「บัตร ICOCA」เป็นบัตรโดยสารที่ต้องมีเมื่อเดินทางในเขตคันไซ บัตรนี้ไม่เพียงแต่ใช้ชำระค่าโดยสารเท่านั้น แต่ยังใช้เติมเงินจ่ายค่าช้อปปิ้งได้อีกด้วย เรียกได้ว่าบัตรใบเดียวรับจบหมด บทความนี้จะมาสรุป ขอบเขตการใช้งานและเรื่องที่มักเข้าใจผิดของบัตร ICOCA อีกทั้งยังมีแผนภาพแสดง วิธีการใช้งานบัตร ICOCA ให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยด้วย และเรายังจะสอนขั้นตอนการเชื่อมบัตรกับ Apple Pay ในโทรศัพท์ iPhone และแนะนำวิธีการดาวน์โหลดแอพ ICOCA ในโทรศัพท์ Android นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยสำหรับผู้ปกครองอย่างรายการเอกสารที่ต้องใช้ในการซื้อ ICOCA เวอร์ชันสำหรับเด็กรวมถึงคู่มือการใช้งาน ICOCA ข้อมูลจัดเต็มขนาดนี้อัดแน่นอยู่ในบทความนี้แล้ว!
☞ บัตร ICOCA คืออะไร?
☞ บัตร ICOCA และบัตร Suica ต่างกันยังไง?
☞ ขอบเขตการใช้งานบัตร ICOCA และบัตร IC อื่นๆ
☞ ข้อควรระวังในการใช้งาน สถานีที่สามารถใช้ได้ในเขตญี่ปุ่นตะวันตก
☞ บัตร ICOCAประเภทต่างๆ เช่น เวอร์ชันสำหรับเด็ก VS เวอร์ชันทั่วไป VS แอพเฉพาะในมือถือแอนดรอยด์
☞ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการซื้อบัตร ICOCAแบบบัตรจริง
☞ สอนวิธีผูกบัตร ICOCAกับ Apple Pay
☞ สอนวิธีเชื่อมบัตร ICOCA แบบบัตรจริงกับ Apple Pay
☞ อื่น ๆ เพิ่มเติม:ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาถาม แค่จำสัญลักษณ์นี้ก็สามารถ "ติ๊ด" บัตร ICOCA ได้เลย
บัตร ICOCA คืออะไร?พร้อมแนะนำวิธีการใช้งานคร่าวๆ
「ICOCA」เป็นบัตร IC (Integrated Circuit) ที่ใช้สำหรับการเดินทาง โดยทาง JR West ได้เปิดตัวบัตรนี้ในปี 2003 สำหรับใช้ในภูมิภาคคันไซ บัตรนี้ไม่เพียงแต่ใช้ชำระค่ารถไฟฟ้าและรถประจำทางได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การชำระเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ร้านสะดวกซื้อ จ่ายเงินที่ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือล็อคเกอร์หยอดเหรียญ เพียงแค่แตะบัตรตรงที่สแกน หากยอดเงินคงเหลือในบัตรเหลือน้อย ก็สามารถไปเติมเงินได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เครื่องเติมเงินในสถานี และแม้แต่ร้านสะดวกซื้อในสถานี บัตรใบเดียวสามารถใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ มีบัตรนี้บัตรเดียวก็สะดวกสุด ๆ
แล้วแตกต่างจากบัตร Suica อย่างไร ?
ในปี 2001 JR East Japan ได้เปิดตัว「Suica หรือบัตรซุยกะ」หลังจากนั้น การคมนาคมของญี่ปุ่นก็ถูกปฏิวัติไปโดยสิ้นเชิง ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ "บี๊บ!" ในขณะนั้น บัตร「ICOCA」เป็นบัตร IC ใบที่สองหลังจากบัตร "Suica" โดยสามารถใช้ได้เฉพาะในภูมิภาคคันไซเท่านั้น บัตร IC แต่ละใบมีขอบเขตการใช้งานเป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้ผู้ที่ต้องเดินทางระยะไกล ๆ มักต้องถือบัตรหลายใบ และสร้างความสับสนมาก ดังนั้นในปี 2013 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงสั่งให้รวมบัตรทั้งประเทศ ไม่ว่าจะถือบัตรโดยสารในภูมิภาคใด ก็สามารถเดินทางข้ามเขตได้ ดังนั้นฟังก์ชั่นและการใช้งานของบัตร ICOCA จึงเหมือนกับ Suica แต่เนื่องจาก ICOCA ออกโดย JR West หากต้องการซื้อบัตรโดยสารใหม่ในคันไซ ก็จะสามารถซื้อได้แค่ บัตร ICOCA เท่านั้นนะ!
ที่มาภาพ:JR東日本
แล้วสามารถใช้งานได้ที่ไหนบ้างล่ะ ? มาทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้บัตร "ICOCA" กันดีกว่า
ด้วยนโยบายรวมบัตรขนส่งทั่วประเทศ ทำให้บัตร "ICOCA" สามารถใช้ในทุกพื้นที่ที่สามารถใช้บัตร IC ได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว! ตัวอย่างเช่นบัตร「Kitaca」ในฮอกไกโด、และบัตร「manaca」ในนาโกย่า、บัตร「SUGOCA」ในคิวชู、รถไฟใต้ดินฟุกุโอกะ 「はやかけん」เป็นต้น เมื่อเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ตราบใดที่เห็นไอคอนบัตร IC เหล่านี้ ก็สามารถใช้บัตร "ICOCA" ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องซื้อบัตรอื่น
แม้ว่าบัตร "ICOCA" จะสามารถใช้งานได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อจำกัดการใช้งานอยู่พอสมควรเช่นกัน
แม้ว่า ในปัจจุบันบัตร"ICOCA" ได้ถูกนำมาใช้ทั่วประเทศ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องคำนึงถึงตอนใช้งาน ก่อนอื่น จุดที่เริ่มเดินทางอย่าง"สถานีต้นทาง" และ "สถานีปลายทาง" จะต้องอยู่ภายในเขต JR เดียวกัน โดยรถไฟ JR Japan จะถูกแบ่งออกตามภูมิภาคต่าง ๆ อย่างJR ฮอกไกโด、East Japan Railway、Central Japan Railway、West Japan Railway 、JR Shikoku Railway 、JR คิวชูหากเริ่มออกเดินทางจากโอซาก้า ระยะทางที่ไกลที่สุดที่สามารถไปได้คือในเขตของ JR Westและจะไม่สามารถนั่งรถไฟจากโอซาก้า (JR West) ไปยังโตเกียว (JR East) ได้! เนื่องจาก JR West มีขอบเขตที่กว้างใหญ่มากหากต้นทางและปลายทางมีระยะเกิน200กิโลเมตร ก็จะไม่สามารถใช้บัตร「ICOCA」ได้ จึงจำเป็นต้องซื้อตั๋วแบบปกติที่เคาน์เตอร์ นอกจากนี้ หากต้องการใช้บัตร "ICOCA" เพื่อขึ้นรถไฟชินคันเซ็นโดยตรง ก็ต้องสมัครบัตร EX-IC หรือต้องใช้การจองตั๋วล่วงหน้าที่ Shikoku Railway Company「スマートEX」ขอแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าเส้นทางที่ต้องการจะไปสามารถใช้บัตร "ICOCA" ในการเดินทางได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางข้ามเขตระยะไกล จึงควรยืนยันสถานีต้นทาง สถานีปลายทาง และสถานีเปลี่ยนรถทั้งหมดล่วงหน้าไว้ให้เรียบร้อยจึงจะปลอดภัยที่สุด
บัตร ICOCA มีกี่ประเภท?
"ICOCA" มีจำแนกหลายประเภท หากแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ บัตร"ICOCA แบบธรรมดา" และ "ICOCA แบบกำหนดเวลา" นอกจากนี้ยังมีแบ่งย่อยอีกสามประเภท คือ บัตรธรรมดา บัตรเด็ก และ บัตร SMART และล่าสุดได้มีการเปิดตัว "MOBILE ICOCA" เวอร์ชันมือถือ ตราบใดที่ดาวน์โหลดแอปทางการ ก็จะสามารถซื้อบัตรได้ในโทรศัพท์มือถือและเติมเงินได้ ผ่านโทรศัพท์ ในผู้ใช้ Android สามารถดาวน์โหลด APP ได้ ในส่วนของผู้ใช้ iPhone ก็สามารถใช้กับ Apple Pay ได้เลย มาดูกันดีกว่าว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ!
【บัตร ICOCA แบบธรรมดา】
เป็นบัตรประเภทที่พบบ่อยที่สุด และเหมาะสำหรับทุกวัย โดยทั่วไปบัตรใหม่จะต้องเติมเงินที่ 2,000 เยนประกอบด้วย ค่าประกัน 500 เยน และส่วนที่เหลืออีก 1,500 เยน ก็คือจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้ อีกทั้งยังมีเครื่องบางเครื่องที่จำหน่ายในราคา 1,000 เยน, 3,000 เยน, 5,000 เยน, 10,000 เยน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ราคาทั้งหมดได้รวมค่ามัดจำนวน 500 เยนแล้ว เมื่อหักลบกับเงินประกัน จำนวนเงินที่เหลือทั้งหมดก็จะเป็นจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้ สามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการเลย
【บัตร ICOCA สำหรับเด็ก】
จำกัดให้ใช้ได้เฉพาะเด็กอายุ 6 ถึง 12 ปีเท่านั้น หากในปีนั้นมีอายุครบ 12 ปี ก็จะสามารถใช้ต่อได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีที่อายุครบ 12 ปีเท่านั้น บนบัตรจะมีสกรีนข้อกำหนดตัวใหญ่ ๆ อยู่ โดยบัตรประเภทนี้ชาวต่างชาติก็สามารถซื้อได้เช่นกัน เมื่อต้องการซื้อ ก็แค่กรอก "แบบฟอร์มใบสมัครซื้อ ICOCA สำหรับเด็ก" (こども แบบฟอร์มใบสมัครซื้อบัตร ICOCA) แล้วแสดงหนังสือเดินทางของตัวผู้ใช้งาน หากใช้บัตร ICOCA สำหรับเด็ก ราคาค่าโดยสารจะลดลงครึ่งราคา บัตรจะมีสองแบบให้เลือกคือ สีเหลืองและสีน้ำเงิน บัตรแต่ละใบจะมีราคาเริ่มต้น 2,000 เยน (รวมค่ามัดจำ 500 เยนแล้ว) หากต้องการซื้อต้องไปซื้อที่ช่องบริการสถานีJR ช่องสีเขียวเท่านั้น(みどり窓口)。
【SMART ICOCA】
「SMART ICOCA」เป็นบัตร IC ที่ใช้ในการเดินทางแบบไร้เงินสด บัตรประเภทนี้จะผูกกับบัตรเครดิตในชื่อของบุคคลนั้น เมื่อยอดคงเหลือไม่เพียงพอและต้องการเติมเงินก็จะสามารถข้ามขั้นตอนการนำเงินสดเข้าไปเติมในตู้บริการได้ทันที เพียงกดหมายเลขที่ต้องการเติมเงินบนเครื่อง เงินก็จะถูกหักจากบัตรเครดิตโดยตรง แต่ละคนจะมีลิมิตการซื้อได้เพียงหนึ่งใบ และต้องสมัครผ่านช่องทางออนไลน์แล้วรับบัตรทางไปรษณีย์ โดยไม่สามารถซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วธรรมดา และไม่รองรับการผูกบัตรเครดิตต่างประเทศบางประเภท เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นในระยะหนึ่งถึงระยะยาว
【บัตร ICOCA แบบกำหนดเวลา】
「บัตร ICOCA แบบกำหนดเวลา」เป็นรูปแบบบัตรโดยสารรายเดือนราคาพิเศษ สามารถชำระค่าโดยสารเมื่อขึ้นและลงที่สถานีต้นทางและปลายทางทั้งสองแห่งได้ไม่จำกัด หากเกินขอบเขตของเส้นทางก็จะคิดค่าโดยสารตามปกติ ดังนั้นบัตรประเภทนี้จึงถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ถือบัตรชาวญี่ปุ่น สถานีเริ่มต้นและสถานีสิ้นสุดจะทำเครื่องหมายไว้บนการ์ด และต้องไปที่จุดบริการหน้าต่างสีเขียวในสถานี JR แต่ละแห่ง (みどりの窓口) เพื่อกรอก "แบบฟอร์มสมัครซื้อบัตร ICOCA แบบกำหนดเวลา" ก่อนจึงจะสามารถซื้อได้
【MOBILE ICOCA】
เพื่อตอบให้ตอบโจทย์นิสัยของคนยุคใหม่ที่ทำทุกอย่างครบจบในโทรศัพท์มือถือ ICOCA จึงได้เปิดตัว "MOBILE ICOCA" ในเดือนมีนาคม 2023 เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพ "モバイル ICOCA" บนโทรศัพท์ ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบและกรอกข้อมูลบัตรเครดิต เพียงเท่านี้ก็จะได้รับบัตร ICOCA เวอร์ชันมือถือได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟที่สถานี ออกจากสถานี หรือซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อ ก็สามารถชำระเงินได้ง่าย ๆ ด้วยการแตะ "ตื๊ด"เพียงครั้งเดียว อีกทั้งยังตรวจสอบยอดเงินคงเหลือของผ่านแอปได้โดยตรง หากมียอดเงินคงเหลือไม่เพียงพอ ก็เติมเงินได้ทันทีไม่ต้องรอคิว เป็นการมาถึงของยุคสังคมไร้บัตรอย่างเป็นทางการ ! ปัจจุบัน "MOBILE ICOCA" มีให้บริการในเวอร์ชัน Android เท่านั้น ส่วนผู้ใช้ iPhone สามารถใช้ ICOCA เวอร์ชันมือถือได้โดยการผูกกับ Apple Pay!
☞ ผู้ที่ใช้มือถือAndroid คลิกที่นี่ ดาวน์โหลด MOBILE ICOCA
แนะนำวิธีการซื้อบัตร ICOCA เบื้องต้น
การจะซื้อ ICOCA แบบบัตรแข็งนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แค่ไปที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่สถานีแล้วมองหาเครื่องที่มีไอคอน "ICOCA" ต่อจากหัวข้อนี้ มีคำแนะนำง่าย ๆ ในการซื้อตั๋วอยู่ เพียงแค่ทำตามทีละขั้นตอนก็ได้แล้วล่ะ!
① หาเครื่องบริการที่มีสัญลักษณ์คำว่า「ICOCA」
② เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น แนะนำให้คลิกลูกศรที่มุมขวาบนของหน้าจอเพื่อเปลี่ยนภาษาเป็นภาษาที่ต้องการ
③ เลือกไอคอนตุ่นปากเป็ดตัวใหญ่บนหน้าจอ แล้วกด "ซื้อ ICOCA"
④ โดยทั่วไปแล้วราคาสุทธิจะรวมค่ามัดจำ 500 เยนแล้ว ส่วนที่เหลือหลังจากหักค่ามัดจำจะเป็นจำนวนเงินคงเหลือที่สามารถใช้ได้ การซื้อครั้งแรกจะมีราคาให้เลือกห้าราคาด้วยกัน ได้แก่ 1,000 เยน、2,000 เยน、3,000 เยน、5,000 เยน、10,000 เยน。
⑤ จากนั้นก็จ่ายเงินตามตามราคาที่เลือก แล้วก็จะได้รับบัตร ICOCAแบบธรรมดาไม่ระบุชื่อ ! หมายเหตุ: เมื่อซื้อบัตรใหม่ครั้งแรก จะสามารถทำธุรกรรมด้วยเงินสดเท่านั้น ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้!
ทีนี้ก็มาเชื่อมบัตร ICOCA กับ Apple Pay กัน!
สำหรับผู้ที่ใช้ iPhone และ Apple Watch เพียงแค่ใช้แอพ "Wallet" ที่มีอยู่ใน iPhone และ Apple Watch ก็สามารถสร้างบัตร ICOCA เวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ได้ในแอพลิเคชั่น หรือจะผูกกับบัตรที่มีอยู่แล้วก็ได้ และสามารถถูกบัตร ICOCA กับ Apple Pay ได้ หลังจากผูกบัตรแล้ว ในตอนที่ขึ้นรถราง รถบัส และซื้อสินค้า ก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือสแกนได้เลยทันที อีกทั้งยังสามารถใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตที่ผูกไว้กับ Apple Pay เพื่อเติมเงินในบัตร ICOCAได้ (สูงสุด 20,000 เยน) หากบัตร ICOCA ที่ผูกไว้ใน Apple Pay ถูกตั้งค่าเป็น "โหมดด่วน" (บัตรโดยสารด่วน) ก็จะสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน Face ID หรือ Touch ID และไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ แม้ว่าโทรศัพท์จะแบตหมดไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถใช้บัตร ICOCA บนมือถือจ่ายค่าเดินทางหรือซื้อสินค้าได้ภายใน 5 ชั่วโมง ซึ่งสะดวกมาก!
ข้อควรระวัง
สำหรับการผูกบัตร ICOCA กับ Apple Pay มีข้อกำหนดiOS และรุ่นขั้นต่ำคือ:
① iPhone:iPhone 8 / iPhone 8 plus ขึ้นไป และiOS 16.0 หรือใหม่กว่า
② Apple Watch:Apple Watch Series 3 ขึ้นไป;watch OS 8.7.1 หรือใหม่กว่า
※ ระยะเวลาในการใช้งานบัตร ICOCA หลังจากแบตเตอรี่โทรศัพท์หมดคือประมาณ 5 ชั่วโมงสำหรับรุ่น iPhone XR ในส่วนของเวลาจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการใช้งานโทรศัพท์แต่ละเครื่อง
วิธีเพิ่มบัตร ICOCA ที่มีอยู่แล้วไปยัง Apple Pay
หากมีบัตร ICOCA อยู่แล้ว แต่กลัวว่าจะเผลอทำหาย หรือคิดว่าการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์มือถือสะดวกกว่า ก็มาโอนบัตรเข้าสู่โทรศัพท์มือถือให้เป็นบัตร ICOCA อิเล็กทรอนิกส์กันเถอะ! อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือ ปัจจุบันฟังก์ชั่นการโอนบัตรนั้นจำกัดอยู่ที่ผู้ใช้ Apple Pay เท่านั้นเมื่อบัตรจริงถูกแปลงเป็นบัตร ICOCA อิเล็กทรอนิกส์ บัตรจริงจะใช้งานไม่ได้และไม่สามารถแปลงกลับได้แล้วนะ
เพิ่มเติม:ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาถาม แค่จำสัญลักษณ์นี้ก็สามารถ "ติ๊ด" บัตร ICOCA ได้เลย!
นอกจากการจ่ายค่าโดยสารแล้ว บัตร "ICOCA" ยังสามารถใช้เป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย! หากไม่แน่ใจว่าร้านนี้สามารถสแกนบัตร ICOCA ได้ไหม ก็ไม่จำเป็นต้องถามพนักงานร้าน แค่จำเครื่องหมาย IC ก็พอ เพราะบัตรนี้จะสามารถใช้กับรถไฟ รถประจำทาง ร้านค้า หรือร้านแฟรนไชส์ที่มีสัญลักษณ์ IC เช่น ICOCA, Kitaca, PASMO, Suica, manaca, TOICA, , nimoca และ SUGOCA ที่มีตั้งแต่ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า แมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ และร้านอาหารในเครืออื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 1 ล้านแห่งในญี่ปุ่น span style="color: #D10A1C"> เรียกได้ว่าเข้าถึงได้ทั่วประเทศเลย!
ในภูมิภาคคันโต มี Suica ส่วนในภูมิภาคคันไซก็มี ICOCA แม้ว่าบัตรทั้งสองจะได้รับความนิยมมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงก็คือบัตรเหล่านี้ถูกใช้ทั่วทั้งญี่ปุ่น หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณเดินทางไปคันไซโดยลำพัง ก็ขอแนะนำให้คุณซื้อบัตร ICOCA ทันทีที่ลงเครื่อง เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย! บัตร ICOCA เวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ยังมีช่องทางเฉพาะแยกต่างหากสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือ iPhone และ Andriod หากต้องการแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมละก็ สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของตัวบัตรด้วยนะ!