เกียวโตโด่งดังด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน ดังนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงชอบมาสัมผัสวัฒนธรรมของเกียวโต และชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ดอกไม้ ใบเมเปิ้ลในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แต่รู้หรือไม่ว่า เกียวโตก็เหมาะอย่างยิ่งในการเที่ยวชมหิมะอันงดงาม!วันนี้「JapaiJAPAN」จึงได้คัดสรร8 สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามราวความฝันยามหิมะตกมาให้คุณได้สัมผัสความสวยงามสีขาวกัน!
.8 ฉากหิมะในจินตนาการ
☞ฉากหิมะที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่งในเกียวโต
☞วัดคินคะคุจิ
☞บริเวณวัดคิโยะมิซุ (วัดน้ำใส)
.วัดโฮคันจิ
.ย่านนิเนซากะ
.ย่านซันเนซากะ
.วัดคิโยะมิซุ
☞ศาลเจ้าคิบูเนะ
☞ย่านวัดซันเซ็นอิน
.วัดโฮเซนอิน
.วัดซันเซ็นอิน
.วัดจัคโคอิน
☞ศาลเจ้าคาโมะ
☞วัดโทฟุคุจิ
☞อาราชิยาม่า
☞วัดเมียวมันจิ สวนหิมะ
เหตุผลหลักสองประการที่เราแนะนำว่าอย่าพลาดฉากหิมะของเกียวโต!
① หาได้ยากสุดๆ!
ฉากหิมะไม่ใช่เรื่องที่จะเห็นได้เป็นปกติในเกียวโต และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเหตุการณ์「หิมะหนาทึบที่กินเวลานานกว่าครึ่งวัน」ก็เกิดขึ้นได้ยาก และเคยเกิดขึ้นที่ใจกลางเมืองเกียวโตแค่ 1 หรือ 2 ครั้งในส่วนโซนภูเขาก็มีไม่ถึง10 ครั้งเช่นกัน ต่างจากดอกไม้หลากสีในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงที่ปรากฏเป็นประจำตามฤดูกาลทุกปี หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับทิวทัศน์หิมะในเกียวโตก็ต้องพึ่งพาโชคของตัวเองเอง
② สวยเวอร์!
ในภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า「ปกคลุมไปด้วยหิมะ 」(yukigesho)ในการบรรยายดินแดนอันสวยงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวราวกับถูกทาสีไว้ จากโลกที่「ปกคลุมไปด้วยหิมะ」สีเงินจนถึงช่วงที่หิมะเริ่มละลาย ความงามที่นำเสนอโดยเมืองหลวงโบราณล้วนเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนเต็มใจที่จะเผชิญกับความหนาวเย็นและชื่นชมอย่างเงียบ ๆ ดังนั้น หากโชคดีมากพอที่จะได้เห็นหิมะระหว่างมาเยือนเกียวโต แน่นอนว่าไม่ควรพลาดเด็ดขาด! เวลาก็มีจำกัด แล้วควรจะไปสนุกกับหิมะที่ไหนดีล่ะ? มาอ่านต่อด้านล่างเพื่อหาคำตอบได้เลย!
8 จุดชมหิมะที่ต้องไปในเกียวโต
① วัดคินคะคุจิ
ถ้าสามารถเลือกได้เพียงสถานที่เดียว เราก็จะแนะนำสถานที่นี้อย่างไม่ลังเล นั่นก็คือ「วัดคินคะคุจิ」!หากจะบอกว่า「วัดคินคะคุจิท่ามกลางหิมะ」เป็นช่วงเวลาที่วัดคินคะคุจิสวยงามที่สุดของปีก็เรียกได้ว่าไม่เวอร์เกินไป「วัดคินคะคุจิ」มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ「โรคุอนจิ 」ที่มีความหมายว่าวัดสวนกวาง เป็นสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือจากสมัยผู้สำเร็จราชการมูโรมาจิ ภายในวัดคินคะคุจิจะมี 「ศาลาสีทอง」ที่เป็นที่มาของชื่อ「วัดคินคะคุจิ」ภายในศาลานี้จะแบ่งออกเป็นสามชั้น ชั้นแรกได้รับการออกแบบให้เป็นที่พักอาศัยของชนชั้นสูง ชั้นสอง เป็นแบบบ้านตระกูลซามูไร ชั้นสาม ที่อยู่ด้านด้านบนสุดเป็นอาคารเซนแบบจีนโบราณสำหรับเก็บโบราณวัตถุ เมื่อหิมะตก วัดคินคะคุจิสีทองอร่ามจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ ประกอบกับเงาสะท้อนของน้ำที่กระเพื่อม ทำให้ฉากทั้งหมดงดงามรวมกับภาพในจินตนาการ คุ้มค่าแก่การมาเยือนอย่างแน่นอน
ถ้าหิมะตกไม่มากนัก หลังจากพระอาทิตย์ส่องแสงในตอนเช้าหิมะก็จะเริ่มละลายทันที ดังนั้นกการที่จะได้เห็น「วัดคินคะคุจิ」ในฉากหิมะชวนฝันในตำนานนั้นต้องแข่งกับเวลาจริง ๆ นี่จึงถือเป็นความปรารถนาในชีวิตของผู้ชื่นชอบเกียวโตหลาย ๆ คนเลยทีเดียว หากมีโอกาสได้ชมก็น่าจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกสักหน่อยนะ
Live Camera
หากไม่แน่ใจว่ามีหิมะตกที่วัดคินคะคุจิหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ที่ด้านล่างเว็บไซต์ทางการ(Live Camera)ก่อนตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่
วัดคินคะคุจิ(โรคุอนจิ)
・ที่ตั้ง: วัดคินคะคุจิ เขตคิตะ เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
・เวลาทำการ:9:00〜17:00 น.
・ค่าเข้าสักการะ:นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป 500 เยน;นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมต้น 300 เยน
・เว็บไซต์ทางการ
② วัดคิโยะมิซุ
ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอหิมะที่「วัดคิโยะมิซุ」ดังนั้นเมื่อทราบว่าในตอนกลางคืนมีหิมะเริ่มตกก็ควรเริ่มเตรียมตัวออกไปข้างนอกในตอนเช้าตรู่เพื่อสนุกไปกับหิมะให้เต็มที่!「วัดคิโยะมิซุ」เปิดตอน 6 โมงเช้า ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นในบริเวณนี้ในตอนเช้าตรู่ แล้วเริ่มเดินจาก「วัดโฮคันจิ」ไปตามเส้นทางที่แชร์ด้านล่าง เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์หิมะได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น!
วัดโฮคันจิ
「วัดโฮคันจิ」เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอะซึกะ โดยมี「เจดีย์ห้าชั้น」หรือที่รู้จักกันในชื่อ「เจดีย์แปดชั้น」 เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดในเกียวโต "เจดีย์ห้าชั้น" และถนนโบราณที่อยู่ท่ามกลางหิมะนั้นสวยงามมากราวกับเป็นภาพถ่ายในโปสการ์ดเลยทีเดียว
ย่านนิเนซากะ
「ย่านนิเนซากะ」เป็นถนนที่มีชีวิตชีวามากในช่วงกลางวัน แต่การมาเยือนในเวลานี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ในตอนเช้าอันเงียบสงบจะสามารถชื่นชมเสน่ห์ของถนนสายโบราณของเกียวโตได้ดียิ่งขึ้น
ย่านซันเนซากะ
「ย่านซันเนซากะ」เนื่องจากในช่วงเวลาปกติจะมีร้านค้าและร้านอาหารเรียงรายเต็มสองข้างทางและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ดังนั้นจึงชื่นชมอย่างสงบได้ยาก ทว่าหากมาเดินเล่นบนถนนโบราณอันเก่าแก่แห่งนี้ในตอนเช้าตรู่ของวันที่หิมะตก ก็จะรู้สึกถึงความเงียบสงบที่หาได้ยาก และยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฉากของละครประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอีกด้วย
บริเวณวัดคิโยะมิซุ (วัดน้ำใส)
เวลา 6 โมงเช้า เมื่อ「วัดคิโยะมิซุ」เปิดประตูก็สามารถไปที่「วัดโอคุโนะอิน」เพื่อดูเวทีแห่งคิโยมิสึได้ ทิวทัศน์สีขาวเงินช่างเป็นบรรยากาศที่น่าทึ่งจริง ๆ อาคารประวัติศาสตร์มรดกโลกอายุ 400 ปีแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ และในที่สุดปี 2022 ก็ได้มีการถอดนั่งร้านออก ทำให้ในขณะนี้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมบรรยากาศโดยรอบของ「วัดคิโยะมิซุ」ได้อีกครั้ง!
LIVE CAMERA
ตรวจสอบว่าในวันนั้นวัดคิโยะมิซุมีหิมะตกหรือไม่ได้ทาง:KYOTO LIVE CAMERA
วัดคิโยะมิซุ
・ที่ตั้ง:1-294 ชิมิสึ, ฮิกาชิยามะ-คุ, เมืองเกียวโต
・เวลาทำการ:6:00~18:00 น.(สามารถดูตารางเวลาอย่างละเอียดได้ทาง2023拜觀時間表)
・ค่าเข้าสักการะ:นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป 400เยน;นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมต้น 200เยน
・เว็บไซต์ทางการ
・ที่ตั้ง:1-294 ชิมิสึ, ฮิกาชิยามะ-คุ, เมืองเกียวโต
・เวลาทำการ:6:00~18:00 น.(สามารถดูตารางเวลาอย่างละเอียดได้ทาง2023拜觀時間表)
・ค่าเข้าสักการะ:นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป 400เยน;นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมต้น 200เยน
・เว็บไซต์ทางการ
③ ศาลเจ้าคิบูเนะ
「ศาลเจ้าคิบูเนะ」ถูกเปรียบว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากหิมะแล้ว ยังมีการประดับไฟในตอนกลางคืนอีกด้วย เส้นทางหิมะที่จุดไฟส่องสว่างเป็นความงดงามที่ในใจของใครหลายคนคงอยากเห็นสักครั้งในชีวิต โคมไฟสีแดงสดบนถนนทั้งสองด้านของศาลเจ้าเรียงรายอย่างสวยงาม แสงไฟที่ส่องสว่างให้ความรู้สึกอบอุ่นในคืนหิมะตกอันหนาวเหน็บ จากสถานีเกียวโตถึง「ศาลเจ้าคิบูเนะ」ใช้เวลาขับรถประมาณ 40 นาที และที่สำคัญคือการขับรถท่ามกลางหิมะนั้นอันตราย แนะนำว่า หากตั้งใจจะมาควรเผื่อเวลาไว้ เพื่อที่จะได้ขับรถช้า ๆ และถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย
ศาลเจ้าคิบูเนะ
・ที่ตั้ง:180 คุรามะ คิฟุเนโจ เขตซาเคียว เมืองเกียวโต
・เวลาทำการ:(ศาลเจ้าหลัก)1 ธันวาคม ถึง 30 เมษายน เวลา 6:00~18:00 น.
1 พฤษภาคม ถึง 30 พฤศจิกายน เวลา 6:00~20:00 น
・ค่าเข้าสักการะ:ไม่เสียค่าใช้จ่าย
・เว็บไซต์ทางการ
※ การประดับโคมไฟไม่ได้จัดขึ้นทุกวัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ทางการ
④ วัดซันเซ็นอิน
เมื่อเทียบระยะทางจากใจกลางของเกียวโต 「วัดซันเซ็นอิน」ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือ เนื่องจากอุณหภูมิต่ำกว่าและมีวันที่หิมะตกมากกว่า จึงทำให้มีหิมะปกคลุมได้ง่ายกว่า แม้ว่าจะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองมากกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่ก็มีจุดชมวิวมากมาย หลังจากเพลิดเพลินกับหิมะแล้ว ก่อนกลับยังสามารถแช่น้ำพุร้อนได้อีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในวัดซันเซ็นอินมีดังนี้
วัดโฮเซนอิน
「วัดโฮเซนอิน」ก่อนเปิดทำการในเวลา 9.00 น.ก็มีคนต่อแถวรอสิบกว่าคนแล้ว และทุกคนมาที่นี่เพื่อชมต้นสนห้าเข็มที่มีอายุกว่า 700 ปีต้นนี้ โดยเฉพาะในวันที่หิมะตกหนักจะมีนักท่องเที่ยวมากที่สุด เมื่อมองดูต้นสนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนก็จะสำผัสได้ถึงความหยิ่งทะนงในการยืดหยัดอยู่รอดจากน้ำค้างแข็งและหิมะมาได้หลายร้อยปี นอกจากนี้ตั๋วเข้าชมยังรวมมัทฉะและของว่างด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับชาร้อนขณะนั่งชมทิวทัศน์ของสวนที่เต็มไปด้วยหิมะพร้อมต้นสนอายุ 700 ปีอย่างเงียบสงบ
บริเวณเพดานเหนือพรมแดงด้านซ้ายก็คือ「เพดานเลือด」อันโด่งดัง ซึ่งมีที่มาจากสงสครามที่ปราสาทฟูชิมิในปีค.ศ. 1600 โทริอิ โมโตดะ ผู้พิทักษ์ของโทคุงาวะ อิเอยาสุและนายพลของเขายืนหยัดต่อสู้ไม่ยอมล่าถอยจนเสียชีวิต แม้จะเผชิญกับความแตกต่างด้านกำลังของศัตรูอย่างมาก จนในท้ายที่สุด ผู้คนที่เหลือกว่า 300 คนได้ทำฮาราคีรีจนเลือดไหลลงสู่แม่น้ำและไหลเจิ่งนองบนพื้น หลังสงคราม เพื่อที่จะขอบคุณและรำลึกถึงนายพลเหล่านี้ โทคุงาวะ อิเอยาสุได้ส่งพื้นเปื้อนเลือดจำนวนมากไปยังวัดในเกียวโต เพื่อสร้างเพดานสำหรับสักการะและน้อมรำลึกที่เรียกว่า「เพดานเลือด」
วัดโฮเซนอิน(Hōsen-in)
・ที่ตั้ง:187 โอฮาระ โชริน-โช, ซาเคียว-คุ, เมืองเกียวโต
・เวลาทำการ:9:00〜17:00 น.
・ค่าเข้าสักการะ:(รวมมัทฉะกับชาเขียวขนมญี่ปุ่น)ผู้ใหญ่ 800เยน;นักเรียนมัธยมปลายและมัธยมต้น 700เยน;นักเรียนประถม 600 เยน
・เว็บไซต์ทางการ
วัดซันเซ็นอิน
「วัดซันเซ็นอิน」แม้จะมีชื่อเสียงในเรื่องของต้นเมเปิลสีเขียวและสีแดงสด ทว่าทิวทัศน์หิมะก็สวยงามมากเช่นกัน ในทุกปีจะมีโอกาสประมาณ 10 ครั้งในการชมฉากหิมะของ "วัดซันเซ็นอิน" ในทุก ๆ ฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินเล่นบนหิมะในสวนอันกว้างใหญ่และเงียบสงบ เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง
วัดซันเซ็นอิน
・ที่ตั้ง:540 โอฮาระ ไรโกอินโช เขตซาเคียว เมืองเกียวโต
・เวลาทำการ: เดือนพฤศจิกายน เวลา 8:30~17:00 น.;เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ 9:00~16:30 น.
・ค่าเข้าสักการะ:ผู้ใหญ่ 700เยน;นักเรียนมัธยมปลายและมัธยมต้น 400เยน;นักเรียนประถม 150เยน
・เว็บไซต์ทางการ
วัดจัคโคอิน
「วัดจัคโคอิน」ก็อยู่ข้าง ๆ「วัดโฮเซนอิน」โดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาทีเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับสถานที่ที่มีชื่อเสียงใกล้ ๆ อย่าง「วัดซันเซ็นอิน」และ「วัดโฮเซนอิน」 「วัดจัคโคอิน」ก็ถือว่าไม่ได้รับความนิยมขนาดนั้น ที่แห่งนี้จึงมีนักท่องเที่ยวน้อย และมีข้อดีที่สามารถเพลิดเพลินกับลานภายในได้อย่างเงียบสงบ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดชมวิวที่ดูราวกับกรอบรูปที่ถูกเรียกว่า「ทิวทัศน์แนวขอบ」สวนทั้งสองแห่งและภาพวาดสองภาพที่สะท้อนกันไปมา
เก้าอี้ที่วางหันหน้าออกไปทางสวนช่วยถ่ายทอดความรู้สึกของวิถีเซนแบบญี่ปุ่นออกมา เมื่อมาที่นี่ก็ขอแนะนำให้นั่งพักผ่อนแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อผ่อนคลาย ส่วนในสวนที่หันไปทางตรงข้ามจะมี「สระน้ำแห่งหัวใจ」ที่ดูคล้ายอักษร「心」ราวกับเป็นการเตือนใจให้ผู้คนฝึกฝนศีลธรรมของตน จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของสวนแห่งนี้คือดอกไม้ที่บานตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเมษายนของปีถัดไป「ดอกซากุระบานอย่างต่อเนื่อง」ในวันที่หิมะตกก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเล็กน้อยในฤดูหนาว
วัดจัคโคอิน(วัดโอวาริโนะโมมิจิ)
・ที่ตั้ง:187 โอฮาระ โชรินินโช เขตซาเคียว เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
・เวลาทำการ:9:00〜16:00 น.
・ค่าเข้าสักการะ:นักเรียนมัลงไปและต่ำกว่า 300เยน
・เว็บไซต์ทางการ
⑤ ศาลเจ้าคาโมะ
ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำคาโมกาวะ ทางตอนเหนือของเกียวโต「ศาลเจ้าคาโมะ」มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดถึง 2,600 ปี ถือเป็นเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต และพื้นที่ทั้งหมดยังคงรักษารูปแบบในยุคเฮอันไว้ จริง ๆ แล้ว「ศาลเจ้าคาโมะ」มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ「ศาลเจ้าคาโมวาเกอิกาซูจิ」ที่มาจากเทพเจ้าแห่งการบรรเทาภัยพิบัติ ชัยชนะ และเป็นเทพอุปถัมภ์ของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อเดินผ่านประตูโทริอิเข้าไปก็จะมองเห็นจัตุรัสขนาดใหญ่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว
ทางด้านขวาของลานจตุรัสคือ「ต้นซากุระ」ที่มีชื่อเสียง เป็นต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 150 ปี เมื่อบานสะพรั่ง ดอกไม้จะเรียงรายราวกับม่านดอกไม้ งดงามไร้ที่ติ เมื่อถึงคราวฤดูหนาวก็จะเปลี่ยนเป็นลำต้นซากุระอันโดดเดี่ยว ส่วนทุกฤดูใบไม้ผลิก็จะบานสะพรั่งอีกครั้ง เมื่อเปรียบทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะกับทิวทัศน์สีชมพูสดใส ก็อดไม่ได้ที่จะประทับใจกับความมีชีวิตชีวาของต้นซากุระนี้ "สะพานสีแดง" หน้าศาลเจ้าหลักถูกล้อมรอบด้วยเชือกศักดิ์สิทธิ์ และเปิดให้เฉพาะนักบวชในพิธีกรรมชินโตเท่านั้น ด้านหลังสะพานสีแดงคือบริเวณศาลเจ้าหลักของ「ศาลเจ้าคาโมะ」 ในฤดูหนาวความแตกต่างระหว่างหิมะสีขาวกับศาลเจ้าสีแดงอันศักดิ์สิทธิ์ช่างสวยงามอย่างน่าทึ่ง
ศาลเจ้าคาโมะ
・ที่ตั้ง:339 คามิกาโมะ โมโตยามะ เขตคิตะ เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
・เวลาทำการ:แต่ละโซนแตกต่างกัน โปรดดูที่เว็บไซต์ทางการ
・ค่าเข้าสักการะ:ไม่มีค่าเข้า;เข้าชมพิเศษ ท่านละ 500เยน
・เว็บไซต์ทางการ
⑥ วัดโทฟุคุจิ
「วัดโทฟุคุจิ」เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นวัดนิกายเซนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสถานที่ชมต้นเมเปิลอันดับ 1 ของภูมิภาคคันไซเมื่อเทียบกับทิวทัศน์ของใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงที่เรียงรายเป็นภาพบรรยากาศใบไม้สีแดง หิมะสีขาวที่ปกคลุมบนสะพานในฤดูหนาวที่หายากกลับน่าประทับใจยิ่งกว่า! โดยปกติแล้วถ้าอยากชมป่าสูงตระหง่านก็จะต้องขึ้นไปยืนบน「สะพานกาอุนเคียว」ที่อยู่หน้าวัดโทฟุคุจิแล้วมองลงมาจากด้านบน ก็จะสามารถมองเห็นวิวป่าสีขาวโพลนอันกว้างใหญ่ได้ 「สะพานกาอุนเคียว」ดูเหมือนสะพานบนท้องฟ้าที่พาดระหว่างบนทะเลเมฆ ทางฝั่งตรงข้ามจะมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของ「สะพานโทเก็ตสึเคียว 」(Tsutenkyo Bridge) สวยงามราวกับเป็นสถานที่บนสวรรค์ ส่วน「สะพานกาอุนเคียว」เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้เข้าชมฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นหากรู้ว่าจะมีหิมะ ก็สามารถมารีบที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนได้นะ!
วัดโทฟุคุจิ
・ที่ตั้ง:15-778 ฮมมาชิ, ฮิกาชิยามะ-คุ เมืองเกียวโต
・เวลาทำการ:เมษายน-ตุลาคม เวลา9:00 น. - 16:00 น. พฤศจิกายน-ธันวาคม เวลา 8:30 น. - 16:00 น. ธันวาคม-มีนาคม 9:00 น. - 15:30 น.
・ค่าเข้าสักการะ:ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาและสถานที่ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ตารางค่าเข้าสักการะ
・เว็บไซต์ทางการ
⑦ อาราชิยามะ
มีคำในภาษาญี่ปุ่นสำหรับในฤดูหนาวเรียกว่า「ภูเขาที่หลับใหล」ที่หมายถึง「ป่าบนภูเขาในฤดูหนาวอันเงียบสงบ」ในช่วงฤดูหิมะบริเวณอาราชิยามะจะรวมไปถึง「เขาอาตาโกะ」ภายในภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว เมื่อมองจากไกลๆจะเห็นบรรยากาศที่แตกต่างไปจากปกติ ซึ่งเป็นการบรรยายคำว่า「ภูเขาที่หลับใหล」ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังมี「เส้นทางป่าไผ่อาราชิยามะ」(嵯峨野 竹林の道)ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง โดยแนะนำให้ไปเล่นหิมะในตอนเช้าที่ไม่มีรอยเท้าเลย หิมะจะเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้น ตอนสายจะเริ่มมีผู้คนหนาแน่น จากนั้นบนพื้นก็จะเต็มไปด้วยรอยเท้าสีดำ
⑧ วัดเมียวมันจิ สวนหิมะ
สถานที่สุดท้ายคือ「สวนหิมะ」ของ「วัดเมียวมันจิ」วัดเมียวมันจิตั้งอยู่ในเขตซาเกียว ภายในวัดมีสวนหิมะอันโด่งดังที่สร้างขึ้นโดยยอดกวีไฮกุ นาม มัตสึนากะ เทอิโทคุ(Matsunaga Teitoku) 「สวนจันทรา」ของวัดคิโยะมิซุ และ「สวนบุปผา」ของศาลเจ้าคิตาโนะ เท็มมากุ ที่เรียกอีกอย่างว่า「หิมะ・จันทรา・บุปผา」สามสวนเลืองชื่อในเกียวโตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาก วัดเมียวมันจิโด่งดังในด้านสวนหิมะ แน่นอนว่ามีทิวทัศน์หิมะที่สวยงามแน่นอน! สวนหิมะใช้หน้าต่างกระดาษจัดองค์ประกอบของฉากหิมะออกมาได้น่าทึ่ง โดยมีภูเขาฮิเอที่ปกคลุมด้วยหิมะเป็นพื้นหลัง และทิวทัศน์ที่ย้อมด้วยหิมะสีขาว เต็มไปด้วยความสง่างามแบบญี่ปุ่นและความงามจนแทบลืมหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง นำเสนอทิวทัศน์ของเกียวโตในฤดูหนาวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เสียแรงที่เป็นถึงไฮไลต์จุดชมวิวหิมะของเกียวโต
วัดเมียวมันจิ (สวนหิมะ)
・ที่ตั้ง:91 อิวาคุระ ฮาตาโช เขตซาเคียว เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
・เวลาทำการ:เข้าสักการะ เวลา 9:00〜16:00 น.;ชมด้านในวัด เวลา 6:00〜17:00 น.
・ค่าเข้าสักการะ:นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป 600เยน;นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 300เยน;เข้าชมด้านในไม่เสียค่าใช้จ่าย
・เว็บไซต์ทางการ
ฉากหิมะในเกียวโตแม้ไม่ได้ละลานตาเท่าฮอกไกโดและโทโฮคุ แต่หิมะที่หาชมได้ยากผสมผสานกับความสง่างามของเมืองหลวงโบราณ ทำให้หลายคนตื่นเต้นและอยากลิ้มรสมันมากขึ้น หากต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชน ก็ควรเริ่มสำรวจฤดูหนาวของเกียวโตในตอนเช้าตรู่ แล้วคุณจะได้สัมผัสกับความอัศจรรย์มากมายที่ไม่มีในหนังสือคู่มือท่องเที่ยวอย่างแน่นอน!
☞ อ่านเพิ่มเติม
・มาโตเกียวปี 2024 ต้องมานี่! เปิดลายแทงสถานที่ต้องไปเยือน 20+1 เที่ยวจุใจไปแบบจุก ๆ!