แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวโตเกียว โปรแกรมตอนกลางวันคือการชอปปิ้งและเยี่ยมชมสถานที่ไฮไลต์ต่าง ๆ แต่พอดึกแล้วจะไปไหนดีล่ะ? "JapaiJAPAN" เลยอยากจะมาแนะนำ "Tokyo Tower Foot Town" ที่ประกอบด้วย "Tokyo Tower" ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สุดของโตเกียวและ "Red° Tokyo Tower" ที่เป็นสวนสนุกไฮเทคแห่งใหม่ในโตเกียว และทั้งสองแห่งต่างมีเสน่ห์ของความเป็นญี่ปุ่นที่แตกต่างกัน มาดูกันดีกว่าว่าทั้งสองที่นี้มีอะไรน่าสนใจที่ทำให้ค่ำคืนในโตเกียวของคุณไม่น่าเบื่อบ้าง ?

Tokyo Tower: แลนด์มาร์กโรแมนติกอันดับ 1 ของโตเกียว

แม้ว่าโตเกียวจะมีการพัฒนาและสร้างอาคารใหม่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และมี "Tokyo Skytree" เป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับสองของโลก แต่ในหัวใจของใครหลาย ๆ คน โตเกียวทาวเวอร์ก็ยังคงเป็นสถานที่สําคัญที่สุดของเมืองโตเกียว โตเกียวทาวเวอร์ถูกสร้างขึ้นในสมัยโชวะ ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ณ ตอนนั้นโตเกียวทาวเวอร์ไม่เพียงแต่เป็นหอวิทยุแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น แต่ยังเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกแซงหน้าหอไอเฟลของประเทศฝรั่งเศส นับว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาวญี่ปุ่น

โตเกียวทาวเวอร์นั้นจะแตกต่างกันไปในช่วงกลางวันและกลางคืน เนื่องจากตัวหอคอยที่มีสีส้มเป็นหลัก เมื่อเปิดไฟในตอนกลางคืน ตัวหอคอยจะฉายแสงโทนอุ่น เป็นภาพที่โรแมนติกอย่างมาก และที่ประเทศญี่ปุ่นยังมีตำนานเล่าขานว่า "ถ้าคู่รักสามารถเห็นไฟหอคอยที่ปิดลงพร้อมกันตอนเที่ยงคืนตรง จะได้เป็นคู่ที่รักกันยืนยาวและมีความสุข" ดังนั้นยิ่งเข้าใกล้เที่ยงคืนมากเท่าไหร่ คู่รักย่านโตเกียวทาวเวอร์ก็ยิ่งมารวมตัวกันเยอะเท่านั้น หากตอนนี้คุณมีคนสำคัญที่กำลังคบหาดูใจกัน อย่าลืมพาเขามาร่วมเป็นหนึ่งในตำนานเรื่องเล่านี้กันนะ
สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับโตเกียวทาวเวอร์ 1: จุดชมวิวสองแห่งที่มีความสูงแตกต่างกัน

จุดชมวิว Main Deck ที่จัดนิทรรศการฉายภาพศิลปะทางหน้าต่างกระจก
ที่มาของภาพ: 株式会社ネイキッド

Top Deck ที่ตกแต่งด้วยกระจกทรงเรขาคณิต ซึ่งเป็นพื้นที่สุดมหัศจรรย์ยามค่ำคืน
ที่มาของภาพ: 株式会社ネイキッド
จุดชมวิวของโตเกียวทาวเวอร์แบ่งออกเป็น "Main Deck" ที่สูง 150 เมตรและ "Top Deck" ที่สูง 250 เมตร สำหรับผู้ที่กลัวความสูงแต่ยังอยากชมวิวยามค่ำคืนของโตเกียวควรเลือกจุดชมวิว "Main Deck" สั่งกาแฟสักแก้วจากคาเฟ่ เดินชมแกลเลอรี พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองโตเกียวไปด้วยกัน แต่สำหรับผู้ที่ต้องการวิวเมืองโตเกียวแบบสมบูรณ์ ต้องเลือกแพ็กเกจ Top Deck Tour ที่สามารถขึ้นถึงจุดชมวิว "Top Deck" แถมยังมีบริการบรรยายพิเศษ เครื่องดื่มต้อนรับ และการถ่ายภาพด้วยนะ!
สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับโตเกียวทาวเวอร์ 2: ธีมการจัดไปที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล

ธีมฤดูร้อน
ที่มาของภาพ: Photo-ac
การจัดไฟของโตเกียวทาวเวอร์โดยปกติแบ่งออกเป็นสองประเภทคือธีม "ฤดูร้อน" ที่จัดไฟสีขาวเป็นหลักและธีม "ฤดูหนาว" ที่จัดไฟสีส้มเป็นหลัก ดังนั้นหากมาโตเกียวทาวเวอร์ในฤดูกาลที่แตกต่างกัน วิวทิวทัศน์ที่ได้รับชมก็จะแตกต่างกันไปด้วยนะ
สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับโตเกียวทาวเวอร์ 3: ศาลเจ้าที่สูงที่สุดในโตเกียวและหอคอยบนพื้นดิน

ที่มาของภาพ: 株式会社主婦の友社
รู้ไหม? ภายในโตเกียวทาวเวอร์มี "Tower Dai Shrine" ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่อยู่สูงที่สุดใน 23 เขตของโตเกียว ศาลเจ้านี้บูชาเทพเจ้าที่นับถือโดยราชวงศ์ญี่ปุ่นอย่าง "Amaterasu" และได้ข่าวว่าเป็นศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ด้านวิชาการและความรักมาก หลังจากสักการบูชาสามารถขอตราประทับโกะชุอิน และแขวนแผ่นป้ายขอพรเอมะที่เป็นรูปหัวใจและรูปโตเกียวทาวเวอร์ เชื่อว่าสิ่งที่ขอไปต้องสมดั่งปรารถนาโดยเร็วแน่ๆ

ยังมีวิวพิเศษอีกอย่างที่สามารถมองเห็นได้เมื่อมองจากโตเกียวทาวเวอร์ในตอนกลางคืน ซึ่งก็คือวิวถนนหลายสายที่ให้ความรู้สึกเหมือนหอคอย ดังนั้นจึงได้ชื่อว่า "โตเกียวทาวเวอร์บนพื้นดิน" การได้มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์จากบนโตเกียวทาวเวอร์นับเป็นภาพที่วิเศษสุด ๆ!
ข้อมูลตั๋ว Tokyo Tower
ราคาตั๋ว | Main Deck (150 เมตร) เปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00-22:30 |
Top Deck Tour (150 และ 250 เมตร) เปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00-22:15 |
ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นมัธยมปลายขึ้นไป) | 1,200 เยน | 2,800 เยน (จองล่วงหน้าทางออนไลน์) 3,000 เยน (ซื้อธรรมดา) |
นักเรียนชั้นมัธยมปลาย | 1,000 เยน | 2,600 เยน (จองล่วงหน้าทางออนไลน์) 2,800 เยน (ซื้อธรรมดา) |
เด็ก | 700 เยน | 1,800 เยน (จองล่วงหน้าทางออนไลน์) 2,000 เยน (ซื้อธรรมดา) |
เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 4 ขวบ) | 500 เยน | 1,200 เยน (จองล่วงหน้าทางออนไลน์) 1,400 เยน (ซื้อธรรมดา) |
ช่องทางการจองออนไลน์ | จองตั๋วออนไลน์ Main Deck | จองตั๋วออนไลน์ Top Deck Tour |
"Red° Tokyo Tower": สวนสนุกไฮเทคที่ซื้อตั๋วเข้าได้ไม่จํากัดครั้ง

จะก่อนหรือหลังขึ้นชมวิวยามค่ำคืนที่โตเกียวทาวเวอร์ สิ่งหนึ่งที่เราขอแนะนำว่าอย่าพลาดก็คือ "Red° Tokyo Tower" ที่ตั้งอยู่ใต้หอคอย! "Red° Tokyo Tower" เป็นสวนสนุกไฮเทคที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุคใหม่ของประเทศญี่ปุ่น อย่าง อนิเมะ, วิดีโอเกมและ VR เข้าด้วยกัน ที่สำคัญคือซื้อตั๋วแค่หนึ่งใบสามารถใช้บริการภายในได้ทั้งหมด (เครื่องเล่น VR ชั้นหนึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) อีกทั้งยังสามารถเข้าสวนสนุกได้ไม่จำกัดครั้ง โดยสามารถเข้าไปสวนสนุกก่อน จากนั้นสามารถออกจากสวนสนุกเพื่อไปรับประทานอาหาร แล้วกลับเข้าสวนสนุกอีกครั้งก็ยังได้!
"Red° Tokyo Tower" เป็นอาคาร 4 ชั้น และมีเครื่องเล่นที่หลากหลาย ตั้งแต่บอร์ดเกม, วิดีโอเกมปกติ ไปจนถึงเกมแนว Shooting, เกมปีนผา, เกมเอาชีวิตรอดที่ต้องขยับร่างกายและออกกำลังกาย เนื่องจากสวนสนุกแห่งนี้เป็นธีมเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดังนั้นเครื่องเล่นต่าง ๆ จึงมีการผสมผสานเทคโนโลยี AR และ VR ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของวัยรุ่นอย่างมาก แต่ภายในสวนก็มีตู้เกมคอนโซลอย่าง Contra และ Pokemon ที่วัยผู้ใหญ่หลงรักอยู่ด้วย สรุปแล้ว ที่นี่จึงเป็นสวนสนุกสำหรับคนทุกเพศทุกวัน ไม่ว่าใครจะมาก็ต้องสนุกสนานอย่างแน่นอน
สิ่งแนะนำของ "Red° Tokyo Tower" 1: กิจกรรมสุดไฮเทคประมาณ 20 ชนิด
เกมที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ได้มีแค่เพียงเกมที่เล่นหน้าทีวีหรือคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังมีเกมกีฬาเพื่อสุขภาพอีกด้วย! ที่ "Attraction Zone" ที่อยู่บนชั้น 4 มีกิจกรรมการแข่งขัน 18 ชนิด เช่น เกมแข่งกระโดดเชือก, เกมล่าผึ้ง, เกมปีนผา, เกมแข่งจักรยาน และเกมควบคุมโดรน โดยทั้งหมดนี้ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยี AR นอกจากนี้ "Inspiration Zone" ที่อยู่บนชั้น 3 ยังมีเกม VR สุดเจ๋งที่คุณจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้นในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดผ่านโลก VR ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะนิยมพาลูกมาเล่น แต่สุดท้ายผู้ใหญ่และเด็กต่างก็สนุกสนานไปพร้อมกัน
สิ่งแนะนำของ "Red° Tokyo Tower" 2: สัมผัสเสน่ห์ e-sports ที่ผสมผสานกับโลกเสมือนจริง
"Ultimate Zone" ที่อยู่บนชั้น 5 ได้ติดตั้งเครื่องจำลองการแข่งรถระดับสูงที่ให้ผู้เล่นสัมผัสถึงความตื่นเต้นของการแข่งรถในสนามในโซนการแข่งรถอิเล็กทรอนิกส์เสมือนจริงที่ชื่อว่า "Red° E-Motor" ถึงแม้ว่าผู้เล่นจะขับรถไม่เป็นหรือไม่สามารถขับรถได้เนื่องจากปัญหาทางร่างกาย ก็สามารถสานฝันการเป็นนักแข่งรถจากเครื่องเล่นนี้ได้ ถ้าได้ลองเล่นดูสักครั้งรับรองว่าติดใจแน่นอน! และภายในชั้นเดียวกันยังมี "Red° Arena" ที่เป็นห้องอีสปอร์ตที่ติดตั้งคอมพิวเตอร์ท็อปสเปค 32 เครื่อง ที่จะมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่เกมเมอร์ทุกคน!
สิ่งแนะนำของ "Red° Tokyo Tower" 3: สินค้าอะนิเมะและอาหารรสเลิศ
Red° Tokyo Tower จะมีการคอลแลบกับเกมยอดนิยมและตัวละครอนิเมะเป็นบางครั้งบางคราว เช่น "Final Fantasy", "The Quintessential Quintuplets" และ "Persona" อันโด่งดัง จึงมีสินค้าน่าสะสมมากมายรอให้คุณได้มาละลายทรัพย์ นอกจากนี้ที่โรงอาหารชั้นหนึ่งยังมีคาเฟ่ที่มีการคอลแลบกับอนิเมะเรื่องโปรดของคุณมากมาย แฟนคลับไม่ควรพลาดเด็ดขาด หากเริ่มหิว ที่โรงอาหารก็พร้อมเสิร์ฟเมนูต่าง ๆ เช่น หมูย่างขิง, เครื่องในเนื้อตุ๋น, เบนโตะสาหร่าย, ราเมน, ข้าวแกงกะหรี่, อาหารสําหรับเด็ก และบาร์ "Red° Stand" ที่อยู่ชั้น 5 ยังมีของว่างและเครื่องดื่มอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียเวลาออกไปหาร้านอาหารข้างนอก สามารถอยู่ที่นี่เพื่อเล่นสนุกได้ทั้งวันเลย!
ข้อมูลตั๋ว Red° Tokyo Tower
ประเภท/ราคาตั๋ว | ธรรมดา | นักเรียนชั้นมัธยมปลาย | นักเรียนชั้นมัธยมต้นและประถมศึกษา |
Red° Passport (เวลาใช้บริการ: 10:00-22:00) |
สมาชิก 2,500-4,200 เยน ไม่ใช่สมาชิก 3,000-4,700 เยน |
สมาชิก 1,900-3,400 เยน ไม่ใช่สมาชิก 2,400-3,900 เยน |
สมาชิก 1,000-2,000 เยน ไม่ใช่สมาชิก 1,500-2,500 เยน |
Night Passport (เวลาใช้บริการ: 17:00-22:00) |
สมาชิก 1,500-3,200 เยน ไม่ใช่สมาชิก 2,000-3,700 เยน |
สมาชิก 1,000-2,500 เยน ไม่ใช่สมาชิก 1,500-3,000 เยน |
สมาชิก 600-1,600 เยน ไม่ใช่สมาชิก: 1,100-2,000 เยน |
ตั๋ว 1 ชั่วโมง (เวลาใช้บริการ 19:00 เป็นต้นไป) |
1,300 เยน | 1,000 เยน | 600 เยน |
*ราคาตั๋วขึ้นอยู่กับสถานการณ์ รายละเอียดยึดตามประกาศ
*เวลาเปิดให้บริการและเวลาเข้าสวนรอบสุดท้ายขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ติดตามรายละเอียดเวลาเปิดให้บริการล่าสุดที่นี่
*ค่าล่วงเวลา 200 เยนต่อ 10 นาที
แพ็กเกจตั๋ว RED°+ Tokyo Tower
ปัจจุบัน Tokyo Tower Foot Town ได้นำเสนอแพ็กเกจส่วนลดที่รวมตั๋วรายวันสําหรับ Red° Tokyo Tower และตั๋วจุดชมวิว Main Deck ของ Tokyo Tower ซึ่งคุ้มค่ากว่าการซื้อแยกแน่นอน!
ประเภท/ราคาตั๋ว | ธรรมดา | นักเรียนชั้นมัธยมปลาย | นักเรียนชั้นมัธยมต้นและประถมศึกษา |
- | 5,000 เยน | 4,000 เยน | 2,350 เยน |
รวมจุดเช็คอินกลางคืนที่ Tokyo Tower Foot Town แลนด์มาร์กใจกลางโตเกียว พร้อมแนะนำไฮไลต์สำคัญทั้งโตเกียวทาวเวอร์และ Red° Tokyo Tower สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ห้ามพลาด พร้อมกิจกรรมและจุดถ่ายรูปสวยๆ ครบจบในที่เดียว