เมื่อเผชิญกับปัญหา "ผลกระทบจากการท่องเที่ยว" และ "นักท่องเที่ยวที่ล้นเกิน" ซึ่งเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วญี่ปุ่นต่างก็คิดค้นมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun สมบัติประจำชาติของจังหวัดเฮียวโงะ อย่าง "ปราสาทฮิเมจิ" ก็ได้ประกาศข่าวอันน่าตกใจเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยนายกเทศมนตรีได้เปิดเผยว่ากำลังพิจารณาปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าในคราวเดียว! งบประมาณที่เพิ่มขึ้นนี้มีแผนจะนำไปใช้สำหรับมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ "ผลกระทบจากการท่องเที่ยว" รวมถึงการบูรณะปราสาทโบราณแห่งนี้อีกด้วย
ก่อนอื่น ไปรู้จักกับ "ปราสาทฮิเมจิ" สัญลักษณ์ของปราสาทโบราณของญี่ปุ่นที่ยืนหยัดข้ามกาลเวลากันก่อน
"ปราสาทฮิเมจิ" ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ เป็นปราสาทโบราณที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง กำแพงปราสาทสีขาวบริสุทธิ์สง่างามทำให้มันได้รับสมญานามว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1993 และต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศอย่างไม่ขาดสายทุกปี "ปราสาทฮิเมจิ" ยังเป็นปราสาทที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยเอโดะ, เมจิ, โชวะ และการบูรณะครั้งล่าสุดเป็นโครงการใหญ่ที่ดำเนินการในสมัยเฮเซ แม้จะผ่านการเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามกาลเวลามานับครั้งไม่ถ้วน "ปราสาทฮิเมจิ" ก็ยังคงพิสูจน์ให้เห็นถึงสถานะที่อันไม่อาจทดแทนได้
เพื่อป้องกัน "ผลกระทบจากการท่องเที่ยว" จึงเตรียมปรับขึ้นค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติเป็น 30 ดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง กระแส "เที่ยวล้างแค้น" ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ในปี 2023 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมชม "ปราสาทฮิเมจิ" มากถึง 450,000 คน คิดเป็นหนึ่งในสามของจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ซึ่งทำลายสถิติของปีก่อน ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดกรณี "ผลกระทบจากการท่องเที่ยว" หลากหลายรูปแบบ นายคิโยโมโตะ ฮิเดยาสุ นายกเทศมนตรีเมืองฮิเมจิ ได้กล่าวในการงานแถลงข่าวระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2024 ว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาแผนการ "ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ" โดยคาดว่าอาจจะปรับเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า
ปัจจุบันค่าเข้าชม "ปราสาทฮิเมจิ" ราคาเต็มอยู่ที่ 1,000 เยน ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่นายกเทศมนตรีคิโยโมโตะกล่าวว่ากำลังพิจารณาจะปรับขึ้นราคาบัตรเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติเป็นประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐหรือไม่ ซึ่งหากคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันจะเทียบเท่ากับประมาณ 4,700 เยน ในขณะที่ราคาบัตรเข้าชมสำหรับประชาชนชาวญี่ปุ่นทั่วไปจะกำหนดไว้ที่ราคาประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรายได้จากการขายบัตรเข้าชมนี้มีแผนที่จะนำไปใช้เป็นงบประมาณสำหรับมาตรการรับมือกับ "ผลกระทบจากการท่องเที่ยว" รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบูรณะปราสาทฮิเมจิต่อไป
แม้ว่ากระแสนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาจะสร้างโอกาสทางธุรกิจมากมายให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น แต่ปัญหาความวุ่นวายจากนักท่องเที่ยวที่ตามมาก็ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หลายแห่งต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ มาตรการ "ขึ้นราคาบัตรเข้าชม" ที่เสนอโดยมรดกโลก "ปราสาทฮิเมจิ" นั้นยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา เนื่องจากการปรับขึ้นราคานั้นค่อนข้างสูง อีกทั้งความแตกต่างของราคาบัตรระหว่างชาวต่างชาติและคนท้องถิ่นก็มีมาก จึงยังไม่อาจทราบได้ว่าจะเกิดการต่อต้านจากนักท่องเที่ยวหรือไม่
☞ อ่านเพิ่มเติม
・สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นถูกทำลายหรือไม่? มาดูสถานการณ์ปัจจุบันและมาตรการรับมือกับ "ปัญหามลพิษจากการท่องเที่ยว" ที่ภูเขาฟูจิ เกียวโต และหมู่บ้านชิราคาวาโกะกัน
・นักท่องเที่ยวเดือดเกิน! จุดเช็คอินสุดฮิต "Fuji x LAWSON" ของญี่ปุ่นกำลังจะหายไป ม่านดำกำลังจะเข้ามาแทน
・ชาวเกียวโตจะไม่ทน! ตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 เป็นต้นไป ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวโดยเด็ดขาด!