10 สุดยอดข้าวฮอกไกโดที่กำลังฮอตฮิตสุด ๆ ตอนนี้ คนรักข้าวญี่ปุ่นต้องดู!

ถ้าคุณรู้จักแค่ 'ข้าวโคชิฮิคาริ' ของนีงาตะ นั่นถือว่าล้าสมัยไปแล้วนะ ตอนนี้ที่ฮอตฮิตที่สุดคือ「ข้าวฮอกไกโด」!ในการประกวดตรวจสอบคุณภาพธัญพืชปี 2021 มีแค่ฮอกไกโดเท่านั้นที่คว้ารางวัลข้าว 3 สายพันธุ์ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน 「พิเศษA」ฮอกไกโดที่เคยถูกเรียกว่าเป็นดินแดนที่ปลูกข้าวไม่ได้ กลับกลายมาเป็นแหล่งผลิตข้าวใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นได้ยังไงกันนะ? บทความนี้จะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ 'ข้าวฮอกไกโด' 10 สายพันธุ์สุดฮอตที่กำลังเป็นที่จับตามองในตอนนี้!

ข้าวที่อร่อยจริงๆ ไม่ใช่แค่กินเปล่าๆ แต่จะเข้ากันได้ดีกับเครื่องเคียงอะไรก็ตาม
ที่มาของภาพ:Photo AC

ประวัติศาสตร์ข้าวฮอกไกโด

ฮอกไกโดเพิ่งเริ่มมีผู้อพยพจำนวนมากเข้ามาบุกเบิกในสมัยเมจิของญี่ปุ่นนี่เองนะ ตอนแรก ๆ มีแต่พื้นที่ทางใต้ของเกาะที่อากาศคล้าย ๆ กับจังหวัดอาโอโมริเท่านั้นที่ปลูกข้าวได้ ส่วนพื้นที่เหนือซัปโปโรขึ้นไปนี่ ใคร ๆ ก็คิดว่าไม่มีทางปลูกข้าวได้หรอก แต่พอมีการใช้ระบบทหารบุกเบิกที่ดิน ที่ดินเกษตรในฮอกไกโดก็ค่อย ๆ เริ่มมีการปลูกข้าวและพืชผลอื่น ๆ ขึ้นมาบ้าง
แต่รู้ไหมว่า ฮอกไกโดที่เคยถูกเรียกว่า 'ดินแดนแห้งแล้ง' นี่ ข้าวรุ่นแรกที่ปลูกสำเร็จมาจากทางใต้ของเกาะ เขาเรียกกันว่า 'อะกาเกะ' หรือ 'ผมแดง' ด้วยนะ

หลังจากความพยายามในการปรับปรุงที่ดินและอื่น ๆ ในที่สุดก็เริ่มโครงการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวฮอกไกโดในปี 1980 และในปี 1988 ก็ได้ให้กำเนิดสายพันธุ์ข้าวดั้งเดิมของฮอกไกโดเองที่ชื่อว่า 'คิราระ 397' ขึ้นมา หลังจากนั้นก็ทยอยออกสายพันธุ์ใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ อย่างเช่น 'นานัทสึโบชิ (ข้าวเจ็ดดาว)', 'ฟุกคุรินโกะ (ข้าวโชคลาภอายุยืน)', 'ยูเมะพิริกะ (ข้าวความฝันงดงาม)' และอื่น ๆ
ไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกและปริมาณการเก็บเกี่ยวก็ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ แข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำกับจังหวัดนีงาตะเลยทีเดียว ต่อไปนี้เราจะมาแนะนำประเภทของข้าวฮอกไกโดกัน!

ฮอกไกโดเนี่ย จากที่เคยเป็นดินแดนที่ปลูกข้าวไม่ได้ มาถึงความสำเร็จในปัจจุบันนี้ ใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบปีเองนะ
ที่มาของภาพ:Hokkaido rice Yumepirika

การเก็บเกี่ยวข้าวในฮอกไกโดเริ่มขึ้นราวๆ กลางเดือนกันยายนนี่แหละ
ที่มาของภาพ:Hokkaido Rice Love

Yume pirika (ข้าวแห่งความฝันอันงดงาม, ข้าวของคนงาม)

ข้าว 'ยูเมะพิริกะ' อันแสนโด่งดังทั้งในโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า มีคนรู้จักมากมาย บางทีชื่อก็แปลว่า 'ข้าวแห่งความฝัน' หรือ 'ข้าวนางงาม' โฆษณาเองก็โด่งดังเช่นกัน พระเอกในโฆษณาคือคุณลุงปากจัด 'มัตสึโกะ เดอลุกซ์' ไงล่ะ ชื่อ 'ยูเมะพิริกะ' นี่ได้มาจากการประกวดชื่อในฮอกไกโดนะ มาจากความฝันของชาวฮอกไกโดที่อยากให้มันเป็น 'ข้าวที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น' ยังไงล่ะ(Yumeyume)」เพิ่มคำในภาษาไอนุที่มีความหมายว่า 'สวยงาม' เข้าไปด้วยนะ「pirikapirika」ก็เลยรวมกันเป็นชื่อสวยหรูที่แฝงความฝันของชาวบ้านเอาไว้

หลังจากเริ่มวางจำหน่าย ข้าวนี้ได้รับการจัดอันดับ 'พิเศษ A' จากสมาคมตรวจสอบธัญพืชญี่ปุ่นติดต่อกัน 11 ปีซ้อนเลยทีเดียว! พูดได้เลยว่าเป็นข้าวฮอกไกโดที่มีความนุ่มเหนียวสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีความหวานและความเปล่งประกายของเม็ดข้าวที่เพิ่งหุงเสร็จใหม่ ๆ ทำให้สมกับเป็น 'ข้าวรสเลิศระดับสุดยอด' เลยทีเดียว ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นปริมาณการเก็บเกี่ยว คุณภาพ หรือชื่อเสียง ก็ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของฮอกไกโดอย่างแท้จริง เพราะแต่ละเม็ดมีความแน่นเต็ม ๆ ทำให้แม้จะเย็นแล้วก็ยังคงรสชาติดีอยู่ เหมาะมากสำหรับทำข้าวกล่องหรือข้าวปั้น ถึงจะเย็นแล้วก็ยังอร่อยไม่เปลี่ยน!

Yume pirika
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

บรรจุภัณฑ์ของ 'ยูเมะพิริกะ'
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

หมายเหตุ: การประเมินรสชาติข้าวด้วยประสาทสัมผัส
ทุกปีมีงานประกวดข้าวสุดเจ๋งที่ญี่ปุ่นจัดขึ้น โดยสมาคมตรวจสอบธัญพืชญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชาวนาปลูกข้าวดี ๆ และขยายตลาดข้าวคุณภาพเยี่ยมไงล่ะ มีผู้เชี่ยวชาญในวงการ 20 คนที่ถูกคัดมาเป็นกรรมการ พวกเขาจะชิมข้าวแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ 6 อย่าง คือ รูปลักษณ์ กลิ่นหอม รสชาติ ความเหนียวนุ่ม ความแข็ง และภาพรวมทั้งหมด กรรมการจะชิมทั้งข้าวที่ส่งเข้าประกวดและข้าวมาตรฐานที่สมาคมเตรียมไว้ แล้วเปรียบเทียบกันว่าข้าวชนิดไหนเจ๋งสุด!

Nanatsu boshinanatsuboshi(Seven Star Rice)

"ข้าวนานัทสึโบชิ (ข้าวเจ็ดดาว)" ตอนนี้เป็นพันธุ์ข้าวที่ปลูกกันเยอะที่สุดในฮอกไกโดเลยนะ เพื่อน ๆ ของผมส่วนใหญ่ก็ชอบข้าวชนิดนี้กันทั้งนั้น! ชื่อของมันมีความหมายดี ๆ ว่า "หวังว่ามันจะส่องแสงเจิดจ้าเหมือนดาวเหนือในท้องฟ้าของฮอกไกโดที่อากาศบริสุทธิ์ มองเห็นดาวเต็มฟ้า" เท่ใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้ มันยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นข้าวระดับพิเศษ A ติดต่อกัน 11 ปีแล้ว เหมือนกับ "ข้าวยูเมะโนะบิ" เลย แต่โดยรวมแล้ว "ข้าวนานัทสึโบชิ (ข้าวเจ็ดดาว)" จะไม่เหนียวนุ่มเท่า "ยูเมะพิริกะ (ข้าวความฝันงดงาม)" นะ มันจะมีรสชาติสดชื่นหน่อย ๆ แถมยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งหวาน เหมาะมากที่จะเอาไปทำข้าวซูชิ หรือกินคู่กับของทอดและอาหารทะเล ที่ฮอกไกโดมีหลายที่ที่ปลูกข้าวชนิดนี้ เช่น เมืองไอเบ็ตสึ แอ่งคามิคาวะ เมืองฮอกริว แต่ละที่ก็จะมีรสชาติต่างกันนิดหน่อย ถ้ามีโอกาสลองหามากินเปรียบเทียบกันดูนะ!

Seven Star Rice
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

「Seven Star Rice」โฆษณาภาพลักษณ์ในตู้รถไฟฟ้า

fukkurinkofukkurinko(ข้าวแห่งโชคลาภ ยศถาบรรดาศักดิ์ และอายุยืน)

อีกหนึ่งข้าวฮอกไกโดที่ได้รับเกรดพิเศษ A ในปี 2021 ก็คือ "ฟุกคุรินโกะ" หรือแปลว่า "ข้าวฟุกุโรกุจุ" นั่นเอง ชื่อนี้มาจากความหวังว่าเม็ดข้าวทุกเม็ดจะนุ่มฟูและอวบอิ่ม ข้าวชนิดนี้ต่างจากสองพันธุ์แรกนิดหน่อย รสสัมผัสอยู่ระหว่างสองพันธุ์นั้น และอย่างที่ชื่อบอก มันเป็นเม็ดข้าวที่นุ่มฟูไม่แข็งหรือเหนียวเกินไป เว็บไซต์ทางการของข้าวฮอกไกโดบอกว่า "ข้าวชิชิโบชิ" เหมาะกับอาหารเช้าแบบสดชื่น "ข้าวยูเมโนะโฮมาเระ" ที่เหนียวนุ่มเข้มข้นเหมาะกับอาหารเย็น ส่วน "ข้าวฟุกุโรกุจุ" นี่เหมาะกับอาหารกลางวัน เป็นข้าวสายกลางสมดุลดี มันปลูกได้แค่บางส่วนของพื้นที่โดนัน (ทางใต้ของฮอกไกโด) และโซราจิเท่านั้น ถือเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างหายากเลยล่ะ

Fukkurinko
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

「Fukkuri n ko」ของบรรจุภัณฑ์
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

oborodukioboroduki(ข้าวโอโบโรซึกิ)

ตอนแรกก็แค่เห็นชื่อ 'โอบุกิ' (แปลว่าจันทร์พร่างแสง) แต่พอได้ลองชิมจะติดใจจนกลายเป็นลูกค้าประจำไปเลยล่ะ ที่ตั้งชื่อแบบนี้เพราะว่าสีขาวนวล ๆ ของมันเหมือนเมฆบาง ๆ คล้ายแสงจันทร์ยามค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิไงล่ะ ข้าวนี้มีแป้งที่เป็นสายตรงน้อย เลยเหนียวนุ่มแต่ก็ยังมีความเด้งดึ๋งอยู่ด้วย เจ๋งไปอีก! ตอนที่ออกมาใหม่ๆ ปี 2005 นี่ได้คะแนนชิมเท่ากับข้าวโคชิฮิคาริดัง ๆ จากนีงาตะเลยทีเดียว ทำให้ข้าวฮอกไกโดดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาทันที แนะนำให้คนที่ชอบข้าวหวาน ๆ เคี้ยวไปยิ่งหวาน แถมเหนียวนุ่มด้วยนะ ลองดูได้เลย!

oboroduki
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

'แปดสิบเก้า' ที่เห็นบนบรรจุภัณฑ์นั้น เป็นชื่อแบรนด์ข้าวคุณภาพสูงที่ผลิตในท้องถิ่นและจำหน่ายโดย 'สหกรณ์การเกษตรฮอกเคียวเร็น' ชื่อนี้สื่อถึงข้าวที่ผ่านการคัดสรรอย่างเข้มงวดมาแล้วนั่นเองครับ
ที่มาของภาพ:Hokkaido riceLOVE

kirara397kirara(ข้าวเจ้าฮอกไกโดเปล่งประกาย)

คิราระ ขนาดบรรจุ 10 กิโลกรัม
ที่มาของภาพ:amazon Japan

คิราระ 397" หรือที่เรามักได้ยินกันว่า "ข้าวเกรดเทพแห่งฮอกไกโด" นี่เป็นสายพันธุ์ข้าวที่เปิดตัวในปีแรกของยุคเฮเซ จริง ๆ แล้วมันเป็นต้นกำเนิดของข้าวฮอกไกโดหลาย ๆ สายพันธุ์เลยนะ และก็เพราะความสำเร็จของมันนี่แหละ ที่ทำให้ข้าวจากฮอกไกโดได้ก้าวขึ้นสู่เวทีระดับประเทศ "คิราระ" แปลว่า "เปล่งประกาย" เขาใช้คำนี้เพื่อบรรยายว่าข้าวมันสวยวิบวับเหมือนดวงดาวหรือหิมะเลยล่ะ ส่วน "397" นั่นเป็นรหัสระบบที่สถานีทดลองเกษตรคามิคาวะใช้ในการทดสอบสายพันธุ์ ข้าวชนิดนี้มีเนื้อสัมผัสที่พอดี ๆ ไม่แข็งไปไม่นุ่มไป แถมยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งหวาน เหมาะมาก ๆ เลยที่จะเอาไปทำข้าวผัดหรือข้าวหน้าต่าง ๆ

kitakurinkitakurin

ข้าวคิตะคุริน บรรจุ 5 กิโลกรัม
ที่มาของภาพ:amazon Japan


ข้าวชนิดนี้เขาปลูกโดยใช้พันธุ์ 'ฟุกคุรินโกะ' เป็นพ่อแม่พันธุ์นะ ไม่ใช่แค่ประหยัดยาฆ่าแมลงอย่างเดียว แต่ยังต้านทานโรคได้เก่งอีกต่างหาก นอกจากนี้ความหวานกำลังดี เหนียวนิด ๆ นุ่มพอเหมาะ เข้ากับกับข้าวได้สารพัด แต่ถ้าจะให้แนะนำล่ะก็ กินเป็นข้าวเปล่า ๆ นี่แหละอร่อยที่สุด!

ayahimeayahime

อายาฮิเมะ บรรจุ 5 กิโลกรัม
ที่มาของภาพ:amazon Japan


อายาฮิเมะ ข้าวสุดเจ๋งที่มีความเหนียวนุ่มสุดยอด แม้จะเย็นแล้วก็ยังคงความนุ่มฟูฟ่องและไม่แข็งกระด้าง เหมาะมากสำหรับใส่กล่องข้าว เพราะรสสัมผัสที่ดีเยี่ยม วิธีกินที่แนะนำสุด ๆ คือกินเป็นข้าวขาวล้วน ๆ หรือจะเอาไปทำเป็นข้าวกล้องก็เริ่ด ที่มาของชื่อนี้ก็เพราะมันมีสายเลือดของข้าวพันธุ์ "อายะ" เลยตั้งชื่อว่า "อายาฮิเมะ" แปลว่าลูกสาวของอายะไงล่ะ ว่ากันว่าถ้าเอาไปทำข้าวกล้องแล้วอร่อยมาก แม้แต่คนที่ไม่ชอบกินข้าวกล้องก็ยังกินได้อย่างสบาย ๆ เลยนะ

emimaruemimaru

เอมิมารุ บรรจุ 5 กิโลกรัม
ที่มาของภาพ:amazon Japan


ข่าวดีสำหรับคนรักข้าวเลยล่ะ! มีพันธุ์ข้าวใหม่ชื่อ 'เอมิมารุ' ที่อร่อยพอ ๆ กับข้าว 'ชิชิโฮชิ' ที่ดังอยู่แล้ว แต่เจ๋งกว่าตรงที่ปลูกง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องเพาะในเรือนกระจกให้วุ่นวาย หว่านเมล็ดลงนาเลยก็ได้ ประหยัดแรงงานสุด ๆ ถ้าปลูกกันเยอะ ๆ ก็จะได้ขยายพื้นที่นาได้มากขึ้นด้วย นี่แหละข้าวพันธุ์ใหม่ที่หลายคนรอคอย จะได้กินข้าวอร่อย ๆ ที่ปลูกในบ้านเรากันแล้วล่ะ!

daichinohoshidaichinohoshi

ข้าวพันธุ์นี้มีข้าวท้องถิ่นผสมอยู่ด้วยนะ「Hoshinoyumehoshinoyume」สายพันธุ์นี้มีชื่อที่ตั้งขึ้นด้วยความหวังว่าจะเป็น 'ดาวดวงใหม่แห่งดินแดนเหนือ' นะ มันทนหนาวได้ดีและต้านทานโรคได้เก่งมาก ๆ เลย แถมยังปลูกง่ายสุด ๆ ไม่ต้องใช้เรือนกระจกอะไรให้วุ่นวาย หว่านเมล็ดลงดินได้เลย ก็เลยคาดว่าในอนาคตผลผลิตน่าจะเพิ่มขึ้นเยอะเลยล่ะ แล้วที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ข้าวพันธุ์นี้ไม่เหนียวเท่าไหร่ เลยเหมาะมาก ๆ ที่จะเอาไปทำเป็นข้าวแปรรูปหรือข้าวผัดแช่แข็งได้อย่างดีเลยทีเดียว!

sorayukisorayuki

"ข้าวโซระยูกิ" แตกต่างจากข้าวพันธุ์อื่น ๆ ในท้องถิ่นนิดหน่อย เพราะมันถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในธุรกิจอาหารโดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับ "คิราระ 397" ที่ใช้ในธุรกิจเหมือนกัน ข้าวโซระยูกินี่ไม่ได้แค่สืบทอดคุณสมบัติไม่เหนียวเกินไปมาเท่านั้น แต่ยังทนหนาวและต้านทานโรคได้ดีกว่าอีกด้วย ดังนั้น เค้าเลยคาดหวังว่าในอนาคต ข้าวพันธุ์นี้จะได้รับความนิยมในร้านอาหารเชนสโตร์มากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

มาพยายามทำข้าวหอมฟุ้งที่บ้านกันเถอะ!
ที่มาของภาพ:Photo AC

สำหรับคนไทยอย่างเราที่โตมากับการกินข้าว ข้าวอร่อย ๆ มันก็ต่างกันจริง ๆ นะ เคยมีเพื่อน ๆ ที่มาเที่ยวฮอกไกโดแล้วแบกข้าวสารกลับบ้านตั้งถุงนึงเลยล่ะ! ถึงแม้ว่าคนสมัยนี้จะกินอาหารแบบตะวันตกกันมากขึ้น และ 'ห่างเหินจากข้าว' กันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่พอได้เจอข้าวอร่อย ๆ ก็ยังรู้สึกมีความสุขมากอยู่ดี! คราวหน้าที่มาเที่ยวฮอกไกโด นอกจากกินขนมหวานอร่อย ๆ ดื่มนมแล้ว อย่าลืมลองชิมข้าวแท้ ๆ จากฮอกไกโดด้วยนะ!

☞ อ่านเพิ่มเติม
18 ของฝากที่ต้องซื้อแห่ง "ฮอกไกโด" ประจำปี 2024 : ซื้อของอร่อยจากสวรรค์แห่งอาหารไปฝากคนที่คุณรักกัน!