จังหวัดโออิตะในคิวชูเป็นที่รู้จักในฐานะ "จังหวัดที่มีน้ำพุร้อนมากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น" ทั้งบ่อน้ำพุร้อนเบบปุ, เมืองยูฟุอิน, บ่อน้ำพุร้อนเมียวบัง, บ่อน้ำพุร้อนคันนาวะ และยังมีแหล่งธรรมชาติอันงดงามอย่าง ทะเลสาบคินริน, ภูเขายูฟุ เป็นต้น แถใยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เช่น สวนสนุกซานริโอ ฮาร์โมนี่ แลนด์ และอาหารท้องถิ่นสุดพิเศษไก่เทมปุระโทริเทน, ซุปดังโงะ, อาหารทะเลนึ่ง, เนื้อบุนโกะวากิวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเมนูอร่อยที่ไม่ควรพลาด และ "Japai JAPAN" ก็ได้รวบรวมพิกัดสถานที่เที่ยวที่กินเด็ด ๆ ในจังหวัดโออิตะมาให้คุณแล้ว ดูคอนเทนต์เดียวเที่ยวได้เลย!
"จังหวัดโออิตะ” อยู่ที่ไหน? มีอะไรเด่น? "
จังหวัดโออิตะตั้งอยู่ในภูมิภาคคิวชูติดกับจังหวัดฟุกุโอกะ จังหวัดคุมาโมโตะและจังหวัดมิยาซากิ จังหวัดโออิตะเป็นจังหวัดที่ มีบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่นและมีทรัพยากรทางทะเลตามแนวชายฝั่งที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลคุณภาพเยี่ยมที่สำคัญ เช่น ปลาปักเป้า ปลาไหลและเต่าทะเล นอกจากนี้ ยังมี "เนื้อวัวบุงโกะ" ที่ถือเป็นคุโรเกะวากิวอันดับ 1 ของญี่ปุ่น แถมยังอุดมไปด้วยผลไม้อร่อย ๆ มากมาย เช่น องุ่นและส้มยูสุ ด้วยความอุดมสมบูรณ์นี้จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยให้มาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย!
8 ที่เที่ยวต้องไม่พลาดและ 4 บ่อน้ำพุร้อนชื่อดังใน "จังหวัดโออิตะ"!
บ่อน้ำพุร้อนยุฟุอิน
ภายในยุฟุอินนั้นมีน้ำพุร้อนมากมายมากกว่า 800 แห่ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับสองในญี่ปุ่นและถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองน้ำพุร้อนแห่งชาติ เมื่อนั่งรถไฟมาถึงสถานียุฟุอิน ก็จะพบกับถนนที่เรียกว่า "ถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะ" ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกประมาณ 70 ร้านตลอดแนวถนนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สามารถเดินเล่นผ่อนคลาย ชิมของอร่อย ๆ ตามร้านยอดฮิตในย่านนี้ได้อย่างชิล ๆ นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านสไตล์อังกฤษที่ชื่อว่า "Yufuin Floral Village" หรือ "หมู่บ้านดอกไม้ยุฟุอิน" ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้ก้าวย่างเข้าไปสู่เมืองยุโรป เป็นอีกหนึ่งสถานที่เช็กอินสุดฮิตเลยทีเดียว
☞ อยากไปแต่ไม่รู้ว่าไปยังไง ดูแพคเกจทัวร์ได้เลย!
・KKday ทริปวันเดียวไปฟุกุโอกะ และโออิตะ คิวชู|ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมังกุ ยุฟุอิน บ่อนรกอุมิ จิโกกุและบ่อนรกซาโงกุในเบบปุ
ภูเขาไฟยูฟุ
ยูฟุดาเกะหรือภูเขายุฟุ เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่และมีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ จึงถูกเรียกว่า "บุงโกะฟูจิ" (ในสมัยโบราณทางตอนเหนือของจังหวัดโออิตะและที่อื่น ๆ จะถูกเรียกว่าจังหวัดบุงโกะ) นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาชื่อดังแห่งใหม่ในญี่ปุ่นที่ดึงดูดนักปีนเขาจำนวนมากให้มาปีนเขา โดยเส้นทางปีนเขาสามเส้นทางและการเดินทางไปกลับที่สั้นที่สุดอาจใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง 30 นาทีในการไปถึงยอดเขา แต่ก็มีที่พักพร้อมบ่อน้ำพุร้อนบนภูเขาที่สามารถแวะมาพักค้างคืนได้ รวมถึงยังกิจกรรมที่น่าสนุกต่าง ๆ ให้เพลิดเพลิน เช่น การดูดาว ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนและชมหิ่งห้อยในเวลากลางคืน ใครที่รักการเดินป่า สามารถจัดทริปปีนเขาและแช่น้ำพุร้อนที่นี่ได้
ทะเลสาบคินริน
ทะเลสาบคินรินถือเป็นจุดชมวิวสุดฮอตฮิตในจังหวัดยุฟุอิน เมื่อกว่าร้อยปีก่อนในสมัยเมจิตอนต้น มีนักวิชาการชื่อโมริ คุซังได้เห็นปลาในทะเลสาบที่กำลังแหวกว่ายและเปล่งประกายสีทองยามแสงตะวันส่องกระทบ จึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่าทะเลสาบคินริน (ปลาสีทอง)น้ำนั้นใสจนมองเห็นไปถึงก้นทะเลสาบ และยังมีน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 30 องศาตลอดทั้งปี ในฤดูหนาว ควันสีขาวจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำในตอนเช้า เป็นภาพที่ดูเหมือนฝัน นอกจากหมอกยามเช้าในฤดูหนาวแล้ว ใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงก็ยังสวยงามไม่แพ้กัน หากต้องการมาพักผ่อนท่ามกลางวิวทะเลสาบแล้วล่ะก็ ในบริเวณใกล้เคียงก็มีโรงแรมหลายแห่งให้เลือกเพียบเลยล่ะ
Yamanami Highway
Yamanami Highway เป็นทางด่วนที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "ถนนทางหลวงยอดฮิต 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น" โดยเริ่มต้นจากยูฟุอิน สามารถมองเห็นพื้นที่ชุ่มน้ำทาเทวาระ, โชโจฮาระ, ภูเขาคูจูและร่องรอยภูเขาไฟระเบิดกำมะถัน ระหว่างทางมีจุดชมวิวควรแวะมากมาย เช่น "หอสังเกตการณ์ซากิริได" ที่ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของภูเขายูฟุและถนนแถวบ่อน้ำพุร้อนยุฟุอิน ทิวทัศน์ของถนนเส้นนี้จะให้ฟิลที่แตกต่างกันไปตลอดทั้งปี ทั้งวิวดอกไม้บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงและหมอกและน้ำแข็งในฤดูหนาว
บ่อน้ำพุร้อนเบปปุ
เบปปุเป็นพื้นที่ที่มีบ่อน้ำพุร้อนเป็นจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมบ่อน้ำพุมากมายหลายประเภทให้เยี่ยมชม แต่เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเป็นพิเศษ จึงไม่สามารถลงไปแช่ได้ เป็นสถานที่ที่ทั้งสวยงามและน่ากลัวราวกับนรกในเวลาเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้น ที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดฮิตที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมากที่สุด ที่มาแล้วจะต้องแวะไปเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนทั้ง 8 แห่ง หรือที่เรียกว่า "8 Hells Tour" ที่เป็นการเยี่ยมชมบ่อนรกสำคัญทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ นรกบ่อน้ำสีฟ้าอันสดใส ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็น "จุดชมวิวระดับชาติ" บ่อนรกเลือดสีแดงสด บ่อนรกโคลนที่มีลักษณะเหมือนพายุทอร์นาโดปะทุทุก ๆ 30 นาที และบ่อนรกชิโรอิเกะสีเขียวขาว เช่นเดียวกับบ่อนรกโอนิอิชิ โบสุ เพื่อน ๆ ที่ชอบแช่บ่อน้ำพุร้อนเป็นชีวิตจิตใจสามารถพกผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเองหรือจะแช่เท้าในบ่อแช่เท้าบริเวณใกล้ ๆ ได้
☞ ดูแพคเกจเที่ยวได้ที่นี่
・KKday ทัวร์บ่อน้ำพุร้อนคิวชู เบปปุ | ตั๋วเข้าชมทั่วไป/ตั๋วจองล่วงหน้า |ซื้อตอนนี้และใช้งานได้ทันที
สะพานแขวนโคโคโนเอะ "ยุเมะ" โอทสึริฮาชิ
สะพานแขวนโคโคโนเอะ "ยุเมะ" โอทสึริฮาชิ มีความยาว 390 เมตร สูง 1.5 เมตร เป็นสะพานคนเดินข้ามที่ยาวและสูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2006 ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวนับสิบล้านคนไปแล้ว เมื่อเดินบนสะพานแล้วมองลงมาก็จะสามารถมองเห็น "น้ำตกชินโดะโนะทากิ" และ "น้ำตกเมดะกิ" ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "น้ำตกยอดฮิต 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น" รวมถึงพื้นที่เขียวขจีขนาดใหญ่ของป่าบริสุทธิ์และหุบเขาแม่น้ำนารุโกะ ที่อยู่บริเวณตอนบนของแม่น้ำชิคุโกะ เมื่อมองออกไปไกล ๆ ก็จะเห็นวิวแบบพาโนราม่าเลยทีเดียว ถ้าเป็นคนที่กลัวความสูงเวลายืนอยู่บนสะพานก็อาจรู้สึกว่าขาสั่นบ้างเล็กน้อย แต่บอกเลยว่าหากกล้าเดินบนสะพานนี้ พอได้เห็นวิวสุดแสนอลังการแล้ว จะรู้สึกคุ้มค่าแน่นอน!
สวนสัตว์ธรรมชาติคิวชู แอฟริกันซาฟารี
ที่นี่คืออุทยานสัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสัตว์มากกว่า 70 สายพันธุ์ มากกว่า 1,400 ตัวในสวนอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะใน "โซนสัตว์" ที่สามารถนั่ง "รถบัสธีมสัตว์" เพื่อสัมผัสและให้อาหารแบบใกล้ชิดกับสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เช่น สิงโต เสือ ยีราฟและช้างได้ ใน "โซนสัมผัส" คุณยังสามารถใกล้ชิดและสัมผัสกับสัตว์กินพืชทั้งเล็กและใหญ่ เช่น กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ คาปิบารา และจิงโจ้ และใน "โซนประสบการณ์การขี่ม้า"ก็สามารถขี่และสัมผัสม้าจิ๋วแสนน่ารักได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีร้านอาหารและจุดขายของว่างหลายแห่งกระจายอยู่ในสวนสัตว์ คนที่มาเป็นครอบครัวก็สามารถใช้เวลาอยู่ในนี้ได้ทั้งวัน
ศาลเจ้าอูสะ จิงงู
ในญี่ปุ่นมีศาลเจ้าฮาจิมังกุถึง 46,000 แห่ง และศาลเจ้าอูสะ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปีก็เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญด้วยเช่นกัน เทพเจ้าหลักของศาลเจ้าอูสะ คือเทพเจ้าแห่งสงครามของญี่ปุ่นหรือที่รู้จักในชื่อพระโพธิสัตว์ฮาจิมัน ได ซึ่งเป็นเทพเจ้าบรรพบุรุษของราชวงศ์อีกด้วย ดังนั้น สำหรับราชวงศ์จึงถือว่าศาลเจ้าอูสะจิงงูเป็นสถานที่ของบรรพบุรุษที่ได้รับความเคารพรองจากอิซูโมะ ไดคามิ และเป็นความศรัทธาของฮาจิมันผสมผสานพุทธศาสนาเข้ากับลัทธิชินโตต้นกำเนิดของญี่ปุ่น เชื่อว่าฮาจิมันได้รักษาสมบัติ สิ่งปลูกสร้างอันงดงามและพิธีกรรมทางศาสนาที่มีความหมายเอาไว้มากมาย ในเดือนสิงหาคมของทุกปีถือเป็นช่วงเวลาที่จัดงานสำคัญแห่งปี โดยผู้คนจะหลั่งไหลมาที่ศาลเจ้าอูสะแห่งนี้ เพื่อขอพรให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หากบังเอิญได้ไปเที่ยวโออิตะในเวลานี้ ต้องแวะไปขอพรให้ได้นะ!
Kuju hanakoen (สวนดอกไม้คูจู)
สวนดอกไม้คูจูฮานะตั้งอยู่ในที่ราบสูงคูจูภายในอุทยานแห่งชาติอาโซะคุจู หนึ่งในสถานที่ที่เรียกได้ว่าสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยสามารถมองเห็นภูเขาคูจูที่อยู่ตรงหน้าและภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าแห่งอาโซะในระยะไกลได้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด โดยพื้นที่ของสวนมีขนาดใหญ่มากครอบคลุมพื้นที่ประมาณเจ็ดโตเกียวโดมเลยทีเดียว สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติและเพลิดเพลินกับความงามที่ห่างหายไปจากชีวิตประจำวัน ในสวนประกอบไปด้วย ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่อยู่ทางตะวันตกและสวนกุหลาบพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร และยังมีดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ที่จะบานสะพรั่งตามฤดูกาลและยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอยู่เสมอ สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่คือเมนูเจลาโต้อิตาเลียนโฮมเมดที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ภายในสวน
สวนสนุกซานริโอ ฮาร์โมนี่แลนด์
ตัวละครสุดคลาสสิกของซานริโอที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เช่น เฮลโหลคิตตี้ เมโลดี้ คุโระมิ พุดดิ้งด็อก กบเคโระและชินนาม่อนโรล มารวมตัวกันแล้วที่ Harmony Land! สวนสาธารณะกลางแจ้งเพียงแห่งเดียวของซานริโอแห่งนี้มีของเล่นให้ร่วมสนุกถึง 16 อย่างเช่น ชิงช้าสวรรค์ ถ้วยกาแฟและรถไฟเหาะที่เพลิดเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมกับการแสดงเพลงและการเต้นรำแสนสนุกที่มีเหล่าตัวละครยอดนิยมและขบวนแห่แสนน่ารัก ไม่ว่าใครไปก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเช็กอินเป็นที่ระลึก นอกจากความสนุกแล้ว ยังมีสินค้าสุดคาวาอี้อีกมากมายที่แฟน ๆ จะต้องชื่นชอบ หากไม่ระวังตัวล่ะก็กระเป๋าฟีบไม่รู้ตัวแน่!
บ่อน้ำพุร้อนเมียวบัง
ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งใน "บ่อน้ำพุร้อนใหญ่แปดแห่งเบปปุ" และมีปริมาณสารส้มในบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุดจนเป็นกลายเป็นแหล่งผลิตสารส้มรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีการนำเข้าสารส้มในปริมาณมาก ทำให้อุตสาหกรรมนี้ก็ค่อย ๆ ลดลงและเปลี่ยนไปใช้ผงอาบน้ำยูโนะฮานะยูกะที่ต้องรวบรวมมาจากบ่อกำมะถันที่ใช้ไอน้ำอุณหภูมิสูง อีกทั้งยังมีกระท่อมมุงจากที่เรียกว่า "ยูโนฮานะ โคยะ" ที่สามารถพบได้ที่บ่อน้ำพุร้อนเมียวบังซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ว่ากันว่าการอาบน้ำด้วยผงอาบน้ำยูโนะฮานะจะช่วยให้ผิวของคุณเรียบเนียน หากอยากมีผิวสวย ก็ต้องแวะไปแช่น้ำร้อนที่ใส่ผงยูโนฮานะแถวบ่อน้ำพุร้อนเมียวบังก่อนกลับบ้าน บอกเลยว่าฟินมาก
บ่อน้ำพุร้อนคันนาวะ
บ่อน้ำพุร้อนคันนาวะเป็นหนึ่งในแปดบ่อน้ำพุร้อนที่สำคัญในเบปปุ ใช้เวลาขับรถเพียง 10 นาทีจากบ่อน้ำพุร้อนเมียวบัง ตลอดเส้นทางจะเต็มไปด้วยหมอกควันของบ่อน้ำพุร้อนซึ่งเป็นลักษณะเด่นของคันนาวะ ซึ่งน้ำพุร้อนที่พิเศษที่สุดของที่นี่ไม่ได้มีไว้เพื่อ "แช่" แต่สามารถสัมผัสโดยวิธี "นึ่ง" เท้าหรือจะอบไอน้ำทั้งตัวเพื่อขับของเสียออกจากร่างกายได้เช่นกัน นอกจากนี้ ที่บ่อน้ำพุร้อนคันนาวะ คุณยังสามารถเอร็ดอร่อยกับเมนูยอดฮิตอย่าง "อาหารนึ่งนรก" และ "พุดดิ้งนึ่งนรก" ที่ทำจากไอน้ำของน้ำพุร้อนธรรมชาติได้อีกด้วย!
9 ของอร่อยที่ต้องลองใน "จังหวัดโออิตะ"
Toriten (โทริเทน)
โทริเทนหรือที่รู้จักกันในชื่อไก่สวรรค์เป็นอาหารท้องถิ่นยอดฮิต และเป็นที่รู้จักในฐานะอาหารแห่งจิตวิญญาณของชาวโออิตะ มีการปรับสูตรจากไก่ทอดที่คิดค้นโดยร้านอาหารโทโยเก็นในเมืองเบปปุในสมัยต้นยุคโชวะ โดยมีร้านอาหารมากมายในจังหวัดที่เสิร์ฟเมนูเนื้อไก่นี้ โทริเทนเป็นไก่เทมปุระที่เคลือบด้วยซุปไข่และนำไปทอด แตกต่างจากไก่คาราอาเกะทั่วไป กรอบนอกนุ่มในอร่อยแสงออกปาก ถ้าได้ไปโออิตะแล้วอย่าลืมชิมโทริเทนเพื่อเปรียบเทียบรสชาติกันดูด้วยนะ!
Dangojiru (ซุปดังโงะ)
ซุปดังโงะเป็นอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดโออิตะ เนื่องจากพื้นที่ในจังหวัดโออิตะนั้นเหมาะแก่การปลูกข้าว ข้าวสาลีและธัญพืชอย่างมาก จึงมีวัฒนธรรมการบดธัญพืชให้เป็นผงแล้วนำรับประทานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และซุปดังโงะนี้ ก็เป็นหนึ่งในตัวแทนของขึ้นชื่อประจำจังหวัด โดยทั่วไปแล้วหากนึกถึงดังโงะ ก็จะคิดว่าเป็นดังโงะรูปลูกบอล แต่ดังโงะในจังหวัดโออิตะนั้นทำจากเส้นบะหมี่หนา ๆ คล้ายเส้นน็อคคี และซุปส่วนใหญ่จะเป็นซุปมิโซะข้าวสาลีหรือมิโซะขาว หลังพ้นฤดูใบไม้ร่วง เกือบทุกครัวเรือน มักจะทำเมนูซุปดังโงะจนกลายเป็นอาหารประจำครอบครัวที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในโออิตะ หากได้มาเที่ยวโออิตะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ลองแวะซุปลิ้มรสดังโงะกันสักชามดูไหมล่ะ?
ขนม yaseuma (ยะเสะอุมะ)
ยาเสะอุมะเป็นขนมของว่างท้องถิ่นตัวแทนของจังหวัดโออิตะที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเฮอันเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว ทำด้วยการนำแป้งสาลีมาปั้นให้เป็นรูปเส้นบะหมี่ นำไปต้มแล้วโรยน้ำตาลหรือแป้งถั่วเหลือง ทำให้มีความนุ่มและรสชาติหวานปานกลาง ซึ่งเป็นขนมยอดฮิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จริง ๆ แล้วต้นกำเนิดของขนมนี้เกี่ยวข้องกับขนมสำหรับเด็กในสมัยเฮอัน โดยนางพยาบาลที่ชื่อยาเสะได้ไปที่วัดเมียวเรนจิในฟุรุโนะเพื่อสวดภาวนาขอให้ลูกขุนนางของเธอเติบโตอย่างปลอดภัย ซึ่งระหว่างทางไปที่นั่น ยาเสะได้ทำขนมนี้ไปให้เด็กเล็ก ๆ ทานจึงเป็นที่นิยมมาถึงทุกวันนี้
เนื้อวัวบุนโกะ
เนื้อวัวบุนโกะเป็นแบรนด์เนื้อคุโรเกะวากิวของจังหวัดโออิตะ โดยเนื้อที่นี่จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เข้มงวด เช่น คุณภาพเนื้อต้องเป็นเกรด A4 ขึ้นไป ข้าวหรือเมล็ดพืชที่ใช้เป็นอาหารในฟาร์มเพาะพันธุ์วัวจะต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพและมีประวัติการผลิตที่โปร่งใส เนื้อวากิวบุนโกะคุณภาพสูงที่เลี้ยงในภูเขาและแม่น้ำที่สวยงามของจังหวัดโออิตะ จะมีลวดลายที่สวยงามราวกับดอกไม้น้ำแข็งที่นุ่มจนพร้อมละลายในปาก แม้จะไม่โด่งดังเท่ากับเนื้อโกเบ เนื้อมัตสึซากะและเนื้อโอมิ แต่เนื้อชนิดนี้ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในญี่ปุ่นหลายต่อหลายครั้งในการแข่งขันประเมินผลเนื้อวากิวระดับชาติ เมื่อเดินทางไปจังหวัดโออิตะ ก็อย่าลืมแวะลิ้มลองรสชาติวัวญี่ปุ่นแท้แสนอร่อยกันให้ได้นะ!
เบบปุเรเมน
ว่ากันว่าบะหมี่เย็นเบบปุหรือเบปปุเรเมนมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1950 จากร้านอาหารที่ก่อตั้งโดยพ่อครัวที่กลับมาจากแมนจูกัวทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากพื้นที่แมนจูกัวในอดีตตั้งอยู่ใกล้กับประเทศเกาหลีเหนือมากและยังมีชาวเกาหลีจำนวนมากอยู่ที่นั่น ทำให้วัฒนธรรมอาหารเกาหลีเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่แพร่หลาย หลังจากได้รับการแนะนำให้รู้จักกับญี่ปุ่น จึงมีการปรับปรุงให้มีรสชาติแบบญี่ปุ่นมากขึ้นจนกลายมาเป็นเบบปุเรเมน ซึ่งสามารถหาทานเบปปุเรเมนได้ทั่วไปที่ร้านเรเมน ร้านยากินิกุและแม้แต่ร้านราเมงในเมืองเบปปุก็มีขาย โดยสามารถแบ่งเส้นได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ เส้นหนาและเส้นยืดหยุ่นที่จำหน่ายในร้าราเมง ส่วนในร้านยากินิกุส่วนใหญ่จะใช้เส้นที่เรียบและเส้นหนาปานกลาง สามารถสั่งได้ตามที่อยากทาน
อาหารนึ่งไอน้ำนรก (ไอจากบ่อน้ำพุร้อน)
บ่อน้ำพุร้อนของเบปปุถูกเรียกว่า "นรก" เนื่องจากการปะทุของน้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นพิเศษและเต็มไปด้วยควัน อาหารสไตล์จิโกกุ-มูชิ เป็นเมนูที่ได้รับการสืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยเป็นการนึ่งวัตถุดิบที่ใช้ไอน้ำอุณหภูมิสูงนี้ในการปรุงอาหาร ใส่เนื้อสัตว์ทะเล ผักและส่วนผสมอื่น ๆ ลงในหม้อนึ่งแบบพิเศษแล้วปิดฝา ไอน้ำที่อุดมด้วยเกลือสามารถนึ่งส่วนผสมได้อย่างรวดเร็วและกักเก็บรสชาติของส่วนผสมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ หากใครอยากลอง"อาหารนิ่งจากไอนรก” สามารถเพลิดเพลินได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น!
เบปปุพุดดิ้ง
เป็นของหวานที่ใช้ไอน้ำอุณหภูมิสูงเป็นพิเศษจากบริเวณบ่อน้ำพุร้อนในเบปปุ นอกจากสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้แล้ว ยังเอามาทำเป็นของหวานได้อีกด้วย! ซึ่งพุดดิ้งของที่นี่มีต้นกำเนิดมาจากร้านค้าเล็ก ๆ ในหมู่บ้านน้ำพุร้อนเมียวบัง ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่อยู่ลึกที่สุดในเบปปุ และนับตั้งแต่นั้นมาเมนูพุดดิ้งก็กลายมาเป็นของหวานประจำจังหวัด พุดดิ้งหน้าตาธรรมดาราดด้วยน้ำเชื่อมคาราเมลที่มีรสขมเล็กน้อย และยังมีพุดดิ้งผสมถั่วแดงหรือไพโรโปรตีนหลากหลายรสชาติให้เลือกชิมอีกด้วย
ฮิตะยากิโซบะ
ฮิตะยากิโซบะแตกต่างจากยากิโซบะทั่วไป ด้วยการผัดบนจานเหล็กจนไหม้เกรียมเล็กน้อยและมีความกรอบ จากนั้นจึงราดด้วยซอสฉ่ำ ๆ เป็นอาหารท้องถิ่นตัวแทนที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของพื้นที่ฮิตะในจังหวัดโออิตะ ซึ่งร้านอาหารบางแห่งจะใส่ไข่ดิบลงบนเส้นโซบะซึ่งทำให้เส้นมีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น สายรักโซบะผัดห้ามพลาดเด็ดขาด
ไก่ทอดนาคัตสึ คาราเกะ
คนญี่ปุ่นชอบกินไก่ทอดคาราเกะเป็นชีวิตจิตใจและเมืองนาคัตสึในจังหวัดโออิตะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งไก่ทอดยอดฮิต" ถึงขนาดที่ร้านค้าในเมืองนี้ก่อตั้ง "สมาคมไก่ทอดนาคัตสึ" เพื่อสร้างแบรนด์ไก่ทอดนาคัตสึของตนเองขึ้นมาอีกด้วย ความพิเศษของไก่ทอดนาคัตสึคือใช้ไก่ที่ผลิตในประเทศในญี่ปุ่นและหมักเนื้อด้วยซีอิ๊ว กระเทียม และขิง และมีเงื่อนไขสำคัญที่สุดคือจะต้องเปิดร้านในพื้นที่นาคัตสึถึงจะมีคุณสมบัติที่จะจำหน่ายได้ ที่ต้องชื่อไก่ทอดนาคัตสึ เพราะเนื่องจากตัวไก่ผ่านการหมักมาแล้ว จึงมีความกรอบและอร่อยมากแม้ไม่ได้ใส่เครื่องปรุงใด ๆ เลยถือว่าคุ้มค่ามากที่จะลองมาก!
บ่อน้ำพุร้อน เนื้อวากิว ศาลเจ้าและวัดพุทธชื่อดังของจังหวัดโออิตะถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับคุณหนู ๆ เช่น Sanrio Harmony Park, Natural Animal Park และสวนดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นทริปครอบครัว คู่รัก เพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมชั้นเรียน ทั้งพ่อแม่และเด็ก ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน อยากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวในญี่ปุ่นในครั้งหน้า ลองเลือกมาเที่ยวโออิตะกัน!