เคยรู้สึกว่าเที่ยวที่ฮิตๆ ในโตเกียวมาหมดจนไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อดีอีกบ้างไหม? หรือบางทีก็แค่อยากหนีจากที่ที่เต็มไปด้วยคนพลุกพล่านและใช้เวลายามสายของวันหยุดอันแสนมีค่าอย่างสบายๆ? ถ้าอย่างนั้น "ไดคังยามะ" คือคำตอบที่ดีที่สุดของคุณ! และในบทความนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหาร ร้านหนังสือ และร้านขนม 3 แห่งที่คุณต้องไม่พลาด!
ไดคังยามะอยู่ที่ไหน? ทำไมเราถึงแนะนำ?
เมื่อพูดถึง "ไดคังยามะ" ชาวญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดคงนึกถึงความมั่งคั่ง สง่างาม และสูงส่ง ไดคังยามะตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า โตเกียว เป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่งและตรอกซอกซอยอันเงียบสงบ ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นตระกูลเก่าแก่ที่มีมาหลายชั่วอายุคน ถึงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วที่นี่จะไม่มี "สถานที่ท่องเที่ยว" แต่ด้วยความที่อยู่ติดกับย่านท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุด เดินเพียง 15 นาทีถึงใจกลางชิบุย่า และเดินเพียง 10 นาทีถึงแม่น้ำเมกุโระซึ่งเป็นจุดชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว ในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก "ไดคังยามะ" ให้มากขึ้น เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาช่วงบ่ายอันแสนวิเศษ ว่าแล้วก็ไปกันเลย!
ไดคังยามะที่ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศเงียบสงบและงดงาม (แหล่งรูปภาพ: รูปภาพ AC )
ไดคังยามะอยู่ห่างจากสถานีชิบุยะ นากาเมกุโระ และเอบิสึโดยใช้เวลาเดินเพียง 10 นาที (แหล่งรูปภาพ: รูปภาพ AC )
จุดที่หนึ่ง : ร้านอาหาร Madame Toki ลิ้มรสอาหารฝรั่งเศสชั้นยอด
หากต้องการสัมผัสประสบการณ์จากสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ควรจะต้องเริ่มต้นด้วยอาหารเสมอ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนญี่ปุ่นเมื่อค้นหาร้านอาหารจะเลือกอาหารญี่ปุ่นโดยไม่รู้ตัว เช่น ซาซิมิ ยากินิกุ และราเมน อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วในโตเกียวยังมีร้านอาหารตะวันตกคุณภาพสูงอีกมากมาย (โดยเฉพาะอาหารฝรั่งเศส) ที่เลือกสรรวัตถุดิบตามฤดูกาล อาหารในแต่ละท้องถิ่น และอาหารหลากหลายที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน นอกจากร้านอาหารที่เปิดโดยเชฟมิชลินชื่อดัง (เช่น Houbouchon) แล้ว ยังมีร้านอาหารตะวันตกอีกมากมายที่มีประวัติยาวนานซึ่งไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวแต่เป็นที่นิยมในหมู่เชฟชั้นนำของโลก เชฟจากในร้านอาหารระดับ 2 ดาวและ 3 ดาวหลายแห่งต่างก็มีประสบการณ์ในประเทศฝรั่งเศสมานานหลายปี ด้านความพิถีพิถัน รสชาติ และคุณภาพการบริการของร้านก็ไม่ด้อยไปกว่าร้านอาหารระดับดาวมิชลินเลย "Restaurant Madame Toki" เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่อร่อยที่สุดในบรรดาร้านเหล่านั้นทั้งหมด
(ปัจจุบันใช้เป็นที่นั่งรับรองแขก)
ร้านอาหารนี้เปิดในปี 1978 และตั้งอยู่ในวิลล่าสองชั้นสไตล์ยุโรปที่สร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน รูปลักษณ์ภายนอกดูไม่ฉูดฉาดมาก แต่ให้บรรยากาศเงียบสงบและหรูหราเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศในย่านนี้ บังกะโลที่สวยงามทำจากหินอ่อนและกระจกทาสีก็เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของร้านของด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นคลาสสิกเรื่อง "Miracle Restaurant" ร้านนี้จึงปรากฏให้เห็นในละครญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ เชฟคนปัจจุบัน คุณฮิซาชิ ทาคาชิมะ เป็นรุ่นที่ 5 เคยศึกษาที่ฝรั่งเศสและทำงานในร้านอาหารท้องถิ่นที่ได้ดาวมิชลิน 2 และ 3 ดาว หลังจากกลับมาที่ญี่ปุ่น เขาได้เป็นหัวหน้าเชฟของ "Restaurant Madame Toki" ในปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงฉลองครบรอบ 30 ปีพอดี
ในช่วงอาหารกลางวัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสในราคาที่คุ้มค่า อาหารชุดแบ่งออกเป็นชุด B (5,500 เยน) และชุด C (8,800 เยน) โดยทั้งสองชุดประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ปลา เนื้อแดง ของหวาน เครื่องดื่ม และของหวาน (ชุด C รวมอาหารเรียกน้ำย่อย 2 รายการ) ส่วนผสมและวิธีการปรุงอาหารที่ใช้จะแตกต่างกัน และมีการปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง สิ่งเดียวที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคือความสวยงามที่พิถีพิถัน ละเอียดอ่อนตั้งแต่รูปลักษณ์ไปจนถึงรสชาติ
เช่นเดียวกับอาหารฝรั่งเศสส่วนใหญ่ "Restaurant Madame Toki" มีเครื่องเคียงหลากหลายให้เลือกเติมฟรี และมีความพิถีพิถันอย่างมากในรสชาติและครีมที่ต้องเข้ากันได้อย่างดี แตกต่างจากของหวานแบบจานเดียวทั่วไป ทางร้านมีการขายขนมอบโดยเฉพาะ เมื่อสิ้นสุดมื้ออาหาร พนักงานเสิร์ฟจะนำรถเข็นมาแสดงของหวานทั้งหมดที่มีในแต่ละวัน (ประมาณ 8 ถึง 11 ชนิด) มาให้ลูกค้าเลือกได้เองอย่างไม่จำกัดจำนวน นอกจากนี้ ทางร้านยังมี "เช็ตเมนูอาหารและไวน์" (เริ่มต้นที่ 4,500 เยน) โดยเชฟจะจับคู่ไวน์ที่เหมาะสมที่สุดกับเมนูอาหารในแต่ละวัน ให้คุณเอร็ดอร่อยกับอาหารรสเลิศท่ามกลางกลิ่นหอมของไวน์ได้
Restaurant Madame Toki
・ที่ตั้ง : 14-7 Hashimacho, Shibuya-ku, Tokyo
・เวลาทำการ : 12:00~15:00 (LO 13:30 น.)/18:00~22:00 (LO 21:00 น.) หยุดวันจันทร์
・การเดินทาง : เดินประมาณ 11 นาทีจากสถานีไดคังยามะ สายโทคิว โทโยโกะ
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
・หมายเหตุ : ร้านไม่รับลูกค้าที่เป็นเด็ก ผู้ชายจะต้องสวมเครื่องแต่งกายที่สุภาพ (เสื้อมีคอปก) และโปรดอย่าสวมรองเท้าแตะหรือรองเท้าสลิปเปอร์เข้าร้าน
จุดที่สอง : Daikanyama T-SITE เยี่ยมชมร้านหนังสือ TSUTAYA ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
สถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไดคังยามะสำหรับใครหลาย ๆ คน ก็คือ "Daikanyama T-SITE" (ร้านหนังสือไดคังยามะ TSUTAYA) ร้านหนังสือ TSUTAYA ก่อตั้งโดย TSUTAYA ซึ่งเป็นบริษัทร้านหนังสือชั้นนำของญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ "ร้านหนังสือรูปแบบใหม่" ปัจจุบันมีร้านหนังสือ 28 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ และ Daikanyama T-SITE ก็ถือเป็นร้านแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ TSUTAYA
Daikanyama T-SITE เป็นที่รู้จักในนาม "ร้านหนังสือ TSUTAYA ที่สวยที่สุด" และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 20 ร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลก ชื่อเสียงนี้ไม่ใช่แค่ราคาคุย เนื่องจากทั้งอาคารได้รับการออกแบบโดยบริษัทสถาปัตยกรรมชื่อดัง KDa (Klein Dytham architecture) โดยมีตัวอักษร "T" ซึ่งเป็นอักษรตัวแรกของ "TSUTAYA" สีขาวฝังติดเข้ากับผนังด้านนอก และใช้กระจกสูงจากพื้นจรดเพดานจำนวนมากเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับแสงธรรมชาติและความรู้สึกปลอดโปร่ง การออกแบบภายในส่วนใหญ่ทำจากไม้ดิบ ช่วยสร้างความสมดุลของความรู้สึกจากการติดตั้งบันไดไว้ภายในอาคารและการถูกล้อมรอบด้วยกระจก
ที่นี่ประกอบด้วยห้องโถง 3 ห้อง แต่ละห้องจัดแสดงและจำหน่ายหนังสือประเภทต่าง ๆ และแต่ละห้องยังมีจำหน่ายสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นอีกด้วย (ทั้งของใช้ประจำวัน ของชำร่วย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯลฯ) นอกจากนี้ TSUTAYA ยังมีการร่วมมือกับ Starbucks ที่นี่จึงเป็นคาเฟ่ที่คุณสามารถเลือกอ่านหนังสือได้ฟรีๆ เรียกได้ว่า TSUTAYA นั้นไม่ได้ขายแค่หนังสือและสินค้าอื่นๆ แต่ยังขายบรรยากาศและความรู้สึกอิ่มเอมใจให้คุณอีกด้วย
Daikanyama T-SITE
・ที่ตั้ง : 16-15 Sarugakucho, Shibuya-ku, Tokyo
・เวลาทำการ : 7:00~23:00 น. หยุดวันปีใหม่
・การเดินทาง : เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Daikanyama บนสาย Tokyu Toyoko
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
จุดที่สาม : ร้าน Atsushi Hatae ไดคังยามะ สัมผัสประสบการณ์ขนมหวานฝรั่งเศสแสนประณีตและรสชาติอันละเอียดอ่อน
เพียงเดินประมาณหนึ่งนาทีจาก Daikanyama T-SITE คุณก็จะพบร้านขนมหวานเรียบง่าย ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ แต่ไม่มีป้ายบอกชัดเจนซ่อนอยู่ในตรอกด้านขวามือ นั่นคือร้าน "Atsushi Hatae" ที่มีเจ้าของคือเชฟขนม อัตสึชิ ฮาตาโดะ ซึ่งเคยทำงานเป็นเชฟทำขนมที่โรงแรมระดับ "ซุปเปอร์ห้าดาว" Le Meurice และโรงแรมห้าดาว Hôtel Plaza Athénée ในปารีส หลังจากกลับมาที่ประเทศญี่ปุ่น เขาทำงานเป็นเชฟทำขนมที่ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง "Dominique Bouchet" ในโตเกียว โดยได้ดาวมิชลินหนึ่งดาว ในปี 2019 เขาก็ได้เริ่มธุรกิจของตัวเอง โดยปัจจุบันแบรนด์ "Atsushi Hatae" ได้เปิดสาขาแล้ว 3 สาขา โดยสาขาไดคังยามะเป็นร้านเดียวที่ให้บริการภายในร้าน
รูปลักษณ์ของร้านนั้นแสนโดดเด่น ด้วยกระจกบานใหญ่ที่ถูกครอบด้วยหน้าต่างเหล็กสีดำ รักษาความเป็นส่วนตัวหากก็ยังให้แสงสว่างอย่างเพียงพอ ของหวานในร้านตีความความเป็นสไตล์ฝรั่งเศสได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีทั้งความประณีต รสชาติที่ละเอียดอ่อน และรูปทรงที่ซับซ้อน นอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแล้ว ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ตามฤดูกาลอีกด้วย หนึ่งในสินค้าเฉพาะตามฤดูกาล ตัวอย่างเช่น "พิสตาชิโอ" เค้กสตรอเบอร์รี่ที่โด่งดังจนถูกนำไปทำข่าวทันทีที่เปิดตัว ประกอบด้วยแยมราสเบอร์รี่เล็ก ๆ ครีมพิสตาชิโอเข้มข้น และสตรอเบอร์รี่สดตามฤดูกาล เป็นการผสมผสานที่ไม่ธรรมดาที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และทักษะของเชฟ (คำแนะนำ : หากคุณชอบทานที่ร้าน ต้องสั่งคู่กับเครื่องดื่ม (770 เยน) และคุณสามารถนั่งทานในร้านได้แบบไม่จำกัดเวลา)
ร้าน Atsushi Hatae ไดคังยามะ
・ที่ตั้ง : 17-17 Sarugakucho, Shibuya-ku, Tokyo
・เวลาทำการ : 11:00~19:00
・การเดินทาง : เดินประมาณ 7 นาทีจากสถานีไดคังยามะ สายโทคิว โทโยโกะ
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อ "ไดคังยามะ" มานาน แต่ยังไม่รู้จัก "วิธีเที่ยว" ในไดคังยามะ โดยที่จริงแล้วไดคังยามะเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมาย ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากไหน ลองใช้สถานที่ทั้ง 3 แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจไดคังยามะก็ได้นะ!
☞ อ่านต่อ
・เที่ยวไดคังยามะ เดินไปตามถนนทันสมัยอันเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายใจกลางเมืองกันเถอะ!
・จาก "ร้านหนังสือ" สู่ "วิธีการใช้ชีวิต" ความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน──ร้านหนังสือ TSUTAYA ทั่วประเทศญี่ปุ่น!
ผู้เขียนบทสัมภาษณ์: Ken 2024.2
บรรณาธิการรับผิดชอบ: ฉบับ