หากคุณมาเที่ยวโตเกียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แน่นอนว่าต้องมีแผนไปชมซากุระไม่ผิดแน่ แต่เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้ว่า นอกจากซากุระแล้ว ยังมีดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่จะบานสะพรั่งในเดือนเมษายน นั่นคือดอกวิสทีเรีย หรือดอกฟูจิ สีม่วงห้อยระย้างอันงดงาม! หากคุณอยากลองไปสัมผัสกับ "เทศกาลดอกฟูจิ" ด้วยตัวเอง จะต้องไม่พลาด "สวนดอกไม้อาชิคางะ" สวนดอกไม้สุดฮิตในจังหวัดโทชิงิ ชานเมืองโตเกียว และในบทความนี้เราก็รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นไว้อย่างครบถ้วน พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
"สวนดอกไม้อาชิคางะ" ที่ดังไกลไปทั่วโลก: สัมผัสกับฉากอันงดงามราวกับหลุดเข้าไปในฉากหนัง "อวาตาร์" !
"สวนดอกไม้อาชิคางะ" ตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิงิ ชานเมืองโตเกียว ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมดอกไม้นานาพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินตลอดทั้งปี และที่เป็นไฮไลท์มากที่สุดในสวนแห่งนี้ก็คือ ดอกวิสทีเรีย ซึ่งที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวในฝันประจำปี 2014 โดย CNN สหรัฐอเมริกาโดยเว็บไซต์ทางการของ CNN ระบุว่า สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์ย้อยระย้าอย่างงดงาม ทั้งมีเสน่ห์และมนต์ขลังราวกับต้นไม้โบราณที่อยู่ในฉากในหนังเรื่อง "อวาตาร์" ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสรู้สึกเหมือนหลุดไปในหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว
ภาพความสวยงามตระการตาของดอกวิสทีเรียยักษ์ครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร
ภาพถ่ายโดย : ฮานะ
ภาพใต้อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้เข้าไปในโลกแห่งความฝัน
ภาพถ่ายโดย : ฮานะ
ชนิดของดอกวิสทีเรียและช่วงเวลาผลิบาน
ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นช่วงพีคที่ดอกวิสทีเรียบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ เหมาะสุดๆ แก่การมาเที่ยวชมดอกไม้ในช่วงนี้ ซึ่งนอกจากต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์แล้ว ก็ยังมีดอกวิสทีเรียหลากหลายสายพันธุ์ให้ชมอีกมากมาย ที่นี่จะมีอยู่ประมาณสี่สายพันธุ์ โดยมีสีและช่วงเวลาออกดอกแตกต่างกัน ดังนี้
"Yae-kokuryu " เล็กๆ น่ารักเหมือนลูกบอล
ภายถ่ายโดย: Hana
ดอกวิสทีเรียสีชมพูที่ห้อยลงมาราวกับม่านน้ำตกชวนให้บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ !
เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
・ดอกวิสทีเรีย : บานช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนเมษายน
・ดอกวิสทีเรียสีม่วง : บานช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
・ดอกวิสทีเรียสีขาว : บานช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
・ดอกวิสทีเรียสีเหลือง : บานช่วงต้นเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม
แม้การได้เห็นดอกวิสทีเรียทั้งสี่ชนิดผลิบานในช่วงเวลาเดียวกันนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละชนิดก็มีช่วงเวลาผลิบานไม่เหมือนกัน และแต่ละชนิดก็มีความงามในแบบของตัวเอง ทำให้การเลือกชนิดที่งดงามที่สุดนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้ดอกวิสทีเรียสีม่วงและสีชมพูจะเป็นสีที่พบได้บ่อยในสวนดอกไม้ทั่วไปก็จริง แต่ขนาดและความสง่างามของที่นี่ถือว่าเป็นไฮไลท์ยอดฮิตที่ที่อื่นเทียบไม่ได้เลย อีกทั้งยังมีวิสทีเรียสีขาวอันงดงามอ่อนโยน ส่วนดอกวิสทีเรียสีเหลืองก็สว่างไสวเรืองรองราวกับทอง เรียกได้ว่าถ้ามาโทชิงิ ต้องไม่พลาดโอกาสชมดอกวิสทีเรียทั้งสี่สีสักครั้ง
ดอกวิสทีเรียสีขาวสด
เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ดอกวิสทีเรียสีเหลืองสวยสดงดงาม
เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
นอกจากดอกวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์แล้ว ภายในสวนแห่งนี้ยังมีดอกวิสทีเรียขนาดเล็กอีกจำนวนมากที่เฝ้ารอคุณได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย และยังมีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่สามารถพบได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งรายล้อมไปด้วยดอกวิสทีเรียหนาแน่นประดับอยู่รอบ ๆ อุโมงค์ ถึงแม้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเดินลอดอุโมงค์นี้ แต่หากคุณได้เข้าไปข้างในแล้ว จะต้องตกตะลึงและโดนสะกดไปกับภาพอันสวยงามของดอกวิสทีเรียอันเนืองแน่น ราวกับว่าเวลาได้หยุดเดินอย่างแน่นอน
คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ : ช่วงเวลาผลิดอกจริงจะแตกต่างกันไปทุกปี ดังนั้น ก่อนออกเดินทาง ขอให้คุณได้ตรวจสอบข้อมูลช่วงเวลาผลิดอกบนหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการให้ดีก่อน
ดอกวิสทีเรียที่ถูกเนรมิตให้สว่างไสวในยามค่ำคืน ความระยิบระยับอันงดงาม
ที่สวนดอกไม้อาชิคางะ จะมีการจัดงานประดับไฟยามค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ทุกปีในช่วง "เทศกาลโอฟูจิ" โดยจะจัดขึ้นในเดือนเมษายนและพฤษภาคม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปการประดับไฟที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันในตอนเช้าและตอนเย็น โดยเฉพาะช่วงค่ำเป็นต้นไป จะมีการเพิ่มสีสันของดอกวิสทีเรียขนาดใหญ่ชวนให้รู้สึกโรแมนติกมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งความประทับใจที่คุณจะต้องร้องว้าวก็คือดอกวิสทีเรียสีม่วงเรียงร้อยห้อยระย้าในช่วงกลางคืนราวกับสร้อยคอที่ประดับเพชรพลอยอันหรูหรา และระยิบระยับเหมือนดวงดาวนับพันล้านดวงในกาแล็กซี
เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ไม่เพียงแค่ดอกวิสทีเรียเท่านั้น! เรายังได้รวบรวมปฏิทินการเที่ยวชมดอกไม้สี่ฤดูของสวน Ashikaga Flower Park แห่งนี้เอาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว
นอกจากดอกวิสทีเรียในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อนแล้ว สวนดอกไม้อาชิคางะยังมีดอกไม้อื่น ๆ ที่แข่งกันบานสะพรั่งตลอดทั้งปีอีกมากมาย แม้คุณจะพลาดช่วงเวลาชมฤดูดอกวิสทีเรียไป แต่คุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของดอกไม้อื่นๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันไม่แพ้ดอกวิสทีเรียได้เช่นกัน! เรารวบรวมกำหนดการจัดแสดงดอกไม้ในแต่ละฤดูกาลมาให้แล้ว ตามไปชมกันได้เลย
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม)
สวนดอกไม้อาชิคางะ จะมีชีวิตชีวามากในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากดอกซากุระทั่วไปแล้ว ยังมีกุหลาบพันปี ดอกฮีเธอร์ ดอกเคล็มแม็ททิสราชินีแห่งไม้เลื้อย และดอกละอองหิมะ (Spiraea thunbergii) บานสะพรั่งที่ชวนให้รู้สึกที่แสนโรแมนติก รวมไปถึงทิวทัศน์สวนอันเขียวชอุ่ม ที่รอให้คุณได้มาเยี่ยมชมได้ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อนซึ่งจะเป็นช่วงเวลาบานของดอกวิสทีเรียและตรงกับช่วงเทศกาลโกลเด้นวีคของญี่ปุ่นที่คราคร่ำไปด้วยบรรดานักท่องเที่ยวแห่มาเยือนอย่างคึกคัก
ดอกทิวลิป/เอื้อเฟื้อภาพ : สวนดอกไม้ Ashikaga
ดอกกุหลาบ/เอื้อเฟื้อภาพ : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ฤดูร้อน (มิถุนายนถึงสิงหาคม)
ก่อนจะถึงฤดูร้อน จะได้เจอกับฤดูฝน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งและยังมีดอกไอริสสีม่วงสดใส ดอกลิลลี่อันสง่างาม และดอกบัวในสระน้ำล้วนเป็นทิวทัศน์ที่ให้ฟิลฤดูร้อนของสวนดอกไม้อาชิคางะได้อย่างชัดเจน
ดอกไฮเดรนเยีย/เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ดอกไอริส/เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน)
ดอกไม้ที่ถือว่าเป็นพระเอกสวนแห่งสวนดอกไม้อาชิคางะในฤดูใบไม้ร่วงคือ ทุ่งดอกอเมทิสต์ เซจ หรือ Amethyst sage สีม่วง ที่มีลักษณะคล้ายกำมะหยี่ เมื่อบานสะพรั่งจะเป็นภาพที่ชวนฝันมาก!
ทุ่งดอกอเมทิสต์ เซจ/เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ทุ่งดอกอเมทิสต์ เซจ/เอื้อเฟื้อภาพ : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์)
หากคุณมาในช่วงฤดูหนาว จะได้พบกับดอกไม้นานาพันธุ์เช่น ดอกโบตั๋นฤดูหนาว ดอกคามิเลีย กุหลาบคริสต์มาส และดอก Pachysandra ที่ยังคงบานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิ และคุณยังสามารถเห็นดอกโบตั๋นสีแดงและดอกโรอุไบบานอยู่ตามกิ่งก้านอีกด้วย
กุหลาบคริสต์มาส/เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
ดอกโบตั๋นสีแดง/เอื้อเฟื้อภาพโดย : สวนดอกไม้อาชิคางะ
คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ : ช่วงเวลาผลิดอกจริงจะแตกต่างกันไปทุกปี ดังนั้น ก่อนออกเดินทางมายังที่นี่ ขอให้คุณได้ตรวจสอบข้อมูลช่วงเวลาผลิดอกบนหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการให้ดีก่อนมา
เทศกาลประจำปี! การประดับไฟฤดูหนาว ณ "สวนดอกไม้แห่งแสง"
หากคุณวางแผนที่จะเยี่ยมชมสวนดอกไม้อาชิคางะในฤดูหนาว คุณต้องไม่พลาดงานประดับไฟฤดูหนาวประจำปี "สวนดอกไม้แห่งแสง (Hikari no Hana no Niwa)" ที่จะเนรมิตพื้นที่ทั้งสวนให้กลายเป็นสวนแฟนตาซีที่สวยสดงดงาม! "สวนดอกไม้แห่งแสง" ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสามงานแสดงประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับเลือกให้เป็นสวนยอดฮิตเมื่อประดับไฟยามค่ำคืนเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกัน! โดยสวนดอกไม้อาชิคางะแห่งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 100,000 ตารางเมตร ภายในสวนจะมีการจัดเรียงประดับหลอดไฟ LED มากกว่า 5 ล้านลูกแบบไม่ซ้ำกันในทุกๆ ปี!
ถ่ายภาพโดย : นีน่า
ถ่ายภาพโดย : นีน่า
Flower Fantasy 2022-2023
・วันที่จัดแสดง: 15 ตุลาคม 2022 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2023
・เวลาประดับไฟ: 15:30~20:30 น. (เปิดถึง 21:00 น. ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
・ราคาค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 1,200 เยน/ เด็ก 600 เยน
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
มาทั้งที ต้องไม่พลาด : ของอร่อยยอดฮิตในสวนที่ต้องลองสักครั้ง
ถ่ายภาพโดย : ฮานะ
หนึ่งในอาหารยอดฮิตที่มีจำหน่ายในสวนนี้คือ "ซอฟท์ครีมรสวิสทีเรียสีม่วง" ซึ่งมีรสชาติหวานอร่อย พร้อมกลิ่นหอมน่าหลงใหลของดอกไม้ที่จะสัมผัสได้ยามที่ได้ทาน และที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างก็คือ มันจูย่างราดซอสสูตรเด็ด ที่วางขายบริเวณจุดพัก มันจูย่างร้อนๆ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนมาแต่ไกล ยิ่งราดซอสหวานเล็กน้อยบนมันจูที่กำลังร้อนๆ สี่ชิ้นแบบพอดีคำ หากทานไปพร้อมกับชมดอกไม้ไปด้วยบอกเลยว่าฟินสุด!
แนะนำการเดินทางไปยัง "สวนดอกไม้อาชิคางะ" และสรุปวิธีการซื้อตั๋ว
| ออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ | ขึ้น Narita Skyliner ไปลงสถานี "Nippori" → เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วน JR Joban Line ไปลงสถานี "Kita-Senju" → เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Ryomo ไปลงสถานี "เมืองอาชิคางะ" |
|---|---|
| ออกเดินทางจากสนามบินฮาเนดะ | ขึ้น Airport Rapid Express ไปลงสถานี "อาซากุสะ" → เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนพิเศษเรียวโมะไปลงสถานี "เมืองอาชิคางะ" |
| ออกเดินทางจากอาซากุสะ | ขึ้นรถไฟสายโทบุอิเซซากิไปยังเมืองอาชิคางะ หลังจากมาถึงเมืองอาชิคางะแล้ว ให้นั่งแท็กซี่ไปสวนฯ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที |
| ออกเดินทางจากสถานีโตเกียว | ขึ้นรถไฟสาย JR Keihin Tohoku ไปลงที่สถานี "Ueno" → เปลี่ยนไปนั่งสาย JR Utsunomiya ไปลงสถานี "Oyama" → เปลี่ยนไปนั่งสาย JR Ryomo ไปลงสถานี "Tomita" แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 13 นาที |
หากต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าชมสวนดอกไม้อาชิคางะ แนะนำว่าคุณควรซื้อตั๋วผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้เรียบร้อยก่อน
ซึ่งตอนนี้ คุณสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บไซด์โดยการซื้อตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ได้แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องต่อคิวยาวเหยียดเพื่อซื้อตั๋วในฤดูท่องเที่ยวอีกต่อไป!
สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park)
・ที่อยู่ : 607 Sakama-cho, Ashikaga City, Tochigi
・เวลาทำการ : 10:00~17:00 น.
・วันปิดทำการ : วันพุธและพฤหัสบดีที่สามของเดือนกุมภาพันธ์และ 31 ธันวาคม
・ราคาค่าเข้าชม : ราคาจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา สำหรับรายละเอียด สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
สวนดอกไม้อาชิคางะ ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในด้านดอกวิสทีเรียที่ชวนฝันเท่านั้น แต่ยังมีทิวทัศน์อันงดงามของดอกไม้หลากหลายชนิดอีกมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับไม่ถ้วนให้มาเยือนทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดโทชิงิ ถ้าคุณอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองโตเกียว ไปสู่ธรรมชาติที่งดงามราวภาพความฝัน เราขอแนะนำให้คุณใส่สถานที่นี้ไว้ในเช็กลิสต์ครั้งต่อไปของคุณได้เลย!
☞ แนะนำแผนการท่องเที่ยว
・KLOOK บัตรเข้าชมต้นเมเปิลนาสุ & เข้าชมการประดับไฟสวนดอกไม้อาชิคางะสำหรับ 1 วัน
・KKday โทจิกิ・ทัวร์กุมมะ 1 วัน｜เข้าชมการแสดงประดับไฟสวนดอกไม้อาชิคางะ & เก็บสตรอว์เบอร์รี & บุฟเฟ่ย์ปูไม่อั้น & ประสบการณ์ตักฟองเต้าหู้｜ออกเดินทางจากตัวเมืองโตเกียว
รวบรวมและการเขียนโดย : Hana 2017.4.11
อัปเดตโดย: Nene 2023.1
บรรณาธิการโดย : Ning, Gin