นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบบรรยากาศแบบ "โนสตัลเจีย (การย้อนวัยหวนอดีตที่แสนหอมหวานอบอุ่น)" เมื่อไปเยือนญี่ปุ่นจะต้องไม่พลาดสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ ในนั้นมีคำที่คุ้นหูอย่าง "ไทโชโรมานซ์" แต่คุณอาจไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ใช่มั้ยล่ะ? บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ "สมัยไทโช" ของญี่ปุ่น และลักษณะเด่นทางสุนทรียศาสตร์ พร้อมแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ "ไทโช" ที่คุณไม่ควรพลาดในญี่ปุ่น เพื่อให้คุณกลายเป็น "นักเดินทางข้ามกาลเวลา" ตัวจริง!
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสุดคลาสสิกยุค "โชวะ" ในญี่ปุ่น
."ยุคไทโชเป็นยุคสมัยแบบไหนกันนะ?"
.จุดเช็คอินสุดฮิต ①: [ฮอกไกโด] คลองโอตารุ
.จุดเช็คอินสุดฮิต ②: [ยามากาตะ] น้ำพุร้อนกินซัง
.จุดเช็คอินสุดฮิต ③: [คานากาวะ] ถนนช้อปปิ้งบาชามิชิแห่งโยโกฮาม่า
.จุดเช็คอินสุดฮิต ④: [กิฟุ] หมู่บ้านไทโชมุระ
.จุดเช็คอินสุดฮิต ⑤: [ฟุกุโอกะ] ท่าเรือโมจิ
ยุคไทโชของญี่ปุ่น ดั่งความฝันอันแสนสั้น
"ยุคไทโช" เป็นยุคสมัยแบบไหนกันนะ?
รู้ไหมว่า "สมัยไทโช" ในญี่ปุ่นเป็นช่วงที่จักรพรรดิไทโชครองราชย์ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 1912 ถึง 25 ธันวาคม 1926 รวมเพียง 14 ปีเท่านั้น! นับเป็นยุคสมัยที่สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว "สมัยไทโช" มาต่อจาก "สมัยเมจิ" ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสังคมญี่ปุ่นยุคใหม่ พอหลุดพ้นจากพันธนาการของระบบเก่า ๆ ก็เข้าสู่ยุค "ประชาธิปไตยไทโช" อย่างเต็มตัว ที่น่าสนใจคือ ช่วงนี้เป็นยุคที่วัตถุนิยมและกระแสวัฒนธรรมเฟื่องฟูสุด ๆ จนเกิดเป็นสไตล์เฉพาะตัวที่เรียกว่า "ไทโชโรมานซ์" (Taisho Roman) ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยนี้เลยล่ะ! ถ้าได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมสัมผัสกลิ่นอายของยุคนี้กันนะ
ที่มาของภาพ:All About Japan
การเกิดขึ้นของกระแสวัฒนธรรม "ไทโชโรมานซ์"
เมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลงตามแบบตะวันตกที่ถูกหว่านไว้ในสมัยเมจิ ได้เติบโตและดูดซับสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์และเสรีมากขึ้นในยุคไทโช ประกอบกับอิทธิพลของลัทธิโรแมนติกจากยุโรปในศตวรรษที่ 19 ทำให้เกิดการเบ่งบานของดอกไม้แห่ง "ความโรแมนติกสมัยไทโช" ที่งดงามแต่แสนสั้น ศิลปินที่เป็นตัวแทนของยุคนี้อย่างชัดเจนคือ "ทาเคฮิสะ ยูเมจิ" ผู้วาดภาพ "สาวงามสไตล์ยูเมจิ" ที่แสดงถึงความเสื่อมโทรมและความงามอันเพ้อฝันในเชิงอารมณ์ นอกจากนี้ยังมี "ทาคาบาทาเกะ คาโช" ผู้เชี่ยวชาญในการวาดภาพสาวน้อยและหนุ่มน้อย ด้วยลายเส้นที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนเช่นกัน
ประกอบการแต่งตัวที่ "ชายและหญิงไทโช" ต้องมี!
จิตวิญญาณแห่งการยกระดับสถานภาพสตรีในยุค "ไทโชโรมานซ์" สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนผ่านแฟชั่นการแต่งกาย ในช่วงสมัยเมจิและไทโช มีการปรับปรุงชุดพิธีการแบบดั้งเดิมของผู้ชายญี่ปุ่นให้กลายเป็น "ฮากามะสำหรับผู้หญิง" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกระโปรงกางเกง สาวนักเรียนสมัยนั้นนิยมสวมฮากามะสี "เอบิชา" (สีน้ำตาลแดง) คู่กับรองเท้าหนัง พร้อมมัดผมเกล้าและผูกโบว์ใหญ่สุดโรแมนติก นี่คือลุคมาตรฐานของ "สาวยุคไทโช" แท้ ๆ เลยล่ะ นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายยุคไทโชเป็นต้นมา เสื้อผ้าหลวม ๆ ทรงผมบ๊อบ รวมถึงบลัชออนและลิปสติกสีสดใส ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนุ่ม ๆ ก็มักจะอวดความหล่อด้วยเสื้อโค้ท หรือไม่ก็แต่งตัวแบบ "ผสมผสานญี่ปุ่น-ตะวันตก" ด้วยการสวมชุดกิโมโนคู่กับหมวกทรงระฆังหรือหมวกปานามา
สถาปัตยกรรมสไตล์ไทโชที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก
ในแง่ของสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สไตล์การก่อสร้างในยุคไทโชนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าด้วยกัน พร้อมเพิ่มกลิ่นอายของความโรแมนติกเข้าไป อาคารชื่อดังในยุคนี้ เช่น "สถานีโตเกียว" และ "พิพิธภัณฑ์ศิลปะมิตซูบิชิ อิจิโกคัง" ในโตเกียว ล้วนสืบทอดรูปแบบอาคารอิฐสีแดงที่เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยเมจิ แต่เพิ่มเติมลวดลายประดับสไตล์ยุโรปและแสงไฟสีเหลืองนวล ทำให้อาคารดูหรูหราและสง่างามมากยิ่งขึ้น นี่เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความงามของอาคารเก่าแก่
ยุคสมัย | ปีที่โดดเด่น | แฟชั่นและสไตล์การแต่งตัวสุดฮิต | ไฮไลท์ด้านสถาปัตยกรรมและสถานที่สำคัญ | จุดถ่ายรูปสุดปังที่ห้ามพลาด! |
ยุคเอโดะ | ปีค.ศ.1603 ~ ค.ศ.1867 | สัมผัสความงดงามของสุนทรียศาสตร์แบบ "อิกิ" ที่แสดงถึงความมีรสนิยมอันประณีต ผ่านแฟชั่นยอดนิยมอย่าง "โตเกียว (เอโดะ) ยูเซ็น" และชุด "โคโซเดะ" ที่โดดเด่นด้วยสีสันอันนุ่มนวลและสง่างาม สีที่ใช้จะมีความอิ่มตัวต่ำ ให้ความรู้สึกคลาสสิกและมีเสน่ห์ชวนหลงใหล | มีสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบให้ชมกัน ทั้งบ้านซามูไร บ้านแถวยาวและบ้านพ่อค้า | 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในยุคเอโดะ |
ยุคไทโช | 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912 - 25 ธันวาคม ค.ศ. 1926 | การผสมผสานชุดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกับเครื่องประดับสไตล์ตะวันตก เช่น สาว ๆ ใส่ "ฮากามะ" คู่กับรองเท้าหนังและโบว์ผูกผม หรือหนุ่ม ๆ สวมชุดกิโมโนแล้วใส่หมวกปานามา สุดเท่ | เพิ่มเติมสไตล์โรแมนติกบนพื้นฐานของ "การผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก | ☞ อ่านบทความนี้ |
ยุคโชวะ | ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1926 ถึงวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1989 | ช่วงยุคนี้ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากตะวันตกอย่างเต็มที่ เทรนด์แฟชั่นสุดฮิตมีทั้งชุดอเมริกัน ลุคฮิปปี้ กางเกงยีนส์ขาบาน และสูทไหล่บึกบึน สุดคูลเลยล่ะ | อาคารที่เรียกว่า "คันบัง" นี่สุดยอดมาก ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง เป็นทั้งร้านค้าและบ้านพักในตัวเดียว ช่างเป็นไอเดียที่เจ๋งสุด ๆ | 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิกสไตล์ยุคโชวะ |
Y2K | โดยทั่วไปหมายถึงช่วงปลายยุค 90 จนถึงต้นยุค 2000 | สีสันสดใสแบบ "โดปามีน" สีฟลูออเรสเซนต์ โลหะ และองค์ประกอบที่ดูล้ำสมัย | มีความโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์ค ผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่น รูปทรงไม่สม่ำเสมอ และให้ผลกระทบทางสายตาอย่างรุนแรง | 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิคสไตล์ Y2K ที่ไม่ควรพลาด |
จุดเช็กอินสุดฮิต ①:[ฮอกไกโด] คลองโอตารุ
เมือง "โอตารุ" ในฮอกไกโดนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่เต็มไปด้วยสีสันแบบเทพนิยาย เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการสัมผัสกับความโรแมนติกแบบ "ไทโช โรมานซ์" นะ! โอตารุเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปลายยุคเมจิจนกลายเป็นเมืองท่านานาชาติที่สำคัญ และยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำ จนได้รับฉายาว่า "วอลล์สตรีทแห่งภาคเหนือ" ด้วย! และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือในยุคไทโชได้มีการขุด "คลองโอตารุ" จนเสร็จสมบูรณ์ ทำให้คลองสวยงามแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่เป็นสัญลักษณ์ของโอตารุมาจนถึงทุกวันนี้เลยล่ะ
แม้ว่าโอตารุในปัจจุบันจะไม่คึกคักเหมือนในอดีต แต่เมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายต่างประเทศแห่งนี้ยังคงรักษาอาคารสไตล์ตะวันตกและกลุ่มโกดังอิฐสีแดงจากยุคเมจิและไทโชไว้เป็นจำนวนมาก หลายแห่งถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของที่ระลึก โรงงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนเสน่ห์ของอาคารเก่าแก่อายุร้อยปีเหล่านี้แต่อย่างใด เมื่อมาเยือนโอตารุ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นจากถนนช้อปปิ้งคึกคักอย่าง "ซาไกมาจิ" ไปจนถึงริมคลอง โดยเฉพาะยามค่ำคืนเมื่อแสงไฟเริ่มสว่างไสว บรรยากาศจะสวยงามราวกับอยู่ในความฝันเลยทีเดียว!
คลองโอตารุ
・ที่อยู่:5 มินาโตะโจ เมืองโอตารุ ฮอกไกโด
・เว็บไซต์
จุดเช็กอินสุดฮิต ② : [ยามากาตะ] น้ำพุร้อนกินซัง
"น้ำพุร้อนกินซัง" ตั้งอยู่ในเมืองคาซาวะ จังหวัดยามากาตะ เดิมทีในสมัยเอโดะที่นี่เป็นที่รู้จักในนาม "เหมืองเงินโนบุซาวะ" ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตแร่เงิน ในระหว่างการขุดเหมือง คนงานได้บังเอิญค้นพบต้นน้ำพุร้อน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ "น้ำพุร้อนกินซัง" นั่นเอง โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคไทโชเป็นต้นมา ริมฝั่งแม่น้ากินซังทั้งสองด้านเริ่มมีเรียวกังออนเซ็นผุดขึ้นมากมาย บนถนนหินมีการติดตั้งโคมไฟแก๊สเรียงราย วาดภาพความรุ่งเรืองของเมืองน้ำพุร้อนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
สถานที่ยอดฮิตสำหรับถ่ายรูปเช็กอินที่ "น้ำพุร้อนกินซัง" ต้องยกให้ "โรงแรมโนโตยะ" เลยล่ะ ที่นี่เป็นอาคารไม้ 4 ชั้นที่สร้างขึ้นในปี 1921 (ปีที่ 10 แห่งสมัยไทโช) แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และยังโด่งดังจากการเป็นสถานที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นเรื่อง "โอชิน" รวมถึงเป็นต้นแบบของโรงอาบน้ำในการ์ตูนเรื่อง "เทพยดาเหนือมนุษย์" อีกด้วย ทางเข้าโรงแรมออกแบบด้วยเสาแบบโรมันคลาสสิก มีสะพานแดงทอดข้ามด้านหน้า ยามค่ำคืนเมื่อไฟถนนสีเหลืองนวลสว่างขึ้น ภาพที่เห็นราวกับเมืองในนิทานที่มีชีวิตขึ้นมา ชวนให้นึกถึงบรรยากาศอันแสนโรแมนติกของยุคไทโชเลยทีเดียว
น้ำพุร้อนกินซัง
・ที่อยู่:กินซันออนเซ็น เมืองโอบานะซาวะ จังหวัดยามากาตะ
・เว็บไซต์
จุดเช็กอินสุดฮิต ③ : [คานากาว่า] ถนนช้อปปิ้งบาชามิชิแห่งโยโกฮาม่า
นับตั้งแต่โยโกฮาม่าเปิดท่าเรือเพื่อการค้าระหว่างประเทศในปี 1859 เมืองนี้ก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติอย่างรวดเร็ว พ่อค้าชาวยุโรปและอเมริกันต่างหลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐานในย่านที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติ ภาพของชาวต่างชาติขับรถม้าไปตามถนนในเมืองจึงกลายเป็นเรื่องปกติ นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ "ถนนบาชามิชิหรือถนนรถม้า" ซึ่ง "ถนนรถม้า" ยังเป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมตะวันตกหลายอย่างในญี่ปุ่นด้วย เช่น เป็นถนนสายแรกในญี่ปุ่นที่มีการติดตั้งโคมไฟแก๊ส และเป็นที่ที่มีไอศกรีมขายเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น ทัศนียภาพของเมืองที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันนั้นช่างเป็นภาพที่น่าหลงใหลไม่น้อย
ปัจจุบันบริเวณรอบ ๆ สถานี "บาชามิชิ" ยังคงมีอาคารเก่าแก่มากมายที่หลงเหลือมาตั้งแต่สมัยไทโชและโชวะให้เราได้ชื่นชม เช่น อาคาร Sompo Japan Yokohama Bashamichi ที่มีสถาปัตยกรรมแบบบาโรกและอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยศิลปะโตเกียว สาขาบาชามิชิ เป็นต้น ตึกรามบ้านช่องสไตล์ตะวันตกที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตา ผสมผสานกับถนนอิฐสีแดงที่ดูคลาสสิก ทำให้เราได้ย้อนกลับไปสัมผัสบรรยากาศอันรุ่งเรืองของเมืองในยุคไทโชและโชวะได้อย่างเต็มอิ่ม
ถนนช้อปปิ้งบาชามิชิแห่งโยโกฮาม่า
・ที่อยู๋:5-โจเมะ ย่านฮอนโจ เขตนากะ เมืองโยโกฮามะ จังหวัดคานากาวะ (บริเวณรอบ ๆ สถานีรถไฟ "บาชะมิจิ" บนสายซาคาเอะ ฮอนโจ)
・เว็บไซต์
จุดเช็กอินสุดฮิต ④:[กิฟุ] หมู่บ้านไทโชแห่งญี่ปุ่น
ที่เมืองเอนะ จังหวัดกิฟุ มีหมู่บ้านท่องเที่ยวชื่อ "หมู่บ้านไทโชแห่งญี่ปุ่น" ตั้งอยู่ในเขตอะเคจิ หมู่บ้านนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของสถานีรถไฟสาย "อะเคจิ" ที่ถูกยกเลิกไป ด้วยแนวคิดที่จะฟื้นฟูวัฒนธรรมสมัยไทโช สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นได้ริเริ่มโครงการสร้างหมู่บ้านย้อนยุคขนาดใหญ่แห่งนี้ขึ้นในปี 1983 จากจุดเริ่มต้นที่แทบไม่มีใครรู้จัก หมู่บ้านแห่งนี้ได้พัฒนาจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเขตอะเคจิที่ได้รับรางวัลมากมายและดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคสมัยไทโชที่น่าประทับใจ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน "หมู่บ้านไทโชมุระ" เป็นครั้งแรก แนะนำให้ลองเดินตามเส้นทางที่ทางการแนะนำ โดยเริ่มจากถนนไทโช ไปยังสถานีอนามัยสมัยไทโช พิพิธภัณฑ์ยุคโรแมนติกไทโช และร้านกาแฟโบราณ ตามลำดับ การเดินเที่ยวแบบนี้ไม่เพียงแต่จะได้ "ดื่มด่ำ" กับบรรยากาศของหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายยุคไทโชเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเรียบง่ายและวัฒนธรรมอันงดงามของยุคที่ผ่านพ้นไปแล้ว ผ่านเอกสารแนะนำและสิ่งของสะสมมากมายอีกด้วย
หมู่บ้านไทโชแห่งญี่ปุ่น
・ที่อยู่:1884-3 อะเคจิโจ เมืองเอนะ จังหวัดกิฟุ
・เวลาทำการ:9:00〜17:00 (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.30 น.) วันที่ 15 ธันวาคม - กุมภาพันธ์ 10.00 น. - 16.00 น.
・ราคาค่าเข้าชม:700 เยนต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ 500 เยนต่อวันสำหรับนักเรียนมัธยมต้นและประถมศึกษา
・เว็บไซต์
จุดเช็กอินสุดฮิต ⑤ : [ฟุกุโอกะ] ท่าเรือโมจิโกะ
ท่าเรือโมจิ (Moji Port) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะคิวชูนั้น มีประวัติศาสตร์การเปิดท่าเรือมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่สมัยเมจิเป็นต้นมา ท่าเรือแห่งนี้ได้กลายเป็นประตูสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะคิวชูและเกาะฮอนชู ในอดีตที่นี่เคยเป็นศูนย์รวมของบริษัทการค้าต่างประเทศ อาคารสไตล์ตะวันตก และธนาคารมากมาย แม้ว่าปัจจุบันความรุ่งเรืองของเมืองท่าจะไม่เหมือนเดิม แต่ "สถานีรถไฟโมจิโกะ" ที่สร้างขึ้นในสมัยไทโชนั้น ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของคิตะคิวชูไปแล้ว หลังจากการบูรณะครั้งใหญ่ สถานีนี้ได้เปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2019 โดยได้ฟื้นฟูความงดงามในสไตล์ไทโชให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ชวนให้ผู้มาเยือนหลงใหลไปกับบรรยากาศย้อนยุคอันน่าประทับใจ
นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นการเดินเที่ยวจากสถานีโมจิโกะ แล้วเดินเล่นไปตามย่าน "โมจิโกะ เรโทร" จนถึงลานกว้างริมช่องแคบ ในย่านนี้จะได้ชมอาคารสไตล์ตะวันตกสมัยเมจิและไทโชที่สร้างด้วยอิฐสีแดงมากมาย เช่น อาคารเก่าของบริษัทเดินเรือโอซาก้า และอาคารศุลกากรเก่าของท่าเรือโมจิ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโรแมนติกสมัยไทโชที่หาชมได้ยาก ชวนให้หลงเสน่ห์ไปกับมนต์เสน่ห์ของยุคสมัยอันรุ่งเรืองนี้
ย่านท่าเรือโมจิโกะเรโทร (Mojiko Retro Area)
・ที่อยู่:มินาโตะโจ โมจิคุ เมืองคิตะคิวชู
・เว็บไซต์
สมัย "ไทโช" ที่ผ่านมาเพียงชั่วครู่ราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานในยามค่ำคืน ได้กลายเป็นดั่งภาพที่ถูกเคลือบด้วยฟิลเตอร์สีกุหลาบ และกลายเป็นยูโทเปียในความทรงจำของชาวญี่ปุ่น ผลงานภาพยนตร์และละครที่ใช้ยุคไทโชเป็นฉากหลังมีมากมายนับไม่ถ้วน สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสบรรยากาศ "โรแมนติกแบบไทโช" อย่าพลาดสถานที่ในฝันที่เราแนะนำในบทความนี้เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นนะ!