ญี่ปุ่นมีดอกไม้หลากหลายให้ชมตลอดทั้งสี่ฤดู หลังจากดอกซากุระสีชมพูในฤดูใบไม้ผลิโบกมืออำลา ดอกฟูจิสีม่วงโรแมนติกก็ยังน่าหลงใหลไม่แพ้กัน เดือนมิถุนายน-กรกฎาคมเป็นฤดูฝนของญี่ปุ่น และเป็นช่วงเวลาที่ "ดอกไฮเดรนเยีย" หรือ "อาจิไซ" ในสีสันหลากหลายเริ่มบานสะพรั่ง มาดูกันดีกว่าว่าแถบคันไซทั้งโอซาก้า เกียวโต และโกเบ มีสถานที่ไหนบ้างที่สามารถไปชมและถ่ายภาพทุ่งดอกไฮเดรนเยียสวยๆ ได้ บอกเลยว่า 6 สถานที่ที่ "JapaiJAPAN" คัดมาให้มีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้น!
ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับดอกไฮเดรนเยียกันก่อนดีกว่า
"ดอกไฮเดรนเยีย" ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า "บทกวีแห่งฤดูฝน" มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น ก่อนจะแพร่หลายไปยังยุโรปและถูกพัฒนาจนมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ในปัจจุบัน ไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้ประดับที่พบได้ทั่วไป โดยสามารถแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักๆ คือ แบบทรงกลม (mophead) ที่มีกลีบดอกแน่นหนาเรียงตัวเป็นทรงกลม แบบลูกไม้ (lacecap) ที่มีกลีบดอกน้อยกว่า เรียงตัวเป็นลายตาข่ายคล้ายลูกไม้ และ แบบทรงกรวย (cone-shaped) ที่มีดอกเป็นรูปกรวยและมีกลีบดอกน้อย

ภาพจาก Photo AC

ภาพจาก Photo AC
สีที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ชมพู ฟ้า และม่วง ซึ่งเกิดจาก สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในผักผลไม้และดอกไม้ที่มีสีแดง ม่วง หรือน้ำเงิน "แอนโทไซยานิน" ที่เปลี่ยนสีตามสภาพดิน ฤดูชมดอกไฮเดรนเยียในญี่ปุ่นอยู่ใน ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม และเนื่องจากดอกไฮเดรนเยียชอบความชื้น เดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นฤดูฝน จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้ที่สดชื่นเต็มที่
เริ่ม 2 มิถุนายน! ดอกไฮเดรนเยียเริ่มบานสะพรั่งแล้วที่โอซาก้า นาโกย่า และทั่วญี่ปุ่น

ภาพจาก Weathernews
เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงต่อเนื่องทั่วประเทศญี่ปุ่น ทำให้ดอกไฮเดรนเยียเติบโตเร็วกว่าปกติ บางต้นเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว และคาดว่าจะบานเร็วกว่าปีก่อนๆ อีกด้วย โดยแบ่งตามภูมิภาคได้ดังนี้ ญี่ปุ่นตะวันตก (คันไซ คิวชู ชิโกกุ) คาดว่าจะบานช่วงปลายพฤษภาคม-กลางมิถุนายน ญี่ปุ่นตะวันออก (คันโต) คาดว่าจะบานช่วงต้นมิถุนายน-กลางมิถุนายน ญี่ปุ่นเหนือ (อิวาเตะ โทยาม่า) คาดว่าจะบานช่วงกลางมิถุนายน-ปลายกรกฎาคม ตามพยากรณ์ล่าสุด เมืองที่จะได้ชมดอกไฮเดรนเยียบานก่อนใครเพื่อนคือ โอซาก้า ฟุกุโอกะ โคจิ นาโกย่า และโตเกียว ซึ่งจะเริ่มบานตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนเป็นต้นไป ตามมาด้วยฮิโรชิม่า เซนได และซัปโปโร ทางเราได้รวบรวมจุดชมดอกไฮเดรนเยียในแถบคันไซไว้ให้แล้ว มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง
6 สถานที่ชมดอกไฮเดรนเยียในภูมิภาคคันไซ
【เกียวโต】ศาลเจ้าฟุจิโนะโมริ (Fujinomori Shrine)
คาดการณ์ช่วงดอกไม้บาน:กลางเดือนมิถุนายน
ถ้าพูดถึง "วังแห่งไฮเดรนเยีย" ที่มีชื่อเสียงในเกียวโต ก็คือ ศาลเจ้าฟุจิโนะโมริ ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมือง ภายในศาลเจ้ามี "สวนไฮเดรนเยีย" ถึง 2 แห่ง ปลูกดอกไฮเดรนเยียไว้ราว 3,500 ต้น ในช่วงฤดูดอกไม้บาน มีการจัดกิจกรรมการแสดงมากมาย ทั้งกีฬาเคมาริโบราณ ดนตรีกากาคุ และการตีกลองไทโกะ นอกจากนี้ ทุกวันที่ 15 มิถุนายนยังมีการจัด "เทศกาลไฮเดรนเยีย" พร้อมจำหน่ายโกะชูอินพิเศษลายดอกไฮเดรนเยียสองสี คือสีน้ำเงินและสีแดง แต่มีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย
Fujinomori Shrine (藤森神社)
・ที่ตั้ง:609 Fukakusa Toriizakicho, Fushimi Ward, Kyoto
・เวลาเปิดสวนไฮเดรนเยีย:ประมาณ 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2025 เวลา 09.00-17.00 น.
・ค่าเข้าชมสวน:500 เยน *เข้าบริเวณศาลเจ้าฟรี
・การเดินทาง:เดิน 7 นาทีจากสถานี Sumizome (รถไฟ Keihan) หรือเดิน 5 นาทีจากสถานี Fujinomori (JR)
・เว็บไซต์ทางการ
【เกียวโต】วัดมิมุโรโทจิ (Mimurotoji Temple)
คาดการณ์ช่วงดอกไม้บาน:31 พฤษภาคม - 6 กรกฎาคม
วัดมิมุโรโทจิ หรือที่รู้จักกันในนามว่า "วัดดอกไฮเดรนเยีย" เป็นสวรรค์ของคนรักดอกไม้ ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงทั่วทั้งบริเวณวัด จะได้พบกับดอกไฮเดรนเยียหลากหลายสายพันธุ์กว่า 50 ชนิด ทั้งไฮเดรนเยียแบบตะวันตก ไฮเดรนเยียใบสนซีดาร์ และไฮเดรนเยียเจ็ดชั้นที่ได้ฉายาว่า "ไฮเดรนเยียแห่งภาพลวงตา" รวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 ต้น เมื่อดอกไม้บานสะพรั่งจะเกิดเป็นทะเลดอกไม้ สีม่วงอมชมพูและสีฟ้าขาวสลับกันไป สร้างทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาอย่างเหลือเชื่อ ยิ่งถ้าได้มองลงมาจากจุดชมวิวที่สูงของวัด คุณจะได้เห็นทะเลดอกไม้ที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส และถ้าโชคดี อาจได้พบกับดอกไฮเดรนเยียรูปหัวใจสุดโรแมนติกด้วย ในวัดยังมีของที่ระลึกพิเศษจำหน่าย เช่น เครื่องรางรูปหัวใจจากดอกไฮเดรนเยีย และเครื่องรางลายลูกไม้ลายดอกไฮเดรนเยียรุ่นลิมิเต็ด สำหรับนักสะสมเครื่องรางรูปแบบพิเศษ นี่คือไอเทมที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว

ภาพจาก 三室戸寺

ภาพจาก 三室戸寺
Mimurotoji Temple (三室戸寺)
・ที่ตั้ง:Shigatani-21 Todo, Uji, Kyoto
・เวลาเปิดสวนไฮเดรนเยีย:31 พฤษภาคม - 6 กรกฎาคม 2025 เวลา 08:30 - 15:40 น. (ต้องลงจากภูเขาก่อน 16:30 น.)
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน
・การเดินทาง:จากสถานี Mimurotoji ของรถไฟสาย Keihan เดินประมาณ 15 นาที
・เว็บไซต์ทางการ、เว็บไซต์ทางการและข้อมูลดอกไม้ล่าสุด
【โอซาก้า】โอซาก้า ฟูมิน โนะ โมริ (Forest of Osaka)
คาดการณ์ช่วงดอกไม้บาน:ปลายเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฎาคม

สวนนูกาตะจะจัดเทศกาลดอกไฮเดรนเยีย
ภาพจาก 大阪府民の森
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการปีนเขาและเดินป่า ต้องที่นี่เลย "สวนสาธารณะของชาวโอซาก้า" หรือ "โอซาก้า ฟูมิน โนะ โมริ" ซึ่งเปรียบเสมือนสวนหลังบ้านของชาวโอซาก้า! ตามชื่อเลย ที่นี่คือพื้นที่กว้างใหญ่ของภูเขาและป่าไม้ ชาวท้องถิ่นจำนวนมากใช้วันหยุดสุดสัปดาห์มาปีนเขาและพักผ่อนที่นี่ เพื่อสัมผัสกับการชำระล้างจิตใจด้วยฟิโตนไซด์จากป่า "ป่านารุคาวะ" ในบริเวณสวน "สวนนุคาตะ" มีการปลูกดอกไฮเดรนเยียกว่า 30 สายพันธุ์

ภาพจาก 大阪府民の森

ภาพจาก 大阪府民の森
ทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เส้นทางเดินคดเคี้ยวยาว 1,500 เมตรจะเต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียมายาแห่งนารุคาวะ นำโดย "ดอกไฮเดรนเยียเจ็ดชั้น" พร้อมดอกไฮเดรนเยียกว่า 25,000 ต้นที่จะบานพร้อมกัน นับเป็นสวนดอกไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันไซ! เทศกาลดอกไฮเดรนเยียปี 2025 จะจัดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่สามของเดือนมิถุนายน จนถึงวันอาทิตย์ที่สองของเดือนกรกฎาคม ในช่วงวันหยุดจะมีการจำหน่ายเครื่องดื่ม ไอศกรีม และสินค้าอื่นๆ หลังจากชมดอกไม้แล้ว สามารถพักผ่อนปิกนิกในสวนได้อย่างเพลิดเพลิน
Forest of Osaka (大阪府民の森)
・ที่ตั้ง:1748-2 Kamirokumanjichō , Higashiosaka, Osaka
・เวลาทำการ:09:00-17:00 น. (เปิดทุกวันตลอดปี)
・ค่าเข้าชม:ฟรี
・การเดินทาง:นั่งรถไฟสาย Kintetsu Nara ลงที่สถานี Hyotanyama เดินจากศูนย์ Rakuraku ประมาณ 40 นาที
※ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดินป่า โปรดสวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสม
・เว็บไซต์ทางการ
【โอซาก้า】สวนพฤกษศาสตร์นะงะอิ (Nagai Botanical Garden)
คาดการณ์ช่วงดอกไม้บาน:ปลายเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฎาคม

ภาพจาก 長居植物園

ภาพจาก 長居植物園
นอกจากการเดินทางไปชมดอกไม้ตามภูเขาแล้ว ที่นี่ยังสามารถชมความงามของดอกไฮเดรนเยียได้ในใจกลางเมืองโอซาก้า! "สวนพฤกษศาสตร์นากาอิ โอซาก้า" สวนธรรมชาติขนาดกะทัดรัด ที่ผสมผสานพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติโอซาก้า กับสวนดอกไม้หลากหลายชนิด เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับครอบครัวชาวญี่ปุ่น ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ "สวนไฮเดรนเยีย" ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีลำธารเชื่อมระหว่างสระน้ำใหญ่และสระน้ำเล็ก ที่นี่ปลูกไฮเดรนเยียมากถึง 45 สายพันธุ์ ให้ได้ชมความงามของดอกไม้แบบ 3 มิติ! ในช่วงฤดูบาน ที่นี่ยังมีการตกแต่งพิเศษด้วย "ท้องฟ้าร่ม" โดยแขวนร่มสีสันสดใสไว้บนฟ้า ซึ่งจะสร้างเงาสีสวยงามลงบนพื้นเมื่อแสงส่องผ่าน และยังมี "ทางเดินกระดิ่งลม" ที่แขวนระฆังลมลายดอกไฮเดรนเยียเป็นจำนวนมาก ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวมากมาย
Nagai Botanical Garden (大阪市立長居植物園)
・ที่ตั้ง:1-23 Nagaikoen, Higashisumiyoshi , Osaka
・เวลาทำการ:【มี.ค.-ต.ค.】09:30-17:00 น. (เข้าได้ถึง 16:30 น.)
【พ.ย.-ก.พ.】09:30-16:30 น. (เข้าได้ถึง 16:00 น.)
・วันหยุด:ทุกวันจันทร์ (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันทำการถัดไป) และ 28 ธ.ค.-4 ม.ค.
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 300 เยน | นักเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย 200 เยน | เด็กมัธยมต้นลงมาฟรี
・การเดินทาง:จากสถานี Nagai สาย Midosuji ของรถไฟใต้ดินโอซาก้า ทางออกหมายเลข 3 เดินประมาณ 800 เมตร
・เว็บไซต์ทางการ
【เฮียวโงะ】สวนพฤกษศาสตร์แห่งโกเบ (Kobe Municipal Arboretum)
คาดการณ์ช่วงดอกไม้บาน:กลางเดือนมิถุนายน - กลางเดือนกรกฎาคม
ทางตอนเหนือของเมืองโกเบมี "สวนพฤกษศาสตร์แห่งโกเบ" ที่เปรียบเสมือนสวนหลังบ้านของคนท้องถิ่น ภายในเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะสวนดอกไฮเดรนเยีย สวนแห่งนี้ปลูกดอกไฮเดรนเยียไว้ถึงประมาณ 25 สายพันธุ์ 350 ชนิด เมื่อถึงฤดูดอกไม้บาน จะได้ชมดอกไฮเดรนเยียกว่า 50,000 ต้นที่บานสะพรั่งพร้อมกัน ทั้งสายพันธุ์ "นานะดันบานะ" ที่ดูราวกับภาพลวงตา สายพันธุ์โบราณของญี่ปุ่นอย่าง "ฮิเมะอะจิไซ" และ "แอนนาเบล" ที่มีสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งแต่สายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไปจนถึงสายพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงจากตะวันตก แต่ละชนิดมีเสน่ห์ความงามที่แตกต่างกัน แนะนำให้มาลองชมด้วยตาคุณเอง
Kobe Municipal Arboretum (神戸市立森林植物園)
・ที่ตั้ง:1-2Nagaocho , Yamadacho Kamitanigami, Kita-ku , Kobe, Hyogo
・เวลาทำการ:09:00-17:00 น. (เข้าได้ถึง 16:30 น. เปิดทุกวันในช่วงฤดูดอกไม้บาน)
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่/นักเรียนมัธยมปลาย 300 เยน | นักเรียนประถม/มัธยมต้น 150 เยน
・การเดินทาง:นั่งรถโดยสารต่อจากสถานี Kita-Suzurandai บนรถไฟ Kobe Dentetsu ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
・เว็บไซต์ทางการ , เช็คสถานะการบานของดอกไม้ล่าสุด
【เฮียวโงะ】สวนพฤกษศาสตร์รอคโค อัลไพน์ (Rokko Alpine Botanicalgarden)
คาดการณ์ช่วงดอกไม้บาน:เดือนมิถุนายน - เดือนกรกฎาคม

ภาพจาก 六甲高山植物園

ภาพจาก 六甲高山植物園

ภาพจาก 六甲高山植物園
ใกล้ยอดเขาร็อกโกะที่ความสูง 865 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่คือ สวนพฤกษศาสตร์รอคโค อัลไพน์ สวรรค์แห่งพืชพันธุ์เมืองหนาวที่มีสภาพอากาศคล้ายคลึงกับทางตอนใต้ของฮอกไกโด ที่นี่ได้รวบรวมพืชพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลกที่เติบโตในพื้นที่สูงหรือเขตหนาวเย็น มากกว่า 1,500 ชนิด เปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ ไฮไลท์ของสวนแห่งนี้คือดอกไฮเดรนเยียหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งดอกไฮเดรนเยียขนาดเล็ก ฮิเมะอาจิไซ และดอกไฮเดรนเยียเจ็ดชั้น โดยเฉพาะดอกฮิเมะอาจิไซที่ตั้งชื่อโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ทาคาทาโร่ มาคิโนะ ซึ่งมีสีสันสดใสงดงาม จนได้รับฉายาว่า "ร็อกโกะบลู" นอกจากนี้ยังมีไฮเดรนเยียสายพันธุ์ภูเขาอื่นๆ เช่น มิยามายาเอะมุราซากิ และไคเคียว ที่เติบโตในเขตภูเขาหรือพื้นที่สูง ที่นี่ยังมีบริการนำเที่ยวตามเวลาที่กำหนดอีกด้วย ถ้ามีเวลาเหลือ ลองตามไกด์ไปสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ต่างๆ กันดูได้
Rokko Alpine Botanicalgarden (六甲高山植物園)
・ที่ตั้ง:Kitarokko-4512-150 Rokkosancho, Nada-ku , Kobe, Hyogo
・เวลาทำการ:15 มีนาคม - 30 พฤศจิกายน เวลา 10:00 - 17:00 น. (เข้าได้ถึง 16:30 น.)
・วันหยุด:วันพฤหัสบดี ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และ 19 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม (เปิดตามปกติในวันหยุดนักขัตฤกษ์)
・ค่าเข้าชม:มัธยมขึ้นไป 900 เยน | เด็กประถม-อายุ 4 ขวบ 450 เยน
・การเดินทาง:นั่งรถไฟสาย Hanshin มาลงที่สถานี Mikage ต่อด้วยรถบัสสาย 16 ไปลงที่ Rokko Cable Shita จากนั้นนั่งกระเช้าขึ้นเขา แล้วต่อรถบัสรอบเขาไปลงป้าย Rokko Alpine Botanicalgarden
・เว็บไซต์ทางการ , เช็คสถานะการบานของดอกไม้ล่าสุด
เที่ยวชมดอกไฮเดรนเยียในญี่ปุ่นช่วงต้นฤดูร้อนเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด สามารถวางแผนเที่ยวได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม โดยเฉพาะที่วัดมิมุโระจิและสวนฮาเสะเดระ ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น