"ภูมิภาคคิวชู" ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัด อย่าง ฟุกุโอกะ โออิตะ ซากะ นางาซากิ มิยาซากิ คุมาโมโตะ และคาโกชิมะ ซึ่งมีอาหารอะไรบ้างที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด? นอกจากราเมงฮากาตะที่ชื่อเสียงโด่งดัง และอาหารท้องถิ่นพรีเมียม ต่างๆ ที่จำหน่ายตามร้านค้าในเทศกาล คิวชูที่อุดมไปด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากปศุสัตว์และอาหารทะเล จริงๆ แล้วยังมีอาหารเลิศรสที่ต้องลองอีกมากมาย ก่อนจัดทริปมาเยือนคิวชู รีบบันทึกบทความนี้เอาไว้เลย!
จังหวัดฟุกุโอกะ
โมทสึนาเบะ
อาหารพื้นเมืองของเมืองฟุกุโอกะ ทำจากลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ของวัวและหมู ต้มรวมกับกะหล่ำปลี ต้นหอม และกระเทียมจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมีรสโชยุหรือมิโซะ เป็นเมนูที่รวมวัตถุดิบที่เสริมพลังงานหลากหลายชนิด หลังทานหม้อนี้หมดรับรองว่าพลังเต็มเปี่ยมแน่นอน!
ราเมงฮากาตะ
ลักษณะเด่นของ "ราเมงฮากาตะ" คือ การใช้ไฟแรงต้มกระดูกหมูจนคอลลาเจนละลายออกมา ทำให้น้ำซุปกลายเป็นสีขาวและขุ่นเล็กน้อย มีรสชาติคล้ายซุปมิโสะ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกความแข็งของตัวเส้นได้ เนื่องจากกลัวว่าเส้นจะแช่น้ำซุปนานจนนิ่มเกินไป ร้านอาหารส่วนใหญ่จึงไม่ให้บริการชามใหญ่ แต่จะมีบริการ "เติมเส้น" แทน
เมนไทโกะรสเผ็ด
"เมนไทโกะ" คือ ไข่ปลาค็อดที่หมักด้วยพริก สามารถรับประทานได้โดยตรง หรือนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย นอกจากปรุงอาหารแบบญี่ปุ่นแล้ว การปรุงเข้าในพาสต้า หรือผสมกับครีม มายองเนส เพื่อใช้เป็นเครื่องทาขนมปัง ก็เป็นวิธีการรับประทานที่ยอดเยี่ยม!
(แหล่งที่มา：Tarakomentaiko)เมนไตโกะแบบแห้ง
โดยทั่วไปเมนไตโกะต้องแช่เย็น เพราะเก็บรักษายาก ไม่เหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากให้คนอื่น แต่สำหรับ "เมนไตโกะแบบแห้ง" เวอร์ชันพัฒนานี้ ผลิตโดยการบ่มและทำให้เมนไตโกะแห้ง ยืดอายุการเก็บรักษาเพิ่มจากหนึ่งสัปดาห์เป็นสามเดือน และยังมีรสชาติเข้มข้นกว่าเดิม หลังจากนี้เมื่อไปเยือนฟุกุโอกะ ก็สามารถนำความอร่อยของเมนไตโกะกลับไปแบ่งปันให้กับเพื่อนและครอบครัวได้แล้วล่ะ!
(แหล่งที่มา：Hiyoko)ขนมปังทรงลูกไก่
"ขนมปังทรงลูกไก่" ที่นำเสนอโดยร้านเก่าแก่อายุร้อยปีแห่งฟุกุโอกะ "ฮิโยโกะ" นั้นเป็นรูปทรงลูกไก่น่ารัก ในช่วงโอลิมปิกโตเกียวปี 1964 เริ่มวางจำหน่ายที่สนามบินนาริตะและฮาเนดะในโตเกียว ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของขึ้นชื่อจากโตเกียว!
จังหวัดโออิตะ
ไก่เทมปุระ
จังหวัดโออิตะมีปริมาณการบริโภคเนื้อไก่มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และ "ไก่เทมปุระ" นับเป็นอาหารจานพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดโออิตะ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงอาหาร หรือแม้แต่ร้านกาแฟก็ต่างนำเสนอเมนูนี้! โดยแต่ละร้านมีสูตรเฉพาะสำหรับแป้งทอดกรอบและการหมักไก่ พิถีพิถันอย่างมากเลยล่ะ
(แหล่งที่มา：JAPAN DISCOVERY)จิโกคุมูชิ
ไม่ต้องตกใจกับชื่อ "จิโกคุมูชิ" เพราะเมนูนี้ คือ อาหารที่นำวัตถุดิบใส่ในภาชนะที่เรียกว่า "หม้อจิโกคุ" แล้วใช้ไอจากน้ำพุร้อนในการนึ่ง วัตถุดิบประกอบด้วยผัก อาหารทะเล และประเภทแป้ง ไม่เพียงแต่ได้ลิ้มรสชาติดั้งเดิมของอาหารเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย!
ยูซุโคโช
เป็นเครื่องปรุงที่พบได้ทั่วไปในคิวชู โดยทำจากการผสมผิวส้มยูซุกับเกลือและพริก จากนั้นบดให้เป็นเนื้อเดียวกัน รสชาติมีความเผ็ดและกลิ่นหอมของส้มยูซุ คนสมัยโบราณเรียกพริกว่า "โคโช" (พริกไทย) แต่ความจริงแล้ว เมนูนี้ไม่มีพริกไทยผสมอยู่เลยล่ะ!
☞ อ่านเพิ่มเติม
・บนโต๊ะอาหารขาดไม่ได้! เครื่องปรุงรสในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่แม่บ้านญี่ปุ่นแนะนำให้ซื้อ
จังหวัดซากะ
ปลาหมึกโยะบุโกะ
ทางเหนือของจังหวัดซากะมีทะเลเก็นไค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่กระแสน้ำมาบรรจบกัน จึงอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำ และอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดคงหนีไม่พ้น "ปลาหมึกโยะบุโกะ"! ลำตัวสีใส เนื้อแน่น และมีรสชาติหวาน เพื่อรักษาความอร่อย จึงใช้วิธีตกทีละตัว เนื่องจากหลังขึ้นฝั่งแล้วปลาหมึกอยู่รอดได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จึงเสิร์ฟแบบสดๆ รสชาติสดใหม่เหนือชั้น!
ขนมจีบปลาหมึก
ปลาหมึกสดจำเป็นต้องทานทันที แต่ถ้าอยากนำความอร่อยนี้กลับบ้าน ต้องลองซื้อ "ขนมจีบปลาหมึก" นี้! เพียงคำแรกที่กัด รสชาติทะเลอันเข้มข้นจะแผ่ซ่านในปาก เนื้อสัมผัสเด้งดึ๋ง ทำให้ยากที่จะหยุดทาน!
(แหล่งที่มา：สมาคมการท่องเที่ยวเมืองซากะ)ข้าวซิซิเลียน
"ข้าวซิซิเลียน" พัฒนามาจากอาหารในร้านอาหาร ด้านบนจะมีผักสด มะเขือเทศ เมล็ดข้าวโพด และเนื้อที่ผัดกับหัวหอม สุดท้ายบีบด้วยมายองเนส ส่วนเนื้อที่ใช้ของแต่ละร้านจะแตกต่างกัน และบางร้านก็จะเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อสร้างสูตรระดับพรีเมียมของตัวเอง
(แหล่งที่มา：Muraokaya)ซากะนิชิกิ
เพื่อจำลองความสวยอันสง่างามของผ้าทอระดับสูง "ซากะนิชิกิ" ร้านขนมแบบดั้งเดิม "มุระโอกะยะ" ได้ใช้เวลาถึง 4 ปี เพื่อพัฒนาขนมชิ้นนี้ โดยใช้เค้กบาวม์คูเค่น ห่อหุ้มเค้กมันม่วงที่ผสมถั่วแดงและเกาลัด นับเป็นขนมที่ประณีตและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว!
จังหวัดนางาซากิ
นางาซากิชัมปง
อาจพูดได้ว่า "นางาซากิชัมปง" เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของนางาซากิ คำว่า "ชัมปง" ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่าการผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ดังนั้นเมนูนี้ก็คือบะหมี่ผัดรวมมิตรนั่นเอง! เมนูนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยเจ้าของรุ่นแรกของร้านอาหารจีน "ชิไคโร" ในสมัยเมจิ ซึ่งเขาต้องการให้นักเรียนจีนสามารถทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการในราคาที่ย่อมเยา วิธีทำ คือ ต้มเส้นในน้ำซุป แล้วผัดวัตถุดิบกว่า 10 อย่าง เช่น ผัก ลูกชิ้นปลา ฯลฯ แล้วราดลงบนเส้น
อุด้งซาระ
"อุด้งซาระ" เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจาก "ชีไคโร" เช่นกัน วิธีทำคล้ายกับ "ชัมปง" แต่แบ่งเป็นเส้นเล็กและเส้นใหญ่สองประเภท เส้นเล็กมักจะทอดให้กรอบ เมื่อรับประทานกับส่วนผสมที่ผ่านการผัดจะได้รสชาติที่แปลกใหม่
☞ อ่านเพิ่มเติม
・ออกเดินทาง! ไปเยี่ยมชมย่านไชน่าทาวน์หนึ่งในสามแห่งของญี่ปุ่น "นางาซากิชินจิ" เพื่อลิ้มลองอาหารสุดเอกลักษณ์!
เบอร์เกอร์ซาเซโบะ
ซาเซโบะในนางาซากิที่เป็นฐานทัพอเมริกันมาอย่างยาวนาน ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหารแบบอเมริกันอย่างลึกซึ้ง โดยมีตำนานเล่าว่า ที่นี่คือสถานที่นำเข้า "เบอร์เกอร์" เป็นที่แรกในญี่ปุ่น ภายในเมืองมีร้านเบอร์เกอร์มากมายนับไม่ถ้วน "เบอร์เกอร์ซาเซโบะ" มีเอกลักษณ์หลายอย่าง ทั้งยืนหยัดในการทำสดใหม่ตามออร์เดอร์ การทอดขนมปังเบอร์เกอร์ให้มีกลิ่นหอมเกรียมเล็กน้อย และการเพิ่มมายองเนสที่มีรสชาติหวานๆ ไส้เบอร์เกอร์มีส่วนผสมหลากหลาย แต่ละร้านมีสไตล์ไม่เหมือนกัน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเที่ยวชิมเบอร์เกอร์ไปทีละร้าน เพื่อเปรียบเทียบรสชาติก็เป็นกิจกรรมที่สนุกอีกแบบหนึ่งเลยทีเดียว!
เค้กนางาซากิ
เดิมทีเป็นขนมจากโปรตุเกส หลังจากนำเข้าญี่ปุ่นได้กลายเป็นขนมสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การทำแบบดั้งเดิมนั้นใช้เพียงส่วนผสมสามอย่าง คือ ไข่ไก่ แป้งสาลี และน้ำตาล ต่อมามีร้านที่เพิ่มน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม หรือทำรสชาติอื่นๆ เช่น มัทฉะ ช็อกโกแลต ชีส เป็นต้น
จังหวัดมิยาซากิ
ไก่นัมบัง
นำเนื้อไก่ที่ทอดแล้ว แช่ในซอสเปรี้ยวหวาน จากนั้นราดด้วยซอสทาร์ทาร์ นับเป็นอาหารพื้นบ้านที่เป็นตัวแทนของจังหวัดมิยาซากิ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารและซุปเปอร์มาร์เก็ตในโซนอาหารปรุงสำเร็จ และยังสามารถซื้อซอสทาร์ทาร์และซอสหมักที่ผสมไว้เรียบร้อยแล้วได้อีกด้วย
ไก่ย่างถ่านพื้นเมืองมิยาซากิ
"ไก่พื้นเมืองมิยาซากิ" ที่เนื้อเหนียวนุ่ม ยิ่งเคี้ยวยิ่งได้รสชาติเข้มข้น นำมาย่างด้วยถ่านโดยตรง ทำให้หนังกรอบหอม ด้านในชุ่มฉ่ำ ถ้าได้กินคู่กับเบียร์สักแก้ว บอกเลยว่าสมบูรณ์แบบสุดๆ!
(แหล่งที่มา: สมาคมการท่องเที่ยวเมืองมิยาซากิ)เรทัสมากิ
ซูชิรสชาติสดชื่นที่มีส่วนผสมเพียงผักกาดหอม กุ้ง และมายองเนส รสชาติเรียบง่ายแต่ทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ แถมยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารอีกด้วย!
(แหล่งที่มา：Fugetudo)มันจูชีส
ต่างจากมันจูแบบญี่ปุ่นที่ทุกคนคุ้นเคย มันจูร้านนี้นอกจากจะใช้ชีสแทนไส้ถั่วแดงแบบดั้งเดิมแล้ว แป้งด้านนอกยังมีความกรอบเหมือนบิสกิต เป็นขนมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าด้วยกัน
ส้มฮิวงะนัตสึ
ส้ม "ฮิวงะนัตสึ" ที่มีเปลือกสีเหลืองสดและหนานี้ มีวิธีการรับประทานที่แตกต่างจากส้มทั่วไป หลังจากปอกเปลือกออกแล้ว ให้เก็บเปลือกขาวด้านในไว้ และรับประทานพร้อมกับเนื้อผลไม้ รสชาติจะคล้ายกับเกรปฟรุตหรือมะนาว
จังหวัดคุมาโมโตะ
บาซาชิ
จังหวัดคุมาโมโตะเป็นแหล่งเลี้ยงม้าที่สำคัญ โดยมีประเพณีการกินเนื้อม้าดิบมาตั้งแต่โบราณ เนื้อม้าที่หั่นเป็นแผ่นบางๆ สามารถกินสดโดยไม่มีกลิ่นคาว อีกทั้งยังมีรสชาติหวานนุ่ม เนื้อม้าส่วนต่างๆ เช่น ชิโมฟุริ (เนื้อม้าที่มีไขมันแทรก) เนื้อส่วนท้อง ตับม้า และลิ้นม้า ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป ถ้าไปเยือนคุมาโมโตะต้องลองชิมดู! สำหรับคนที่ไม่กล้ากินเนื้อดิบ สามารถเลือกกินสเต๊กเนื้อม้าได้
รากบัวยัดไส้วาซาบิ
ตำนานเล่าว่าเป็นอาหารที่พระเซนชื่อเก็นทาคุได้ทำขึ้นเพื่อถวายท่านผู้ครองแคว้นคุมาโมโตะ นามว่าโฮโซคาวะ ทาดาโทชิ ผู้มีร่างกายอ่อนแอและมักเจ็บป่วย โดยใช้รากบัวเป็นหลัก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางอาหาร เมนูนี้จะปรากฏบนโต๊ะอาหารของชาวคุมาโมโตะในทุกเทศกาลปีใหม่ วิธีทำ คือ นำรากบัวต้มให้สุก แล้วยัดวาซาบิผสมมิโซะเข้าไปในรูของรากบัว จากนั้นชุบแป้งและนำไปทอด รสชาติหวานนิดๆ จากน้ำผึ้ง แต่ก็มีกลิ่นหอมเผ็ดจากวาซาบิ รสชาติเข้ากันอย่างลงตัว
ราเมงคุมาโมโตะ
น้ำซุปที่ต้มจากกระดูกหมูและกระดูกไก่ ทำให้รสชาติกลมกล่อมสดชื่นกว่าการใช้น้ำซุปกระดูกหมูอย่างเดียว เอกลักษณ์เด่นที่สุดของ "ราเมงคุมาโมโตะ" คือ การเพิ่มกระเทียมทอดและน้ำมันกระเทียม เสิร์ฟคู่กับเส้นราเมงหนาพิเศษ ทำให้มีความโดดเด่นน่าประทับใจ
(แหล่งที่มา：Fujibambi)โดนัทแท่งน้ำตาลทรายแดง
ตามที่ชื่อบอก โดนัทที่ทำเป็นทรงแท่ง แม้จะดูสีดำๆ ไม่ค่อยน่าสนใจ แต่กลิ่นหอมของน้ำตาลทรายแดงนั้นชวนให้น้ำลายสอ และเนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มในก็ทำให้กินแล้วหยุดไม่ได้ เนื่องจากขนาดที่พอดีคำทำให้อดไม่ได้ที่จะแกะมากินเรื่อยๆ!
จังหวัดคาโกชิมะ
ราเมงคาโกชิมะ
"ราเมงคาโกชิมะ" ส่วนใหญ่ใช้น้ำซุปกระดูกหมูที่มีความขุ่นเล็กน้อยเป็นหลัก และใช้เส้นตรง นอกจากนี้ไม่มีวิธีการทำที่ตายตัวมากนัก จึงทำให้มีความหลากหลาย แต่ละร้านต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
หมูดำคาโกชิมะ
หมูดำคาโกชิมะเป็นสายพันธุ์เบิร์คเชียร์แท้ มีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด และมีจำนวนน้อย จึงมีความพิเศษ หมูคาโกชิมะมีไขมันกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เนื้อหวานนุ่ม และมีรสชาติเข้มข้น ไม่ว่าจะนำไปทำชาบูหรือเมนูอื่นๆ ก็อร่อยอย่างเหลือเชื่อ!
ปลาคิบินาโกะ
ปลาตัวเล็กน่ารักชนิดนี้มีขนาด 2-5 ซม. ใหญ่สุดอาจยาวได้ถึงประมาณ 10 ซม. ลักษณะเด่น คือ แถบสีเงินเป็นประกายพาดตามข้างลำตัว แม้จะตัวเล็กแต่คนญี่ปุ่นก็ยังคิดค้นวิธีนำมาทำเป็นซาชิมิ โดยใช้ปลาเล็กหลายสิบตัวจัดเรียงเป็นรูปดอกเบญจมาศสวยงาม เรียกว่า "คิกุซะคุริ" มอบความเพลิดเพลินทั้งตาและลิ้นในคราวเดียว
มันเทศ
มันเทศอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง คาโกชิมะซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรมันเทศมีกำลังการผลิตสูงถึง 400,000 ตันต่อปี มากเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มันเทศแดงซัทสึมะ อันนาเบนิ มันเทศเกาลัด (มันเทศคินโตกิ) อันนะอิโมะ มันเทศม่วง โคกันเซ็นกัน... หลากหลายสายพันธุ์ที่มีรสชาติและความหวานแตกต่างกัน เมื่อเยือนที่นี่ อย่าลืมลองชิมเปรียบเทียบกันดูล่ะ!
อาหารคิวชูโดดเด่นด้วยราเมง เมนไทโกะ อาหารทะเลสด และหมูคุโรบุตะคุณภาพเยี่ยม เป็นจุดหมายที่สายกินห้ามพลาด! แนะนำให้วางแผนทริปคิวชู 3-4 วัน เพื่อให้ได้ลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อครบทุกเมนู