ถ้าเบื่อรถไฟหรืออยากมีอิสระในการเดินทางมากขึ้น เราขอแนะนำวิธีการเดินทางใหม่อีกหนึ่งตัวเลือก นั่นคือ "รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า" ที่เพียงแค่อายุครบตามกำหนด แม้ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มีใบขับขี่ ก็สามารถเช่าบริการได้ง่าย แถมยังสามารถเช่ารถได้ในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น โตเกียว, โอซาก้า, เกียวโต, นาโกย่า และอื่นๆ นับเป็นหนึ่งในพาหนะทดแทนการเดินทางด้วยรถยนต์ จักรยาน หรือการเดินที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว พร้อมแล้วก็ตาม "Japai JAPAN" มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันดีกว่า!
มารู้จัก LUUP รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าญี่ปุ่นแบบละเอียดกันดีกว่า
.รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า LUUP คืออะไร? สามารถเช่าได้ที่ไหน?
.ใครสามารถเช่า LUUP ได้บ้าง?
.วิธีการเช่า LUUP? ราคาเช่าครั้งละเท่าไหร่?
.วิธีการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
.ขี่รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนทางอะไร? ทางเดินเท้า, ทางจักรยาน หรือทางม้าลาย
.ข้อควรระวังเมื่อขับขี่รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า!
รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า LUUP คืออะไร? สามารถเช่าได้ที่ไหน?
"LUUP" เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ให้บริการเช่ารถจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน (เมษายน 2024) ทางบริษัทได้ตั้งฐานเช่ารถทั่วประเทศมากถึง 10 จังหวัด โดยประกอบด้วยภูมิภาคคันโต อย่าง โตเกียว, โยโกฮาม่า และอุตสึโนะมิยะ ภูมิภาคคันไซ อย่าง โอซาก้า, เกียวโต และโกเบ ภูมิภาคชูบุ อย่าง นาโกย่า ภูมิภาคโทโฮคุ อย่าง เซนได ภูมิภาคชูโงะคุ อย่าง ฮิโรชิม่า และภูมิภาคคิวชู อย่าง ฟุกุโอะกะ เพียงแค่โตเกียวนั้นก็มีฐานเช่ารถมากถึง 6,000 แห่ง และโอซาก้าอีก 1,000 แห่ง รวมเป็นทั้งหมด 7,300 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหรือพื้นที่บางส่วนก็มีให้บริการเช่นกัน เช่น Ark Tategamori ในจังหวัดอิวาเตะ ชุมชนฮากะและเมืองซาโนะในจังหวัดโทชิงิ ปัจจุบันบางพื้นที่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง แต่คาดการณ์ว่าจะได้รับการขยาย และอนาคตอาจมีพื้นที่และฐานเช่ารถให้บริการเพิ่มมากขึ้น
ใครสามารถเช่า LUUP ได้บ้าง?
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 2023 เป็นต้นไป กฎหมายจราจรของประเทศญี่ปุ่นได้ถูกแก้ไขในส่วนของสกูตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งได้จำแนกรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอยู่ในประเภท "ยานพาหนะติดเครื่องยนต์ขนาดเล็ก" สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือการยกเว้นข้อจํากัดของใบขับขี่ โดยคุณสามารถใช้บริการได้เพียงแค่อายุครบ 16 ปี และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็สามารถใช้บริการ "LUUP"ได้อีกด้วย รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องขับขี่บนถนนเท่านั้น และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางจราจรของประเทศญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้เอง บทความต่อไปนี้จะนำเสนอข้อควรระวังสำหรับการใช้งานที่เราอยากแนะนำให้เตรียมความพร้อมก่อนสัมผัสประสบการณ์ใช้บริการจริง
จะเช่า LUUP ได้อย่างไร? ราคาเช่าครั้งละเท่าไหร่?
ขั้นตอนการเช่า
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและลงทะเบียน
การเช่ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า LUUP ไม่ใช่เรื่องยาก ขั้นตอนแรกคือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางการของ LUPP จากนั้นทำการยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และลงชื่อเข้าใช้บัตรเครดิต จุดประสงค์การยืนยันตัวตนคือเพื่อยืนยันอายุ สามารถยืนยันตัวตนด้วยการอัปโหลดหนังสือเดินทาง สุดท้ายจะต้องผ่านแบบทดสอบกฎจราจรจำนวนหนึ่ง เพื่อเริ่มการใช้บริการ ทางแอปพลิเคชันมีให้บริการด้วยภาษาอังกฤษด้วย เพราะฉะนั้นถึงไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ต้องกังวล
ลิงก์การดาวน์โหลด
・Google Play Store
・App Store
2. เลือกฐานเช่ารถ
พอลงทะเบียนสำเร็จก็สามารถเริ่มใช้บริการได้แล้ว! เพียงเลือกฐานเช่ารถจากหน้าแผนที่ ก็สามารถตรวจสอบจำนวนรถว่างจากฐานเช่ารถที่อยู่ใกลัตัวได้ ฐานเช่ารถบางจุดอาจมีทั้งรถจักรยานและรถสกู๊ตเตอร์ หากต้องการเช่ารถสกู๊ตเตอร์อย่าลืมเลือกสัญลักษณ์เป็นสกูตเตอร์ โดยรถสกูตเตอร์ทุกคันจะมี QR CODE ประจำของตัวเอง หลังจากทําการจองผ่านแอปพลิเคชันแล้ว สามารถปลดล็อกรถด้วยการสแกน QR CODE บนสกู๊ตเตอร์จากโทรศัพท์มือถือได้
3. คืนรถที่ฐานเช่ารถ
การคืนรถสามารถทำได้จากแอปพลิเคชันเช่นกัน ขั้นแรกเลือกฐานคาดการณ์ที่จะคืนรถ หรือสามารถเปลี่ยนฐานคืนรถแบบกระทันหันได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือไม่สามารถทำการคืนรถได้หากฐานคืนรถเต็ม ขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการคืนรถก็คือการล็อกรถและถ่ายรูปเป็นหลักฐาน อีกทั้งสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมการเช่ารถได้ทันที
ขั้นตอนการเช่าโดยละเอียด
ค่าธรรมเนียมการเช่า
รูปแบบการคิดค่าธรรมเนียมการเช่ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและรถจักรยานไฟฟ้าของ LUUP นั้นเหมือนกัน คือ "ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน 50 เยน + ค่าธรรมเนียมการใช้งาน" และค่าธรรมเนียมการใช้งานคือ "15 เยนต่อหนึ่งนาที"
ตัวอย่างการคํานวณค่าธรรมเนียมการเช่ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและรถจักรยานไฟฟ้า LUUP
ใช้งาน 30 นาที
ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน: 50 เยน
ค่าธรรมเนียมเวลา: 15 เยน × 30 = 450 เยน
รวม: 50 เยน + 450 เยน = 500 เยน
※ การคํานวณอาจแตกต่างกันตามพื้นที่
※ จอดรถชั่วคราวนับเป็นเวลาการเช่าเช่นกัน
วิธีการใช้งานสกูตเตอร์ไฟฟ้า
โปรดตรวจสอบฟังก์ชันและวิธีการใช้งานของสกูตเตอร์ไฟฟ้าก่อนการขับขี่ ฟังก์ชันการใช้งานที่ต้องตรวจสอบ เช่นสัญญาณไฟเลี้ยว, สัญญาณแตร, เบรก และคันเร่ง หากต้องการเร่งความเร็วสามารถกดปุ่ม "Push & Go" ที่ตั้งอยู่ด้านขวามือ หากต้องการลดความเร็วโปรดใช้ทั้งเบรกซ้ายและขวา กรุณาหลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วและเบรกกะทันหัน การเร่งความเร็วต้องวิ่งส่งแรงก่อนกดปุ่ม นอกจากนี้สามารถใช้สัญญาณไฟเลี้ยวทางด้านซ้ายมือของรถ และกรุณาเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งก่อนทำการเลี้ยวรถ
วิธีการขับขี่คือการเหยียบสกูตเตอร์ด้วยเท้าทั้งสองข้าง วางเท้าหนึ่งข้างไว้ด้านหน้า ใช้เท้าอีกหนึ่งข้างเหยียบพื้นส่งแรงเพื่อเพิ่มความเร็วเริ่มต้น จากนั้นวางเท้าทั้งสองข้างบนสกูตเตอร์หลังจากความเร็วเริ่มคงที่ สุดท้ายกดปุ่มคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว รถสกู๊ตเตอร์ต้องการความสมดุลมากกว่ารถจักรยาน ดังนั้นจึงแนะนำให้ฝึกขับขี่ระยะสั้นในพื้นที่ปลอดภัย ก่อนการใช้งานจริงบนท้องถนน เนื่องจากทางกฎหมายรถสกูตเตอร์ไม่จำเป็นต้องสวมหมวกนิรภัย แต่เพื่อความปลอดภัย ทาง LUUP ยังคงแนะนำให้ทุกคนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ใช้บริการ สำหรับผู้ที่ต้องการหมวกนิรภัย สามารถหาซื้อจากร้านจักรยานหรือร้านค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้
ขี่รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าบนทางอะไร? ทางเดินเท้า, ทางจักรยาน หรือทางม้าลาย
ถึงแม้ว่ารถสกูตเตอร์ไฟฟ้าจะสะดวกมาก แต่ข้อจํากัดด้านกฎจราจรก็มีเยอะเช่นกัน หากละเมิดกฎจราจรอาจถูกปรับได้! ตามข้อกฎหมายจราจรของประเทศญี่ปุ่น การขับขี่รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าสามารถขับขี่ได้เฉพาะบนทางถนนรถยนต์หรือทางจักรยานบนถนนรถยนต์ (ชิดซ้าย) ไม่อนุญาติให้ขับขี่บนทางถนนเดินเท้า ทางม้าลายหรือทางจักรยานบนถนนเดินเท้า และจำเป็นต้องขับขี่ในทิศทางเดียวกันกับการจราจร ไม่อนุญาติให้ขับขี่ย้อนศรเด็ดขาด นอกจากนี้หากผ่านทางม้าลายหรือทางเดินเท้า กรุณาลงจากรถและใช้วิธีการเข็นแทน ทางเดินเฉพาะย่านแหล่งช้อปปิงก็ไม่สามารถขับขี่ได้ ทางแอปพลิเคชันยังได้นำเสนอข้อมูลโซนสีแดงที่ห้ามการขับขี่เช่นกัน รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ทางการของ LUUP
ข้อควรระวังเมื่อขับขี่รถสกูตเตอร์ไฟฟ้า!
ถ้าเคารพกฎจราจรล่ะก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความสนุกที่แท้จริงของการขี่สกูตเตอร์ได้นะ นอกจากต้องระวังสถานที่การขับขี่แล้ว กรุณาระวังรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ห้ามซ้อนสอง: รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าเป็นยานพาหนะสำหรับหนึ่งคนเท่านั้น ห้ามใช้บริการซ้อนสอง
2. ห้ามเมาแล้วขับ: รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าถูกจัดเป็น "ยานพาหนะ" ตามกฎหมายการเมาแล้วขับถือเป็นพฤติกรรมผิดกฎหมาย
3. ความเร็วสูงสุด 20 กม./ชม.: การจำกัดความเร็วเมื่อขับขี่บนทางถนน หากเกินความเร็ว 20 กม./ชม. ตัวรถสกูตเตอร์ LUUP จะแสดงสัญญาณไฟ เพื่อต้องการให้ผู้ใช้ลดความเร็ว
4. ห้ามเลี้ยวขวาโดยตรง: การขับขี่จำเป็นต้องอยู่เลนซ้าย ดังนั้นห้ามเลี้ยวขวาโดยตรงที่บริเวณสี่แยก สามารถลงรถเพื่อเข็นรถข้ามทางม้าลาย หรือทำการเลี้ยวสองขั้นตอน (เลี้ยวซ้ายก่อน จากนั้นตรงไป)
5. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ: การใช้โทรศัพท์มือถือ, สวมหูฟัง หรือถือร่มด้วยมือข้างเดียวขณะขับขี่นับเป็นพฤติกรรมผิดกฎหมาย
6. ห้ามผูกติดยานพาหนะสาธารณะ: ไม่อนุญาตให้ผูกติดรถสกูตเตอร์ไฟฟ้ากับยานพาหนะสาธารณะ เช่น รถราง, รถประจําทาง ฯลฯ
การเช่ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า LUUP นั้นง่ายนิดเดียวใช่มั้ยล่ะ? ไม่ว่าจะเพื่อการเดินทาง หรือเพื่อเที่ยวชมตัวเมือง รถสกูตเตอร์ที่สะดวกและรวดเร็วนั้นเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสุด ๆ และตัวแอปพลิเคชัน LUUP ยังใช้งานง่าย รองรับการใช้งานภาษาอังกฤษ เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีของรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าได้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ LUUP ครั้งหน้าหากได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่น ขอแนะนําให้ใช้รถสกูตเตอร์ไฟฟ้า ไปสำรวจมุมต่าง ๆ ของญี่ปุ่นด้วยกันนะ!