วันนี้ "JapaiJAPAN" จะมาแนะนำ 15 สถานที่ชมใบไม้แดงที่ห้ามพลาดสำหรับการเที่ยวชิโกกุด้วยตัวเอง: วัดนิชิยามะโคริวจิ หรือ "วัดใบไม้แดง" ในเอฮิเมะ, หุบเขาคังคะเคในคางาวะที่สามารถขึ้นกระเช้าเพื่อชมใบไม้แดง, หุบเขาเซโดกาวะ สถานที่ลับที่ต้องไปในโคจิ, และภูเขาซึรูกิในโทคุชิมะที่มีการจัดเทศกาลใบไม้แดงบนยอดเขา ทุกสถานที่ล้วนเป็นจุดถ่ายภาพที่คุณจะได้ภาพใบเมเปิ้ลสีแดงแบบเต็มตาและถ่ายรูปได้แบบเต็มเฟรม และเรายังได้รวบรวมการพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมและวิธีการเดินทางไปยังแต่ละสถานที่ไว้แล้ว นี่คือคู่มือเส้นทางท่องเที่ยวที่คุณต้องเก็บไว้สำหรับทริปชมใบไม้แดงที่ชิโกกุปี 2024!
．15 สถานที่แนะนำสำหรับชมใบไม้แดงในชิโกกุ
☞จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดคางาวะ
．สวนริตสึริน
．หุบเขาคังคะเค
．วัดอุนเปจิ
☞จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดเอฮิเมะ
．ปราสาทมัตสึยามะ
．ภูเขาอิชิซูจิ
．สวนอินาริยามะ
．วัดนิชิยามะโคริวจิ
．หุบเขานาเมะโทโกะ และน้ำตกยูกิวะ
．หุบเขาโอโมโกะ
☞จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดโทคุชิมะ
．ภูเขาซึรูกิ
．สะพานอิยาโนะ คาซึระ
．โอโบเกะ และ โคโบเกะ
☞จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดโคจิ
．หุบเขาเบฟุ
．วัดจิคุรินจิ บนภูเขาโกะได
．หุบเขาเซโดกาวะ
☞แผนการเดินทางตัวอย่าง 3 วัน 2 คืนสำหรับขับรถเที่ยวชิโกกุ
จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดคางาวะ
[สวนริตสึริน]
สวนริตสึรินในฤดูใบไม้ร่วง แสดงให้เห็นถึงความงามอันมีกวีและความเรียบง่ายของใบไม้แดง
ที่มาภาพ：PR TIMES
"สวนริตสึริน" สมบัติทางวัฒนธรรมพิเศษของญี่ปุ่น เป็นคฤหาสน์เก่าของตระกูลมัตสึไดระ เจ้าเมืองทาคามัตสึ สวนผสานเข้ากับภูเขาชิอุนที่อยู่เบื้องหลังได้อย่างลงตัว ด้วยพื้นที่อันกว้างขวางและการจัดสวนที่เต็มไปด้วยศิลปะ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "สมบัติแห่งชาติในหมู่สวน" และได้รับการจัดอันดับ 3 ดาวจากมิชลิน ในฐานะ "สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าที่สุด" ต่างจากจุดชมใบไม้แดงอื่น ๆ ในชิโกกุที่มักจะเป็นภูเขาอันยิ่งใหญ่และหุบเขาที่แปลกตา สวนริตสึริน ในฤดูใบไม้ร่วงแสดงให้เห็นถึงความงามอันเรียบง่ายราวบทกวีของใบไม้แดง
สวนริตสึริน
・ที่อยู่：1-20-16 Ritsurin-cho, Takamatsu-shi, Kagawa-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ 410 เยน, เด็ก 170 เยน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：เดิน 3 นาทีจากสถานี JR "ริตสึรินโคเอ็น คิตะกุจิ"
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [60 575 139*50] (สวนริตสึริน)
จากสนามบินทาคามัตสึ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 45" → "ถนนหลวงหมายเลข 193" → "ถนนหลวงหมายเลข 32" ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดคางาวะ
[หุบเขาคังคะเค]
กระเช้าที่หุบเขาคังคะเค สามารถมองเห็นเทือกเขาที่ถูกย้อมเป็นสีแดงด้านล่าง
ที่มาภาพ：photo AC
"หุบเขาคังคะเค" ตั้งอยู่บนเกาะโชโดะในจังหวัดคางาวะ เป็นหนึ่งในสามหุบเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 13 ล้านปีก่อน ทำให้เกิดโขดหินประหลาดและยอดเขาสูงที่เห็นในปัจจุบัน ในฤดูใบไม้ร่วง การนั่ง "กระเช้าคังคะเค" จะทำให้คุณได้ชมวิวเทือกเขาที่ถูกย้อมเป็นสีแดงด้านล่าง และทะเลเซโตะในไดสีฟ้าคราม บางครั้งมีหมอกลอยวนเหมือนดินแดนแห่งเทพนิยาย สร้างความประทับใจที่ไม่อาจบรรยายได้
หุบเขาคังคะเค (กระเช้าคังคะเค)
・ที่อยู่：1974-57 Marui, Onohara-cho, Kanonji-shi, Kagawa-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากเมืองทาคามัตสึ นั่งเรือเฟอร์รี่ไปยัง "ท่าเรือคาสุคาเบะ" บนเกาะโชโดะ จากนั้นนั่งรถบัสประมาณ 15 นาที ลงที่ป้าย "โคอุนเต" จะถึงสถานีกระเช้า
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [758 020 596*70] (กระเช้าคังคะเค สถานีโคอุนเต)
สามารถเช่ารถที่ท่าเรือทาคามัตสึ แล้วนั่งเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะโชโดะ จากนั้นใช้เส้นทาง "ถนนหลวงหมายเลข 436" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 29" ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงรวมการเดินทางทั้งเรือและรถ
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：กระเช้าคังคะเค
วัดอุนเปจิ
ทัศนียภาพรอบๆ วัดดูราวกับความฝัน ท่ามกลางหมอกยามเช้าในฤดูใบไม้ร่วง
ที่มาภาพ：photo AC
"วัดอุนเปจิ" ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดคางาวะและจังหวัดโทคุชิมะ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่สูง ฤดูใบไม้ร่วงจึงมาถึงเร็วกว่าที่อื่น ภูเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้แดงตัดกับท้องฟ้าสีครามสร้างความงดงามที่เป็นสวรรค์ของช่างภาพ สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของวัดอุนเปจิ คือรูปปั้นอรหันต์ 500 องค์ แต่ละองค์มีสีหน้าและท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์ ราวกับกำลังเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกัน ทัศนียภาพรอบ ๆ วัดก็ดูงดงามราวกับความฝัน การมองทะเลเซโตะในยามเช้าที่มีหมอกลอยในฤดูใบไม้ร่วงสร้างความประทับใจที่ไม่มีวันลืม ทุกคนสามารถเลือกเดินขึ้นเขาหรือนั่งกระเช้า หากเลือกวิธีหลัง อย่าพลาดชมวิวอันยิ่งใหญ่ของหุบเขาทั้งหมดจากที่สูงนะ!
วัดอุนเปจิ
・ที่อยู่：Kamikake-dori, Shodoshima-cho, Shozu-gun, Kagawa-ken
・ช่วงเวลาชม：ต้นเดือนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：ลงที่สถานี JR "คังออนจิ" แล้วนั่งรถบัสสาย Awai-Himehama ลงที่ป้าย "ทานิกุจิ" จะถึงจุดเริ่มเส้นทางเดินขึ้นเขา
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [207 805 310*22] (กระเช้าวัดอุนเปจิ สถานีซันโรกุ)
จากสนามบินทาคามัตสึ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 45" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 174" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 17" → "ถนนหลวงหมายเลข 438" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 202" → "ถนนหลวงหมายเลข 319" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 218" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 5" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 241" ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：กระเช้าวัดอุนเปจิ
จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดเอฮิเมะ
ปราสาทมัตสึยามะ
ปราสาทมัตสึยามะในฤดูใบไม้ร่วงถูกล้อมรอบด้วยใบไม้แดง เมื่อมีหมอกจึงเป็น "ปราสาทบนท้องฟ้า" อย่างแท้จริง
ที่มาภาพ：photo AC
"ปราสาทมัตสึยามะ" เป็นหนึ่งในปราสาทประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีใบไม้แดงภายในปราสาทไม่มากเท่าสถานที่อื่น แต่เนื่องจากปราสาทมัตสึยามะตั้งอยู่บนยอดเขาคัตสึยามะ และถูกล้อมรอบด้วยเนินเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้แดง จึงเป็นภาพที่ทั้งสวยและสง่างามจนดึงดูดให้ทุกคนมาชมใบไม้แดง เมื่อขึ้นไปบนหอคอยหลัก จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพฤดูใบไม้ร่วงของเมืองไปจนถึงทะเลเซโตะในได้อย่างชัดเจน หลังจากเยี่ยมชมปราสาทมัตสึยามะแล้ว แนะนำให้แวะไปที่ "จุดชมวิวทะเลหมอกปราสาทมัตสึยามะ" ที่ซึ่งคุณอาจมีโอกาสได้เห็นและถ่ายภาพ "ปราสาทบนท้องฟ้า" ที่โผล่ขึ้นมาจากหมอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแสงอาทิตย์ยามเย็นและใบไม้แดงเสริมความงาม ทำให้ทัศนียภาพดูเหมือนความฝันมากยิ่งขึ้น
ปราสาทมัตสึยามะ
・ที่อยู่：1 Marunouchi, Matsuyama-shi, Ehime-ken
・ช่วงเวลาชม：ปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・เวลาทำการ：
[กุมภาพันธ์-กรกฎาคม, กันยายน-พฤศจิกายน] 9:00-17:00
[สิงหาคม] 9:00-17:30
[ธันวาคม-มกราคม] 9:00-16:30
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ 520 เยน, เด็ก 160 เยน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：ลงที่สถานีรถรางในเมือง "โอไคโด" เดิน 5 นาทีไปขึ้นกระเช้า
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [53 347 065*53] (ปราสาทมัตสึยามะ)
จากสนามบินมัตสึยามะ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 22" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนหลวงหมายเลข 56" ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ：ปราสาทมัตสึยามะ
ภูเขาอิชิซูจิ
การปีนเขาอิชิซูจิในฤดูใบไม้ร่วงเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการปีนเขา
ที่มาภาพ：photo AC
"ภูเขาอิชิซูจิ" เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในชิโกกุ มีความสูง 1,982 เมตร ทุกปีใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากยอดเขาในเดือนตุลาคม และค่อย ๆ ลามลงมาจนถึงเชิงเขาในปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นการไล่ระดับสีอันงดงาม การปีนเขาอิชิซูจิ ไม่เพียงแต่เป็นการท้าทายขีดจำกัดของร่างกาย แต่ยังสามารถชม "ทะเลใบไม้แดง" จากยอดเขาได้รอบทิศทาง บริเวณเชิงเขายังมีจุดชมใบไม้แดงที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น "หุบเขาซัมเปกิ" และ "น้ำตกทาคาทารุ" ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการปีนเขา ไม่ว่าจะเลือกเดินขึ้นเขาหรือนั่งกระเช้า ภูเขาอิชิซูจิมีทัศนียภาพฤดูใบไม้ร่วงที่หลากหลายให้ทุกคนได้ชื่นชม
ภูเขาอิชิซูจิ
・ที่อยู่：อุทยานแห่งชาติอิชิซูจิ, Kumakogen-cho, Kamiukena-gun, Ehime-ken
・ช่วงเวลาชม：ต้นเดือนตุลาคม - ปลายเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：ลงที่สถานี JR "อิโยไซโจ" แล้วนั่งรถบัส Setouchi ลงที่ป้าย "โรปเวย์-มาเอะ" เพื่อไปยังสถานีกระเช้า
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [822 453 842*43] (กระเช้าภูเขาอิชิซูจิ สถานีเชิงเขา)
จากสนามบินมัตสึยามะ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนหลวงหมายเลข 56" → "ถนนหลวงหมายเลข 33" → "ถนนหลวงหมายเลข 11" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 12" ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：บริษัทกระเช้าภูเขาอิชิซูจิ、เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของระบบภูเขาอิชิซูจิ
[สวนสาธารณะอินาริยามะ]
สวนสาธารณะอินาริยามะ เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเอฮิเมะ
ที่มาภาพ：เว็บไซต์เมือง Ozu
"สวนสาธารณะอินาริยามะ" ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขาคันนัน ในเมืองโอสุ เป็นสวนป่าที่ให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ สวนแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลอายุประมาณ 200 ปีอยู่ด้วย ในอดีต เจ้าเมืองนียะที่ปกครองพื้นที่นี้ได้ย้ายต้นกล้าจำนวน 3,000 ต้นมาจากภูเขาทาคาโอะในเกียวโต ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเอฮิเมะ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ใบไม้สีแดงจะร่วงปกคลุมพื้นที่ราวกับพรมสีแดงงดงาม ในช่วงเทศกาลใบไม้แดงจะมีร้านค้าและการประดับไฟในยามค่ำคืน แนะนำให้ผู้ที่สนใจมาชมใบไม้แดงติดตามกำหนดการการประดับไฟและเทศกาลใบไม้แดงที่ประกาศอย่างเป็นทางการ
สวนสาธารณะอินาริยามะ เมืองโอสุ
・ที่อยู่：Niiya, Ozu-shi, Ehime-ken
・ช่วงเวลาชม：ปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "อิโยโอสุ" นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [204 387 881*17] (สวนสาธารณะอินาริยามะ เมืองโอสุ)
จากสนามบินมัตสึยามะ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 56" → "ถนนหลวงหมายเลข 33" → "ถนนหลวงหมายเลข 56" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 230" ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：เว็บไซต์เมือง Ozu
[วัดนิชิยามะโคริวจิ]
ใบไม้แดงในบริเวณวัดนิชิยามะโคริวจิ ผสานเข้ากับเทือกเขาโดยรอบได้อย่างลงตัว จนได้ชื่อว่าเป็น 'วัดใบไม้แดง'
ที่มาภาพ：เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมือง Saijo
"วัดนิชิยามะโคริวจิ" ที่มีผู้มาสักการะมากมายตลอดทั้งปี มีหอประธานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงฤดูใบไม้แดง ใบไม้แดงในบริเวณวัดผสานเข้ากับเทือกเขาโดยรอบได้อย่างลงตัว อาคารโบราณกับใบไม้แดงก็เป็นภาพที่ลงตัวอย่างมาก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "วัดใบไม้แดง" ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเอฮิเมะ
วัดนิชิยามะโคริวจิ
・ที่อยู่：1657 Furuta, Tanbara-cho, Saijo-shi, Ehime-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・เวลาทำการ：7:00-17:00
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "นีฮามะ" นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [119 243 250*04] (วัดนิชิยามะโคริวจิ)
จากสนามบินมัตสึยามะ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนหลวงหมายเลข 56" → "ถนนหลวงหมายเลข 33" → "ถนนหลวงหมายเลข 11" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 147" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 151" ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมือง Saijo
[หุบเขานาเมะโทโกะ และน้ำตกยูกิวะ]
น้ำในหุบเขานาเมะโทโกะ ใสจนมองเห็นก้นลำธาร ทัศนียภาพริมฝั่งสวยงาม
ที่มาภาพ：photo AC
"หุบเขานาเมะโทโกะ" เป็นหุบเขาที่อยู่ในส่วนต้นน้ำของแม่น้ำเมกุโระ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำชิมันโตะ มีความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ป่าต้นน้ำ น้ำในหุบเขานาเมะโทโกะใสจนมองเห็นก้นลำธาร มีทัศนียภาพริมฝั่งที่สวยงาม จุดชมใบไม้แดงที่ดีที่สุดคือ "น้ำตกยูกิวะ" ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินจากทางเข้าประมาณ 40 นาที สามารถชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตก โขดหิน และระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ได้พร้อมกัน นับเป็นจุดชมใบไม้แดงแบบ "4D" ที่แนะนำให้มาสัมผัสด้วยตัวเองมากกว่าดูจากภาพถ่าย
หุบเขานาเมะโทโกะ และน้ำตกยูกิวะ
・ที่อยู่：Meguro/Nogawa, Matsuno-cho, Kitauwa-gun, Ehime-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "มัตสึมารุ" นั่งแท็กซี่ประมาณ 25 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [176 108 896*38] (หุบเขานาเมะโทโกะ)
จากสนามบินมัตสึยามะ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนหลวงหมายเลข 56" → "ถนนหลวงหมายเลข 33" → "ทางด่วนมัตสึยามะ" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 131" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 57" → "ถนนหลวงหมายเลข 320" → "ถนนหลวงหมายเลข 381" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 8" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 270" ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมืองมัตสึโนะ จังหวัดเอฮิเมะ
[หุบเขาโอโมโกะ]
น้ำสีเขียวมรกตของหุบเขาโอโมโกะ สะท้อนประกายคู่กับใบไม้แดงและเหลืองที่ทอประสานกัน
ที่มาภาพ：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของจังหวัดเอฮิเมะ
"หุบเขาโอโมโกะ" เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เชิงเขาอิชิซูจิ หนึ่งในเจ็ดภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ใบเมเปิ้ลจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน โขดหินสีขาว น้ำสีเขียวมรกต และใบไม้สีแดงเหลืองที่ทอประสานกันสร้างทัศนียภาพที่งดงามเกินบรรยาย น้ำในหุบเขาโอโมโกะใสมากจนสามารถมองเห็นก้นลำธารได้แม้จากทางเดินชมวิว เมื่อผสานกับบรรยากาศในป่าเขา สภาพแวดล้อมทั้งหมดให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับได้ชำระล้างตนเองจากความวุ่นวายทั้งปวง
หุบเขาโอโมโกะ
・ที่อยู่：อุทยานแห่งชาติอิชิซูจิ, Wakayama, Kumakogen-cho, Kamiukena-gun, Ehime-ken
・ช่วงเวลาชม：ปลายเดือนตุลาคม - กลางเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "มัตสึยามะ" นั่งรถบัส JR ลงที่ป้าย "คุมะจูกักโค-มาเอะ" จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถบัส Iyo Railway จากสถานี "คุมะเอเกียวโชะ" (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ลงที่ป้าย "โอโมโกะ" และเดินต่อประมาณ 15 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [294 597 202*02] (หุบเขาโอโมโกะ)
จากสนามบินมัตสึยามะ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 18" → "ถนนหลวงหมายเลข 56" → "ถนนหลวงหมายเลข 33" → "ถนนหลวงหมายเลข 11" → "ถนนหลวงหมายเลข 494" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 12" ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：สมาคมการท่องเที่ยวเมือง Kumakogen
จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดโทคุชิมะ
[ภูเขาซึรูกิ]
เมื่อขึ้นภูเขาซึรูกิในวันที่อากาศดี สามารถมองเห็นทะเลเซโตะใน, คิชูและช่องแคบอาชิซูริ ได้จากยอดเขา
ที่มาภาพ：เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดโทคุชิมะ Awa Navi
"ภูเขาซึรูกิ" หนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองในญี่ปุ่นตะวันตก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติซึรูกิมีความสูง 1,955 เมตร สามารถใช้ลิฟต์ขึ้นเขาได้ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นทะเลเซโตะใน, คิชูและช่องแคบอาชิซูริ ได้จากยอดเขา ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีประมาณต้นเดือนตุลาคม และเข้าสู่ช่วงชมใบไม้แดงในกลางถึงปลายเดือนตุลาคม ทุกปีในช่วงนี้จะมีการจัดเทศกาลใบไม้แดงภูเขาซึรูกิ บนยอดเขา หากกำลังวางแผนการเดินทาง แนะนำให้ติดตามข่าวสารอย่างเป็นทางการ
ภูเขาซึรูกิ
・ที่อยู่：Minokoshi Sugo, Higashiiya, Miyoshi-shi, Tokushima-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "อาวะ-คิเคดะ" นั่งรถบัส Shikoku Kotsu ลงที่ป้าย "คุโบะ" แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถบัสเมืองลงที่ป้าย "ซึรูกิซัง มิโนโคชิ"
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [497 401 510*22] (ลิฟต์ท่องเที่ยวภูเขาซึรูกิ)
จากสนามบินโคจิ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 13" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 364" → "ถนนหลวงหมายเลข 32" → "ถนนหลวงหมายเลข 439" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 45" "ถนนจังหวัดหมายเลข 32" → "ถนนหลวงหมายเลข 438" ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：บริษัทลิฟต์ท่องเที่ยวภูเขาซึรูกิ
[สะพานอิยาโนะ คาซึระ]
ทัศนียภาพใบไม้แดงที่สะพานอิยาโนะ คาซึระ มีบรรยากาศลึกลับน่าค้นหา
ที่มาภาพ：photo AC
"สะพานอิยาโนะ คาซึระ" มีตำนานเล่าว่าเป็นที่หลบซ่อนตัวของขุนนางตระกูลเฮเกะ ที่ตกยากในสมัยเฮอัน เพื่อหลบหนีการไล่ล่าของศัตรู พวกเขาได้สร้างสะพานจากเถาวัลย์กีวี ซึ่งสามารถตัดทิ้งได้ในยามคับขัน สะพานอิยาโนะ คาซึระ ตั้งอยู่ในภูเขาลึก ตำแหน่งที่ตั้งซ่อนเร้น อีกทั้งสภาพอากาศในภูเขามักแปรปรวนและมีหมอกลงอยู่บ่อย ๆ เมื่อรวมกับตำนานนี้ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศลึกลับของสถานที่ชมใบไม้แดงแห่งนี้
สะพานอิยาโนะ คาซึระ
・ที่อยู่：162-2 Zentoku, Nishi-Iyayama-son, Miyoshi-shi
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
・ค่าเข้าชม：ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็กประถมหรือต่ำกว่า 350 เยน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "โอโบเกะ" นั่งรถบัส Shikoku Kotsu ลงที่ป้าย "คาซึระบาชิ" เดินต่อประมาณ 5 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [357 130 557*82] (สะพานอิยาโนะ คาซึระ)
จากสนามบินโคจิ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 13" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 364" → "ถนนหลวงหมายเลข 32" → "ถนนหลวงหมายเลข 439" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 45" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 32" ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：สำนักงานการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนเมืองมิโทโยะ、เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดโทคุชิมะ Awa Navi
[โอโบเกะ และ โคโบเกะ]
การนั่งเรือเที่ยวชม โอโบเกะ และ โคโบเกะ ทำให้สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของหุบเขา น่าตื่นตาตื่นใจมาก
ที่มาภาพ：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมือง Miyoshi
"โอบุเคะ" เป็นหุบเขาที่สวยที่สุดในโทคุชิมะ มีหน้าผาสูงชันสองฝั่งถูกกัดเซาะด้วยน้ำจนกลายเป็นหุบเขารูปตัว V ที่งดงามตามธรรมชาติ ถัดลงไป 3 กิโลเมตรคือ "โคบุเคะ" แม้จะแคบกว่าแต่หน้าผาหินทรายดูประณีตงดงามไม่แพ้กัน
ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะได้เห็นใบไม้แดงย้อมทั้งหุบเขาสวยงาม และถ้าได้ล่องเรือชมวิว จะยิ่งรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อลังการของหุบเขาได้อย่างเต็มที่!
โอโบเกะ และ โคโบเกะ
・ที่อยู่：Nishi-u, Yamashiro-cho, Miyoshi-shi
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
・เวลาทำการเรือเที่ยวชม：9:00-17:00 (รอบสุดท้าย 16:30)
・ค่าเรือเที่ยวชม：ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็กอายุ 3 ขวบถึงประถมศึกษา 750 เยน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "โอโบเกะ" เดินประมาณ 25 นาทีถึงท่าเรือ
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [357 151 828*51] (เรือเที่ยวชมหุบเขาโอโบเกะ)
จากสนามบินโคจิ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 13" → "ถนนหลวงหมายเลข 55" → "ซายามะ" → "ถนนหลวงหมายเลข 32" → "ถนนหลวงหมายเลข 439" ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมือง Miyoshi、เว็บไซต์จังหวัดโทคุชิมะ、เรือเที่ยวชมหุบเขาโอโบเกะ
จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดโคจิ
[หุบเขาเบฟุ]
ทัศนียภาพธรรมชาติของหุบเขาเบฟุมีความหลากหลาย สามารถชมความงามที่แตกต่างกันได้ทั้งสี่ฤดู
ที่มาภาพ：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของจังหวัดโคจิ
"หุบเขาเบฟุ" ตั้งอยู่ในต้นน้ำแม่น้ำโมโนเบะในอุทยานแห่งชาติซึรูกิ ทัศนียภาพธรรมชาติของหุบเขามีความหลากหลาย สามารถชมความงามที่แตกต่างกันได้ทั้งสี่ฤดู ใบไม้แดงของหุบเขาเบฟุมีชื่อเสียงเป็นพิเศษ ริมฝั่งลำธารใสเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลสีเหลือง ส้ม และแดง สีสันที่แข่งขันกันของใบไม้แดงสลับกับใบไม้สีเขียวเป็นครั้งคราว ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและมีมิติมากขึ้น ในช่วงฤดูใบไม้แดงของทุกปี จะมี "ร้านน้ำชาใบไม้แดง" เปิดให้บริการในช่วงเวลาจำกัด สามารถลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอย่างซูชิชนบท โซบะทำมือ และปลาอายุย่าง ท่ามกลางทิวทัศน์ใบไม้แดง เป็นรสชาติอันแสนพิเศษที่หาทานได้ในช่วงเวลานี้เท่านั้น!
หุบเขาเบฟุ
・ที่อยู่：113 เบฟุ, Monobe-cho, Kami-shi, Kochi-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "โทสะ-ยามาดะ" นั่งรถบัส JR ลงที่ป้าย "บิราฟุ" จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถบัสเมืองไปยังป้าย "โอโทจิ" แล้วเปลี่ยนไปนั่งสายเบฟุ ลงที่ป้าย "เบฟุ" เดินต่อประมาณ 15 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [497 064 090*86] (หุบเขาเบฟุ)
จากสนามบินโคจิ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 13" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 364" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 372" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 234" → "ถนนหลวงหมายเลข 195" ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของจังหวัดโคจิ
วัดจิคุรินจิ บนภูเขาโกะได
ในฤดูใบไม้ร่วง วัดจิคุรินจิถูกล้อมรอบด้วยใบไม้แดงหลากสี สร้างความตัดกันอย่างชัดเจนกับอาคารอันสง่างามภายในวัด
ที่มาภาพ：photo AC
"วัดจิคุรินจิ" ตั้งอยู่บนภูเขาโกะได ในจังหวัดโคจิ เป็นวัดที่เต็มไปด้วยบรรยากาศทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในฤดูใบไม้ร่วง บริเวณวัดจะถูกล้อมรอบด้วยใบไม้แดงหลากสี เป็นสีสันที่ตัดกันอย่างชัดเจนกับอาคารอันสง่างามภายในวัด เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นโบราณ สวนภายในวัดก็เป็นอีกไฮไลต์หนึ่ง ด้วยความหลากหลายของระดับชั้นและสีสันสดใส สร้างโลกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม ดึงดูดช่างภาพและนักท่องเที่ยวมากมายมาชมในทุกปี นอกจากนี้ จากภูเขาโกะไดที่ตั้งของวัดจิคุรินจิยังสามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของเมืองโคจิ เป็นจุดชมทัศนียภาพฤดูใบไม้ร่วงของเมืองที่ยอดเยี่ยม!
วัดจิคุรินจิ บนภูเขาโกะได
・ที่อยู่：3577 โกะไดซัง, Kochi-shi, Kochi-ken
・ช่วงเวลาชม：กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・เวลาทำการ：
[ภายในวัด] 8:00-17:00
[หอสมบัติและสวน] 8:30-17:00
・ค่าเข้าชมหอสมบัติและสวน：ผู้ใหญ่ 400 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน, นักเรียนมัธยมต้น 150 เยน, นักเรียนประถม 100 เยน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "โคจิ" นั่งรถบัสท่องเที่ยว MY (MY Tour Bus) ลงที่ป้าย "จิคุรินจิ-มาเอะ"
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [73 159 165*80] (วัดจิคุรินจิ บนภูเขาโกะได)
จากสนามบินโคจิ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 13" → "ถนนหลวงหมายเลข 55" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 376" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 32" ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：วัดจิคุรินจิ บนภูเขาโกะได
[หุบเขาเซโดกาวะ]
น้ำตกสูง 30 เมตรในหุบเขาเซโดกาวะ พร้อมกับใบไม้แดงและใบไม้เขียว เป็นจุดชมใบไม้แดงลับๆ ในจังหวัดโคจิ
ที่มาภาพ：Tourism Shikoku
"หุบเขาเซโดกาวะ" ที่อยู่ต้นน้ำของแม่น้ำเซโตะ ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่สูงกว่า 1,000 เมตร ประกอบด้วยป่าดั้งเดิมที่อุดมสมบูรณ์และลำธารใส สร้างทัศนียภาพธรรมชาติที่แทบไม่ได้ถูกดัดแปลง จุดชมที่ดีที่สุดคือ "น้ำตก AMEGAERI" ที่พื้นลำธารและโขดหินถูกธรรมชาติสลัก แบ่งสายน้ำเป็นน้ำตกสองระดับที่มีความต่างระดับ 30 เมตร เมื่อรวมกับใบไม้แดงและใบไม้เขียว ทำให้เป็นจุดชมใบไม้แดงลับ ๆ ที่แนะนำให้ไปในจังหวัดโคจิ
หุบเขาเซโดกาวะ
・ที่อยู่：Seto, Tosa-cho, Tosa-gun, Kochi-ken
・ช่วงเวลาชม：ต้นเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
・การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ：จากสถานี JR "โอสุกิ" นั่งแท็กซี่ประมาณ 70 นาที
・การเดินทางโดยรถยนต์：Mapcode [558 498 578*13] (หุบเขาเซโดกาวะ)
จากสนามบินโคจิ ใช้เส้นทาง "ถนนจังหวัดหมายเลข 13" → "ถนนหลวงหมายเลข 55" → "ซายามะ" → "ถนนหลวงหมายเลข 32" → "ถนนหลวงหมายเลข 439" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 265" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 17" → "ถนนจังหวัดหมายเลข 6" ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
・เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง：เว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของจังหวัดโคจิ
ตัวอย่างแผนการเดินทาง 3 วัน 2 คืนในชิโกกุ (สำหรับช่วงชมใบไม้แดงกลางเดือนพฤศจิกายน)
→ วัดจิคุรินจิ บนภูเขาโกะได (อาหารกลางวัน, ชมใบไม้แดง)
→ จุดชมวิวโอโบเกะ, โคโบเกะ (ชมใบไม้แดง)
→ หุบเขาโอโบเกะ (เข้าพักที่โรงแรม Obokekyo Mannaka, อาหารเย็น, ออนเซ็น)
→ สะพานอิยาโนะ คาซึระ (ชมใบไม้แดง)
→ สวนริตสึริน (ชมใบไม้แดง, อาหารกลางวัน)
→ หุบเขาคังคะเค (ชมใบไม้แดง)
→ ใจกลางเมืองสถานีทาคามัตสึ (เข้าพักที่โรงแรม Takamatsu Tokyu REI, อาหารเย็น)
→ วัดอุนเปจิ (ชมใบไม้แดง, อาหารกลางวัน) สนามบินทาคามัตสึ (คืนรถ, ซื้อของฝาก)
พูดถึงภูมิภาคชิโกกุของญี่ปุ่น สถานที่ลับ ๆ นั้นพูดเท่าไหร่ก็ไม่หมด! และจุดชมใบไม้แดงส่วนใหญ่ในชิโกกุเน้นไปที่ธรรมชาติ ในขณะที่สัมผัสกับภูเขาและแม่น้ำที่ยังคงสภาพดั้งเดิม ก็สามารถชื่นชมความงามของใบไม้แดงที่น่าประทับใจ มาหลีกหนีจากความวุ่นวายชั่วคราวและกลับสู่อ้อมกอดของธรรมชาติไปด้วยกันนะ!