เตือนภัย! โนโรไวรัสในญี่ปุ่นพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี นักท่องเที่ยวต้องระวัง

ช่วงที่ผ่านมานี้ ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับภัยพิบัติจาก “ไวรัสโนโร“ อันตรายถึงขั้นทำให้เกิดการติดเชื้อในอาหารหลายครั้ง สร้างความกังวลให้กับประชาชนอย่างมาก โนโรไวรัสเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารที่แพร่กระจายได้ง่าย มักระบาดในช่วงฤดูหนาว โดยปีนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แล้วเราจะป้องกันตัวเองอย่างไร? เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องระวังอะไรบ้าง? บทความนี้ได้รวบรวมรายงานที่เกี่ยวข้องและวิธีป้องกันเอาไว้ให้แล้ว มาดูไปพร้อมๆ กันเลย!

โนโรไวรัสคืออะไร?

โนโรไวรัส (Norovirus) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ไวรัสอาเจียนฤดูหนาว" โนโรไวรัส (Norovirus) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ไวรัสอาเจียนฤดูหนาว" เป็นเชื้อไวรัสที่มีความสามารถในการแพร่กระจายสูง โดยมักพบการระบาดในช่วงฤดูหนาว การติดต่อหลักของโนโรไวรัสเกิดจากการสัมผัสอุจจาระที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าสู่ปาก นอกจากนี้ยังสามารถแพร่กระจายผ่านอาหาร ละอองฝอย หรือการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ
ผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 1-2 วันหลังได้รับเชื้อ โดยมีอาการสำคัญคือ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง และมีไข้ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาโดยเฉพาะ
เนื่องจากโนโรไวรัสสามารถกลายพันธุ์ได้ง่าย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่มีภูมิคุ้มกัน หากรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดหรือปนเปื้อนเชื้อ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มและเกิดการระบาดของโรคท้องเสียได้

ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดของไวรัสโนโรระลอกใหญ่ ส่งผลกระทบหลายพื้นที่

สถานการณ์การระบาดของโนโรไวรัสในญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวปีนี้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน โดยหลายพื้นที่พบการติดเชื้อเป็นวงกว้าง เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่บริษัทผลิตเบนโตะแห่งหนึ่งในจังหวัดกิฟุ พบผู้ป่วยอาการอาเจียนและท้องเสียจำนวนมากถึง 300 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย 40 ปี
ต่อมาต้นเดือนมีนาคม จังหวัดทตโตริรายงานการตรวจพบเชื้อโนโรไวรัสในขนมดังโกะไส้สตรอเบอร์รีของร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่แห่งหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบเกือบ 100 ราย
การระบาดครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยด้านอาหารในญี่ปุ่น และเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ประกอบการด้านอาหารต้องเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการสุขอนามัยมากขึ้น

และเมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีการพบผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่รวมถึงโรงแรมหรู Yufuin Tamanoyu ที่ยูฟุอิน, สถานรับเลี้ยงเด็กในฟุกุโอกะ และร้านซูชิในนาโกย่า สาเหตุหลักมาจากอากาศหนาวที่ยาวนานกว่าปกติในปีนี้ ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง เอื้อต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังพบสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโนโร ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังและป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงและมีการระบาดของเชื้อไวรัสหลายสายพันธุ์

จะป้องกันโนโรไวรัสได้อย่างไร?

เนื่องจากโนโรไวรัสมีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงและสามารถอยู่รอดนอกร่างกายได้นานถึง 3 สัปดาห์ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจึงเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
โนโรไวรัสเป็นไวรัส RNA ที่ไม่มีเปลือกหุ้ม ทำให้แอลกอฮอล์และเจลล้างมือไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ การทำความสะอาดพื้นผิวควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของคลอรีน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญระบุว่าวิธีที่สำคัญที่สุดคือการล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดทุกวัน
ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่าหลายคนมีพฤติกรรมเล่นโทรศัพท์มือถือในห้องน้ำ แต่เนื่องจากห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนจากอาเจียนและอุจจาระ ทำให้เป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องน้ำ

ในด้านอาหารการกิน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดิบโดยเฉพาะหอยนางรมและอาหารทะเลประเภทหอยที่มักสะสมเชื้อไวรัสโนโรได้ง่าย แนะนำให้ปรุงสุกด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียสขึ้นไปก่อนรับประทาน ในช่วงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโนโรในญี่ปุ่นยังคงเพิ่มสูงขึ้นและยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง สำหรับผู้ที่มีแผนเดินทางไปญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เพียงแค่หมั่นล้างมือให้สะอาด ดูแลสุขอนามัย และรักษาความระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้น้อยที่สุด

เมื่อเผชิญกับการระบาดของไวรัสโนโรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกัน ไม่ว่าจะออกนอกบ้านหรือเดินทางไปท่องเที่ยวต่างถิ่น อย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองและครอบครัว เพื่อร่วมกันผ่านพ้นช่วงการระบาดสูงสุดนี้ไปด้วยกัน

☞ อ่านเพิ่มเติม
เตือนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวญี่ปุ่นเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ระวัง 3 โรคระบาด ไข้หวัดใหญ่ B-RSV-มือเท้าปาก

ที่มา : Yahoo Japan , yomiDr.