มาเที่ยวโตเกียวทั้งที ถ้ามีเวลาเหลือ เราอยากให้คุณได้ลองไปสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ ย่านชอปปิ้งประจำเมืองต่างๆ ซึ่งในบทความนี้ เราขอแนะนำย่านเมกุโระ เพราะที่ย่านนี้เขามี 「Musashi Koyama PALM」 ที่ถือเป็น ย่านชอปปิ้งที่ดีที่สุดในเอเชีย ด้วยความยาวกว่า 800 เมตร มีหลังคาตลอดทาง จึงไม่ต้องกังวลทั้งแดดจัด ลมแรง หรือฝนตก ว่าแล้วก็ตาม "Japai Japan" มารู้จักกับย่านการค้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคเพื่อสัมผัสกับเสน่ห์ของญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยกันเลย
ย่านช้อปปิ้งที่แนะนำในโตเกียว::「Musashi Koyama PALM」
"Musashi Koyama Palm" และ "Togoshi Ginza" เป็นย่านช้อปปิ้งที่เป็นตัวแทนของโตเกียว และอยู่ห่างจากกันโดยใช้เวลาเดินเพียง 15 นาที "Musashi Koyama PALM" ก่อตั้งขึ้นในยุคโชวะ 31 (ค.ศ. 1956) เป็นย่านช้อปปิ้งสไตล์อาร์เคดขนาดใหญ่แห่งแรกของญี่ปุ่น โดยมีความยาว 470 เมตร และได้มีการขยายพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีความยาว 800 เมตรในปัจจุบัน ถือว่าเป็นถนนช้อปปิ้งสไตล์อาร์เคดที่ยาวที่สุดในโตเกียว
ทางเข้าถนนช้อปปิ้งจะมีทางแยกซ้ายขวาเป็นถนนสายหลัก PALM 1 ถึง 4 มีร้านอาหาร ร้านขายของเบ็ดเตล็ด และร้านเสื้อผ้าประมาณ 250 แห่ง ทางด้านขวามือคือ PALM G ซึ่งห่างออกไปเพียง 100 เมตร ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร ร้านซักรีด และคลินิก
แม้ว่าจะเป็นถนนช้อปปิ้งที่สร้างขึ้นในสมัยโชวะ แต่ร้านกาแฟทันสมัยหลายแห่งได้ย้ายเข้ามาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศย้อนยุคและอินเทรนด์ในเวลาเดียวกัน
การเดินทางไปยัง "Musashi Koyama PALM"
"Musashi Koyama PALM" ตั้งอยู่ที่สี่แยกเขต Shinagawa และ Meguro มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย ใช้รถไฟ Tokyu Electric Railway สาย Meguro แล้วลงที่สถานี "Musashi Koyama" หรือขึ้นสาย Tokyu Ikegami ไปยัง "Togoshi Ginza" จากสถานีเดินประมาณ 12 นาทีจะถึงถนนช้อปปิ้ง ขอแนะนำให้ใช้ "Tokyu Line One-Day Pass" เพื่อจะได้ใช้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ บนสาย Tokyu อย่างคุ้มค่า
แนะนำอาหารที่ควรทานที่「Musashi Koyama PALM」
โทริยู: ยากิโทริยุคโชวะ อร่อย ราคาไม่แรง
ร้านอาหารแบบยืนรับประทานมีอยู่ทั่วไปตามท้องถนนในญี่ปุ่น นอกเหนือจากร้านราเมงแล้ว ร้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือไก่เสียบไม้ "โทริยู" ร้านที่เชี่ยวชาญในด้านไก่เสียบไม้ มีทั้งหมด 3 แห่งในถนนสายนี้ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่ง ร้านโทริยู ก่อตั้งในปีแรกของสมัยโชวะ (ค.ศ. 1926) และครองใจคนในท้องถิ่นด้วยราคาที่เอื้อมถึงและรสชาติอาหารที่อร่อยมาเกือบร้อยปี
แม้ว่าจะเป็นร้านเก่าแก่ที่มีอายุเกือบร้อยปี แต่ร้านก็สว่างและสะอาดสะอ้านมาก กองเนื้อเสียบไม้ที่วางเรียงรายอยู่เต็มเคาน์เตอร์ก็แสนจะมีเสน่ห์ วิธีการรับประทานของที่นี่คือยืนกิน โดยเชฟจะวางไก่ย่างเสียบไม้บนตะแกรงย่างขนาดใหญ่ ด้านหนึ่งไม่มีเกลือ อีกด้านหนึ่งไม่มีซอส และมีซอสอยู่ตรงกลาง หากคุณต้องการลิ้มรสซอส คุณสามารถจุ่มไก่เสียบไม้ลงไปในซอสด้วยตัวเองได้ แต่เพื่อสุขอนามัยที่ดี จะสามารถจุ่มได้เพียงครั้งเดียวและไม่สามารถจุ่มซ้ำได้ เมื่อรับประทานเสร็จแล้ววางไม้ลงบนโต๊ะโดยตรง เพื่อให้เชฟนับจำนวนไม้ที่ทานไปเพื่อชำระเงิน
ยากิโทริ (ไก่ย่าง) ของร้านโทริยูมีกลิ่นหอมของเตาถ่าน นอกเหนือจากส่วนเนื้อไก่แล้ว ยังมีเมนูเครื่องในอีกมากมาย รวมถึงปลาไหลย่างด้วย ทุกอย่างมีราคาเพียงไม้ละ 180 เยน และแน่นอนว่าคงจะฟินไม่น้อยหากได้กินคู่กับเบียร์เย็นๆ นอกจากเบียร์ก็ยังมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย เรียกว่าเป็นสถานที่สังสรรค์ชั้นเยี่ยมของเหล่าพนักงานออฟฟิศที่มารวมตัวกันหลังเลิกงาน
ร้าน โทริยู
・ที่ตั้ง:3-24-7 Oyama, Shinagawa-ku, Tokyo
・เวลาทำการ:11:30~19:30
ความอร่อยที่ซ่อนอยู่ในร้านชุดนักเรียน:ไอศกรีมโฮมเมด TAKEYA
ความร่วมมือข้ามร้านค้าและพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรมเป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น แต่ใครจะคิดล่ะว่าร้านขายชุดนักเรียนและไอศกรีมจะมารวมตัวกันได้! ร้าน TAKEYA เป็นร้านเก่าแก่ในท้องถิ่นที่ดำเนินกิจการมากว่า 80 ปี โดยมุมทางเข้าร้านมีร้านไอศกรีมอยู่ โดยไอเดียนี้มาจากคุณมิโดริ เจ้าของร้านผู้ชื่นชอบของหวาน และร้านไอศกรีมนี้ก็เปิดกิจการมากว่า 25 ปีแล้ว
ไอศกรีมของ TAKEYA เป็นผลิตภัณฑ์โฮมเมดโดยใช้นมสดและผลไม้ตามฤดูกาล คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อไอศกรีมรสผลไม้ได้ นอกจากรสผลไม้แล้ว รสที่เป็นที่นิยมของร้านอีกอย่างก็คือรสโยเกิร์ต หากโชคดีบางครั้งจะมีรสชาติพิเศษเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น ไวน์พลัม และสมุนไพรที่ชื่ออ้ายเยี่ย(Artemisia argyi) เนื่องจากเป็นไอศกรีมที่ไม่มีสารปรุงแต่ง จึงมีรสชาติเบากว่าไอศกรีมที่จำหน่ายทั่วไป คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความหวานตามธรรมชาติของผลไม้ และดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน
Takeya Desert Inn
・ที่ตั้ง:3-3-20 Ebara, Shinagawa-ku
・เวลาทำการ:13:00~18:00 (ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร)
・Official website
ขนมญี่ปุ่นโบราณอันน่าลิ้มลอง : Torori Tenshi no Warabi Mochi
「Torori Tenshi no Warabi Mochi」เป็นร้านขายวาราบิโมจิโดยเฉพาะที่มีต้นกำเนิดในโอซาก้า ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 140 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่ในโตเกียวมีแค่ 8 สาขาเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือสาขาที่ย่านชอปปิ้งแห่งนี้! วาราบิโมจิเป็นขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีลักษณะเป็นก้อนใส โดยปกติจะเคลือบด้วยแป้งถั่วเหลืองและกากน้ำตาลสีดำ เมื่อกินเข้าไปจะนุ่มละมุนและละลายในปาก เป็นของว่างที่เหมาะสำหรับฤดูร้อน
วาราบิโมจิของร้าน Torori Tenshi no Warabi Mochi เป็นสิ่งที่ทางร้านภาพภูมิใจ ปัจจุบันมีรสชา น้ำตาลดำ และสตรอเบอร์รี่ที่จะจำหน่ายเฉพาะร้านสาขา Musashi Koyama เท่านั้น นอกจากวาราบิโมจิแล้ว คุณยังสามารถเลือกเครื่องดื่มโซดาหลากสีสันและน้ำแข็งไสที่ทำจากน้ำแร่ธรรมชาติได้อีกด้วย ส่วนการตกแต่งร้านก็น่ารักจนอดไม่ได้ที่จะเช็กอินและถ่ายรูปสวยๆ เรียกได้ว่าห้ามพลาดเลยทีเดียว
Torori Tenshi no Warabi Mochi
・ที่ตั้ง:3-5-14 Ebara, Shinagawa-ku, Tokyo
・เวลาทำการ:10:00~22:00
・Official website
ร้านเบเกอรี่ชื่อดังจากโอซาก้า สาขาแรกในเขตคันโต:LeBRESSO
"LeBRESSO" เป็นร้านขนมปังปิ้งยอดฮิตจากโอซาก้า ชื่อของร้านมาจากการรวมคำสามคำเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ : LEB (หัวใจ), BREAD (ขนมปัง) และ ESPRESSO (เอสเปรสโซ) อันเกิดมาจากความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความสุขในแต่ละวันสู่ใจของทุกคนผ่านขนมปังและกาแฟอันหอมกรุ่น ไวท์โทสต์อันเป็นซิกเนเจอร์ของร้านมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยเนื้อสัมผัสที่เคี้ยวหนึบเหมือนข้าวขาวหุงใหม่ๆ มีรสหวานที่พอเหมาะพอดี ไม่มีการใช้ไข่หรือสารกันบูดในกระบวนการผลิต ดังนั้นคนที่เป็นมังสวิรัติจึงสามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ
สำหรับภายในร้าน สามารถปิ้งขนมปังรสเค็มและหวานได้ถึง 16 ชนิด เหมาะสำหรับทานเป็นมื้ออาหารหรือของหวานยามบ่าย ซอสโยเกิร์ตกับขนมปังปิ้งรสแอปเปิ้ลน้ำผึ้งมะนาวที่มีรสชาติเหมือนพายแอปเปิ้ล ด้านข้างของขนมปังอบกรอบมากเหมือนกับเปลือกพายแอปเปิ้ล ผิวของเนื้อแอปเปิ้ลถูกเคลือบด้วยคาราเมลแล้วนำไปปิ้ง ทำให้มีเนื้อสัมผัสไหม้เกรียมพอเหมาะ หากคุณอยากทานรสชาติแสนอร่อยนี้ที่บ้าน เราขอแนะนำให้ซื้อแยมที่ทำเองจากร้านกลับบ้าน โดยแยมนั้นจะใช้นมที่ผลิตในเกาะอาวาจิ เติมนมฮอกไกโด ผสมนมข้นหวาน และน้ำตาล แถมยังมีหลากหลายรสชาติ เช่น ครีมน้ำผึ้ง พิสตาชิโอ เหล้ารัม และยังมีครีมรสเค็มอีกด้วย
LeBRESSO
・ที่ตั้ง:3-24-7 Oyama, Shinagawa-ku, Tokyo
・เวลาทำการ:วันธรรมดา 10:00~19:30 น. / วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8:00~19:30 น.
・Official website
ของหวานจากเต้าหู้เพื่อสุขภาพ:Sandaime Shigezo Tofu
คุณคิดว่าเต้าหู้คงมีอยู่ไม่กี่ประเภทใช่ไหม? แต่ถ้าไปที่ร้าน Sandaime Shigezo Tofu คุณจะต้องประหลาดใจในชนิดของเต้าหู้ที่ได้เห็น และยังสามารถนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วย! ร้าน Sandaime Shigezo Tofu มีอยู่ด้วยกันหลายร้อยสาขา โดยส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคคันโต เป็นร้านที่คนรักเต้าหู้ต้องรู้จัก
แม้ว่านักท่องเที่ยวจะไม่สามารถซื้อเต้าหู้เพื่อนำกลับบ้านไปทำอาหารได้ แต่ที่ Sandaime Shigezo นั้นเต็มไปด้วยของหวานที่ทำจากเต้าหู้มากมาย รวมถึงวากาชิคุสึโมจิ, วาราบิโมจิ, ข้าวเกรียบ, ชีสเค้ก หรือขนมจากต่างประเทศ, ทีรามิสุ, เค้กเลมอน หรือแม้แต่มันฝรั่งทอดสำหรับคนกำลังลดน้ำหนักก็มีให้โดยเฉพาะ!
Sandaime Shigezo Tofu
・ที่ตั้ง:3-8-6 Ebara, Shinagawa-ku, Tokyo
・เวลาทำการ:10:00~19:00
・Official website
「Musashi Koyama PALM」แนะนำบริเวณรอบๆ
หนึ่งในสามศาลเจ้า Fudo ที่สำคัญในญี่ปุ่น:Ryusen-ji Temple (Meguro Fudoson)
วัด Ryusen-ji ก่อตั้งโดยอาจารย์จิคาคุในปีคริสตศักราช 808 และอุทิศให้กับ Fudo Myoō ปัจจุบันเป็นศาลเจ้า Fudo ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต และเป็นหนึ่งในสามศาลเจ้า Fudo ที่สำคัญในญี่ปุ่น เมื่อมองแวบแรก ทางเข้าอาจดูเหมือนเล็ก แต่เมื่อเดินเข้าไป คุณจะพบกับโลกแห่งความมหัศจรรย์ ที่จะต้องขึ้นบันไดเพื่อไปถึงห้องโถงหลัก และเดินไปรอบๆ ห้องโถงหลักไปทางด้านหลัง จะพบกับรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ของมหานิจิทาทากาตะที่มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์ในเขตเมกุโระ ถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง
ที่ข้างห้องโถงใหญ่นั้นมี รูปปั้น Aizen Myoo ที่ว่ากันว่าสามารถอวยพรให้คุณได้รับความนิยมชมชอบและการแต่งงานที่ดี หลังจากเขียนเอมะหรือป้ายคำขอแล้ว คุณจะต้องเดินไปรอบๆ รูปปั้นในทิศทางที่แตกต่างกัน โดยแบ่งแยกชายและหญิง สามารถอธิษฐานถึงความปราถนาในเรื่องการพบเจอเรื่องที่ดี หรือต้องการให้ความสัมพันธ์ในที่ทำงานของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นก็ได้ อย่าลืมลองตั้งจิตอธิษฐานกันดูล่ะ
Ryusen-ji Temple (Meguro Fudoson)
・ที่ตั้ง:3-20-26 Shimomeguro, Meguro-ku, Tokyo
・เวลาทำการ:ตลอดทั้งวัน
・Official website
โอเอซิสในเมือง: สวน Rinshi-no-mori Park
Rinshi-no-mori Parkเปิดทำการในปีเมจิที่ 33 (ค.ศ. 1900) ภายใต้ชื่อ "Meguro Experimental Nursery" โดยสำนักการจัดการป่าไม้และภาคสนามของกระทรวงเกษตรและการพาณิชย์ในขณะนั้น ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "พื้นที่ทดสอบป่าไม้" และดำเนินการโดย การบริหารป่าไม้และภาคสนาม จนกระทั่งปี 1989 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น "Metropolitan Rinshi-no-mori Park" และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม
สวนสาธารณะมีขนาดพื้นที่ขนาดใหญ่ ใช้เวลาเดินรอบๆประมาณ 45 นาทีเต็ม เนื่องจากเคยเป็นห้องทดลองด้านป่าไม้ จึงมีการปลูกต้นอ่อนและต้นไม้มากมาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ตั้งแคมป์ขนาดเล็กและพื้นที่ลานเล่นกระโดดสำหรับเด็กเล็กอีกด้วย
Rinshi-no-mori Park
・ที่ตั้ง:Shimomeguro 5-chome, Meguro, Koyamadai 2-chome, Shinagawa Ward
・เวลาทำการ:ตลอดทั้งวัน
・เว็บไซต์ทางการ
เมื่อมาโตเกียว เราอยากชวนให้คุณลองมาสัมผัสกับย่านช้อปปิ้ง แบบนี้ ที่เมื่อทานอาหารหรือชอปปิ้ง คุณจะได้รับการต้อนรับจากลุงๆ ป้าๆ อย่างอบอุ่นมากกว่าการไปชอปปิ้งในห้างสรรพสินค้าซะอีก หากอยากลองสัมผัสกับอีกมุมของโตเกียวที่ไม่เคยได้พบเจอ หรือสัมผัสกับความใจดีและอบอุ่นของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ลองมาที่「Musashi Koyama PALM」ดูสิ
การเขียนบทสัมภาษณ์:Anita 2022.8
บรรณาธิการ:aoi