ภายในเกียวโต เมืองหลวงเก่าแก่ที่มีอายุนับพันปีนั้น ด้วยความที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์ในอดีต จึงมีพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต ซึ่งเป็นที่ประทับตั้งอยู่ใจกลางเมือง และบริเวณโดยรอบได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน วันนี้ "JapaiJAPAN" จะพาไปเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้กัน

มารู้จักพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโตกันสักเล็กน้อย
พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกียวโต ล้อมรอบด้วยถนนเทระมาจิ (ทิศตะวันออก) ถนนคาราสุมะ (ทิศตะวันตก) ถนนมารุตะมาจิ (ทิศใต้) และถนนอิมาเดะกาวะ (ทิศเหนือ) มีขนาดประมาณ 700 เมตรจากตะวันออกไปตะวันตก และ 1,300 เมตรจากเหนือจรดใต้
หลังจากการย้ายเมืองหลวงไปยังโตเกียวในปี 1869 (ปีเมจิที่ 2) คฤหาสน์ของขุนนางรอบพระราชวังเกียวโตค่อยๆ ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่งจักรพรรดิเมจิทรงมีรับสั่งให้อนุรักษ์พระราชวังเกียวโตในปี 1877 มีการรื้อถอนคฤหาสน์ขุนนางที่ไม่ได้ใช้งานและปรับปรุงสภาพแวดล้อม จนมีขนาดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ภายในพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต ประกอบด้วยพระราชวังเกียวโต พระราชวังเซ็นโท พระราชวังโอมิยะ สำนักงานเกียวโตของสำนักพระราชวัง สำนักงานรักษาความปลอดภัยเกียวโตของตำรวจพระราชวัง ซากคฤหาสน์ขุนนาง และสำนักงานจัดการอุทยานของกระทรวงสิ่งแวดล้อม เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่ปี 1949 เป็นต้นมา




แนะนำสถานที่สำคัญภายในพระราชวัง
ภายในพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต มีอาคารและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย บางแห่งต้องจองล่วงหน้าจึงจะสามารถเข้าชมได้ หากต้องการเข้าชมแนะนำให้ตรวจสอบกฎระเบียบและรายละเอียดก่อนมาเยือน
พระราชวังหลวงเกียวโต
พระราชวังหลวงเกียวโต เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น หรือเรียกอีกชื่อว่า พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต หลังจากจักรพรรดิคัมมุย้ายเมืองหลวงจากนางะโอกะเกียวมาที่เฮอันเกียวในปี 794 พระองค์ได้สร้างที่ประทับที่เรียกว่า "ไดริ" ในเฮอันเกียว แต่ในปี 960 ที่ประทับนี้ถูกไฟไหม้ จึงต้องหาที่ประทับชั่วคราวอื่นๆ ซึ่งเรียกว่า "ซาโตะไดริ" หลังจากจักรพรรดิโคงน (รัชกาลแรกของราชวงศ์เหนือ) ขึ้นครองราชย์ในปี 1331 พระองค์ได้เลือก "ทซุชิมิคาโดะฮิงาชิโนะอิน" เป็นที่ประทับ ซึ่งถือเป็นต้นแบบของพระราชวังเกียวโตในปัจจุบัน ต่อมาผ่านการขยายอนาเขตจากโชกุนอย่าง อาชิกางะ โยชิมิตสึ , โอดะ โนบุนากะ และโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ จนมีขนาดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน จักรพรรดิทุกพระองค์ประทับที่นี่จนกระทั่งย้ายเมืองหลวงไปโตเกียวในปี 1869 ในอดีต การเข้าชมพระราชวังเกียวโตต้องจองล่วงหน้าทางออนไลน์หรือกรอกแบบฟอร์มจองในวันเดียวกัน แต่ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2017 เป็นต้นมา กฎนี้ได้ถูกยกเลิก นักท่องเที่ยวสามารถรับบัตรเข้าชมและเดินตามเส้นทางที่กำหนดได้เลย โดยจะมีการตรวจกระเป๋าที่ทางเข้าเท่านั้น





ภาพจาก 宮內廳官方網站
พระราชวังหลวงเซ็นโต
พระราชวังหลวงเซ็นโต ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของพระราชวังเกียวโต เป็นที่ประทับของจักรพรรดิที่สละราชสมบัติ สร้างขึ้นในปี 1627 โดยโคโบริ เอ็นชู สำหรับจักรพรรดิโกมิซุโนะที่สละราชสมบัติ ชื่อทางการคือ "ซากุระมาชิเด็น" แต่หลังจากถูกไฟไหม้ในปี 1854 ก็ไม่ได้สร้างขึ้นใหม่ ปัจจุบันเหลือเพียงสวนเท่านั้น ตั้งแต่โบราณกาล จีนมีแนวคิดเกี่ยวกับนักพรตในอุดมคติที่หลีกหนีจากโลกและอาศัยอยู่ในภูเขาลึก แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้เรียกที่ประทับของจักรพรรดิที่สละราชสมบัติ จึงมีชื่อเรียกอันไพเราะว่า "เซ็นโต โกโช" หรือ "เซ็นโต โกอิน" การเข้าชมเซ็นโต โกโช (พระราชวังหลวงเซ็นโต) ต้องจองล่วงหน้า สามารถจองผ่านทางออนไลน์ ส่งไปรษณียบัตร หรือลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์บริการในสำนักงานเกียวโต นอกจากนี้ยังมีโควต้าสำหรับผู้ที่มาต่อแถวในวันนั้นด้วย ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่เป็นจุดชมใบเมเปิลที่มีชื่อเสียง การจองมักเต็มล่วงหน้าหลายเดือน

ภาพจาก np&djjewell(Flickr Commercial use & mods allowed)

ภาพจาก np&djjewell(Flickr Commercial use & mods allowed)
การจองเข้าชมพระราชวังหลวงเซ็นโต
・เว็บไซต์ทางการในการจอง
พระราชวังโอมิยะ
พระราชวังโอมิยะ เป็นที่ประทับของพระวรราชมารดา (พระตำหนักสำหรับพระราชินีม่าย) เปรียบเทียบกับพระราชวังโอโมะยะในโตเกียว พระราชวังที่อยู่ในสวนเกียวโตจึงเรียกว่าพระราชวังโอโมะยะเกียวโต รูปแบบของพระราชวังโอโมะยะที่เห็นในปัจจุบันมีต้นแบบมาจากพระตำหนักนากัตซึกิ โทฟุคุมอนอิน ที่สร้างโดยจักรพรรดิโกมิซุโนะ แต่ถูกเพลิงไหม้ในปี 1854 จักรพรรดิโคเมย์ (ครองราชย์ระหว่างปี 1831-1867) ได้สร้างขึ้นใหม่ให้พระวรราชมารดาชุกโกะ แต่หลังจากย้ายเมืองหลวงไปโตเกียวในปี 1869 พระราชวังก็ถูกทิ้งร้าง ปัจจุบันเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ พระราชินี มกุฎราชกุมาร และพระชายาเมื่อเสด็จเยือนเกียวโต

ภาพจาก 宮內廳官方網站
เทศกาลที่ไม่ควรพลาด
ในบรรดาเทศกาลสำคัญ 3 แห่งของเกียวโต เทศกาลอะโออิ (Aoi Matsuri) และเทศกาลจิดาอิ (Jidai Matsuri) ต่างเริ่มต้นขบวนจากพระราชวังเกียวโต และมีที่นั่งชมแบบเสียค่าใช้จ่าย ทั้งสองเทศกาลมีการระดมผู้คนจำนวนมากและมีขบวนแห่อันงดงามตระการตา ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมโบราณของเกียวโต ขอแนะนำอย่างยิ่งให้มาชมหากมาตรงกับฤดูกาล
เทศกาลอะโออิ (Aoi Matsuri)
ประวัติของ เทศกาลอะโออิ ย้อนกลับไปถึงช่วงปลายยุคโคฟุน (300-600) ในสมัยจักรพรรดิคิมเมย์ (539-571) เกิดพายุฝนที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายและเกิดโรคระบาด เพื่อระงับพายุและขอพรให้เก็บเกี่ยวได้ผลดี จึงมีการจัดพิธีบูชาเทพคาโมะ (คาโมะเป็นเทพเจ้าเดียวกับเทพเจ้าคาริ เนื่องจากทั้งสองคำออกเสียงว่า "คาโมะ" (かも) เหมือนกันในภาษาญี่ปุ่น) จนถึงยุคเฮอัน เทศกาลอะโออิก็ได้รับการกำหนดรูปแบบอย่างชัดเจน


เทศกาลจิดาอิ (Jidai Matsuri)
เทศกาลจิดาอิ มีต้นกำเนิดในปี 1895 (ปีเมจิที่ 28) เป็นงานเฉลิมฉลองการสร้างศาลเจ้าเฮอันและครบรอบ 1,100 ปีของการย้ายเมืองหลวงมาที่เฮอัน (เกียวโตในปัจจุบัน) จุดประสงค์ของเทศกาลคือเพื่อปลุกความทรงจำของผู้คนถึงความรุ่งเรืองในอดีตที่เกียวโตเคยเป็นเมืองหลวง และอธิษฐานขอให้เกียวโตเจริญรุ่งเรือง เทศกาลนี้จัดในรูปแบบขบวนพาเหรด "จิไดเกียวเรทสึ" ที่จำลองวิถีชีวิตของชาวเกียวโตในอดีต ขบวนพาเหรดแบ่งเป็น 8 ยุคสมัยที่แตกต่างกัน มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน นอกจากเป็นการแสดงวัฒนธรรมของเกียวโตแล้ว ยังเป็นการอธิษฐานขอให้ชาวเกียวโตมีความสงบสุขตลอดทั้งปี


พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโตเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเกียวโต ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมและสวนที่สวยงามตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับการถ่ายรูปและพักผ่อนหย่อนใจ
The Kyoto Imperial Palace (京都御苑)
・ที่ตั้ง:3 Kyoto Gyoen, Kamigyo Ward, Kyoto
・เวลาทำการ:เปิดตลอดทั้งวัน
・การเดินทาง:จากสถานีรถไฟใต้ดิน Marutamachi ทางออกที่ 1 เดินประมาณ 3 นาที (ใกล้กับซากวังคันอินโนมิยะ , ศาลาชุซุยเทอิ และสำนักงานบริหารสวนพระราชวังเกียวโต) หรือจากสถานี Imadegawa ทางออกที่ 3 เดินประมาณ 3 นาที (ใกล้กับพระราชวังเกียวโต)
・ค่าเข้าชม:ฟรี
・เว็บไซต์ทางการ
☞ บทความอื่นๆ
・เที่ยวเกียวโตเหมือนคนท้องถิ่น 2025! รวมที่เที่ยวซ่อนเร้น ตลาดเด็ด วัดดัง และสถานที่ถ่ายรูปสวย พร้อมวิธีเดินทาง
・แผนที่เที่ยวเกียวโต 2025 ฉบับสมบูรณ์: 19 ที่เที่ยวห้ามพลาด วัด ศาลเจ้า ย่านชอปปิ้ง อาหาร พร้อมแผนเที่ยว 1 วัน