เมื่อพูดถึงฤดูหนาว ประเทศญี่ปุ่นถือว่ามีทิวทัศน์หิมะสุดโรแมนติกให้ชมมากมาย แต่สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ต้องขับรถไปเองจึงจะสะดวก การขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การขับบนถนนที่มีหิมะนั้น จะทำให้มีความอันตรายกว่าถนนทั่วไป บทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังในการเช่ารถช่วงหน้าหนาว, สิ่งที่ต้องระวังขณะขับรถและคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับการขับรถบนหิมะ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องควรรู้ก่อนออกเดินทาง!
ก่อนอื่นก็มาเช่ารถกันดีกว่า มาดูขั้นตอนกันเลย!
ก่อนอื่นเลย ถ้าจะเช่ารถในญี่ปุ่น สิ่งที่ขาดไม่ได้คือใบขับขี่ฉบับแปลภาษาญี่ปุ่น แนะนำให้จองรถล่วงหน้าก่อนไปด้วยและอย่าลืมพกของสำคัญไปด้วย ทั้งพาสปอร์ต, ใบขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและใบขับขี่ฉบับแปลภาษาญี่ปุ่น จะได้เช่ารถได้อย่างราบรื่น]
รวบรวมคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นเกี่ยวกับการขับรถบนถนนที่มีหิมะ!
คำศัพท์เกี่ยวกับการขับรถบนถนนที่มีหิมะ | คำอ่านออกเสียง | ความหมาย |
路面凍結(ろめんとうけつ)or アイスバーン | romentōketsu or aisubān | พื้นถนนเคลือบด้วยน้ำแข็งบาง ๆ |
スリップ | surippu | รถลื่นไถลไปในหิมะเนื่องจากสภาพถนนที่เป็นน้ำแข็ง |
ホワイトアウト | howaitoauto | ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเมื่อหิมะและลมแรงปะทะกัน ทำให้มองไม่เห็นทางข้างหน้า |
スタッドレスタイヤ | sutaddoresutaiya | ยางรถยนต์สำหรับฤดูหนาวและหิมะ |
タイヤチェーン | taiyache-nn | โซ่พันล้อสำหรับขับรถบนหิมะ |
การเตรียมพร้อมสำหรับการขับรถด้วยตนเองท่ามกลางหิมะ
การเปลี่ยนยางสำหรับฤดูหนาว
ในญี่ปุ่น พื้นที่ที่มีหิมะตกในฤดูหนาวจะต้องเปลี่ยนมาใช้ยางฤดูหนาว ยางรถสำหรับฤดูหนาวมีคุณสมบัติกันลื่นดีกว่ายางที่ใช้ในฤดูร้อน ดังนั้นถ้าคุณจะขับรถไปในพื้นที่หิมะ ยางฤดูหนาวถือเป็นสิ่งจำเป็นเลยล่ะ บริษัทรถเช่าในพื้นที่ที่มีหิมะตกส่วนใหญ่จะเปลี่ยนมาใช้ยางฤดูหนาวในช่วงหน้าหนาว ยกตัวอย่างเช่น บริษัท "Nippon Rent A Car" จะจัดเตรียมรถที่ติดตั้งยางฤดูหนาวไว้ให้เลยในพื้นที่ต่อไปนี้ฮอกไกโด, ทุกจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ, ทุกจังหวัดในภูมิภาคโฮคุริคุ,จังหวัดทตโตริ, จังหวัดชิมาเนะ, จังหวัดยามานาชิและจังหวัดนากาโนะ รถเช่าส่วนใหญ่จะมียางสำหรับฤดูหนาวติดมาให้เลย แต่ถ้าคุณวางแผนจะขับรถจากพื้นที่ที่หิมะตกน้อยไปยังแหล่งที่มีหิมะเยอะ ก็ต้องเลือกแพ็คเกจยางฤดูหนาวเพิ่มตอนจองรถนะ แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนิดหน่อย แต่รับรองว่าปลอดภัยกว่าแน่นอน
อย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศล่าสุดก่อนออกเที่ยวนะ
การเช็กสภาพอากาศสำคัญมากเวลาไปเที่ยวแหล่งหิมะนะ ถ้าหิมะตกหนักอาจทำให้มองอะไรไม่ค่อยเห็น แต่ถ้าหิมะหยุดตกแล้วท้องฟ้าแจ่มใส ก็ต้องระวังถนนลื่นจากน้ำแข็งด้วย ไม่ว่าจะเจอแบบไหนก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถ้าเจอพายุหิมะที่มีลมแรงด้วยนั้นอันตรายมาก ถึงขนาดอาจต้องยกเลิกทริปเลยทีเดียว ดังนั้นให้เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ไว้ก่อนดีกว่า
เว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่แนะนำของญี่ปุ่นได้แก่:Yahoo!天気、tenki.jp,weathernews
4 เทคนิคเด็ดสำหรับการขับรถบนถนนที่มีหิมะ
แน่นอนว่าทิวทัศน์หิมะสวย ๆ นั้นเชิญชวนให้อยากออกไปชมอย่างยิ่ง แต่ต้องระวังไว้ว่าการออกเดินทางแบบไม่เตรียมตัวอะไรเลย อาจเป็นอันตรายได้ ลองดู 4 เทคนิคเด็ดต่อไปนี้กันดีกว่า จะได้ขับรถท่องเที่ยวในหิมะได้อย่างสบายใจ!
① ลดความเร็วลงและเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น
การขับรถบนถนนที่มีหิมะนั้นต่างจากถนนทั่วไปมากเลยนะ ทัศนวิสัยไม่ดีเท่าสภาพอากาศปกติและพื้นถนนอาจเป็นน้ำแข็ง ดังนั้น ต้องขับช้า ๆ ระวัง ๆ กันหน่อย โดยทั่วไปแนะนำให้ขับช้ากว่าปกติ 10 กม./ชม.และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเป็นสองเท่าของปกติ พยายามหลีกเลี่ยงการเร่งและเบรกกะทันหัน นอกจากนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนหรือแซงเช่นกัน เพราะอาจทำให้รถลื่นไถลออกนอกถนนได้ หากจองร้านอาหารหรือโรงแรมไว้แล้ว ต้องออกเดินทางเร็วขึ้น จะได้เผื่อเวลาไว้เยอะ ๆ!
ระวังพื้นถนนเป็นน้ำแข็งดำนะ!
หลังจากหิมะละลายแล้วกลับมาเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง ถนนอาจดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่จริง ๆ แล้วมันลื่นมาก ๆ เรียกว่า "ถนนน้ำแข็งดำ" ถนนแบบนี้ทำให้มองไม่ค่อยออกว่ามีน้ำแข็ง จึงอันตรายกว่าถนนที่มีหิมะซะอีก ในช่วงไม่กี่วันหลังหิมะละลาย ต้องระวังถนนที่ดูเงาวับเป็นพิเศษเลย อย่าคิดว่าไม่มีหิมะแล้วจะขับเร็วได้นะ!
② พยายามเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้เสมอ
การขับรถบนถนนที่มีหิมะจะทำให้รถกินน้ำมันเร็วกว่าปกติ ดังนั้นแนะนำว่าคุณควรเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนออกเดินทาง และคอยสังเกตระดับน้ำมันอยู่เสมอ เพราะถ้าน้ำมันหมดกลางทางบนถนนที่มีหิมะ นอกจากจะทำให้คุณเสียรถแล้ว ยังทำให้คุณขาดแหล่งให้ความอบอุ่นที่สำคัญที่สุดด้วย การขอความช่วยเหลือก็จะยากลำบากมากขึ้น เพื่อความไม่ประมาท ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไว้ในรถด้วยนะ
③ เลือกใช้ถนนสายหลัก
แม้ว่าโดยทั่วไปเราจะใช้แอพนำทางหรือระบบนำทางในรถยนต์เป็นหลัก แต่ก็แนะนำให้เลือกเส้นทางทางด่วนหรือถนนสายหลักและพยายามขับตามรอยล้อของรถคันหน้าเข้าไว้ เพราะถนนสายหลักมักจะมีการกวาดทำความสะอาดหิมะที่ดีกว่าถนนอื่น ๆ และถนนที่มีรถวิ่งเยอะ ก็จะทำให้หิมะไม่สะสมลึกมาก ถ้าขับเข้าไปในซอยเล็ก ๆ หรือถนนเล็กในภูเขาที่หิมะสะสมลึก อาจทำให้ล้อรถจมลงในหิมะและไม่สามารถขยับได้ ถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นถนนสายหลักหรือไม่ ให้สังเกตว่าบนถนนนั้นมีรอยล้อรถหรือเปล่า ถ้าไม่เห็นร่องรอยรถผ่านเลย ก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะขับเข้าไปการลัดเลาะไปตามเส้นทางที่มีหิมะไม่ได้ทำให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้นเสมอไป แต่กลับเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
④ ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นก่อนออกเดินทางและต้องปัดหิมะออกให้หมด
เวลาจอดรถในหิมะ ทุกคนมักจะยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ที่ปัดน้ำฝนติดแข็งกับกระจกหน้ารถและยังช่วยให้ปัดหิมะออกจากกระจกได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้ากระจกหน้ารถเกิดน้ำแข็งเกาะจนไม่สามารถใช้ที่ปัดน้ำฝนทำความสะอาดได้ ให้ใช้น้ำอุณหภูมิปกติหรือใช้ อุปกรณ์ละลายน้ำแข็งแบบเร็วที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาที่สำคัญก็คือ อย่าใช้น้ำร้อนราดลงบนกระจกโดยตรงเด็ดขาด !!! เพราะอาจทำให้กระจกแตกร้าวได้เนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิ ถ้าไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ก็ให้ออกจากบ้านแต่เช้าแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ ใช้วิธีทำให้รถอุ่นขึ้นเพื่อละลายน้ำแข็งบนกระจกบังลมอย่างช้า ๆ
นอกจากนี้ ก่อนออกเดินทางอย่าลืมปัดหิมะที่สะสมบนหลังคารถออกด้วยนะ ถ้าไม่ปัดออก หิมะอาจจะร่วงลงมาบนกระจกหน้ารถของเราหรือรถคันหลังตอนเร่งหรือเบรก ทำให้บดบังทัศนวิสัย ถ้าหนัก ๆ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้! นอกจากหลังคาแล้ว อย่าลืมปัดหิมะออกจากบริเวณข้างล้อ, ฝากระโปรงหน้า, ไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟเลี้ยวและกระจกมองข้างด้วย เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
หลังจากอ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการขับรถบนหิมะข้างต้นแล้ว คุณพอจะเข้าใจเบื้องต้นแล้วใช่ไหมล่ะ? การขับรถในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังรู้สึกว่าการขับรถบนหิมะนั้นอันตราย ดังนั้น เราจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก แต่ถ้าคุณสามารถขับรถบนหิมะได้อย่างราบรื่น คุณก็จะได้สัมผัสทิวทัศน์หิมะที่สวยงามมากมายได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นฮอกไกโด ภูมิภาคโทโฮคุ ภูมิภาคชูบุหรือภูมิภาคโฮคุริคุ ทุกที่ล้วนมีวิวสวย ๆ ที่รอให้คุณไปค้นพบ!