เมื่อจัดทริปมาเที่ยวญี่ปุ่น หนึ่งในกิจกรรมสำคัญสำหรับหลาย ๆ คนก็คือ การไปสักการะศาลเจ้าเพื่อขอพรให้ชีวิตเป็นสิริมงคล วันนี้ "JapaiJAPAN" ได้รวบรวม 7 ศาลเจ้าในโตเกียวที่คนนิยมไปไหว้ พร้อมบอกรายละเอียดครบครันทั้งเรื่องพรพิเศษที่จะได้รับจากเทพเจ้าแต่ละองค์ และขั้นตอนการไหว้อย่างถูกวิธี

ก่อนอื่น มารู้จักวัฒนธรรมการไหว้พระต้อนรับปีใหม่ของญี่ปุ่น และขั้นตอนการสักการะ
พิธีขอพรปีใหม่ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเฮอัน
「ฮัตสึโมเดะ(HATSUMOUDE)」หรือที่เรียกอีกชื่อว่า「โชซัง(SHOSAN)」คือประเพณีสำคัญที่สุดในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น อย่างที่ชื่อบอก มันคือการไปสักการะศาลเจ้าหรือการไปวัดครั้งแรกของปีใหม่นั่นเอง ประเพณีนี้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเฮอันจนถึงปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัยจะพากันไปร่วมพิธี เพื่อขอบคุณเทพเจ้าที่คุ้มครองให้ผ่านพ้นปีเก่ามาได้อย่างปลอดภัย และขอพรให้ปีใหม่เป็นปีที่ราบรื่นและสุขภาพแข็งแรง

การไปไหว้พระปีใหม่ที่วัดเซ็นโซจิบนถนนนะกะมิเสะจะคึกคักเป็นพิเศษ
ภาพจาก:photo AC
ความแตกต่างของช่วงเวลาฮัตสึโมเดะระหว่างคันโตและคันไซ
แม้จะไม่มีกฎตายตัวว่าต้องไปไหว้เมื่อไหร่ แต่คนญี่ปุ่นมักจะไปในช่วง「มัตสึโนะอุจิ」ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็มีช่วงเวลาไม่เหมือนกัน โดยแถบคันโตจะอยู่ระหว่างวันที่ 1-7 มกราคม ส่วนแถบคันไซจะยาวกว่าหน่อย คือ1-15 มกราคม แต่คนส่วนใหญ่มักชอบไปหลังจากมีการตีระฆัง「โจยะ โนะ คาเนะ」(หรือ ระฆังของคืนวันสิ้นปี)ในคืนส่งท้ายปีเก่า โดยเฉพาะใน 3 วันแรกของปีใหม่จะคึกคักที่สุด คนเยอะที่สุด และมีบรรยากาศเทศกาลปีใหม่เต็มที่ แต่เดิมเชื่อกันว่าหลังสักการะแล้วควรกลับบ้านเลย เพราะเชื่อว่าจะได้「นำพรและความเป็นสิริมงคลกลับบ้านโดยตรง」แต่คนสมัยนี้ส่วนใหญ่มักจะถือโอกาสนัดเจอเพื่อนฝูงญาติมิตรไปทานข้าวฉลองกัน หรือไม่ก็แวะเดินเล่นช้อปปิ้งตามร้านค้าแผงลอยในย่านการค้าแถวๆ นั้นอย่างสนุกสนานกันต่อ

ภาพจาก:photo AC
ทำไมถึงเรียกว่า 'มัตสึโนะอุจิ' ?
ในช่วงปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจะนำต้นสน หรือที่เรียกว่า 'คาโดมัตสึ' มาประดับไว้หน้าบ้าน ด้วยความเชื่อที่ว่าเทพเจ้าจะใช้ต้นสนนี้เป็นเหมือน "ป้ายบอกทาง" นำทางเข้ามาอวยพรในบ้าน และช่วงเวลาที่มีการประดับต้นสนนี้เองที่เรียกว่า 'มัตสึโนะอุจิ' นั่นเอง ดังนั้นถ้าใครอยากไปไหว้ศาลเจ้าครั้งแรกของปี หรือที่เรียกว่า 'ฮัตสึโมเดะ' ก็ควรไปในช่วงนี้จะดีที่สุดเลย (เพิ่มเติม: มัตสึโนะอุจิ คือช่วง 7 วันแรกของปีใหม่ในญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ที่เหมาะแก่การไปสักการะเทพเจ้า)
วิธีการสักการะศาลเจ้า「โค้ง 2 ครั้ง, ปรบมือ 2 ครั้ง, โค้ง 1 ครั้ง」
วิธีการสักการะในช่วงปีใหม่ที่ศาลเจ้าญี่ปุ่นมีขั้นตอนดังนี้ : ก่อนเข้าศาลเจ้า ให้หยุดและโค้งคำนับที่หน้าเสาโทริอิ (หรือ ประตูศาลเจ้า) จากนั้นไปที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระล้างมือและบ้วนปาก ถ้าสวมหมวกหรือแว่นกันแดดอยู่ อย่าลืมถอดออกก่อนนะ เมื่อถึงหน้าศาลเจ้า ให้หยอดเหรียญลงในกล่องทำบุญ แล้วเขย่าเชือกที่มีกระดิ่งผูกอยู่ ต่อมาจึงโค้งคำนับ 2 ครั้ง ปรบมือ 2 ครั้ง พร้อมพนมมืออธิษฐานขอพรในใจ โค้งคำนับอีก 1 เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อขอบคุณเทพเจ้าที่รับฟัง เท่านี้ก็เสร็จพิธีการสักการะแล้ว! หลังจากนั้น หากใครอยากจะเขียนแผ่นไม้อธิษฐาน เสี่ยงเซียมซี ซื้อเครื่องรางนำโชค หรือลูกธนูขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่มีขายเฉพาะช่วงปีใหม่ก็สามารถทำได้ตามความต้องการ
7 ศาลเจ้าสุดฮิตในโตเกียวที่ต้องไปไหว้
① ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกู : เหมาะขอพรเรื่องความรักให้สมหวัง
ปีใหม่นี้หากใครอยากเจอรักครั้งใหม่ที่จบแฮปปี้เอนดิ้ง ต้องไม่พลาดไปขอพรที่ ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกูเด็ดขาด ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ「เทพอะมะเทระสึ โอมิคามิ (Amaterasu Omikami)」เทพเจ้าสูงสุดของชาวญี่ปุ่น โดยศาลเจ้านี้เดิมทีเคยมีชื่อว่า「ศาลเจ้าฮิบิยะไดจินกู」และเป็นสาขาของศาลเจ้าอิเสะที่จังหวัดมิเอะ ก่อนจะย้ายที่ตั้งและเปลี่ยนชื่อมาเป็น "โตเกียวไดจิงกู" ในที่สุด ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะสถานที่จัดพิธีแต่งงานแบบชินเซ็น (พิธีแต่งงานแบบชินโต) แห่งแรกของญี่ปุ่น ที่เจ้าสาวจะสวมชุดขาวชิโรมุคุ (Shiromuku) อันงดงาม มาร่วมพิธีวิวาห์กับเจ้าบ่าว จึงไม่แปลกที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะได้ชื่อว่าเป็น ศาลเจ้าแห่งพรรักสมหวังที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด」โดยในแต่ละปีมีผู้คนมาสักการะช่วงปีใหม่มากกว่า 50,000 คนเลยทีเดียว

ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกู ศาลเจ้าแห่งพรรักสมหวังที่ทรงพลังที่สุด!
ภาพจาก:ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกู
ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกู
・ที่ตั้ง:2-4-1 ฟูจิมิ ชิโยดะ-กุ โตเกียว
・การเดินทาง:JR Chuo / Sobu, สาย Tokyo Metro Yurakucho / Namboku / Tozai, และรถไฟใต้ดิน Toei สาย Oedo แต่ละสายลงรถไฟที่ สถานี Iidabashi แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
・เวลาเปิด-ปิด:06:00 - 21:00 น.
・เว็บไซต์ทางการ
②ศาลเจ้าโยโยงิ ฮาจิมังกู: เหมาะขอพรเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โชคชัย และความรุ่งเรืองทางธุรกิจ
「ศาลเจ้าโยโยงิ ฮาจิมังกู」สร้างขึ้นในสมัยคามาคุระ ล้อมรอบด้วยป่าไม้เขียวขจี ร่มรื่นสวยงาม เทพเจ้าองค์หลักที่ประดิษฐานที่นี่คือจักรพรรดิโอจินที่ 15 แห่งญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในนาม「ฮาจิมัน เทพเจ้าแห่งสงคราม」จึงได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงจากเหล่าซามูไรในยุคสงคราม เชื่อกันว่าสามารถดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จ มีชัยชนะ ก้าวหน้าในชีวิต และขจัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายได้。 ภายในบริเวณศาลเจ้ายังมี「ศาลเจ้าชุสเสะ อินาริ」ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังงานสูงที่สุดในโตเกียว ผู้คนเชื่อกันว่าสามารถอธิษฐานขอพรให้การงานราบรื่น เจริญก้าวหน้า และธุรกิจรุ่งเรือง สำหรับลำดับการสักการะภายในศาลเจ้า มีดังนี้โดย เริ่มจากกราบไหว้เทพเจ้าองค์หลักที่ศาลเจ้าโยโยงิ ฮาจิมังกูก่อน จากนั้นไปสักการะตามลำดับที่ศาลฮารุนะ ศาลเทนจิน และศาลอินาริ แล้วจึงไปสักการะที่ศาลเจ้าชุสเสะ อินาริเป็นแห่งสุดท้าย

ศาลเจ้าโยโยกิฮาจิมังกูช่วยเสริมดวงให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานและธุรกิจรุ่งเรือง
ภาพจาก:ศาลเจ้าโยโยกิฮาจิมังกู
ศาลเจ้าโยโยกิฮาจิมังกู
・การเดินทาง:5-1-1 โยโยกิ เขตชิบูย่า โตเกียว
・交通:เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Yoyogi-koen (รถไฟใต้ดินโตเกียวสาย Chiyoda ) หรือสถานี Yoyogi-Hachiman (รถไฟสาย Odakyu)
・เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 17:00 น.
・เว็บไซต์ทางการ
③ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน:ศาลเจ้าแห่งความรักและความมั่งคั่ง
ศาลเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันติดปากว่า「คันดะ เมียวจิน」นี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ปี 730 มีชื่อทางการคือ「คันดะ จินจะ」เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ โทคุงาวะ อิเอยาสุ มาขอพรก่อนการศึกเซกิกาฮาระ จนได้รับชัยชนะและรวบรวมญี่ปุ่นเป็นหนึ่งเดียว หลังจากนั้นตระกูลโทคุงาวะได้ย้ายศาลเจ้ามายังที่ตั้งปัจจุบันเพื่อปกป้องปราสาทเอโดะ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น「ผู้พิทักษ์แห่งเอโดะ」ภายในศาลเจ้ามีเทพเจ้า 3 องค์ประทับอยู่ คือ เทพแห่งความรักที่มีชื่อเสียงในการเป็นพ่อสื่อ「โอนามุจิ (หรือโอคุนินุชิ) 」、เทพแห่งความมั่งคั่งและการค้าขาย的「สุคุนาฮิโคนะ (หรือเอบิสุ)」และเทพผู้ปัดเป่าเภทภัยและความโชคร้าย的「ทามาโมโนะ โนะ มาซากาโดะ」ด้วยเหตุนี้ พ่อค้าแม่ค้าจึงนิยมมาขอพรที่นี่เป็นพิเศษ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้คึกคักมากในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น ถ้าใครอยากเริ่มต้นปีใหม่ด้วยโชคลาภและความมั่งคั่งต้องมาไหว้ที่นี่

ศาลเจ้าคันดะเมียวจินเป็น 'ศาลเจ้าผู้ปกปักษ์เอโดะทั้งหมด'
ภาพจาก:Tōkyō Jissha Meguri
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน
・ที่ตั้ง:2-16-2 โซโตกันดะ เขตชิโยดะ โตเกียว
・การเดินทาง:เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Ochanomizu (รถไฟใต้ดินโตเกียวสาย Marunouchi หรือสาย JR Chuo
・เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 16:30 น.
・เว็บไซต์ทางการ
④ศาลเจ้ายูชิมะเท็นมังกู:เหมาะขอพรเรื่องการเรียนและโชคลาภ
「ศาลเจ้ายูชิมะ เท็นมังกู」,ตั้งอยู่ใจกลางย่านคึกคักของโตเกียว 「เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าเท็นจินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต 」ได้รับความเคารพศรัทธาจากผู้คนมาตั้งแต่โบราณ และมักเรียกกันติดปากว่า「ยูชิมะ เท็นจิน」 ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากๆ เล่ากันว่าสร้างขึ้นในปี 458 โดยจักรพรรดิยูเรียคุ เพื่อบูชาเทพ「อาเมะโนะทาจิคาระโอะโนะมิโคโตะ」ซึ่งเป็นเทพแห่งพื้นดินที่ปรากฏในตำนานเทพญี่ปุ่น และถือเป็นเทพแห่งพละกำลังและชัยชนะ ต่อมาในปี 1355 ตามความปรารถนาของประชาชน จึงได้อัญเชิญดวงวิญญาณของสุกะวะระ โนะ มิจิซาเนะ ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเทพแห่งการศึกษา หรือที่เรียกว่า "เท็นจิน" มาประดิษฐานร่วมด้วย ใครที่อยากเรียนเก่งขึ้น หรือสอบผ่านฉลุยอย่าลืมแวะมาขอพรที่นี่กัน

ศาลเจ้ายูชิมะเท็นมังกู หนึ่งในสามศาลเจ้าสำคัญของเทพเท็มมังในภูมิภาคคันโต
ภาพจาก:photo AC
สามศาลเจ้าสำคัญของเทพเท็มมังที่ว่านี้ มีที่ไหนบ้าง?
ศาลเจ้าสามแห่งที่ขึ้นชื่อในภูมิภาคคันโต หรือที่เรียกกันว่า "สามศาลเจ้าแห่งเอโดะ" นั้น เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและมีผู้คนแห่แหนมาสักการะมากที่สุดในภูมิภาคคันโต ได้แก่ วัดโทโจ เท็นมังกู (Tōjō Tenmangū) , ศาลเจ้าคาเมโดะ เท็นจิน (Kamedo Tenjin) และ ศาลเจ้าทานิโบ เท็นมังกู (Tanibo Tenmangū) ซึ่งทั้งสามแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตโตเกียวทั้งหมด
ศาลเจ้ายูชิมะเท็นมังกู
・ที่ตั้ง:3-30-1 ยูชิมะ เขตบุงเกียว โตเกียว
・การเดินทาง:เดินประมาณ 2 นาทีจากสถานี Yushima (รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda) หรือเดินประมาณ 8 นาทีจากสถานี Okachimachi (รถไฟ JR สาย Yamanote)
・เวลาเปิด-ปิด:06:00 - 20:00 น.
・เว็บไซต์ทางการ
⑤ศาลเจ้าเฮบิคุโบะ:เหมาะขอพรเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตและโชคลาภ
ท่ามกลางย่านที่อยู่อาศัยในเขตชินากาวะ โตเกียว มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่อุทิศให้กับเทพมังกรและเทพงูขาวนั่นคือ「ศาลเจ้าเฮบิคุโบะ」ปี 2025 จะเป็นปีมะเส็ง (ปีงู) ใครที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและมีโชคลาภเรื่องการเงิน ขอแนะนำให้มาสักการะที่นี่ มีตำนานเล่าขานว่า ในปี 1322แคว้นมุซาชิ (ซึ่งปัจจุบันคือพื้นที่ส่วนหนึ่งของโตเกียวและจังหวัดไซตามะ) ประสบภัยแล้ง พระจากวัดในพื้นที่จึงเดินทางไปยังศาลเจ้ามังกรในป่าเพื่อขอฝน หลังจากนั้นฝนก็ตกหนักจนช่วยบรรเทาภัยแล้งได้ ชาวบ้านซาบซึ้งในความศักดิ์สิทธิ์ของเทพมังกร จึงอัญเชิญเทพมาประดิษฐาน ณ เฮบิคุโบะ ซึ่งก็คือที่ตั้งของศาลเจ้าเฮบิคุโบะในปัจจุบัน

ปีงูนี้ อย่าลืมแวะมาขอพรที่ ศาลเจ้าเฮบิคุโบะ
ภาพจาก:เว็บไซต์ทางการศาลเจ้าเฮบิคุโบะ

ศาลเจ้าเฮบิคุโบะ สถานที่สักการะเทพงูขาว
ภาพจาก:เว็บไซต์ทางการศาลเจ้าเฮบิคุโบะ
ปัจจุบันศาลเจ้าเฮบิคุโบะไม่ได้มีแค่เทพมังกรเท่านั้น แต่ยังมีเทพงูขาวประจำอยู่ด้วย โดยมีตำนานเล่าขานว่าแต่ก่อนทางด้านซ้ายของศาลเจ้าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของงูขาว แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ที่อยู่แห่งนี้ก็หายไป งูขาวจึงต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น วันหนึ่งผู้ดูแลที่ดินแถบนี้ฝันเห็นงูขาวมาบอกว่าอยากกลับมาอยู่ที่เดิม เขาจึงรีบไปแจ้งเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ศาลเจ้า หลังจากนั้นจึงได้เลือกพื้นที่ในบริเวณศาลเจ้าและสร้างศาลเจ้าเบนไซเทนงูขาวขึ้นมา เพื่อต้อนรับการกลับมาของงูขาว
พิเศษ! ช่วงปีใหม่รับฟรีお守り (โอมาโมริ) นำโชค
ศาลเจ้าเริ่มเปิดให้สักการะตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 1 มกราคม 2025 พร้อมแจกฟรี 'お守り งูขาวศักดิ์สิทธิ์' ให้กับผู้มาสักการะ จำนวนจำกัดเพียง 10,000 ชิ้นเท่านั้น
ศาลเจ้าเฮบิคุโบะ
・ที่ตั้ง:4-12 ฟุตาบะ 4-โชเมะ เขตชินากาวะ โตเกียว
・การเดินทาง:เดินประมาณ 5 นาทีจากรถไฟสาย Toei Asakusa "สถานี Nakanobu" หรือเดินประมาณ 8 นาทีจากรถไฟสาย JR Yokosuka "สถานี Nishi-Oi"
・เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 17:00 น.
・เว็บไซต์ทางการ
⑥ศาลเจ้าชิบะไดจิงกู:เหมาะขอพรเพื่อความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจและการหายจากโรคภัย
「ศาลเจ้าชิบะไดจิงกู」ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางกรุงโตเกียว สร้างขึ้นในปี 1005 มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าองค์หลักเช่นเดียวกับศาลเจ้าอิเสะ คือเทพอะมะเทระสึ โอมิคามิและเทพโทโยอุเกะ โอมิคามิ ศาลเจ้านี้จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น「ศาลเจ้าอิเสะแห่งภูมิภาคคันโต」นอกจากนี้ยังมีการสักการะมินาโมโตะ โนะ โยริโทโมะ, โทคุงาวะ อิเอยาสุ และสุงาวาระ โนะ มิชิซาเนะ ด้วย จึงเชื่อกันว่าที่นี่สามารถเสริมดวงการเงิน อวยพรให้กิจการรุ่งเรือง รักษาโรคภัยไข้เจ็บ และดึงดูดโชคลาภต่างๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในการนำพาโชคดีมาสู่ผู้มาสักการะ

ศาลเจ้าชิบะไดจินกู หนึ่งในศาลเจ้าชั้นนำ 10 แห่งของโตเกียว
ภาพจาก:photo AC
ศาลเจ้าชิบะไดจิงกู
・ที่ตั้ง:1-12-7 ชิบาไดมอน เขตมินาโตะ โตเกียว
・การเดินทาง:เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Hamamatsucho (สาย JR Yamanote) หรือเดินประมาณ 1 นาทีจากสถานี Daimon (สาย Toei Asakusa)
・เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 17:00 น.
・เว็บไซต์ทางการ
⑦ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชงู :เหมาะขอพรเรื่องสุขภาพแข็งแรง อายุยืน และความสำเร็จ
「ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชงู」ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะอุเอโนะ โตเกียว เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาโทคุงาวะ อิเอยาสุ (หรือที่รู้จักในนามโทโชไดกนเก็น) นับตั้งแต่สร้างขึ้นในปี 1627 ศาลเจ้าแห่งนี้โชคดีที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากสงครามและแผ่นดินไหว มีตำนานเล่าขานว่าผู้ที่มาสักการะจะได้รับพรด้านความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรง และอายุยืนยาว。 เช่นเดียวกับศาลเจ้าโทโชกุที่นิกโก้ จุดเด่นที่สุดของศาลเจ้าโทโชกุ อุเอโนะ คือตัวศาลเจ้าที่ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาด้วยทองคำ จนได้รับสมญานามว่า「วิหารทองคำ」ผนังภายนอกประดับด้วยลวดลายแกะสลักที่ละเอียดซับซ้อน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ นอกจากนี้ ประตูคารามงที่เคลือบทอง และโคมไฟทองแดงจำนวน 48 โคม ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญเช่นกัน

ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชงู ที่งดงามและไร้เทียมทาน
ภาพจาก:เว็บไซต์ทางการศาลเจ้าอุเอโนะโทโชงู
ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชงู
・ที่ตั้ง: 9-88 สวนอุเอโนะ เขตไทโตะ โตเกียว
・การเดินทาง:เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) ของ JR, สาย Keisei, และสาย Ginza ของ Tokyo Metro
・เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 16:00 น.
・เว็บไซต์ทางการ