เวลาไปเที่ยวโตเกียวเคยเห็นป้ายเขียนว่า "喫茶" (โอชา) ไหม? มันคือร้านประเภทไหนกันนะ? ร้านน้ำชากับร้านกาแฟต่างกันอย่างไร? บทความนี้ "Japai JAPAN" ได้รวบรวมร้านน้ำชาสุดพิเศษที่ต้องไปเยือนให้ได้ 4 แห่งในโตเกียว รวมถึงเมนูเด็ดที่คุณต้องลอง รับรองว่าคุณต้องอยากลองไปจิบน้ำชาพร้อมลิ้มลองเมนูเด็ดในบรรยากาศเก๋ ๆ เรโทรอย่างแน่นอน
"ร้านน้ำชา" กับ "ร้านกาแฟ" ต่างกันอย่างไร ? แค่ 3 นาทีก็เข้าใจได้เลย !
ร้านกาแฟสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะสว่างกว่า
ร้านน้ำชาจะรู้สึกอบอุ่น พร้อมความรู้สึกย้อนยุคเล็ก ๆ
จริง ๆ แล้วร้านน้ำชานั้นเป็นร้านกาแฟประเภทหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับร้านกาแฟสมัยใหม่ ภายในร้านจะค่อนข้างมืดสลัวและให้ความรู้สึกอบอุ่นย้อนยุค และเมนูของร้านน้ำชาและร้านกาแฟยังแตกต่างกันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะไม่สามารถหาลาเต้ คาราเมลมัคคิอาโต้ หรือกาแฟประเภทอื่น ๆ แบบร้านกาแฟร่วมสมัยในที่แห่งนี้ได้ แต่สามารถอร่อยกับพาสต้านะโปลิตันและข้าวห่อไข่ได้ และยังเป็นวัฒนธรรมแบบที่พบเห็นได้ในญี่ปุ่นเท่านั้นอีกด้วย!
ร้านน้ำชามีที่มาอย่างไร?
"ร้านน้ำชาคะฮิสะคัง" ที่เปิดในอุเอโนะในปี 1888 ถือเป็นร้านต้นแบบของร้านน้ำชาของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามในเวลานั้นราคาของกาแฟหนึ่งแก้วนั้นแพงกว่าโซบะหนึ่งชามเสียอีก ดังนั้นการดื่มกาแฟจึงเป็นเรื่องยากของคนยุคนั้น และการเริ่มต้นของสงครามก็ยิ่งทำให้ราคาเมล็ดกาแฟสูงขึ้น ร้านน้ำชาของญี่ปุ่นจึงเข้าสู่ยุคมืดและปิดตัวลงทีละแห่ง
ร้านกาแฟชื่อดังของโตเกียว "อิเกิล"
แต่หลังสงคราม ร้านน้ำชาก็เริ่มฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง ด้วยความที่ร้านน้ำชาส่วนใหญ่นั้นดำเนินกิจการโดยบุคคลทั่วไป แต่ละร้านจึงสามารถสะท้อนถึงบุคลิกของเจ้าของร้านได้อย่างชัดเจน และกลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะ "ร้านน้ำชาที่มีการเล่นดนตรี" จะโดดเด่นเป็นพิเศษ เนื่องจากระบบเสียงและแผ่นเสียงมีราคาแพงมากในขณะนั้น ร้านน้ำชาที่มีดนตรีแจ๊สและเล่นแผ่นเสียงจึงกลายเป็นสถานที่ที่โดดเด่นและมึความหมายสำหรับผู้คนในเวลานั้น
Starbucks สาขาแรกของญี่ปุ่นเปิดในกินซ่า
หลังจากที่วัฒนธรรมการดื่มกาแฟค่อย ๆ แพร่หลายในญี่ปุ่น ร้านกาแฟในเครืออย่าง "Starbucks" ก็เริ่มปรากฏให้เห็น แต่ในขณะเดียวกัน จำนวนร้านน้ำชาก็ค่อย ๆ ลดลงตั้งแต่ช่วงปี 2000 เป็นต้นมา แต่เราก็ยังอยากเชียร์ให้ทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้สัมผัสกับวัฒนธรรมร้านน้ำชาอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นอยู่นะ!
ไปร้านน้ำชากินอะไรดีนะ?
ร้านน้ำชาในญี่ปุ่นนั้นมีอาหารอันเป็นเอกลักษณ์หลายอย่าง และอาหารของบางร้านน้ำชาก็อร่อยมากจนกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนเดินทางมาแวะเวียนไปที่นั่นอยู่เสมอ ๆ จาก การสำรวจโดย "HOT PEPPER" อาหารของร้านน้ำชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ชาวญี่ปุ่น ได้แก่ พาสต้านะโปลิตัน ข้าวห่อไข่ แซนด์วิชสลัดไข่ ในขณะที่ของหวาน ได้แก่ ไอศกรีมซันเดย์ ไอศกรีมโซดา และแพนเค้กชิ้นหนา
ร้านน้ำชาญี่ปุ่นมีแซนด์วิชหลากหลายชนิด
แพนเค้กในร้านน้ำชาแต่ละร้านมีความแตกต่างกันมาก
"พาสต้านะโปลิตัน" ที่ติดอันดับหนึ่งในการสำรวจนี้ แท้จริงแล้วเป็นอาหารท้องถิ่นของญี่ปุ่น โดยมีพื้นฐานมาจากวิธีที่กองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการในญี่ปุ่น ผสมซอสมะเขือเทศเข้ากับพาสต้า ถือเป็นอาหารทั่วไปในร้านน้ำชาในสมัยนั้น แม้ว่าครั้งหนึ่งความนิยมจะเคยลดลงไปเนื่องจากความนิยมของอาหารอิตาเลียนในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ แต่ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปี 2000 ซึ่งมีแม้กระทั่งพาสต้านะโปลิตันที่ผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน
แหล่งกำเนิดของพาสต้านะโปลิตันไม่ใช่อิตาลี แต่เป็นโยโกฮาม่าต่างหาก!
ไอศกรีมโซดา
อีกหนึ่งเมนูที่เป็นตัวแทนของร้านน้ำชาคือ "ไอศกรีมโซดา" มีต้นกำเนิดในสมัยเมจิ และได้รับการพัฒนาและได้รับความนิยมอย่างมาก ชิเซโด้ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นร้านขายยาก็ได้เปิดตัวไอศกรีมโซดาในปี 1902 แม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่ก็ยังสร้างกระแสในญี่ปุ่นและแพร่กระจายไปทั่วประเทศจนกลายเป็นอาหารยอดนิยมในร้านน้ำชา
4 ร้านน้ำชาแนะนำในโตเกียว
ร้านน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น : Cafe Paulista (กินซ่า)
Cafe Paulista บริเวณด้านนอก
บริเวณที่นั่งชั้น 1 ของ Cafe Paulista
"Cafe Paulista" ก่อตั้งขึ้นในปี 1910 และมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี เป็นร้านน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ริว มิซูโนะ ผู้ก่อตั้งได้ย้ายถิ่นฐานไปยังบราซิล และได้รับเมล็ดกาแฟเป็นของขวัญจากรัฐบาลบราซิล จากนั้นเขาก็มอบเมล็ดกาแฟเหล่านี้ให้กับชาวญี่ปุ่นในราคาถูกมาก ทำให้ร้านนี้เป็นหนึ่งในฐานสำคัญในการโปรโมตชาญี่ปุ่น "Cafe Paulista" อยู่ใกล้สำนักพิมพ์และสถานทูตต่างประเทศ ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่เหล่านักวิชาการและนักข่าวจำนวนมากมาพักผ่อนกัน และก็มีคนมีชื่อเสียงในสมัยนั้นแวะเวียนมาอยู่เป็นประจำ
สินค้าที่โดดเด่นที่สุดของร้านคือ "Forest Coffee" ที่ทางร้านยืนยันว่าใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง นำเข้าจากฟาร์มคู่สัญญา และคั่วเองภายในร้าน นอกจากกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว พายรสเค็มยังเป็นอาหารยอดนิยมของร้านอีกด้วย และเมนูที่แนะนำที่สุดก็คือเซ็ตพาย + เค้ก + กาแฟ ซึ่งเซ็ตนี้ยังมาพร้อมกาแฟรีฟิลฟรีอีกด้วย
Forest Coffee
ในร้านยังมีจำหน่ายของหวานหลายชนิด
Cafe Paulista Ginza Main Store
・ที่อยู่ : Nagasaki Center Building 1F-2F, 8-9 Ginza, Chuo, Tokyo
・เวลาทำการ :
[1F] วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 9:00~20:00 น. (อาหาร Last Order 19:00, เครื่องดื่ม Last Order 19 :30), วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30~19:00 น. (อาหาร Last Order 18:00, เครื่องดื่ม Last Order 18:30)
[2F] วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 12:00~19:00 น. (อาหาร Last Order 18:00, เครื่องดื่ม Last Order 18 :30 ), วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 12:00~19:00 น. (อาหาร Last Order 18:00, เครื่องดื่ม Last Order 18:30)
・การเดินทาง : เดินประมาณ 7 นาทีจากสถานีกินซ่า หรือสถานีชิมบาชิ ของรถไฟใต้ดิน
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ข้าวหน้าไข่เจ้าดังจนต้องต่อคิว: ร้านน้ำชา YOU (Ginza)
ข้าวหน้าไข่เป็นหนึ่งในอาหารคลาสสิกของร้านน้ำชา และ "YOU" ในกินซ่าก็เป็นร้านข้าวไข่เจียวที่ต้องมาลอง ไข่เจียวทรงรีหนาสวยงามน่ารับประทาน ราดซอสมะเขือเทศเล็กน้อย วางบนข้าวผัดกับเบคอนและหัวหอม แค่เห็นภาพก็รู้สึกได้ถึงความอร่อยแล้ว แต่ช้าก่อน ก่อนทานลองผ่าเปิดไข่เจียวทรงรีออก คุณจะเป็นว่าด้านในนั้นเป็นไข่เยิ้ม ๆ สุดแสนจะน่าทาน ตักเข้าปากพร้อมซอสมะเขือเทศในคำเดียว ความเนียนนุ่มและกลิ่นหอมของไข่จะทำให้คุณฟินจนทานหมดจานโดยไม่รู้ตัว!
ไข่เจียวทรงรีดูนุ่มฟู
ไข่เจียวนุ่มฟูดูน่ารับประทาน
"YOU" เป็นร้านน้ำชาที่เปิดมายาวนานตั้งแต่ปี 1970 ได้ย้ายไปยังที่ตั้งปัจจุบันในปี 2010 แต่ร้านยังคงรักษาสไตล์ย้อนยุคอันแข็งแรง โดยมีเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงแกะสลักและโต๊ะไม้หนารูปทรงคล้ายไข่เจียว! ทางร้านยังมีไอศกรีมโซดาหลากหลายรสชาติ ซึ่งสามารถรับประทานเป็นชุดพร้อมข้าวไข่เจียวได้ ข้าวไข่เจียวที่ร้าน "YOU" ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นและต่างประเทศ หากคุณต้องการมาลิ้มลอง อย่าลืมมาเข้าแถวรอแต่เช้านะ!
YOU
・ที่อยู่ : Takano Building 1F-2F, 4-13-17 Ginza, Chuo, Tokyo
・เวลาทำการ : 11:00~16:30 น.
・การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากทางออก 5 ของสถานี ฮิงาชิ กินซ่า
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ร้านน้ำชาอันแสนหรูหรามีสไตล์ : KOJYO (อุเอโนะ)
อุเอโนะเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุกชุมของร้านน้ำชามาตั้งแต่โบราณ รวมถึงร้านน้ำชาชั้นสูง "KOJYO" ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1963 การตกแต่งภายในที่หรูหราของร้านเปรียบเสมือนพระราชวังใต้ดิน แต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวใด ๆ ทันทีที่คุณเดินเข้าไปในร้านที่ชั้นล่าง คุณจะเห็นผนังกระจกสีทั้งหลัง ลวดลายของกระจกสีนี้จำลองมาจากรูปลักษณ์ของ "พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ" อันงดงามของรัสเซีย และมีการใช้แผ่นหินอ่อนภายในร้าน ฉากกั้นระหว่างผนังและที่นั่งประกอบกับโคมไฟระย้าคริสตัลบนเพดาน ทำให้ร้านน้ำชานี้เป็นร้านน้ำชาที่แสนจะมีเอกลักษณ์ จึงกลายเป็นที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นหลายต่อหลายเรื่อง
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีชวนให้รู้สึกเย็นใจ
มีกระจกสีที่ทางเข้า
อาหารรสเลิศทั่วไปที่พบในร้านน้ำชาก็มีจำหน่ายที่นี่ ตั้งแต่พาสต้านะโปลิตัน ซันเดย์ผลไม้ แพนเค้ก ไปจนถึงแซนด์วิชทุกประเภท เหมาะสำหรับมื้อเย็นหรือน้ำชายามบ่าย "แซนด์วิชรวม" เป็นอาหารที่มีมาตั้งแต่ก่อตั้งร้าน ทำมาจากมะเขือเทศ แฮม แตงกวา และไข่ที่ทอดใหม่ ๆ มีรสชาติเรียบง่ายแต่อร่อย คุณสามารถเพิ่มกาแฟหรือชาดำได้เมื่อสั่งอาหารหลัก สิ่งที่พิเศษคือ ถ้าลูกค้าเป็นผู้หญิงจะใส่เป็นแก้วสีแดง ถ้าลูกค้าเป็นผู้ชายจะใส่เป็นแก้วสีน้ำเงิน! ครั้งต่อไปหากมาที่มาอุเอโนะ ลองมาเยี่ยมเยียนร้านน้ำชาสุดพิเศษไม่เหมือนใครแห่งนี้ดูสิ
แซนด์วิชรวมสุดคลาสสิก
ภายนอก "KOJYO"
"KOJYO"
・ที่อยู่ : Kowa Building B1F, 3-39-10 Higashi-ueno, Taito, Tokyo
・เวลาทำการ : 9:00~20:00 น. (ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
・การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสายฮิบิยะ เดิน 2 นาทีจากสถานีอุเอโนะ เดิน 4 นาทีจากสถานี JR อุเอโนะ ทางออกอาซากุสะหรือสี่แยกฮิโรโคจิ
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ร้านน้ำชาสไตล์ตะวันตกในฝันที่สาว ๆ วัยมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นชื่นชอบ : Yuria Pemuperu (คิจิโจจิ)
"Yuria Pemuperu" อยู่ใกล้กับสถานีคิจิโจจิ เป็นร้านน้ำชาที่เปิดมายาวนานตั้งแต่ปี 1976 ภายนอกเป็นสีขาวบริสุทธิ์ที่ชวนให้สัมผัสได้ถึงสไตล์ตะวันตกอันหรูหรา แต่การตกแต่งภายในยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อเปิดร้าน โดยรักษาโทรศัพท์แบบหยอดเหรียญสีชมพู ถ้วย และจานชามโบราณไว้ มอบบรรยากาศราวบ้านในเทพนิยาย และชื่อร้านแสนน่ารักก็มีที่มาเช่นกัน โดยมาจากตัวละครชื่อ "Yuria" และ "Pemuperu" ในบทกวีของมิยาซาวะ เคนจิ นักเขียนเทพนิยายนั่นเอง
มุมหนึ่งของร้าน
รูปลักษณ์สไตล์ตะวันตก
สิ่งที่คลาสสิกที่สุดเกี่ยวกับร้านคือไอศกรีมโซดาหลากหลายชนิด เมื่อเทียบกับรสชาติแคนตาลูปสีเขียวทั่วไปและบลูโซดาสีฟ้า รสชาติของที่นี่มีความหลากหลายมากกว่าและสีสันเต็มไปด้วยความรู้สึกชวนฝันของหญิงสาว นอกจากไอศกรีมโซดาแล้ว ทางร้านยังมีข้าวแกงกะหรี่ พาสต้า และอาหารอื่น ๆ อีกด้วย พุดดิ้งแข็งสไตล์โชวะก็เป็นอาหารยอดนิยมเช่นกัน มีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของวานิลลาและไข่ อีกทั้งยังปรุงรสด้วยคาราเมลเล็กน้อยอีกด้วย
ไอศกรีมโซดา
พาสต้าทะเล
พุดดิ้งแข็ง
Yuria Pemuperu
・ที่อยู่ : 1-1-6 Kichijoji Minamichou, Musashino, Tokyo
・เวลาทำการ : 11:30~20:00 น. (วันศุกร์ วันเสาร์ และวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ : 11:30~22:00 น. ปิดทุกวันจันทร์ )
・การเดินทาง : เดิน 2 นาทีจากทางออกทิศใต้ของสถานี JR สายชูโอChuo Line และ สายอิโนะคะชิระ “คิจิโจจิ”
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ร้านน้ำชาทั้ง 4 แห่งที่ "Japai JAPAN" แนะนำมาข้างต้นเป็นเพียงร้านน้ำชาเล็ก ๆ ในโตเกียวเท่านั้น! โตเกียวยังซ่อนร้านน้ำชาหลายแห่งที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเจ้าของที่มีเสน่ห์รอให้ทุกคนมาเยี่ยมชม ครั้งต่อไปหากคุณไปโตเกียว แล้วเจอร้านที่มีป้าย "喫茶" ก็แนะนำให้ลองเข้าไปดื่มด่ำกับบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์เหล่านี้กัน