"จังหวัดคากาวะ" นับเป็นทางเข้าสู่ภูมิภาคชิโกกุ ที่ประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารเลิศรสมากมาย! สามารถไปเยี่ยมชมสวนริทสึรินที่ได้มิชลินสามดาว และศาลเจ้าโคโทฮิระที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต อีกทั้งสามารถไปเมืองมิโทโยที่ขึ้นชื่อด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม และจุดถ่ายรูปโพสต์ IG เพื่อถ่ายวิวหาดจิจิบุกะฮามะ และประตูโทริอิลอยฟ้า หรือจะนั่งเรือเฟอร์รีท่องเที่ยวตาม "เกาะเล็ก" อย่าง เกาะนาโอชิมะ และเกาะโชโดชิมะ เพื่อสัมผัสประสบการณ์พักผ่อนอย่างสบายของทะเลเซโตะอุจิ! ถ้าอยากไปเที่ยวคากาวะ ต้องบันทึกบทความนี้!

จังหวัดคากาวะเดินทางไปยังไงนะ?
ออกเดินทางจากโตเกียว
ออกเดินทางจาก "สนามบินฮาเนดะ" ไปยัง "สนามบินทาคามัตสึ" โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
ออกเดินทางจากโอซาก้า
① นั่งรถไฟชินคันเซ็นจาก "ชิน-โอซาก้า" ไปยัง "โอคายามะ" โดยใช้เวลาประมาณ 44 นาที
② เปลี่ยนสาย JR Rapid Mariner ที่ "โอคายามะ" เพื่อไปยัง "ทาคามัตสึ" โดยใช้เวลาประมาณ 54 นาที
14 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในจังหวัดคากาวะ
ชื่อดังเหมือนศาลเจ้าอิเสะ! "ศาลเจ้าโคโทฮิระ" สถานที่ที่คนญี่ปุ่นต้องไปสักครั้งในชีวิต

เส้นทางแสวงบุญทั้งหมดของ "ศาลเจ้าโคโทฮิระ" อยู่ที่ 1,368 ขั้น เป็นศาลเจ้าที่ได้ชื่อว่าเข้าถึงยากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยศาลเจ้านี้มีผู้แสวงบุญมาเยือนมากกว่า 4 ล้านคนต่อปี "ศาลเจ้าโคโทฮิระ" ตั้งอยู่ "โคโตฮิระ" ในจังหวัดคากาวะ เขตนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการอวยพรให้เดินทางทางทะเลอย่างปลอดภัย ถึงแม้จำนวนขั้นบันไดจะดูน่าตกใจ โดยแบ่งเป็น 785 ขั้นเพื่อไปยังศาลเจ้าหลัก และอีก 583 ขั้นเพื่อไปยังศาลด้านใน แต่ระหว่างทางมีร้านของฝากและร้านค้ามากมาย สามารถเดินชอปเดินกินไปเรื่อยๆ! ถ้ามาศาลเจ้านี้ อย่าลืมเครื่องรางสีเหลืองนำโชคพิเศษจากศาลเจ้าโคโทฮิระ และพวงกุญแจรูปน้องหมาคินทาระขนาดจิ๋ว นับเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็จะได้ชมดอกซากุระที่สวยงามด้วยล่ะ!

ศาลเจ้าโคโทฮิระเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อของจังหวัดคากาวะเช่นกัน
ที่มาของภาพ:Kotohira Shrine

ผู้คนไม่สามารถเดินทางได้อย่างอิสระในสมัยเอโดะ จึงเกิด "สุนัขโคโทฮิระ" ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ไปสักการะศาลเจ้าแทนเจ้าของ
ที่มาของภาพ:Kotohira Shrine
ศาลเจ้าโคโทฮิระ
・ที่ตั้ง:892-1 Kotohira-cho, Nakatado-gun, Kagawa Prefecture
・เวลาบริการ:8:30~17:00
・ราคา:เยี่ยมชมฟรี
・การเดินทาง:เดินประมาณ 10 นาทีจาก "สถานีโคโทฮิระ" ของรถไฟฟ้าโคโทฮิระ
・Official website
"สวนริทสึริน" สถานที่ท่องเที่ยวระดับมิชลินสามดาว

"สวนริทสึริน" ที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 400 ปีในเมืองทาคามัตสึ ได้รับมิชลินสามดาวจากคู่มือการท่องเที่ยวมิชลินของประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับ "ออนเซ็นโดโกะ" เอฮิเมะที่ จึงนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับสามดาวเพียงสองแห่งในภูมิภาคชิโกกุ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพิเศษที่ต้องไปเยือนในจังหวัดคากาวะ ตัวสวนครอบคลุมพื้นที่ 75 เฮกตาร์ พร้อมสระน้ำ 6 สระ และสวนหินจำนวนมาก โดยวิวจากยอดเขาฮิไรที่มองเห็นทะเลสาบใต้และสะพานเอเกตสึนั้นนับเป็นตัวแทนที่สวยที่สุดของทางสวน หากต้องการเยี่ยมชมสวนริทสึริน นอกจากการเดินแล้ว ยังสามารถนั่งเรือเล็ก "วาบูเนะ" และฟังคำอธิบายของคนพายเรือพร้อมชื่นชมความงามของสวนจากมุมต่างๆ ได้อีกด้วย หรือสามารถไปลิ้มรสมัทฉะและวากาชิที่โรงน้ำชา "สุกิตซึกิเทอิ" ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของขุนนางศักดินาผู้สืบทอดแห่งสวน
สวนริทสึริน
・ที่ตั้ง:1-20-16 Ritsurin-cho, Takamatsu City, Kagawa Prefecture
・เวลาบริการ:ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ประมาณ 5:30 - 17:00
・ราคา:410 เยน นักเรียนมัธยมต้นและประถม 170 เยน ค่าเรือ 610 เยนต่อคน
・การเดินทาง:เดินประมาณ 10 นาทีจาก "ริตสึรินโคเอ็น" สถานีรถไฟฟ้าโคโตฮิระ
・Official website
"โรงเรียนสอนทำอุด้งนากาโนะ" ที่สามารถทำและทานอุด้งสดได้ด้วยตัวเอง
เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนจังหวัดคากาวะที่ขึ้นชื่อด้านอุด้ง นอกจากการได้ชิมอุด้งแล้ว อยากจะลองทำอุด้งด้วยตัวเองไหม? ทาง "โรงเรียนสอนทำอุด้งนากาโนะ" ได้ตั้งสาขาอยู่ทั้งในเขตเมืองทาคามัตสึและบริเวณใกล้ศาลเจ้าโคโทฮิระ โดยสามารถทำความฝันให้เป็นจริง ด้วยคอร์สสอนทำอุด้งตั้งแต่การนวดแป้งไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และจุดที่พิเศษ คือ การได้ชิมอุด้งฝีมือตัวเองด้วย! คอร์สนี้ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ห้ามพลาดที่จะจัดเวลาไปลองประสบการณ์นี้ในทริปของตัวเองล่ะ!
โรงเรียนสอนทำอุด้งนากาโนะ
・ที่ตั้ง:8 Nariaicho, Takamatsu City, Kagawa Prefecture
・เวลาบริการ:9:00~17:00 (เวลาเรียนอุด้งคือ 9:00 ~ 15:00)
・ราคา:1,760 เยนต่อคน สำหรับ 2 ถึง 14 คน 1,540 เยน สำหรับ 15 ถึง 500 คน
・การเดินทาง:เดินประมาณ 20 นาทีจาก "สถานี Enza" ของ Kotohira Electric Railway
・Official website
เที่ยวเกาะในทะเลเซโตะอุจิที่จังหวัดคากาวะแบบสบายๆ

เมื่อมาถึงจังหวัดคากาวะ ไม่ควรพลาดการท่องเที่ยวแบบ "เกาะ" อันแสนสนุกและผ่อนคลายในทะเลเซโตะอุจิ! สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะต่างๆ ที่ท่าเรือทาคามัตสึ โดยประกอบด้วยเส้นทางหลายสาย ได้แก่: ไปยังเกาะเมกิหรือเกาะโอกิจากท่าทาคามัตสึ, ไปยังเกาะนาโอชิมะหรือเกาะเทชิมะจากท่าทาคามัตสึ, ไปยังเกาะโชโดชิมะจากท่าทาคามัตสึ มาลองเพิ่มความสนุกให้กับทริปด้วยการวางแผน "ท่องเที่ยวเกาะ" กันเถอะ!
"เกาะนาโอชิมะ" ที่ผสมผสานศิลปะเข้ากับชีวิต พร้อมด้วยผลงานมากมายจากศิลปินระดับมาสเตอร์
"เกาะนาโอชิมะ" ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศทางศิลปะ และยังเป็นสถานที่จัดนิทรรศการที่สำคัญของ "เทศกาลศิลปะทะเลเซโตะอุจิ" เป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่อยากไปเที่ยวเกาะต่างๆ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาทีจากท่าเรือทาคามัตสึ ไม่ว่าจะเที่ยวแบบหนึ่งวันหรือพักค้างคืนบนเกาะก็ดีทั้งนั้น บริเวณท่าเรือมิยาอุระประกอบด้วยผลงานศิลปะฟักทองสีแดงขนาดใหญ่ของคุณคุซามะ ยาโยอิที่สร้างขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว บนเกาะเต็มไปด้วยจุดที่น่าสนใจ รวมถึงบ้านเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และจัดแสดงผลงานศิลปะภายใน "Art House Project" อาคารที่ผสมผสานพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ร้านอาหาร และที่พักหรู "Benesse House" ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นของสถาปนิก อันโด ทาดาโอะ "พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิชู" สุดท้ายอย่าลืมไป "โรงอาบน้ำนาโอชิมะ" เพื่อแช่ออนเซ็น และใช้เวลาท่องเที่ยวบนเกาะอย่างคุ้มค่าล่ะ
"เกาะเทชิมะ" ที่เรียบง่ายได้ซ่อนพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลกและห้องครัวที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นเมืองเอกลักษณ์

Kitchen
ที่มาของภาพ:Seto Inland Sea Art Festival
"เกาะเทชิมะ" ที่ตั้งอยู่ระหว่างโชโดชิมะและนาโอชิมะยังเป็นแหล่งสมบัติที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะอีกด้วย สิ่งที่ห้ามพลาดบนเกาะ ได้แก่ "พิพิธภัณฑ์ศิลปะเทชิมะ" ที่มีลักษณะเป็นทรงรีและผสมผสานกับทิวทัศน์ธรรมชาติของนาขั้นบันได ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของคุณริวเอะ นิชิซาว่า สามารถดึงดูดผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมจำนวนมาก "Teshima Yokoo House" ที่เป็นบ้านเก่าแก่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ "Island Kitchen" ที่ผสมผสานวัตถุดิบเข้ากับศิลปะ มาลองลิ้มรสอาหารพิเศษจากฟาร์มในท้องถิ่นที่นี่กันเถอะ
"เกาะเมกิ" ที่อยู่ใกล้ท่าเรือทาคามัตสึมากที่สุด เป็นที่อยู่ของปีศาจตามตำนานเล่าขาน
ตามตำนานเล่าว่า ที่นี่คือเกาะเมกิ สถานที่ที่โมโมทาโร่เดินทางมาปราบปีศาจ หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า "โอนิจิมะ" โดยอยู่ห่างจากท่าเรือทากามัตสึเพียง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที และยังสามารถมองเห็นวิวเมืองทากามัตสึได้จากที่นี่ เกาะเล็กแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 2.62 ตารางกิโลเมตร นอกจากจะสามารถไปผจญภัยในถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่กลางเกาะแล้ว ริมทะเลยังมีร้านกาแฟวิวทะเลมากมายให้สามารถชมวิวพร้อมทานของว่าง ช่วงฤดูใบไม้ผลิสามารถชมความงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่งกว่า 3,000 ต้น มาสัมผัสความสงบและผ่อนคลายบนเกาะเล็กเฉพาะตัวที่ทะเลเซโตะอุจิกันเถอะ
มาเดินเล่นกับน้องแมวที่เกาะแมว "โอกิ"
เกาะโอกิ ที่ทำให้ทาสแมวทั้งหลายควบคุมตัวเองไม่ได้ เป็นเกาะเล็กๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีแมวอาศัยอยู่มากกว่าคน แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังมีแมวน่ารักกว่า 70 ตัวอาศัยอยู่บนเกาะนี้ คอยต้อนรับผู้มาเยือน เกาะนี้มีขนาดเล็กกว่าเกาะเมกิ มีพื้นที่เพียง 1.34 ตารางกิโลเมตร ลักษณะเด่นของเกาะภูเขาเล็กแห่งนี้ คือ สามารถเดินผ่านทางลาดชันที่คดเคี้ยวต่างๆ เพื่อชมชีวิตประจำวันของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนที่สร้างตามความลาดชัน อีกทั้งยังประกอบด้วยร้านกาแฟในบ้านโบราณที่มีเอกลักษณ์หลายแห่ง อย่าลืมเดินขึ้นไปถึงยอดเขาที่ศาลเจ้า Fyotamami เพื่อสักการะด้วยล่ะ!
ทิวทัศน์ภูเขาและทะเล "เกาะโชโดชิมะ" เป็นแหล่งผลิตมะกอกและโชยุ
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเซโตะอุจิ "เกาะโชโดชิมะ" ตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคชิโกกุและภูมิภาคฮอนชู โดยประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น "สวนมะกอก" ที่เป็นสถานที่ธีมเกี่ยวกับต้นมะกอก และเป็นหนึ่งในฉากของการ์ตูนเรื่อง Kiki's Delivery Service "ทางเดินของเทวดา" ที่เป็นหนทางทรายที่ปรากฏให้เห็นเพียงวันละสองครั้งตามการขึ้นลงของน้ำทะเล "หุบเขาคังคาเค" ที่สูง 817 เมตร และเป็นหุบเขาที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสามหุบเขาที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดชมใบเมเปิ้ลที่มีชื่อเสียงอีกด้วย นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องมะกอกแล้ว ที่นี่ยังมีโรงงานผลิตโชยุที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับซื้อเป็นของฝากเลยล่ะ!
ย่านศิลปะแฟชั่นที่คนรักงานวินเทจต้องไปเยือน "North Shore Alley" เปลี่ยนจากโกดังเก่าสู่ย่านศิลปะสุดอินดี้
การปรับปรุงและฟื้นฟูโกดังเก่าจากยุคต้นโชวะ "North Shore alley" ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือทาคามัตสึด้วยการเดินประมาณ 10 นาที ซึ่งประกอบด้วยร้านค้าทั้งหมด 14 ร้าน เช่น ร้านกาแฟสายอาร์ต "umie" ที่สามารถจิบกาแฟชมวิวทะเล ท่ามกลางบรรยากาศที่ถูกล้อมรอบด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณ "206 TSU MA MU" ที่นำเสนอพายเค็มสไตล์ฝรั่งเศสหลากหลายรสชาติ "RAG-STYLE" ที่จำหน่ายของชำหลากหลายชนิด นับว่าเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการใช้เวลาพักผ่อนอย่างสบายเลยล่ะ!
North Shore alley
・ที่ตั้ง:4-14 Kitahamacho, Takamatsu City, Kagawa Prefecture
・เวลาบริการ:ขึ้นอยู่กับร้านค้า ประมาณ 11.00-19.00
・การเดินทาง:เดินประมาณ 10 นาทีจาก "สถานี JR ทาคามัตสึ"
・Official website
จุดเช็คอิน "Chichibugahama Beach" พระอาทิตย์ตกเงาดำที่สวยงาม

"Chichibugahama Beach" ที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเมืองมิโทโยะ จังหวัดคากาวะ ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะภาพถ่ายสะท้อนท้องฟ้าช่วงพระอาทิตย์ตก ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด และได้ขนานนามว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็มอูยูนิของประเทศญี่ปุ่น "Chichibugahama Beach" ตอนน้ำลงจะเกิดเป็นทะเลสาบคดเคี้ยวสวยงาม น้ำในบ่อสะท้อนท้องฟ้า โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดิน จะได้ภาพวิวสวยเหมือนกระจกเงา สำหรับผู้ที่ชอบการถ่ายรูปห้ามพลาดเด็ดขาด!
Chichibugahama Beach
・ที่ตั้ง:203-3 Nio Otsu, Niocho, Mitoyo City, Kagawa Prefecture
・การเดินทาง:ขึ้นรถบัสจากสถานี JR "Uzuma" และลงที่สถานี "Chichibugahama"
・Official website
"ศาลเจ้าทาคายะ" ที่มีประตูโทริอิลอยฟ้าอันงดงาม

ประตูโทริอิลอยฟ้าสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองไปจนถึงทะเลเซโตะอุจิ
ที่มาของภาพ:เว็บไซต์ทางการ
"ศาลเจ้าทาคายะ" ตั้งอยู่บนภูเขานาข้าวในเมืองคันนอนจิ จังหวัดคางาวะ ซึ่งภายในมี "ประตูโทริอิลอยฟ้า" เป็นที่รู้จักกันดี ภูเขาลูกเล็กที่มีความสูง 404 เมตร การเดินจากล่างเขาไปยังศาลเจ้าบนเขาต้องใช้เวลาประมาณ 50 นาที โดยประกอบด้วย "บันไดสู่สวรรค์" ที่มีทั้งหมด 270 ขั้น เส้นทางนี้ค่อนข้างท้าทายกำลังขาเลยล่ะ แต่พอขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว มองผ่านประตูโทริอิ จะเห็นวิวสุดอลังการของเมืองคันนอนจิไปจนถึงทะเลเซโตะอุจิ นับเป็นวิวที่สวยงาม คุ้มค่ากับความเหนื่อยแน่นอน! แนะนำให้แวะไปเที่ยว "Chichibugahama Beach" ด้วย เพราะอยู่ในเมืองมิโทโยะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเหมือนกันในช่วงหลายปีนี้
ศาลเจ้าทาคายะ
・ที่ตั้ง:2800 Takaya, Kanonji City, Kagawa Prefecture
・การเดินทาง:ใช้เวลาเดินประมาณ 50 นาที จาก "ศาลเจ้าทาคายะ"
・Official website
ใกล้สถานีรถไฟ "ปราสาททาคามัตสึ" ประสบการณ์แปลกใหม่กับการล่องเรือชมปราสาท
"ปราสาททาคามัตสึ" ที่เดินจากสถานีทาคามัตสึเพียง 1 นาที สร้างโดยอิคุมะ ชิกิมาสะ ซึ่งเป็นขุนนางรับใช้ของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ เนื่องจากมีคูเมืองที่นำน้ำทะเลจากทะเลเซโตะอุจิเข้ามา จึงได้รับการขนานนามเป็น "สามปราสาทน้ำใหญ่" และถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันยังคงสามารถเห็นซากประวัติศาสตร์ ประตูเมืองทหารเรือ และหอคอยชมจันทร์ ได้จนถึงทุกวันนี้ นับเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์และเป็นจุดชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงของเมืองทาคามัตสึ สามารถนั่งเรือเล็กล่องไปตามคูเมือง เพื่อชมวิวและให้อาหารปลาไทได้ด้วย ตำนานเล่าว่าการให้อาหารปลาที่นี่จะช่วยให้คำอธิษฐานกลายเป็นจริง
ปราสาททาคามัตสึ
・ที่ตั้ง:2-1 Tamamocho, Takamatsu City, Kagawa Prefecture
・เวลาบริการ:ประตูทิศตะวันตกเปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก และประตูทิศตะวันออกเปิดตั้งแต่ 7:00 - 18:00 ในฤดูร้อน และตั้งแต่ 8:30 - 17:00 ในฤดูหนาว
・ราคา:200 เยน เด็ก 100 เยน ค่าเรือ 500 เยน เด็ก 300 เยน
・การเดินทาง:เดินประมาณ 1 นาทีจาก "สถานี JR ทาคามัตสึ"
・Official website
สวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชิโกกุ "สวนสาธารณะซานุกิมันโนะ" ช่วงฤดูหนาวยังมีการจัดแสดงประดับไฟที่สวยงาม

สวนดอกไม้ในสวนสาธารณะซานุกิมันโนะ
ที่มาของภาพ:National Sanuki Manno Park
สำหรับคนที่ชอบชมดอกไม้และชมไฟประดับ ห้ามพลาด "สวนสาธารณะซานุกิมันโนะ" เด็ดขาด ที่นี่เป็นทุ่งดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชิโกกุ สามารถชมดอกไม้ที่สวยงามได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นดอกทิวลิป, ดอกนาร์ซิสซัส, ดอกไฮเดรนเยีย และดอกทานตะวัน เป็นสถานที่ถ่ายรูปสวยและน่าประทับใจ ช่วงฤดูหนาว ตอนกลางคืนจะมีงาน "Winter Dream World" ที่ประดับไฟสวยงามด้วยหลอดไฟกว่า 500,000 ดวง สามารถส่องสว่างทั่วทั้งสวน และสร้างบรรยากาศที่อลังการมากเลยล่ะ
สวนสาธารณะซานุกิมันโนะ
・ที่ตั้ง:4243-12 Yoshino, Manno-cho, Nakatado-gun, Kagawa Prefecture
・เวลาบริการ:วันที่ 1 มีนาคมถึง 19 กรกฎาคม เวลา 9.30~17.00 วันที่ 20 กรกฎาคมถึง 31 สิงหาคม เวลา 9.30~18.00 วันที่ 1 กันยายนถึง 31 ตุลาคม เวลา 9.30~17.00 วันที่ 1 พฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 9:30~16:30 หยุดทุกวันอังคาร หากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะหยุดวันพุธ
・ราคา:450 เยน ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี 210 เยน นักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่าเข้าฟรี
・การเดินทาง:ขับรถประมาณ 15 นาทีจาก "สถานีโคโทฮิระ" ของรถไฟฟ้าโคโตฮิระ
・Official website (Traditional Chinese)
อาหารห้ามพลาดของจังหวัดคากาวะ
① ถ้ามาเที่ยวจังหวัดแห่งอุด้งต้องลองชิม "อุด้งซานุกิ"
เมื่อพูดถึงอาหารที่เป็นตัวแทนของจังหวัดคากาวะ ก็ต้องพูดถึง "อุด้งซานุกิ"! เส้นอุด้งทำจากแป้งสาลีเป็นอาหารที่ถูกบริโภคมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น คนท้องถิ่นกินอุด้งเฉลี่ยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง! โดยเฉพาะในจังหวัดคากาวะ ร้านอุด้งมีหลากหลายแบบ ทั้งร้านทั่วไป ร้านบริการตัวเอง และโรงงานผลิตเส้น วิธีการกินก็มีหลากหลาย เช่น แบบน้ำซุป แบบแห้ง แบบคามาอาเงะ แบบเสิร์ฟในตะกร้าไม้ไผ่ และอื่นๆ สามารถศึกษาให้ดีก่อนไปลองทานกัน
② "ไก่ย่างติดกระดูก" อาหารริมทางที่หอมกรุ่น
ของว่างท้องถิ่นของชาวจังหวัดคากาวะ "ไก่ติดกระดูก" ตามชื่อเลย คือ เนื้อไก่ที่ติดกระดูก หมักด้วยกระเทียม เกลือ และพริกไทย แล้วนำไปอบจนด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่ม โดยสามารถแบ่งเป็น "ไก่หนุ่ม" ที่เนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำ "เนื้อแม่ไก่" ที่กลิ่นหอมเข้มข้นและมีความเหนียวนุ่มสู้ลิ้น ซึ่งสามารถหาทานเมนูนี้ที่ร้านอิซากายะในท้องถิ่น ปริมาณก็ถือว่าเยอะคุ้มค่า ถ้ากินแบบคนท้องถิ่นจริงๆ ต้องกัดคำใหญ่เต็มปากให้สะใจเลยล่ะ!
③ เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยผลมะกอก "วัวมะกอก" ความนุ่มและฉ่ำมากกว่าเนื้อวัวทั่วไปถึง 1.5 เท่า!

เนื้อวัวมะกอกเป็นอาหารอร่อยที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดคากาวะ
ที่มาของภาพ:Olive Cow official website
ผู้ที่ชอบกินเนื้อวากิวแล้วมาเที่ยวจังหวัดคากาวะ ไม่ควรพลาดการลิ้มลอง "เนื้อวัวมะกอก" เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยอาหารผสมผลมะกอก เนื่องจากกรดไขมันในมะกอกสามารถเพิ่มความนุ่มและความฉ่ำของเนื้อได้มากถึง 1.5 เท่า จึงได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เพราะปริมาณที่จำกัด จึงมีร้านอาหารเพียงไม่กี่แห่งในท้องถิ่นที่นำเสนอความอร่อยนี้ ลองมองหาร้านเนื้อย่างหรือร้านอิซากายะที่เสิร์ฟเนื้อวัวมะกอกกันก่อนล่ะ!
3 ของฝากที่ต้องซื้อจากจังหวัดคากาวะ
① อุด้งทำมือ

ร้านทำเส้นในท้องถิ่นต่างนำเสนออุด้งแบบของฝากเป็นของตัวเอง
ที่มาของภาพ:Hinode noodle making shop
ของฝากที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวจังหวัดคากาวะ คือ เส้นอุด้ง! โดยสามารถแบ่งเป็นอุด้งสด และอุด้งกึ่งสำเร็จรูป อุด้งสดมีความนุ่มและความสดใหม่ แต่เก็บได้ไม่นาน ส่วนอุด้งกึ่งสำเร็จรูปสามารถเก็บได้ประมาณ 2 เดือน จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากอย่างมาก นอกจากจะหาซื้อได้ที่สนามบินและร้านขายของที่ระลึกแล้ว คนท้องถิ่นยังแนะนำให้ไปซื้อที่ร้านขายเส้นโดยตรง เพราะปกติร้านพวกนี้จะนำเสนออุด้งแพ็กสำหรับซื้อเป็นของฝากอยู่เสมอ!
② ขนมแห้งวาซานบอน

น้ำตาลวาซานบอน
ที่มาของภาพ:Baikodo
ในบรรดาขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มักจะเห็นน้ำตาลวาซานบอน ซึ่งเป็นน้ำตาลชั้นดี โดยที่มาของชื่อ "วาซานบอน" นี้ คือ กระบวนการผลิตที่ต้องบดในอ่างถึง 3 ครั้ง จังหวัดคากาวะก็มีการผลิตน้ำตาลวาซานบอนประเภท "ซานุกิ" อย่างมากมาย และร้านเก่าแก่ในท้องถิ่นอย่าง Baikodo ก็ใช้น้ำตาลชนิดนี้ในการผลิต "ขนมแห้งวาซานบอน" ที่เป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ แพ็กเกจสวยงามน่าอร่อย นับเป็นของฝากที่ควรซื้อมากเลยล่ะ!
③ พุดดิ้งน้ำตาลวาซานบอน

พุดดิ้งน้ำตาลวาซานบอน
ที่มาของภาพ:Daisen Ranch
"พุดดิ้งวาซานบอน" เป็นขนมที่ผลิตโดยฟาร์ม Oyama ในจังหวัดคากาวะ ทำจากน้ำตาลวาซานบอนแบบซานุกิ และนมสดจากวัวเจอร์ซีย์ รสชาติเข้มข้นละมุนลิ้น พร้อมความหวานที่นุ่มนวล เป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่นอย่างมาก เหมาะสำหรับการซื้อกลับไปทานที่โรงแรมอย่างมากเลยล่ะ!
จังหวัดคากาวะในภูมิภาคชิโกกุพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ทั้งอุด้งรสเลิศ ศาลเจ้าโคโทฮิระอันศักดิ์สิทธิ์ สวนริทสึรินที่งดงาม และเกาะน้อยใหญ่ที่เงียบสงบ เดินทางสะดวกจากทั้งโตเกียวและโอซาก้า เหมาะสำหรับทริปสบายๆ ที่อยากสัมผัสญี่ปุ่นในมุมที่แตกต่าง วางแผนเที่ยวคากาวะได้ตลอดทั้งปี