อยากมูต้องมามุง! 9 ศาลเจ้าและวัดพุทธในภูมิภาคคันโต

สำหรับหลายคน เมื่อมาโตเกียวก็ต้องถือโอกาสแวะไหว้พระขอพรกันสักเล็กน้อย แต่รู้ไหม นอกจากวัดเซ็นโซจิและศาลเจ้าฮาโกเน่อันโด่งดังแล้ว ยังมีศาลเจ้าสุดพิเศษที่มีเอกลักษณ์อีกมากมายในภูมิภาคคันโต! และในบทความนี้ "Japai Japan" ก็ได้รวบรวมศาลเจ้าและวัดพุทธที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 9 แห่งในภูมิภาคคันโตมาให้คุณแล้ว หากอยากมูเสริมพลังโชคต้องเซฟเลย!

"จังหวัดกุนมะ" วัดมิโรคุจิ บนภูเขาคะโชซัง

"วัดมิโรคุจิ" ตั้งอยู่บนภูเขาคะโชซังในเมืองนูมาตะ จังหวัดกุนมะ ภายในห้องโถงเป็นที่ประดิษฐานของ "เทพเจ้าเท็นงุขนาดใหญ่" ที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุย้อนไปถึงปี 1939 และวัดมิโรคุจิยังเป็นหนึ่งใน"สามเท็นงูหลัก" ของญี่ปุ่น ร่วมกับวัดคุรามะในเกียวโต ทันทีที่คุณเข้าไปในห้องโถง คุณจะพบกับหน้ากากเทนกุสีแดงสดขนาดต่างๆ เรียงรายกันเป็นจำนวนมหาศาล แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือเท็นงูที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่อยู่คู่กับวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีความสูง 6.5 เมตร และมีความยาวจมูกประมาณ 2.8 เมตร เป็นภาพที่รับรองว่าคุณจะต้องตะลึงถึงความยิ่งใหญ่ของเทนกุที่นี่อย่างแน่นอน

หน้ากากเท็นงูที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : สมาคมการท่องเที่ยวเมืองนูมาตะ

วัดมิโรคุจิ บนภูเขาคะโชซัง
・ที่อยู่ : 445 Kamihotchimachi, Numata, Gunma
・เวลาทำการ : 8:00~17:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดกุนมะ" วัดโฮโทคุจิ

"วัดโฮโทคุจิ" ตั้งอยู่ในเมืองคิริว จังหวัดกุนมะ กล่าวกันว่าสร้างขึ้นในช่วงปี 1450 ยุคมุโรมาจิ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรูจากการบุกรุกปราสาทคิริว โดยคิริว ซาโนะ มาซัตสึนะ ขุนนางศักดินาแห่งแคว้นคิริวในสมัยนั้น รับการบูรณะในเวลาต่อมาจากความพยายามของชาวบ้านในท้องถิ่น สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดเกี่ยวกับวัดโฮโทคุจิคือใบเมเปิ้ลที่สวยงามหลายร้อยใบที่สะท้อนผ่านพื้นวัดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทุกปี เมื่อมีการเปิดไฟในตอนกลางคืน บรรยากาศจะถูกปกคลุมด้วยความลึกลับ แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ ในฤดูร้อนจะมีการแขวนกระดิ่งลมมากถึง 3,000 อัน ทั่วทั้งบริเวณ เมื่อลมพัดเสียงกระดิ่งลมจะดังก้องกังวานไปตามสายลมถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ในช่วงฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น หากคุณมีโอกาสมาญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนอย่าลืมมาเยี่ยมชมความงดงามที่จะคงอยู่เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นล่ะ!

หากไปเยี่ยมชมในฤดูใบไม้ร่วงจะสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของใบเมเปิ้ลที่สวยงามได้ ที่มาของภาพ: เว็บไซต์ทางการวัดโฮโทคุจิ

เทศกาลกระดิ่งลมที่จัดขึ้นในฤดูร้อนก็โด่งดังในภูมิภาคคันโตเช่นกัน ที่มาของภาพ: PhotoAC

วัดโฮโทคุจิ
・ที่อยู่ : 1608, 5 Chome Kawauchicho, Kiryu, Gunma ・เวลาทำการ : 9:00~16:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดกุนมะ" ศาลเจ้าโคอิซึมิอินาริ

"ศาลเจ้าโคอิซึมิอินาริ" ตั้งอยู่ในเมืองอิเซซากิ จังหวัดกุมมะ มีประตูโทริอิสีแดงสดขนาดต่างๆ มากกว่า 200 ต้น เรียงต่อเนื่องกันเป็น 3 แถว โดยมีความยาวรวมประมาณ 100 เมตร ถือเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว โดยที่สะดุดตาที่สุดคือประตูโทริอิขนาดใหญ่ที่มีความสูง 22 เมตร ซึ่งอยู่ห่างจากศาลเจ้าประมาณ 800 เมตร ว่ากันว่าเป็นประตูโทริอิที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกุมมะ เมื่อมองจากระยะไกล ประตูโทริอิขนาดต่างๆ ได้รับการจัดเรียงอย่างหนาแน่น และดึงดูดช่างภาพจำนวนมากให้มาที่นี่ ภายในศาลเจ้ามีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกสีขาวหลายร้อยตัวที่ประชาชนหลายร้อยคนอุทิศให้ แสดงให้เห็นถึงความรักและความเคารพของคนในท้องถิ่นที่มีต่อศาลเจ้านี้ได้เป็นอย่างดี

ที่มาของภาพ : PhotoAC

ศาลเจ้าโคอิซึมิอินาริ
・ที่อยู่ : 231 Koizumicho, Isesaki, Gunma
・เวลาทำการ : 8:00~17:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัดกุมมะ คันโต

"จังหวัดกุนมะ" วัดดารุมาจิ

"วัดดารุมะ" ตั้งอยู่ในเมืองทาคาซากิ จังหวัดกุนมะ ประเทศญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว ว่ากันว่าเมื่อ 200 ปีก่อนเกิดความอดอยากครั้งใหญ่ในพื้นที่ ท่านเจ้าอาวาสจึงได้สร้างดารุมะเพื่อขอพรให้ประชาชนปลอดภัย และกลายเป็นต้นกำเนิดของดารุมะในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรให้บ้านปลอดภัยและธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ที่ท้องของดารุมะเขียนคำว่า "โชคดี" ด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ จึงได้รับการตั้งชื่อว่า "ดารุมะแห่งความโชคดี" ภายในวัดมีดารุมะอยู่มากมาย และผู้ที่ต้องการขอพรเพื่อความโชคดีสามารถซื้อดารุมะน่ารักๆ แบบต่างๆ ได้ที่นี่ หรือจะนัดหมายทำพิธีที่วัดเพื่อให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงได้เร็วขึ้นก็ได้!

วัดดารุมาจิ
・ที่อยู่ : 296 Hanadakamachi, Takasaki, Gunma
・เวลาทำการ : 9:00~17:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดกุนมะ" วัดมิตสึซาวะเดะระ

"วัดมิตสึซาวะเดะระ" หรือ วัดมิตสึซาวะคันนน ตั้งอยู่ในเมืองชิบุคาวะ จังหวัดกุนมะ ว่ากันว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน โดยก่อตั้งและตั้งชื่อตามคำสั่งของจักรพรรดิซุยโกะ ที่นี่เป็นหนึ่งใน 33 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปปั้น "เจ้าแม่กวนอิมสิบเอ็ดเศียร พันกร" ประดิษฐานอยู่ เชื่อกันว่าสามารถขจัดความยากลำบากเจ็ดประการและนำพรเจ็ดประการมาให้ อีกทั้งยังเป็นเทพเจ้าที่ปกป้องคุ้มครองผู้หญิงและเด็ก บริเวณวัดประกอบด้วยห้องโถงหกเหลี่ยม รกคาคุโด ที่อยู่ติดกับห้องโถงหลัก เป็นอาคารตัวแทนของความเชื่อทางศาสนาในญี่ปุ่น เจดีย์ประดิษฐานรูปปั้นของจิโซผู้พิทักษ์แห่งดินแดนทั้งหก (นรก, วิญญาณ, สัตว์, มนุษย์, มนุษย์ครึ่งเทพ และสวรรค์) และแทนวงล้อแห่งชีวิตของชาวพุทธ รูปปั้นเหล่านี้ตั้งอยู่บนแท่นหมุน เชื่อกันว่าการหมุนวงล้อสามครั้งทวนเข็มนาฬิกาจะทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริง นอกจากนี้ มิตสึซาวะยังมี "มิตสึซาวะอุด้ง" ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอุด้งชื่อดังของญี่ปุ่น ทำจากข้าวสาลีคุณภาพสูงที่ผลิตในกุนมะและน้ำบริสุทธิ์จากภูเขามิตสึซาวะในท้องถิ่น หากมีโอกาสเราขอบอกเลยว่าคุณต้องไปลองชิมดูสักชาม

มีร้านค้ามากมายที่ขาย "มิตสึซาวะอุด้ง" อยู่รอบๆ บริเวณวัด

วัดมิตสึซาวะเดะระ (มิตสึซาวะคันนน)
・ที่อยู่ : 214 Ikahomachi Mizusawa, Shibukawa, Gunma
・เวลาทำการ : 8:00~17:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดโทจิกิ" ศาลเจ้าโอซากิ

"ศาลเจ้าโอซากิ" ตั้งอยู่ในจังหวัดโทจิกิ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ "เอบิสึ" หนึ่งในเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7 ของญี่ปุ่น นอกเหนือจากการมาสวดมนต์ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ศาลเจ้านี้ยังขึ้นชื่อด้านการขอโชคลาภในท้องถิ่นอีกด้วย เชื่อกันว่าศาลเจ้าโอซากิมีประวัติยาวนานถึง 1,500 ปี มีงานแกะสลักหลากสีสันและเป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดเกี่ยวกับศาลเจ้าแห่งนี้คือรูปปั้น "เอบิสึ" ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 20 เมตร เพียงแค่ปลาทรายแดงที่รูปปั้นนั้นถืออยู่ก็มีความยาว 5 เมตรแล้ว จึงเป็นรูปปั้นที่ดูทรงพลังมากๆ!

"รูปปั้นเอบิสึ" ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : ศาลเจ้าโอซากิ

แหล่งที่มาของภาพ : วิกิพีเดีย

ศาลเจ้าโอซากิ
・ที่อยู่ : 937 Higashigo, Moka, Tochigi
・เวลาทำการ : 8:30~17:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดโทจิกิ" ศาลเจ้าโทริโนะโกะซันโช

"ศาลเจ้าโทริโนะโกะซันโช" ตั้งอยู่ที่ทางแยกระหว่างจังหวัดโทจิกิและจังหวัดอิบารากิ ศาลเจ้าแห่งนี้ถือเป็นจุดสูงสุดทางจิตวิญญาณในดวงใจของคนในท้องถิ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของจังหวัดโทจิกิและจังหวัดอิบารากิ ศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้านกที่รู้จักกันในชื่อ อามาโนะฮิ วาชิโนะมิโคโตะ และผู้ส่งสารของศาลเจ้าคือ "นกฮูก" คำว่า "นกฮูก (ฟุคุโร)" ในภาษาญี่ปุ่นพ้องเสียงกับคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "ไม่ทำงานหนัก" ซึ่งหมายถึงการขจัดความความทุกข์ยาก ดังนั้นคนในท้องถิ่นจึงเชื่อว่านกฮูกสามารถนำความสุขมาสู่ทุกคนได้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีรูปปั้นนกฮูกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงรูปปั้นนกฮูกขนาดใหญ่และเล็กอีกมากมาย ซึ่งเชื่อกันว่าช่วยนำความมั่งคั่งและโชคลาภมาให้!

รูปปั้นนกฮูกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : ศาลเจ้าโทริโนะโกะซันโช

ประตูโทริอิที่ตั้งอยู่ชายแดนจังหวัด จังหวัดโทจิกิอยู่ทางซ้าย และจังหวัดอิบารากิอยู่ทางขวา ที่มาของภาพ : ศาลเจ้าโทริโนะโกะซันโช

ศาลเจ้าโทริโนะโกะซันโช
・ที่อยู่ : 1948 Yamata, Nakagawa, Nasu-gun, Tochigi
・เวลาทำกา : 9:00~16:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดโทจิกิ" วัดโอยาจิ

"วัดโอยาจิ" เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหินที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น "รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันกร" ซึ่งว่ากันว่าเป็นผลงานของนักปราชญ์ที่นับถือศาสนาพุทธชาวญี่ปุ่น "คูไค ไดชิ" ในสมัยเฮอัน พระพุทธรูปหินถูกแกะสลักโดยตรงบนหินแล้วเคลือบด้วยชาดแล้วปิดด้วยกระดาษสีทองอย่างระมัดระวังและยังคงหลงเหลือสีทองจางๆ อยู่ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาล่าสุดพบว่าพระพุทธรูปหินถูกแกะสลักโดยพระภิกษุชาวอัฟกานิสถาน และยังถือเป็นศิลปะเส้นทางสายไหมของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระพุทธรูปที่แตกต่างกัน 9 องค์ในห้องโถงด้านข้าง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ตัวแทนของศิลปะพระพุทธรูปหินของญี่ปุ่นและครองตำแหน่งสำคัญในประวัติศาสตร์ศิลปะ นอกจากนี้ยังมี "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะ" อันโด่งดัง ซึ่งอยู่ห่างจากวัด โดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที ปัจจุบันมีบันทึกทางวัฒนธรรมการทำเหมืองหินในท้องถิ่นจำนวนมากได้รับการเก็บรักษาไว้ภายใน และเหมืองหินแห่งนี้ยังเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยี่ยมชม

ภาพหลักของวัดโอยาจิคือเจ้าแม่กวนอิมพันกร ที่มาของภาพ : วัดโอยาจิ

ที่มาของภาพ : Oya Temple (Oya Kannon)

วัดโอยาจิ
・ที่อยู่ : 1198 Oyamachi, Utsunomiya, Tochigi
・เวลาทำการ : 9:00~16:00
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

"จังหวัดโทจิกิ" ศาลเจ้าโอริฮิเมะ

"ศาลเจ้าโอริฮิเมะ" ตั้งอยู่ในเมืองอาดาจิ จังหวัดโทจิกิ อุตสาหกรรมการทอผ้าในท้องถิ่นได้รับการพัฒนาค่อนข้างมากมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี ย้อนกลับไปในปี 1705 ทาดาโยชิ โทดะ ผู้ปกครองแคว้นอาชิคางะในขณะนั้นได้เริ่มบูชาเทพเจ้าที่ดูแลการทอผ้า "อามาโนะ มิโฮะ โนะมิโคโตะ" และ "ทาคุฮาตะ จิจิฮิเมะ โนะมิโคโตะ" ศาลเจ้าโอริฮิเมะที่ปกปักษ์โดยเทพเจ้าทั้งสององค์นี้ ยังเป็นศาลเจ้าแห่งความผูกพันที่มีชื่อเสียง เพื่อปกป้องการพัฒนาของอุตสาหกรรม จึงได้จัดตั้ง "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับคู่รัก" ภายในอาณาเขตนี้ และได้สร้างประตูโทริอิเจ็ดสีที่แตกต่างกันตามบันไดหิน 229 ขั้น แต่ละครั้งที่คุณผ่านประตูโทริอิ คนแห่งโชคชะตาของคุณอาจรอคุณอยู่ที่ประตูโทริอิบานถัดไปก็ได้!

ศาลเจ้าโอริฮิเมะมีประตูโทริอิหลากสีสัน และแต่ละสีสื่อถึงความหมายที่แตกต่างกัน

Orihime-jinja Shrine
・ที่อยู่ : 3889 Nishinomiyacho, Ashikaga, Tochigi
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

หลังจากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับศาลเจ้าและวัดพุทธที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหล่านี้แล้ว มีวัดไหนที่คุณอยากลองไปสักการะขอพรบ้างหรือยัง ? ถ้ามีแล้ว มาญี่ปุ่นอย่าให้พลาดโอกาสมามูล่ะ