ทริปเที่ยว "กิฟุ" ด้วยตัวเอง: ชมหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ แช่ออนเซ็นเกโระ อิ่มอร่อยกับเนื้อฮิดะระดับพรีเมียม

วันนี้ "JapaiJAPAN" จะมาแนะนำทริปเที่ยวสู่ภาคกลางของญี่ปุ่นที่ "จังหวัดกิฟุ"! นอกจากมรดกโลกหมู่บ้านชิราคาวาโกะแล้ว ยังมีเมืองประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอกากิ และปราสาทกิฟุ อย่าพลาด "เมืองมาโกเมะ" และ "ถนนทาคายามะ" ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสมัยเอโดะ สำหรับคนที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมออนเซ็น แนะนำให้ไปดื่มด่ำกับช่วงเวลาแช่น้ำที่ "ออนเซ็นเกโระ" และ "หมู่บ้านออนเซ็นโอคุฮิดะ" ซึ่งเป็นหนึ่งในสามออนเซ็นชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น! บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ และอาหารอร่อยที่ต้องลองในจังหวัดกิฟุไว้ให้แล้ว ก่อนวางแผนทริป อย่าลืมอ่านบทความนี้ล่ะ! 日本合掌村有幾個日本合掌村位置日本合掌村雪景餐廳白川鄉合掌村點燈前往方法巴士

ที่มาของภาพ:Photo AC

ก่อนอื่น มารู้จัก "จังหวัดกิฟุ" กันสักเล็กน้อยกันเถอะ!

จังหวัดกิฟุตั้งอยู่ในภูมิภาคตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ของแค้วนในอดีตแคว้น อย่าง มิโนะและฮิดะ ทางเหนือเป็นภูเขา ทางใต้เป็นที่ราบ มีภูมิประเทศที่หลากหลาย เป็นจังหวัดในประเทศที่สำคัญมาแต่โบราณ เชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคคันไซ โทไก และชินาโนะ ชื่อกิฟุมาจากภูเขากีซานในจีนโบราณที่เป็นถิ่นกำเนิดของกษัตริย์เวิน และเมืองชวีฟู่บ้านเกิดของขงจื๊อ โดยมีความหมายว่าดินแดนแห่งสันติภาพและการศึกษา ที่นี่มีทรัพยากรทางวัฒนธรรมมากมาย ไม่เพียงแต่มีมรดกโลก อย่าง หมู่บ้านชิราคาวาโกะ และออนเซ็นเกโระที่เป็นหนึ่งในสามออนเซ็นชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น แต่ยังมีปราสาทกิฟุที่โอดะ โนบุนางะเติบโตขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ กิฟุยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ยังมีวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่าง น้ำตกโยโรและหุบเขาเอนะ

12 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในจังหวัดกิฟุ

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ

"หมู่บ้านชิราคาวาโกะ" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1995 และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก บ้านหลังคามุงหญ้าที่มีรูปทรงคล้ายการพนมมือเรียกว่า "กัสโชสึคุริ" (合掌造り) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน ตามตำนานเล่าว่าที่นี่เคยเป็นหนึ่งในที่หลบภัยสุดท้ายของซามูไรตระกูลทาอิระ เนื่องจากอยู่ลึกในหุบเขา ทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่นี่จึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามหมู่บ้านลับของประเทศญี่ปุ่น แม้จะดูห่างไกล แต่การเดินทางไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นสะดวกอย่างมาก สามารถนั่งรถบัสจากทาคายามะ คานาซาวะ หรือโทยามะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-1.5 ชั่วโมงเพื่อถึงหมู่บ้าน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Nohi Bus

ภาพโดย:Annie

ภาพโดย:Annie

☞ อ่านเพิ่มเติม
แนะนำแผนที่สถานที่ท่องเที่ยว สภาพอากาศ การเดินทาง และที่พักในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ปี 2024 [คู่มือท่องเที่ยวชิราคาวาโกะฉบับสมบูรณ์]

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
เว็บไซต์อ้างอิง (ภาษาอังกฤษ)

ถนนฮิดะทาคายามะ

"ถนนฮิดะทาคายามะ" ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทาคายามะในแคว้นฮิดะ โดยเป็นย่านการค้าที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะบริเวณ "ถนนซันมาจิ" ที่ยังคงบรรยากาศแบบยุคเอโดะ จนได้รับฉายาว่า "เกียวโตน้อยแห่งฮิดะ" ที่นี่มีร้านทำสาเกมากมาย สังเกตได้จาก "ซุงิดามะ" (ลูกกลมทำจากไม้สนที่แขวนหน้าร้านเป็นสัญลักษณ์ของร้านขายสาเก) นอกจากนี้ยังมีร้านขาย "ดังโงะราดซอสหวาน" ของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่น สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย! บริการใกล้ๆ ยังมี "ทาคายามะ จินยะ" ที่ยังคงสภาพสมัยเอโดะไว้อย่างสมบูรณ์ และจัดแสดงข้อมูลและสิ่งของของตระกูลคานาโมริที่ปกครองที่นี่ในสมัยนั้น เหมาะสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง!

ถนนเก่าทาคายามะได้รับสมญานามว่า "เกียวโตน้อยแห่งฮิดะ" ภาพโดย:Issue

ป้อมทาคายามะ ที่มาของภาพ:Wikipedia

ถนนฮิดะทาคายาม่า
เว็บไซต์อ้างอิง

หมู่บ้านออนเซ็นโอคุฮิดะ

"หมู่บ้านออนเซ็นโอคุฮิดะ" ประกอบด้วยออนเซ็น 5 แห่ง ได้แก่ ฮิราโยะ ฟุคุจิ ชินฮิราโยะ โทะโกะโอะ และชินโฮทากะ โดยตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์เหนือ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านออนเซ็นกลางแจ้งที่เป็นสถานที่ลึกลับของประเทศญี่ปุ่น ปริมาณน้ำพุร้อนที่พุ่งนั้นมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ว่ากันว่าออนเซ็นฮิราโยะถูกค้นพบโดยทาเคดะ ชินเง็น ตอนบุกฮิดะ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด ส่วนออนเซ็นฟุคุจิเคยเป็นสถานที่รักษาพระองค์ของจักรพรรดิมุราคามิในสมัยเฮอัน จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "น้ำพุจักรพรรดิ" และยังเป็นหนึ่งในร้อยออนเซ็นชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

☞ อ่านเพิ่มเติม
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารเลิศรสสำหรับทริปเที่ยวเองที่จังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น: ต้องไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ, ออนเซ็นเกโระ, เมืองประวัติศาสตร์มะโกะเมะจุกุ! และต้องลองชิมเนื้อฮิดะ!

หมู่บ้านออนเซ็นโอคุฮิดะ
เว็บไซต์ทางการ

ปราสาทกิฟุ

"ปราสาทกิฟุ" ตั้งอยู่ใจกลางที่ราบมิโนะ โดยสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของที่ราบมิโนะทั้งหมด แม่น้ำนาการะอันใสสะอาด และอ่าวอิเสะทางใต้ได้อย่างชัดเจนจากบนหอคอย ในแง่ของประวัติศาสตร์ นอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมญี่ปุ่นของโอดะ โนบุนากะในสมัยเซ็งโกกุแล้ว ยังเป็นจุดแรกที่โทโยโทมิ ฮิเดโยชิสร้างชื่อเสียงด้วย ภายในปราสาทมี "ต้นกำเนิดน้ำเต้าเซ็นนาริ" เพื่อระลึกถึงความสำเร็จของฮิเดโยชิ หอคอยปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 1956 โดยได้เก็บเอกสารสำคัญของตระกูลโอดะมากมาย "ซากคฤหาสน์ของโนบุนากะ" ด้านข้างได้บูชาวิญญาณของโอดะ โนบุนากะและลูกชายโนบุทาดะ เรียกว่า "ศาลโอดะ โนบุนากะและบุตร" นับว่าที่นี่คือสถานที่ที่สาวกประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด!

วิวกว้างแบบนี้ ทำให้รู้สึกสบายใจสุดๆ เลย! ภาพโดย:Nana

ทางเข้าซากคฤหาสน์ของโอดะ โนบุนางะ ภาพโดย:Nana

ปราสาทกิฟุ
・ที่อยู่: 18 Kinkazan Tenshukaku, Gifu City, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ: 16 มี.ค. - 11 พ.ค. เปิด 9:30-17:30 / 12 พ.ค. - 16 ต.ค. เปิด 8:30-17:30 / 17 ต.ค. - 15 มี.ค. เปิด 9:30-16:30 (วันปีใหม่เปิด 6:30-16:30)
・ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไป 200 เยน, เด็กอายุ 4-15 ปี 100 เยน
เว็บไซต์ทางการ

มะโกะเมะจุกุ (Magome-juku)

"มะโกะเมะจุกุ" เป็นหนึ่งในสถานีพักแรมบนเส้นทางนะกะเซ็นโดในสมัยเอโดะ โดยมีชื่อเสียงจากการอนุรักษ์อาคารสไตล์เอโดะไว้มากมาย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดบนถนนนะกะเซ็นโดโบราณ บ้านไม้แบบดั้งเดิมยังคงสภาพสมบูรณ์ เดินเล่นในเมืองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสมัยเอโดะ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องหยุดชม เนื่องจากตั้งอยู่บนสันเขา ที่มะโกะเมะจุกุจึงมีทางลาดชันมาก อาคารส่วนใหญ่สร้างตามแนวกำแพงหิน ริมถนนมีร้านค้าเล็ก ๆ มากมายขายหมวกฟางและรองเท้าสานที่นักเดินทางในอดีตใช้ ธรรมชาติและวัฒนธรรมผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้รู้สึกสบายใจสุด ๆ! ถ้าอยากลองสัมผัสความยากลำบากของนักเดินทางในสมัยอดีต ก็สามารถเดินจากมะโกะเมะจุกุไปถึงสึมะโกะจุกุได้ เมื่อเดินจบระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรนี้ จะได้รับ "ใบรับรองการเดิน" อีกด้วย ใครที่มั่นใจในสมรรถภาพร่างกายก็ลองท้าทายดูได้!

นักเดินทางเคยเดินเท้าไปกลับระหว่างโตเกียว (Tokyo) และเกียวโต (Kyoto) ในอดีต ภาพโดย:Isabelle

ร้านขายของที่ทำจากไม้ในสไตล์โบราณที่มากิโนะจุกุ ภาพโดย:Isabelle

สมาคมการท่องเที่ยวมาโกเมะ
・ที่อยู่: 4300-1 Magome, Nakatsugawa, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ: 8:30 - 17:00
เว็บไซต์ทางการ

ปราสาทกุโจฮะจิมัง

"ปราสาทกุโจฮะจิมัง" ตั้งอยู่บนเขาเล็กที่โดดเด่นของเมืองกุโจ จังหวัดกิฟุ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงมาก ยามเช้าตรู่จะมีหมอกลอยล้อมรอบ สร้างทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา จนได้รับฉายาว่า "เมืองแห่งท้องฟ้า" นอกจากนี้ ปราสาทกุโจฮะจิมังยังมีทิวทัศน์สวยงามในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีแดงตัดกับกำแพงปราสาทสีขาว ท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาว นักเขียนชื่อดังชิบะ เรียวทาโร่ ถึงกับยกย่องว่าเป็น "ปราสาทบนภูเขาที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น" ปัจจุบันหอคอยปราสาทเป็นอาคารจำลองที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1933 โดยอ้างอิงจากปราสาทโอกากิ และเป็นอาคารจำลองที่สร้างด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของเมืองกุโจ

ใบเมเปิ้ลที่ปราสาทกุโจฮะจิมันสวยงามมากเลย ที่มาของภาพ: เว็บไซต์ทางการของปราสาทกุโจฮะจิมัน

เมืองที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกและเมฆ ช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ที่มาของภาพ: เว็บไซต์ทางการของปราสาทกุโจฮะจิมัง

ปราสาทกุโจฮะจิมัง
・ที่อยู่: 659 Ichinohira, Yanagimachi, Hachiman-cho, Gujo City, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ: 9:00-17:00 / ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) 8:00-18:00 / ฤดูหนาว (พ.ย.-ก.พ.) 9:00-16:30
・วันหยุด: 20 ธ.ค. - 10 ม.ค.
・การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR สาย Takayama ลงที่สถานี Mino-Ota แล้วต่อรถไฟ Nagaragawa Railway ไปลงที่สถานี Gujo-Hachiman จากนั้นนั่งแท็กซี่หรือรถบัสท้องถิ่นไปลงที่ป้าย Jokamachi Plaza แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15-20 นาทีก็จะถึงปราสาทกุโจฮะจิมัง
เว็บไซต์ทางการ

ทาคาสุ สโนว์ พาร์ค (Takasu Snow Park)

จังหวัดกิฟุมีภูมิประเทศเป็นภูเขาจำนวนมาก และเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณหิมะเยอะ พอถึงฤดูหนาวก็จะมีคนมาเล่นสกีกันจำนวนมาก โดยทาคาสุ สโนว์ พาร์ค เป็นลานสกีที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก ๆ นอกจากจะมีรถรับส่งจากสถานีรถไฟหรือโรงแรมใกล้เคียงแล้ว ที่นี่ยังมีบริการให้เช่าอุปกรณ์สกี และโรงเรียนสอนเล่นสกีด้วย แม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็สามารถสนุกกับการเล่นสกีได้อย่างง่ายดาย! ถ้าไม่อยากเล่นสกี ที่นี่ก็มีคาเฟ่ที่สามารถชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการได้ ถ้าอากาศดีก็จะได้เห็นทะเลหมอกสวย ๆ บนที่สูงด้วยล่ะ!

ที่มาของภาพ:Takasu Snow Park

ที่มาของภาพ:Takasu Snow Park

ทาคาสุ สโนว์ พาร์ค (Takasu Snow Park)
・ที่อยู่: 3086-1 Nishihora, Takasu-cho, Gujo-shi, Gifu-ken
・เวลาบริการ: วันธรรมดา 8:00 - 16:30 / วันหยุด 7:30 - 16:30
・การเดินทาง: ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ทางการ
เว็บไซต์ทางการ

ปราสาทโอกากิ

"ปราสาทโอกากิ" ในจังหวัดกิฟุ เป็นที่รู้จักของคนรักประวัติศาสตร์ เพราะเคยเป็นฐานทัพของอิชิดะ มิตสึนาริ แม่ทัพฝ่ายตะวันตกในศึกเซกิกาฮาระ ซึ่งเป็นสงครามสำคัญในยุคเซ็งโกกุ แม้ว่าตัวปราสาทส่วนใหญ่จะถูกทำลายในสมัยเมจิและสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ได้มีการสร้างหอคอยขึ้นใหม่เมื่อปี 1959 โดยใช้ปราสาทกุโจฮะจิมังเป็นต้นแบบ และต่อมาเมื่อปี 2017 ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ปราสาทชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น" ด้วย ปัจจุบันภายในปราสาทมีการจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวข้องกับเจ้าเมืองโอกากิ และเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศึกเซกิกาฮาระ นอกจากนี้ยังมีโมเดลปืนคาบศิลา หอก และธนูให้ชม รวมถึงสามารถลองใช้งานได้จริงด้วย! ขอแนะนำเป็นพิเศษสำหรับการล่องเรือในคูเมืองที่แม่น้ำมงโจกาวะช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมซากุระที่บานสะพรั่งริมฝั่งแม่น้ำไปพร้อมกับการล่องเรือ ซึ่งสวยงามอย่างมาก และถ้าโชคดี อาจได้ขึ้น "เรือถังไม้" (ทาไรบุเนะ) ที่มีให้บริการในช่วงเวลาที่จำกัดด้วย!

ปราสาทที่สร้างขึ้นใหม่ในปัจจุบัน ภาพโดย:Nana

ปราสาทโอกากิ
・ที่อยู่: 2-52 Kuruwa-cho, Ogaki City, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ: 9:00 - 17:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30)
・การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido ลงที่สถานี Ogaki แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ทางการ

สวนสาธารณะโยโร (Yoro Park) และ Site of Reversible Destiny

"สวนสาธารณะโยโร" เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของจังหวัดกิฟุ หนึ่งในจุดเด่นของสวนคือ "Site of Reversible Destiny" ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ออกแบบโดยศิลปิน Shusaku Arakawa และกวีชาวอเมริกัน Madeline Gins โดยใช้เวลาการออกแบบกว่า 30 ปี ภายในของอาคารได้ลบองค์ประกอบเส้นแนวตั้งและแนวนอนที่พบเห็นได้ทั่วไป แล้วแทนที่ด้วยเส้นขอบฟ้าพิเศษที่ออกแบบขึ้นมา ทำให้เกิดความสับสนทางสายตา ส่งผลต่อการทรงตัวและการรับรู้ระยะทางของผู้เข้าชม เป็นประสบการณ์สนุก ๆ ที่น่าลองอย่างมาก! ตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อปี 1995 ก็มีคนมาเยี่ยมชมกว่า 90,000 คนต่อปี และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ด้วย!

ที่มาของภาพ:สวนสาธารณะโยโร

ที่มาของภาพ:สวนสาธารณะโยโร

น้ำตกโยโร

"น้ำตกโยโร" เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะโยโรเช่นกัน มีความสูง 30 เมตรและกว้าง 4 เมตร ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นทั้ง 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และ 1 ใน 100 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยที่นี่มีตำนานลูกกตัญญูโยโรที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เล่ากันว่าลูกชายที่กตัญญูทำงานหนักเพื่อให้พ่อที่แก่ชราได้ดื่มเหล้า วันหนึ่งเขาผ่านมาที่นี่และพบว่าน้ำที่นี่มีกลิ่นหอมหวานของเหล้า จนมีชื่อเสียงไปทั่ว ต่อมาจักรพรรดิในสมัยนั้นจึงตั้งชื่อน้ำตกนี้ว่า "น้ำตกโยโร" ในสวนมีต้นซากุระประมาณ 3,000 ต้นบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ และใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงก็สวยงามน่าทึ่งเช่นกัน นับว่าเป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของท้องถิ่นเลยล่ะ!

ที่มาของภาพ:สวนสาธารณะโยโร

ที่มาของภาพ:สวนสาธารณะโยโร

สวนสาธารณะโยโร
・ที่อยู่: 1298-2 Takabayashi, Yoro-cho, Yoro-gun, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ: 9:00-17:00 / สวนโยโระ เท็นเมย์ ฮันเท็นจิ 9:00-17:00 (เข้ารอบสุดท้าย 16:30)
・ค่าเข้าชม: สวนสาธารณะเข้าฟรี, สวนโยโระ เท็นเมย์ ฮันเท็นจิ ผู้ใหญ่ 770 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 510 เยน, นักเรียนประถม-มัธยมต้น 310 เยน, หยุดทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์ตรงกับวันหยุด จะหยุดวันถัดไป)
・การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีโยโร สายรถไฟโยโระเท็ตสึโด
เว็บไซต์ทางการ

ออนเซ็นเกโระ

"ออนเซ็นเกโระ" ในจังหวัดกิฟุ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับออนเซ็นอาริมะในจังหวัดเฮียวโกะ และออนเซ็นคุซัทสึในจังหวัดกุมมะ น้ำแร่ธรรมชาติที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินนี้มีอุณหภูมิสูงถึง 84 องศา มีลักษณะใสไร้สีและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่สำคัญคือขึ้นชื่อว่าสามารถช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งหลังแช่ จนได้รับฉายาว่า "บ่อน้ำแห่งความงาม" เลยทีเดียว! ย่านออนเซ็นตั้งอยู่รอบ ๆ สถานีเกโระ โดยมีโรงแรมและเรียวกังเรียงรายอยู่สองฝั่งแม่น้ำฮิดะ บรรยากาศคึกคักอย่างมาก นอกจากออนเซ็นในที่พักแล้ว ยังมีบ่อออนเซ็นสาธารณะ 3 แห่งให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการ และมีบ่อแช่เท้าฟรีหลายจุดให้ลองอีกด้วย ใครชอบเดินเล่นในย่านออนเซ็นญี่ปุ่นไม่ควรพลาดที่นี่เลย

ถนนออนเซ็นกิฟุในยามค่ำคืน(ภาพโดย:Issue)

บ่อแช่เท้าฟรี(ภาพโดย:Issue)

สมาคมเรียวกังออนเซ็นเกโระ
・ที่อยู่: 801-2 Yunoshima, Gero City, Gifu Prefecture
・การเดินทาง: ลงที่สถานีเกโระ บนสายโฮคุริคุ ของ JR
เว็บไซต์ทางการ

วัฒนธรรมการจับปลาด้วยนกกาน้ำ

"อุไค" (Ukai) เป็นวิธีจับปลาแบบดั้งเดิมโดยใช้นกกาน้ำดำน้ำจับปลา วิธีนี้มีมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 6 โดยประเทศจีนและญี่ปุ่นต่างมีประวัติศาสตร์วิธีนี้ยาวนานกว่าพันปี ชาวประมงสมัยก่อนใช้วิธีนี้ในการดำรงชีพ โดยจะใช้แสงไฟล่อให้นกกาน้ำกินปลาอายุในตอนกลางคืน แล้วบีบเอาปลาออกจากปากนก ปัจจุบันเนื่องจากมีการควบคุมการจับปลาในแม่น้ำ จึงอนุญาตให้ทำได้เฉพาะช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมเท่านั้น การจับปลาวิธีนี้นอกจากจะใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมแล้ว ส่วนใหญ่กลายเป็นการแสดงสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถนั่ง "เรือชมการจับปลาด้วยนกกาน้ำ" เพื่อชมการแสดงจับปลาด้วยนกกาน้ำที่สืบทอดมาอย่างยาวนานได้อย่างใกล้ชิด!

"ไซโฮ" คือการที่เรือยูคาริ (เรือตกปลาแบบญี่ปุ่น) ร่วมกันไล่ต้อนปลาอายุ (ปลาเทราต์ญี่ปุ่น) ไปยังน้ำตื้นเพื่อจับปลา (ที่มาของภาพ:Wikipedia

พิพิธภัณฑ์อุไกนางาระกาวะ
・ที่อยู่: 51-2 Nagara, Gifu City, Gifu Prefecture
・การเดินทาง: ลงที่สถานี JR "กิฟุ" แล้วขึ้นรถบัสไปทาง "ทาคาโทมิ" หรือ "สายเวียนในเมือง (วนซ้าย)" หลังจากผ่านสะพานนางาระ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ลงที่ป้าย "นางาระบาชิ" แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที
เว็บไซต์ทางการ

เมนูห้ามพลาดของจังหวัดกิฟุ

เนื้อฮิดะ

ภาพโดย:Issue


"เนื้อฮิดะ" เป็นแบรนด์เนื้อวากิวดำของจังหวัดกิฟุ ถือเป็นอาหารห้ามพลาดของภาคกลางประเทศญี่ปุ่น! เอกลักษณ์ของมันคือไขมันที่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เนื้อนุ่มละมุนและมีรสชาติหวานฉ่ำ โดยทางพื้นที่นำเสนอเมนูให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะย่าง ปิ้ง หรือชาบูก็อร่อยทั้งนั้น! แต่ที่แนะนำที่สุดคือเมนูขึ้นชื่อ "ฮิดะกิวมาบุชิ" ที่เสิร์ฟเนื้อฮิดะย่างบนข้าว ราดด้วยซอสรสหวานนิด ๆ อร่อยสุด ๆ ไปเลย นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ เช่น กิวด้ง, ยากิโทริ หรือโครอกเกะ ที่หาซื้อได้ตามร้านในท้องถิ่นด้วย!

โกเฮโมจิ


"โกเฮโมจิ" เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคกลางประเทศญี่ปุ่น โดยทำจากข้าวบดผสมกับซอสที่มีส่วนผสมของโชยุหรือมิโสะ แล้วนำไปย่าง เนื่องจากมักทำเป็นรูปร่างคล้าย "รองเท้าฟาง" หรือ "เหรียญโคบัง" จึงมีอีกชื่อว่า "โมจิเหรียญ" ซึ่งเคยปรากฏอยู่ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง "Your Name" ด้วย สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านอาหาร ร้านน้ำชา หรือจุดพักรถบนทางด่วน ถ้าไปเที่ยวภาคกลางประเทศญี่ปุ่นต้องลองชิมดู!

มิโสะห่อใบโฮบะ


"โฮบะมิโสะ" เป็นอาหารพื้นเมืองชื่อดังที่สืบทอดมาจากแถบทาคายามะ จังหวัดกิฟุ วิธีการทำคือนำมิโสะและผักในท้องถิ่นมาวางบนใบโฮบะแล้วย่าง สามารถทานคู่กับข้าวสวย และเข้ากันดีกับเหล้าด้วย! เนื่องจากใบโฮบะพบได้ทั่วไปและมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย การห่ออาหารด้วยใบนี้จึงช่วยถนอมอาหารได้ดี ทั้งยังเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัวของใบโฮบะ เป็นที่นิยมของคนท้องถิ่นอย่างมาก ปัจจุบันเมื่อการท่องเที่ยวพัฒนาขึ้น ก็เริ่มมีการนำเนื้อวัวหรือปลามาย่างรวมด้วย

ซูชิห่อใบโฮบะ


"โฮบะซูชิ" มีต้นกำเนิดมาจากชาวนาในแถบภูเขาของจังหวัดกิฟุ นากาโนะ และนารา พวกเขาทำซูชิแบบกระจายโดยใช้เนื้อปลาและผักป่าเป็นส่วนผสม แล้วห่อด้วยใบโฮบะ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย และช่วยถนอมอาหารได้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะใช้ปลาแซลมอนและผักป่าท้องถิ่นเป็นหลัก แต่วิธีทำก็แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ในฮิดะและทาคายามะจะทำแบบเรียบง่ายและมีรสชาติสดชื่น ส่วนทางใต้จะทำแบบหรูหรากว่าโดยใส่ส่วนผสม 7-8 อย่างพร้อมกัน

ปลาอายุย่างเกลือ

ที่มาของภาพ:สุดยอดของกิฟุ


"ปลาอายุย่างเกลือ" (อายุ โนะ ชิโอยากิ) เป็นอาหารพื้นเมืองที่พบได้ทั่วไปในจังหวัดกิฟุที่มีแม่น้ำมากมาย ทุกปีช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม จะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวปลาอายุในแต่ละพื้นที่ของกิฟุ และสามารถลิ้มรสความอร่อยสดใหม่ที่สุดของตัวปลา วิธีการทำคือเสียบปลาอายุเป็นไม้ แล้วย่างด้วยถ่านอย่างพิถีพิถัน เพื่อไล่น้ำส่วนเกินออก และทำให้เนื้อปลาเข้มข้นอร่อย ถือเป็นวิธีการกินปลาอายุที่ดั้งเดิมที่สุด เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมจะได้กินปลาโตเต็มวัยที่มีไขมันแสนอร่อย ส่วนหลังเดือนสิงหาคมส่วนใหญ่จะเป็นปลาตัวเมียที่มีไข่ สามารถได้ลิ้มลองรสชาติปลาอายุที่แตกต่างกัน!

จังหวัดกิฟุมีสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารอร่อยมากมายที่ไม่ควรพลาด นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งคนรักประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดอยู่แล้ว กิฟุยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้งอีกด้วย ครั้งหน้าลองวางแผนทริปขับรถเที่ยวภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น แล้วแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดกิฟุให้ครบในทริปเดียวกันเลย!

☞ อ่านเพิ่มเติม
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะญี่ปุ่น:เยี่ยมชมศาลเจ้าอิเสะ, คุมาโนะโคโดะ และเนื้อมัตสึซากะที่ต้องชิม!
รวมทุกสิ่งห้ามพลาด ใน "ไอจิทริป": ปราสาทนาโกย่า-สวนจิบลิ พร้อมลิ้มรส หมูมิโสะ-ปีกไก่ทอด
10 ของฝากห้ามพลาดจาก "นาโกย่า" : ขนมกุ้งจาก Bankaku Souhonpo, มันฝรั่งทอดกรอบรสปีกไก่, ขนมปังรูปกบ และอีกมากมาย!!