เกียวโตเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่วางแผนมาเที่ยวคันไซ นอกจากการจัดทริปเกียวโต-โอซาก้า-โกเบแล้ว การนั่งรถไฟท่องเที่ยวคุโรมัตสึ เพื่อเที่ยว "เกียวโตทางทะเล" ไปยังอามาโนะฮาชิดาเตะ และอิเนะก็เป็นเส้นทางที่เราอยากแนะนำอย่างมาก! แถมยังสามารถแวะไปฟุกุอิและชิงะเพื่อชมธรรมชาติอันงดงาม และทำให้ทริปคันไซของคุณแตกต่างไม่เหมือนใครอีกด้วย! ด้านล่างนี้ "JapaiJAPAN" จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำมาให้คุณ ว่าแล้วก็ตามมาเลย!
ออกเดินทางด้วยรถไฟ "ทังโกะ เท็ตสึโด คุโรมัตสึ" แล้วไปเที่ยวเกียวโตทางทะเลกันเถอะ
รถไฟทังโกะเท็ตสึโด "คุโรมัตสึ" เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่วิ่งระหว่างอามาโนะฮาชิดาเตะ ฟุคุจิยามะ และนิชิไมซูรุในจังหวัดเกียวโต ตัวรถไฟสีดำตัดด้วยสีแดงดูสง่างามมีเอกลักษณ์! ภายในรถไฟมีบริการชุดอาหาร 3 แบบตามช่วงเวลา ได้แก่ มื้อกลางวัน ของหวาน และชุดเครื่องดื่มสาเก ทั้งหมดปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล ระหว่างทางผู้โดยสารจะได้สัมผัสบรรยากาศชนบทและวิวทะเลสีครามสวยงาม โดยเฉพาะช่วงทางรถไฟยูระกาวะที่ทอดข้ามทะเล เป็นจุดที่นักถ่ายภาพรถไฟนิยมมาเก็บภาพกันมาก
นอกจากอาหารและวิวนอกหน้าต่างที่สร้างความประทับใจให้ผู้โดยสารแล้ว การตกแต่งภายในรถไฟก็เป็นอีกไฮไลต์สำคัญ บรรยากาศที่อบอุ่นด้วยงานไม้และกลิ่นอายย้อนยุคช่วยมอบความผ่อนคลายให้กับบรรยากาศและการเดินทาง และรถไฟขบวนนี้ก็ออกแบบโดยมิโตโอกะ เออิจิ นักออกแบบชื่อดังผู้เคยออกแบบรถไฟท่องเที่ยวหรู "นานาโฮชิ" ของ JR คิวชูอีกด้วย
・หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทาง ก็ไปดูบทความรีวิวการนั่งรถไฟคุโรมัตสึ กันได้เลย!
・เว็บไซต์ทางการของรถไฟคุโรมัตสึ
แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในเส้นทางเกียวโต ฟุกุอิ และชิงะ!
เกียวโต
อามาโนะฮาชิดาเตะ: สะพานทรายเชื่อมสวรรค์กับโลกมนุษย์ในตำนาน
อามาโนะฮาชิดาเตะในจังหวัดเกียวโต มัตสึชิมะในจังหวัดมิยางิ และมิยาจิมะในจังหวัดฮิโรชิมะ ได้รับการขนานนามว่าเป็น 3 วิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น อามาโนะฮาชิดาเตะเป็นแนวสันดอนทรายธรรมชาติยาวประมาณ 3.6 กิโลเมตร ตามตำนานเล่าว่าที่นี่เคยเป็นสะพานที่เหล่าเทพเจ้าใช้เดินทางระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ จึงได้ชื่อว่า "สะพานสวรรค์" เนื่องจากสะพานได้พังทลายลงมา วิธีชมที่ถูกต้องคือต้องมองจากมุมมองของเทพเจ้า นั่นคือก้มหัวมองผ่านระหว่างขา! แนะนำให้นั่งกระเช้าขึ้นไปยังสวนคาซามัตสึที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 130 เมตร วิวของอามาโนะฮาชิดาเตะจากจุดนี้ได้รับการขนานนามว่า "โชริวคัง" หรือก็คือมังกรยักษ์ที่พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า
สวนคาซามัตสึถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคู่รัก มีคู่รักมากมายมาที่นี่เพื่อสั่นระฆังแห่งความหวัง ล็อคแม่กุญแจรูปหัวใจ และอธิษฐานขอให้รักยืนยาวและมีความสุข นอกจากนี้ ที่ระเบียงชมวิวยังสามารถโยนกระเบื้องได้ เชื่อกันว่าถ้าโยนกระเบื้องผ่าน "วงแหวนแห่งปัญญา" จะนำโชคดีมาให้ อามาโนะฮาชิดาเตะที่มีตำนานเทพเจ้าหนุนหลังนี้ จึงถือเป็นจุดพลังงานและสถานที่อธิษฐานขอพรที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว!
สวนคาซามัตสึ
・ที่อยู่:75 Ogaki, Miyazu, Kyoto
・เว็บไซต์ทางการ
อิเนะฟูนายะ : หมู่บ้านชาวประมงแสนโรแมนติก
ห่างจากอามาโนะฮาชิดาเตะประมาณ 30 นาทีโดยรถยนต์ มีเมืองชายทะเลเล็กๆ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นั่นคือ "อิเนะ" จุดเด่นที่สุดคือกลุ่มอาคารฟูนายะ อาคารที่ชั้นล่างใช้จอดเรือและชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 1,700 ปี ปัจจุบันยังคงมีการอนุรักษ์ไว้ประมาณ 230 หลัง ทำให้ทิวทัศน์ของหมู่บ้านชาวประมงนั้นทั้งดูขลังและงดงาม ในปี 2005 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารดั้งเดิมที่สำคัญของญี่ปุ่น บ้านเรือฟูนายะที่สร้างติดทะเล เมื่อมองจากระยะไกลจะเหมือนบ้านญี่ปุ่นลอยอยู่บนน้ำ บรรยากาศที่ดูโดดเดี่ยวจากโลกภายนอกทำให้ดูลึกลับและเหมือนความฝัน ถ้ามาที่นี่แล้ว แนะนำให้นั่งเรือชมวิวจะได้อรรถรสมากขึ้น!
อิเนะ
・ที่อยู่:อำเภออิเนะ เขตโยซะ จังหวัดเกียวโต
・เว็บไซต์ทางการ
สวนอิฐแดงไมซูรุ : สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ยอดนิยม
เดินจากสถานีฮิงาชิไมซูรุประมาณ 15 นาที จะถึงสวนอิฐแดงไมซูรุ ที่นี่มีกลุ่มอาคารอิฐแดงที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปี เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น "Fullmetal Alchemist ฉบับคนแสดง", "Fueled: The Man They Called Pirate", "Japan's Longest Day" เป็นต้น บรรยากาศย้อนยุคและสง่างาม เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเก็บความทรงจำ
อาคารส่วนใหญ่ที่นี่เคยใช้เป็นคลังทุ่นระเบิดและคลังกระสุนของกองทัพเรือญี่ปุ่นเก่า ห้าอาคารได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ หอที่ระลึกเทศบาล โรงงาน และห้องกิจกรรมสาธารณะ โดยอาคารหมายเลข 1 "พิพิธภัณฑ์อิฐแดง" เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของโลกที่มีธีมเกี่ยวกับอิฐแดง และยังเป็นอาคารอิฐแดงโครงเหล็กที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น อาคารหมายเลข 3 "Maizuru Chie Gura Warehouse" มีร้านขายของฝาก ภายในขายแกงกะหรี่กองทัพเรือหลากหลายชนิด เหมาะแก่การซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่ง!
สวนอิฐแดงไมซูรุ
・ที่อยู่:1039-2 Kitaasaka, Maizuru, Kyoto
・เวลาทำการ:9:00~17:00
・เว็บไซต์ทางการ
ฟุกุอิ
คุมะกาวะ-จุกุ: เมืองพักระหว่างทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งอดีต
"คุมะกาวะจุกุ" เมืองโบราณในจังหวัดฟุกุอิ เคยเป็นจุดแวะพักสำคัญที่สร้างโดยอาซาโนะ นากามาซะ ซามูไรของโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ เมืองนี้มีความสำคัญทั้งด้านการทหารและการคมนาคม โดยเฉพาะเป็นเส้นทางขนส่งปลาซาบะจากอ่าววากาสะไปเกียวโต จนได้ชื่อว่า "ถนนปลาซาบะ" แม้ว่าหน้าที่การขนส่งจะค่อย ๆ หมดความสำคัญไปตามกาลเวลา แต่เสน่ห์ของเมืองยังคงอยู่ ทั้งบรรยากาศโบราณ อาคารที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่น-ตะวันตก และลำธารมาเอะกาวะที่ไหลผ่าน ในปี 2015 เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกญี่ปุ่น ในฐานะส่วนหนึ่งของ "กลุ่มมรดกวัฒนธรรมเส้นทางโบราณวากาสะ" เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมเมืองแบบสบายๆ
คุมากาวะจูกุ
・ที่อยู่:คุมากาวะ เมืองวาคาสะ เขตมิกาตะ คามินากะ จังหวัดฟุกุอิ
・เว็บไซต์อ้างอิง
มิกาตะโกโกะ : แล้วสีฟ้าทะเลสาบขอบคุณจะเปลี่ยนไป
พูดถึง 'ทะเลสาบ' คุณนึกถึงสีอะไรบ้าง? แต่บอกเลยว่าหลังจากได้มาเยือนมิกาตะโกโกะในจังหวัดฟุกุอิ คุณจะไม่ตอบแค่ "สีน้ำเงิน" อีกต่อไป มิกาตะโกโกะประกอบด้วยทะเลสาบ 5 แห่ง ได้แก่ ทะเลสาบมิกาตะ ทะเลสาบซุยเงตสึ ทะเลสาบซุงะ ทะเลสาบคุคุโกะ และทะเลสาบฮินาตะ เนื่องจากแต่ละทะเลสาบมีความลึกและความเค็มที่แตกต่างกัน จึงทำให้สีน้ำเงินที่ปรากฏแตกต่างกัน เมื่อรวมกับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ยิ่งทำให้เกิดความหลากหลายของสีสันมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นนิยามของ "สีน้ำเงิน" ที่หลากหลาย สวยงาม และเป็นกวีมากขึ้น หากต้องการชมมิกาตะโกโกะอย่างสุดลูกหูลูกตา ขอแนะนำให้ไปที่สวนยอดเขา RAINBOW LINE!
สวนยอดเขา RAINBOW LINE เป็นจุดชมวิวที่คุณจะชมวิวได้อย่างเพลิดเพลินที่สุด! ที่นี่แบ่งเป็นระเบียงชมวิว 5 แห่งที่มีสไตล์แตกต่างกัน เช่น ระเบียงชมวิวมิฮามะสามารถมองเห็นทะเลสาบทั้ง 5 แห่งได้ในคราวเดียว และยังสามารถแช่เท้าพร้อมชมวิวได้ด้วย มีบริการถุงพลาสติกแบบยาวสำหรับผู้ที่สวมถุงน่องหรือกางเกงขายาว เพื่อให้สามารถสัมผัสความผ่อนคลายจากออนเซ็นได้ ระเบียงชมวิวโกโกะมีโซฟาแบบเตียงที่คุณสามารถนอนพักผ่อนกับเพื่อนหรือคนรักได้อย่างสบาย ๆ ระเบียงชมวิววากาสะอยู่ ณ จุดสูงสุด และยังสามารถทดลองโยนกระเบื้องได้ เพียงเขียนความปรารถนาของคุณลงบนกระเบื้องและโยนไปทางทะเลสาบอย่างแรง ความปรารถนาอาจเป็นจริงได้นะ!
ที่น่าสนใจคือ สวนยอดเขา RAINBOW LINE ที่ได้ชื่อว่า "RAINBOW" (สายรุ้ง) เพราะสีของทะเลสาบทั้ง 5 แห่งรวมกับสีของท้องฟ้าและสีของทะเลญี่ปุ่นในระยะไกล รวมกันเป็น 7 สี สวนยอดเขายังมีบริการให้ยืมร่มสีรุ้งฟรี ใช้กันแดดหรือใช้เป็นพรอพถ่ายรูปเก๋ ๆ ก็ได้นะ!
สวนยอดเขา RAINBOW LINE
・ที่อยู่:18-2-2 Kiyama, Wakasa-cho, Mikatakaminaka-gun, Fukui
・เว็บไซต์ทางการ
จะคุชู อิตเทกิบุงโกะ : พื้นที่ศิลปวัฒนธรรมที่แฝงไว้ด้วยแนวคิดการออกแบบอันชาญฉลาด
จะคุชู อิตเทกิบุงโกะก่อตั้งโดยนักเขียนท้องถิ่น มิซุคามิ สึโตมุ คำว่า "อิตเทกิ" มีความหมายมาจากแนวคิดเซน สื่อถึงการทะนุถนอมทุกสิ่ง แม้แต่น้ำหนึ่งหยดก็ไม่ควรสูญเปล่า ส่วนบุนโกะมีความหมายว่าห้องสมุด ที่นี่ไม่เพียงมีห้องสมุดให้เด็ก ๆ ในท้องถิ่นได้อ่านหนังสืออย่างอิสระ แต่ยังมีการจัดแสดงงานศิลปะ ห้องชงชา และเป็นที่กำเนิดของโรงละครหุ่นจะคุชู เต็มไปด้วยบรรยากาศทางศิลปะและวรรณกรรม เนื่องจากคุณมิซุคามิมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว สถานที่จึงได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่ไร้อุปสรรคหลายแห่ง โรงละครสำหรับผู้ใช้รถเข็นมีหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นสวนไผ่เขียวขจี ผสมผสานความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลเข้ากับพื้นที่ภายใน สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบ
จะคุชู อิตเทกิบุงโก
・ที่อยู่:33-2-1 Okada, Ohi-cho, Ohi-gun, Fukui
・เวลาทำการ:9:00~17:00
・เว็บไซต์ทางการ
โซโตโมะ : ล่องเรือชมความงามชายฝั่ง
ในฟุกุอิมีทิวทัศน์ธรรมชาติให้ชมมากมาย และ โซโตโมะ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คลาสสิก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชายฝั่งในทะเลญี่ปุ่นที่มีความยาว 6 กิโลเมตร ประกอบด้วยถ้ำ น้ำตก และหน้าผา ในปี 1939 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งชาติในนาม "วากาสะโซโตโมะ" และในปี 1955 ได้ถูกรวมเข้าในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าววากาสะ แนะนำให้ไปที่ท่าเรือชาวประมงวากาสะเพื่อนั่งเรือท่องเที่ยว ระหว่างทางจะได้ชมหินฟูฟุกาเมะอิวะ หินซึนากาเกะอิวะ จิโกกุมง และโขดหินรูปร่างแปลกตาที่ถูกกัดเซาะโดยกาลเวลาและน้ำทะเล โดยถ้ำที่ถูกกัดเซาะโดยทะเลที่เรียกว่าไดมง (ประตูใหญ่) และโชมง (ประตูเล็ก) มีชื่อเสียงที่สุด เรือท่องเที่ยวจะจอดที่นี่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมใกล้ ๆ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ท่าเรือชาวประมงวากาสะ
・ที่อยู่:1-3-2 Kawasaki, Obama, Fukui
・เว็บไซต์ทางการ
Miketsukuni Wakasa Obama Food Culture Museum: ประสบการณ์ทำตะเกียบเคลือบวากาสะด้วยตัวเอง
หลังจากล่องเรือชมโซโตโมะ คุณยังสามารถแวะชม Miketsukuni Wakasa Obama Food Culture Museum ในบริเวณใกล้เคียง สถานที่นี้แนะนำวัฒนธรรมอาหารและประวัติศาสตร์ของวากาสะมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอแนะนำให้ขึ้นไปที่โรงงานวากาสะชั้น 2 เพื่อทดลองทำตะเกียบเคลือบวากาสะ
ตะเกียบเคลือบวากาสะทำจากเปลือกหอยและเปลือกไข่ มีลวดลายเรขาคณิตที่ละเอียดและสวยงาม จึงได้รับการขนานนามว่า "การเคลือบอัญมณี" ในห้องทดลองทำจะมีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยสอน ขั้นตอนการทำคือการขัดและขัดเงาตะเกียบธรรมดาซ้ำ ๆ จนลวดลายค่อย ๆ ปรากฏขึ้น สุดท้ายก็จะได้ตะเกียบเคลือบที่ไม่เหมือนใคร! วิธีทำดูเหมือนจะง่าย แต่แรงที่ใช้ในการขัดต้องไม่หนักหรือเบาเกินไป ช่างจะคอยสอนวิธีการปรับและควบคุมแรงด้วย! ใช้เวลาทำประมาณ 40 นาที ค่าประสบการณ์ 1,000 เยน เหมาะสำหรับเก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือซื้อเป็นของฝากให้เพื่อนและครอบครัว
Miketsukuni Wakasa Obama Food Culture Museum
・ที่อยู่:3-4 Kawasaki, Obama, Fukui
・เวลาทำการ:1 มีนาคม - 31 ตุลาคม: 9:00~18:00, 1 พฤศจิกายน - สิ้นเดือนกุมภาพันธ์: 9:00~17:00
・เว็บไซต์ทางการ
ชิงะ
ปราสาทฮิโกเนะ: ปราสาทสมบัติแห่งชาติที่มีแมวฮิโกเนะเป็นผู้พิทักษ์
ปราสาทฮิโกเนะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น เป็นโบราณสถานอันทรงคุณค่าที่ยังคงรักษาวิธีการสร้างปราสาทแบบสมัยก่อนยุคเอโดะไว้อย่างสมบูรณ์ ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชิงะ มีต้นซากุระประมาณ 8 สายพันธุ์กว่า 1,200 ต้น ในฤดูใบไม้ผลิจะได้เห็นปราสาทที่ถูกล้อมรอบด้วยดอกซากุระสีชมพูอ่อน ในเวลาพลบค่ำ ปราสาทฮิโกเนะภายใต้แสงจันทร์ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแปดทิวทัศน์แห่งทะเลสาบบิวะ นอกจากนี้ ยังแนะนำให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนเก็งคิวเอ็นในปราสาท เป็นสวนแบบเดินชมรอบสระที่ใช้น้ำจากทะเลสาบบิวะ สร้างภูมิทัศน์ตามแนวคิดของทะเลสาบบิวะและแปดทิวทัศน์โอมิ สามารถมองเห็นเงาสะท้อนของปราสาทในน้ำได้ เหมาะมากสำหรับถ่ายรูป และยังสามารถทดลองชงชามัตฉะได้อีกด้วย!
แม้ว่าปราสาทฮิโกเนะจะมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่การจัดการภายในก็ยังมีความยืดหยุ่นและอ่อนโยน มักจะรับเชิญจากวงการศิลปะร่วมสมัยให้เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้ง มาสคอตของที่นี่ "ฮิโกเนียน" ก็ได้รับความนิยมสูงมาก เขาจะปรากฏตัวให้เห็นวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ผู้ที่สนใจโปรดตรวจสอบเวลาที่เว็บไซต์ทางการก่อนไป
ปราสาทฮิโกเนะ
・ที่อยู่:1-1 Kinegame-cho, Hikone, Shiga
・เวลาทำการ:8:30〜17:00
・เว็บไซต์อ้างอิง
เกาะจิกุบุชิมะ: เกาะพลังงานที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะแห่งเทพเจ้า
ในขณะที่ปราสาทฮิโกเนะได้รับเลือกเป็นหนึ่งในแปดทิวทัศน์แห่งทะเลสาบบิวะในชื่อ "พระจันทร์สว่าง" เกาะจิกุบุชิมะซึ่งตั้งอยู่ห่างจากฮิโกเนะประมาณ 6 กิโลเมตรในทะเลสาบบิวะตอนเหนือ ก็ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในแปดทิวทัศน์แห่งทะเลสาบบิวะในชื่อ "สีเขียวเข้ม" เนื่องจากเกาะทั้งเกาะปกคลุมด้วยป่าสนและในอดีตยังมีชื่อเรียกว่า "เกาะแห่งเทพเจ้า" บนเกาะมีวัดโบราณอายุพันปีชื่อวัดโฮกอนจิ ที่ประดิษฐานเทพเบนไซเทนผู้ดูแลศิลปะและความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเบนเทนของญี่ปุ่น ประตูคารามงที่มีสีสันสดใสและงดงามได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น
ข้างวัดยังมีศาลเจ้าจิกุบุชิมะ (หรือเรียกอีกชื่อว่าศาลเจ้าสึคุบุสุมะ) ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี มีการสร้างเสาโทริอิริมทะเลสาบ เชื่อกันว่าถ้าโยนกระเบื้องผ่านเสาโทริอิได้ คำอธิษฐานจะเป็นจริง ทำให้มีผู้คนมากมายมาท้าทาย เครื่องรางและเซียมซีที่นี่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเครื่องรางรูปเหรียญโคบังที่เชื่อว่าถ้าเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์จะช่วยดึงดูดโชคลาภ! บนเกาะจิกุบุชิมะมีทั้งความเชื่อทางพุทธศาสนาและชินโตอยู่ร่วมกัน บรรยากาศโดยรวมเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และน่าเคารพ คุ้มค่าแก่การมาเยือน! แต่บันไดระหว่างทางสักการะสูงและชันมาก ผู้สูงอายุควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
เกาะจิกุบุชิมะ
・ที่อยู่:เกาะจิกุบุชิมะ เมืองนางาฮามะ จังหวัดชิงะ
・เว็บไซต์อ้างอิง
สุดท้าย ขอสรุปตำแหน่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้อีกครั้ง!
เมื่อวางแผนเที่ยวคันไซแบบอิสระ อย่าจำกัดตัวเองแค่ในเกียวโต โอซาก้า และโกเบเท่านั้น จังหวัดเกียวโต ฟุกุอิ และชิงะก็เหมาะที่จะจัดทริปเที่ยวด้วยเหมือนกัน! พื้นที่นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายรูปและรักการชมธรรมชาติ หากเลือกเวลาที่เหมาะสมยังสามารถสัมผัสประสบการณ์รถไฟท่องเที่ยวคุโรมัตสึได้อีกด้วย รับรองว่าทริปจะเต็มไปด้วยความสนุกและความประทับใจอย่างแน่นอน!