คนจำนวนมากชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเวลาเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นหรืออยู่ในประเทศของตนเอง แต่ ”มารยาทการทานอาหารญี่ปุ่น" จริงๆ นั้นเป็นอย่างไรกันนะ? เพราะชาวญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญกับมารยาท จึงมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับกฎบนโต๊ะอาหารที่คุณไม่ควรพลาด! บทความนี้ได้รวบรวม 10 พฤติกรรมต้องห้ามในร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูง พร้อมบอกมารยาทบนโต๊ะอาหารที่ถูกต้องให้ทุกคนทราบ

พฤติกรรมต้องห้ามที่ 1: วางตะเกียบพาดบนชามหรือจาน
มารยาทบนโต๊ะอาหารของญี่ปุ่น แค่เรื่องตะเกียบก็มีกฎมากกว่า 20 ข้อแล้ว! หนึ่งในนั้นที่ยกมาพูดคือสิ่งที่คนทั่วไปอาจไม่เคยสังเกต แต่จริงๆ แล้วเป็นข้อห้าม นั่นคือ เมื่อต้องการวางตะเกียบระหว่างมื้ออาหาร ห้ามวางบนชามหรือจานอาหารโดยตรง วิธีที่ถูกต้องคือวางบนที่พักตะเกียบ แล้วถ้าไม่มีที่พักตะเกียบล่ะ? วางบนถาดได้เลยไม่มีปัญหา! หรือใช้ซองตะเกียบมาพับเป็นปมแทนที่พักตะเกียบก็ได้

การวางตะเกียบบนชามหรือจานโดยตรงเป็นพฤติกรรมต้องห้าม ที่มาของภาพ: Rakuten

ควรวางตะเกียบบนที่พักตะเกียบ ที่มาของภาพ: フリー素材ドットコム
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 2: เลือกกินแต่สิ่งที่ชอบก่อน
เมื่อเจอจานอาหารที่มีหลายอย่างรวมกันหรือซาชิมิ คุณอยากจะเลือกกินสิ่งที่ชอบก่อนตามใจชอบ? นี่เป็นพฤติกรรมต้องห้ามนะ! คุณควรเริ่มจากด้านหน้าสุด และรับประทานจากซ้ายไปขวาตามลำดับ เพราะการจัดวางอาหารญี่ปุ่นจากซ้ายไปขวานั้นมีรสชาติจากจืดไปเข้มข้น นอกจากนี้ อาหารที่กัดไปแล้วห้ามนำกลับไปวางในภาชนะเดิม วิธีรับประทานที่ถูกต้องคือวางไว้บนจานเล็ก เพื่อไม่ให้โต๊ะอาหารดูสกปรก

พฤติกรรมต้องห้ามที่ 3: ใช้ช้อนคนชาวังมุชิจนเกิดเสียง

เมื่อใช้ช้อนตักชาวังมุชิ ห้ามทำให้เกิดเสียง ที่มาของภาพ: フリー素材ドットコム
ทุกคนคุ้นเคยกับชาวังมุชิดี วิธีรับประทานที่ถูกต้องคือใช้ช้อนหรือตะเกียบเลื่อนตามขอบด้านในของภาชนะตามเข็มนาฬิกาหนึ่งรอบ เพื่อให้ไข่ตุ๋นแยกออกจากภาชนะและง่ายต่อการรับประทาน จากนั้นไม่ว่าคุณจะคนส่วนผสมกับไข่ตุ๋นเข้าด้วยกัน หรือรับประทานทีละชั้นจากบนลงล่างก็ได้ สิ่งที่ต้องระวังคือการคน โดยเฉพาะเมื่อต้องการตักส่วนผสมด้านล่าง ควรพยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกันของช้อนกับภาชนะจนเกิดเสียงดัง การคนชาวังมุชิไม่ใช่พฤติกรรมต้องห้าม แต่การทำให้เกิดเสียงต่างหาก
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 4: วางผักดองบนข้าวขาวโดยตรง
ในลำดับการเสิร์ฟอาหารแบบไคเซกิ ข้าวขาว ซุปมิโซะ และโคโนะโมโนะ (ผักดอง) เป็นจานสุดท้าย หลังจากนั้นจะเสิร์ฟของหวานและผลไม้ ในตอนนี้ วิธีการรับประทานที่ถูกต้องตามมารยาทญี่ปุ่นคือ ทานข้าวขาวคำหนึ่งก่อน แล้วดื่มซุปนิดหน่อย ต่อมาจึงเป็นการทานผักดองสลับกับซุปและข้าว และพึงระลึกไว้ว่า ห้ามวางผักดองบนข้าวขาวโดยตรง เหมือนการกินหมูหยองกับข้าว นี่เป็นการละเมิดมารยาทบนโต๊ะอาหารญี่ปุ่น! นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งข้อที่ต้องระวัง คือ ห้ามทานผักดองก่อน ในร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูง หากคุณทานผักดองก่อนข้าวขาว นั่นเป็นการบอกเป็นนัยว่า "เซ็ตอาหารวันนี้ไม่อร่อย"

การวางผักดองบนข้าวขาวโดยตรงเป็นพฤติกรรมต้องห้าม ที่มาของภาพ: PAKUTASO
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 5: วางฝาชามคว่ำลงทำให้โต๊ะอาหารเปียก
เคยประสบปัญหาเปิดฝาชามยากไหม? วิธีเปิดฝาที่ถูกต้องคือการใช้มือซ้ายจับชามเบาๆ ใช้มือขวาหมุนเบาๆ ก็จะสามารถยกฝาขึ้นได้อย่างง่ายดาย แต่ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้! ฝาชามที่ยกออกต้องหงายขึ้นวางบนโต๊ะ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ไอน้ำด้านในฝาชามหยดลงบนโต๊ะ หลังจากดื่มซุปเสร็จ อย่าลืมปิดฝากลับลงบนชามซุปให้เรียบร้อย และขอเตือนทุกคนว่า โปรดอย่าขอช้อนจากพนักงานร้านเพื่อดื่มซุป ควรใช้ตะเกียบหยิบส่วนผสมในชามซุป แล้วยกชามขึ้นดื่มโดยตรง

การวางฝาชามโดยคว่ำด้านในลงนั้นไม่ถูกต้อง ที่มาของภาพ: やさしい漆

การวางฝาชามโดยหงายด้านในขึ้นจะช่วยป้องกันไอน้ำหยดลงบนโต๊ะ ที่มาของภาพ: gracy
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 6: ใช้ผ้าเปียกเช็ดหน้า

ผ้าเปียกใช้เฉพาะเช็ดมือเท่านั้น ที่มาของภาพ: ヒトサラ
ร้านอาหารญี่ปุ่นมักจะเสิร์ฟผ้าเปียกให้ลูกค้าหลังจากที่นั่งลง ในฤดูหนาวจะเป็นผ้าร้อน ส่วนฤดูร้อนจะเป็นผ้าเย็น ผ้าเหล่านี้มีไว้ให้ลูกค้าเช็ดมือก่อนรับประทานอาหาร ไม่ควรนำผ้าเปียกมาแปะที่หน้าผาก ตา หรือลำคอ หรือใช้เป็นกระดาษเช็ดปากเช็ดปาก รวมถึงไม่ควรใช้เช็ดโต๊ะ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนเคยเห็นหรือเคยทำสิ่งเหล่านี้ และแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังทำ แต่เมื่อรับประทานอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูง ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว
วิธีการใช้ "ผ้าเปียก" ที่ถูกต้องและเหมาะสมตามมารยาทคือ คลี่ผ้าออกและใช้เพียงด้านเดียวเช็ดมือ หลังจากนั้นพับด้านที่สกปรกไว้ด้านใน แล้ววางกลับที่เดิม อย่าลืมนะ!
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 7: ฉีดน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุน

การไม่ฉีดน้ำหอมเมื่อไปทานซูชิระดับสูงถือเป็นมารยาท ที่มาของภาพ: PAKUTASO
แม้ว่าการฉีดน้ำหอมพอประมาณจะถือเป็นการตกแต่งลุคโดยรวมให้ดูดี แต่การไม่ฉีดน้ำหอมเมื่อไปทานซูชิระดับสูงหรือร้านอาหารญี่ปุ่นระดับมิชลิน ถือเป็นมารยาทที่ถูกต้อง แม้ว่าคุณจะยืนยันที่จะฉีดน้ำหอม ก็โปรดหลีกเลี่ยงน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุน ทั้งนี้เพื่อรักษาประสาทสัมผัสการได้กลิ่นและรสชาติที่บริสุทธิ์ และสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติดั้งเดิมของอาหารได้อย่างเต็มที่!
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 8: ใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น และไม่ใส่ถุงเท้า

การแต่งกายต้องเหมาะสมกับสถานที่ ที่มาของภาพ: phtot AC
ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้นกับรองเท้าแตะ ผู้ชายสวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูงนั้นถือเป็นมารยาทที่ไม่สุภาพนัก ในกรณีร้ายแรงอาจถึงขั้นถูกยกเลิกการจองทันที โดยเฉพาะเมื่อไปรับประทานอาหารในร้านแบบบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิม ส่วนใหญ่ต้องถอดรองเท้าและเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะที่ทางร้านเตรียมไว้ ในกรณีนี้ การเท้าเปล่าจะถือว่าไม่สุภาพและไม่ถูกสุขอนามัย หากวันนั้นคุณใส่รองเท้าแตะ โปรดอย่าลืมเตรียมถุงเท้าหรือถุงน่องไปด้วย
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 9: สวมเครื่องประดับมือจำนวนมาก

เมื่อไปร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูง ควรถอดนาฬิกาและเครื่องประดับออก ที่มาของภาพ: phtot AC
การสวมเครื่องประดับสวยงามไปร้านอาหารหรูๆ อาจเป็นการแสดงความเคารพต่อโอกาสพิเศษ เชื่อว่าหลายคนคิดเช่นนี้ แต่เมื่อไปร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูง ควรถอดเครื่องประดับทั้งหลายออกก่อนรับประทานอาหาร เนื่องจากภาชนะในร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูงมักมีราคาแพง การไม่สวมเครื่องประดับจะช่วยหลีกเลี่ยงการทำให้ภาชนะมีค่าเหล่านี้เป็นรอยโดยไม่ตั้งใจ
พฤติกรรมต้องห้ามที่ 10: มาสาย 15 นาทีขึ้นไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

หากจะมาสายหรือเปลี่ยนแปลงจำนวนคน โปรดแจ้งทางร้านให้ทราบ ที่มาของภาพ: PR TIMES
ก่อนไปร้านอาหารญี่ปุ่น ปกติทุกคนจะจองล่วงหน้าทางออนไลน์หรือโทรศัพท์ นอกจากช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่ามีที่นั่งแล้ว ทางร้านยังสามารถทราบล่วงหน้าว่าลูกค้าแพ้อาหารชนิดใดเพื่อเตรียมการ และในวันนั้นจะได้เสิร์ฟอาหารด้วยจังหวะที่ "แม่นยำและสมบูรณ์แบบ" ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม
หากมีเหตุฉุกเฉินที่ทำให้มาสายหรือไม่สามารถมาได้ ต้องแจ้งให้ทางร้านทราบ เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดการใหม่และไม่กระทบต่อการต้อนรับลูกค้าท่านอื่น! แล้วเวลาไหนถึงจะเหมาะสมที่สุดในการไปถึงร้าน? คำตอบคือ 5-10 นาทีก่อนเวลาที่จอง การไปถึงเร็วเกินไปก็อาจสร้างความลำบากให้กับทางร้านเช่นกัน
มารยาทการทานอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูงเป็นเรื่องสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรเรียนรู้ เพราะนอกจากจะแสดงถึงความเคารพต่อวัฒนธรรมอาหารที่เป็นมรดกโลกแล้ว ยังช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
☞ อ่านเพิ่มเติม
・เรื่องควรรู้! 5 พฤติกรรมไม่ควรทำเมื่อไป "ร้านยากินิกุ" ที่ประเทศญี่ปุ่น
แหล่งข้อมูล: PR TIMES