรซุยกะอย่างเจ้าเพนกวินน้อย ก็มีที่มาที่ไม่ธรรมดานะ! นักวาดภาพประกอบชื่อดัง Chiharu Sakazaki ออกแบบนกเพนกวินตัวน้อยที่มีชีวิตชีวาตัวนี้โดยอิงจากนกเพนกวิน Adélie ในทวีปแอนตาร์กติกา นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มันก็ได้เปิดตัวบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายและได้ร่วมงานกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ! เมื่อเดินทางไปแถบคันโต ของประเทศญี่ปุ่น หากเดินผ่านสถานี JR แล้วละก็จะมีโอกาสได้เห็นผลิตภัณฑ์เพนกวินสุดน่ารักในร้านค้าในสถานีได้มากมายเลยล่ะ!
แหล่งที่มาของภาพ：株式会社 大丸松坂屋百貨店
แหล่งที่มาของภาพ：JR-Cross
แหล่งที่มาของภาพ：JR-Cross
"บัตรซุยกะ (Suica Card)" เป็นบัตรเดินทางที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เดินทางด้วยตัวเองในโตเกียว การใช้งานก็ง่ายมาก ไม่ว่าจะซื้อหรือจะเริ่มใช้งานก็สามารถผูกกับ iPhone และ Apple Watch ได้แล้ว ผู้ใช้สามารถเพิ่มบัตรได้ในwalletโดยตรง เพียงแค่นี้ก็ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่วางแผนจะมาญี่ปุ่นคงจะอยากรีบมีบัตรซุยกะเป็นของตัวเองแล้วแน่ๆ!
整理撰文：Nene 2023.5
截圖提供：aoi
ถ่ายภาพ、更新：Chris 2023.6
更新：Ting 2023.12
製圖、更新：JUN 2023.9、Zita 2024.1
責任編輯：Issue、Zita
資料來源：
JR東日本、
PR TIMES 1、
PR TIMES 2