โตเกียวในเดือนมิถุนายนของทุกปีจะเข้าสู่ฤดูฝน ถึงแม้ฝนจะทำให้อารมณ์หม่นหมองหรือหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ดอกไฮเดรนเยียหลากสีกลับบานสะพรั่งเฉพาะในช่วงเวลานี้ หากต้องการชมดอกไฮเดรนเยียกับตาจริงๆ และไม่อยากเดินทางไกลไปถึงคามาคุระที่ชานเมืองโตเกียว ศาลเจ้าฮาคุซังในเขตโตเกียวก็นำเสนอทะเลดอกไฮเดรนเยียที่สวยงามราวกับฝัน! มาย้อนดูเทศกาล "ดอกไฮเดรนเยียบุงเคียว" ในเดือนมิถุนายนแห่งปีกันเถอะ!

บูชาแปรงสีฟันเพื่อ "รักษาอาการปวดฟัน"! เรื่องเล่าจากศาลเจ้าฮาคุซัง
"ศาลเจ้าฮาคุซัง (白山神社/はくさんじんじゃ)" เดิมมีชื่อว่า "ฮาคุซังกนเก็นชะ" เป็นที่มาของชื่อแถบ "ฮาคุซัง" ในเขตบุงเคียว เรื่องที่น่าสนใจ คือ เทพเจ้าฮาคุซังไดเมียวจินที่ศาลเจ้าฮาคุซังบูชาอยู่นั้นได้รับการเคารพนับถือในฐานะ "เทพแห่งฟัน" เล่ากันว่าเป็นเพราะคำว่า "ฟันเหม็น (歯臭/はくさ)" กับ "ฮาคุซัง (白山/はくさん)" ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงคล้ายกัน จึงพัฒนามาเป็นศาลเจ้าท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อในด้านการบรรเทาอาการปวดฟัน ช่วงเทศกาลดอกไฮเดรนเยียในเดือนมิถุนายนของทุกปี จะมีการจัดพิธีบูชาแปรงสีฟัน (歯ブラシ供養) โดยผู้คนจะนำแปรงสีฟันเก่าของตัวเองมาถวายให้กับเทพเจ้า เพื่อขอพรให้มีสุขภาพฟันที่ดี


หากต้องการไปยังศาลเจ้าฮาคุซัง สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินหรือรถบัส โดยมีวิธีเดินทางดังนี้:
① รถไฟใต้ดินโทเอ: ลงที่สถานีฮาคุซัง สายมิตะ เดินจากสถานีประมาณ 3 นาที
② รถไฟใต้ดินโตเกียว: ลงที่สถานีฮงโคมะโกเมะ สายนัมโบคุ เดินประมาณ 5 นาที
③ รถบัส: สามารถขึ้นรถบัสโทเอสายคุซะ 63 ลงที่ป้ายฮาคุซังคะมิ เดินประมาณ 3 นาที


เทศกาลดอกไฮเดรนเยียเดือนมิถุนายน
ศาลเจ้าฮาคุซังนอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องการรักษาอาการปวดฟันแล้ว ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ภายในศาลเจ้าจะมีดอกไฮเดรนเยียกว่า 3,000 ต้นบานสะพรั่ง และยังมีการจัดเทศกาลดอกไฮเดรนเยียบุงเคียวอีกด้วย! (เวลาจัดเทศกาลในแต่ละปีอาจแตกต่างกันเล็กน้อย โปรดตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการ) ทุกครั้งที่มีเทศกาลดอกไฮเดรนเยีย มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย ทุกคนไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปถึงชานเมืองโตเกียว อย่าง คามาคุระ ก็สามารถถ่ายรูปกับดอกไฮเดรนเยียที่สวยงามได้!


เทศกาลดอกไฮเดรนเยียบุงเคียวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คึกคักมาก ภายในศาลเจ้านอกจากจะมีร้านขายอาหารแล้ว ยังมีร้านขายดอกไฮเดรนเยียอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถซื้อดอกไฮเดรนเยียกลับบ้านได้ในราคาที่คุ้มค่า! หากไม่อยากไปเบียดกับผู้คน ก็สามารถเลือกมาในวันธรรมดาได้ เพราะสามารถเก็บภาพความงามของดอกไฮเดรนเยียได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ


ดอกไฮเดรนเยียที่ "เปลี่ยนสี" ได้
ดอกไฮเดรนเยียหรือที่เรียกอีกชื่อว่า "อาจิไซ" เป็นดอกไม้ที่สีของมันจะเปลี่ยนไปตามค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน หากดินเป็นกรด ดอกจะออกเป็นสีฟ้า แต่ถ้าดินเป็นด่าง ดอกก็จะออกเป็นสีแดง เนื่องจากเหตุผลนี้ หนึ่งในความหมายของภาษาดอกไม้ของไฮเดรนเยียจึงเป็น "ผันผวน"! ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู ขาว ฟ้า หรือม่วง คุณชอบไฮเดรนเยียสีไหนมากกว่ากันล่ะ?


ตามหาดอกไฮเดรนเยียทรงหัวใจ เพื่อขอพรเรื่องความรัก!
มาตามหาดอกไฮเดรนเยียทรงหัวใจกันเถอะ! โดยทั่วไปแล้วดอกไฮเดรนเยีย (อะจิไซ) จะมีดอกเป็นทรงกลม แต่เนื่องจากน้ำหนักของตัวดอกเอง จึงอาจทำให้เกิดเป็นทรงหัวใจที่เราเห็นกันบ้างเป็นครั้งคราว ว่ากันว่าหากโชคดีได้พบดอกไฮเดรนเยียทรงหัวใจ ดวงความรักก็จะดีขึ้นด้วย! "JapaiJAPAN" ยังเคยเจอตั้งสองดอกเลย!


สวนฮาคุซังที่ห้ามพลาด!
สวนฮาคุซังที่อยู่ติดกับศาลเจ้าก็เต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่ง วันนั้นได้เห็นคู่รักหลายคู่มาเดินเล่นกันที่นี่ มีคุณแม่พาลูกๆ มาเล่นที่สวน รวมถึงพนักงานออฟฟิศที่เหนื่อยล้า หลังเลิกงานก็ยังแวะเวียนมาที่สวนฮาคุซัง เพื่อให้ดอกไฮเดรนเยียช่วยเยียวยาจิตใจ


สี่จุดเด่นที่ต้องชมของศาลเจ้าฮาคุซัง
หินจารึกของดร.ซุนยัตเซ็น
หลังจากผ่านประตูโทริอิของศาลเจ้าฮาคุซัง เมื่อเข้าไปในบริเวณศาลเจ้าทางด้านซ้ายมือ คุณจะเห็นหินจารึกที่สลักคำว่า "หินที่ดร.ซุนยัตเซ็นเคยนั่ง" ตามคำอธิบายในจารึก เล่ากันว่าในปี 1910 ดร.ซุนยัตเซ็นพักอยู่แถวศาลเจ้า ได้นั่งบนหินก้อนนี้ และสนทนากับมิยาซากิ โทเท็น เกี่ยวกับอนาคตและการปฏิวัติของจีน ขณะที่มองดาวตกผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ทำให้เขามั่นใจว่า "การปฏิวัติจะต้องประสบความสำเร็จ"


สวนดอกไฮเดรนเยีย "ฟูจิซึกะ" ที่เปิดให้เข้าชมเพียงปีละครั้ง
ภายในศาลเจ้าฮาคุซังยังมีสวนดอกไฮเดรนเยียที่ชื่อว่า "ฟูจิซึกะ" ซึ่งเปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงเทศกาลดอกไฮเดรนเยียบุงเคียวของทุกปีเท่านั้น! เมื่อเดินเข้าไปในสวน จะพบกับเนินเขาจำลองขนาดเล็กที่สร้างเลียนแบบภูเขาฟูจิตามชื่อของสวน เมื่อเดินขึ้นบันไดไป คุณจะค่อยๆ ถูกล้อมรอบด้วยดอกไฮเดรนเยียที่ปลูกเต็มสองข้างทาง เนื่องจากทางเดินค่อนข้างแคบ ในวันที่ฝนตก ขณะที่ถ่ายรูปและชื่นชมดอกไฮเดรนเยีย ก็ต้องระวังลื่นล้มด้วยล่ะ!


เครื่องรางดอกไฮเดรนเยียเวอร์ชั่นพิเศษเฉพาะเดือนมิถุนายน
ถึงแม้ว่าตราประทับโกะชูอินของศาลเจ้าฮาคุซังจะไม่มีลวดลายพิเศษของดอกไฮเดรนเยีย แต่ทางศาลเจ้าได้นำเสนอเครื่องรางดอกไฮเดรนเยียรุ่นพิเศษเฉพาะเดือนมิถุนายนแทน! โดยมีให้เลือกทั้งสีชมพู สีฟ้า และสีม่วง พวงกุญแจเล็กๆ นี้มีความสวยงามอย่างมาก เหมาะสำหรับแขวนที่กระเป๋าหรือกระเป๋าเงิน ผู้เขียนเองก็อดใจไม่ซื้อไม่ได้เหมือนกัน!


เอมะจิ๋วสุดพิเศษ "การแสวงบุญศาลเจ้า 10 แห่งในโตเกียว"
คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ "ศาลเจ้า 10 แห่งในโตเกียว" (โตเกียวจิชชะ) หรือไม่? เมื่อพูดถึงที่มาของโตเกียวจิชชะ ในสมัยก่อน พระราชวังของญี่ปุ่นยังอยู่ที่เกียวโต ศาลเจ้าที่พระจักรพรรดิส่งทูตไปเยือนจะเรียกว่า "โชคุไซชะ" และเมื่อพระจักรพรรดิเมจิย้ายมายังโตเกียว ศาลเจ้าหลายแห่งที่ตั้งอยู่รอบพระราชวังได้รับการกำหนดให้เป็น "จุนโชคุไซชะ" ปัจจุบันระบบนี้ไม่ได้ใช้อีกต่อไปแล้ว ศาลเจ้าเหล่านี้จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "โมโตะจุนโชคุไซชะ" และเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงได้เปิดตัว "การแสวงบุญศาลเจ้า 10 แห่งในโตเกียว" (โตเกียวจิชชะเมกุริ)


นอกจากศาลเจ้าฮาคุซังแล้ว "ศาลเจ้าคาเมโดะเทนจิน" ที่มีชื่อเสียงจากดอกวิสทีเรีย และ "ศาลเจ้าฮิเอะ" ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นศาลเจ้าที่ปกป้องพระราชวัง ก็อยู่ในรายชื่อศาลเจ้าทั้งสิบแห่งด้วย ใครที่สนใจสามารถใช้เวลาหนึ่งถึงสองวันในทริป เพื่อเก็บครบทั้งสิบศาลเจ้าในโตเกียวเลย!
ศาลเจ้าฮาคุซัง
・ที่อยู่:Tokyo-to, Bunkyo-ku, Hakusan 5-31-26
・การเดินทาง:ลงที่สถานี "ฮงโคมะโกเมะ" ทางรถไฟใต้ดินสายนัมโบกุของโตเกียว / ลงที่สถานี "ฮาคุซัง" ทางรถไฟใต้ดินสายมิตะ แล้วเดินประมาณ 3-5 นาที
・เวลาบริการ:เปิดตลอดวัน
・เทศกาลดอกไฮเดรนเยียปี 2023:10-18 มิถุนายน 2023
・เว็บไซต์ทางการ
มาเยือนศาลเจ้าฮาคุซังช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เพื่อชมดอกไฮเดรนเยียกว่า 3,000 ต้น พร้อมถ่ายภาพสวยๆ บนถนนประวัติศาสตร์ย่านบุงเคียว เดินทางง่ายด้วยรถไฟใต้ดินสาย Marunouchi Line สถานี Hakusan
