ดอกซากุระในสวนอุเอโนะ หมีแพนด้าในสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ และตลาดอาเมโยโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ต้องไปเยี่ยมชมในอุเอโนะ แต่รู้ไหม จริง ๆ แล้วอุเอโนะมีอะไรมากกว่านั้น! ในครั้งนี้ "Japai Japan" จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอุเอโนะแบบเจาะลึกให้คุณได้มองอุเอโนะเดิมในมุมมองใหม่ ว่าแล้วก็ตามเรามากันเลย!
วัดคันเอจิ วัดประจำตระกูลของโชกุนโทกุกาวะ
ในปีคริสตศักราช 1625 (ปีที่สองของจักรพรรดิคันเอ) รัฐบาลโชกุนโทกุกาวะได้ก่อตั้ง "วัดคันเอจิ" ขึ้นที่ที่ราบสูงอุเอโนะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาทเอโดะโดยปรมาจารย์เท็นไค เพื่อเป็นการขอพรให้ประเทศและประชากรมีสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ต่อมาวิหารแห่งจิตวิญญาณของอิเอ็ตสึนะ โทกุกาวะ โชกุนคนที่ 4 ก็ได้ถูกสร้างขึ้นและได้กลายมาเป็นวัดประจำตระกูลของโชกุน ร่างของโชกุนคนที่ 5 สึนะโยชิ, โชกุนคนที่ 8 โยชิมูเนะ, โชกุนคนที่ 10 อิเอฮารุ, โชกุนคนที่ 11 อิเอไซ, รวมถึงเท็นโจอิน อัตสึฮิเมะผู้โด่งดัง และโชกุนคนที่ 13 อิเอซาดะ เดิมถูกฝังไว้ในวัดอนุสรณ์สองแห่งในวัดคันเอจิ แต่ต่อมาก็ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในปัจจุบัน ร่างของทั้งสองถูกฝังไว้ด้วยกันในสวนอนุสรณ์สถานของวัดคันเอจิ
วัดคันเอจิเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ สวนอุเอโนะ สระน้ำชิโนบาสุ ห้องโถงคิโยมิสุ คันนน พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และสถานที่อื่นๆ ล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดคันเอจิ สงครามอุเอโนะในปี 1868 ได้ทำลายอาคารของวัดคันเอจิเกือบทั้งหมด และในช่วงต้นสมัยเมจิก็ได้ถูกดัดแปลงเป็นสวนอุเอโนะ และกลายเป็นหนึ่งในห้าสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น แม้ว่าวัดคันเอจิในปัจจุบันจะเล็กลงกว่าเดิมมาก แต่ความตระกูลโทกุกาวะและอุเอโนะก็ยังมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นต่อกันอย่างแยกไม่ออก
วัดคันเอจิ
・ที่อยู่ : 1-14-11 Ueno Sakuragi, Taito-ku, Tokyo
・เวลาเปิดทำการ : 09:00~17:00
・การเดินทาง : เดิน 10 นาทีจากสถานี JR "โอบิยะ"
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
"ศาลเจ้ายูชิมะ เท็นมังงู"สถานที่สำหรับการขอพรเรื่องการกีฬา การสอบ และการหางาน
"ศาลเจ้ายูชิมะ เท็นมังงู" หรือที่รู้จักในชื่อ "ยูชิมะ เท็นจิน" หรือ "ศาลเจ้ายูชิมะ" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีคริสตศักราช 458 เพื่อบูชาเทพเจ้า "อาเมะ โนะ ทาจิคาราโอะ" ในตำนานของญี่ปุ่น ว่ากันว่าเป็นเทพเจ้าที่มีพลังมหาศาลและได้รับการยกย่องว่าเป็น "เทพเจ้าแห่งกีฬา" ที่่ผู้คนมักมากราบไหว้เพื่อขอให้พัฒนาทักษะทางการกีฬา ในปี 1355 นักปราชญ์ราชบัณฑิตในยุคเฮอัน ซูกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ได้รับการบูชาที่นี่ตามคำร้องขอของชาวเมือง และตั้งแต่นั้นมาที่นี่ก็กลายเป็นศาลเจ้าสำหรับนักเรียนชาวญี่ปุ่นที่กำลังสอบเข้าและผู้ที่กำลังเตรียมตัวเข้าทำงานที่จะมาขอพรจากศาลเจ้ายูชิมะ เท็นมังงู
มิจิซาเนะ ซูกาวาระชอบดอกบ๊วย และเทศกาลดอกบ๊วยที่จัดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปีก็ค่อนข้างใหญ่โตและก็เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาชมดอกบ๊วยที่สุดที่หนึ่งในญี่ปุ่น เมื่อคุณมาที่ศาลเจ้ายูชิมะ เท็นมังงู อย่าลืมมาสัมผัสตัว "นาเดะอุชิ" ในส่วนที่คุณรู้สึกไม่สบายตัวเพื่อให้อาการทุเลาลงได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยเอโดะเลยทีเดียว ความเชื่อเรื่อง "นาเดะอุชิ"
ศาลเจ้ายูชิมะ เท็นมังงู (ยูชิมะ เท็นจิน หรือ ศาลเจ้ายูชิมะ)
・ที่อยู่ : 3-30-1 Yushima, Bunkyo-ku, Tokyo
・เวลาเปิดทำการ : 08:30~19:30
・การเดินทาง : จากโตเกียวเมโทร "ยูชิมะ" เดิน 2 นาที หรือจากโตเกียวเมโทร สถานี "อุเอโนะ-ฮิโรโคจิ" เดิน 8 นาที จากสถานี JR "โอคาชิมาจิ" เดิน 5 นาที จากสถานีรถไฟใต้ดินโทเอ "อุเอโนะ-โอคาชิมาจิ"
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
อดีตบ้านพักของผู้ก่อตั้งมิตซูบิชิ "บ้านสวนเก่าอิวาซากิ"
"บ้านสวนเก่าอิวาซากิ" เป็นที่อยู่อาศัยเก่าของฮิซายะ อิวาซากิ ประธานรุ่นที่สามและผู้ก่อตั้งมิตซูบิชิ เดิมทีเคยเป็นบ้านของไดเมียวตระกูลซากากิฮาระแห่งแคว้นทาคาดะในสมัยเอโดะ และตระกูลมากิโนะแห่งแคว้นไมซูรุในสมัยเมจิ บ้านหลังนี้ถูกซื้อโดยตระกูลอิวาซากิในปี 1896 และสถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ "Josiah Conder" ได้รับมอบหมายให้ออกแบบคฤหาสน์หลังนี้ในแบบ "Jacobean Style" ซึ่งได้รับความนิยมในรัชสมัยของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยมีการเพิ่มองค์ประกอบสไตล์เรอเนซองส์และสไตล์อิสลามเข้ามา
ผลงานที่มีชื่อเสียงอีกชิ้นของ Josiah Conder คือ "Rokumeikan" ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1883 และเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของผู้มีชื่อเสียงจากแวดวงการเมืองและธุรกิจระหว่างประเทศ การตกแต่งภายในบ้านสวนเก่าอิวาซากิในอดีตนั้นงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังมีห้องบิลเลียดในสไตล์สถาปัตยกรรมสวิสอีกด้วย ว่ากันว่าอาคารสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานกับอาคารสไตล์ตะวันตกแห่งนี้เคยมีพื้นที่สูงสุดถึง 550 ตารางเมตรในขณะนั้น จนเหลือเพียงอาคารเดียวในปัจจุบัน บ้านสวนเก่าอิวาซากิเป็นสวนผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและตะวันตกคลาสสิกจากยุคเมจิ เพียงเข้ามาชมคุณก็จะได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของงานสถาปัตยกรรมในอดีตได้เป็นอย่างดี
บ้านสวนเก่าอิวาซากิ
・ที่อยู่ : Ikenohata 1-chome, Taito-ku, Tokyo
・เวลาเปิดทำการ : 09:00-17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:30 น.)
・วันหยุดประจำ : 29 ธันวาคมถึง 1 มกราคม
・ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 400 เยน สำหรับผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 200 เยน ฟรีสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาและต่ำกว่า
・ทัวร์แบบมีไกด์ฟรี : 11.00 น. และ 14.00 น. ทุกวัน ไม่มีทัวร์แบบมีไกด์ในวันที่ 4 พฤษภาคม สิงหาคม และ 1 ตุลาคม
・การเดินทาง : เดิน 3 นาทีจากสถานีโตเกียวเมโทรยูชิมะ เดิน 10 นาทีจากสถานีโตเกียวเมโทรอุเอโนะ-ฮิโรโคจิ เดิน 10 นาทีจากสถานี JR โอคาชิมาจิ
・ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
โรงอาบน้ำเซนโตแห่งประวัติศาสตร์แห่งเดียวในโตเกียว "สึบาเมะออนเซ็น"
เดินเพียง 5 นาทีจาก "UENO FRONTIER TOWER" คุณก็จะมาถึงโรงอาบน้ำสาธารณะ "สึบาเมะออนเซ็น" ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 6.00 น. ที่คนจำนวนมากที่ขึ้นรถบัสกลางคืนหรือรถไฟสายสีแดงจะมาอาบน้ำเพื่อคลายความเหนื่อยล้า ภายในมีบริการให้เช่าผ้าเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แปรงสีฟัน มีดโกน เพื่อความสะดวกของลูกค้า ไม่ทราบที่มาแน่ชัดว่าสึบาเมะออนเซ็นเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กล่าวกันว่าผู้ประกอบการรุ่นแรกมาจากสึบาเมะซันโจในจังหวัดนีงะตะ จึงตั้งชื่อให้ว่าสึบาเมะออนเซ็น แต่ถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามในปี 1945 (ปีโชวะที่ 20) อาคารปัจจุบันจึงถูกสร้างขึ้นใหม่ตามต้นแบบในปี 1950 และที่นี่ยังเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะแห่งเดียวในโตเกียวที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของชาติของญี่ปุ่น โรงอาบน้ำหินภายในใช้หินลาวาจากภูเขาไฟฟูจิ การตกแต่งตั้งแต่เคาน์เตอร์ไปจนถึงโรงอาบน้ำชวนให้คิดถึงความเป็นย่านเมืองเก่าหรือชิตะมาจิของอุเอโนะเป็นอย่างมาก/font>
สึบาเมะออนเซ็น
・ที่อยู่ : 3-14-5 อุเอโนะ เขตไทโตะ โตเกียว
・เวลาทำการ : 06:00~20:00 ปิดทุกวันจันทร์
・ค่าอาบน้ำ : บุคคลทั่วไป 460 เยน นักเรียนประถม 180 เยน ต่ำกว่านักเรียนประถม 80 เยน
・การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานีโตเกียวเมโทร "อุเอโนะ-ฮิโรโคจิ" เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโทเอ "อุเอโนะโอคาชิมาจิ"
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ความทรงจำอันสวยงามจากยุคโชวะ "พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ "
อุเอโนะเป็นพื้นที่ชิตะมาจิทั่วไป ในแง่ของลักษณะภูมิประเทศของโตเกียว ไดเมียวส่วนใหญ่ในสมัยเอโดะจะอาศัยอยู่ในพื้นที่สูง เช่น อาซาบุจูบัง ชิโรกาเนะ-ทาคานาวะ เป็นต้น ในขณะที่พลเรือนธรรมดาอาศัยอยู่ในที่ราบต่ำที่เรียกว่า “ชิตะมาจิ” เช่น อาซากุสะ นิฮงบาชิ อุเอโนะ และสถานที่อื่น ๆ ในช่วงสมัยเอโดะ และเมื่อการค้าและอุตสาหกรรมรุ่งเรื่องขึ้น พื้นที่ของชิตะมาจิและวัฒนธรรมของประชนก็รุ่มรวมขึ้นไปพร้อม ๆ กัน
"พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ" ที่อยู่ถัดจากสระน้ำชิโนบาสุในสวนอุเอโนะ เป็นห้องนิทรรศการขนาดเล็กสองชั้นซึ่งจัดแสดงทุกอย่างตั้งแต่สมัยเมจิจนถึงยุคไทโช มีรูปแบบสถาปัตยกรรม ของใช้ประจำวัน ภาพถ่ายเก่า ๆ และโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอื่น ๆ จากยุคโชวะ นอกจากนี้ยังมีของเล่นเด็กที่ชวนให้คิดถึงมากมายจัดแสดงบนชั้น 2 แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้วของยุคเก่าก็ยังน่าจดจำ
พิพิธภัณฑ์ศุลกากรชิตะมาจิ
・ที่อยู่ : 2-1 สวนอุเอโนะ เขตไทโตะ โตเกียว
・เวลาทำการ : 09:30~16:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:00 น.)
・ค่าเข้าชม : 300 เยนสำหรับบุคคลทั่วไป 100 เยนสำหรับโรงเรียนมัธยมปลาย นักเรียนและต่ำกว่า
・การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานี JR และโตเกียวเมโทร "อุเอโนะ" เดิน 5 นาทีจากสถานีโตเกียวเมโทร "ยูชิมะ" เดิน 5 นาทีจากสถานีโตเกียวเมโทร "อุเอโนะ-ฮิโรโคจิ" รถไฟใต้ดินโทเอ "อุเอโนะ-โอคาจิ" เดิน 5 นาทีจากสถานีมาจิ
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
อดีตตลาดกลางคืนที่ขายขนมหวานและสินค้าแนวทหารจากอเมริกา "อาเมโยโกะ"
"อาเมโยโกะ" มาจากคำในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "อาเมะ โยโกะโจ" ซึ่ง "โยโกะโจ" แปลว่าซอยเล็ก ๆ การพัฒนาของอาเมโยโกะได้เริ่มขึ้นหลังสงคราม มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของชื่อสถานที่ ทฤษฎีหนึ่งก็คือ เนื่องจากการควบคุมทางวัตถุหลังสงคราม ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงเดินทางกลับไปยังแมนจูเรีย ไต้หวัน เกาหลี หมู่เกาะแปซิฟิกใต้ และผู้คนเริ่มธุรกิจตลาดกลางคืนในบริเวณใกล้สถานีอุเอโนะเพื่อจับจ่ายหาซื้อน้ำตาลซึ่งหาได้ยากเป็นพิเศษในตอนนั้น
ในทางกลับกัน สินค้าแนวทหารจากอเมริกาจำนวนมากก็มีขายในตลาดกลางคืนแห่งนี้ด้วย ปัจจุบันอาเมโยโกะเริ่มจาก "Nakata Shoten" และ "FREAK MARKET" ไปจนถึง "ถนนช้อปปิ้งอุเอโนะเซ็นเตอร์" ที่อยู่ใต้สะพาน มีชุดลายพรางทหารของสหรัฐฯ กางเกงยีนส์ และแจ็กเก็ต Yokosuka ไฟแช็ก ZIPPO เข็มขัด และเสื้อผ้าและเครื่องประดับสไตล์อเมริกันอื่น ๆ "อาเมะ" ที่มาจากคำว่าลูกอมและขนม กับ "อาเมะ" ที่มาจากคำว่าอเมริกา รวมกันเป็น "อาเมโยโกะ" ในปัจจุบัน
อาเมโยโกะ
・การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากสถานี JR โตเกียวเมโทร "อุเอโนะ"
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
รูปปั้นแพนด้าตัวเล็กตัวใหญ่ที่ซ่อนอยู่
ทางด้านขวามือหลังจากออกมาจาก "ทางออกสะพานแพนด้า" ของสถานีอุเอโนะ จะมีรูปปั้นแพนด้าขนาดใหญ่ หากสังเกตให้ดีจะมีแพนด้าตัวใหญ่อยู่ข้างหน้าชื่อว่าซิงซิง และแพนด้าตัวน้อยชื่อว่า เซียงเซียง สวนสัตว์แห่งแรกของญี่ปุ่น "สวนสัตว์อุเอโนะ" ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1882 (เมจิ 15) และในปี 1972 ญี่ปุ่นและจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกัน จีนได้มอบหมีแพนด้าคู่หนึ่ง "คังคัง" และ "หลานหลาน" ให้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ กลายเป็นดาราสัตว์แห่งสวนสัตว์อุเอโนะ
รูปปั้นแพนด้าตัวเล็กตัวใหญ่
・การเดินทาง : ออกจาก "ทางออกสะพานแพนด้า" ของสถานี JR "อุเอโนะ"
อุเอโนะเป็นจุดหมายปลายทางที่ใครหลาย ๆ คนต้องมาเยือนเมื่อท่องเที่ยวในโตเกียว และรอบ ๆ สวนอุเอโนะมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น สวนสัตว์ หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ และอาเมโยโกะ ซึ่งเดินทางมาง่ายมากและยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เสมอ นอกจากสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปต้องไปแล้ว คุณยังสามารถไปเยี่ยมขมสถานที่เหล่านี้เพื่อรู้จักอุเอโนะให้ลึกซึ้งมากขึ้นได้อีกด้วย
☞ อ่านเพิ่ม
・[อุเอโนะ] คู่มือเที่ยวอุเอโนะ แจกลายแทง วิธีการเดินทาง ที่ชอป ที่เที่ยว ที่พัก แบบละเอียดยิบ!