เนื่องจากทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อม ธุรกิจส่วนใหญ่ในฮอกไกโดมักจะเน้นไปที่การเกษตรและการท่องเที่ยว แต่บทความนี้จะแนะนำแบรนด์ดัง ๆ ที่มีจุดเริ่มต้นจากฮอกไกโด ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในสองอุตสาหกรรมนี้ แต่ก็สามารถสร้างชื่อเสียงได้ในแบบของตัวเอง บางแบรนด์ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ แต่ยังขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย รู้ไหมว่า แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และเครื่องสำอางที่ชาวฮอกไกโดชอบมากที่สุด เป็นบริษัทไหนกันนะ? มาดูเรื่องราวสนุก ๆ เกี่ยวกับการก่อตั้งบริษัทเหล่านี้กันดีกว่า
IKEA(ニトリ)
"นิโตริ" แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็รู้จัก มีจุดกำเนิดที่ซัปโปโรเมื่อปี 1967 ชื่อแรกเริ่มใช้ตัวอักษรจีน "นิโทริ" แต่พอถึงปี 1978 ก็เปลี่ยนมาเป็น "นิโตริ (NITORI)" อย่างที่เรารู้จักกัน สาขาแรกในเกาะฮอนชูเปิดที่เมืองฮิตาชิ จังหวัดอิบารากิ ในปี 1993 ชื่อว่า "สาขาคัตสึตะ" ตอนนี้รวมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศมีเกือบ 800 สาขาเลยทีเดียว ถือว่าเป็นบริษัทตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการขยายจากฮอกไกโดไปทั่วญี่ปุ่นและต่างประเทศได้อย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะ!
สโลแกนโฆษณาของร้านนิโตริ ที่ว่า 'โอ้! คุ้มค่าเกินราคา นี่แหละนิโตริ!' นี่พูดได้ว่าคนฮอกไกโดทุกคนท่องได้ขึ้นใจเลยล่ะ พอใครคิดจะซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้าน ก็ต้องนึกถึงนิโตริเป็นที่แรกเลย
ที่มาของภาพ:Nitori Holdings Co., Ltd.
นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ช่วงหลัง ๆ มานี้ นิโตริก็พยายามขยายธุรกิจให้หลากหลายมากขึ้น โดยทยอยเปิดแบรนด์ย่อยหลายแบรนด์ เช่น ร้านขายของแต่งบ้านชื่อ "DECO HOME" ที่เน้นกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ขายของแต่งบ้านสวย ๆ น่ารัก ๆ หรือแบรนด์ "DAY value" ที่ขายของใช้ในชีวิตประจำวันดีไซน์เรียบง่าย แบรนด์ "&Style" ที่เน้นสไตล์เฉพาะตัว ให้ความสำคัญกับคุณภาพและดีไซน์ แบรนด์เสื้อผ้า "N Plus" สำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ถ้าอยากรู้จักสินค้าของนิโตริมากขึ้น ก็แวะไปดูที่สาขาต่าง ๆ ได้เลยนะ!
ROYCEʻ(ロイズ)
ช็อกโกแลตนุ่ม ๆ ของ ROYCE' นี่ฮิตสุด ๆ เลยนะ หลายคนอาจคิดว่าเป็นแบรนด์จากยุโรป แต่จริง ๆ แล้วนี่เป็นบริษัทพื้นเมืองของฮอกไกโดเลยล่ะ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำช็อกโกแลตให้เทียบชั้นแบรนด์ดังจากยุโรปให้ได้ ROYCE' ก็เลยก่อตั้งขึ้นในปี 1983 แล้วก็ทุ่มเททำช็อกโกแลตคุณภาพเยี่ยมมาตลอด อย่างผลิตภัณฑ์ "นามะช็อกโกแลต" ที่เปิดตัวในปี 1995 นี่ก็ยังคงเป็นของฝากยอดฮิตติดอันดับต้น ๆ ของฮอกไกโดมาจนถึงทุกวันนี้เลยนะ
ร้านค้าบิขสิทธิ์ของ ROYCE' มีเฉพาะในฮอกไกโดเท่านั้นนะ แต่หลังจากนั้นในปี 2001 ก็ได้เปิดร้านสาขาแรกในต่างประเทศที่สิงคโปร์ขึ้นมา แล้วต่อมาในปี 2011 ก็ได้สร้าง 'ROYCE CHOCOLATE WORLD' ที่สนามบินชินชิโตเสะ ยกระดับแนวคิดของช็อกโกแลตจาก 'อาหาร' ให้กลายเป็น 'ความบันเทิง' ไปเลย นอกจากจะได้เยี่ยมชมโรงงานช็อกโกแลตข้างในแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์และร้านค้าที่ขายสินค้าลิมิเต็ดอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศสุด ๆ เลยล่ะ
โรงงานช็อกโกแลต ROYCE' ตั้งอยู่ที่เมืองโทเบะสึ หากขับรถยนต์ก็จะใช้เวลาจากใจกลางเมืองซัปโปโรประมาณ 40 นาที ในปี 2021 ROYCE' ได้ประกาศความร่วมมือกับ JR ฮอกไกโด เพื่อสร้างสถานีรถไฟใกล้ ๆ โรงงาน โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า 'ROYCE TOWN' (สถานีรอยซ์ทาวน์) รหัสสถานีคือ G11-1 สถานีนี้จะใช้สีฟ้าและขาวซึ่งเป็นสีประจำของ ROYCE' เป็นสีหลัก ส่วนจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ อะไรบ้างสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมและสัมผัสประสบการณ์ที่โรงงาน เราก็ต้องรอดูกันต่อไป! มาลุ้นกันว่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นรออยู่บ้าง!
ROYCE' CHOCOLATE WORLD
・ที่ตั้ง:Bibi, Chitose City, New Chitose Airport Terminal Building, 3F Smile Road
・เวลาทำการ:8:30~19:00
・การเดินทาง:เชื่อมต่อโดยตรงกับ JR "สถานีสนามบินชิโตเสะแห่งใหม่" อาคารผู้โดยสารภายในประเทศชั้น 3
・Official website
TSURUHA(ツルハ)
ต่อไปนี้จะขอแนะนำบริษัทที่คนมาเที่ยวฮอกไกโดส่วนใหญ่ต้องเคยเข้าร้านของเขากันมาแล้ว นั่นก็คือร้านขายยาและเครื่องสำอาง "สึรุฮะ" (TSURUHA) นั่นเอง ถึงแม้ว่าสึรุฮะจะไม่ค่อยดังเท่ากับร้านที่คนไต้หวันรู้จักกันดีอย่าง "มัตสึโมโตะ คิโยชิ" "ซัปโปโระ ยากุโช" หรือ "ไดโกกุ ยากุโช" แต่จริง ๆ แล้วที่นี่เป็นร้านขายยาและเครื่องสำอางที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นเลยนะ! ตามสถิติในเว็บไซต์ทางการ ตอนนี้มีร้านค้ามากกว่า 2,400 สาขาทั่วญี่ปุ่นแล้ว
"สึรุฮะ" ก่อตั้งขึ้นในปี 1929 ที่เมืองอาซาฮิคาวะ ฮอกไกโด ตอนแรกชื่อบริษัทคือ "สึรุฮะยาคุชิโด" แปลว่า "ร้านยาปีกนกกระเรียน" แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นคาตาคานะ "สึรุฮะ" และย้ายสำนักงานใหญ่มาที่ซัปโปโรอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าจะเริ่มต้นจากร้านขายยา แต่ปัจจุบัน "สึรุฮะ" นอกจากขายยาแล้ว ยังมีของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องสำอาง และแม้แต่อาหารและเครื่องดื่มด้วย ส่วนแบ่งการตลาดของร้านค้าอยู่อันดับหนึ่งในฮอกไกโดทั้งหมด แค่แถวบ้านผู้เขียนเองก็มีถึง 3 สาขา ถือว่าเป็นผู้ช่วยที่ดีในชีวิตประจำวันของชาวฮอกไกโดเลยทีเดียว
โรงงานขนมอิชิยะ(ISHIYA)
พูดถึง "คนรักสีขาว" ของฝากชื่อดัง แม้แต่คนที่ไม่เคยไปเที่ยวฮอกไกโดก็คงเคยได้ยินชื่อกันมาแล้วใช่ไหมล่ะ? ถูกต้องแล้ว บริษัทแม่ของ "คนรักสีขาว" ก็คือบริษัทดังของฮอกไกโดที่ชื่อว่า "อิชิยะ" นั่นเอง นอกจากร้านค้าที่บริษัทเปิดเองแล้ว ที่เขตนิชิของเมืองซัปโปโรยังมีสวนสนุกธีม "คนรักสีขาว" ด้วยนะ ทุกปีมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศแห่กันมาเยี่ยมชมเพียบเลย
รู้มั้ยว่า บริษัท Ishiya Seika ที่เราคุ้นหูกันดีทุกวันนี้ แต่ก่อนเค้าเป็นโรงงานแปรรูปแป้งนะ ทำขนมหวาน พวกลูกกวาดกับขนมปังกรอบอะไรพวกนี้ กว่าจะมาตั้งเป็นบริษัท 'Ishiya Seika' อย่างเป็นทางการก็ปี 1959 นี่แหละ แต่ที่ดังสุด ๆ คือขนม 'Shiroi Koibito' (แปลว่าคนรักสีขาว) ที่เป็นคุกกี้บางกรอบไส้ช็อกโกแลตขาว อันนี้เพิ่งเกิดขึ้นในปี 1976 เองนะ ถึงตอนหลังเค้าจะออกขนมฮิตๆ อีกหลายอย่าง เช่น 'Mifuyu' หรือ 'Shiroi Baum' แต่ 'Shiroi Koibito' ที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปีนี่ ยังคงติดอันดับ 3 อันดับแรกของของฝากยอดนิยมจากฮอกไกโดทุกปีทั้งในแง่ชื่อเสียงและความนิยมเลยล่ะ
สวนดอกไม้ในพื้นที่ของบริษัท
นอกจากขนมหวานแล้ว 'สวนไวท์ลัฟเวอร์' ที่อยู่ในเขตนิชิของซัปโปโร ซึ่งเป็นร้านที่บริษัทอิชิยะทำเองเลย ก็เป็นอีกที่ที่ต้องไปเยือนเมื่อมาซัปโปโร! นอกจากจะได้ดูขั้นตอนการทำคุกกี้แล้ว ยังมีเวิร์คช็อปสนุก ๆ ให้ทำของฝากสุดพิเศษกลับบ้านด้วย
แถมสวนสไตล์อังกฤษด้านนอกก็สวยมาก ฤดูร้อนดอกกุหลาบบานสะพรั่ง ฤดูหนาวก็มีไฟประดับสวยงาม เป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ ได้เพียบ ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวนะ วันหยุดชาวฮอกไกโดก็พาครอบครัวมาเที่ยวกันเยอะเลย ใครยังไม่เคยไป คราวหน้าอย่าลืมใส่ไว้ในลิสต์ที่เที่ยวด้วยล่ะ!
Shiroi Koibito Park
・ที่ตั้ง:2-2-11-36 Miyanosawa, Nishi-ku, Sapporo, Hokkaido
・เวลาทำการ:10:00~17:00
・การเดินทาง:เดินประมาณ 7 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินมิยาโนะซาวะ
・Official website
AINZ&TULPE(アインズ&トラぺ)
"AINZ&TULPE" (เรียกสั้น ๆ ว่า "AINZ") เป็นร้านเฉพาะทางที่ขายผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางใหม่ล่าสุดทั้งในและต่างประเทศ ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่ร้านเชนเล็ก ๆ ในฮอกไกโด แต่พอสืบลึกลงไปถึงได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นบริษัทระดับชาติที่มีสาขาตั้งแต่ฮอนชูยันคิวชูเลยนะ นอกจากการตกแต่งร้านที่ดูทันสมัยกว่าร้านขายยาและเครื่องสำอางทั่วไปแล้ว ที่นี่ยังขายแบรนด์ความงามนำเข้าจากต่างประเทศที่ร้านอื่นไม่มีด้วย คุณสามารถหาเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางอย่างที่ร้านขายยาทั่วไปไม่มีได้ที่นี่เลยล่ะ
AINZ เป็นแผนกเครื่องสำอางและร้านขายยาภายใต้กลุ่มบริษัท AIN HOLDINGS INC. มีร้านค้าทั่วประเทศญี่ปุ่นประมาณเกือบ 70 สาขาเลยทีเดียว แม้ว่าธุรกิจนี้จะครองส่วนแบ่งไม่ถึง 10% ของกลุ่มบริษัท แต่ก็มีแบรนด์ดัง ๆ ในเครือเยอะแยะเลย อย่างเช่น 'LIPS and HIPS', 'AYURA', 'DAZZSHOP' เป็นต้น พวกเขามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่ตอบโจทย์ทุกส่วนของร่างกายและความต้องการที่หลากหลาย ไม่แปลกเลยที่สาว ๆ หลายคนถึงชื่นชอบกันนักหนา ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวฮอกไกโดครั้งหน้า แนะนำให้แวะไปเดินเล่นที่ AINZ กันดูนะ จะได้รู้จักผลิตภัณฑ์ความงามสุดฮิตของญี่ปุ่นยุคนี้กัน!
ตอนพิเศษ: บริษัทที่ย้ายไปฮอกไกโด
สโนว์ เม็กมิลค์ (สโนว์ เม็กมิลค์)
รู้จัก 'Snow Brand Megmilk' มั้ย? บริษัทนมเจ๋ง ๆ นี่แหละ! สำนักงานใหญ่อยู่ที่ชินจูกุ โตเกียว แต่ร้านหลักอยู่ที่ซัปโปโร ฮอกไกโด
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่าง กลุ่มบริษัท Snow Brand เดิมก็แยกส่วนธุรกิจนมออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อ 'Japan Milk Community' ต่อมาในปี 2011 ก็ควบรวมสองบริษัทนี้เข้าด้วยกัน กลายเป็น Snow Brand Megmilk ที่เราเห็นทุกวันนี้ หลังจากรวมกันแล้ว บริษัทนี้ก็กลายเป็นยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของวงการนม รองจาก Meiji กับ Morinaga
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นนมยี่ห้อ 'ยูกิจิรุชิ' ในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นกันใช่มั้ยล่ะ? กล่องสีแดงสดใสดึงดูดสายตาสุด ๆ แต่รู้มั้ยว่าบรรจุภัณฑ์นี้ซ่อนความลับเอาไว้ด้วยนะ ว่ากันว่าหมึกสีแดงที่ใช้นั้นผ่านการพัฒนาพิเศษ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสง และยับยั้งการเสื่อมสภาพของนมจากการโดนแสงไฟได้ด้วย! นอกจากผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ตแล้ว ยังมีเครื่องดื่ม 'คัตสึเก็น' ที่ขายเฉพาะในฮอกไกโดด้วยนะ เป็นสินค้าท้องถิ่นที่ขายดีมาอย่างยาวนานเลยล่ะ
บิกคุริ ดองกี้(びっくりドンキー)
ร้านอาหารครอบครัว 'บิกคุริ ดองกี้'(Bikkuri-donkey) นี่เห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่นเลยนะ นอกจากดีไซน์ภายนอกจะเก๋ไก๋สุด ๆ แล้ว อาหารอร่อยราคาย่อมเยาก็เป็นอีกเหตุผลที่ดึงดูดคนเข้าร้านสุด ๆ เลย จริง ๆ แล้วบริษัทแม่ของร้านนี้อยู่ที่ซัปโปโร ฮอกไกโดด้วยนะ! เดิมทีร้านนี้เริ่มต้นจากร้านแฮมเบอร์เกอร์ในจังหวัดอิวาเตะ ตอนนั้นประธานบริษัทไปดูงานที่ฮาวาย เกิดแรงบันดาลใจจากร้านแฮมเบอร์เกอร์อเมริกัน เลยตัดสินใจเอา 'แฮมเบอร์เกอร์สเต็ก' มาขายในรูปแบบเซ็ตอาหารญี่ปุ่น หลังจากนั้นก็ย้ายบริษัทแม่ไปซัปโปโร จนกระทั่งปี 1983 ถึงได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น 'บิกคุริ ดองกี้' อย่างเป็นทางการ
คำว่า 'ドンキー' (Donkey) ในชื่อร้านนั้นแปลว่า 'ลา' เล่ากันว่าเจ้าของร้านรู้สึกว่าลาให้ความรู้สึกไม่หล่อ ไม่ฉลาด แต่อ่อนโยนและขยันขันแข็ง เลยเลือกใส่คำว่า 'ลา' ไว้ในชื่อร้าน ซึ่งก็แฝงความหวังว่าบริษัทจะเติบโตแข็งแรงด้วยนะ คราวหน้าถ้าไปกินที่ร้าน 'びっくりドンキー' (Bikkuri Donkey) ลองสัมผัสความตั้งใจของเจ้าของร้านดูนะ
พูดถึงฮอกไกโด ดินแดนแห่งขนมหวาน คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Rokkatei, Kitakaro หรือ LETAO ก่อนเลย แต่แบรนด์ที่เราจะแนะนำในบทความนี้ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่สำหรับชาวฮอกไกโดแล้ว พวกนี้ถือเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่คุ้นเคยกันดีเลยล่ะ!