มาเที่ยวโตเกียวทั้งที สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก็คือ รายละเอียดในสนามบินนาริตะ! อยากส่งโปสการ์ดก่อนเดินทางกลับต้องทำอย่างไร หรือเครื่องสำอางและของฝากที่ชอปมาดูจะไม่พอ หรือถ้าถึงสนามบินแล้วน้ำหนักกระเป๋าเกินจะทำยังไงดี?แล้วจะรับสินค้าของ BIC CAMERA ในสนามบินได้ที่ไหน?แต่หายห่วงได้เลย! เพราะ "Japai Japan" จะพาคุณไปรู้จักกับ สถานที่ต่างๆ ภายในสนามบินนาริตะ เพียงอ่านบทความนี้ คุณก็จะกลายเป็นโปรสนามบินนาริตะที่จัดการทุกอย่างได้อย่างครบครันเลย!
ข้อมูลอาคารผู้โดยสารขาออกสนามบินนาริตะแบบละเอียด
・ "อาคารผู้โดยสารขาออก" ของอาคารผู้โดยสาร 3 ในสนามบินนาริตะแบบเข้าใจง่าย ภายใน 1 นาที
・โอกาสสุดท้ายก่อนกลับ กับไปรษณีย์ในสนามบิน!
・ไปที่ JAL ABC เพื่อรับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อที่ BIC CAMERA ในเมือง
・สิทธิ์เข้าใช้เลาจ์ IASS ฟรีด้วยบัตร JCB, Rakuten และ American Express
・แค่ 100 เยน ก็ลุ้นรับของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครได้
・แวะซื้อของอร่อยก่อนอำลาญี่ปุ่น
・เบื่อนัก ก็ฆ่าเวลาซะหน่อย กับกิจกรรมฆ่าเวลาระหว่างรอไฟล์ทในอาคารผู้โดยสาร 1
"อาคารผู้โดยสารขาออก" ของอาคารผู้โดยสาร 3 ในสนามบินนาริตะแบบเข้าใจง่าย ภายใน 1 นาที
ตึกผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 เป็นอาคารที่มีรูปร่างเหมือนตัว "V กลับหัว" แบ่งออกเป็นปีกใต้ ปีกเหนือ และอาคารกลาง จุดเช็กอินขาออกอยู่ที่ชั้น 4 บริเวณปีกใต้และปีกเหนือจะเป็นโซนเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศ แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารจะกระจุกตัวอยู่ตรงกลางชั้น 4 และ 5 ของอาคาร โซน「SHOPPING&DINNING」
อาคาร 2 จะมีรูปแบบอาคารที่ค่อนข้างเรียบง่าย ช่องทางออกของอาคารผู้โดยสารจะเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนจุดเช็กอินขาออกจะตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ประตูทางออกสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศจะแบ่งออกเป็นฝั่งทิศใต้และฝั่งทิศเหนือโซนชอปปิ้งและร้านอาหาร ล้วนตั้งอยู่ที่ชั้น 4 นอกจากนี้ทางฝั่งด้านเหนือและใต้ยังมีทางเดินชมสนามบินซึ่งสามารถมองเห็นเวลาที่เครื่องบินขึ้นลงได้ ซึ่งเป็นวิวที่พิเศษมากๆ!
ก่อนหน้านี้ โซนผู้โดยสารขาเข้าและขาออกของ อาคาร 3 ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 แต่ในเดือนเมษายน 2022 มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ไม่เพียงแต่ทางขาเข้าและขาออกจะแบ่งออกเป็น 2 ชั้นเท่านั้น แต่ระยะทางจากอาคารผู้โดยสาร 3 ไปยังอาคาร 2 ก็จะสั้นลงอีกด้วย ดังนั้นการเดินทางไปมาระหว่างอาคารทั้งสองจะเร็วขึ้น ส่วนอาคารผู้โดยสารขาออกจะยังคงอยู่ที่ชั้น 2 และ การ CHECK-IN ก็เปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ หลังจากเช็กอินที่เครื่องอัตโนมัติด้วยตนเองแล้ว สัมภาระก็จะถูกจัดเก็บไปที่คลังแบบไร้พนักงาน กระบวนการทั้งหมดเป็นแบบดิจิทัลและไม่มีคนควบคุม ทำให้ขั้นตอนทั้งหมดจะรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น!
ผู้ที่ต้องการขึ้นรถไฟฟ้าโปรดทราบ: รถไฟฟ้าจะไม่จอดที่อาคารผู้โดยสาร 3 ดังนั้นผู้ที่นั่งรถรางมาสนามบินจึงต้อง ลงที่ป้าย 「空港第2ビル」ของอาคารผู้โดยสาร 2 จากนั้นขึ้นรถบัสรับส่งระหว่างสนามบินหรือเดินไปที่อาคารผู้โดยสาร 3 มาทบทวนกันอีกทีได้ที่ วิธีเดินทางระหว่างอาคารผู้โดยสาร!
โอกาสสุดท้ายก่อนกลับ กับไปรษณีย์ในสนามบิน!
เนื่องจากสัมภาระที่น้ำหนักเกินจะถูกสายการบินคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ดังนั้นจึงมักจะมีพื้นที่คัดแยกสัมภาระและเครื่องชั่งใกล้กับประตูทางออกสนามบิน นักท่องเที่ยวที่กังวลว่าสัมภาระจะมีน้ำหนักเกินสามารถคัดแยกสัมภาระที่น้ำหนักเกินได้ที่นี่ หลังจากแยกสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินแล้ว ก็สามารถส่งกระเป๋าเดินทางกลับไปได้ที่ไปรษณีย์ของสนามบิน โดยสามารถส่งได้ทั้งเครื่องบินและเรือ
ไปรษณีย์จะมีกล่องจำหน่ายทั้งหมดสี่ไซส์ ไซส์ S(17.5×22.5×14.5cm)ราคา 100 เยน,ไซส์กลาง M(25.5×31.5×17.5cm)ราคา 140 เยน,ไซส์ใหญ่ L(31.5×39.5×22.5)ราคา 220 เยน,ไซส์ใหญ่พิเศษ XL(34.5×44.5×34cm)ราคา 380 เยน โดยต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 30 กก. ค่าจัดส่งจะคิดตามน้ำหนัก วิธีจัดส่ง และพื้นที่จัดส่ง สามารถตรวจสอบอย่างละเอียดได้ที่เว็บไซต์ทางการของไปรษณีย์เช็กค่าจัดส่ง
แต่ข้อควรระวังก็คือ คุณไม่สามารถส่งสิ่งของอันตราย เช่น สเปรย์ สินค้าที่มีน้ำมันหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ไฟแช็ก น้ำหอม ทางไปรษณีย์ได้ โปรดอ่านประกาศที่หน้าเว็บของไปรษณีย์อย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าสิ่งของที่ส่งผิดระเบียบหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวที่อยากส่งสิ่งของที่ไปรษณีย์จะต้องมาถึงสนามบินก่อนเวลา! อีกทั้งที่ไปรษณีย์ของสนามบินยังมีจำหน่ายแสตมป์ที่ระลึกอีกด้วย
หากเพียงแค่ต้องการหากท่านใดต้องการแค่ส่งโปสการ์ดก็ไม่จำเป็นต้องเดินไปจนสุดที่ทำการไปรษณีย์ของสนามบิน โดยสามารถซื้อแสตมป์ได้ที่ร้านสะดวกซื้อและติดไว้ที่โปสการ์ดก่อน ที่อาคารผู้โดยสาร3 จะมีตู้ไปรษณีย์อยู่ข้างประตูขาออกของเที่ยวบินระหว่างประเทศ แค่เอาไปหย่อนลงในตู้ก็ได้แล้ว หลังจากที่ออกจากด่านศุลกากรก็จะไม่มีตู้ไปรษณีย์อีกแล้ว ดังนั้นต้องรีบคว้าโอกาสสุดท้ายนี้เอาไว้นะ!
ตู้ไปรษณีย์ของสนามบิน
・อาคารผู้โดยสาร 1:ชั้น 4 มีอยู่ที่ทางออกที่ปีกทิศใต้ ปีกเหนือ และทางออกกลาง
・อาคารผู้โดยสาร 2:ชั้น 3 ออกจากทางออกทิศใต้ และมุ่งหน้าไปทางออกทิศเหนือ
・อาคารผู้โดยสาร 3:ชั้น 2 เดินไปจนสุดของอาคารผู้โดยสาร
ไปรษณีย์ของสนามบิน
・อาคารผู้โดยสาร 1:ชั้น 4 อยู่ข้างๆทางเข้ากลาง
・อาคารผู้โดยสาร 2:ชั้น 3 ข้างเคาน์เตอร์เช็คอิน C
・เวลาทำการ:08:30~20:00 น.
・ข้อควรระวัง:อาคารผู้โดยสาร 3 จะมีเพียงแค่ตู้ไปรษณีย์ แต่ไม่มีที่ทำการไปรษณีย์ ดังนั้นต้องกรอกไปรษณีย์ในอาคารผู้โดยสาร 2 ก่อนแล้วไปหย่อนที่ตู้ในอาคาร 3
・ตรวจสอบอัตราค่าบริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ
ไปที่ JAL ABC เพื่อรับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อที่ BIC CAMERA จากสาขาอื่นๆในเมือง
เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายคนต้องมาที่ แหล่งรวมสินค้าและเครื่องใช้ในบ้านอย่างแน่นอน(พิเศษ สำหรับผู้อ่าน"Japai Japan!" สามารถดาวน์โหลดคูปองส่วนพิเศษของ BIC CAMERA ได้ด้วยนะ ") แต่เครื่องใช้ไฟฟ้ามีขนาดใหญ่และหนัก การเดินทางด้วยรถไฟจึงอาจจะไม่สะดวกนัก! ดังนั้นจึงสามารถใช้บริการรับของที่สนามบินแบบกำหนดเวลาล่วงหน้าของ BIC CAMERA ได้ เพียงแค่กรอกแบบฟอร์มพิเศษเมื่อชอปปิ้ง ก็สามารถรับสินค้าที่ซื้อในวันเดินทางกลับพร้อมโหลดสัมภาระได้ทันที เรียกว่าประหยัดทั้งเวลาและแรงเลยทีเดียว!
เมื่อกรอกแบบฟอร์มการจัดส่งแล้ว โปรดยืนยันข้อมูลเที่ยวบินและอาคารผู้โดยสารขาออกของคุณ สำหรับจุดรับที่สนามบินคือบริษัทขนส่งที่ร่วมมือกับ BIC CAMERA JAL ABC ในอาคารผู้โดยสารขาออกทั้ง 1 และ2 ดังนั้นเมื่อรับสัมภาระ อย่าลืมนำพาสปอร์ตและเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วยนะ
JAL ABC
・อาคารผู้โดยสาร 1:ชั้น 4 เคาน์เตอร์รับส่งจะตั้งอยู่ในสุดของอาคารผู้โดยสารขาออกทั้งปีกใต้และปีกเหนือ
・อาคารผู้โดยสาร 2:ชั้น 3 ตั้งอยู่ข้างเคาน์เตอร์เช็กอิน
・เวลาทำการ:07:00~เวลาเที่ยวบินสุดท้าย(ในช่วงโควิด เวลาทำการของจุดให้บริการในอาคาร 1 ทางฝั่งปีกใต้ จะถูกปรับเป็น 7.00-13.00 น.)
สิทธิ์เข้าใช้เลานจ์ IASS ฟรีด้วยบัตร JCB, Rakuten และ American Express
เลานจ์หลายห้องจะถูกจัดเตรียมไว้หลังทางเข้า หรือต้องเป็นสมาชิกของบัตรระดับสูงจึงจะใช้งานได้ แต่ว่านอกจากนี้แล้ว ที่นี่ยังมีเลาจน์ฟรีที่ทุกคนสามารถใช้ได้ เพียงแค่แสดง JCB、บัตร JCB, Rakuten หรือ American Express พร้อมกับข้อมูลเที่ยวบินก็สามารถเข้าใช้งานได้แล้ว!แม้ว่าภายใน IASS EXECUTIVE LOUNGE จะเรียบง่ายกว่าเลาจน์พรีเมียมมาก แต่ก็มีบริการต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม ของว่าง ปลั๊กชาร์จ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรี
IASS EXECUTIVE LOUNGE
・อาคารผู้โดยสาร 1:ชั้น 5 ห้องรับรองกลาง
・ปีกเหนือ
・อาคารผู้โดยสาร 2:ชั้น 4
・เวลาทำการ:07:00~21:00 น.
・หมายเหตุ:หากมีเด็กอายุระหว่าง 4 ถึง 12 ปีด้วย จะต้องเสียค่าบริการ 540 เยน และเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีเข้าฟรี
แค่ 100 เยน ก็ลุ้นรับของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครได้
ถ่ายภาพ:AMO
เศษเงิน 100 เยนที่เหลือจากตอนเที่ยวก็สามารถนำมาใช้หยอดกาชาปองได้! กาชาปองของญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยเอกลักษณ์และความประณีต ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนอนิเมะ แต่แค่เห็นความน่ารักของเหล่ากาชาก็ต้องแอบอยากลองสุ่มและสะสมไว้แน่นอน ส่วนทางฝั่งทิศใต้และทิศเหนือของอาคารผู้โดยสาร 1 ชั้น 5 แต่ละด้านจะเป็นโซนกาชาปองทั้งหมด โซนกาชาปองในอาคารผู้โดยสาร 2 จะตั้งอยู่ที่ ชั้นใต้ดิน 1 หน้าร้าน 7-ELEVEN ส่วนอาคารผู้โดยสาร 3 จะอยู่ที่ ชั้น 2 ตรงทางออกระหว่างประเทศ หน้าร้าน LAWSON 。
โซนกาชาปอง
・อาคารผู้โดยสาร 1:ชั้น 5 ตรงกลาง มีทั้งทางปีกทิศใต้และทิศเหนือ
・อาคารผู้โดยสาร 2:ชั้นใต้ดิน 1 ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN
・อาคารผู้โดยสาร 3:ชั้น 2 ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ LAWSON
แวะซื้อของอร่อยก่อนอำลาญี่ปุ่น
อาคารผู้โดยสาร 1
โซนชอปปิ้งในสนามบินของอาคารผู้โดยสาร 1 ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าที่ชั้น 4 และร้านอาหารจะอยู่ที่ชั้น 5 มีร้านอาหารประมาณ 12 แห่ง รวมถึงแมคโดนัลด์、SUBWAY、Starbucks、ร้านเสต็ก、Tsukiji SushiBar ที่เปิดให้บริการทุกวัน ในส่วนร้านขายของใช้ทั่วไปนั้นมีร้านMUJI to GO、GRAN SAC'S!
อาคารผู้โดยสาร 2
โซนชอปปิ้งสนามบินในอาคาร 2 ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 มีทั้งแมคโดนัลด์、Starbucks、MUJI to GO、7-ELEVENและร้านที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างคลั่งไคล้อย่าง Pokémon Store อีกด้วย
อาคารผู้โดยสาร 3
โซนอาหารของอาคารผู้โดยสาร 3 จะมีร้าน長崎ちゃんぽん、Gongwu Zanqi Wulong Noodles ที่เปิดให้บริการและยังมีร้านที่พึ่งเปิดอย่างFreshness Burger、Sendai beef tongue house、Benitora Kitchen/strong>、Hakata ramen ittemonเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านขายยาร้าน ขายของชำ ร้านขายของที่ระลึก และร้านสะดวกซื้ออีกด้วย
นอกจากนี้ ยังไฮไลต์สำคัญอย่าง LAWSON เปิดใหม่อีกด้วย นอกจากพื้นที่ของร้านจะกว้างขึ้น สินค้าก็มีความหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ตรงหน้าร้านยังมีพื้นที่พักผ่อนที่บริเวณที่นั่งจะมีช่องเสียบสายชาร์จUSB ผู้ที่รอเที่ยวบินสามารถมานั่งฆ่าเวลาตรงนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีโซนใหม่ที่จัดนิทรรศการศิลปะ และมีรถรับส่งเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่เคลื่อนไหวไม่สะดวก ให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบายอย่างเท่าเทียม!
เบื่อนัก ก็ฆ่าเวลาซะหน่อย กับกิจกรรมฆ่าเวลาระหว่างรอไฟล์ทในอาคารผู้โดยสาร 1
อาบน้ำ พักผ่อนที่ชั้น 2 สักหน่อย
สำหรับหลายๆ คน ช่วงเวลาก่อนรอขึ้นเครื่องช่างน่าเบื่อและชวนเหนื่อยล้าเสียจริง ถ้างั้นมาอาบน้ำและพักผ่อนดูสักครู่ไหม? ที่อาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 มีห้องอาบน้ำเดี่ยวพร้อมอุปกรณ์ในราคา 1,050 เยน ใช้งานได้ 30 นาที หากเกินเวลาจะคิดเพิ่ม 530 เยนในทุกๆ 15 นาที นอกจากนี้ ที่อาคารผู้โดยสาร 3 ยังมีห้องนอนเดี่ยวเล็กๆ ให้เช่าได้ครั้งละ 60 นาที เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ใช้เที่ยวบินเวลากระชั้นชิดหรือเที่ยวบินที่ต้องต่อไฟล์ทยาว นอนพักเอาแรงสักนิดก่อนแล้วค่อยผจญภัยกันต่อเลย
ชมวิวเครื่องบินที่ดาดฟ้า
ในอาคารผู้โดยสารกลาง ชั้น 5 มีดาดฟ้าสังเกตการณ์อยู่ด้วยนะ! สามารถซื้อกาแฟมานั่งจิบชมเครื่องบินที่บินผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารถัดจากดาดฟ้าสังเกตการณ์ด้วย
・เวลาในการให้บริการ:
【เมษายนถึงกันยายน】6:30~21:00 น.
【ตุลาคมถึงมีนาคม】7:00~21:00 น.
※ เมื่อสภาพอากาศไม่ดีมักจะปิดให้บริการ
นั่งเก้าอี้นวดพร้อมชมวิว
ที่อาคารผู้โดยสารกลาง ชั้น 5 ทั้งฝั่งเหนือและใต้ มีเก้าอี้นวดหยอดเหรียญ ให้คุณนั่งนวดอย่างแสนผ่อนคลาย และเฝ้ามองเครื่องบินอย่างเพลินใจไปด้วยได้
สำหรับหลายๆ คน สนามบินนาริตะของโตเกียวถือเป็นจุดหมายแรกและปลายทางสุดท้ายของการเดินทาง แต่ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่สำหรับเข้าเมืองเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยบริการอันแสนใส่ใจ หากคุณมีเวลาเหลือ ลองเปลี่ยนสนามบินแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดู แล้วคุณจะต้องติดใจ!
☞ 延伸閱讀
・【วิธีเดินทางไป-กลับสนามบินนาริตะ】 จะด้วยรถไฟ แท็กซี่ หรือรถบัส บทความนี้บอกละเอียดยิบ!
・[คูปอง Bic Camera 2024] ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ต้อง Bic Camera เลย! รับส่วนลดปลอดภาษี 10% + คูปองส่วนลดสูงสุด 7%】
・คัมภีร์เดินทางจากฮาเนดะเข้าโตเกียว สายเที่ยวด้วยตัวเองไม่ควรพลาด!
・อย่าลืมมองหาสิ่งเหล่านี้เมื่อมาที่สนามบินฮาเนดะล่ะ! 5 เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้การมาสนามบินฮาเนดะน่าสนใจยิ่งขึ้น!
ถ่ายภาพ、撰文:Akane 2017.7.14
更新:AMO 2022.9.21
責任編輯:NeNe、aoi