เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นในใจของนักท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ "เกียวโต" ต้องติดอันดับแน่นอน! เกียวโตเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามเก่าแก่ หรืออาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับที่สืบทอดมากว่าร้อยปี แต่รู้หรือไม่ว่าเกียวโตไม่ได้มีดีแค่ความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมเท่านั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีร้านอาหารเก๋ ๆ คาเฟ่สุดชิค รวมถึงศาลเจ้าและวัดวาอารามก็มีการจัดการที่ทันสมัยมากขึ้น จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นจนเป็นกระแสการท่องเที่ยว "เกียวโตฟีเวอร์" ขึ้นมาอีกครั้ง! มาดูกันว่าตอนนี้เกียวโตมีกิจกรรมใหม่ ๆ อะไรบ้างที่ครองใจวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นไปได้สำเร็จ
5 ร้านเด็ดในเกียวโตที่ต้องไปเช็คอิน
1. "Gion Duck Rice" ร้านข้าวหน้าเป็ดสุดฮิต ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัวร้าน!
เกียวโตมีอาหารอร่อยมากมายให้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่าง เคียวเรียวริ (อาหารเกียวโต), ยูโดฟุ (เต้าหู้ต้ม), หรือ วากาชิ (ขนมหวานญี่ปุ่นโบราณ) แต่ถ้าพูดถึงเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของเกียวโต หนึ่งในนั้นก็คือ "เนื้อเป็ด" มีทั้งสุกี้ยากี้เป็ด และโซบะน้ำซุปเป็ด ก็พบเห็นได้ทั่วไป "Gion Duck Rice" เป็นร้านอาหารที่เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อเป็ด ที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัย เมื่อเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ก็สร้างความฮือฮาและมีคนมาต่อคิวรอยาวเหยียด!
ป้ายหน้าร้านร้าน "Gion Duck Rice" มีลักษณะพิเศษตรงที่ใช้เพียงแค่ "อิโมจิ" เป็ดและข้าว แม้แต่เมนูของร้านก็ใช้อิโมจิเช่นเดียวกัน โดยพนักงานจะอธิบายรายละเอียดให้ลูกค้าฟังอย่างละเอียด เมนูเด็ดของร้านคือ "ข้าวหน้าเป็ด" ที่มีวิธีทานถึง 3 แบบเหมือนกับข้าวหน้าปลาไหลของนาโกย่า ทานแบบแรกคือเพลิดเพลินกับรสชาติดั้งเดิม แบบที่สองคือใส่เครื่องปรุงรส และแบบที่สามคือใส่น้ำซุปทำเป็น โอชะซึเกะ (ข้าวราดน้ำชา)
ทางร้านได้จัดเตรียมเครื่องปรุงรสและเสิร์ฟในภาชนะที่สวยงามและดูมีกิมมิค โดยใส่ในหลอดทดลองให้ลูกค้าเลือกปรุงรสได้ตามใจชอบ เครื่องปรุงรสมีทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ พริกไทยองุ่น (Grape Sansho), พริกป่นญี่ปุ่น (Shichimi), และยูซุ กาน้ำร้อนสำหรับรินน้ำซุปก็มีลักษณะคล้ายกาน้ำดริปกาแฟ รวมถึงเนื้อเป็ดที่นี่มีความนุ่มละลายในปาก และมีชิ้นหนาเคี้ยวเพลิน ด้วยหน้าตาอาหารที่สวยงามและมีรสชาติอร่อย ทำให้ถูกใจคนรุ่นใหม่เป็นที่สุด นอกจากนี้ ร้านนี้ยังมีสาขาย่อยที่อยู่ในตรอกข้าง ๆ ซึ่งขายเมนู "ราเมงเป็ด" โดยชื่อร้านและเมนูก็ใช้อิโมจิเช่นกัน และแน่นอนว่าคิวยาวเหมือนกันด้วย!
Gion Duck Rice
・ที่อยู่: ชั้นใต้ดิน CB01, Gion First Building, 281-1 Gionmachi Kitagawa, Higashiyama-ku, Kyoto-shi, Kyoto
・เวลาทำการ: [วันธรรมดา] 12:00~15:00 น., 18:00~21:00 น. / [วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์] 11:00~15:00 น., 17:00~21:00 น. (หยุดวันพุธและวันพฤหัสบดี)
・อินสตาแกรมทางการของร้าน
2. "Kawaramachi Ni Oboreru Yoru" ร้านบุฟเฟต์คุชิคัตสึ ของทอดเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น และเติมซาว่าได้ไม่อั้นใน 0 วินาที!
"คุชิคัตสึ" หรือ "ของทอดเสียบไม้" เป็นอาหารท้องถิ่นของโอซาก้า โดยจะนำผัก เนื้อสัตว์ หรือซีฟู้ด มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสียบไม้ไผ่แล้วนำไปชุบแป้งทอดจนกรอบเหลืองน่าทาน แล้วจิ้มซอสตามใจชอบ ร้าน "Kawaramachi Ni Oboreru Yoru" แห่งนี้ก็เป็นร้านที่เสิร์ฟเมนูทอดไม้เสียบเช่นกัน แต่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ มีเมนูคุชิคัตสึให้เลือกถึง 40 ชนิด! ผักที่ใช้เป็นผักเกียวโตชื่อดังที่หาทานได้ยากอย่าง "เคียวยาไซ" ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความสดใหม่และรสชาติที่อร่อย ร้านนี้เป็นร้านแบบบุฟเฟต์ มีหลายแพ็คเกจให้เลือก เช่น 30 นาที, 2 ชั่วโมง, และ 3 ชั่วโมง แต่ละแพ็คเกจจะรวมอาหารบุฟเฟต์ในจำนวนที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่หลากหลาย
ไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของร้านคือ "การเติมซาว่าใน 0 วินาที" หรือก็คือเติมซาว่าได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ เพราะที่โต๊ะมีเครื่องทำซาว่าเลมอนติดตั้งอยู่ สามารถเติมซาว่าได้ตลอดเวลา! คุณสามารถสั่งน้ำแข็งผลไม้มาแล้วใส่ลงไปได้ตามต้องการ แล้วลิ้มลองซาว่าได้หลากหลายรสชาติ นอกจากนี้ยังมีเบียร์, สาเกญี่ปุ่น, หรือเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ให้เลือกอีกด้วย สิ่งเดียวที่ต้องระวังคือ คุณอาจจะอดใจไม่ไหวที่จะกดเครื่องดื่มจนเมาโดยไม่รู้ตัว
Kawaramachi Ni Oboreru Yoru
・ที่อยู่: ชั้น 2 อาคาร Bunmeido, 37 Daikoku-cho, Kawaramachi-dori, Nakagyo-ku, Nakagyo-ku, Kyoto-shi, Kyoto
・เวลาทำการ: 16:00-24:00 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
3. "Kitano LAB" พาร์เฟ่ต์ผลไม้พรีเมี่ยม
บริเวณใกล้กับศาลเจ้าในเกียวโตหลายแห่งมักมีร้านเล็ก ๆ ที่น่าสนใจมากมาย "Kitano LAB" ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยตั้งอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้าศาลเจ้าคิตาโนะเทนมังกู (Kitano Tenmangu) ซึ่งเป็นศาลเจ้าชื่อดังของเกียวโต บรรยากาศของร้านผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมได้อย่างลงตัว "Kitano LAB" เป็นร้านขนมที่จำหน่ายแยมผลไม้และพาร์เฟ่ต์ ภายในร้านมีขวดแยมหลากหลายสีสันวางเรียงรายอยู่บนชั้น ทำให้ดูสวยงามราวกับผลงานศิลปะ
แยมของ "Kitano LAB" มีความพิเศษตรงที่มีการคัดสรรผลไม้ที่มีคุณภาพสูงจากทั่วประเทศญี่ปุ่นเหนือจรดใต้โดยเชฟมากประสบการณ์ เพื่อค้นหาผลไม้ที่มีวิตามินสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ และปราศจากสารเคมี ที่ร้านนี้คุณจะได้ลิ้มลองพาร์เฟ่ต์ แยม และไอศกรีมที่ทำจากผลไม้เหล่านี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่สดใหม่และหวานฉ่ำในทุก ๆ คำ
Kitano LAB
・ที่อยู่: No. 914, Kamimaghocho, Gozen-dori 1, Kamigyo-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 9:00~18:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันอังคาร)
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
4. "RAU" ร้านขนมที่เหมือนกับแกลเลอรี่ศิลปะ
"RAU" เป็นร้านขนมขายเค้ก ช็อกโกแลต และไอศกรีม โดยมีแนวคิดหลักคือ "การถ่ายทอดภาพที่เห็นหรือโลกในจินตนาการผ่านขนมหวาน" ขนมแต่ละชิ้นในร้านนี้สวยงามราวกับผลงานศิลปะ และถูกจัดแสดงในพื้นที่ที่คล้ายกับแกลลอรี่ ทำให้ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมรู้สึกเหมือนกำลังเลือกผลงานศิลปะ
ครั้งแรกที่คุณเห็นเค้กของ RAU คุณจะต้องทึ่งอย่างแน่นอน เพราะแต่ละชิ้นมีรูปร่างที่มีชีวิตชีวา บางชิ้นมีส่วนโค้ง บางชิ้นมีความแวววาว จากรูปลักษณ์และชื่อของขนม คุณจะไม่สามารถเดาได้เลยว่ารสชาติของมันเป็นอย่างไร ขนมแต่ละชนิดมีจำนวนจำกัด ถ้ามาช้าอาจจะพลาดได้ นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ซื้อแซนด์วิชบิสกิต Nami-Nami ที่มีรูปร่างเหมือนคลื่น และกำลังเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย เหมาะจะเป็นของฝากจากเกียวโตให้เพื่อนและครอบครัวเป็นที่สุด!
RAU
・ที่อยู่: 318-6 Inaricho, Shijo-shita 2-chome, Kawaramachi-dori, Shimogyo-ku, Kyoto-shi, Kyoto ตั้งอยู่ใน GOOD NATURE STATION
・เวลาทำการ: 11:00~19:00 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
5. "Sakenonki Bingo" อิซากายะสุดอินเทรนด์
ในญี่ปุ่นช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีอิซากายะแนวใหม่ที่เรียกว่า "อิซากายะนีออน" แม้ว่ารูปแบบการบริการจะเหมือนกับอิซากายะทั่วไป และการตกแต่งก็มีความคลาสสิกเหมือนเดิม แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีความคิดสร้างสรรค์แถมถ่ายรูปสวย จึงดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นที่ปกติไม่ชอบดื่มเหล้าให้มาลองสัมผัส "Sakenonki Bingo" เปิดในปี 2020 และภายในเวลาไม่ถึง 5 ปีก็กลายเป็นร้านยอดฮิตที่หาที่นั่งยากมากในย่านนี้
คำว่า "Nonki (呑気)" ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ไร้ความกังวล และบรรยากาศของร้านก็สอดคล้องกับชื่อนี้มาก ๆ ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถนั่งพูดคุยเสียงดังและผ่อนคลายด้วยการดื่ม เมนูแนะนำอย่างเต้าหู้เนื้อ, ลิ้นวัว, ปลาไทมิโซะงา, และเทบะซากิ (ปีกไก่ทอด) ทุกจานล้วนมีรสชาติอร่อย การเดินเข้าไปในร้านเล็ก ๆ แห่งนี้เพื่อมานั่งดื่มชิล ๆ ยามค่ำคืนเมื่อมาเยือนเกียวโต ถือเป็นการปิดท้ายของวันที่สมบูรณ์แบบสุด ๆ!
Sakenonki Bingo
・ที่อยู่: 266 Nishinishikikojicho, Nakagyo-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 16:00~24:00 น.
・อินสตาแกรมทางการของร้าน
แถมพิกัด 5 ศาลเจ้าในเกียวโตที่ต้องไปขอพร!
เกียวโตเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีศาลเจ้ามากกว่า 800 แห่งและวัดกว่า 1700 แห่ง ซึ่งมากเกินกว่าจะเที่ยวชมได้หมด ศาลเจ้าและวัดบางแห่งมีชื่อเสียงจากความศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องลือ ส่วนบางแห่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเนื่องจากของที่ระลึกและเครื่องรางที่มีเอกลักษณ์
1. ศาลเจ้าคุรุมะซากิ: ขอพรเรื่องโชคลาภ
ศาลเจ้าคุรุมะซากิ (Kurumazaki Shrine) ตั้งอยู่ที่อาราชิยามะ เดิมทีเป็นที่รู้จักในเรื่องของการขอพรเรื่องเงิน โชคลาภ ความรัก และการเรียน นอกจากนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่ผู้คนนิยมมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง ศิลปะ และทักษะต่าง ๆ มีดาราไอดอลญี่ปุ่นหลายคนมาอธิษฐานและบริจาคแผ่นไม้สีแดงที่เขียนชื่อตัวเองไว้ รวมถึงไอดอลของจอห์นนี่, Exile, ไอดอลหญิงในซีรีส์ Sakamichi และนักแสดงชื่อดังมากมาย ที่นี่จึงดึงดูดแฟนคลับที่มาตามหาชื่อดาราไอดอลที่ตนชื่นชอบและถ่ายรูปคู่กับแผ่นไม้เหล่านั้น
ที่มาของภาพ: 車折神社
เนื่องจากมีแฟนคลับมามากมาย ทางศาลเจ้าจึงได้ร่วมมือกับ TOWER RECORDS เพื่อออกเครื่องราง "Oshikatsu Omamori" หรือ "เครื่องรางโอชิ" มีทั้งหมด 9 สี แฟนๆ สามารถเลือกซื้อเครื่องรางสีประจำตัวของไอดอลได้ และใส่รูปไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบในเครื่องรางเพื่ออธิษฐานขอพรให้ได้บัตรคอนเสิร์ตและที่นั่งดี ๆ ได้อีกด้วย
ศาลเจ้าคุรุมะซากิ
・ที่อยู่: 23 Nishisaga Asahi-cho, Ukyo-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 9:30~17:00 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
2. ศาลเจ้าเซย์เมย์: สายดูดาวห้ามพลาด
อาเบะ โนะ เซย์เมย์ เป็นองเมียวจิที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคเฮอันของญี่ปุ่น เป็นผู้ที่มีความรู้มากมายในด้านดาราศาสตร์และเคยรับใช้จักรพรรดิถึง 6 พระองค์ เขาจึงได้รับความนิยมอย่างมากในราชสำนัก และศาลเจ้าเซย์เมย์ (Seimei Shrine) ถูกสร้างขึ้นเพื่อสักการะอาเบะ โนะ เซย์เมย์ นั่นเอง ศาลเจ้านี้มีชื่อเสียงในเรื่องการอวยพรและขับไล่วิญญาณชั่วร้าย นอกจานี้ในปัจจุบันมีอนิเมะและนิยายมากมายที่ใช้องเมียวจิเป็นธีมของเรื่อง
เนื่องจากงานหลักขององเมียวจิคือการศึกษาโหราศาสตร์และการทำนาย ดวงดาวจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนขององเมียวจิ และภายในศาลเจ้าก็มีสัญลักษณ์ดาวปรากฎทั้งบนเสาและเครื่องราง นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีการจำหน่ายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับดวงดาวที่ปล่อยออกมาตามฤดูกาล สำหรับคนที่ชื่นชอบดวงดาวห้ามพลาดมาที่นี่เด็ดขาด!
ศาลเจ้าเซย์เมย์
・ที่อยู่: 806 Seimei-cho, Kamigyo-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 9:00~17:00 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
3. ศาลเจ้าฮิราโนะ: เครื่องรางรูปกระรอกสุดน่ารัก
ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine) มีชื่อเสียงเนื่องจากมีชื่อเหมือนกับสมาชิกวง King & Prince, ฮิราโนะ โช ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักในหมู่แฟนคลับ หากคุณต้องการขอพรให้ได้บัตรเข้าร่วมกิจกรรมของฮิราโนะ โช ศาลเจ้าฮิราโนะคือที่ที่ควรไปเลยล่ะ
ศาลเจ้าฮิราโนะมีอาคารหลักที่เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ และเป็นสถานที่ชมซากุระชื่อดังในเกียวโตอีกด้วย เนื่องจากสัญลักษณ์ของศาลเจ้าเป็นดอกซากุระ แผ่นไม้เขียนคำอธิษฐานที่นี่จึงมีลายดอกซากุระสุดน่ารักเช่นกัน นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีการจัดตลาดหัตถกรรม "Hiranosakuraichi (平野櫻市)" ที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนคี่ (เดือนมีนาคม, พฤษภาคม, กรกฎาคม, กันยายน, พฤศจิกายน) คุณสามารถเดินชมได้ทั้งศาลเจ้าและงานหัตถกรรมของช่างฝีมือท้องถิ่นได้อย่างเพลิดเพลิน
ศาลเจ้าฮิราโนะ
・ที่อยู่: 1 Hiranomiya Honcho, Kita-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 6:00~17:00 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
4. ศาลเจ้าอิมามิยะ: ขอพรให้ได้สามีรวย!
ศาลเจ้าอิมามิยะ (Imamiya Shrine) ตั้งอยู่ในเขตคิตะของเกียวโต ก่อนการสถาปนาเมืองหลวงเฮอัน สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงสถานที่สักการะเทพเจ้าแห่งโรคภัยไข้เจ็บ ในปีที่ 5 ของปฏิทินโชจิ (ค.ศ. 995) ศาลเจ้าอิมามิยะได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อขอพรให้พ้นจากโรคร้าย แต่สิ่งที่ทำให้ศาลเจ้าอิมามิยะมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นคือ การขอพรให้ได้แต่งงานกับคนรวย หรือที่เรียกว่า "Tamanokoshi (玉の輿)" ซึ่งหมายถึงการแต่งงานกับคนที่ฐานะดีกว่าตนเอง
ที่มาของภาพ: 今宮神社
ตำนานเริ่มต้นจาก เคโชอิน นางสนมของโชกุนรุ่นที่ 3 ของตระกูลโทคุงาวะ ชื่อจริงของเธอคือ โอทามะซัง (お玉さん) เดิมทีเธอเป็นลูกสาวของพ่อค้าขายผักและผลไม้ในเขตนิชิจินของเกียวโต ต่อมาเธอได้ให้กำเนิดโชกุนโทกุงาวะรุ่นที่ 5 และเธอได้ช่วยฟื้นฟูศาลเจ้าอิมามิยะ ที่ในเวลานั้นถูกทิ้งร้างและกลายเป็นที่รกร้างเนื่องจากไฟไหม้ จึงกลายเป็นที่เลื่องลือที่จะมีโอกาสได้แต่งงานในครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นเดียวกับเธอ
หลังจากเยี่ยมชมและสักการะศาลเจ้าอิมะมิยะแล้ว อย่าลืมไปลองชิมขนมญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง "อาบุริโมจิ (あぶり餅)" โมจิย่างเสียบไม้ไผ่ โดยด้านนอกศาลเจ้ามีขายอยู่สองร้าน นั่นคือ ร้าน "Kazariya" ที่มีอายุกว่า 400 ปี และร้าน "Ichimonjiya" อายุกว่า 1,000 ปี และคุณจะได้ทานรสชาติอร่อยที่ ฮิเดโทชิ นิชิจิมะ และ เซโย อุจิโนะ ได้ลิ้มลองในเรื่อง "Kinou Nani Tabeta" ฉบับภาพยนตร์อีกด้วย
ศาลเจ้าอิมามิยะ
・ที่อยู่: 21 Murasaki Imamiya-cho, Kita-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 9:00~17:00 น.
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
5. ศาลเจ้ายาซุยคอนพิระกู: ขจัดพลังงานลบ
ศาลเจ้ายาซุยคอนพิระกู (Yasui Kompiragu Shrine) เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของ "การตัดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี" มีหินใหญ่ที่เชื่อว่าสามารถขจัดพลังลบได้
ขั้นตอนการตัดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีหรือขจัดพลังงานลบออกไปนั้น คุณต้องซื้อกระดาษ "คาตะชิโระ (Katashiro)" และเขียนความปรารถนาของคุณลงไป และนำไปลอดผ่านใต้หินใหญ่ และสุดท้ายนำแผ่นกระดาษไปแปะบนหิน หินนั้นเต็มไปด้วยแผ่นกระดาษที่เขียนคำอธิษฐาน ทำให้ดูขลังสุด ๆ ว่ากันว่ามีผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อสวดมนต์และขอพร โดยเฉพาะเรื่องเจ้านายเอ็นดู ไม่ถูกรังแกในที่ทำงาน หลังจากกลับออกไปจากศาลเจ้า พลังงานลบของพวกเขาก็ได้รับการปลดปล่อยและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ศาลเจ้ายาซุยคอนพิระกู
・ที่อยู่: 70 Shimobentencho, Higashioji Matsubaraagaru, Higashiyama-ku, Kyoto
・เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง (สำนักงาน 9:00~17:30 น.)
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ญี่ปุ่นกลับมาเปิดให้ท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบอีกครั้ง เกียวโตก็มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น มีทั้งสถานที่ที่น่าสนใจและโรงแรมใหม่ ๆ เปิดตัวหลายแห่ง เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมและความทันสมัยได้อย่างลงตัว มาสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ และอาหารอร่อยในปี 2024 แล้วคุณจะหลงรักเกียวโตอีกครั้ง!