สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในโทยามะ ต้องยกให้หุบเขาหิมะทาเทยามะ คุโรเบะ แต่การเที่ยวโทยามะไม่ได้มีแค่กำแพงหิมะนะ! หมู่บ้านกัสโชซึคุริที่โกคายามะ ออนเซ็นอุนาสึกิ ชายฝั่งอาเมฮาราชิในเมืองทาคาโอกะ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโทยามะ พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำอีกมากมาย อย่าลืมอาหารเลิศรสโทยามะ อย่าง ปลาหมึกเรืองแสง, ปูเบนิซุวานิ, ราเมนดำ และของฝากพื้นเมืองโทยามะ มาจด 13 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดและ 6 เมนูเลิศรสกันเถอะ ท่องเที่ยวฮอคุริคุครั้งหน้าจะได้ไม่พลาดสถานที่สนุกเหล่านี้!

จังหวัดโทยามะอยู่ที่ไหน? เดินทางไปยังไง? รวบรวมจุดเด่นและวิธีการเดินทาง!
จังหวัดโทยามะตั้งอยู่ภูมิภาคโฮคุริคุของประเทศญี่ปุ่น โดยติดกับ 4 จังหวัด อย่าง นีงาตะ อิชิคาวะ นากาโนะ และกิฟุ เป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรและทิวทัศน์ธรรมชาติ หลายพื้นที่ของจังหวัดสามารถชมวิวภูเขาอันงดงามของเทือกเขาทาเทยามะ ไปจนถึงเทือกเขาคิตะแอลป์อันขึ้นชื่อ หากมาเยือนในช่วงนอกฤดูหนาว ยังสามารถทดลองปีนเขาและสัมผัสกับทิวทัศน์ภูเขาอันยิ่งใหญ่ได้อย่างใกล้ชิด ส่วนด้านอาหาร จังหวัดโทยามะหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น ได้รับประโยชน์จากทรัพยากรประมงตามธรรมชาติของ "อ่าวโทยามะ" จึงเป็นสวรรค์ของอาหารอย่างแท้จริง เมื่อมาเยือนอย่าลืมลิ้มลองอาหารทะเลสดหวานหลากหลายชนิดด้วยล่ะ!
วิธีการเดินทางไปจังหวัดโทยามะ

เที่ยวบินที่เดินทางไปยังสนามบินโทยามะ มีเฉพาะเพียงสนามบินฮาเนดะโตเกียวและสนามบินชินชิโตเสะฮอกไกโดเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการเดินทางจากโอซาก้าและนาโกย่า จำเป็นต้องนั่งชินคันเซ็นแทน นอกจากนี้หากมีงบประมาณจำกัด สามารถพิจารณานั่งรถบัสด่วนได้ รายละเอียดวิธีการเดินทางมีดังต่อไปนี้:
โตเกียว |
【ชินคันเซ็น】สถานีโตเกียว - (โฮคุริคุชินคันเซ็น ประมาณ 2 ชั่วโมง 8 นาที) - สถานีโทยามะ 【เครื่องบิน】สนามบินฮาเนดะ - (ประมาณ 1 ชั่วโมง) - สนามบินโทยามะ 【รถบัสกลางคืน】BUSTA ชินจูกุ - (ประมาณ 6 ชั่วโมง 40 นาที) - สถานีโทยามะ |
---|---|
โอซาก้า |
【รถด่วนพิเศษ+ชินคันเซ็น】สถานีโอซาก้า - (รถด่วนพิเศษไรโจ ประมาณ 2 ชั่วโมง 34 นาที) - สถานีคานาซาวะ - (โฮคุริคุชินคันเซ็น ประมาณ 23 นาที) - สถานีโทยามะ 【รถบัสกลางคืน】Osaka KYOCERA DOME - (ประมาณ 8 ชั่วโมง 36 นาที) - สถานีโทยามะ |
นาโกย่า |
【รถด่วนพิเศษ】สถานีนาโกย่า - (JR รถด่วนพิเศษฮิดะ ประมาณ 3 ชั่วโมง 48 นาที) - สถานีโทยามะ 【รถบัสด่วน】สถานีรถบัส Meitetsu - (ประมาณ 3 ชั่วโมง 13 นาที) - สถานีโทยามะ |
นอกจากนี้ เวลาเที่ยวในจังหวัดโทยามะ ขอแนะนำให้ลองนั่งรถไฟท่องเที่ยวพิเศษ "Belles montagnes et mer" ที่สามารถชมวิวภูเขาและทะเลของโทยามะได้ระหว่างทาง! สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการหรือบทความนี้
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมในโทยามะ
ทาเทยามะ คุโรเบะ
เส้นทางเทือกเขาแอลป์ทาเทยามะ คุโรเบะ

ที่มาของภาพ: photoAC
"เทือกเขาแอลป์เหนือ" คือ ชื่อเรียกรวมของเทือกเขาหลายลูกที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้ในภูมิภาคโฮคุริคุ ส่วน "เส้นทางเทือกเขาแอลป์ทาเทยามะ คุโรเบะ" ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว คือ เส้นทางเดินเขาที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดโทยามะและนากาโนะ ช่วงเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนของทุกปี พื้นที่ระหว่าง "ทาเทยามะ" และ "ทะเลสาบคุโรเบะ" (เรียกรวมกันว่าทาเทยามะ คุโรเบะ) จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เพื่อสัมผัสความสนุกของการปีนเขา การเดินทางตลอดเส้นทางต้องใช้พาหนะถึง 6 ประเภท โดยไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ คือ "กระเช้าทาเทยามะ" ที่แล่นโดยไม่มีเสาค้ำยัน ด้วยระยะทาง 1.7 กิโลเมตร ถือเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างทางสามารถชมความงามอันยิ่งใหญ่ของเทือกเขาทาเทยามะได้แบบ 360 องศา เหมือนได้ "เดินเล่นบนท้องฟ้า" เลยล่ะ!
เส้นทางเทือกเขาแอลป์ทาเทยามะ คุโรเบะ
・เว็บไซต์ทางการ
หุบเขาหิมะมุโรโดะ

ที่มาของภาพ: photoAC
ทิวทัศน์อันงดงามที่มีชื่อเสียงที่สุดของทาเทยาม่า คุโรเบะ คงจะเป็น "หุบเขาหิมะ" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ไดเซ็ตสึ" ที่ตั้งอยู่ที่มุโรโดะนี้ ที่ราบมุโรโดะตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,450 เมตร เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่หิมะตกหนักที่สุดในโลก โดยเฉพาะบริเวณ "ไดทานิ" ใกล้มุโรโดะ ช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะสะสมสูงกว่า 10 เมตร บางครั้งอาจถึง 20 เมตร เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิและเส้นทางเปิด หิมะที่ถูกตักออกจากถนนจะกลายเป็น กำแพงหิมะสูง 20 เมตร ซึ่งสร้างทิวทัศน์อันน่าทึ่ง นักท่องเที่ยวนอกจากจะนั่งรถบัสผ่านกำแพงหิมะแล้ว ยังสามารถลงมาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของกำแพงหิมะได้ด้วยตัวเอง ทิวทัศน์สุดพิเศษนี้มีให้ชมแค่ช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น หากใครสนใจอย่าลืมรอดูช่วงเวลาที่เส้นทางเปิดให้บริการด้วยล่ะ
หุบเขาหิมะมุโรโดะ
・เว็บไซต์ทางการ
เขื่อนคุโรเบะ

ที่มาของภาพ: photoAC
เขื่อนคุโรเบะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากในเส้นทางทาเทยามะ-คุโรเบะ เพราะมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร พร้อมทั้งทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ที่จะต้องทำให้ตะลึง! เขื่อนคุโรเบะเป็นเขื่อนทรงโค้งที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และตัวเขื่อนเองมีความสูงถึง 186 เมตร เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1956 ใช้เวลาสร้างนานถึง 7 ปี เมื่อมาเยือนที่นี่สามารถเดินเล่นชมวิวบนสันเขื่อน หรือขึ้นไปชมความยิ่งใหญ่ของเขื่อนและเทือกเขาแอลป์เหนือได้จากจุดชมวิว ช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปี จะมีการปล่อยน้ำเพื่อการท่องเที่ยว โดยปล่อยน้ำมากกว่า 10 ตันต่อวินาที เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก!
เขื่อนคุโรเบะ
・ที่อยู่จุดชมวิว: Ashikuraji Bunazaka National Forest, Tateyama-machi, Nakaniikawa-gun, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
เมืองคุโรเบะ
หุบเขาคุโรเบะ

ที่มาของภาพ: photoAC
หุบเขาคุโรเบะเป็นหุบเขารูปตัว V ที่ลึกที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากความมหัศจรรย์ของหน้าผาสูงชัน และทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามและยิ่งใหญ่ ทำให้ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน "ร้อยสถานที่ลับของญี่ปุ่น" การเที่ยวชมสามารถนั่งรถไฟโทร็อคโกะคุโรเบะเคียวโคคุผ่านหุบเขา รถไฟบางตู้ถูกออกแบบให้ไม่มีหน้าต่าง ผู้โดยสารสามารถสัมผัสอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายบนภูเขาระหว่างการเดินทาง ระหว่างทางผ่านจุดชมวิวต่างๆ เช่น แม่น้ำคุโรเบะและสะพานยาเมะบิกิ ทุกจุดสายตาที่มองออกไปล้วนเป็นภาพวิวที่สวยงาม หากมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว หุบเขาคุโรเบะที่ถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้สีแดงและหิมะขาวจะสวยงามจนลืมหายใจเลยทีเดียว! อีกอย่างแม้จะมีคำว่า "คุโรเบะ" ในชื่อเหมือนกัน แต่หุบเขาคุโรเบะไม่ได้อยู่ในเส้นทางเทือกเขาแอลป์ทาเทยามะ-คุโรเบะ อย่าลืมวางแผนการเดินทางแยกกันล่ะ!
รถไฟโทร็อคโกะคุโรเบะเคียวโคคุ
・ที่อยู่: Kurobe-kyokoku, Kurobe City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
ออนเซ็นอุนะสึกิ

ที่มาของภาพ:photoAC
หลังจากเที่ยวชมทาเทยามะ คุโรเบะแล้ว ออนเซ็นอุนะสึกิเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับที่พัก โดยออนเซ็นตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหุบเขาคุโรเบะ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1923 แต่เดิมเป็นจุดพักผ่อนของคนงานที่สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แต่หลังจากที่ได้เปิดและเริ่มเดินรถไฟ ที่นี่ก็ค่อยๆ เจริญขึ้นจนกลายเป็นเขตออนเซ็นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดโทยามะ น้ำแร่ออนเซ็นนี้มีความใสระดับต้นๆ ของญี่ปุ่น เป็นออนเซ็นด่างอ่อนที่ช่วยบำรุงผิว แม้ไม่ได้พักค้างคืน ก็แนะนำให้แวะแช่เท้าที่บ่อออนเซ็นฟรีตามถนนออนเซ็น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางก่อนจะเดินทางต่อ!
ออนเซ็นอุนาสึกิ
・ที่อยู่:3212-1 Wakaguri, Kurobe City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ออนไลน์
หมู่บ้านกัชโชสึคุริโกคายามะ
หมู่บ้านกัชโชสึคุริซุกานุมะและไอโนะคุระ

ที่มาของภาพ: มูลนิธิอนุรักษ์กัชโชสึคุริไอโนะคุระ
หมู่บ้านกัชโชสึคุริชิราคาวาโกะและโกคายามะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1995 โดยรวมถึงหมู่บ้านกัชโชสึคุริ "ซุกานุมะ" และ "ไอโนะคุระ" ในโกคายามะ จังหวัดโทยามะด้วย เมื่อเทียบกับชิราคาวาโกะแล้ว หมู่บ้านกัชโชสึคุริไอโนะคุระมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เพราะอยู่ห่างไกลผู้คนและไม่ได้เป็นสถานที่เชิงพาณิชย์ จึงให้ความรู้สึกเหมือนดินแดนในฝันที่สงบเงียบ ส่วนหมู่บ้านกัชโชสึคุริซุกานุมะมีบ้านกัชโชเพียง 9 หลัง มีขนาดที่เล็กกว่า ทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยความงามที่เรียบง่ายและสงบ เมื่อมาถึงจุดชมวิวจะสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เรียบง่ายและงดงามนี้ได้เต็มที่!
หมู่บ้านกัชโชสึคุริซุกานุมะ
・ที่อยู่: 578 Suganuma, Nanto City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
หมู่บ้านกัชโชสึคุริไอโนะคุระ
・ที่อยู่: 611 Ainokura, Nanto City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
เมืองโทยามะ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโทยามะ

ที่มาของภาพ: พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโทยามะ
ใครว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะน่าเบื่อ? พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโทยามะแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ผู้ใหญ่และเด็กๆ สามารถสนุกไปด้วยกันแน่นอน เพราะรวบรวมศิลปะและการพักผ่อน เป็นสถานที่มอบความสนุกและความรู้ให้กับทุกคน! ภายในพิพิธภัณฑ์มีผลงานจัดแสดงหลากหลายประเภท นอกจากภาพวาดและงานศิลปะตะวันตกที่ขึ้นชื่อในศตวรรษที่ 20 แล้ว ยังมีโปสเตอร์และเก้าอี้ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ส่วนสวนลอยฟ้า "หลังคาแห่งเสียงสะท้อน (Onomatope no Okujō)" ยังนำเสนอเครื่องเล่นดีไซน์เฉพาะตัวหลากหลายแบบ ไม่เพียงเหมาะสำหรับเด็กๆ ที่ชอบวิ่งเล่นปล่อยพลัง ผู้ใหญ่ก็สามารถพักผ่อนหรือถ่ายรูปเช็คอินได้ด้วย!
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโทยามะ
・ที่อยู่: 3-20 Kiba-machi, Toyama-shi, Toyama-ken
・เว็บไซต์ทางการ
พิพิธภัณฑ์กระจกเมืองโทยามะ

ที่มาของภาพ:photoAC
เมืองโทยามะเป็นที่รู้จักในฐานะ "เมืองแห่งกระจก" และพิพิธภัณฑ์กระจกเมืองโทยามะ คือ จุดศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแก้วของโทยามะ อาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง อย่าง คุณคุมะ เคนโกะ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้นึกถึงหิมะและหินผาของภูเขาทาเทยามะ เมื่อก้าวเข้าไปด้านใน จะพบว่าภายในตกแต่งด้วยไม้ซุงิ กระจก และแผ่นกระจกที่ผลิตในโทยามะ ซึ่งสามารถสะท้อนแสงที่ส่องลงมาจากเพดาน ทำให้พื้นที่โดยรวมสว่างไสวและเปล่งประกาย หลังจากถ่ายรูปแล้ว แนะนำให้เข้าชมนิทรรศการถาวรและนิทรรศการพิเศษ เพื่อชื่นชมความนุ่มนวล อบอุ่น และความงามในอีกรูปแบบของกระจกด้วย!
พิพิธภัณฑ์กระจกเมืองโทยามะ
・ที่อยู่:5-1 Nishicho, Toyama City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
สวนคันซุย

ที่มาของภาพ: photoAC
สวนคันซุย ฟุกาโอกะ อยู่ห่างจากสถานี JR โทยามะ ด้วยการเดินเพียง 10 นาที เป็นสวนสาธารณะที่ทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าพักผ่อนได้อย่างสบาย สิ่งแรกที่จะเห็นเมื่อมาถึง คือ สะพานเทนมง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ โดยสามารถขึ้นไปชมวิวของสวนและเทือกเขาทาเทยามะได้จากหอชมวิวทั้งสองข้าง นอกจากนี้ภายในสวนยังมีร้านสตาร์บัคส์ที่ได้รับการขนานนามว่า "สตาร์บัคส์ที่สวยที่สุดในโลก" ตัวร้านมีกระจกบานใหญ่ทั้ง 4 ด้าน ลูกค้าสามารถชมวิวโดยรอบแบบ 360 องศา ตอนกลางคืนสวนจะมีการเปิดไฟ ถ้ามีโอกาสลองอยู่จนถึงค่ำ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกนี้ก่อนกลับ!
สวนคันซุย
・ที่อยู่: Minato Irifune-cho, Toyama-shi, Toyama-ken
・เว็บไซต์ทางการ
เมืองทาคาโอกะ
รถไฟโดราเอมอน และสวนโอโทกิโนะโมริ

ที่มาของภาพ:เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดโทยามะ
เนื่องจากคุณฟุจิโกะ เอฟ ฟุจิโอะ ผู้เขียนโดราเอมอนเกิดที่เมืองทาคาโอกะ จังหวัดโทยามะ ที่นี่จึงถือเป็นบ้านเกิดของโดราเอมอน พอก้าวออกจากสถานี JR ทาคาโอกะ จะสามารถมองเห็นรูปปั้นทองเหลืองของตัวละครจากผลงานมากมายในบริเวณรอบๆ แม้ไม่ใช่แฟนคลับตัวยงก็ต้องตื่นเต้นแน่นอน! ถ้าโชคดีอาจได้เห็นรถรางพิเศษธีมโดราเอมอนที่มีภาพการ์ตูนโดราเอมอนวาดอยู่เต็มตัวรถด้วย! แต่ถ้าไม่ได้เจอก็ไม่เป็นไร แนะนำให้ไปที่สวนโอโทกิโนะโมริ เพื่อตามหาตัวละครจากในเรื่อง ตัวการ์ตูนที่โบกมือทักทายนั้นทำให้รู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกของโดราเอมอนเลยทีเดียว!
สวนโอโทกิโนะโมริ
・ที่อยู่:1342 Sano, Takaoka City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ออนไลน์
ชายฝั่งอาเมฮาราชิ

ที่มาของภาพ:photoAC
ตามตำนานเล่าว่า สมัยโบราณ คุณมินาโมโตะ โยชิสึเนะ เดินทางผ่านมาที่นี่แล้วฝนตกหนักขึ้นมาทันที เบงเคย์ ผู้ติดตามคนสนิทของเขาจึงยกก้อนหินขนาดใหญ่ในบริเวณนั้นขึ้นมาเพื่อหลบฝนและรอให้ฟ้าเปิด จึงเป็นที่มาของชื่อ "ชายฝั่งอาเมฮาราชิ" สิ่งที่ทำให้ชายฝั่งอาเมฮาราชิเป็นที่รู้จักไม่ใช่แค่ตำนานนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะทิวทัศน์ที่งดงามเหนือคำบรรยาย ชายฝั่งแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติคาบสมุทรโนโตะ เนื่องจากหาดทรายที่ขาวบริสุทธิ์และป่าสนที่เขียวชอุ่ม ทำให้ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน "ร้อยชายฝั่งที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" และ "ร้อยหาดทรายขาวและป่าสนเขียว" เมื่อมาถึงแล้ว สามารถชมทิวทัศน์แนวชายฝั่งที่ทอดยาวและเทือกเขาอันยิ่งใหญ่ นับเป็นทิวทัศน์อันงดงามราวกับภาพวาดเลย!
ชายฝั่งอาเมฮาราชิ
・ที่อยู่:Ota Amehara, Takaoka City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
เมืองอุโอซึ
พิพิธภัณฑ์ป่าใต้ดินอุโอซึ

สำหรับคนที่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรือชอบสะสมภาพวิวแปลกๆ ของประเทศญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์ป่าใต้ดินอุโอซึนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือน ช่วงต้นสมัยโชวะ เมืองอุโอซึได้มีการก่อสร้างท่าเรือ และระหว่างการขุดชายหาดขนาดใหญ่ก็ได้พบ "ป่าใต้ดิน" ที่ถูกฝังมานานกว่า 2,000 ปี ภายใน "โซนจัดแสดงใต้น้ำ" ทุกคนจะได้เห็นรากไม้ที่มีอายุถึง 500 ปี สภาพที่สมบูรณ์และขนาดที่ใหญ่โตทำให้ต้องทึ่ง นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีโซน "จัดแสดงแบบแห้ง" และ "โซนหลังคาโดม" มาถึงที่นี่จะได้พบเห็นกับป่าใต้ดินในสามรูปแบบที่แตกต่างกันเลยล่ะ!
พิพิธภัณฑ์ป่าใต้ดินอุโอซึ
・ที่อยู่:814 Shakado, Uozu City, Toyama Prefecture
・เว็บไซต์ทางการ
ศาลเจ้าซูวะ และเทศกาลทาเทมง

ที่มาของภาพ: เทศกาลทาเทมงอุโอซึ
เขตอุโอซึที่การประมงเจริญรุ่งเรือง มีศาลเจ้าซูวะที่สร้างขึ้นจากบุญของศาลเจ้าซูวะไทฉะ ทุกเดือนสิงหาคมจะมีการจัดเทศกาลที่เรียกว่า "เทศกาลทาเทมง" โดยมีจุดประสงค์เพื่อขอความปลอดภัยในการเดินเรือและความอุดมสมบูรณ์ของการประมง ช่วงเทศกาล บริเวณรอบศาลเจ้าซูวะจะมีหนุ่มวัยรุ่นลากและหมุนโคมไฟรูปเรือใบสามเหลี่ยมที่ประดับโคมไฟกว่า 90 ดวง และมีนักดนตรีนั่งบรรเลงกลองไทโกะและขลุ่ยอยู่ใต้โคมไฟ ทำให้ค่ำคืนฤดูร้อนเต็มไปด้วยเสียงดนตรี แสงโคมไฟ และบรรยากาศที่คึกคัก เทศกาลที่มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปีนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโก ถ้ามีโอกาสต้องไปร่วมงานให้ได้!
เทศกาลทาเทมง
・ที่อยู่ศาลเจ้าซูวะ: 1-16 Suwa-cho, Uozu-shi, Toyama-ken
・ช่วงเวลาเทศกาล: วันศุกร์และเสาร์แรกของเดือนสิงหาคมของทุกปี
・เว็บไซต์ทางการ
แนะนำอาหารเลิศรสโทยามะ
อาหารสมุนไพร

ที่มาของภาพ: Toyama Yakuzen
เมื่อพูดถึงจังหวัดโทยามะ หลายคนคงนึกถึงอาหารทะเลนานาชนิดที่จับได้จากอ่าวโทยามะ แต่ความจริงแล้ว อุตสาหกรรมยาของโทยามะขึ้นชื่อติดอันดับต้นๆ ของประเทศ จนได้รับฉายาว่าเป็น "เมืองแห่งยา" เลยล่ะ ดังนั้นเมื่อมาเที่ยวโทยามะ ก็ต้องลองชิมอาหารสมุนไพรของที่นี่! อาหารสมุนไพร หมายถึง อาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากโทยามะ ซึ่งเป็นอาหารที่มากคุณค่าทางโภชนาการและสามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ เช่น "เซ็ตอาหารกลางวันสมุนไพรโทยามะ" ที่เลือกใช้ข้าวสีม่วงเข้ม ยามะอิโมะ ขิง และผักตามฤดูกาล หรือ "ข้าวต้มปลาบุริ" ที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นโคจิเกลือ ข้าวโทยามะ และผักกาดขาว ล้วนเป็นอาหารที่ช่วยฟื้นฟูกระเพาะที่อ่อนล้าจากการเดินทางได้! ☞ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์แนะนำอาหารสมุนไพรโทยามะ
ปลาหมึกเรืองแสง

ที่มาของภาพ: photoAC
ปลาหมึกเรืองแสงมีอวัยวะเรืองแสงอยู่ทั่วร่างกาย เมื่อต้องการข่มขู่ศัตรูจะมีพฤติกรรมปล่อยแสงสว่างจ้า สมกับเป็นหิ่งห้อยแห่งท้องทะเลจริงๆ ปลาหมึกเรืองแสงที่อาศัยอยู่ในทะเลลึกตามปกติ จะว่ายน้ำขึ้นมาวางไข่ในน้ำตื้นช่วงฤดูใบไม้ผลิ และมีเพียงช่วงเวลาสั้นๆ 2-3 เดือนเท่านั้นที่ผู้คนจะได้เห็นภาพมหัศจรรย์ของปลาหมึกเรืองแสงที่ปล่อยแสงสีฟ้าขาววิบวับ แน่นอนว่าปลาหมึกเรืองแสงไม่ได้สวยงามเท่านั้น แต่รสชาติก็อร่อยมากด้วย วิธีการกินแบบดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น คือ นำไปต้มให้สุก แล้วจิ้มกับมิโสะผสมน้ำส้มสายชู เนื้อปลาหมึกเรืองแสงที่ผ่านการต้มจะมีความยืดหยุ่น เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติหวานอร่อย พร้อมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยล่ะ!
ปลาบุริฤดูหนาว

ที่มาของภาพ: photoAC
ปลาบุริสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปีในประเทศญี่ปุ่น แต่ปลาบุริฤดูหนาวที่จับได้ในช่วงฤดูหนาวนั้น มีรสชาติแตกต่างจากปลาบุริทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ช่วงต้นฤดูหนาว ปลาบุริจะว่ายจากทางเหนือลงใต้ เพื่อการวางไข่ และเมื่อว่ายมาถึงบริเวณอ่าวโทยามะ จะเป็นช่วงที่เนื้อปลาอวบอิ่มที่สุด โดยเฉพาะเขตฮิมิของโทยามะ ชาวประมงจะใช้อวนดักในการจับ เพื่อรักษาสภาพตัวปลาให้สมบูรณ์ที่สุด ทำให้ปลาบุริฤดูหนาวที่นี่สดใหม่ เนื้อแน่น มีไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ รสชาติหวานไม่เลี่ยน คนท้องถิ่นชอบนำมาทำชาบูชาบู เนื้อปลาที่ละลายในปากเข้ากับน้ำซุปหวานอร่อย นับเป็นความสุขที่สุดของฤดูหนาวเลยล่ะ!
ราเมนดำ

ที่มาของภาพ: photoAC
แต่ละพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นต่างมีวัฒนธรรมราเมนเป็นของตัวเอง จังหวัดโทยามะก็เช่นกัน ราเมนดำที่สามารถหาทานได้ทั่วจังหวัดโทยามะนั้น แค่เห็นสีดำทะมึนก็ทำเอาตกใจแล้ว แต่ทำไมต้องทำน้ำซุปราเมนให้เป็นสีดำด้วยล่ะ? เล่ากันว่าสมัยก่อน เพื่อให้คนงานที่เหงื่อท่วมตัวได้เติมเกลือแร่อย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านราเมนจึงเติมโชยุลงไปในน้ำซุปจำนวนมาก สีดำทะมึนของราเมนดำก็คือสีของโชยุที่เข้มข้นนั่นเอง เนื่องจากราเมนดำมีรสเค็มกว่าราเมนทั่วไป ถ้ากลัวเค็มเกินไป สามารถลองทำแบบคนท้องถิ่นด้วยวิธีการกินคู่กับข้าวก็ได้!
ปูเบนิซุวะกานิ

ที่มาของภาพ: photoAC
อ่าวโทยามะมีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ พื้นทะเลมีความซับซ้อน และมีความลึกมากบริเวณใกล้ชายฝั่ง จึงกลายเป็น "บ่อเลี้ยงปลาธรรมชาติ" ที่เหมาะสำหรับปลาหลากหลายชนิด หนึ่งในนั้น คือ ปูเบนิซุวะกานิที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ซึ่งถือเป็นของดีแห่งอ่าวโทยามะ เนื่องจากเนื้อปูไม่แน่นมาก ราคาจึงถูกกว่าปูมัตสึบะกานิค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม รสชาติความหวานของมันไม่แพ้ปูเกรดพรีเมียมเลย อีกทั้งเนื่องจากท่าเรือและตลาดปลาของโทยามะอยู่ใกล้กันมาก ปูเบนิซุวะกานิที่จับได้จึงถูกส่งถึงมือลูกค้าในสภาพที่สดที่สุด แค่มาถึงโทยามะ การได้ลิ้มลองปูเบนิซุวะกานิที่สดและหวานที่สุดในราคาย่อมเยา ก็ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป!
ซูชิปลาเทราต์

ที่มาของภาพ: photoAC
ซูชิปลาเทราต์ที่ใช้ปลาเทราต์ดองเค็มสีสดและมันวาว วางเรียงบนข้าวซูชิ ห่อด้วยใบไผ่แล้วอัดให้แน่นในภาชนะ ถือเป็นอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อที่สุดของจังหวัดโทยามะ แม้ว่าชาวโทยามะจะนิยมทานซูชิปลาเทราต์ในงานเฉลิมฉลองหรืองานสังสรรค์เท่านั้น แต่ถ้าใครอยากลองชิม ก็สามารถหาซื้อเป็นข้าวกล่องได้ตามสถานีโทยามะ สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิห้องได้ 1-3 วัน จึงเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากก่อนกลับประเทศ หรือจะซื้อไปทานบนรถไฟชินคันเซ็นและเครื่องบินก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน!
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวโทยามะ แนะนำให้เริ่มจากเส้นทางอัลไพน์รูท ตามด้วยการแช่ออนเซ็นที่อุนาซึกิ และปิดท้ายด้วยอาหารขึ้นชื่อของจังหวัด ถ้ายังไม่เคยมา รีบบันทึกบทความนี้ไว้แล้วมาเที่ยวโทยามะให้ทั่วในครั้งหน้ากันเถอะ!