เวลาจัดทริปไปเที่ยวโอซาก้า นอกจากจะไป "ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ" แล้ว รู้ไหมว่ายังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย: ไม่ว่าจะเป็นการลองเข้าพักที่ "SEKAI HOTEL Fuse" ที่ตั้งอยู่ในย่านชอปปิ้ง เพื่อสัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น แวะชม "พิพิธภัณฑ์โมเดลไคโยโด" ที่ตั้งอยู่หน้าปราสาทโอซาก้า และไปตามล่าร้านอาหารเลิศรส อย่าง ร้านขนมหวานยอดนิยมใน IG, ร้านทูน่าระดับพรีเมียม, ร้านราเมง และร้านอาหารอื่นๆ! บทความนี้ได้รวบรวม แผนการท่องเที่ยวโอซาก้า 3 วัน 2 คืน มาให้แล้ว รับรองว่าทริปคันไซของคุณจะสนุกและน่าประทับใจมากขึ้นไปอีก!
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน + สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ! แนะนำแผนการท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน!
| Day 1 | ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน → เช็คอินที่ "SEKAI HOTEL Fuse" → แช่ออนเซ็นที่ "เอบิสึยุ" |
|---|---|
| Day 2 | อาหารเช้า → เดินเล่นที่ถนนชอปปิ้งฟุเสะ → เยี่ยมชม "พิพิธภัณฑ์โมเดลไคโยโด Miraiza โอซาก้า" → ทานอาหารเที่ยงที่ "ราเมงอิจิซะ" → เดินเล่นที่ชินไซบาชิ → ร้านซันเดกลางคืน "Parfaiteria PaL" |
| Day 3 | ทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม "มากุโระ ทัตสึจิน สาขาเทนจิน" → เดินเล่นริมแม่น้ำนากาโนะชิมะ → ร้านกาแฟมังสวิรัติ "Optimus Cafe" |
แนะนำแผ่นการท่องเที่ยวโอซาก้า 3 วัน 2 คืน: Day 1
SEKAI HOTEL Fuse: พักในย่านชอปปิ้งของประเทศญี่ปุ่น สัมผัสวิถีชีวิตประจำวันของชาวโอซาก้า
หลังจากเที่ยวยูนิเวอร์แซลสตูดิโอมาทั้งวัน อยากพักผ่อน พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตแบบโอซาก้าแท้หรือไม่? ขอแนะนำโรงแรมสไตล์ใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปี 2018 อย่าง "SEKAI HOTEL Fuse"! โรงแรมตั้งอยู่ในย่านการค้าที่เต็มไปด้วยบรรยากาศยุคโชวะอย่าง "ถนนชอปปิ้งฟุเสะ" โดยมีอาคารทั้งหมด 7 หลังรวมล็อบบี้ การเลือกสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านการค้า ทั้งร้านกาแฟและโรงอาบน้ำสาธารณะ ทำให้ย่านการค้าทั้งหมดกลายเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม ผู้เข้าพักจะรู้สึกเหมือนเป็นคนท้องถิ่น สัมผัสวิถีชีวิตจริงของที่นี่ได้จริงๆ "SEKAI HOTEL Fuse" ถูกออกแบบเรียบง่าย กลมกลืนไปกับถนนเก่าแก่ แต่ยังคงความมีสไตล์และการออกแบบที่ดี ทางโรงแรมส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและแผ่นเหล็กมาตกแต่งภายใน
"SEKAI HOTEL Fuse" มีการออกแบบและบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดมากมาย เช่น ตอนเช็กอินจะได้รับแผนที่ย่านฟุเสะที่มีรายละเอียดร้านค้าแนะนำต่างๆ และถ้าแสดง "SEKAI PASS" บางร้านจะมีส่วนลดให้ด้วย! นอกจากนี้ เนื่องจากตัวโรงแรมตั้งอยู่ใกล้ศาลเจ้าเอบิสุ ซึ่งเป็นจุดบูชาเทพเจ้าแห่งการค้าขาย ตอนเช็กอินจะได้จับเซียมซีท่องเที่ยวด้วย นับเป็นการทำนายดวงชะตาการเดินทาง บนเซียมซียังได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมนำเสนอร้านกาแฟบรรยากาศสบายและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการนั่งพักศึกษาแผนที่หรือจิบเครื่องดื่มสักแก้วอย่างมาก
"SEKAI HOTEL Fuse" ให้บริการเซ็นโต (โรงอาบน้ำสาธารณะ) และอาหารเช้า นอกจากนี้ยังมี "SEKAI HOTEL Fuse PASS" และแผนที่บริเวณโดยรอบ
สามารถเสี่ยงเซียมซีว่าจะได้รับคำแนะนำอะไรบ้าง หลังจากเช็คอินแล้ว!
โรงแรมนำเสนอห้องพักหลายแบบ ประกอบด้วยห้องพักรวมที่เหมาะสำหรับแขกคนเดียว และตัวเลือกห้องตามจำนวนผู้เข้าพัก ทั้งห้องคู่ ห้องสี่คน ห้องหกคน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกแพ็กเกจตามความต้องการ ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศย่านชอปปิ้ง แนะนำให้เลือกแพ็กเกจที่รวมอาหารเช้าและออนเซ็น
ห้องพัก 2 คน
ห้องน้ำส่วนตัวในห้อง
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่ใช้ร่วมกัน
SEKAI HOTEL Fuse
・ที่อยู่: 1-19-1 Ashishiro, Higashiosaka-shi, Osaka
・เวลาบริการ: เช็คอิน 15:00〜22:00 Cafe 13:00〜22:00
・วันหยุด: วันพุธและวันพฤหัสบดี
・ลิงก์จองห้องพัก: agoda
・เว็บไซต์ทางการ
เอบิสุยุ: ปิดท้ายวันด้วยการแช่น้ำร้อนคลายเหนื่อย
มาปิดท้ายวันด้วยการแช่ออนเซ็นที่ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจกันดีกว่า! "SEKAI HOTEL Fuse" ให้บริการถังอาบน้ำไม้และผ้าเช็ดตัว เพื่อพกไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำสาธารณะด้วย ถ้าจองแพ็กเกจที่รวมค่าเข้าโรงอาบน้ำ นอกจากจะได้เข้าฟรีด้วย "SEKAI PASS" แล้ว ยังได้รับครีมอาบน้ำหรือสบู่ฟรีอีกด้วย
เอบิสุยุ
・ที่อยู่：1-20-6 Kojiohigashi, Ikuno-ku, Osaka
・เวลาบริการ：13:30〜23:30
・วันหยุด：วันพุธ
・ค่าเข้า：490 เยน (จ่ายเพิ่ม 100 เยนเพื่อเข้าห้องซาวน่า)
＊ฟรีสำหรับผู้ที่จองแพ็กเกจอาหารเช้า + โรงอาบน้ำของ SEKAI HOTEL Fuse
แนะนำแผนการท่องเที่ยวโอซาก้า 3 วัน 2 คืน: Day 2
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าสไตล์โชวะ
ถ้าจองที่พัก "SEKAI HOTEL Fuse" แบบรวมอาหารเช้า จะสามารถไปทานอาหารเช้าได้ที่ "อิเคดะยะ คาเฟ่" หรือ "Cafe de Plaire" ร้านกาแฟทั้งสองที่เป็นร้านพี่น้องกัน ภายในเป็นบรรยากาศย้อนยุคและเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น หลังจากเข้าร้านไปจะเห็นคุณลุงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ คุณป้าคุยกันอย่างสนุกสนาน เหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคโชวะเลย ทั้งสองร้านนำเสนอเซ็ตอาหารเช้าให้เลือก 3 แบบ อาหารเช้าสไตล์ยุโรปที่ประกอบดด้วยแซนด์วิช ฮอทดอก หรือพิซซ่าโทสต์ เสิร์ฟพร้อมไข่ต้ม ผลไม้ และเครื่องดื่ม เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ ทำให้เริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดชื่น
ภาพถ่าย：issue
ภาพถ่าย：issue
อิเคดายะ คาเฟ่
・ที่อยู่：1-20-14 Ashishiro, Higashiosaka-shi, Osaka
・เวลาเปิด：7:30～17:00
・Instagram ทางการ
Cafe de Plaire
・ที่อยู่：1-18-6 Ashishiro, Higashiosaka-shi, Osaka
・เวลาเปิด：7:30～17:00
＊สามารถทานอาหารเช้าฟรี เมื่อจองแพ็กเกจอาหารเช้า + โรงอาบน้ำของ SEKAI HOTEL Fuse
เดินเล่นที่ถนนชอปปิ้งฟุเสะ
"ถนนชอปปิ้งฟุเสะ" เป็นถนนชอปปิ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโอซาก้า ความยาวรวม 1.8 กิโลเมตร ประกอบด้วยร้านค้าประมาณ 350 ร้าน โดยใช้สถานีฟุเสะเป็นจุดแบ่ง ฝั่งเหนือจะมีร้านอิซากายะ ร้านราเมง และบาร์จำนวนมาก ทำให้ค่อนข้างที่จะคึกคักในช่วงกลางคืน ส่วนฝั่งใต้จะมีร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ ร้านผักผลไม้ และร้านขนมญี่ปุ่น เต็มไปด้วยบรรยากาศการใช้ชีวิตของคนท้องถิ่น เหมาะสำหรับการเดินเล่น ดูสินค้าและป้ายร้านที่ออกแบบสวยงามอย่างมาก ทุกที่ของถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบชุมชนดั้งเดิม
ภาพถ่าย：issue
ภาพถ่าย：issue
ภาพถ่าย：issue
นอกจากเดินเล่นถ่ายรูปแล้ว ถนนชอปปิ้งยังประกอบด้วยของกินพื้นเมืองที่ต้องลองมากมาย เช่น คามาโบโกะ (ลูกชิ้นปลา), ไก่ทอดญี่ปุ่น, ทาโกะยากิ, โอโคโนมิยากิ, ขนมญี่ปุ่น และอื่นๆ ตัวเลือกเยอะจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ซึ่งตอนนี้ต้องลองหยิบแผนที่บริเวณโดยรอบที่ได้จากการเช็คอินและ "SEKAI PASS" ออกมาดู เช่น ร้านขายคามาโบโกะ "มิทสึยะอุระโฮโกะ ฮนโปะ" สามารถแสดง PASS ตอนซื้อเซ็ตคามาโบโกะ เพื่อได้ฟรีเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น! สายของหวานแนะนำร้าน "วากาชิ MOMOYA" สินค้ายอดนิยมคือ "มันจูญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม" ที่ทำเป็นรูปทรงผลไม้ เช่น ลูกพลับ ลูกพีช ข้างในเป็นไส้ครีมเกาลัดและไส้เกาลัดเนื้อนุ่ม เป็นของหวานที่ทั้งดูดีและอร่อย!
ถนนชอปปิ้งฟุเสะ
・เว็บไซต์ทางการ
พิพิธภัณฑ์โมเดลไคโยโด Miraiza โอซาก้าจัดแสดงโมเดลสุดพิเศษกว่า 3,000 ชิ้น
ร้านโมเดลขนาดเล็กอย่าง "ไคโยโด" ที่มีประวัติการทำโมเดลมายาวนานเกือบ 40 ปี ได้เริ่มจัดแสดงผลงานโมเดลสุดประณีตและเต็มไปด้วยความชีวิตชีวากว่า 3,000 ชิ้นที่ "ปราสาทโอซาก้า" ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 โดยประกอบด้วยโมเดลตัวละครจากผลงานคลาสสิกของประเทศญี่ปุ่น อย่าง อุลตร้าแมน, เซเลอร์มูน, เอวานเกเลียน ไปจนถึงโมเดลฉากจากอนิเมะ รวมถึงโมเดลสัตว์ที่น่ารักและตุ๊กตาเล็กจากกาชาปอง สามารถชมได้ทั้งหมดที่ "พิพิธภัณฑ์โมเดลไคโยโด Miraiza โอซาก้า"
พิพิธภัณฑ์โมเดลไคโยโด Miraiza โอซาก้า
・ที่อยู่: B1F, 1-1 Osaka Castle, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka
・เวลาบริการ: 9:30-17:30 (เข้ารอบสุดท้าย 17:00)
・เว็บไซต์ทางการ
ราเมงอิจิซะ: แหล่งรวมราเมงจากทั่วประเทศญี่ปุ่น
มาญี่ปุ่นทั้งทีต้องลองชิมวัฒนธรรมอาหารแท้อย่างราเมง! "ราเมงอิจิซะ" ที่ตั้งอยู่ชั้น 9 ของ "EDION" ย่านนัมบะ โอซาก้า ได้รวมร้านราเมงสุดเอกลักษร์ไว้ถึง 9 ร้าน นำเสนอตัวเลือกน้ำซุปและรสชาติที่หลากหลาย! ครั้งนี้นักข่าวได้ลองชิมราเมงจากสองร้านที่แตกต่างกันแต่อร่อยทั้งคู่ คือร้าน "โยชิยามะโชเทน" และร้าน "วาอุมิ"
ร้าน "โยชิยามะ" มาจากเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด โดยเลือกใช้น้ำซุปสูตรพิเศษที่ต้มจากกระดูกหมูและไก่ในอัตราส่วนทองคำ 7:3 เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน คือ "ราเมงหมูย่างงาคั่วมิโสะ" การใส่งาคั่วมิโสะลงไป ทำให้น้ำซุปเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของงา เพิ่มความซับซ้อนของรสชาติ เสิร์ฟพร้อมหมูชาชูย่างนุ่มๆ 5 ชิ้นที่วางเต็มครึ่งชาม และเส้นบะหมี่เหลืองเหนียวนุ่ม พร้อมวัตถุดิบอื่นๆ อย่าง ถั่วงอก, หน่อไม้, ไข่ต้มยางมะตูม, เห็ดหูหนู และต้นหอม เนื้อสัมผัสที่หลากหลาย สมกับเป็นเมนูยอดนิยมอันดับหนึ่ง!
ร้าน "วาอุมิ" ตั้งอยู่ที่เมืองอามากาซากิ จังหวัดเฮียวโกะ เอกลักษณ์เด่นของทางร้าน คือ น้ำซุปรสเค็มที่ปรุงด้วยอาหารทะเล น้ำซุปใสสีเหลืองทอง มีกลิ่นหอมหวานของอาหารทะเล เมนูยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ "ราเมงรสเค็มรวมมิตร" สามารถได้ลิ้มลองชาชูถึง 3 แบบ ทั้งเนื้อหมู เนื้ออกไก่และเนื้อสะโพกไก่ ตัวเนื้อนุ่มหอมหวาน แถมยังได้ชาชูชนิดละ 2 แผ่น ปริมาณเยอะมาก! นอกจากนี้ ยังมีฟุ (แป้งสาลีอบ) 2 แผ่น เมื่อแช่ในน้ำซุปจะได้เนื้อสัมผัสคล้ายชาชู สามารถอิ่มอร่อยแบบจุใจสุดๆ
เกร็ดข้อมูล: ไอดอลดังจากประเทศเกาหลีเคยมาเยือนร้านวาอุมิ! ตอนนั้นทางร้านได้ติดชื่อสมาชิกแต่ละคนด้วยตัวอักษรไว้ที่ที่นั่ง และเตรียมสาหร่ายที่ใช้กินคู่กับราเมงไว้ให้ แฟนคลับสามารถจัดเรียงตัวอักษรบนราเมง เพื่อถ่ายรูปก่อนทานได้ เชิญแฟนคลับมาตามรอยกันได้เลย
ราเมงอิจิซะ
・ที่อยู่：3-2-18 Namba, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka
・เวลาเปิด：11:00～21:30 (Last Order 21:00)
・เว็บไซต์ทางการ
ร้านซันเดกลางคืน Parfaiteria PaL สาขาชินไซบาชิ: ขนมหวานสุดฮิตที่สวยจนไม่กล้ากิน
ร้าน "Parfaiteria PaL" เป็นร้านซันเดที่เปิดเฉพาะตอนกลางคืน โดยมีต้นกำเนิดจากฮอกไกโด ปกติแล้ว คนญี่ปุ่นที่ทำงานออฟฟิศมักจะกินราเมงหลังจากดื่มเหล้า แต่ที่ซัปโปโรในฮอกไกโดกลับมีวัฒนธรรมการกินซันเดเป็นของหวานปิดท้าย "Parfaiteria PaL" ได้สืบทอดวัฒนธรรมพิเศษนี้จากทางเหนือ และขยายสาขาไปยังโตเกียว ฟุกุโอกะ รวมถึงที่ชินไซบาชิในโอซาก้า
ร้าน "Parfaiteria PaL" มีบรรยากาศสบายๆ ตกแต่งด้วยโทนไม้ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ซันเดทุกแก้วทำด้วยมือ โดยเลือกใช้วัตถุดิบคัดสรรพิเศษ เพื่อสร้างสรรค์รสชาติหลากหลายระดับ การตกแต่งสวยงามมีความพิถีพิถัน ใส่ใจทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ อย่างเช่น "ซันเดช่อดอกสตรอว์เบอร์รี" เมนูพิเศษ นอกจากจะผลสตรอว์เบอร์รีเต็มแก้วแล้ว ด้านบนยังปูด้วยเจลลี่สีชมพูอ่อนที่ทิ้งตัวเป็นริ้วคล้ายกระโปรง สวยงามและน่าถ่ายรูปอวดเพื่อนอย่างยิ่ง! ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ "ซันเดพิสตาชิโอและช็อกโกแลต" มีจำหน่ายตลอดทั้งปี โดยสามารถลิ้มรสสปันจ์เค้ก ไอศกรีมพิสตาชิโอ ช็อกโกแลต หลากหลายเนื้อสัมผัสในแก้วเดียว รสชาติหวานกำลังดี ทานแล้วติดใจแน่นอน
เกร็ดน่ารู้: ร้าน "Parfaiteria PaL" จะนำเสนอเมนูใหม่ 1-2 อย่างทุกเดือน ทำให้สามารถได้ลองเมนูใหม่อยู่ตลอด! แต่เนื่องจากเป็นร้านที่เน้นสไตล์ผู้ใหญ่ ซันเดเกือบทุกเมนูจะผสมแอลกอฮอล์ ยกเว้นเมนูซิกเนเจอร์ "ซันเดพิสตาชิโอและช็อกโกแลต" ที่สามารถปรับให้ไม่มีแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคนที่ไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์หรือเด็กที่อายุไม่ถึง สามารถบอกพนักงานตอนสั่งว่าต้องการ "no-alcohol" ได้!
ร้านซันเดยามค่ำคืน Parfaiteria PaL ชินไซบาชิ
・ที่อยู่：1-17-15 Higashishinsaibashi, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka Marusei Building 3F
・เวลาเปิด：วันจันทร์-พฤหัสบดี 17:00-00:00 / วันศุกร์และวันก่อนวันหยุด 17:00-1:00 / วันเสาร์ 16:00-1:00 / วันอาทิตย์และวันหยุด 15:00-00:00 (สั่งอาหารได้ถึงก่อนร้านปิด 30 นาที)
・Instagram ทางการ
แนะนำแผนการท่องเที่ยวโอซาก้า 3 วัน 2 คืน: Day 3
มากุโระ ทัตสึจิน สาขาเทนจิน: สัมผัสอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่คัดสรรปลาทูน่าชั้นเยี่ยม
อยากลองสัมผัสวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียมไหม? ขอแนะนำร้าน "มากุโระ ทัตสึจิน สาขาเทนจิน" เลย! โดยทั่วไปปลาทูน่าจะถูกแช่แข็งทันทีหลังจากจับได้ แต่เพื่อมอบประสบการณ์ความอร่อยขั้นสุดยอด ร้านนี้จึงเสิร์ฟปลาทูน่าสดที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง ซึ่งมีเพียง 10% ของเท่านั้นที่จะส่งตรงถึงร้านแบบสดใหม่ พร้อมทั้งการคัดเฉพาะชิ้นส่วนที่หายาก ทำให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอาหารที่อร่อยและพิเศษ การจัดที่นั่งในร้านก็พิถีพิถันไม่แพ้กัน ห้องครัวเป็นแบบกึ่งเปิด เมื่อลูกค้านั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ครึ่งวงกลม จะเหมือนได้ชมการแสดงการทำอาหารจากที่นั่งชั้นหน้าเวที
ร้าน "มากุโระ ทัตสึจิน สาขาเท็นจิน" เป็นร้านอาหารระดับพรีเมียมที่เชี่ยวชาญด้านปลาทูน่าดิบ รู้จักวิธีการจัดการเนื้อปลาทูน่าทุกส่วน และใช้เทคนิคการปรุงที่หลากหลายทั้งดิบ นึ่ง ทอด เผาไฟ และต้ม เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่แตกต่าง มอบความอร่อยของรสชาติและการจัดจานที่สวยงาม นอกจากนี้ ภายในร้านยังให้บริการตัวเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมาย รวมถึงเหล้าสาเกและโซจูที่เข้ากันได้ดีกับเมนูปลาทูน่า แนะนำสำหรับคนที่ชอบจิบเครื่องดื่มไปพร้อมกับทานอาหารอย่างมาก
เซ็ตอาหารปลาทูน่าเกรดพรีเมี่ยมสุดอลัง
สำหรับการจับคู่ไวน์กับเมนูปลาทูน่า มีคำแนะนำดังนี้
ร้าน "มากุโระ ทัตสึจิน สาขาเท็นจิน" จะมีการอัปเดตเมนูทุกๆ สองเดือน อย่างเช่นครั้งนี้ เราได้ลองชิม "เซ็ตอาหารกลางวัน" ที่รวมเมนู 9 อย่าง ประกอบด้วยซาชิมิปลาทูน่า 3 ส่วนที่หายาก ได้แก่ ส่วนท้อง (จูโทโระ) ส่วนครีบ (คามะโทโระ) และส่วนเนื้อแดง (อาคามิ) นอกจากนี้ยังมีกระเพาะปลาทูน่าดองกับผักชุนเกียว ไข่ปลาทูน่านึ่ง และอาหารเรียกน้ำย่อยต่างๆ รวมถึงคางปลาทูน่าย่างที่ทำจากส่วนที่หายากมากๆ คิดเป็น 1-2% ของตัวปลา เรียกได้ว่าได้ลองชิมความอร่อยของปลาทูน่าครบในมื้อเดียว! นอกจากจะได้ลิ้มลองรสชาติปลาทูน่าแล้ว ทางร้านยังเสิร์ฟผักทอดที่ทำจากผักตามฤดูกาลจากฟาร์มในโอซาก้า ไข่ม้วน ข้าวสวย ซุปมิโสะ และของหวาน สุดท้ายยังได้ "ของฝาก" ให้เอากลับไปทานที่โรงแรมอีก บอกเลยว่าอิ่มท้องและฟินสุดๆ เต็ม 100 คะแนน!
จานหลักเป็น "คางปลาทูน่าย่าง" เนื้อปลามีความมันและรสชาติดี กินคู่กับหัวไชเท้าขูดและส้มยูซุ ช่วยให้รสชาติสดชื่นไม่เลี่ยน
ซาชิมิเซ็ตปลาทูน่าชิ้นส่วนพิเศษ สัมผัสได้ถึงความสดใหม่ตั้งแต่คำแรกที่ทาน
ผักทอดตามฤดูกาลใช้วัตถุดิบสดใหม่จากแถบ Kinki
เกร็ดน่ารู้: ร้านมากุโระ ทัตสึจิน สาขาเท็นจิน เปิดให้บริการแบบจองล่วงหน้าเท่านั้น ถ้าไม่จองจะไม่ได้กินเลย! ทางร้านรองรับลูกค้าได้สูงสุด 10 คน สามารถพาเด็กๆ มาทานด้วยได้ ที่นี่นำเสนอเซ็ตเมนูสำหรับเด็กโดยเฉพาะ (ราคาประมาณ 5,000 เยน) แต่ต้องจองล่วงหน้าเหมือนกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์จองล่วงหน้า!
มากุโระ ทัตสึจิน สาขาเท็นจิน
・ที่อยู่: Tenjin Building 1F, 1-11-1 Higashitenma, Kita-ku, Osaka-shi, Osaka
・เวลาเปิด: อาหารกลางวัน 11:30-13:00 / อาหารเย็น ตั้งแต่ 17:00 เป็นต้นไป
・Instagram ทางการ
Optimus Cafe: ร้านกาแฟมังสวิรัติริมแม่น้ำ
ช่วงบ่ายแนะนำให้ไปเดินเล่นแถว Nakanoshima ถ้าเดินจนเหนื่อยอยากพักก็แนะนำร้านกาแฟมังสวิรัติริมแม่น้ำ "Optimus Cafe" ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Osaka City Central Public Hall ร้านนี้เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2019 เนื่องจากการให้ความสำคัญกับปัญหาโลกร้อนและสุขภาพ จึงนำเสนออาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ซึ่งดีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และในปี 2021 ได้เปลี่ยนมาเป็นร้านกาแฟมังสวิรัติเต็มรูปแบบ
ถึงจะเป็นร้านอาหารมังสวิรัติ แต่เมนูก็มีให้เลือกเยอะหลากหลายมาก ทั้งข้าวเซตผักรวม, พาสต้า, ของว่าง, ของหวาน รวมถึงเครื่องดื่มอย่างกาแฟ โกโก้ร้อน และอื่นๆ สามารถกินเบาๆ หรือจะกินให้อิ่มเลยก็ได้ โดยเมนูยอดนิยมของร้าน คือ ข้าวเซตผักรวม "Buddha Bowl" ที่ใส่อะโวคาโดมาให้ครึ่งลูก พร้อมเห็ดเข็มทอง แครอท และเนื้อเจทอด สีสันสวยงามและดีต่อสุขภาพ บรรยากาศในร้านหรูหราทันสมัย ส่วนด้านนอกมีที่นั่งริมแม่น้ำกลางแจ้ง สามารถนั่งชิมอาหารที่อร่อย พร้อมรับลมชมวิวริมน้ำ สบายสุดๆ! พักเติมพลังสักหน่อย แล้วก็พร้อมไปเที่ยวที่อื่นในเกียวโตต่อได้เลย!
Optimus Cafe
・ที่อยู่: 1F, 2-1-14 Kitahama, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka
・เวลาเปิด: วันอาทิตย์-พุธ 【Cafe】8:30 - 17:00 (Last order 16:00) / วันพฤหัสบดี-เสาร์ 【Cafe】8:30 - 18:00 (Last order 17:00)【อาหารเย็น】18:00 - 22:00 (Last order 21:00)
・เว็บไซต์ทางการ
แผนเที่ยวโอซาก้า 3 วัน 2 คืนนี้ครอบคลุมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ร้านอาหารเด็ด และจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่ห้ามพลาด เหมาะสำหรับทริปสั้นๆ แบบฟรีสไตล์ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของโอซาก้าอย่างครบรส