ถ้าอยากจัดทริปเที่ยวคันไซไปพร้อมกับครอบครัว ขอแนะนำ "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" โอซาก้า! สวนสาธารณะแห่งนี้นอกจากจะมีสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสนุก ๆ มากมาย สวนสัตว์ที่สามารถใกล้ชิดกับบรรดาสัตว์ต่าง ๆ และยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ที่จัดขึ้นตามฤดูกาลอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกสนานได้อย่างเต็มที่! ต่อไปนี้ขอสรุปจุดเด่นที่ห้ามพลาดของสวนสาธารณะแห่งนี้ให้กับทุกคน!
เครื่องเล่นสุดมันส์ สวนสัตว์สุดน่ารัก และกิจกรรมตามฤดูกาลที่ "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" โอซาก้า!
"สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ของโอซาก้าก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1912 ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี และยังเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเดินเข้าสวนจากทางเข้าหลัก ทางด้านซ้ายมือจะเป็น "สวนสัตว์ในร่ม(WAKUWAKU ANIMAL VILLAGE)" แนะนำสำหรับครอบครัวและคนที่ชอบสัตว์! ถ้าเดินต่อไปทางด้านซ้ายมือ จะเจอเครื่องเล่นสำหรับเด็กหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกและปลดปล่อยพลังงานอย่างมาก! ถ้าเดินไปทางซ้ายสุด จะเจอชิงช้าสวรรค์และ เครื่องเล่นที่ตื่นเต้นมากขึ้น ผู้ใหญ่หรือคู่รักสามารถตรงไปจุดนี้ได้เลย ส่วนทางด้านขวามือของสวนนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนและร้านอาหารที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่พาลูก ๆ มาเที่ยว
เที่ยว "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ยังไงดี? แนะนำ 3 ไฮไลต์เด็ด
ไฮไลต์ที่แนะนำ ①：เครื่องเล่นสุดมันส์หลากหลายถึง 39 แบบ
ภายใน "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ประกอบด้วยเครื่องเล่นในร่มและกลางแจ้งรวมกันถึง 39 แบบ! ซึ่งเครื่องเล่นกว่าครึ่งไม่จำกัดความสูงหรืออายุ สามารถสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก! สำหรับกฎและข้อจำกัดในการเล่นเครื่องเล่นแต่รูปแบบ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แผนที่สวนสนุก。
ชิงช้าสวรรค์ "นักเดินทางบนฟ้า"
รถไฟเหาะไม้ "ELF"
รถไฟเหาะไม้ชื่อ "ELF" ของที่นี่เป็นหนึ่งในสามรถไฟเหาะที่ทำจากไม้ทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่ณ ซึ่งแตกต่างจากรางรถไฟเหล็กธรรมดา รางรถไฟไม้ให้ความรู้สึกที่ตื่นเต้นมากกว่า! และขอแนะนำให้ลอง "นักเดินทางบนฟ้า' ที่เป็นเครื่องเล่นที่สูงที่สุดในสวนสนุก เปรียบเสมือนการเดินชมวิวบนฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวเกียวโตและโอซาก้าแบบสุดลูกหูลูกตา! นอกจากนี้ยังมีม้าหมุนสองชั้นสีสวยจากอิตาลี ถ้วยกาแฟหมุนธีมซานริโอน่ารัก และน้ำตกหวาดเสียวที่วัดความดังของเสียงได้ด้วย สนุกและเหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเที่ยวอย่างมาก!
ม้าหมุน
ชิงช้าลอยฟ้า
นอกจากนี้ ภายในสวนยังมีเครื่องเล่นภายในอาคารที่สามารถเล่นได้อย่างสนุกแม้ในวันที่ฝนตก เช่น "โรงหนัง 4 มิติ", "บ้านผีสิงสำหรับเด็ก" ที่น่ากลัวแบบพอดี, "GURURIMORI" เกมผจญภัยในเขาวงกตไพ่ และ "มอนสเตอร์ปะทะฮีโร่ 3D" ที่เป็นเกมยิงปืนสุดมัน! รับรองว่าสนุกจนลืมเวลาเลยล่ะ!
ไฮไลต์ที่แนะนำ ②：กิจกรรมตามธีมที่แตกต่างกันของแต่ละฤดูกาล
นอกจากเครื่องเล่นสวนสนุกแล้ว ที่"สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ยังสามารถสัมผัสความงดงามของการเปลี่ยนแปลงทั้งสี่ฤดูได้ด้วย! ฤดูใบไม้ผลิสามารถแวะชมดอกซากุระ ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนมิถุนายนสามารถชมสวนพฤกษศาสตร์ที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสันที่บานสะพรั่ง ส่วนฤดูร้อนจะเปิดสระว่ายน้ำให้ทุกคนได้เล่นน้ำคลายร้อนกัน!
สวนพฤกษศาสตร์สวยงามมากเมื่อดอกกุหลาบบานเต็มที่
สระว่ายน้ำเปิดให้ใช้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว สถานที่ต่าง ๆ จะแปลงโฉมในยามค่ำคืนเป็น "สวนสนุกประดับแสงไฟ" ซึ่งสามารถชื่นชมการตกแต่งอันหรูหราและแสงไฟสุดโรแมนติกภายในสวน สิ่งที่เจ๋งสุด ๆ คือไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพียงแค่มีตั๋วเข้าสวนสาธารณะใบเดียว ก็สามารถเข้าชมแถมยังได้ลองเล่นสเกตน้ำแข็งอีกด้วย (คำเตือน: กิจกรรมว่ายน้ำในหน้าร้อนและสเกตน้ำแข็งในหน้าหนาวต้องซื้อตั๋วกิจกรรมเพิ่มเติม)
ไฮไลต์ที่แนะนำ ③："สวนสัตว์ในร่ม" ที่คุณสามารถใกล้ชิดกับสัตว์ และลองให้อาหารได้!
"สวนสัตว์ในร่ม" จำเป็นต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากจากตั๋วเข้าสวนสาธารณะ ซึ่งจ่ายเพียง 600 เยนเท่านั้น คุณก็จะได้สัมผัส, ถ่ายรูป และให้อาหารสัตว์น่ารัก ๆ หลากหลายชนิด อย่าง นกฮูก, คาปิบาร่า, จิงโจ้, มารา, หมา, หนูตะเภา, กระต่ายขนยาว, นกแก้ว, มาร์มอต และอื่น ๆ แบบใกล้ชิดและไม่จำกัดเวลา ฝนตกก็ไม่ต้องกังวลด้วย (คำเตือน: อาหารสัตว์มีค่าบริการ)
จิงโจ้และลูกจิงโจ้เพิ่งเกิด
สามารถสังเกตเห็นนกฮูกน่ารักหลากหลายสายพันธุ์
ถ้าโชคดีคุณอาจจะได้เห็นลูกจิงโจ้ตัวน้อยที่โผล่ออกมาจากถุงท้องของแม่ด้วย! แต่อย่าลืมปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการเอามือไปใกล้ปากหรือจมูกของสัตว์ตัวน้อย ถ้าจะให้อาหารก็ขอให้ใช้อาหารที่เหมาะสมและปริมาณพอดี ๆ และอย่าลืมทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์ด้วยล่ะ
"มารา" สัตว์เลี้ยงที่นิสัยอ่อนโยนและเป็นมิตร
"นกแก้ว" สีสันสดใสที่ไร้สายผูก
หนูตะเภาและกระต่ายขนยาวที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น"Hirakata Park สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ค่าเข้าชมและวิธีการซื้อบัตร
บัตรเข้าสวน, บัตรเครื่องเล่น, บัตรเข้าชมสวนสัตว์ในร่ม และบัตรร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของ "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ต่างแยกจำหน่าย ถ้าอยากแค่เดินเล่นในสวน ชมวิว หรือดูไฟประดับฤดูหนาว ก็ซื้อแค่บัตรเข้าสวนก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากเล่นเครื่องเล่นด้วย สามารถซื้อบัตรเครื่องเล่นแยกได้ หรือจะซื้อ "บัตรเล่นไม่อั้น" ก็ได้ เพราะสามารถเล่นเครื่องเล่นทั้ง 39 แบบไม่จำกัด!
ราคาบัตร
| บัตรเข้าสวน | บัตรเข้าสวน + บัตรเล่นไม่อั้น |
| นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป | 1,800 เยน | 5,100 เยน |
| นักเรียนประถมศึกษา | 1,000 เยน | 4,300 เยน |
| เด็กตั้งแต่ 2 ขวบ จนถึงก่อนวัยเรียน | 1,000 เยน | 3,000 เยน |
☞ อยากรู้ราคาเครื่องเล่นแต่ละอย่าง ลองดูที่แผนที่สวนสนุก！
วิธีการซื้อบัตรนั้นสามารถซื้อได้ที่หน้าสวนสาธารณะ หรือซื้อล่วงหน้าได้ที่ช่องทางออนไลน์ ณ วันที่ไปก็ไม่ต้องต่อแถวเพื่อซื้อบัตร ปัจจุบันรถไฟเกียวโต-โอซาก้านำเสนอบัตรพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย "KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS 1day" ซึ่งเป็นบัตรใบเดียวที่รวมค่าเดินทางจากโอซาก้าหรือเกียวโตไปยัง "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" และบัตรเข้าสวน บอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ! หากต้องการสามารถติดต่อซื้อและแสดงพาสปอร์ตที่ "ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวคันไซ" ที่สนามบินคันไซหรือเกียวโต, สถานีรถไฟที่กำหนดของ "รถไฟเคฮัง" หรือเคาน์เตอร์บริการข้อมูล/จำหน่ายตั๋วรายเดือนของ "เมโทรโอซาก้า"
"สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ไปยังไง?: วิธีการเดินทาง
หากต้องการเดินทางจากใจกลางเมืองโอซาก้าหรือเกียวโต เพื่อไปยังสวนสาธารณะฮิราคาตะ" สามารถขึ้นรถไฟเคฮันประมาณหนึ่งชั่วโมง! และลงที่สถานี "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" จากนั้นเดินอีกแค่ 3 นาทีเพื่อถึงประตูทางเข้า นอกจากนี้ภายในสวนยังมีที่จอดรถให้บริการอีกด้วย
"สวนสาธารณะฮิราคาตะ" นอกจากจะมีตัวเลือกเครื่องเล่นสวนสนุกมากมาย กิจกรรมตามฤดูกาลที่หลากหลาย และยังสามารถใกล้ชิดกับสัตว์ต่างๆ ได้อีกด้วย ถ้ากำลังวางแผนเที่ยวแถวคันไซ และอยากท่องเที่ยวแบบครอบครัว แนะนำว่าต้องเพิ่ม "สวนสาธารณะฮิราคาตะ" ไว้ในแผนการเดินทางด้วยเลย!