แนะนำทริปเที่ยว "นาโกย่า" 2 วัน 1 คืน! เที่ยวเก็บครบทุกสถานที่สำคัญ ปราสาทนาโกย่า ย่านโอสุ ศาลเจ้าอัตสึตะ และอื่น ๆ อีกมากมาย!

พูดถึงนาโกย่า หลายคนอาจจะมองว่าเป็นแค่จุดแวะพักก่อนไปเที่ยวแถบภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น แต่จริง ๆ แล้ว นาโกย่าเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมาก ๆ ชนิดว่าคุ้มค่ามาก ๆ ที่จะลองมาเที่ยวดูสักครั้ง! แค่ 2 วัน 1 คืนก็เที่ยวได้อย่างเต็มอิ่มแล้ว มาดูกันว่าดีกว่าว่า "JapaiJAPAN" จัดโปรแกรมทัวร์ยังไงไว้ให้คุณบ้าง

ที่มาของภาพ:Photo AC

จุดที่หนึ่ง - ปราสาทนาโกย่าที่ห้ามพลาด

ปราสาทนาโกย่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาโกย่า และเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องแวะมาเยี่ยมชมเมื่อมาถึงนาโกย่า ปราสาทนาโกย่าสร้างขึ้นตามคำสั่งของโทคุกาวะ อิเอยาสุ แต่น่าเสียดายที่ถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารส่วนใหญ่ถูกเผาทำลาย จนกระทั่งปี 1959 จึงได้สร้างหอคอยปราสาทขึ้นมาใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เมื่อเข้าไปในปราสาทนาโกย่า นอกจากจะได้ชมสถาปัตยกรรมภายในแล้ว ยังมีการจำลองวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยโบราณ นิทรรศการซากโบราณสถานและอาวุธต่างๆ ให้ชมอีกด้วย สามารถใช้เวลาครึ่งวัน เพื่อเดินชมอย่างสบายๆ!

มาเที่ยวนาโกย่าทั้งทีจะพลาดปราสาทนาโกย่าได้ยังไงล่ะ! ที่มาของภาพ:Photo AC

ฉากบังตาทองคำในพระราชวัง แม้จะเป็นงานวาดใหม่ แต่ก็ไร้ข้อบกพร่อง และนับเป็นผลงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน!

ปราสาทนาโกย่า
・ที่อยู่: 1-1 Honmaru, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi
・เวลาบริการ: 9:00 - 16:30
・วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Meijo ลงที่สถานี Shiyakusho จากนั้นเดินอีก 5 นาที หรือนั่งรถไฟสาย Tsurumai ลงที่สถานี Sengencho จากนั้นเดินอีก 10 นาที
เว็บไซต์ทางการภาษาอังกฤษ

จุดที่สอง - ถนนชอปปิงโอสุ และวัดโอสุคันนอนที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

ถนนชอปปิงโอสุที่มีวัดโอสุคันนอนเป็นศูนย์กลางนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี โดยการออกแบบหลังคาคลุมแบบอาร์เคด ทำให้สามารถชอปปิงได้อย่างสบายใจแม้ในวันที่ฝนตก ย่านการค้านี้มีร้านค้ามากกว่าพันร้าน นอกจากร้านเวชสำอาง และร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเวลามาญี่ปุ่นแล้ว ยังมีร้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากหลากหลายประเทศ เช่น ร้านอาหารบราซิลที่ขายไก่ย่างทั้งตัว ร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังอเมริกัน ร้านเสื้อผ้ามือสองสไตล์ฝรั่งเศสสุดโรแมนติก เรียกได้ว่าบรรยากาศของทุกประเทศถูกรวมไว้ในถนนชอปปิงสายนี้ แค่เดินเล่นไปมาก็สามารถค้นพบสิ่งที่น่าสนใจได้มากมายเลยล่ะ!

เนื่องจากถนนทั้งสายมีหลังคาปกคลุม แม้วันฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเปียก อีกทั้งทางเดินกว้างขวาง สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบาย

ที่นี่มีร้านเสื้อผ้ามือสองเยอะมากและราคาไม่แพง เหมาะสำหรับการมา "ล่าของเก่า" อย่างมาก

เมื่อออกจากย่านชอปปิง จะพบว่าวัดโอสุคันนอนตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างน่าประหลาดใจ! ที่แท้แล้ว วัดนี้เคยตั้งอยู่ที่เมืองฮาชิมา จังหวัดจิฟุ แต่ถูกย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันเมื่อปี 1612 แน่นอนว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ผู้ศรัทธาต้องมาเยือน แต่แม้ว่าคุณจะไม่มีความเชื่อทางศาสนา ก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศที่สงบท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองได้เช่นกัน

ถนนโอสุคันนอนโดริเชื่อมตรงไปยังบริเวณวัดโอสุคันนอน เดินเที่ยวเสร็จแล้วก็ไปไหว้พระกันเลย!

ศาลาไดฮิเดนสีแดงสดช่างยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ!

ย่านชอปปิงโอสุ
・ที่อยู่: Osu, Naka-ku, Nagoya-shi
・เวลาบริการ: แตกต่างกันตามร้านค้า
・วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Tsurumai ลงที่สถานี Osu Kannon หรือนั่งสาย Meijo ลงที่สถานี Kamimaezu จากนั้นเดินอีกประมาณ 5-10 นาที

วัดโอสุคันนอน
・ที่อยู่: 2-21-47 Osu, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi
・เวลาบริการ: เปิด 24 ชั่วโมง
・วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Tsurumai ลงที่สถานี Osu Kannon จากนั้นเดินอีกประมาณ 3 นาทีจากทางออกหมายเลข 2
เว็บไซต์ทางการ

จุดที่สาม - ศาลเจ้าอัตสึตะที่ศักดิ์สิทธิ์และทรงพลัง

พอเข้าไปในศาลเจ้าอัตสึตะ จะรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปเมื่อพันปีก่อนและเข้าสู่โลกแห่งตำนานเลยทีเดียว เมื่อเดินผ่านโทริอิขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคราบสนิม เดินไปตามทางเดินที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ และเห็นศาลเจ้าขนาดต่างๆ ที่บูชาเทพเจ้า คุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามอย่างแน่นอน ศาลเจ้าอัตสึตะยังเป็นสถานที่ทรงพลัง (power spot) ที่คนท้องถิ่นชื่นชอบมากด้วย

อย่าลืมแวะล้างมือที่ชิซุบะชะ เพื่อชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าสักการะนะ!

ต้นคัมฟะระที่มีอายุมากกว่าพันปีก็เป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติด้วยนะ!

ตามตำนานโบราณ เทพซุซาโนะโอะได้ฆ่ายามาตะโนะโอโรจิ (งูใหญ่แปดหัว) ในการต่อสู้ครั้งหนึ่ง จากนั้นดาบวิเศษก็ตกออกมาจากหางของงู นั่นคือ "ดาบคุซานางิ" ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและพลัง ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกับกระจกยาตะและสร้อยมณีมาคาตามะ สมบัติศักดิ์สิทธิ์อีกสองชิ้นถูกเก็บรักษาไว้ที่ศาลเจ้าอิเสะและพระราชวังหลวง ส่วนศาลเจ้าอัตสึตะก็มีชื่อเสียงและความสำคัญรองลงมาจากสองแห่งนี้ในญี่ปุ่น

มอสและคราบสนิมบนเสาโทริอิแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้

ตามตำนานเล่าว่าที่นี่เป็นสถานที่เก็บดาบวิเศษ

เทพเจ้าหลักที่สักการะของที่นี่คือ Atsuta-no-Okami ที่สถิตอยู่ใน "ดาบคุซานางิ" นอกจากนี้ ศาลเจ้ายังมีศาลเจ้าเล็ก ๆ อีกมากมาย เช่น ศาลเจ้า Sugawara (ขอพรด้านการเรียน) ศาลเจ้า Shitachiwama (ขอพรให้เดินทางปลอดภัย) เป็นต้น หลังจากสักการะที่ศาลหลักแล้ว ทุกคนสามารถเดินไปสักการะศาลเจ้าเล็ก ๆ เหล่านี้ตามความต้องการของตัวเองได้เลย!

บรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลายทำให้คุณอยากอยู่ต่อไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่มาจัดงานแต่งงานหรือพิธีทางศาสนาที่นี่ด้วย

ศาลเจ้าอัตสึตะ
・ที่อยู่: 2-21-47 Osu, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
・เวลาบริการ: เปิด 24 ชั่วโมง
・วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu Nagoya ลงที่สถานี Jingu-mae เดินต่ออีก 3 นาที
เว็บไซต์ทางการ

จุดที่สี่ - ชอปปิงและเติมของที่ "อิออนมอลล์อัตสึตะ"

การเดินทางไปยัง "อิออนมอลล์อัตสึตะ" อย่างสะดวก สามารถใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเพื่อเดินจากสถานีคินซัง (Kinsan) ในเมืองนาโกย่า แนะนำให้แวะมาหลังจากไหว้พระที่ศาลเจ้าอัตสึตะ ที่นี่ประกอบด้วยร้านค้ากว่าร้อยร้าน พื้นที่ทั้งหมด 4 ชั้น มีแบรนด์ดัง ๆ ให้ชอปเยอะมาก เช่น แบรนด์กีฬานอกสถานที่ อย่าง ABC-MART, MURASAKI SPORTS แบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นยอดนิยม อย่าง UNIQLO, GU แบรนด์ของใช้ในบ้าน อย่าง MUJI ร้านร้อยเยน อย่าง THREEPPY ก็มีสาขาอยู่ที่นี่ โซนอาหารก็มีอาหารท้องถิ่นหลายร้าน เช่น ราเมนไก่อัตสึตะ และขนมหวานแนะนำสำหรับคนรักของหวาน เช่น ร้านชูครีม BEARD PAPA'S ร้านโดนัท Mister Donuts ไม่ว่าจะอยากชอปหรือพักผ่อนก็คุ้มค่าแก่การแวะมาเที่ยวอย่างมาก!

อิออนมอลล์อัตสึตะ
・ที่อยู่: 1-2-11 Mutsunocho, Atsuta-ku, Nagoya-shi, Aichi
・เวลาบริการ: 10:00-21:00 (แตกต่างกันตามร้านค้า กรุณาตรวจสอบที่เว็บไซต์ทางการ)
・การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี JR คานายามะโซโกะ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริการรถบัสรับส่งฟรีจากประตูทางออกทิศใต้ ดูตารางเวลาได้ที่เว็บไซต์ทางการ
เว็บไซต์ทางการ

จุดที่ห้า - โอเอซิส 21 (Oasis 21)

โอเอซิส 21 ตั้งอยู่ในย่านซากาเอะ ซึ่งมีรูปทรงเหมือนยานอวกาศที่ดูแปลกตา แต่ว่าภายในจะมีอะไรอยู่บ้างกันนะ? จริง ๆ แล้วโอเอซิส 21 เป็นอาคารอเนกประสงค์ที่เต็มไปด้วยแนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อม ชั้นบนสุดเป็นสระน้ำและกระจกใสทั้งหมด ช่วยระบายความร้อนของตัวอาคารและนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ชั้นล่าง ชั้นกลางมีพื้นที่พักผ่อนที่เป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ และยังเป็นสถานีขนส่งสาธารณะด้วย ส่วนชั้นล่างสุดเป็นร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงพื้นที่จัดกิจกรรมสาธารณะอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์มากประโยชน์เลยทีเดียว

มองลงมาจากหอคอยโทรทัศน์ จะเห็นตัวอาคารเป็นดั่ง "โอเอซิส" กลางเมืองอย่างแท้จริงตามชื่อของมัน

โอเอซิส 21 ที่เปิดไฟตอนกลางคืนสวยมาก! ความสวยงามที่แตกต่างจากตอนเช้าอย่างสิ้นเชิง

และตามชื่อสถานที่ ตัวอาคารเป็นเหมือนโอเอซิสในทะเลทราย เป็นสถานที่พิเศษที่สุดในย่านซากาเอะ ตัวอาคารเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถให้พื้นที่หายใจในย่านใจกลางเมืองที่วุ่นวายได้ ถ้าคุณมาชอปปิงที่ย่านซากาเอะ ลองแวะมาเยี่ยมชมที่นี่สักหน่อยก็ได้ นอกจากนี้ นาโกย่าทีวีทาวเวอร์ก็ตั้งอยู่แถวนี้ ถ้าได้ถ่ายรูปคู่กับทีวีทาวเวอร์ล่ะก็ ได้ภาพสวย ๆ แน่นอน!

โอเอซิส 21 (Oasis 21)
・ที่อยู่: 1-11-1 Higashisakura, Higashi-ku, Nagoya-shi
・เวลาบริการ: ร้านค้า: 10:00-21:00 ร้านอาหาร: 10:00-22:00
・การเดินทาง: ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama หรือสาย Meijo ลงที่สถานี Sakae
เว็บไซต์ทางการ

มื้อเช้าเที่ยงเย็นกินอะไรดี? แนะนำอาหารของอร่อยที่ต้องลอง

นาโกย่ามีอาหารอร่อย ๆ ชื่อดังมากมาย แต่มี 3 อย่างที่ทุกคนยอมรับว่าห้ามพลาดเด็ดขาด จดรายการแนะนำด้านล่างนี้ไว้ ถ้าได้ลองกินตาม รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!

อาหารเช้า: ขนมปังถั่วแดงอางุระ (โอกุระ โทสโตะ)

ร้านกาแฟหลายร้านให้บริการเมนูนี้ และมักจะรวมอยู่ในเซ็ตเครื่องดื่มช่วงอาหารเช้า เพียงแค่สั่งเครื่องดื่มก็สามารถทานขนมปังปิ้งถั่วแดงฟรี (หรือจ่ายเพิ่มนิดหน่อย)! ขนมปังที่ปิ้งจนอุ่นกรอบ ราดด้วยถั่วแดงบดหวานสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน ทานคู่กับกาแฟหรือชาสักแก้ว รับรองว่าจะทำให้คุณมีเช้าที่สดชื่น และเริ่มต้นวันใหม่อย่างเต็มพลัง

มื้อกลางวัน: ข้าวหน้าปลาไหลหั่นชิ้น (ฮิตสึมาบุชิ)


ข้าวหน้าปลาไหลแบบดั้งเดิมในหลายพื้นที่จะวางปลาไหลย่างทั้งตัวบนข้าว แต่ในนาโกย่า วิธีที่นิยมที่สุดคือข้าวหน้าปลาไหลแบบหั่นชิ้น เวลาทานเราสามารถเลือกได้ 3 แบบ: ทานแบบธรรมดา, คลุกกับวาซาบิหรือต้นหอม หรือราดน้ำซุปแล้วทานเป็นข้าวต้ม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็อร่อยเ่ช่นกัน แถมการหั่นชิ้นยังทำให้ทานง่ายขึ้นด้วย แนะนำให้มาทานตอนมื้อเที่ยง เพราะราคาจะถูกกว่าตอนเย็นหน่อย

อาหารเย็น: มิโสะโดเตะนิ


ชาวนาโกย่าชอบกินมิโสะ โดยเฉพาะมิโสะสีเข้มที่นิยมใช้ในการทำอาหาร หนึ่งในเมนูอร่อยที่ทำจากมิโสะก็คือมิโสะโดเตะนิ หรือการนำเอ็นวัว, เครื่องในวัวหรือหมู หัวไชเท้า และวัตถุดิบอื่น ๆ มาต้มในซอสมิโสะพิเศษเป็นเวลานาน รสชาติหวานเค็มของมิโสะซึมเข้าไปในวัตถุดิบอย่างทั่วถึง แม้ว่าจะเค็มนิดหน่อยถ้ากินเปล่า ๆ แต่ถ้ากินกับข้าวสวยรับรองว่าคุณจะต้องร้องขอเติมข้าวอย่างแน่นอน หรือถ้าไม่กินข้าว เอาไว้เป็นกับแกล้มคู่เหล้าก็เข้ากันสุดๆ เลยล่ะ!

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว เริ่มมองนาโกย่าเปลี่ยนไปบ้างหรือยังล่ะ? ที่จริงแล้ว โบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ในนาโกย่านั้นขึ้นชื่อติดอันดับต้น ๆ ของประเทศเลย บรรยากาศที่คึกคักแถวซากาเอะก็ไม่แพ้โตเกียวหรือโอซาก้าอีกด้วย! ถ้ายังไม่เคยมา ขอแนะนำให้มาสำรวจเมืองที่ทั้งสนุกและน่ารักแห่งนี้ด้วยตัวเองดูสักครั้งนะ!