ถ้ามาเที่ยวคิวชูล่ะก็ต้องมาเที่ยว "จังหวัดคุมาโมโตะ"สิ! นอกจาก "ปราสาทคุมาโมโตะ" หนึ่งในสามปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่นที่ต้องไป และ "โบสถ์ซากิซึ" มรดกโลกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดอีกมากมาย เช่น "ภูเขาไฟอาโสะ" ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น "ทุ่งหญ้าคุซาเซนริ" ทิวทัศน์ทุ่งหญ้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจ และอาหารที่ต้องลิ้มลองอย่าง ซาชิมิเนื้อม้าและข้าวหน้าเนื้อวัวอาคะกิว! ข้อมูลสำคัญทั้งหมดสำหรับการวางแผนการเดินทางได้รวบรวมไว้ในบทความคู่มือฉบับนี้แล้ว!

"จังหวัดคุมาโมโตะ" อยู่ที่ไหน? ไปอย่างไร? สรุปลักษณะพิเศษและวิธีการเดินทาง!
"จังหวัดคุมาโมโตะ" มีชื่อเสียงจากการมีปล่องภูเขาไฟอาโสะ และได้รับการขนานนามว่าเป็น "ดินแดนแห่งไฟ" ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะคิวชู มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกเชื่อมถึงกันในทุกทิศทาง ติดกับทุกจังหวัดในคิวชูยกเว้นจังหวัดซากะ คุมาโมโตะแบ่งออกเป็นสามพื้นที่หลัก ได้แก่ "เขตอาโสะ" ซึ่งเป็นเขตภูเขา "เขตคุมาโมโตะ" ซึ่งเป็นที่ราบเป็นหลัก และ "เขตอามาคุสะ" ซึ่งเป็นเขตทะเล มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่ภูเขาซ้อนเรียงรายไปจนถึงทิวทัศน์ทะเลที่สวยงามครบถ้วนในคุมาโมโตะ นอกจากนี้ในจังหวัดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์มากมาย เช่น "ปราสาทคุมาโมโตะ" หนึ่งในสามปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่น "บ่อน้ำร้อนคุโรคาวะ" ที่ได้รับดาวมิชลิน 2 ดาว และ "โบสถ์ซากิซึ" โบสถ์ที่ซ่อนตัวอยู่ บอกเลยว่ามาเที่ยวกี่ครั้งก็ต้องติดใจครั้งแล้วครั้งเล่า!
12 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปใน "จังหวัดคุมาโมโตะ"
ปราสาทคุมาโมโตะ
"ปราสาทคุมาโมโตะ" มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี สร้างโดยนักรบผู้มีชื่อเสียงในยุคเซ็งโกกุ คาโต้ คิโยมาสะ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของจังหวัดคุมาโมโตะ และเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวปราสาทนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คุมาโมโตะในปี 2016 หลังการบูรณะนานถึง 5 ปี ปราสาทได้เปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปี 2021 ภายในส่วนหอคอยหลักมีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทคุมาโมโตะทั้งหมด รวมถึงประวัติของไดเมียวแต่ละรุ่นและประวัติของหอคอยอย่างละเอียด และเมื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดของหอคอย ยังสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองคุมาโมโตะได้อีกด้วย ในฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทคุมาโมโตะยังเป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยมของท้องถิ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 100,000 คนในแต่ละปี แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปราสาทคุมาโมโตะเป็นครั้งแรก!
ปราสาทคุมาโมโตะ
・ที่อยู่:1-1 ฮอนมารุ เขตชูโอ เมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมาโมโตะ
・เวลาทำการ:9:00~17:00
・วิธีการเดินทาง:จากสถานีรถไฟ JR "คุมาโมโตะ" เปลี่ยนไปนั่งรถรางคุมาโมโตะ ลงที่ป้าย "ปราสาทคุมาโมโตะ/หน้าที่ว่าการเมือง" จากนั้นเดินประมาณ 10 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
สำนักงานผู้จัดการคุมะมง
มาสคอตยอดนิยมของคุมาโมโตะ "คุมะมง" ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อมาท่องเที่ยวที่คุมาโมโตะ อย่าลืมแวะไปที่ "สำนักงานผู้จัดการคุมะมง" ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองด้วย! ที่นี่มีการจัดการแสดงพิเศษหลากหลายรูปแบบ และถ้าโชคดี คุณอาจจะได้พบกับตัวผู้จัดการคุมะมงด้วยตัวเอง แฟนคลับคุมะมงไม่ควรพลาดโอกาสนี้! (สำหรับวันและเวลาที่ผู้จัดการคุมะมง "เข้างาน" กรุณาตรวจสอบในเว็บไซต์ทางการ)
คุมะมงสแควร์
・ที่อยู่:ชั้น 1 อาคารเททเรียคุมาโมโตะ 8-2 เทโทริฮอนมาจิ เขตชูโอ เมืองคุมาโมโตะ
・เวลาทำการ:10:00~19:00
・วิธีการเดินทาง:จากสถานีรถไฟ JR "คุมาโมโตะ" เปลี่ยนไปนั่งรถรางคุมาโมโตะ ลงที่ป้าย "ซุยโดะโจ" จากนั้นเดินประมาณ 1 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
สวนซุยเซ็นจิเซคิเอ็น
"สวนซุยเซ็นจิเซคิเอ็น" ตั้งอยู่ในเขตเมืองคุมาโมโตะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวแห่งชาติในปี 1929 เจ้าเมืองในสมัยก่อนได้เลือกพื้นที่นี้เพราะมีบ่อน้ำพุธรรมชาติ และสร้างสวนแบบญี่ปุ่นสไตล์โมโมยามะล้อมรอบบ่อน้ำเป็นศูนย์กลาง ภายในสวนมี "ศาลเจ้าอิซุมิ" ที่ไม่เพียงแต่เป็นที่สักการะเจ้าเมืองหลายรุ่นและมี "น้ำแห่งอายุยืนยาว" แต่ยังเป็นสถานที่ที่กวีชื่อดังหลายท่านได้มาประพันธ์บทกวีอันมีชื่อเสียง นอกจากนี้ ในห้องน้ำชา "โคคินเดนจุโนมะ" ยังสามารถชื่นชมทิวทัศน์ของสวนพร้อมลิ้มรสขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และสัมผัสความงามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อีกด้วย ถือเป็นการพักผ่อนที่ให้คุณได้ซึมซับความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ เลยทีเดียว
สวนซุยเซ็นจิเซคิเอ็น
・ที่อยู่:8-1 สวนซุยเซ็นจิ เขตชูโอ เมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมาโมโตะ
・เวลาทำการ:8:30~17:00 (ประตูเหนือ 9:30~16:00)
・วิธีการเดินทาง:จากสถานีรถไฟ JR "ชินซุยเซ็นจิ" เปลี่ยนไปนั่งรถรางคุมาโมโตะ ลงที่ป้าย "สวนซุยเซ็นจิ" จากนั้นเดินประมาณ 4 นาที
・เว็บไซต์ทางการ
ภูเขาไฟอาโสะ
"ภูเขาไฟอาโสะ" ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดคุมาโมโตะ ประมาณใจกลางของเกาะคิวชู เป็นภูมิประเทศปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 90,000 ปีที่แล้ว เป็นปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู และเป็นที่มาของฉายา "ดินแดนแห่งไฟ" ของคุมาโมโตะ ปัจจุบันภูเขาไฟอาโสะประกอบด้วยภูเขา 5 ลูก โดยมีเพียง "นาคาดาเกะ" เท่านั้นที่ยังคงมีกิจกรรมของภูเขาไฟอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าไปชมปล่องภูเขาไฟ ชื่นชมควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสายและลักษณะภูมิประเทศของปล่องภูเขาไฟที่มีความพิเศษ เมื่อภูเขาไฟมีกิจกรรมรุนแรง อาจมีการจำกัดการเข้าพื้นที่ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตก่อนการเดินทาง!
ทุ่งหญ้าคุซาเซนริ
นอกจากปล่องภูเขาไฟอาโสะที่มีชื่อเสียงที่สุดในบริเวณอาโสะแล้ว "ทุ่งหญ้าคุซาเซนริ" ซึ่งอยู่ด้านล่างของปล่องภูเขาไฟก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด สถานที่แห่งนี้เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ไม่เพียงแต่สามารถมองเห็นควันที่ลอยออกมาจากนาคาดาเกะ ในฤดูร้อนยังสามารถเห็นม้าที่เลี้ยงไว้กำลังเดินเล่นอยู่บนทุ่งหญ้า นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมกิจกรรมขี่ม้าและปล่อยให้ม้าพาคุณชมความงามของทุ่งหญ้าได้ ในคืนฤดูร้อนมีท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว ส่วนฤดูหนาวจะกลายเป็นโลกแห่งสีขาวแบบเทพนิยาย ทิวทัศน์ที่แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาลนั้นสวยงามเกินบรรยายเลยทีเดียว

ตอนกลางคืนแนะนำให้ช่างภาพมาถ่ายภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。
รถไฟท่องเที่ยว:A train

ที่มาของภาพ:photoAC
"A train" (เอ-เทรน) เป็นรถไฟพิเศษที่วิ่งจากสถานีคุมาโมโตะไปยังสถานีมิซูมิริมทะเล ตัว A มีความหมายแทนปลายทางที่เป็นแหล่งเปลี่ยนไปนั่งเรือข้ามฟากไปยัง "อามาคุสะ" (AMAKUSA) และยังหมายถึงผู้ใหญ่ (Adult) ด้วย ดังนั้นรถไฟขบวนนี้จึงมีการออกแบบที่เน้นความสง่างามและมั่นคง มีเพดานไม้ปิดทองคำเปลว โคมไฟแบบคลาสสิก กระจกสีหรือโซฟาลวดลายประณีต พร้อมด้วยเสียงเพลงแจ๊สที่ลอยอยู่ในตู้โดยสารเสมอ แสดงถึงความหรูหราแบบยุโรปในยุคแห่งการเดินเรือสำรวจครั้งยิ่งใหญ่ แนะนำสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการการเดินทางแบบมีระดับ
จองรถไฟ JR คิวชูสำหรับท่องเที่ยวคิวชูแบบอิสระ!☞ จองรถไฟ JR คิวชูได้ที่นี่เลย!
รถไฟท่องเที่ยว:SL ฮิโตโยชิ

ที่มาของภาพ:Wikipedia
"SL ฮิโตโยชิ" เป็นรถไฟพิเศษของเกาะคิวชูที่เริ่มเปิดให้บริการในปี 2009 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการเปิดใช้เส้นทางรถไฟฮิซัทสึ จุดเด่นที่สุดคือหัวรถจักรไอน้ำ "แบบ 8620" ที่ผลิตในสมัยไทโช ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการผลิตหัวรถจักรไอน้ำในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวรถจักร SL ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งและความงามในการออกแบบเชิงกลไก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความนิยมของอนิเมะ "ดาบพิฆาตอสูร" รถไฟ "SL ฮิโตโยชิ" ที่มีลักษณะคล้ายกับรถไฟในภาพยนตร์ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศให้มาจองที่นั่ง ถ้าคุณมาเที่ยวคุมาโมโตะครั้งหน้า อย่าลืมจองรถไฟโบราณพิเศษขบวนนี้!
น้ำตกนาเบะ

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。
"น้ำตกนาเบะ" มีตำนานเล่าว่าเกิดขึ้นพร้อมกับการระเบิดของภูเขาไฟอาโสะเมื่อ 90,000 ปีก่อน และหลังจากการกัดเซาะเป็นเวลาหลายหมื่นปี จึงกลายเป็นรูปร่างในปัจจุบัน ลักษณะเด่นคือมีความกว้างประมาณ 20 เมตร น้ำตกไหลลงมาเหมือนม่านน้ำ และได้รับความนิยมมากขึ้นหลังจากปรากฏในโฆษณาเครื่องดื่มชา ในปี 2014 ได้รับเลือกจาก UNESCO ให้เป็นส่วนหนึ่งของ "อุทยานธรณีอาโสะ" ปัจจุบันการเข้าชมใช้ระบบจองล่วงหน้าเท่านั้น ผู้อ่านที่ต้องการไปเยี่ยมชมอย่าลืมตรวจสอบข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ทางการ!
น้ำตกนาเบะ
・ที่อยู่:คุโรบุจิ อำเภอโอกุนิ เขตอาโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ
・เวลาทำการ:09:00~17:00
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นไป) 300 เยน, เด็ก (ประถมและมัธยมต้น) 150 เยน
・เว็บไซต์สำหรับจอง
หุบเขาคิคุจิ

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。
"หุบเขาคิคุจิ" ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของอุทยานแห่งชาติอาโสะคุจู แหล่งน้ำคิคุจิที่มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตรเป็นหนึ่งในร้อยแหล่งน้ำที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ในฤดูร้อน อุณหภูมิที่นี่จะลดลงเหลือเพียงประมาณ 13 องศา ทำให้เป็นสถานที่หลบร้อนที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ได้รับฉายาว่าเป็น "ตู้เย็นธรรมชาติ" เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง หุบเขาคิคุจิยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงในคิวชู สีแดงสดของใบเมเปิ้ลที่สะท้อนในลำธารมักทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจทุกครั้ง!
ศาลเจ้าคุระดาเกะ
"ศาลเจ้าคุระดาเกะ" ตั้งอยู่บนยอดเขา "คุระดาเกะ" (สูง 682 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของหมู่เกาะอามาคุสะ ตั้งแต่โบราณมาเป็นสถานที่สำคัญทางความเชื่อของคนท้องถิ่นในการอธิษฐานขอให้เดินเรือปลอดภัย จากศาลเจ้าสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลยัตสุชิโระ ทะเลอาริอาเกะ และหมู่เกาะโดยรอบเกาะโกโชอุระได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสาโทริอิที่ตั้งอยู่บนหน้าผา สามารถเทียบได้กับ "โทริอิกลางฟ้า" ของศาลเจ้าทาคายะในคากาวะ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนเมื่อมาคุมาโมโตะ!
โบสถ์ซากิซึ
"โบสถ์ซากิซึ" ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะชิโมจิมะซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะอามาคุสะ เป็นสมบัติทางสถาปัตยกรรมเพียงแห่งเดียวในจังหวัดคุมาโมโตะที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก "มรดกที่เกี่ยวข้องกับคริสเตียนที่หลบซ่อนในนางาซากิและอามาคุสะ" ตั้งแต่เริ่มการเผยแพร่ศาสนาในปี 1569 จนถึงหลังจากการประกาศห้ามนับถือศาสนาคริสต์ในปี 1638 และตลอดสมัยเอโดะ มีกิจกรรมของคริสเตียนญี่ปุ่นที่แอบซ่อนอยู่ที่นี่ โบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันสร้างเสร็จในปี 1934 สิ่งที่พิเศษที่สุดคือการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโกธิคกับพื้นเสื่อทาทามิ ซึ่งพบเห็นได้ยากมาก หากต้องการเข้าชมด้านใน โปรดอย่าลืมว่าคุณจำเป็นต้องขออนุญาตล่วงหน้า!

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。
โบสถ์ซากิซึ
・ที่อยู่:539 ซากิซึ เขตคาวาอุระ เมืองอามาคุสะ จังหวัดคุมาโมโตะ
・เวลาทำการ:09:00~17:00
・เว็บไซต์สำหรับจอง
บ่อน้ำร้อนคุโรคาวะ
"บ่อน้ำร้อนคุโรคาวะ" เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในภูเขาของจังหวัดคุมาโมโตะ มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศญี่ปุ่น และในปี 2009 ได้รับการจัดอันดับ 2 ดาวจากมิชลิน ที่นี่มีเรียวกังประมาณ 30 แห่ง แต่ละที่ได้พัฒนาบ่อน้ำร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ย่านออนเซ็นนี้ยังคงรักษาบรรยากาศโดยรวมไว้ได้ ในขณะเดียวกันก็มีความแตกต่างกันไป แนะนำให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบออนเซ็นซื้อ "บัตรออนเซ็นโทเกาเทะ" ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกใช้บริการ 3 แห่งจาก 26 บ่อน้ำร้อนในท้องถิ่น ถือว่าคุ้มค่ามาก! ทุกปีระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม จะมีกิจกรรม "ยุอะคาริ" ที่จัดโคมไฟทรงกลมประมาณ 300 ดวงและโคมไฟทรงกระบอกสูงถึง 2 เมตรในแม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางถนนออนเซ็นคุโรคาวะ ส่องสว่างท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูหนาว!

ที่มาของภาพ:สมาคมเรียวกังการท่องเที่ยวออนเซ็นคุโรคาวะ

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。
สมาคมเรียวกังการท่องเที่ยวออนเซ็นคุโรคาวะ
・ที่อยู่:6594-3 มันกันจิ อำเภอมินามิโอกุนิ เขตอาโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ
・วิธีการเดินทาง:นั่งรถบัส "คิวชูโอวะดันบัส" จากสถานีรถไฟ JR คุมาโมโตะ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)
・เว็บไซต์ทางการ
สะพานฟุตามาตะ
"สะพานฟุตามาตะ" เป็นสะพานหินที่สร้างขึ้นบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำชาคาอินและแม่น้ำซึรุคาวะ โดยสะพานทั้งสองเชื่อมต่อกันในลักษณะเป็นมุมฉาก จึงได้รับการขนานนามว่า "สะพานฝาแฝด" ในฤดูใบไม้ร่วง ทิวทัศน์ของต้นแปะก๊วยขนาดใหญ่ข้างสะพานมีความงดงามมาก ดึงดูดช่างภาพจำนวนมากมาเยือนในทุกฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ ทุกปีระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ในช่วงเวลา 11:00-12:00 น. แสงอาทิตย์จะส่องผ่านใต้สะพาน ทำให้เกิดเงาเป็นรูปหัวใจพอดี ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคู่รัก"

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。

ที่มาของภาพ:もっと、もーっと!くまもっと。
5 อาหารห้ามพลาดของ "จังหวัดคุมาโมโตะ"
ซาชิมิเนื้อม้า

ที่มาของภาพ:Wikipedia
จังหวัดคุมาโมโตะมีการเลี้ยงม้าจำนวนมากมาตั้งแต่โบราณ ทำให้ชาวท้องถิ่นมีประเพณีการกินเนื้อม้าดิบ การหั่นเนื้อม้าเป็นแผ่นบางๆ และรับประทานสดๆ ไม่เพียงแต่ไม่มีกลิ่นคาว แต่ยังมีรสชาติอร่อย หวาน และเนื้อมีความยืดหยุ่น เนื่องจากมีสีชมพู จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เนื้อซากุระ" ส่วนต่างๆ เช่น เนื้อมีไขมันแทรก ท้อง ตับ และลิ้นมีรสสัมผัสที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแนะนำให้รับประทานคู่กับสาเกญี่ปุ่น
รากบัวยัดไส้วาซาบิ

ที่มาของภาพ:城下町ラストサムライ
"รากบัวยัดไส้วาซาบิ" เป็นอาหารพื้นเมืองของคุมาโมโตะ เล่ากันว่าเริ่มต้นจากพระเซนชื่อเก็นทาคุได้นำรากบัวมาถวายให้กับโฮโซกาวะ ทาดาโทชิ เจ้าเมืองคุมาโมโตะที่มีร่างกายอ่อนแอ จากนั้นจึงแพร่หลายออกมาจากครอบครัวโฮโซกาวะ วิธีทำคือนำรากบัวมาต้ม แล้วยัดไส้ด้วยมิโซะผสมวาซาบิในรู จากนั้นชุบแป้งและทอด มีรสชาติหวานเล็กน้อยคล้ายน้ำผึ้ง ผสมกับความเผ็ดร้อนของวาซาบิ รสชาติเป็นเอกลักษณ์มาก
ราเมงคุมาโมโตะ

ที่มาของภาพ:こころにくるね、くまもと。
"ราเมงคุมาโมโตะ" พัฒนามาจากราเมงกระดูกหมูที่มีชื่อเสียงของฟุกุโอกะ ลักษณะเด่นคือน้ำซุปนอกจากใช้กระดูกหมูแล้ว ยังเพิ่มกระดูกไก่ในการต้ม หรือบางร้านอาจใช้เฉพาะกระดูกหัวหมูในการเคี่ยว ทำให้รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมมากกว่าน้ำซุปกระดูกหมูทั่วไป โดยทั่วไปจะเพิ่มกระเทียมทอดกรอบและน้ำมันกระเทียม เสิร์ฟพร้อมเส้นที่หนาพิเศษและต้มให้ค่อนข้างแข็ง
ข้าวหน้าเนื้อวัวอาคะกิว

ที่มาของภาพ:こころにくるね、くまもと。
"อาคะกิว" เป็นสายพันธุ์วัววากิวที่เลี้ยงในบริเวณภูเขาอาโสะของคุมาโมโตะ มีลักษณะเด่นคือมีเนื้อแดงมาก แต่มีสัดส่วนไขมันที่เหมาะสม ทำให้มีทั้งรสชาติอร่อย เนื้อสัมผัสดี และดีต่อสุขภาพ ข้าวหน้าเนื้ออาคะกิวใช้เนื้อย่างแบบมีเดียมแรร์หั่นเป็นชิ้นบางๆ ราดบนข้าว เสิร์ฟพร้อมไข่ออนเซ็น สายเนื้อเห็นแล้วอดใจไม่ไหวแน่นอน นอกจากในแถบอาโสะซึ่งเป็นแหล่งผลิตแล้ว ในเมืองคุมาโมโตะยังมีร้านเฉพาะทางที่ขายอาหารจากเนื้ออาคะกิวอีกหลายแห่ง หากมาเที่ยวคุมาโมโตะ อย่าลืมแวะเข้าร้านเพื่อลิ้มลองเนื้อวากิวที่ไม่เหมือนใครชนิดนี้!
ไทปีเอน

ที่มาของภาพ:こころにくるね、くまもと。
"ไทปีเอน" เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากอาหารพื้นเมืองของฟูโจวในมณฑลฟูเจี้ยนของจีน แต่ที่แตกต่างจากรสชาติดั้งเดิมคือ ไทปีเอนของคุมาโมโตะทำจากไข่ที่ทอดจนหนังเป็นลายเสือ เส้นวุ้นเส้น ผัก และอาหารทะเล รสชาติโดยรวมคล้ายกับซุปเกี๊ยวของฟูเจี้ยน มีบริการในร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ในคุมาโมโตะ
คุมาโมโตะเป็นจังหวัดที่รวมทุกไฮไลท์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นไว้ในที่เดียว ทั้งปราสาทคุมาโมโตะอันทรงคุณค่า น้ำพุร้อนธรรมชาติ ภูเขาไฟอาโสะที่ยิ่งใหญ่ และอาหารท้องถิ่นรสเลิศ แนะนำให้วางแผนเที่ยวอย่างน้อย 3-4 วัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดของคุมาโมโตะ
☞ อ่านเพิ่มเติม
・แพลนเที่ยวฟุกุโอกะ 2025 จัดเต็ม 5 วัน 4 คืน พร้อมที่พักและงบประมาณ