ภาพทิวเขาสะท้อนในทะเลสาบ หมอกบางลอยละล่องราวกับอยู่ในความฝัน - เหล่านี้คือความงามราวสวรรค์สรรค์สร้างจาก คามิโคจิ จังหวัดนากาโน่นั่นเอง! ถ้าอยากลองไปสัมผัสความงดงามนี้ล่ะก็ "JapaiJAPAN" ก็ได้รวบรวมข้อมูลสภาพอากาศและคำแนะนำการแต่งกาย พร้อมอธิบายเส้นทางเดินระหว่างจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ทะเลสาบไทโช สะพานคัปปะ และ ทะเลสาบเมียวจิน รวมถึงแนะนำอาหารอร่อย และ ตัวอย่างโปรแกรมท่องเที่ยวมาให้แบบครบครัน! พร้อมแล้วก็มาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทริปคามิโคจิไปกับทีม JapaiJAPAN กันเลย!

จะเดินทางไปคามิโคจิจากที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นได้อย่างไร?
หากยังไม่เข้าใจวิธีการเดินทางไปคามิโคจิ ดูได้ที่ คามิโคจิ (Kamikochi) เที่ยวยังไง? แนะนำเส้นทางเดิน สะพานคัปปะ ทะเลสาบไทโช พร้อมวิธีแต่งตัวตามฤดูกาล 2025
คามิโคจิ - ดินแดนแห่งเทพเจ้า
"คามิโคจิ (かみこうち)" แม้จะอยู่ในเมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโน่ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเลือกเดินทางขึ้นมาจากทาคายามะ จังหวัดกิฟุ หรือจากภูมิภาคโฮคุริคุ แม้จะตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนกลาง แต่คามิโคจิกลับเป็นที่ราบบนภูเขาที่เดินเที่ยวได้ค่อนข้างง่าย โดยมีภูเขาสูงล้อมรอบ อาทิ ภูเขายาเคดาเกะ เทือกเขาโฮทากะ และเทือกเขาโจเนนดาเกะ แม่น้ำอาซุสะที่ใสสะอาดไหลผ่านกลางพื้นที่ สองฝั่งมีป่าต้นเบิร์ชและต้นสนลาริกซ์ดั้งเดิม การเดินชมบริเวณนี้จะเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องตะลึง

นอกจาก "ทะเลสาบไทโช" ที่สามารถชมภาพสะท้อนของเทือกเขา สะพานคัปปะจุดชมวิวยอดเยี่ยมของเทือกเขาโฮทากะ และทะเลสาบเมียวจินที่มีตำนานว่าเป็นที่ประทับของเทพเจ้าแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโฮทากะซึ่งเป็นศาลเจ้าหลักของเทือกเขาแอลป์เหนือ จึงทำให้คามิโคจิได้รับการขนานนามจากชาวญี่ปุ่นว่าเป็น"ดินแดนแห่งเทพเจ้า"
เกร็ดความรู้: คามิโคจิเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในอดีต ภูเขาไฟยาเคดาเกะเคยปะทุ เศษหินและตะกอนที่พุ่งกระจายในอากาศได้ตกลงมาทับถมบนพื้นดิน เมื่อผสานกับการทับถมของตะกอนจากแม่น้ำอาซุสะ จึงก่อให้เกิดเป็นที่ราบแคบๆ ที่เราเรียกว่าคามิโคจิในปัจจุบัน!
คำแนะนำเกี่ยวกับสภาพอากาศและการแต่งกายที่คามิโคจิ
แนะนำอุณหภูมิตลอดทั้งปีและทัศนียภาพ 4 ฤดู: เดือนไหนเหมาะที่จะไปคามิโคจิที่สุด?

คามิโคจิตั้งอยู่ที่ความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อุณหภูมิจะต่ำกว่าในเมืองประมาณ 5-10 องศา ช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน เมื่อเริ่มเปิดภูเขา นอกจากจะเห็นยอดเขาโฮทากะที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ตามเส้นทางเดินก็ยังมีหิมะที่ยังไม่ละลาย หากวางแผนมาเที่ยวในช่วงนี้ จะพอดีกับฤดูซากุระบานทั่วญี่ปุ่น หลังจากชมหิมะบนภูเขาแล้ว ยังสามารถลงมาชมซากุระได้อีกด้วย! อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะถึงกลางเดือนพฤษภาคม สภาพอากาศที่คามิโคจิจึงจะเริ่มมั่นคง ฝนตกน้อย ต้นไม้เริ่มแตกยอดอ่อนสีเขียว และดอกไม้เล็กๆ ริมทางก็เริ่มบานสะพรั่ง

ฤดูใบไม้ผลิที่คามิโคจิ|ที่มาของภาพ: คู่มือทางการของคามิโคจิ

ฤดูร้อนที่คามิโคจิ|ที่มาของภาพ: คู่มือทางการของคามิโคจิ
กลางถึงปลายเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฎาคม เป็นฤดูฝน แม้ว่าฝนที่ตกพรำๆ จะทำให้การเดินทางลำบากขึ้นบ้าง แต่ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะน้อย ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับความงามอันสงบเงียบได้ พอถึงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม คามิโคจิจะกลายเป็นสถานที่หลบร้อนยอดนิยม และจะค่อนข้างแออัด ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม อาจได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นทำให้ฝนตกหนัก แต่คามิโคจิก็เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เห็นสีเหลืองทองของยอดเขาและต้นลาร์ชสองฝั่งแม่น้ำที่สวยงามจนต้องกลั้นหายใจ และในช่วงสุดท้ายก่อนเดือนพฤศจิกายนที่จะปิดภูเขา ยังมีโอกาสพบกับภาพความฝันของหิมะโปรยปรายอีกด้วย!

ต้นสนสีเหลืองทองในฤดูใบไม้ร่วง|ที่มาของภาพ: คู่มือทางการของคามิโคจิ
ข้อควรรู้: ทำไมจึงไม่มีข้อมูลอุณหภูมิของเดือนธันวาคมถึงมีนาคม? เนื่องจากในฤดูหนาวอุณหภูมิที่คามิโคจิลดต่ำกว่าศูนย์องศา ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน - กลางถึงปลายเดือนเมษายน จะเข้าสู่ช่วงปิดภูเขา ร้านค้าทั้งหมดจะปิดพัก รถบัสก็หยุดให้บริการ สามารถเดินทางได้ด้วยการเดินเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย จึงไม่แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงนี้!
คำแนะนำเรื่องการแต่งกาย: จะใส่อะไรไปคามิโคจิ? ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน เมื่อมาถึงคามิโคจิต้องจำไว้ว่าให้ "แต่งตัวแบบใส่เป็นชั้นๆ เหมือนหัวหอม" เมื่อมีแดดออก อุณหภูมิที่รู้สึกได้ที่คามิโคจิจะอุ่นกว่าอุณหภูมิจริงมาก ถ้าใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ จะรู้สึกร้อน หากมาเที่ยวในช่วงมิถุนายน-สิงหาคม สามารถใส่เสื้อยืดแขนสั้นด้านในและเสื้อคลุมตัวเดียวก็พอ สำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาวบาง และสวมเสื้อกั๊กขนเป็ดหรือเสื้อคลุมบางๆ เพิ่มด้านในเสื้อกันลม นอกจากนี้ หากต้องการมาในช่วงเช้าตรู่หรืออยู่จนถึงกลางคืน ต้องระวังเรื่องอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างเช้าและกลางคืน ควรพกเสื้อกันหนาวหนาๆ ไปด้วย!

คำแนะนำการแต่งกายฤดูใบไม้ผลิ|ที่มาของภาพ:เว็บไซต์ทางการของคามิโคจิ

คำแนะนำการแต่งกายฤดูร้อน|ที่มาของภาพ:เว็บไซต์ทางการของคามิโคจิ

คำแนะนำการแต่งกายฤดูใบไม้ร่วง|ที่มาของภาพ:เว็บไซต์ทางการของคามิโคจิ
แม้จะเป็นพื้นที่ภูเขา แต่จากประสบการณ์ของทีม "JapaiJAPAN" หากไม่มีฝน เนื่องจาก 80% ของเส้นทางปูด้วยกรวดเล็กๆ หรือทางเดินไม้ รองเท้าผ้าใบพื้นเรียบธรรมดาก็ใช้ได้ อย่างไรก็ตาม หากวันก่อนที่จะมาคามิโคจิมีฝนตกหนัก บางเส้นทางอาจยังเปียกและลื่น ในกรณีนี้การใส่รองเท้าบูทกันน้ำจะสะดวกกว่า สิ่งสำคัญคือต้องกันแดดอย่างเคร่งครัด รังสียูวีบนภูเขาแรงมาก แม้จะรู้สึกเย็นสบายจากลมที่พัดมา แต่ก็อาจโดนแดดเผาได้หากอยู่ทั้งวัน! นอกจากการทาครีมกันแดดแล้ว แนะนำให้สวมหมวกกันแดดด้วย!
ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์: ควรพกอะไรติดตัวบ้าง?อันดับแรก เนื่องจากสภาพอากาศบนภูเขาเปลี่ยนแปลงง่าย ควรพกอุปกรณ์กันฝนติดตัวไว้จะดีกว่า นอกจากนี้ ในกระเป๋าต้องมีน้ำดื่มเพื่อเติมน้ำระหว่างการเดินเขา! น้ำที่ขายในตู้อัตโนมัติที่คามิโคจิมีราคาแพงกว่าปกติ 2-3 เท่า จึงควรเตรียมน้ำมาเองจะประหยัดกว่า!
แผนการเดินเที่ยว: เส้นทาง "ทะเลสาบไทโช ~ สะพานคัปปะ" vs เส้นทาง "สะพานคัปปะ ~ ทะเลสาบเมียวจิน"

กลัวว่าต้องเดินเยอะเลยไม่กล้าไปคามิโคจิใช่ไหม? จริงๆ แล้ว เนื่องจากคามิโคจิเป็นที่ราบ เส้นทางเดินจึงไม่ได้ต้องปีนขึ้นลงตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วง "ทะเลสาบไทโช ~ สะพานคัปปะ" มีทางเดินไม้และทางเดินกรวดที่ปูไว้อย่างดี ทุกเพศทุกวัยสามารถเดินได้ แต่พอถึงช่วง "สะพานคัปปะ ~ สะพานเมียวจิน" จะมีทางขึ้นลงที่ค่อนข้างลำบากมากขึ้น หากไม่มั่นใจในสมรรถภาพร่างกายของตัวเอง ควรพิจารณาว่าจะเดินครบทุกเส้นทางหรือไม่ หรือแบ่งการเดินเป็นสองวัน

【เส้นทางสำหรับมือใหม่】ทะเลสาบไทโช ~ สะพานคัปปะ -- สบายๆ เหมาะกับทุกวัย! (ใช้เวลาเดินทางเที่ยวเดียว: ประมาณ 1.5 ชั่วโมง)

จาก "ทะเลสาบไทโช" ไปยัง "สะพานคัปปะ" จะผ่าน "สระทาชิโระและพื้นที่ชุ่มน้ำทาชิโระ", "สะพานทาชิโระและสะพานโฮทากะ", "อนุสาวรีย์เวสตัน (Weston Monument)" และสถานที่สำคัญอื่นๆ เส้นทางนี้ไม่มีความยากลำบาก แต่อาจจะกังวลว่าควรเลือกเดินเส้นทางไหนมากกว่า
ในช่วงเส้นทางเดินจากทะเลสาบไทโช (Taisho-ike) ไปยังทะเลสาบทาชิโระ (Tashiro-ike) มีจุดชมวิวหลายแห่งที่สามารถมองเห็น "ภูเขาไฟยาเคดาเกะ" (焼岳) ได้อย่างงดงาม จากทะเลสาบทาชิโระไปยังสะพานทาชิโระ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินได้ 2 เส้นทาง คือ "เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะ" (梓川コース) หรือ "เส้นทางป่า" (林間コース) โดยเส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะจะเดินไปตามแม่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ ส่วนเส้นทางป่าจะพาเดินผ่านป่าที่อุดมสมบูรณ์ จึงได้ชื่อว่า "เส้นทางศึกษาธรรมชาติ"

แม้ "ทะเลสาบทาชิโระ" จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เงาสะท้อนของต้นไม้ในน้ำและวิวภูเขาที่อยู่ไกลออกไปสร้างทัศนียภาพที่งดงาม
จากสะพานทาชิโระไปยังสะพานคัปปะ แบ่งเป็น "เส้นทางฝั่งขวาแม่น้ำอาซุสะ" และ "เส้นทางฝั่งซ้ายแม่น้ำอาซุสะ" ทั้งสองเส้นทางสามารถลงไปใกล้ริมน้ำและก้อนหินได้ และทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยป่าต้นสนลาริกซ์ที่สวยงาม
ความแตกต่างที่สำคัญคือ "เส้นทางฝั่งขวาแม่น้ำอาซุสะ" จะผ่านโรงแรมหลายแห่ง ทำให้มีตัวเลือกร้านอาหารมากกว่า แต่หากเดิน "เส้นทางฝั่งซ้ายแม่น้ำอาซุสะ" จะอยู่ใกล้ "สถานีรถบัสคามิโคจิ" มากกว่า ซึ่งสะดวกหากต้องการรับบัตรคิวสำหรับรถบัสขากลับ นอกจากนี้ บริเวณสะพานคัปปะยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งอาหารหลัก ขนมหวาน ของว่าง และร้านขายของฝากครบครัน!
ข้อควรรู้: เมื่อไหร่ที่ต้องรับบัตรคิวรถบัสขากลับ?
หากต้องการเดินทางกลับจากคามิโคจิไปมัตสึโมโตะ กรุณารับบัตรคิวสำหรับรถบัสที่ต้องการนั่งแต่เนิ่นๆ! สำหรับข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับคามิโคจิ สามารถอ่านได้ที่ 【แนะนำการเที่ยวคามิโคจิ ①】!

【เส้นทางระดับกลาง】สะพานคัปปะ~สะพานเมียวจิน──จุดชมวิวสุดมหัศจรรย์ที่ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงไม่ควรพลาด! (ใช้เวลาเดินทางขาเดียว: ประมาณ 1 ชั่วโมง)

เส้นทางจากสะพานคัปปะไปยังสะพานเมียวจิน มีจุดสำคัญคือทะเลสาบเมียวจินและพื้นที่ชุ่มน้ำกาเคะซาวะ แม้เส้นทางจะไม่ซับซ้อนมากนัก แต่มีความชันสูง ต้องใช้แรงมากกว่าช่วงแรก สำหรับเส้นทางฝั่งขวาของแม่น้ำอาซุสะมีทางเดินไม้ทำให้เดินง่ายขึ้น ส่วนเส้นทางฝั่งซ้ายเป็นทางเดินกรวดเล็ก ๆ ซึ่งอาจลื่นเมื่อเปียกชื้น และอันตรายเมื่อเดินลง เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ไปทางซ้ายและกลับทางขวา โปรดระมัดระวังในการก้าวเดินและรักษาการทรงตัวให้ดี!
แม้ว่าถ้าเดินเร็ว ๆ จะสามารถไปกลับระหว่างสะพานคัปปะและสะพานเมียวจินได้ภายในสองชั่วโมงกว่า แต่การเร่งรีบเช่นนั้นอาจทำให้พลาดชมความงามของธรรมชาติโดยรอบ แนะนำให้พักที่สะพานเมียวจินสักครู่ ทานขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเพิ่มพลัง นอกจากจะทำตามวิถีชาวญี่ปุ่นด้วยการนำเบนโตะมาปิกนิก ยังสามารถทานอาหารที่โรงอาหารของเมียวจินคังได้ และอย่าลืมแวะชิมปลาย่างที่คาบนจิโกยะเด็ดขาด!

"คามนจิโกยะ" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ เนื่องจากมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน!

อร่อยแต่ราคาสูง! ปลาย่างหนึ่งตัวราคา 1,000 เยน! | ที่มาของภาพ: เว็บไซต์ทางการของคามนจิโกยะ
คามนจิโกยะก่อตั้งโดยคามิโจ คามนจิ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการปีนเขาสมัยใหม่ของญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 130 ปี และได้สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 4 ปลาอิวานะย่างเกลือจากคามิโคจิที่สดและเต็มไปด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูง จนมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาลิ้มลอง แม้ว่าในช่วงที่คนเยอะอาจต้องรอนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ทุกคนบอกว่าคุ้มค่ากับรสชาติที่อร่อย!
ไม่ไกลจากคามนจิโกยะคือ "ศาลเจ้าโฮทากะ" แม้จะต้องจ่ายค่าเข้าชม 300 เยน แต่ "ทะเลสาบเมียวจิน" ภายในนั้นถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในคามิโคจิ "ทะเลสาบเมียวจิน 1" มีเรือสีแดงที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาจอดอยู่ ในยามเช้าเมื่อมีหมอกล้อมรอบ ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน ส่วน "ทะเลสาบเมียวจิน 2" มีก้อนหินขนาดต่างๆ กระจายอยู่พร้อมต้นไม้ที่เติบโตท่ามกลางหิน สร้างทัศนียภาพที่งดงามแบบสวนญี่ปุ่น แนะนำให้พักค้างคืนที่นี่หนึ่งคืน เพื่อจะได้ชมความงามยามเช้าก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเริ่มทยอยมา
เกร็ดความรู้: ชื่อ "คามิโคจิ" มีที่มาจากศาลเจ้าโฮทากะ?
คำว่า かみこうち ที่อ่านว่า "คามิโคจิ" แต่เดิมเขียนด้วยตัวอักษรคันจิว่า "神垣内" ซึ่งหมายถึงสถานที่ที่เทพเจ้าลงมาประทับที่ศาลเจ้าโฮทากะ ต่อมาจึงนำการออกเสียงนี้มาใช้เรียกพื้นที่นี้ และเปลี่ยนตัวอักษรคันจิเป็น "上高地" อย่างที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

เมื่อเดินกลับมาตาม "เส้นทางฝั่งขวาของแม่น้ำอาซุสะ" จะผ่านป่าต้นเบิร์ชและป่าสนขนาดใหญ่ ก่อนจะมาถึง "พื้นที่ชุ่มน้ำกาเคะซาวะ" ซึ่งอยู่ใกล้กับสะพานคัปปะ จากจุดนี้สามารถชมวิวภูเขาร็อปเปียคุได้อย่างชัดเจน พร้อมกับชมความงามของสายน้ำที่เปลี่ยนสีระหว่างฟ้าและเขียว รวมถึงต้นไม้แห้งที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างเงียบสงบ ทำให้ทิวทัศน์ดูมีความงามแบบกวีนิพนธ์ และเป็นการปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แผนการเดินทางตัวอย่าง: วางแผนเที่ยวคามิโคจิให้คุณในพริบตา!
ทุกคนวางแผนจะอยู่ที่คามิโคจินานแค่ไหน? ขอแนะนำเส้นทางเดินเที่ยวคามิโคจิที่แตกต่างกันตามระยะเวลาดังต่อไปนี้!
เส้นทางท่องเที่ยว 2 ชั่วโมง |
・ลงที่ [ป้ายรถบัสทะเลสาบไทโช] ・เส้นทาง: [ทะเลสาบไทโช] → [ทะเลสาบทาชิโระ] → เส้นทางแม่น้ำอาซุสะหรือเส้นทางป่า → [สะพานทาชิโระ] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งขวาหรือซ้าย → [สะพานคัปปะ] ・เดินทางกลับจาก [สถานีรถบัสคามิโคจิ] |
เส้นทางท่องเที่ยว 3 ชั่วโมง - A |
・ลงที่ [สถานีรถบัสคามิโคจิ] *สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปมัตสึโมโตะ กรุณารับบัตรคิวก่อน ・เส้นทาง: [สะพานคัปปะ] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งขวา → [อนุสรณ์เวสตัน (Weston Monument)] → [สะพานทาชิโระ] → เส้นทางแม่น้ำอาซุสะ → [ทะเลสาบทาชิโระ] → [ทะเลสาบไทโช] → เส้นทางป่า → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งซ้าย → [สถานีรถบัสคามิโคจิ] ・เดินทางกลับจาก [สถานีรถบัสคามิโคจิ] |
เส้นทางท่องเที่ยว 3 ชั่วโมง - B |
・ลงที่ [สถานีรถบัสคามิโคจิ] *สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปมัตสึโมโตะ กรุณารับบัตรคิวก่อน ・เส้นทาง: [สะพานคัปปะ] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งซ้าย → [สะพานเมียวจิน] → [ทะเลสาบเมียวจิน] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งขวา → [ทุ่งชื้นทาเคซาวะ] → [สะพานคัปปะ] ・เดินทางกลับจาก [สถานีรถบัสคามิโคจิ] |
เส้นทางท่องเที่ยว 5 ชั่วโมง |
・ลงที่ [ป้ายรถบัสทะเลสาบไทโช] ・เส้นทาง: [ทะเลสาบไทโช] → [ทะเลสาบทาชิโระ] → เส้นทางแม่น้ำอาซุสะหรือเส้นทางป่า → [สะพานทาชิโระ] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งซ้าย → [สถานีรถบัสคามิโคจิ] *สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปมัตสึโมโตะ กรุณารับบัตรคิวก่อน → [สะพานคัปปะ] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งซ้าย → [สะพานเมียวจิน] → [ทะเลสาบเมียวจิน] → เส้นทางริมแม่น้ำอาซุสะฝั่งขวา → [ทุ่งชื้นทาเคซาวะ] → [สะพานคัปปะ] ・เดินทางกลับจาก [สถานีรถบัสคามิโคจิ] |
---|
หากลงรถที่ป้ายรถบัส Taisho Pond จะไม่ต้องเดินย้อนกลับระหว่างทะเลสาบไทโช และสะพานคัปปะ แต่อาจจะไม่ได้รับบัตรคิวสำหรับการจัดระเบียบ ผู้ที่จะเดินทางไปมัตสึโมโตะควรระวังเป็นพิเศษ! เส้นทางที่ผู้เขียนแนะนำที่สุดสำหรับการเที่ยวคามิโคจิ คือแบ่งเป็น "เส้นทาง 3 ชั่วโมง - A" หนึ่งวัน และ "เส้นทาง 3 ชั่วโมง - B" อีกหนึ่งวัน ข้อดีของการพัก 2 วัน 1 คืนนอกจากจะได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว ยังมีเวลาเหลือมากพอที่จะลองชิมอาหารท้องถิ่น และที่สำคัญที่สุดคือได้ชมความงามยามเย็นและเช้าตรู่ที่มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า!
ข้อแนะนำ: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหรือชอบเดินเล่นแบบสบายๆ ควรเผื่อเวลาเพิ่มอีก 1-2 ชั่วโมงจากเวลาที่ประเมินไว้ข้างต้น นอกจากนี้ การเดินทางจากทะเลสาบไทโชไปถึงเส้นทางทะเลสาบเมียวจินในวันเดียวอาจจะค่อนข้างเหนื่อย จึงควรเผื่อเวลาเพิ่มด้วย

คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่หลงใหลธรรมชาติในญี่ปุ่น ด้วยวิวภูเขาสูง ทะเลสาบใส และเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่น่าจดจำที่สุดในเขตเจแปนแอลป์
☞ อ่านเพิ่มเติม:
・วิธีไปคามิโคจิ (Kamikochi) 2025 เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง รถบัส รถไฟ จากโตเกียว
・เยือนบ้านเกิดของคุซามะ ยาโยอิ! เส้นทางศิลปะและวัฒนธรรมใน "เมืองมัตสึโมโตะ" จังหวัดนากาโน่!
・ทริปเที่ยว "กิฟุ" ด้วยตัวเอง: ชมหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ แช่ออนเซ็นเกโระ อิ่มอร่อยกับเนื้อฮิดะระดับพรีเมียม