สายมังสวิรัติหลายคนอาจคิดว่า ตอนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เรื่องอาหารต้องทำอย่างไรดี? แต่จริง ๆ แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ร้านอาหารมังสวิรัติและอาหารเจในญี่ปุ่นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าประหลาดใจ และคุณรู้หรือไม่ว่าร้านอาหารมังสวิรัติอันดับหนึ่งของโลกอยู่ที่โตเกียว? ครั้งนี้ "Japai JAPAN" เลยจะมาแนะนำร้านอาหารมังสวิรัติ 7 แห่งในโตเกียว ที่มีเมนูแสนหลากหลายทั้งร้านยากินิกุมังสวิรัติ ร้านกาแฟมังสวิรัติ อิซากายะมังสวิรัติ สำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ เซฟคอนเทนต์นี้ไว้ตามรอยได้เลย!
ทำไมการกินมังสวิรัติในประเทศญี่ปุ่นถึงแพร่หลายช้ากว่าที่อื่นนะ?
ด้วยความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นประกอบกับแนวคิดการคุ้มครองสัตว์และประเด็นอื่น ๆ ทำให้มี "ผู้ที่เป็นมังสวิรัติ" และ "ผู้ที่กินเจ" มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทำไมญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าของโลกถึงพัฒนาการกินมังสวิรัติและกินเจช้ากว่าประเทศอื่น ๆ กันนะ? คำตอบนั้นก็คือ "วัฒนธรรมด้านอาหาร" นั่นเอง!
เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ที่รายล้อมไปด้วยทะเล "อาหารญี่ปุ่น" ที่คนญี่ปุ่นรับประทานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณจึงเน้นที่ปลาเป็นหลัก โดยมีผัก ถั่วเหลือง ข้าว และซุปมิโสะเป็นเครื่องเคียง และให้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ถึงแม้จะไม่ต้องกินมังสวิรัติก็มีสุขภาพดีได้ การกินอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมในญี่ปุ่นนัก อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งภาครัฐและเอกชนในญี่ปุ่นเริ่มให้ความสำคัญกับ "SDGs (เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน)" การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และความต้องการอาหารมังสวิรัติของชาวต่างชาติก็เพิ่มขึ้นอย่างมากอีกด้วย วงการอาหารมังสวิรัติในญี่ปุ่นจึงเติบโตตามไปด้วย ส่งผลให้มีร้านใหม่ ๆ เปิดตัวขึ้นอย่างมากมาย!
มังไม่มังก็อร่อยกันได้! 7 ร้านอาหารมังสวิรัติที่ต้องลองกิน
ร้านอาหารมังสวิรัติที่ได้รับเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งของโลก “Saido”
ราเมง ข้าวหน้าปลาไหล ข้าวหน้าหมูทอด ข้าวแกงกะหรี่ ของอร่อยที่ห้ามพลาดในญี่ปุ่นเหล่านี้ จะไม่ใช่เพียงอาหารที่ผู้เป็นมังสวิรัติได้แต่จ้องมองอีกต่อไป! คุณคัตสึโซ คูซูโมโตะ เชฟร้าน “Saido” ใช้แนวคิด "อาหารที่มาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน" เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่มีรสชาติใกล้เคียงกับเมนูเหล่านั้น โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรุง "ที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด" เช่น กุยช่าย ต้นหอม กระเทียม กระเทียมจีน และขิง ให้นักชิมได้ลิ้มรสอาหารมังสวิรัติแสนอร่อยโดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องเทศ ด้วยเหตุนี้อาหารจานนี้จึงได้รับเลือกให้เป็นที่ 1 จากร้านอาหาร 110,000 แห่งโดย "HappyCow" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ใช้โดยผู้ทานมังสวิรัติมากที่สุดในโลก!
เมื่อคุณเปิดฝาสลัดออก กลิ่นหอมของภูเขาไฟฟูจิจะโชยออกมา
เมนูหลักที่อร่อยไม่แพ้ปลาไหลของจริงเลย
อาหารจะเสิร์ฟในรูปแบบของอาหารชุด ประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย สลัด อาหารจานหลัก ของหวาน และเครื่องดื่ม ที่ไม่ใช่ทั้งอร่อย แต่ยังอัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น สลัด "Saien" ที่เป็นเมนูยอดนิยม ที่เสริ์ฟมาในฝาครอบแก้ว และเมื่อเปิดออก กลิ่นของภูเขาไฟฟูจิก็จะกระจายหอมฟุ้งออกมา ในส่วนของเมนูหลักก็มีทั้งบะหมี่ ดงบุริ และแกงซุปให้เลือก ดงบุริราดซอสนั้นก็มีสีสันและรสชาติที่ไม่ด้อยไปกว่าข้าวหน้าปลาไหลจริง ๆ เลย ส่วนของหวานก็เป็นไอศกรีมและสมูทตี้ที่ทำมาจากผลไม้ตามฤดูกาล เรียกได้ว่าสามารถมองเห็นความเอาใจใส่ของร้านได้ในทุกรายละเอียด
ของหวานซันเดย์
ภายนอกของร้าน
SAIDO
・ที่อยู่ : A&D House, 2-15-10 จิยูกาโอกะ, เมกุโระ-คุ, โตเกียว
・เวลาทำการ : (มื้อกลางวัน) 12:00~20:00 น. (มื้อเย็น) 18:00~21:00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
"Salam" มังสวิรัติจากตะวันออกกลาง ดูแลโดยเชฟมิชลินระดับ 3 ดาว
ผู้จัดการของ "Salam" คือคุณ Fumio Yonezawa ที่เคยฝึกฝนฝีมืออยู่ที่ร้านมิชลินระดับ 3 ดาวในนิวยอร์ก และเมื่อกลับมาที่โตเกียวก็เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองและเปิดร้านอาหาร The Burn ซึ่งปัจจุบันเป็นร้านสเต็กที่มีชื่อเสียงและโด่งดังในโตเกียว และในปี 2020 เขาได้เปิดร้านอาหาร Salam ด้วยคอนเซ็ปต์อาหารตะวันออกกลาง
ซุปถั่วข้นที่คุณสามารถกินได้
แหล่งที่มาของภาพ : เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Salam
อาหารมังสวิรัติที่ปรุงโดย "Salam" ยังคงรักษาสไตล์ตะวันออกกลางอันโดดเด่น ชามและจานที่ใช้เสิร์ฟมีลวดลายสวยงาม เครื่องเทศพิเศษจากตะวันออกกลางหลายชนิดถูกนำมาใช้ในกระบวนการปรุงอาหาร ทำให้อาหารมีสีสันและกลิ่นหอมสดใส และอาหารในร้านก็มีการใช้ถั่ว โยเกิร์ต และมันฝรั่งเป็นจำนวนมาก มีรสออกเปรี้ยวและสดชื่นเหมาะกับฤดูร้อน แม้ว่าคุณจะไม่ใช่มังสวิรัติ แต่คุณก็ยังสามารถไปลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ ที่ร้านนี้ได้
Salam
・ที่อยู่ : 5-4-16 ฮิโรโอะ ชิบูย่า-คุ โตเกียว EAT PLAY WORKS ชั้น 1
・เวลาทำการ : (มื้อกลางวัน) 11:30~14:30 น. (มื้อเย็น) 17:30~23:00 น.
・IG อย่างเป็นทางการ
ข้าวกล่องมังสวิรัติสุดหรูสไตล์ญี่ปุ่น "AIN SOPH"
"AIN SOPH" คือเครือร้านอาหารมังสวิรัติชื่อดังในญี่ปุ่น โดยแต่ละสาขาจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเอง คุณชิราอิ ประธานผู้ก่อตั้ง AIN SOPH ได้ลิ้มรสอาหารมังสวิรัติเป็นครั้งแรกเมื่อศึกษาในระดับมัธยมปลายที่แคนาดา และรู้สึกประหลาดใจอย่างมากในความอร่อยที่ไม่ต้องใช้เนื้อสัตว์ และซาบซึ้งใจกับความเอาใจใส่ในวัตถุดิบของคนในท้องถิ่น จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอเปิดร้านอาหารมังสวิรัติ
แหล่งที่มาของภาพ : Ain-Soph
สภาพแวดล้อมภายในร้าน
เมนูขึ้นชื่อของร้าน AIN SOPH สาขากินซ่า คือ "Fukurokuju" ที่เป็นข้าวกล่องสุดหรูหราปราณีต อาหารจะบรรจุอยู่ในกล่องไม้สองส่วน ส่วนบนเป็นส่วนของอาหารปรุงสุก เช่น ไข่เจียว นักเก็ตไก่ทอด และแกงเขียว ส่วนล่างจะเป็นสลัด รวมถึงผักใบเขียว พร้อมซุปผักและข้าวธัญพืช หากคุณยังมีที่ว่างในท้องหลังมื้ออาหาร ลองสั่งของหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของ AIN SOPH “วาฟเฟิลมังสวิรัติจากสวรรค์” มารับประทานดูสิ รับรองฟินอย่าบอกใคร!
AIN SOPH (สาขากินซ่า)
・ที่อยู่ : 4-12-1 กินซ่า, จูโอ-คุ, โตเกียว
・เวลาทำการ : วันอังคาร-วันเสาร์ 11.30-20.00 น. วันอาทิตย์-วันจันทร์ 11.30-19.30 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
อิซากายะมังสวิรัติ "MASAKA"
แม้แต่อิซากายะก็มีแบบมังสวิรัติด้วยนะ! "MASAKA" ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าทันสมัยที่สุดของโตเกียว "Shibuya PARCO" ที่เป็นแหล่งรวมของวัยรุ่นมากมาย และ "MASAKA" ก็ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่สนใจในอาหารมังสวิรัติมากมายมาที่นี่อีกด้วย!
บรรยากาศของร้าน
ส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน
"MASAKA" เป็นอิซากายะสไตล์อาหารจีน นอกจากไก่ทอดและเกี๊ยวในรสชาติต่าง ๆ เช่น น้ำส้มสายชูดำ สไปซี่เสฉวน หัวหอม เกลือและมะนาว และทาร์ทาร์นันบันแล้ว ยังมีปอเปี๊ยะ ถั่วทอด เกี๊ยวทอดและสลัดผักชี เนื่องจากผู้ทานมังสวิรัติจำนวนมากไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ทางร้านจึงจำหน่ายเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสเหมือนกับแอลกอฮอล์ แม้ว่าตัวเลือกอาหารของที่นี่จะไม่หลากหลายเท่ากับอิซากายะทั่วไป แต่ก็ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศของอิซากายะแบบญี่ปุ่น แนะนำให้ผู้ที่เป็นมังสวิรัติต้องมาลอง!
MASAKA
・ที่อยู่ : 15-1 PARCO 1F อูดากาวาโจ ชิบุย่า-คุ โตเกียว
・เวลาทำการ : 11:30〜22:00
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
・IG อย่างเป็นทางการ
ร้านมัฟฟินเฉพาะทาง "guruatsu"
ผู้ที่เป็นมังสวิรัติจำนวนมากมักจะหาของกินได้ยากระหว่างทาง และมักจะมองหาขนมปังเป็นทางเลือก อย่างไรก็ตาม ขนมปังมักประกอบด้วยนมและไข่ และมีแคลอรีสูง จึงไม่เหมาะแก่การรับประทานมากนัก แต่ "guruatsu" นั้นใช้เต้าหู้และนมถั่วเหลืองเพื่อ "เค้กมัฟฟินมังสวิรัติ" โดยไม่ต้องใช้น้ำมันในการทำ และมีแคลอรี่เพียงประมาณครึ่งหนึ่งของมัฟฟินธรรมดาเท่านั้น สร้างความมั่นใจให้สตรีมีครรภ์และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ว่าสามารถรับประทานมัฟฟินเหล่านี้ได้ ทำให้เมนูซิกเนเจอร์อย่าง "มัฟฟินเอดามาเมะ" มักจะขายหมดทันทีที่เปิดร้าน แต่มัฟฟินอื่น ๆ ก็ไม่ทำให้คุณผิดหวังเช่นกัน!
อาหารกลางวันมังสวิรัติที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถันทุกคำ
มัฟฟินเกาลัดหวาน
นอกจากมัฟฟินแล้ว "guruatsu" ยังให้บริการอาหารมังสวิรัติสำหรับมื้อกลางวันอีกด้วย คุณโยเนกาว่า ยูโกะ เจ้าของร้านกล่าวว่า การกินผักใบเขียวทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างมาก และอยากจะส่งความสุขและพลังงานให้แก่ลูกค้าของเธอด้วย ซึ่งสิ่งนั้นก็สะท้อนออกมาในอาหารของ guruatsu ที่เต็มไปด้วยปริมาณและคุณภาพ สร้างความประหลาดใจให้คุณทุกคำที่ทาน
guruatsu
・ที่อยู่ : 4-21-6 ฮิกาชิอูเอโนะ เขตไทโตะ โตเกียว
・เวลาทำการ : 11:00~16:00 น. (วันหยุดนักขัตฤกษ์จะแตกต่างกันไป โปรดดูประกาศ IG อย่างเป็นทางการ)
・IG อย่างเป็นทางการ
เนื้อมังสวิรัติที่เหมือนเนื้อจริง ๆ จนคุณแทบจะแยกไม่ออก “Yakiniku LIKE”
"Yakiniku LIKE" เรียกได้ว่าเป็น "ยากินิคุ McDonald's" ที่สามารถหาทานได้ง่ายและรวดเร็ว จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนหนุ่มสาวอย่างมาก Yakiniku LIKE ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตเนื้อสัตว์ทางเลือก "NEXT MEAT" เมื่อสองปีที่แล้วเพื่อเปิดตัว "NEXT beef Belly" ซึ่งเป็นเนื้อหมูสามชั้นมังสวิรัติที่ทำจากถั่วเหลืองและจำหน่ายในร้านค้าจำนวนจำกัดบางแห่ง หลังจากปรับปรุงแล้ว เวอร์ชันพัฒนา "NEXT Beef Pork Belly 2.0" ก็เปิดตัวในปี 2022 ซึ่งสามารถหารับประทานได้ทุกสาขา
เนื้อสัมผัสของ "NEXT Beef Pork Belly 2.0" นั้นใกล้เคียงกับเนื้อจริงอย่างมาก ชนิดที่แทบจะบอกไม่ได้เลยว่าเนื้อชนิดนี้ทำมาจากถั่วเหลือง ทั้งรสชาติและความฉ่ำนั้นเหมือนกับเนื้อย่างจริง ๆ แต่จะติดอย่างเดียวก็คือจะไหม้ง่ายกว่าเนื้อจริงเล็กน้อย จึงควรพลิกและควบคุมความร้อนอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ เมื่อสั่งเนื้อชนิดนี้ คุณยังสามารถเปลี่ยนข้าวขาวในชุดอาหารเป็นสลัดได้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณแป้งได้เท่านั้น แต่ยังเบรคความมันของอาหารปิ้งย่างได้ดีอีกด้วย
Yakiniku LIKE สาขาหลักเอบิสุ
・ที่อยู่ : อาคาร FPG links EBISU 1F 1-7-4 เอบิสุนิชิ, ชิบูย่า-คุ, โตเกียว
・เวลาทำการ : 10:00~23:00 น. (วันหยุดนักขัตฤกษ์แตกต่างกันไป โปรดดูประกาศจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ)
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
กาแฟวีแกน "KOMEDA IS"
"KOMEDA IS" คือแบรนด์ใหม่ของ KOMEDA Coffee ซึ่งมีต้นกำเนิดจากนาโกย่า เน้นไปที่สไตล์อบอุ่นของร้านน้ำชาแบบเก่า มีบริการพิเศษ "กาแฟยามเช้าและขนมปังปิ้ง" ที่ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภค จนมีการขยายสาขาในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง นอกจากร้านกาแฟแล้ว KOMEDA ยังก่อตั้งแบรนด์มังสวิรัติล้วน ๆ ใหม่ในชื่อ "KOMEDA IS" ตามแนวคิด "ธุรกิจที่ยั่งยืน" อีกด้วย
การตกแต่งภายในของ KOMEDA IS ตกแต่งด้วยโทนสีเขียวเป็นหลัก
แหล่งที่มาของภาพ : เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ komeda is
ของหวานอันเป็นเอกลักษณ์ "Ice and Fire" ก็เปลี่ยนเป็นเวอร์ชันมังสวิรัติด้วย
แหล่งที่มาของภาพ : เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ komeda is
แม้ว่าจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่เพื่อดึงดูดใจลูกค้าเก่าของ KOMEDA Coffee จึงมีการเสิร์ฟของหวานเมนูดัง "Ice and Fire" ตามปกติ แต่ส่วนผสมทั้งหมดได้ถูกเปลี่ยนเป็นมังสวิรัติ! ตัวอย่างเช่น ส่วนผสมไอศกรีมเปลี่ยนเป็นนมอัลมอนด์ วาฟเฟิลก็ถูกแทนที่ด้วยข้าวสาลีและแป้ง นมในกาแฟก็เปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลืองด้วย นอกจากนี้ ยังมีเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัติ ไก่ทอด และสปาเก็ตตี้ซอสเนื้อ ในส่วนของเครื่องดื่มยังมีเหล้าผลไม้ ไวน์แดงและไวน์ขาวจากพืช 100% เป็นต้น ทำให้ผู้ทานมังสวิรัติมีทางเลือกในการบริโภคอาหารที่หลากหลายมากขึ้น
KOMEDA IS
・ที่อยู่ : 1-13-1 สึกิจิ ชูโอ-คุ โตเกียว กินซ่า โชจิกุ สแควร์ ชั้น 1
・เวลาทำการ : 7:00〜23:00
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา วัฒนธรรมการทานอาหารมังสวิรัติได้แพร่หลายอย่างมาก เห็นได้จากประเภทของร้านที่มีหลากหลายอย่างมาก ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น อิซะกายะ ยากินิกุ ไปจนถึงร้านกาแฟ ดังนั้นถ้าคราวหน้าคุณมาเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนที่ทานมังสวิรัติ ทั้งคุณและเพื่อนก็สามารถมาเพลิดเพลินกับรสชาติแปลกใหม่นี้ได้อย่างแน่นอน!