ถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่น แน่นอนว่าเนื้อย่างอยู่ในลิสต์เมนูที่ต้องไปชิมของหลายๆ คนแน่นอน! และเว็บไซต์ของญี่ปุ่น goo ก็ได้จัดโหวต "ร้านเนื้อย่างที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น" มาแล้ว! มาดูกันว่า 7 อันดับในใจชาวเน็ตญี่ปุ่นนับพันคน มีร้านอร่อยอะไรบ้าง? เราจะวิเคราะห์ให้ผู้อ่านทีละร้าน เพื่อให้ทุกคนตามรอยอร่อยกันได้เลย!

อันดับ 1 : "Jojoen" สัญลักษณ์ของร้านเนื้อย่างระดับพรีเมียม
แชมป์ที่ไม่ต้องสงสัยก็คือร้าน "Jojoen" ที่โดดเด่นที่สุด! Jojoen ปรากฏในละครญี่ปุ่น ภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้อยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็น"สัญลักษณ์ของร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นระดับพรีเมียม" โดยมื้อเย็นราคาเฉลี่ยต่อคนประมาณ 8,000 เยน ส่วนเซ็ตเมนูเริ่มต้นที่หมื่นเยนขึ้นไป หากอยากลองชิมความอร่อยแต่ไม่อยากเสียเงินมาก แนะนำให้เลือกกล่องเบนโตะเนื้อย่างแบบซื้อกลับบ้าน หรือเซ็ตอาหารกลางวันสุดคุ้มค่าราคา 2,500 เยน

กล่องเบนโตะเนื้อย่าง(ที่มีของภาพ : Jojoen)

ป้ายร้าน Jojoen(ที่มีของภาพ : wikipedia)
Jojoen ยึดหลักการ "คัดสรรคุณภาพ" โดยมีเชฟผู้เชี่ยวชาญคัดเลือกเนื้อวากิวระดับพรีเมียมอย่างเข้มงวด นอกจากเนื้อแล้ว ผักดอง สลัด ซอสย่าง รวมถึงภาชนะที่ใช้เสิร์ฟก็พิถีพิถันเป็นพิเศษ ทั้งวัตถุดิบ การบริการ และรสชาติได้รับการยอมรับในทุกด้าน มีสาขามากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น สามารถหาสาขาได้ง่ายในเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างโตเกียวและโอซาก้า

อันดับ 2 : "Gyukaku" ร้านเนื้อย่างที่มีสาขามากกว่า 600 แห่งทั่วญี่ปุ่น
"Gyukaku" ที่เพื่อน ๆ ชาวไทยคุ้นเคยกันดี ได้รับการจัดอันดับให้เป็นร้านอร่อยอันดับ 2 ตามหลัง Jojoen ที่เป็นอันดับ 1 เพียง 12 คะแนนเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าชื่อเสียงของร้านก็ดีไม่แพ้กัน! Gyukaku มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยนับถึงเดือนมิถุนายน 2019 มีมากกว่า 620 สาขา นับเป็นเครือร้านเนื้อย่างที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังขยายสาขาไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

(ที่มีของภาพ : wikipedia)

(ที่มีของภาพ : Gyukaku Facebook)
การมีสาขาจำนวนมากนอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวหาร้านได้ง่ายแล้ว อีกข้อดีหนึ่งคือร้านสามารถสั่งวัตถุดิบในปริมาณมากเพื่อลดต้นทุน และยังสามารถจัดหาเนื้อส่วนที่หายากได้ด้วย ในร้านมีเมนูให้เลือกมากกว่า 120 รายการ อีกทั้ง Gyukaku ยังมีเซ็ตบุฟเฟ่ต์ที่ทุกคนชื่นชอบ ในราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้บริโภค
อันดับ 3: "Yakiniku KING" ร้านที่พนักงานแปลงร่างเป็นตำรวจเนื้อย่างคอยช่วยย่างเนื้อให้
อันดับ 1 และ 2 คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น แต่อันดับ 3 อย่าง "Yakiniku KING" ถือเป็นร้านที่มีผลงานโดดเด่นที่คุณต้องรู้จัก! Yakiniku KING เปิดสาขาแรกในปี 2007 และนับถึงเดือนกันยายน 2020 มีสาขามากกว่า 240 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าที่ตั้งของสาขาส่วนใหญ่จะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองที่คึกคัก แต่ความเร็วในการขยายสาขาก็แสดงให้เห็นถึงระดับความนิยมของร้านนี้!

(ที่มีของภาพ : wikipedia)

(ที่มีของภาพ : Yakiniku KING)
แม้ว่า Yakiniku KING จะไม่ได้เน้นวัตถุดิบระดับพรีเมียม แต่ก็มีวัตถุดิบคลาสสิกสำหรับเนื้อย่างครบครัน ทั้งไก่ หมู เนื้อวัว อาหารทะเล และเครื่องในต่างๆ พร้อมเซ็ตบุฟเฟ่ต์ที่มีวัตถุดิบให้เลือกถึง 58 ชนิด ภายในร้าน Yakiniku KING ยังมีพนักงานที่คอยช่วยย่างเนื้อและสอนเทคนิคการย่างเนื้อ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ตำรวจเนื้อย่าง" การออกแบบที่น่าสนใจเหล่านี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร้านได้รับความนิยม
อันดับ 4: "ONE KARUBI" ร้านที่แบ่งราคาบุฟเฟ่ต์ตามช่วงอายุ
"ONE KARUBI" มีต้นกำเนิดจากโอซาก้าในภูมิภาคคันไซ เป็นแบรนด์ร้านเนื้อย่างในเครือบริษัทอาหาร ONE DINING สาขาส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ รองลงมาคือภูมิภาคคิวชูและคันโต

(ที่มีของภาพ : ONE KARUBI)

(ที่มีของภาพ : ONE KARUBI)
ONE KARUBI มีเซ็ตให้เลือกหลากหลาย เช่น "บุฟเฟ่ต์ลิ้นวัวรสเกลือ", "บุฟเฟ่ต์เนื้อวัวญี่ปุ่น" และ "บุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง" โดยมีการกำหนดราคาตามช่วงอายุ ยกตัวอย่างเช่น บุฟเฟ่ต์ลิ้นวัวรสเกลือ ราคาทั่วไป 4,080 เยน สำหรับนักเรียนประถมลดราคาลงครึ่งหนึ่งเหลือ 2,040 เยน เด็กอายุ 4-6 ขวบ จ่ายเพียง 570 เยน และเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ฟรี! นอกจากนี้ ลูกค้าที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป, 60 ปีขึ้นไป และ 70 ปีขึ้นไป ก็มีราคาที่ถูกลงด้วย จึงเหมาะมากสำหรับการพาครอบครัวมารับประทาน เพราะมีส่วนลดพิเศษมากมาย!
อันดับ 5: "Anrakutei" ร้านที่เสิร์ฟเนื้อธรรมชาติ 100%
"Anrakutei" ที่ได้อันดับ 5 มีฐานที่มั่นหลักอยู่ในภูมิภาคคันโต ปัจจุบันมีสาขาประมาณ 230 แห่ง เสิร์ฟเนื้อธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเจือปน เนื้อมีความสดและเนื้อสัมผัสละเอียด ส่วนซอสสูตรลับที่ใช้ก็ผลิตจากโรงงานของตัวเอง ไม่มีการเติมเครื่องปรุงกลิ่นรสหรือวัตถุกันเสีย ทำให้ผู้บริโภคสามารถทานได้อย่างสบายใจและมีความสุข

(ที่มีของภาพ : Anrakutei)

(ที่มีของภาพ : Anrakutei)
จุดขายที่สำคัญของ Anrakutei คือการมีบุฟเฟ่ต์หลายระดับให้เลือก ตั้งแต่เซ็ตหรูหราที่สามารถทานเนื้อวากิวดำได้ไม่อั้น (5,980 เยน), เซ็ตพิเศษ (3,980 เยน), เซ็ตอันราคุเทสุดคุ้ม (2,980 เยน) ไปจนถึงเซ็ตทานง่าย (2,480 เยน) ที่มีวัตถุดิบคลาสสิกทั่วไปให้เลือก สามารถเลือกได้ตามงบประมาณ ทำให้รับประทานได้อย่างสบายใจไม่กดดัน
อันดับ 6: "AMIYAKITEI" ร้านที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้เชี่ยวชาญ

(ที่มาของภาพ: wikipedia)

(ที่มีของภาพ : AMIYAKITEI)
"AMIYAKITEI" มีสาขากระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคคันโตและจูบุ แม้ว่าที่ตั้งจะไม่ได้อยู่ในย่านการค้าที่คึกคัก แต่ร้านนี้ใส่ใจในทุกรายละเอียดจากมุมมองของ "ผู้เชี่ยวชาญ" ตั้งแต่มาตรฐานการคัดเลือกวัตถุดิบ การหั่นเนื้อ ไปจนถึงวิธีการเก็บรักษา บุฟเฟ่ต์แบ่งเป็น 4 ระดับ ราคาอยู่ระหว่าง 2,500 ถึง 4,000 เยน ทุกระดับสามารถทานเนื้อวัวญี่ปุ่นได้ มีบาร์เครื่องดื่ม พร้อมของหวาน และเด็กที่ยังไม่เข้าประถมสามารถทานได้ฟรี จึงเหมาะมากสำหรับการวางแผนมาทานตอนท่องเที่ยวกับครอบครัว!
อันดับ 7: "Yakiniku TORAJI" แบรนด์เนื้อย่างระดับพรีเมียมที่กำเนิดจากย่านเอะบิสุ โตเกียว
"Yakiniku TORAJI" เป็นร้านเนื้อย่างที่มีต้นกำเนิดจากย่านเอะบิสุ โตเกียว สาขาส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคคันโต และยังมีสาขาในจังหวัดไอจิ โอซาก้า และเกียวโต พวกเขาเชื่อว่า "ความอร่อยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต" และวางตัวเป็นร้าน"เนื้อย่างแบบดั้งเดิม" เสิร์ฟวัตถุดิบพิถีพิถันมากมาย เช่น "ลิ้นวัวสด" ที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง เสิร์ฟให้ลูกค้าด้วยความสดระดับสูงสุด นับเป็นวัตถุดิบระดับซูเปอร์พรีเมียม

แม้ว่า Yakiniku TORAJI จะไม่มีบริการบุฟเฟ่ต์ แต่มีการออกแบบคอร์สอาหาร 4 แบบ โดยคอร์สที่หรูหราที่สุดคือ "Royal course" ราคา 13,000 เยนต่อคน ทั้งเนื้อและอาหารทะเลล้วนเป็นระดับพรีเมียม เช่น เนื้อสันนอกวากิวดำคัดพิเศษ ลิ้นวัววากิวดำคัดพิเศษ เนื้อส่วนหายากอย่างเนื้อไหล่และเนื้อสันในวากิวดำคัดพิเศษ ต้องจองล่วงหน้า 3 วันถึงจะได้ทาน! และซอสเนื้อย่างของทางร้านก็มีชื่อเสียงมากด้วยนะ!

สรุปอันดับร้านเนื้อย่างที่อร่อยที่สุด!
ลำดับที่ 1 | Jojoen |
---|---|
ลำดับที่ 2 | Gyukaku |
ลำดับที่ 3 | Yakiniku KING |
ลำดับที่ 4 | ONE KARUBI |
ลำดับที่ 5 | Anrakutei |
ลำดับที่ 6 | AMIYAKITEI |
ลำดับที่ 7 | Yakiniku TORAJI |
เนื้อย่างญี่ปุ่นแต่ละร้านมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านยากินิกุระดับมิชลิน หรือร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นราคาย่อมเยา ล้วนมอบประสบการณ์การทานเนื้อวากิวคุณภาพเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด เก็บลิสต์ร้านเด็ดไว้ แล้วไปลองชิมกันในทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า
ที่มา:goo Ranking