เที่ยวนารา 2025 จัดเต็มจุดชมดอกไม้สวย 12 เดือน ที่เที่ยววัดดัง ซากุระ ใบไม้แดง พร้อมแผนที่

บ้านของกวางน้อยน่ารักอย่างนารา นั้นเต็มไปด้วยวัดวาอารามพุทธศาสนามากมาย ดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวมาสักการะเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า แต่รู้หรือไม่ว่าควรไปวัดไหนช่วงเวลาใดจึงจะเหมาะที่สุด? คนนารามีคู่มือลับ วัด × ดอกไม้ตามฤดูกาล ที่แทบไม่เคยเล่าให้คนนอกฟัง บทความนี้จะแนะนำวิธีชมดอกไม้ตลอดทั้งปีอย่างครบถ้วน พร้อมรายชื่อสถานที่ชมวิวสวยงามในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ไฮเดรนเยีย หรือใบเมเปิ้ล จะได้ชื่นชมความงามตามฤดูกาลไม่ว่าจะมาเยือนตลอดปี

ทุ่งดอกไม้อันงดงามแห่งนารา
ภาพจาก 奈良県公式観光サイド

แนะนำจุดชมดอกไม้ที่ดีที่สุดตามเดือน! ได้ทั้งสักการะและชมดอกไม้ไปพร้อมกัน

【มกราคม】ดอกนันเทน(พุดซ้อนเขา)/วัดโชรินจิ

วัดโชรินจิซึ่งสร้างขึ้นในปี 712 มีชื่อเสียงจากพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสิบเอ็ดพักตร์ และได้รับการยกย่องเป็นสมบัติแห่งชาติ แม้แต่นักปรัชญาชาวญี่ปุ่นก็ยังชื่นชมในหนังสือ การจาริกแสวงบุญวัดโบราณ ของเขา หลังผ่านการชำระล้างทางประวัติศาสตร์มากว่า 1,300 ปี พระพักตร์ของพระโพธิสัตว์ยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง จากภายในวัดยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขามิวะและสุสานโคฟุนฮาชิฮากะในอ่าวยามาโตะ ในฤดูหนาวอันหนาวเย็น สวนของวัดจะเต็มไปด้วยดอกนันเทนสีแดงสด ที่นำความมีชีวิตชีวามาสู่บริเวณวัด ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า "วัดนันเทน" ในภาษาญี่ปุ่น คำว่านันเทนมีเสียงคล้ายกับ "นันเทน" (難転) ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงความยากลำบาก จึงมีความหมายมงคลในการเปลี่ยนผันความยากลำบากให้ผ่านพ้นไป การมาชมดอกไม้ที่นี่ในช่วงต้นปีจะนำโชคสีแดง (ความรุ่งเรือง) มาสู่คุณ

Shorinji Temple (聖林寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ปีถัดไป
・ที่ตั้ง:692 Shimo, Sakurai, Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 16:30 น.
・ค่าเข้าชม:นักเรียนมัธยมขึ้นไป 400 เยน / นักเรียนประถม 200 เยน
・การเดินทาง:จากสถานี Skurai (สาย JR หรือคินเท็ตสึ) ต่อรถบัสนาระโคซึไปทางศาลเจ้าทันซานจินจะ ลงที่ป้าย Shorinji
เว็บไซต์ทางการ

【กุมภาพันธ์】ดอกบ๊วย/วัดโฮเคจิ

วัดโฮเคจิอันเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ที่ปลายสุดทางฝั่งตะวันตกของถนนซาโฮะ ซึ่งเริ่มต้นจากวัดโทไดจิ หลังจากความนิยมเสื่อมถอยลง วัดได้กลับมาปรากฏบนเวทีประวัติศาสตร์อีกครั้งในปี 1601 ปัจจุบันในหอหลักของวัดประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมยืนสิบเอ็ดพักตร์ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติ เล่ากันว่าแกะสลักโดยใช้พระนางโคเมียวเป็นแบบ ส่วนเครื่องรางรูปสุนัขเฮอันที่เย็บด้วยมือโดยภิกษุณีในวัดเป็นที่พึ่งทางใจสำหรับผู้ที่มาขอพรเรื่องการคลอดบุตรโดยปลอดภัยและขจัดโชคร้าย สวนคะระคุเอนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัด เมื่อถึงฤดูหนาวจัด ดอกบ๊วยห้อยย้อยซึ่งหาชมได้ยากจะเบ่งบานอย่างสวยงามบนกิ่งก้าน ทัศนียภาพอันงดงามดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาแวะชมและถ่ายภาพ

Hokkeji Temple (法華寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม
・ที่ตั้ง:882 Hokkeji-cho , Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 16:30 น.
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 700 เยน / นักเรียนประถมและมัธยมต้น 350 เยน
・การเดินทาง:นั่งรถบัสไปสถานี JR นาราจากสถานีคินเท็ทสึ Yamato-Saidaiji และลงที่ป้าย Hokkeji-mae แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
เว็บไซต์ทางการ

【มีนาคม】ดอกแต้ฮั้งฮวย (ซึบากิ)/วัดเบียคุโกจิ

วัดเบียคุโกจิ ตั้งอยู่ในเขตทาคาบาตาเกะซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของสวนนารา ภายในวัดมีต้นคาเมลเลีย 5 สีที่ได้รับการกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติ และมีอายุมากกว่า 400 ปี สิ่งที่มีค่าที่สุดคือต้นไม้นี้สามารถบานพร้อมกันได้ 3 สี คือ แดง ขาว และชมพู ในระหว่างการบาน บางครั้งยังปรากฏดอกที่มีจุดสีโดยใช้สีพื้นฐานทั้งสามสีนี้ ตามที่กล่าวกันว่า ช่วงแรกที่บานจะขาวบริสุทธิ์ ช่วงบานเต็มที่จะสดใส และช่วงจวนจะร่วงก็เหมือนเมามายอีกรูปแบบหนึ่ง ทุกครั้งที่ดอกไม้บานเต็มที่ มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาสัมผัสความโรแมนติกเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ วัดเบียคุโกจิ ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ และด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ จึงสามารถมองเห็นวิวเมืองนาราได้ทั้งหมดจากภายในวัด

Byakugou-ji Temple (白毫寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
・ที่ตั้ง:392 Byakugojicho, Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 17:00 น.
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 500 เยน / นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย 300 เยน / นักเรียนประถม 200 เยน

【เมษายน】ดอกซากุระ/วัดสึโบซากะเดระ

ทุ่งดอกไม้อันงดงามแห่งนารา


@Kosa_Photo/ภาพจาก 奈良県公式観光サイド

วัดสึโบซากะเดระ ที่เบ่งบานด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดตลอดทั้งสี่ฤดู เคยผ่านการถูกไฟไหม้และบูรณะถึง 4 ครั้งนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 703 โดยอาคารหลักที่เห็นในปัจจุบัน เป็นสิ่งก่อสร้างไม้ที่ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1827 ชื่อทางการของวัดนี้คือ ซึโบะซากะซัง นัมโปกะจิ แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระพันธุ์โยชิโนะที่บานสะพรั่งจะห่อหุ้มรูปปั้นพระพุทธรูปหินสูง 15 เมตร ราวกับสวมใส่อาภรณ์ดอกซากุระให้พระพุทธรูป สร้างภาพที่ดูเหมือนความฝันซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศไม่พลาด เมื่อค่ำลงบรรยากาศยิ่งสวยงามจนแทบระเบิด ด้วยแสงไฟที่ส่องสว่างทำให้เกิดเงาที่ทั้งโรแมนติกและให้ความรู้สึกเยียวยาจิตใจ หากอยากเก็บภาพทิวทัศน์ที่มีเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิของนารา แนะนำที่นี่เลย

Tsubosakadera Temple (壺阪寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน
・ที่ตั้ง:3 Tsubosaka, Takatori-cho, Takaichi-gun, Nara
・เวลาทำการ:08:30 - 17:00 น.
・ค่าเข้าชม:อายุ 18 ปีขึ้นไป 600 เยน / อายุต่ำกว่า 17 ปี 100 เยน / อายุต่ำกว่า 5 ปีเข้าฟรี
・การเดินทาง:นั่งรถไฟ Kintetsu ที่มุ่งหน้าไปยังโยชิโน ลงที่สถานี Tsubosaka-yama จากนั้นต่อรถบัสหรือแท็กซี่
เว็บไซต์ทางการ

【พฤษภาคม】ดอกฟูจิ/ศาลเจ้าคะซุงะ

สวนพฤกษศาสตร์มันโยของศาลเจ้าคะซุงะ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณมรดกโลกศาลเจ้าคาสุงะไทชะ ไม่เพียงเป็นสวนพฤกษศาสตร์มันโยที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ยังเป็นแหล่งชมดอกฟูจิที่สวยงาม ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งเดือนจากกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ทะเลดอกไม้สีม่วง ที่บานสะพรั่งจะสร้างบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ให้กับวัด นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ พร้อมทั้งเรียนรู้ความงามของดอกฟูจิผ่านพันธุ์ต่างๆ กว่า 20 สายพันธุ์ที่ปลูกในสวน ค่าเข้าชมราคาเดียวตลอดทั้งปี แนะนำให้จัดเวลาแวะมาชมความงามที่นี่ และหากเป็นไปได้ควรวางแผนมาเที่ยวพร้อมกับวัดโทไดจิและศาลเจ้าคาสุงะในทริปเดียวกัน

Kasuga Taisha (春日大社附設的春日大社萬葉植物園)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
・ที่ตั้ง:160 Kasuganocho, Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 16:30 น. (ปิดทุกวันจันทร์ในเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และธันวาคม)
・ค่าเข้าชม:มัธยมปลายขึ้นไป 500 เยน / นักเรียนประถมและมัธยมต้น 250 เยน
・การเดินทาง:จากสถานี JR หรือ Kintetsu สถานี Nara นั่งรถบัสลงที่ป้าย Kasuga Taisha Omotesando หรือ Kasuga Taisha Honden-mae
เว็บไซต์ทางการ

【มิถุนายน】ดอกไฮเดรนเยีย/วัดยาตะเดระ

วัดยาดะเดระ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดดอกไฮเดรนเยีย เป็นสถานที่ซึ่งในทุกๆ ปีช่วงฤดูฝนที่เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน ดอกไฮเดรนเยียกว่า 10,000 ต้น จาก 60 สายพันธุ์ จะแข่งกันเบ่งบานสร้างทะเลดอกไม้หลากสีสันราวกับดินแดนเทพนิยายเจ็ดสี องค์พระประธานที่เคารพบูชาคือ ยาดะจิโซ ซึ่งแกะสลักขึ้นในสมัยเฮอันตอนต้น และถือเป็นต้นกำเนิดของพระจิโซในญี่ปุ่น เมื่อก้าวเข้าสู่วัดยาดะเดระ คุณจะเห็นรูปปั้นหินขนาดต่างๆ มากมาย โดยมีองค์หนึ่งชื่อ จิโซลิ้มรสมิโสะ ตามตำนานเล่าว่า หากคุณนำมิโสะที่ทำเองที่บ้านมาทาที่ปากของพระองค์ มิโสะนั้นจะมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น ในสมัยคามาคุระ พระองค์นี้เป็นที่นิยมอย่างมาก มีผู้คนมาเยี่ยมชมอย่างล้นหลาม! เนื่องจากชื่อเสียงด้านดอกไฮเดรนเยียของวัดยาดะเดระที่โด่งดังมาก แนะนำให้ไปชมดอกไม้ในช่วงเวลาที่วัดเพิ่งเปิด เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและจะได้ถ่ายภาพทะเลดอกไฮเดรนเยียที่สวยงามที่สุด

Yatadera Temple (矢田寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ต้นเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฎาคม
・ที่ตั้ง:3506 Yatacho, Yamatokoriyama, Nara
・เวลาทำการ:09:30 - 16:30 น.
・ค่าเข้าชม:ช่วงฤดูดอกไฮเดรนเยีย (ต้นเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฎาคม) ผู้ใหญ่ 700 เยน / เด็กประถม 300 เยน
・การเดินทาง:นั่งรถไฟ Kintetsu ลงที่สถานี Koriyama จากนั้นต่อรถบัสไปยังวัดยาดะเดระ และลงที่ป้าย Yatadera เดินต่ออีก 10 นาที
เว็บไซต์ทางการ

【กรกฎาคม】ดอกบัว/วัดยาคุชิจิ

วัดยาคุชิจิซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่วัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยเฮอัน ในอดีตมีศาลาหลัก เจดีย์ทางทิศตะวันออกและตะวันตก รวมถึงหอประชุมใหญ่ ทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราและสง่างาม เมื่อเดินเข้าไปจะรู้สึกราวกับว่าได้เข้าไปอยู่วังมังกร ที่น่าเสียดายคือ หลังผ่านสงครามหลายต่อหลายครั้ง อาคารโบราณส่วนใหญ่ถูกเผาทำลาย เหลือเพียงเจดีย์ตะวันออกซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติ ในสมัยโชวะ วัดได้ระดมทุนผ่านกิจกรรมการคัดลอกคัมภีร์ และในที่สุดก็สามารถบูรณะศาลาหลักได้ในปี 1976 ทุกฤดูร้อน ภายในวัดจะมีการจัดวางกระถางดอกบัว ดอกบัวสีขาวและชมพูอ่อนอันบริสุทธิ์เหล่านี้ ผสานกับบรรยากาศอันสงบของวัด ช่วยชำระล้างความวุ่นวายของโลกและนำความสุขมาสู่จิตใจ ในช่วงที่ดอกบัวบาน ยังมีตราประทับพิเศษ แผนภาพมณฑลยาคุชิและดอกบัว เฉพาะช่วงเวลานี้อีกด้วย

Yakushiji Temple (藥師寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ปลายเดือนมิถุนายน - กลางเดือนสิงหาคม
・ที่ตั้ง:457 Nishinokyo-cho, Nara
・เวลาทำการ:08:30 - 17:00 น.
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 800 เยน / นักเรียนมัธยมต้นและปลาย 500 เยน / นักเรียนประถม 200 เยน
・การเดินทาง:ลงที่สถานี Nishinokyo สายคินเท็ตสึ แล้วเดินไปวัดได้เลย
เว็บไซต์ทางการ

【สิงหาคม】ดอกรุ่งอรุณ (ดอกหางนกยูง)/วัดโคนินจิ

วัดโคนินเป็นวัดโบราณที่ก่อตั้งโดยพระโคโบไดชิ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี ทุกปีในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม ภายใต้แสงแดดอันเจิดจ้า ดอกหางนกยูงสีส้มสดที่บานสะพรั่งจะยิ่งดูสดใสเปล่งประกายงดงาม วัดโคนินเป็นที่ประดิษฐานของพระอากาศครรภโพธิสัตว์ผู้ดูแลเรื่องปัญญา ดังนั้นเมื่อถึงช่วงที่ดอกหางนกยูงบานสะพรั่ง จะมีพ่อแม่หลายคนพาลูกวัย 13 ปีมาสักการะพระอากาศครรภโพธิสัตว์เพื่อขอพรให้มีความปลอดภัยและปัญญา เรียกว่า การสักการะวัย 13 นอกจากนี้ ดอกหางนกยูงยังสื่อถึงความมุ่งมั่นที่จะไต่เต้าสู่ความสำเร็จ ซึ่งตรงกับความหวังอันไม่มีที่สิ้นสุดของพ่อแม่ที่มีต่อลูกวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวพ้นจากความเยาว์วัยเข้าสู่อีกช่วงหนึ่งของชีวิต

Koninji Temple (弘仁寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ปลายเดือนกรกฎาคม - ปลายเดือนสิงหาคม
・ที่ตั้ง:46 Kokuzocho, Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 17:00 น.
・ค่าเข้าชม:ค่าเข้า 200 เยน / ค่าสักการะ 400 เยน
・การเดินทาง:จากสถานีนารา (JR หรือ Kintetsu) นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Shimoyamacho จากนั้นต่อรถบัสชุมชนไปลงที่ป้าย Takahijcho เดินต่ออีก 5 นาที
เว็บไซต์ทางการ

【กันยายน】ฮิกังบานะ/วัดกังโกจิ

วัดกังโกจิ อยู่ติดกับสถานีรถไฟนารา ตามตำนานว่าเป็นวัดโบราณที่สุดในญี่ปุ่น สร้างโดยโซงะ โนะ อุมาโกะ ซึ่งมีชื่อดั้งเดิมว่าวัดอาสุกะ และเป็นหนึ่งในเจ็ดวัดใหญ่แห่งนารา ในอดีตพื้นที่ส่วนใหญ่ของ นาราโจ ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เคยเป็นของวัดกันโกจิ ภายในบริเวณกลุ่มเจดีย์หินและพระพุทธรูปหินทางทิศใต้ของหอพระ และห้องเซน ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติ มีการปลูกดอกฮิกังบานะกว่า 100 ต้น ดอกไม้สีแดงและขาวสลับกันสวยงามตระการตา มีคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์อย่างยิ่ง แม้ว่าดอกฮิกังบานะจะได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่งดงามอย่างลี้ลับ ที่ดอกและใบไม่เคยพบกัน สีสันที่ลึกลับทำให้ผู้คนทั้งรักทั้งกลัว แต่ความจริงแล้วยังมีความหมายที่น่ารักเช่น ความหลงใหล ความคิดถึง และความรักที่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น หากโชคดีในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ยังจะได้ชมภาพอันงดงามของดอกฮิกังบานะ และดอกฮากิที่บานแข่งกันอีกด้วย

Gangoji Temple (元興寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:กลางเดือน - ปลายเดือนกันยายน
・ที่ตั้ง:11, Chuincho, Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 17:00 น.
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่นักศึกษามหาวิทยาลัย 500 เยน / นักเรียนมัธยม 300 เยน / นักเรียนประถม 100 เยน
・การเดินทาง:เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ Nara สายคินเท็ทสึ
เว็บไซต์ทางการ

【ตุลาคม】ดอกแอสเตอร์เม็กซิกัน (คอสมอส)/วัดอาเบะมงจุอิน

ดอกคอสมอสเป็นดอกไม้ที่เป็นที่นิยมในฤดูใบไม้ร่วง และวัดอาเบะมงจุอิน คือสถานที่ที่ดีที่สุดในนาราสำหรับการชมดอกคอสมอส ทุ่งดอกคอสมอสที่พลิ้วไหวตามสายลมอ่อนๆ นั้นงดงามอย่างไม่อาจหาคำบรรยาย ทุกปีตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม ท่ามกลางดอกคอสมอสกว่า 50,000 ต้นจาก 30 สายพันธุ์ที่บานสะพรั่งอย่างสวยงาม จะมีการจัดทำ เขาวงกตดอกคอสมอส ให้เข้าชมฟรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วงที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ บริเวณหน้าสระน้ำของวัดอาเบะมงจุอิน ยังปลูกดอกคอสมอสไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้ศาลาทองคำที่สง่างามเป็นฉากหลังช่วยขับให้ดอกไม้หลากสีดูน่ารักสดใสมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวอย่าลืมมาถ่ายรูปเช็กอินที่นี่

Abe Monju-in Temple (安倍文殊院)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:กลางเดือนกันยายน - ปลายเดือนตุลาคม
・ที่ตั้ง:645 Abe, Sakurai, Nara
・เวลาทำการ:09:00 - 17:00 น.
・ค่าเข้าชม:นักเรียนมัธยมขึ้นไป 700 เยน / นักเรียนประถม 500 เยน
・การเดินทาง:จากสถานี Sakurai (JR หรือ Kintetsu) นั่งรถบัสลงที่ป้าย Abe Monju-in-mae ใช้เวลาเดิน 1 นาที (หรือเดินจากสถานี 20 นาที / นั่งแท็กซี่ 5 นาที)
เว็บไซต์ทางการ

【พฤศจิกายน】ใบเมเปิ้ล/วัดมุโรจิ

วัดมุโรจินั้นอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไปสักการะ ต่างจากวัดคงโกบูจิบนภูเขาโคยะซึ่งอยู่ในนิกายชินกอนเหมือนกันที่เคยมีกฎเข้มงวดห้ามผู้หญิงขึ้นเขา ด้วยเหตุนี้จึงได้รับฉายาว่า โคยะของผู้หญิง (ปัจจุบันทุกเพศสามารถเข้าสักการะได้แล้ว) ภายในวัดมีทั้งหอหลัก พระพุทธรูปศากยมุนียืน พระพุทธรูปอวโลกิเตศวรสิบเอ็ดพักตร์ และพระพุทธรูปศากยมุนีนั่งในหอไมเตรยะ ซึ่งทั้งหมดเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น ทุกอิฐทุกกระเบื้องเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่นี่ยังมีเจดีย์ห้าชั้นที่มีความสูงต่ำที่สุดในญี่ปุ่น สูงเพียง 16 เมตร ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติเช่นกัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามทางเล็กๆ ข้างเจดีย์ไปยังหอโอคุโนะอิน พอปีนขึ้นไปจะพบกับอุโมงค์ใบเมเปิ้งสีแดงที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด และในฤดูใบไม้เปลี่ยนสียังมีการจัดแสงไฟในเวลากลางคืนอีกด้วย

Murouji Temple (室生寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
・ที่ตั้ง:78 Murou, Uda, Nara
・เวลาทำการ:08:30 - 17:00 น. (1 ธันวาคม - 31 มีนาคม เปลี่ยนเป็น 9:00-16:00 น.)
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็ก 400 เยน
・การเดินทาง:ลงที่สถานี Muroguchiono ของรถไฟคินเท็ตสึ จากนั้นนั่งรถบัสลงที่ป้าย Murouji และเดินต่ออีก 5 นาที
เว็บไซต์ทางการ

【ธันวาคม】ดอกโบตั๋นฤดูหนาว/วัดฮาเสะเดระ

วัดฮาเซเดระ ปัจจุบันเก็บรักษาสมบัติแห่งชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมเกือบ 1,000 ชิ้น จนได้ชื่อว่าเป็นคลังสมบัติทางวัฒนธรรมของนารา หอหลักที่เป็นสมบัติแห่งชาติในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ตามคำสั่งของโชกุนรุ่นที่ 3 โทกุกาวะ อิเอมิตสึ และบันไดหิน 399 ขั้นที่นำไปสู่หอหลักก็ถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญเช่นกัน วัดฮาเซเดระยังมีชื่อเสียงในนามวัดโบตั๋น ทุกปีในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ดอกโบตั๋นจะบานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด ให้ผู้หลงใหลในดอกไม้ได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือดอกโบตั๋นฤดูหนาวที่เริ่มบานในช่วงปลายปี ท่ามกลางความขาวโพลนของหิมะ ดอกโบตั๋นที่ถูกคลุมด้วยฟางข้าวพากันเบ่งบานแข่งกันอวดโฉม เป็นทัศนียภาพที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

Hase-dera Temple (長谷寺)
・ช่วงเวลาชมดอกไม้:ต้นเดือนธันวาคม - ปลายเดือนมกราคม
・ที่ตั้ง:731-1 Hase, Sakurai, Nara
・เวลาทำการ:8:30-17:00 น. (เมษายน - กันยายน) / 9:00-17:00 น. (ตุลาคม - พฤศจิกายน, มีนาคม) / 9:00-16:30 น. (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 500 เยน / นักเรียนประถม 250 เยน
・การเดินทาง:ลงที่สถานี Hasedera ของรถไฟคินเท็ตสึ และเดินต่ออีก 15 นาที
เว็บไซต์ทางการ

นารามีดอกไม้สวยงามให้ชมทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นดอกบ๊วย ดอกวิสทีเรีย ดอกไอริส หรือดอกเบญจมาศ แนะนำให้วางแผนเที่ยวนาราตามปฏิทินดอกไม้ เพื่อสัมผัสความงามที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา

☞ บทความอื่นๆ
20 ที่เที่ยวนารา 2025 ฉบับสมบูรณ์: วัดโทไดจิ สวนกวาง แผนเที่ยว 1 วัน [อัพเดทล่าสุด]
8 ร้านโมจิเด็ดนารา 2025 รวมร้านดังที่คนญี่ปุ่นแนะนำ อร่อยการันตี!
【2025 อัปเดตล่าสุด】15 ของฝากแนะนำจากนารา ญี่ปุ่น: พุดดิ้งไดบุทสึ ขนมโมจิใบหญ้าหอม และสาเกฮารุชิกะที่ต้องซื้อ!