เกียวโต เป็นเมืองหลวงเก่าอายุพันปีมีสถานที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์วัฒนธรรมหรือทิวทัศน์ธรรมชาติ ล้วนแล้วแต่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องหลงเสน่ห์ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองช้า ๆ อันแสนผ่อนคลาย หากคิดจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ เชื่อเลยว่าเกียวโตต้องเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง! และในบทความนี้ "JapaiJAPAN" ก็ได้รวบรวม10 สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโตที่เหมาะกับการพาผู้สูงอายุไปเยี่ยมชม ครอบคลุมตั้งแต่ใจกลางเมืองไปจนถึงชานเมือง รับรองว่าจะทำให้พ่อแม่ได้สัมผัสกับเสน่ห์ของเกียวโตแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง!
ประเด็นสำคัญ 4 ข้อ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างมีความสุขกับผู้สูงอายุ:
①โปรแกรมไม่ควรแน่นเกินไป ควรจัดเวลาให้ยืดหยุ่นและมีเวลาพักมากพอ
ผู้สูงอายุนั้นไม่แข็งแรงเท่าคนหนุ่มสาว อาจไม่สามารถทนกับ "การเดินจนขาล้า" หลายวันติดต่อกันได้ ดังนั้นควรเน้น "โปรแกรมคลาสสิก" เพียงช่วงเช้าและบ่ายละหนึ่งสถานที่สำคัญก็พอ สำหรับการเดินทางควรพิจารณาใช้ตั๋ว 1 วันหรือหลายวัน หลีกเลี่ยงการจองตั๋วรถไฟเวลาแน่นอนหากไม่จำเป็น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจทำให้พลาดสถานที่ที่วางแผนไว้อย่างดี ซึ่งจะทำให้เสียทั้งเงินและเสียใจ ระหว่างเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ควรแนะนำข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ เพื่อให้พ่อแม่รู้สึกอุ่นใจ และป้องกันไม่ให้เป็นเพียงการเดินผ่าน ๆ โดยไม่รู้ว่าได้ไปที่ไหนมาบ้าง
② ถ่ายรูปให้พ่อแม่และผู้สูงอายุที่มาด้วยบ่อย ๆ และอาจแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย
บันทึกช่วงเวลาดีๆ ของทริปให้พ่อแม่กันเถอะ! ถ่ายรูปสวยๆ หลายๆ มุม และถ้าผู้ใหญ่ใช้โซเชียลเป็น ก็แนะนำให้โพสต์รูปสนุกๆ แชร์ให้เพื่อนฝูงญาติมิตรได้ดู รับรองว่าพ่อแม่ต้องดีใจแน่นอน
ที่มาของภาพ:Photo AC
③ เตรียมยาที่ใช้ประจำให้พร้อม ยาแก้เมารถและหน้ากากอนามัยก็ควรมีติดตัวไว้ด้วยนะ
แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีทุกอย่าง แต่ยาที่ใช้หรือทานเป็นประจำควรเตรียมไปด้วย อุณหภูมิของญี่ปุ่นจะต่ำกว่าไทยในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นที่จะเย็นมาก เสื้อคลุมและหน้ากากอนามัยควรมีไว้เผื่อ หากมีการเดินทางที่ใช้เวลานาน ควรเตรียมยาแก้เมารถและอาหารไว้จะได้อุ่นใจกว่า
④ ทำการบ้านเรื่องของฝากท้องถิ่น แนะนำของที่ต้องซื้อให้ผู้สูงอายุเพื่อเพิ่มความสนุกในการชอปปิ้ง
การชอปปิ้งเป็นความสนุกอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยว แต่ผู้สูงอายุที่ไม่ได้ทำการบ้านมาอาจไม่รู้ว่าอะไรต้องซื้อ รสชาติเป็นอย่างไร หากสามารถแนะนำของฝากที่คาดว่าจะถูกปากผู้สูงอายุก่อนออกเดินทาง จะทำให้พวกเขาไม่เพียงแค่อิ่มหนำสำราญ แต่ยังได้กลับไทยด้วยมือที่เต็มไปด้วยของและหัวใจที่เปี่ยมด้วยความสุข
หลังจากจับหลักการพื้นฐานข้างต้นได้แล้ว ต่อไปจะแนะนำ 10 ที่เที่ยวเกียวโตแบบคลาสสิก รับรองว่าคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เป็นโปรแกรมสุดคลาสสิกที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ แม้ว่าคุณอาจเคยไปมาแล้ว แต่ครั้งนี้ลองมาเป็นไกด์ให้พ่อแม่และผู้สูงอายุที่มาด้วยดูไหม? การท่องเที่ยวกับเพื่อนร่วมทางที่ต่างกันจะทำให้เกิดประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปแน่นอน!
"ตลาดนิชิกิ" ห้องครัวของชาวเกียวโต
ตลาดนิชิกิที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 400 ปี เคยได้รับการขนานนามว่าเป็น "ห้องครัวแห่งเกียวโต" ในสมัยเอโดะเคยรุ่งเรืองในฐานะตลาดปลา และเมื่อถึงสมัยโชวะได้เปลี่ยนเป็นตลาดค้าส่ง มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่วัตถุดิบอาหาร ของฝาก และเสื้อผ้าของเกียวโต ถนนช็อปปิ้งที่ยาว 390 เมตรตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเกียวโตที่คึกคัก เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและนักเรียนญี่ปุ่นต้องมาเยือนในการทัศนศึกษา ที่นี่สามารถซื้อของที่มี "รสชาติแบบเกียวโต" มากมาย โดยเฉพาะ "โอซึเคะโมะโนะ" (ผักดองแบบเกียวโต) ที่ทำจากผักท้องถิ่นเกียวโต เชื่อว่าต้องมีของที่รสชาติถูกปากผู้สูงอายุแน่นอน!
หลังจากเดินเที่ยวตลาดนิชิกิแล้ว ก็ขอแนะนำให้ไปสักการะเทพเจ้าแห่งการศึกษา สุกาวาระ โนะ มิชิซาเนะ ที่ "ศาลเจ้านิชิกิเทนมันกู" และซื้อแผ่นไม้เอมะเพื่อขอพร นอกจากนี้ ข้างตลาดยังมี "ถนนช็อปปิ้งเทรามาจิ ชินเคียวโกกุ" ที่น่าเดินเที่ยวอีกด้วย แนะนำให้แวะร้านอาหารมังสวิรัติเพื่อสุขภาพ "Mumokuteki" และร้านเครื่องเขียนที่มีประวัติ 300 ปี "คิวคิวโด"
ตลาดนิชิกิ
・ที่อยู่:เขตนาคาเกียว เมืองเกียวโต ถนนนิชิกิโคจิ
・เวลาทำการ:ประมาณ 10:00~17:00 แต่ละร้านไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่หยุดวันพุธหรือวันอาทิตย์
・วิธีการเดินทาง:
(รถเมือง)สาย 5 ลงที่ "ชิโจทาคาคุระ (หน้าห้างไดมารุ)" เดิน 2 นาที
(รถไฟใต้ดิน)สายคาราสึมะ ลงที่ "สถานีชิโจ" เดิน 3 นาที
(ฮังคิว)สายเกียวโต ลงที่ "สถานีคาราสึมะ" เดิน 3 นาที หรือลงที่ "สถานีคาวาระมาชิ" เดิน 4 นาที
(เคฮัง)ลงที่ "สถานีชิโจ" เดิน 10 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
"วัดรูริโคอิน" ของจริงที่สวยยิ่งกว่าโปสการ์ด
ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นทุกปี คุณจะได้เห็นภาพที่สวยราวความฝันนี้ถูกแชร์กันอย่างแพร่หลายบนโซเชียลมีเดียและกลุ่มแชท หากผู้สูงอายุถามถึงสถานที่นี้ด้วยความตื่นเต้น ก็ขอให้พาไปแบบไม่ต้องลังเลเลย! "วัดรูริโคอิน" เป็นวัดในนิกายโจโดชินชู เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น จุดชมวิวที่สวยที่สุดคือการมองออกไปยัง "สวนรูริ" จากห้องโชอิน ภายนอกมีกิ่งไม้ใบไม้ที่หนาแน่นเป็นชั้นๆ สะท้อนสีสันต่างๆ ตามการเคลื่อนไหวของแสง โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ใบเมเปิ้ลสีเขียว เหลือง ส้ม และแดงทอจะผสมผสานกันเป็นสีสันราวภาพวาดสีน้ำมันที่สดใส เมื่อมาที่นี่ แนะนำให้ผู้สูงอายุใช้โต๊ะผิวมันขนาดใหญ่ตรงกลางห้องโชอินในการถ่ายภาพ จะได้ภาพสะท้อนที่สวยยิ่งกว่าในโปสการ์ดเสียอีก!
วัดรูริโคอิน
・ที่อยู่:55 คามิทากาโนะ ฮิกาชิยามะ เขตซาเกียว เมืองเกียวโต
・ช่วงเปิดให้เข้าชม:เปิดเฉพาะเดือนเมษายน-มิถุนายน และตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี วันที่แน่นอนจะแตกต่างกันในแต่ละปี กรุณาตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการ
・เวลาเข้าชม:10:00~17:00
・ค่าเข้าชม:2,000 เยนต่อคน
・วิธีการเดินทาง:นั่งรถไฟเคฮังถึงสถานี "เดมาชิยานางิ" แล้วต่อรถไฟเอซัน (ไปทาง "ยาเสะ ฮิเอซันกุจิ") ลงที่สถานี "ยาเสะ ฮิเอซันกุจิ" (สถานีปลายทาง) เดิน 5 นาที หรือนั่งรถไฟใต้ดินเกียวโตถึงสถานี "โคคุไซไคคัง" แล้วต่อรถเมืองเกียวโตสาย "โอฮาระ・โคอิดะอิชิ" ลงที่ป้าย "ยาเสะเอกิมาเอะ" เดิน 7 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
"วัดคิโยมิสึ" สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนของเกียวโต
อย่าบอกว่าคุณเที่ยวเกียวโตมาแล้วถ้ายังไม่ได้ไปวัดคิโยมิสึ! วัดคิโยมิสึเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเกียวโต ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จุดเด่นอย่างหนึ่งคือ "ระเบียงคิโยมิสึ" ที่สร้างยื่นออกจากหน้าผา โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ใช้เพียงการเข้าไม้แบบดั้งเดิม เมื่อมาที่นี่ก็ต้องแชะรูปครอบครัวโดยมีอาคารหลักของวัดคิโยมิสึเป็นฉากหลัง! นอกจากนี้ยังสามารถให้ผู้สูงอายุได้ลองใส่ชุดกิโมโนญี่ปุ่น มีร้านให้เช่าชุดกิโมโนหลายร้านในบริเวณนี้ แต่แนะนำให้จองล่วงหน้าเพื่อกันพลาด! การใส่ชุดกิโมโนเดินเล่นตามถนนนิเนนซากะและซันเนนซากะ เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ทุกคนจะไม่ลืมอย่างแน่นอน!
วัดคิโยมิสึ
・ที่อยู่:1 ชิโยมิสึ เขตฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต
・เวลาเข้าชม:โดยทั่วไป 6:00~18:00 แต่เวลาปิดและช่วงเปิดกลางคืนอาจแตกต่างกันตามฤดูกาล กรุณาตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการ
・ค่าเข้าชม:ทั่วไป นักศึกษามหาวิทยาลัยและนักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน, นักเรียนมัธยมต้นและประถม 200 เยน
・วิธีการเดินทาง:นั่งรถเมืองเกียวโตลงที่ป้าย "คิโยมิสึมิชิ" เดิน 15 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
"แม่น้ำคาโมะ" สัญลักษณ์แห่งฤดูร้อน
"แม่น้ำคาโมะ" เป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดที่ชาวเกียวโตชื่นชอบที่สุด แนะนำเป็นพิเศษให้พาพ่อแม่มาลองสัมผัสประสบการณ์ "คาโมกาวะ โนริยูโกะ" ซึ่งเป็นวัฒนธรรมฤดูร้อนของเกียวโต! ทุกปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน จะมีการสร้างระเบียงไม้ยกพื้นเรียงรายตลอดริมแม่น้ำคาโมะ กลายเป็นร้านอาหารกลางแจ้งที่เปิดเฉพาะฤดูกาล ทานอาหารไปพลางชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำคืนไปพลาง ช่างมีบรรยากาศแบบญี่ปุ่นจริง ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? แม้ไม่ได้นั่งทานอาหาร ก็สามารถเดินไปใต้สะพานชิโจในตอนกลางคืน ดูแสงไฟริมฝั่ง ฟังเสียงน้ำไหลของแม่น้ำคาโมะ พร้อมรับลมเย็น ๆ และคุยกันแบบสบาย ๆ ภายในครอบครัว เป็นค่ำคืนฤดูร้อนแบบเกียวโตแท้ ๆ และความทรงจำดี ๆ
แม่น้ำคาโมะ
・วิธีการเดินทาง:(ฮังคิว)ลงที่ "สถานีคาวาระมาชิ"、(รถไฟใต้ดิน)สายโทไซ ลงที่ "สถานีศาลาว่าการเมืองเกียวโต"、(รถเมือง)ลงที่ "คาวาระมาจิโกะโจ"/"ชิโจคาวาระมาชิ"/"ศาลาว่าการเมืองเกียวโตมาเอะ" แล้วเดินต่อ
・คาโมกาวะ โนริยูโกะ เกียวโต
☞ อ่านเพิ่มเติม
・ดื่มกาแฟและมัทฉะริมแม่น้ำคาโมะในเกียวโตช่างมีสไตล์! เปิดเผยร้านให้เช่า "อุปกรณ์ชงชา" สุดสวย
・แนะนำร้านยอดนิยมที่ต้องไปใน "คาโมกาวะ โนริยูโกะ" เกียวโต! พร้อมวิธีจอง
"เส้นทางสายปรัชญา" ถนนซากุระที่สวยที่สุด
เชื่อว่าผู้สูงอายุหลายคนคงฝันที่จะได้ชมซากุระที่เกียวโตอย่างแน่นอน! แม้ว่าในช่วงฤดูซากุระเกียวโตจะคนแน่นมาก แต่ภาพสวย ๆ จะทำให้เหล่าผู้สูงวัยสามารถอวดเพื่อน ๆ ได้อีกนาน! สถานที่ชมซากุระที่แนะนำเป็นอันดับแรกคือ "เส้นทางสายปรัชญา" ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 เส้นทางของญี่ปุ่น มีเรื่องเล่าว่านักปรัชญาญี่ปุ่นสมัยใหม่ "นิชิดะ คิทาโร่" เคยเดินครุ่นคิดบนเส้นทางนี้ จึงได้ชื่อนี้มา เส้นทางเดินยาว 1.6 กิโลเมตร ขนานไปกับคลองส่งน้ำที่เชิงเขาฮิกาชิยามะ เมื่อซากุระสองฝั่งน้ำบานสะพรั่ง ภาพซากุระสีขาวนั้นงดงามเป็นภาพอันน่าตื่นตา อีกทั้งยังได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมสะพานและสายน้ำอีกด้วย
เส้นทางสายปรัชญา
・วิธีการเดินทาง:ลงที่ป้ายรถเมือง "กินคะคุจิมิจิ" เดิน 10 นาที
・ข้อมูลการท่องเที่ยวเกียวโต
"อาราชิยามะ" ภาพวาดสี่ฤดูกับขุนเขาและสายน้ำที่งดงาม
อาราชิยามะเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมที่ห้ามพลาดเมื่อมาเกียวโต และเป็นสถานที่ที่ปรากฏในโฆษณาและละครญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะ "ป่าไผ่ซากาโนะ" ที่เป็นภาพจำของอาราชิยามะที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน ช่วงที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเส้นทางจาก "ศาลเจ้าโนโนะมิยะ" ไปทาง "วิลล่าโอโคจิซันโซ" เมื่อเดินเข้าไปในเส้นทางเล็ก ๆ ท่ามกลางป่าไผ่สูงที่เรียงรายแน่นขนัด ราวกับการเดินทางข้ามกาลเวลา ในตอนกลางวัน แสงแดดที่ลอดผ่านช่องว่างของป่าไผ่ดูราวกับฉากในละครประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ส่วนตอนกลางคืนนั้นก็เต็มไปด้วยบรรยากาศลึกลับและโรแมนติก!
เส้นทางป่าไผ่ซากาโนะ
・ที่อยู่:โอคุระยามะทาบุชิยามะโจ เขตอุเคียว เมืองเกียวโต
・วิธีการเดินทาง:รถไฟเคฟุกุ "อาราชิยามะ", รถไฟฮังคิวสายอาราชิยามะ "อาราชิยามะ", รถไฟ JR สายซากาโนะ "ซากะอาราชิยามะ"
・แนะนำการท่องเที่ยวเกียวโต
"ศาลเจ้าคิฟุเนะ" อันเต็มไปด้วยตำนาน
ศาลเจ้าคิฟุเนะที่ตั้งอยู่ในคุรามะ เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งน้ำ "ทากะโอกามิ" แต่โบราณถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งฝน ต่อมาได้รับความเชื่อถือจากผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ "น้ำ" เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ศาลเจ้าคิฟุเนะมีชื่อเสียงในเรื่อง "โอมิคุจิที่ทำนายด้วยน้ำ" โดยสามารถนำกระดาษทำนายที่เลือกไปวางบนน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นตัวอักษรจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้น วิธีการทำนายที่น่าสนใจนี้ได้รับความนิยมมาก ในฤดูร้อน คิฟุเนะเป็นสถานที่หลบร้อนยอดนิยมของเกียวโต ร้านอาหารริมลำธารจะสร้าง "คาวาโดโกะ" (ระเบียงริมน้ำ) และเสิร์ฟอาหารคาวาโดโกะและโซเมนน้ำไหล แนะนำให้พาพ่อแม่สายมูมาลองสัมผัสประสบการณ์นี้ดู!
ศาลเจ้าคิฟุเนะ
・ที่อยู่:180 คุรามะคิฟุเนะโจ เขตซาเกียว เมืองเกียวโต
・วิธีการเดินทาง:(รถไฟเคฮัง)ลงที่ "สถานีเดมาชิยานางิ" ต่อรถไฟเอซัน ลงที่ "สถานีคิฟุเนะกุจิ" แล้วต่อรถเมืองเกียวโต
・เว็บไซต์ทางการ
"วัดเบียวโดอิน" มรดกโลก
รู้ไหมว่าภาพบนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่นคือศาลาโฮโอโดของวัดเบียวโดอิน นั่นเอง! วัดเบียวโดอินสร้างขึ้นริมแม่น้ำอุจิ เป็นตัวแทนของอุดมคติชาวญี่ปุ่นโบราณเกี่ยวกับดินแดนสุขาวดีตะวันตก ภายในศาลาโฮโอโดมีพระอมิตาพุทธะประทับนั่งและรูปปั้นโพธิสัตว์อีกหลายสิบองค์ ศาลาโฮโอโดเป็นสมบัติแห่งชาติที่เป็นตัวแทนศิลปะญี่ปุ่น ทั้งจิตรกรรม สถาปัตยกรรม งานฝีมือ และประติมากรรม ล้วนแสดงออกมาอย่างประณีตในศาลาโฮโอโด การสร้างบนเกาะกลางสระน้ำ ดูราวกับพระราชวังในสระบัวแห่งดินแดนสุขาวดี ท่วงท่าที่ลอยเหนือน้ำอย่างสงบและสง่างามนี้ทำให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน หากในกลุ่มมีคนที่ชอบมัทฉะ ยิ่งควรจัดทริปไปอุจิ ที่ถือเป็นดินแดนแห่งมัทฉะ จิบชาเขียว เรียนรู้วัฒนธรรมของอุจิไปพลาง ๆ พร้อมสัมผัสอากาศชานเมืองเกียวโต
วัดเบียวโดอิน
・ที่อยู่:116 อุจิเรงเงะ เมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต
・เวลาทำการ:08:30~17:30
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนมัธยมปลายและมัธยมต้น 400 เยน, นักเรียนประถม 300 เยน
・วิธีการเดินทาง:(JR)สายนารา ลงที่ "สถานีอุจิ" เดิน 10 นาที, (เคฮัง)สายอุจิ ลงที่ "สถานีเคฮังอุจิ" เดิน 10 นาที
・เว็บไซต์ทางการ (ภาษาจีนตัวเต็ม)
"มิยามะ" หมู่บ้านในดินแดนแห่งความสดชื่น
"หมู่บ้านคายาบุกิโนะซาโตะ" เมืองมิยามะ เกียวโต เป็นหนึ่งในสามหมู่บ้านหลังคามุงจากที่ยังเหลืออยู่ของญี่ปุ่น ร่วมกับหมู่บ้านชิราคาวาโกะและโอวุชิจุกุ จังหวัดฟุกุชิมะ ในปี 1993 ได้รับเลือกเป็น "เขตอนุรักษ์กลุ่มสิ่งก่อสร้างดั้งเดิมที่สำคัญของชาติ" หลังคามุงจากที่มีชายคายื่นยาวเป็นเอกลักษณ์ เรียงรายกันโดยมีภูเขาเขียวขจีเป็นฉากหลัง มองไกล ๆ ดูราวกับทิวทัศน์โบราณดั้งเดิมของญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ที่แม้เพียงนั่งมองก็รู้สึกสดชื่น! นอกจากนี้ทิวทัศน์ยังเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แนะนำเป็นพิเศษสำหรับกิจกรรม "ยูกิโทโร" (โคมไฟหิมะ) ในฤดูหนาว ถ้าพ่อแม่ได้เห็นทิวทัศน์แบบนี้ต้องรู้สึกได้ถึงความเรียบง่ายอบอุ่นอย่างแน่นอน แต่การเดินทางค่อนข้างไม่สะดวก หากจะใส่ไว้ในโปรแกรมพาพ่อแม่เที่ยว แนะนำให้เตรียมตัวให้ดี
หมู่บ้านคายาบุกิโนะซาโตะ
・วิธีการเดินทาง:จาก JR "สถานีเกียวโต" ถึง JR "สถานีโซโนเบะ" ใช้รถด่วนประมาณ 35 นาที หลังจาก JR "สถานีโซโนเบะ"/JR "สถานีฮิโยชิ"・JR "สถานีวาจิ" กรุณาใช้รถเมืองนันทัง หรือรถ Keihan Kyoto Kotsu (รถบัสตรง)
・ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองมิยามะ
ร้านดังเกียวโต "INODA COFFEE" สาขาหลัก
หลังจากแนะนำมรดกโลกและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ไปแล้ว สุดท้ายขอแนะนำร้านกาแฟชื่อดังของเกียวโต "INODA COFFEE" (อิโนดะ คอฟฟี่) สาขาหลัก ให้ได้ลิ้มลองกาแฟที่ชาวเกียวโตชื่นชอบที่สุด! มีคำกล่าวว่า "ยามเช้าของเกียวโตเริ่มต้นด้วยกลิ่นหอมของกาแฟ INODA" จะเห็นได้ว่า INODA COFFEE มีความสำคัญต่อชาวเกียวโตมากเพียงใด INODA COFFEE พิถีพิถันทั้งในเรื่องเมล็ดกาแฟและคุณภาพน้ำที่ใช้ชง แนะนำให้ดื่มแบบใส่น้ำตาลและนม ที่ร้านยังมีอาหารอร่อยๆ เช่น เซตอาหารเช้า แซนด์วิชแฮมและหมูทอด ที่ได้รับความนิยมมาก เมื่อมาเที่ยวเกียวโตแบบฟรีสไตล์ ลองเลือกเช้าวันหนึ่งพาพ่อแม่มาที่สาขาหลักของ INODA สัมผัสบรรยากาศร้านน้ำชาสไตล์ญี่ปุ่นแบบย้อนยุค และรสชาติของเกียวโตในยุคโชวะกันดูไหม!
INODA COFFEE
・ที่อยู่:140 โดยุโจ, เขตนาคาเกียว, เมืองเกียวโต (ที่อยู่สาขาหลัก สำหรับสาขาอื่นๆ กรุณาตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการ)
・เวลาทำการ:7:00~19:00 เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด
・วิธีการเดินทาง:รถไฟใต้ดินสายคาราสึมะ/สายโทไซ ลงที่ "สถานีคาราสึมะโออิเคะ" เดิน 10 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
☞ อ่านเพิ่มเติม
・อัพเดตแพลนเที่ยวเกียวโตปี 2024! จัดเต็มทุกที่ที่ห้ามพลาด ปักหมุดรอได้เลย!
・คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับการเดินทางในเกียวโต ปี 2024! รถประจำทางในเกียวโต, รถไฟใต้ดิน, รถไฟ Keihan, รถราง Arashiyama
・ครบทุกซอกทุกมุมแห่งคันไซ 2024: คู่มือเที่ยวแบบจัดเต็ม ทั้งเกียวโต โอซาก้า นารา และโกเบ!