หากอยากสัมผัสธรรมชาติใกล้โตเกียว ต้องไปฮาโกเน่! ฮาโกเน่นั้นเป็นชุมชนน้ำพุร้อนชื่อดังของแถบคันโต และใช้เวลาเดินทางเพียง 85 นาทีด้วยการนั่งรถไฟ โรแมนซ์โอดะคิวจากชินจูกุ อีกทั้งถ้าซื้อ "Hakone Freepass" จะยังสามารถใช้บริการขนส่งมวลชนแบบไม่จำกัดครั้งได้ แถมยังได้ส่วนลดในร้านค้าบางแห่งอีกด้วย "JapaiJapan" ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเช็กอินในฮาโกเน่มาให้ อ่านบทความนี้แล้วเริ่มแพลนทริปกันเลย!
Onshi-Hakone Park
Onshi-Hakone Park ตั้งอยู่บนเกาะขนาดเล็กที่ชื่อว่า "เกาะทาร์ทาร์" ซึ่งทอดยาวมาจากทะเลสาบอาชิ ในยุคสมัยเมจิเป็นสวนประจำ "พระราชวังแห่งฮาโกเน่" ที่ราชวงศ์ใช้เป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อนและต้อนรับแขกจากต่างชาติ แต่ "พระราชวัง" เก่านี้ถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหวคันโตและแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของอิโตะ ต่อมาจึงได้เปิด"อาคารสังเกตการณ์ริมทะเลสาบ" ให้บุคคลภายนอกเข้าชมหลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง อีกทั้งชั้นสองของอาคารยังเป็น "โซนจิบชา" ที่ผู้คนสามารถพักผ่อนดื่มชาและเพลิดเพลินกับวิวทะเลสาบที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลังอีกด้วย วิวนี้ได้ติดอันดับหนึ่งใน "ร้อยวิวที่สวยที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ" อีกด้วย
ด้านนอกของสวนสาธารณะมีถนนเก่าแก่ที่ยาว 500 เมตร ซึ่งเต็มไปด้วยต้นสนที่สั่งปลูกโดย มัตสึไดระ มาสะสึนาริ เจ้าแห่งปราสาทคาวาโกเอะในเวลานั้น โดยต้นสนที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุเกือบ 400 ปีเลยทีเดียว
อาคารสังเกตการณ์ริมทะเลสาบ (Onshi-Hakone Park)
・ที่อยู่:171 Motohakone, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa
・เวลาให้บริการ: 09:00-16:30
・วันหยุด: วันที่ 29 ธันวาคม-วันที่ 3 มกราคม
・การเดินทาง: ขึ้นรถบัสและลงที่สถานี Onshi Park
・เว็บไซต์ทางการ
Hakone Shrine และ Hakone Mototsumiya
"ศาลเจ้าฮาโกเน่" มีต้นกําเนิดตั้งแต่ 2,400 ปีก่อน และ "ยอดเขา Komagatake" ที่ตั้งอยู่ห่างจากตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของศาลเจ้าฮาโกเน่ประมาณ 2 กิโลเมตรยังเป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของแถบคันโต ที่สามารถนั่งกระเช้าจากตีนเขาเพื่อขึ้นไปยัง "ฮาโกเน่โมโตสึมิยะ" ซึ่งเป็นแหล่งสักการะสำคัญของฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่ จากท่าเรือโมโตะฮาโกเน่ไปยังศาลเจ้า นอกจากจะมีประตูโทริอิธรรมดาแล้ว ยังมี "ประตูเฮวะโนะโทริอิ" ที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นจุดไฮไลต์สำคัญของศาลเจ้า ประตูเฮวะโนะโทริอิถูกสร้างขึ้นในปีโชวะที่ 27 (ค.ศ.1952) เพื่อรำลึกถึง "สนธิสัญญากรุงไทเป" ในปีโชวะที่ 39 (ค.ศ.1964) เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 1200 ปีของการก่อตั้งศาลเจ้าและการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกของญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชิเงรุ โยชิดะในขณะนั้นจึงได้แต่งตั้งชื่อประตูโทริอินี่ขึ้นมา หนึ่งในจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดของบริเวณนี้คือการถ่ายจากท่าเรือ Moto-Hakone โดยมีภูเขา Komagatake และทะเลสาบอาชิเป็นฉากหลัง ศาลเจ้านี้สามารถขอพรในด้านการงานอาชีพ การเรียน สุขภาพ ความปรารถนา และครอบครัว โดย "ศาลเจ้าคุซึริว ฮองงู" ภายในยังขึ้นชื่อในด้านการขอความรักอีกด้วย
หากต้องการไปยัง Hakone Mototsumiya สามารถขึ้นรถบัสหรือเดิน 30 นาทีจากศาลเจ้าฮาโกเน่ไปยัง "Hakone-en" จากนั้นจึงเปลี่ยนไปขึ้นกระเช้า ภูเขา Komagatake มีความสูง 1,356 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ใช้เวลาขึ้นเพียง 7 นาที สภาพอากาศในพื้นที่ฮาโกเน่จะคงที่หลังจากเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่จะเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบอาชิแบบชัดเจน ถึงแม้ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็แนะนำมากเช่นกัน
Hakone Shrine
・ที่อยู่: 80-1 Motohakone, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa
・การเดินทาง: ขึ้นรถบัสและลงที่สถานี Moto-Hakone จากนั้นเดินอีก 10 นาที หรือนั่งเรือลงที่สถานีท่าเรือ Moto-Hakone จากนั้นเดินอีก 10 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
กระเช้าลอยฟ้า Komagatake (Hakone Mototsumiya)
・ที่อยู่: 139 Motohakone, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa
・เวลาให้บริการ : 09:00-16:30 ทุก 20 นาทีหนึ่งรอบ
・ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก 640 เยน
・การเดินทาง: ขึ้นรถบัสและลงที่สถานี Hakone-en จากนั้นเดินอีก 3 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
Amasake Chaya
Amasake Chaya ก่อตั้งขึ้นในยุคต้นเอโดะ และปัจจุบันก็ได้สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 13 ถึงแม้ว่าจะผ่านวันเวลามานานแต่ตัวอาคารยังคงความสวยงามเหมือนในอดีต การตกแต่งภายนอกและภายในยังคงให้ความรู้สึกย้อนยุคเหมือนสมัยเอโดะ และยังเป็นสถานที่พักผ่อนเติมพลังสําหรับนักเดินทางอีกด้วย "อามะซาเกะ" นั้นเป็นสาเกที่เกิดจากการหมักเช่นเดียวกับมิโสะและนัตโตะ และ "อามะซาเกะ" ของทางร้านนั้นก็ไม่มีการเติมน้ำตาลเพิ่มเติ่ม แต่ใช้วิธีการที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเอโดะเพื่อดึงความหวานธรรมชาติของข้าวโคจิออกมา ถือเป็นผลงานภูมิใจนำเสนอของทางร้านเลยทีเดียว
Chikara- Mochi ดั้งเดิมเชื่อกันว่า "กินแล้วจะมีแรงมากขึ้น" เป็นของว่างสำหรับเติมพลังที่ดีที่สุดสำหรับนักเดินทางไกลที่ต้องข้ามเขาข้ามป่าในยุคอดีต ตัวขนมที่ผ่านการอบด้วยเตาถ่านมีกลิ่นหอมจากถ่านเบาๆ เนื้อสัมผัสนั้นแน่นกว่าโมจิปัจจุบัน รสชาติที่ให้เลือกนอกจากจะมีรสสาหร่ายซีอิ๊วหวานและรสถั่วเหลือง ยังมีรสงาดำที่มีขายแบบจำกัดจำนวน นอกจากนี้ยังมีมันจูรสชาติกลมกล่อมที่เสิร์ฟพร้อมชาเขียวมัทฉะให้เลือกอีกด้วย
Amasake Chaya
・ที่อยู่: 395-1 Hatajuku, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa
・เวลาให้บริการ: 07:00-17:30
・การเดินทาง: ขึ้นรถบัสและลงที่สถานี Amasake Chaya
・ เว็บไซต์ทางการ
Owakudani
"Owakudani" เป็นซากภูเขาไฟที่ระเบิดเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน ซึ่งในสมัยเอโดะถูกนิยามว่าเป็น "หุบเขานรก" ปัจจุบันแม้จะเป็นภูเขาไฟสงบ แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ไร้สิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถันและควันสีขาวอันพวยพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา เป็นภูมิทัศน์ทางธรณีวิทยาที่มีเอกลักษณ์สูง หากชมด้วยตาเปล่าระยะใกล้จะรู้สึกถึงแรงกดดันแปลกประหลาด แต่ก็เป็นภูมิทัศน์ชื่อดังของฮาโกเน่ที่ต้องมาชมให้ได้สักครั้ง
สามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าได้หากต้องการไป Owakudani ก่อนออกเดินทางเจ้าหน้าที่จะแจกผ้าเปียกให้ หากรู้สึกว่าอากาศฉุนแสบจมูก สามารถใช้ผ้าเพื่อปิดปากและจมูกได้ ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะรับได้กับกลิ่นภูเขาไฟของที่นี่ แต่ก็ต้องคอยระวังร่างกายตัวเองด้วยนะ! เมื่อมาถึง Owakudani ก็สามารถลองชิมอาหารพิเศษอย่าง "ไข่สีดำโอวาคุดานิ" และ "แกงกะหรี่โอวาคุดานิ" ซึ่งเป็นอาหารที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก!
Owakudani
・เวลาให้บริการ: 09:00-17:00 (เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน), 09:00-16:15 (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์)
・การเดินทาง: ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่จากท่าเรือ Togendai หรือ Sounzan และลงที่ Owakudani
・เว็บไซต์ทางการ
・หมายเหตุ: อาจหยุดให้บริการหากสภาพอากาศเลวร้ายหรือภูเขาไฟมีการเคลื่อนไหว
Hakone Venetian Glass Museum
Hakone Venetian Glass Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานแก้วเวนิสของประเทศอิตาลี โดยได้จัดแสดงศิลปะแก้วที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นสูงตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ถึงศตวรรษที่ 18 รวมถึงผลงานแก้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงยุคปัจจุบัน สถาปัตยกรรมสไตล์อิตาลี พร้อมเสียงดนตรีพื้นบ้านของประเทศอิตาลี นอกพิพิธภัณฑ์ที่มีสวนขนาดใหญ่, น้ำพุ, ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกสำหรับของตกแต่งและของใช้ต่างๆ อีกทั้งยังมี "ทางเดินแห่งแสง" ที่ส่องประกายท่ามกลางสายลมและแสงแดด
Hakone Venetian Glass Museum
・ที่อยู่: 940-48 Sengokuhara, Hakone-cho, Hakone-cho, Shimo-gun, Kanagawa
・เวลาให้บริการ : 09:00-17:30 (เข้ารอบสุดท้าย 17:00)
・ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, นักเรียนมัธยมปลายหรือนักศึกษา 1,100 เยน, ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี 1,400 เยน, นักเรียนประถมหรือมัธยมต้น 600 เยน
・การเดินทาง: ขึ้นรถบัสและลงที่สถานี Hakone Venetian Glass Museum
・เว็บไซต์ทางการ
The Hakone Open-air Museum
The Hakone Open-air Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ประติมากรรมกลางแจ้งที่มีผลงานมากมายจัดแสดงบนพื้นที่สนามหญ้ากว้างใหญ่ โดยผลงานหลายชิ้นนั้นสามารถสัมผัสได้ ที่นี่คุณจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและศิลปะในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีภาพวาดและประติมากรรมโดย Picasso รวมถึงผลงานจากประติมากรอย่าง Henry Moore และ Medardo Rosso อยู่ที่นี่ อีกทั้งยังมีพื้นที่พื้นที่กิจกรรมสําหรับเด็กและอ่างแช่เท้าธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสายอาร์ตไม่ควรพลาดที่นี่เด็ดขาด
The Hakone Open-air Museum
・ที่อยู่: 1121 Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa
・เวลาให้บริการ : 09:00-17:00 (เข้ารอบสุดท้าย 16:30)
・ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ 1,600 เยน, นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษา 1,200 เยน, นักเรียนประถมและมัธยมต้น 800 เยน
・การเดินทาง: ขึ้นรถบัสและลงที่สถานี Ninotaira-iriguchi จากนั้นเดินอีก 5 นาที หรือขึ้นรถไฟ Hakone Tozan Railway และลงที่สถานี Chokoku-no-Mori จากนั้นเดินอีก 2 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
Hakone Gora Park
Hakone Gora Park เป็นสวนสไตล์ฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1914 (ปีไทโช 3) ภายในสวนสามารถชมดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกซากุระ, กุหลาบพันปี, กุหลาบ, ไฮเดรนเจีย และต้นเมเปิ้ลได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีน้ำพุขนาดใหญ่และร้านน้ำชาภายในสวน ที่สามารถใช้เวลายามบ่ายสไตล์ฝรั่งเศสสุดโรแมนติก อีกทั้งยังสามารถจ่ายเงินเพื่อทำงานคราฟท์ที่เกี่ยวกับ เครื่องปั้นดินเผา, ดอกไม้เทียมและเครื่องแก้วได้ แต่หากมี Hakone Freepass ก็สามารถเข้าชมสวนได้ฟรีๆ เลย!
Hakone Gora Park
・ที่อยู่: 1300 Gora, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa
・เวลาให้บริการ: 09:00-17:00
・การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Gora หรือขึ้นรถไฟ Hakone Tozan Railway และลงที่สถานี Koen-Shimo หรือสถานี Koen-Kami จากนั้นเดินอีก 1 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
The Hakone Sightseeing Cruise
The Hakone Sightseeing Cruise จะแล่นผ่านทะเลสาบอาชิ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือ "Togendai", ท่าเรือ "Hakonemachi" และท่าเรือ "Motohakone" การเดินทางใช้เวลาประมาณ 25 ถึง 40 นาที ระหว่างทางคุณจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามและอาจมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนในวันที่สภาพอากาศดี ดังนั้นเรือสำราญนี้จึงเป็นทั้งพาหนะและสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในฮาโกเน่ หากอยู่บนเรือสามารถเลือกที่จะเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์บนดาดฟ้าหรือพักผ่อนในห้องโดยสารได้ตามอัธยาศัย ปัจจุบันมีเรือสำราญทั้งหมดสามลําที่ให้บริการคือ Ashi no Lake Queen (クイーン芦ノ湖), Royal II (ロワイヤル II) และ Victory (ビクトリ ー) ส่วนจะได้ขึ้นเรือลําไหนต้องรอลุ้นกันหน้าท่าเรือเท่านั้น!
The Hakone Sightseeing Cruise
・เวลาให้บริการ: 09:30-17:00 (เดือนเมษายน-พฤศจิกายน), 10:00-16:00 (เดือนธันวาคม-มีนาคม)
・ค่าธรรมเนียม: ฟรีสำหรับผู้ถือบัตร Hakone Freepass, ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, เด็ก 600 เยน (เที่ยวเดียว)
・การเดินทาง: ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่จาก Owakudani และลงที่ท่าเรือ Togendai หรือขึ้นรถบัสและลงที่ท่าเรือ Hakonemachi และท่าเรือ Motohakone
・เว็บไซต์ทางการ
ใช้ "Hakone Freepass" เพื่อเที่ยวฮาโกเน่ให้ฟินกว่าเดิม
หากจ่ายเพิ่ม 1,200 เยน คุณก็สามารถใช้ Hakone Freepass เพื่อนั่ง Odakyu Romance Car เดินทางโดยตรงจาก "Shinjuku" ไปยัง "Hakone-yumoto" ได้ หากไม่อยากจ่ายเงินเพิ่ม คุณก็สามารถขึ้นรถไฟทุกขบวนนอกเหนือจาก "รถไฟด่วนพิเศษ" และลงที่ "Odawara" เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฮาโกเน่ไปยัง "Hakone-yumoto" ได้ โดย Hakone Freepass มีให้เลือกชนิด 2 วันหรือ 3 วัน ซึ่งสามารถใช้บริการขนส่งในท้องถิ่นที่กําหนดไม่จำกัดครั้งตามช่วงเวลาที่ซื้อ และรับสิทธิส่วนลดค่าเข้าชมบางสถานที่ท่องเที่ยว นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่แสนคุ้มค่าสำหรับนักเดินทางทัังหลาย (คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด "Hakone Freepass")
การเดินทางไปฮาโกเน่นั้นเป็นเรื่องแสนสะดวก ด้วยการคมนาคมที่สะดวก มีให้บริการทั้งรถบัส, รถไฟ, กระเช้าลอยฟ้าหรือเรือสำราญเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมายที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของตัวเอง กลางวันท่องสัมผัสกับบรรยากาศในชุมชนฮาโกเน่ ตกดึกเพลิดเพลินกับการเข้าพักโรงแรมน้ำพุร้อน นับเป็นแผนการท่องเที่ยวสุดคลาสสิกของฮาโกเน่เลยก็ว่าได้!
☞ อ่านเพิ่มเติม
・รวมแผนเที่ยวโตเกียว ให้ทริปครั้งต่อไปของคุณ สะดวก สนุกกว่าเดิม!
ผู้เขียนและสัมภาษณ์: Akane 26/12/2017
บรรณาธิการ: Gin (อัปเดต Jun 12/2022)