ที่ญี่ปุ่น ถังขยะไม่ได้มีให้เห็นทั่วไปตามท้องถนนเหมือนประเทศไทย แต่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าไม่อยากถือขยะไปทั้งวัน ให้ลองมองหา 4 จุดนี้ที่มักจะมีถังขยะตั้งอยู่ แต่บางทีการเจอถังขยะแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจบนะ! เพราะถังขยะมักจะตั้งเรียงรายมาเป็นชุดและมีให้ใส่หลากหลายประเภท ดังนั้นอย่าลืมสังเกตป้ายบอกประเภทขยะด้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องขยะในญี่ปุ่นอีกต่อไป

จำ 4 จุดเด่นนี้ไว้ รับรองหาถังขยะได้ง่ายแน่นอน!
จุดทิ้งขยะสุดฮิต ① : ร้านสะดวกซื้อ @ 7-11, FamilyMart, Lawson
ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง สามารถพบเห็นได้ทุกที่ ไม่เพียงแต่สามารถซื้อเครื่องดื่มแก้กระหายได้เท่านั้น แต่ยังช่วยนักท่องเที่ยวให้รอดพ้นจากสถานการณ์ "ไม่มีที่ทิ้งขยะ" อีกด้วย ถังขยะในร้านสะดวกซื้อถือเป็นบริการหลังการขายสำหรับลูกค้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มสามารถทิ้งขยะที่เกิดขึ้นหลังจากรับประทานหรือดื่มได้ แต่เชื่อว่าถ้าคุณจะทิ้งขยะชิ้นเล็ก ๆ เพิ่มอีกสักหนึ่งหรือสองชิ้น เช่น กระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้ว ก็คงไม่มีใครว่าอะไรหรอกนะ!
หลังจากสถานการณ์โควิด ร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่ย้ายถังขยะเข้าไปไว้ในร้าน ถ้าคุณอยากใช้บริการ แนะนำให้ซื้อของหรือทานขนมในร้านสักหน่อยนะ เพื่อช่วยสนับสนุนยอดขายของเขา อย่าเดินเข้าร้านเพื่อทิ้งขยะอย่างเดียวล่ะ
เกร็ดน่ารู้:ร้านสะดวกซื้อบริเวณสถานีรถไฟที่พลุกพล่านอย่างสถานีชินจูกุ อาจไม่มีถังขยะไว้บริการลูกค้า เนื่องจากเหตุผลด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย เพื่อน ๆ นักท่องเที่ยวโปรดช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าทิ้งขยะเรี่ยราดนะ!
จุดทิ้งขยะยอดฮิต ② : ซูเปอร์มาร์เก็ต @ LIFE, SUMMIT, Co-op, maruetsu

นอกจากร้านสะดวกซื้อที่เราอาจเจอระหว่างทาง ยังมีอีกตัวเลือกหนึ่งคือซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นเอง ซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่จะมีถังขยะตั้งอยู่ โดยมักจะอยู่บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์คิดเงิน เนื่องจากซูเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นส่วนมากไม่ได้บริการแพ็คของให้ลูกค้า จึงมีโต๊ะวางไว้หลังเคาน์เตอร์คิดเงินให้ลูกค้าแพ็คของเองและถังขยะก็จะอยู่ใต้โต๊ะพวกนี้นี่แหละ แม้ว่าจะต้องเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาถังขยะ แต่ก็ถือว่าเป็นถังขยะที่สะดวกใช้ได้ทีเดียว
※ แล้วก็อย่าลืมรักษามารยาทด้วยล่ะ ให้ทิ้งแค่ขยะชิ้นเล็ก ๆ เบา ๆ เท่านั้นนะ ถ้าเป็นถุงขยะใหญ่ ๆ จะสร้างภาระให้กับร้านค้าได้ แนะนำให้นำกลับไปทิ้งที่โรงแรมจะดีกว่า
จุดทิ้งขยะยอดฮิต ③:ข้าง ๆ ตู้กดน้ำอัตโนมัติ


หากคุณกำลังถือขวดพลาสติกเปล่า (ขวดพลาสติก)หรือกระป๋องอลูมิเนียมเปล่าอยู่ในมือ คุณยังมีอีกหนึ่งจุดยอดฮิตที่น่าสนใจ ในญี่ปุ่นมีตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ (ตู้น้ำอัดลม)มากมายและข้าง ๆ มักจะมีถังรีไซเคิลสำหรับขวดพลาสติกหรือกระป๋องอลูมิเนียมไว้ให้โดยเฉพาะ ซึ่งระบุชัดเจนว่าใช้สำหรับรีไซเคิล แต่อย่าลืมปฏิบัติตามกฎน ห้ามทิ้งขยะอื่น ๆ ลงไปเด็ดขาด และต้องดูให้ดีว่าเป็นถังรีไซเคิลประเภทไหน บางถังรับขวดพลาสติก กระป๋องอลูมิเนียมและขวดแก้ว แต่บางถังก็รับเฉพาะประเภทเดียว อย่าลืมสังเกตให้ดีหล่ะ!
จุดทิ้งขยะยอดฮิต ④:ในสถานีรถไฟ @ JR
ก่อนการระบาดของโควิด-19 สถานีรถไฟส่วนใหญ่ในเขตเมืองหลวงมีถังขยะตั้งอยู่ภายในประตูตรวจตั๋ว (พื้นที่ชำระเงิน) แต่หลังจากการระบาด บริษัทรถไฟส่วนใหญ่ได้ยกเลิกการวางถังขยะ รวมถึงรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร, รถไฟใต้ดินโตเกียว รถไฟเซบุ,รถไฟโอดาคิว และรถไฟโทคิว มีเพียงJR ที่นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น และยังคงมีถังขยะอยู่ในบางสถานี บางครั้งอยู่ใกล้ประตูตรวจตั๋ว บางครั้งก็อยู่บนชานชาลา ปัจจุบันถังขยะในสถานีรถไฟมีน้อยลงเรื่อย ๆ การหาเจอหรือไม่เจอขึ้นอยู่กับดวงเป็นหลัก ถ้าใครเห็นถังขยะ นับว่าโชคดีแล้วล่ะ!
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย:แม้ว่าสถานีรถไฟส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ JR จะเอาถังขยะออกไปแล้ว แต่บนรถไฟด่วนพิเศษแบบเสียค่าโดยสารเพิ่ม (เช่น Odakyu Romancecar, Seibu Limited Express Laview, JR Fuji Excursion ฯลฯ) ยังคงมีถังขยะไว้ให้ผู้โดยสารใช้งานอยู่นะ ถ้าใครวางแผนจะนั่งรถไฟพวกนี้ ก็สามารถนำขยะขึ้นไปทิ้งบนรถได้เลย!
ไม่ว่าจะอยากทิ้งขยะแค่ไหน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎนะ!

เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น ปัญหาเรื่องขยะไม่ได้เกิดจากการหาถังขยะไม่เจอเท่านั้น แต่บางครั้งแม้จะเจอถังขยะก็ไม่สามารถใช้ได้ โดยทั่วไปแล้ว ความรับผิดชอบในการจัดการขยะและถังขยะจะขึ้นอยู่กับผู้ดูแลพื้นที่นั้น ๆ เช่น JR ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสวนสาธารณะ เนื่องจากไม่มีหน่วยงานกลางที่ดูแล จึงทำให้ไม่ได้มีถังขยะในทุกที่และแม้จะมีก็อาจมีรูปแบบแตกต่างกันไป เช่น บางที่ทิ้งขยะบางประเภทได้ แต่บางประเภทไม่ได้ ภาพด้านบนเป็นป้ายเตือนในสวนสาธารณะที่ไม่มีถังขยะ ขอให้นักท่องเที่ยวนำขยะกลับไปทิ้งเอง ถ้าหาที่ทิ้งไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องเอากลับไปทิ้งที่โรงแรมนั่นแหละ!
ถังขยะที่มีป้ายบอกประเภทชัดเจน

"ห้ามทิ้งขยะที่เกิดจากนอกเขตทางด่วนนะ" ที่มาของภาพ:photo AC
นอกจาก 4 จุดที่กล่าวมาแล้ว บางครั้งอาจเห็นแถวยาวของถังขยะที่มีป้ายประกาศติดอยู่ แต่อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ เพราะอาจไม่สามารถใช้ถังขยะเหล่านี้ได้ทุกใบ ถังขยะหลายใบในญี่ปุ่นเป็นของเอกชน เมื่อเจ้าของพื้นที่ไม่ต้องการให้มีขยะที่ไม่เกี่ยวข้องมากเกินไป พวกเขาจะจำกัดให้ทิ้งได้เฉพาะขยะที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่พวกเขาดูแลเท่านั้น ขยะจากที่อื่นจะถูกปฏิเสธทั้งหมด ถ้าเห็นป้ายแบบนี้ อย่าลืมมีวินัยในตัวเองนะ
ประโยคบนป้ายประกาศที่พบบ่อยในญี่ปุ่น
① ゴミはお持ち帰り下さい
กรุณานำขยะกลับไปทิ้งด้วย
=ที่นี่ไม่มีถังขยะ ขอความกรุณานำขยะกลับไปทิ้งที่อื่น!
② ゴミの持ち込みはご遠慮願います
ขออภัย ไม่อนุญาตให้นำขยะจากภายนอกมาทิ้ง
=ถังขยะนี้ใช้สำหรับทิ้งขยะที่เกิดขึ้นภายในสถานที่นี้เท่านั้น
③ OOO外からのゴミの持ち込みは、お断りします
ขออภัย ไม่อนุญาตให้นำขยะจากนอกพื้นที่ OOO มาทิ้ง
=ถังขยะนี้ใช้สำหรับทิ้งขยะที่เกิดขึ้นในพื้นที่ OOO เท่านั้น
④ 家庭ゴミの投棄はご遠慮ください
กรุณางดทิ้งขยะจากครัวเรือน
=สามารถใช้ถังขยะนี้ได้ แต่ขอความกรุณาอย่านำขยะจากบ้านมาทิ้งทั้งถุง
เป็นที่ทิ้งขยะหรือเปล่านะ?

ที่มาของภาพ:photo AC
บางครั้งเมื่อเดินผ่านย่านที่อยู่อาศัย อาจเห็นถุงขยะหลายใบถูกคลุมด้วยตาข่ายอยู่ริมถนน จนเผลอรู้สึกอยากจะทิ้งขยะของตัวเองลงไปด้วยทั้งที่ไม่ควรทิ้ง "จุดทิ้งขยะ" เหล่านี้เป็นที่รวบรวมขยะในครัวเรือนของผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้น ในญี่ปุ่นมีระบบการรีไซเคิลที่แพร่หลายมาก เพื่อให้สะดวกต่อการคัดแยก แต่ละพื้นที่จะมีตารางเวลาและกฎการเก็บขยะแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน บางพื้นที่สามารถใช้ถุงพลาสติกทั่วไปใส่ขยะได้ แต่บางพื้นที่ต้องใช้ถุงขยะเฉพาะที่กำหนดเท่านั้น "จุดทิ้งขยะ" จะเก็บขยะต่างประเภทกันในแต่ละวัน บางวันอาจเป็นขยะทั่วไป บางวันอาจเป็นกระดาษ พลาสติก เป็นต้น ในขณะที่คนท้องถิ่นพยายามปฏิบัติตามระบบรีไซเคิลอย่างเคร่งครัด เราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ไม่ควรทำตัวเป็น "แกะดำ" เพียงเพราะความสะดวกชั่วครู่นะ
หา"ถังขยะ"เจอแล้ว ต้องทิ้งให้ถูก"ช่อง"ด้วย
กว่าจะหาถังขยะเจอก็เหนื่อยแล้ว แต่พอเจอแล้วกลับอ่านคำอธิบายไม่ออก จนต้องแอบชะโงกดูว่าในถังมีอะไรบ้าง ช่างน่าปวดหัวจริง ๆ ใช่ไหม มาดูคำอธิบายด้านล่างที่จะช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทิ้งขยะในญี่ปุ่นอีกต่อไปกันเลย!
ถังขยะแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
ขยะเผาไหม้ได้ (โมเอรุโกมิ)

ที่มาของภาพ:photo AC
เรียกอีกอย่างว่า:ขยะเผาได้,โมเอรุโกมิ,โซโนตะ โนะ โกมิ หรือขยะประเภทอื่น ๆ
หมายถึงขยะทั้งหมดที่ "เผาไหม้" ได้ เช่น กระดาษทิชชู่,กระดาษห่ออาหาร, ใบเสร็จ เป็นต้น ญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีการเผาขยะที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบ แม้แต่ขยะที่ปล่อยสารพิษเมื่อถูกความร้อนอย่างถุงพลาสติกและกล่องข้าวพลาสติกก็ยังถือว่าเป็นขยะเผาได้ แนะนำให้ทุกคนเข้าใจความหมายของคำว่า "เผาได้" นี้ว่า"เผาแล้วละลาย"จะจำได้ง่ายกว่า
ขยะเผาไหม้ไม่ได้ (โมเอไน่โกมิ)

ที่มาของภาพ:photo AC
เรียกอีกอย่างว่า:
ขยะเผาไม่ได้ ,โมเอไน่โกมิ
อย่างที่ชื่อบอก ขยะประเภทนี้คือขยะที่อันตรายถ้าเผาไฟและไม่ละลายเมื่อถูกเผา เช่น กระป๋องเหล็กและอลูมิเนียม, โลหะ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้จัดอยู่ในประเภทขยะที่เผาไม่ได้ ตรงข้ามกับขยะที่เผาได้นั่นเอง ถือว่าเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการแยกแยะว่าอะไรเผาได้หรือเผาไม่ได้
การแยกขยะรีไซเคิลแบบ 4 ประเภท

ขวดพลาสติก (ขวดน้ำ)
plastic bottle (ขวดน้ำพลาสติก)
ที่มาของภาพ:photo AC

กระป๋องอลูมิเนียม
can
ที่มาของภาพ:photo AC

ขวดแก้ว
bottle
ที่มาของภาพ:photo AC
ถังขยะตามท้องถนนในญี่ปุ่นมีน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านจริง ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลยนะ ถ้าสังเกตดี ๆ รอบ ๆ ตัวและจำจุดที่มักจะมีถังขยะเอาไว้ ก็จะสามารถทิ้งขยะในมือได้ก่อนกลับโรงแรม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีจิตสำนึกที่ดี แยกขยะให้ถูกต้องและไม่ทิ้งขยะเรี่ยราดนะ!
มาทบทวนคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นเกี่ยวกับถังขยะกันอีกครั้งดีกว่า!
ภาษาจีน | ภาษาญี่ปุ่น | การออกเสียง |
ขยะที่เผาได้ | 燃えるごみ | moerugomi/โมเอรุโกมิ |
ขยะที่เผาไม่ได้ | 燃えないごみ | moenaigomi/โมเอไน่โกมิ |
ขยะในครัวเรือน | 家庭ごみ | katēgomi/คาเทอิโกมิ |
ขวดพลาสติก | ペットボトル | pettobotoru/เพตโตะโบโทะรุ |
กระป๋องอะลูมิเนียม | カン | kan/คัน |
ขวดแก้ว | ビン | bin/บิน |
กระดาษและผลิตภัณฑ์จากกระดาษ | 紙類 | kamirui/คามิรุย |
หนังสือพิมพ์และนิตยสาร | 新聞・雑誌 | shinbun・zasshi/ชินบุง・ซัชชิ |
ประเภทพลาสติก | プラスチック | purasuchikku/พุระสุจิคคุ |
เศษอาหาร | 生ごみ | namagomi/นามะโกมิ |
คำอธิบายเล็กน้อยเกี่ยวกับโรมาจิ
เพื่อให้ทุกคนสามารถอ่านภาษาญี่ปุ่นได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยอ้างอิงจากช่องการออกเสียง เรามาทำความเข้าใจความหมายของตัวอักษรพิเศษบางตัวกันดีกว่า!
・"ā", "ī", "ū", "ē", "ō" ออกเสียงยังไงนะ?
ตัวอักษรพิเศษเหล่านี้ออกเสียงเหมือนกับ "a", "i", "u", "e", "o" ทั่วไปเลย แต่มีความพิเศษตรงที่มีเครื่องหมายขีดยาว"-"อยู่ด้านบน ซึ่งหมายความว่าต้องออกเสียงให้ยาวขึ้น เช่น ถ้า "a" ออกเสียงสั้นๆ ว่า "อะ" ส่วน "ā" ก็จะออกเสียงยาวๆ ว่า "อา~" นั่นเอง
เครื่องหมาย "-" นี้เทียบได้กับสัญลักษณ์แสดงเสียงยาวในภาษาญี่ปุ่น "ー"เลยนะคะ เช่นคำว่า "パスポート (pasupōto พัสสุโพโตะ)" ที่แปลว่า "พาสปอร์ต"
・"ss", "tt", "kk", "pp" ออกเสียงยังไง?
เสียงพวกนี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "เสียงกัก" ตอนออกเสียงจะมีการหยุดชั่วขณะก่อนออกเสียง เช่น คำว่า "チケット (chiketto ชิเคทโทะ)" จะหยุดนิดหน่อยหลังออกเสียง "ケ (ke,เคะ)" แล้วค่อยออกเสียง "ト(to,โทะ/โตะ)" ตามมา
สัญลักษณ์ "ss", "tt", "kk", "pp" เทียบได้กับ "っ", "ッ" ในคำภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกเสียงกักนั่นเอง!