จังหวัดฟุคุอิที่มีทิวทัศน์อ่าวยาวและความเชื่อเกี่ยวกับภูเขาที่พิเศษ เจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยโบราณเนื่องจากทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่ดี อีกทั้งสืบทอดทรัพยากรทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่เยือนจังหวัดนี้ครั้งแรกต่างต้องตกหลุมรักที่นี่! และในบทความนี้ "JapaiJAPAN" จะพาทุกคนไปที่จังหวัดฟุคุอิ และนำเสนอแผนการท่องเที่ยวแบบสามวันที่สามารถสนุกสนานได้อย่างเต็มที่!

ที่มาของภาพ:photoAC
"ฟุคุอิ" เมืองที่นักเดินทางต้องไปเยือน! ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการเดินทาง
"จังหวัดฟุคุอิ" ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างภูมิภาคโฮคุริคุและคินคิ โดยทิศตะวันตกติดทะเลญี่ปุ่น ส่วนทิศตะวันออกถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขา เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว ทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมและทิวทัศน์ธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หากต้องการไปเที่ยวที่นี่ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กระจายตัวอยู่ห่างกัน จึงแนะนำวิธีการท่องเที่ยวด้วยรถยนตร์ส่วนตัวมากกว่า ซึ่งจะสามารถใกล้ชิดกับความงดงามของภูเขาและทะเลที่ฟุคุอิมากขึ้น!

หนึ่งในสามเสาโทริอิที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอยู่ที่ศาลเจ้าเคบิที่ตั้งอยู่ในเมืองสึรุกะ
ที่มาของภาพ:photoAC
หากกำลังจะเดินทางไปฟุคุอิ แนะนำให้เลือกสนามบินดังต่อไปนี้!
ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ | สนามบินคันไซ → สถานี JR โอซาก้า (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) → จากนั้นนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Thunderbird ไปยังสถานี JR ฟุคุอิ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) |
---|---|
ออกเดินทางจากสนามบินโคมัตสึ | สนามบินโคมัตสึ → นั่งรถบัสรับส่งสนามบิน ไปยังสถานี JR โคมัตสึ (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) → นั่งรถไฟด่วนพิเศษ ชิราซากิ ไปยังสถานี JR ฟุคุอิ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) |
ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ | สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ → สถานีเมเทตสึนาโกย่า (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) → ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษชิราทัตสึที่สถานีเจอาร์นาโกย่า ไปยังสถานี JR ฟุคุอิ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) |
แนะนำแผนการท่องเที่ยวจังหวัดฟุคุอิสามวัน

ที่มาของภาพ:photoAC
วันที่หนึ่ง | ออกเดินทางจากตัวเมืองฟุคุอิ และถูกต้อนรับโดยรูปปั้นไดโนเสาร์เคลื่อนไหวได้หน้าสถานี → จากนั้นมุ่งหน้าไปที่ "ปราสาทมารุโอกะ" ที่เป็นปราสาทดั้งเดิมแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในภูมิภาคโฮคุริคุ → ช่วงบ่ายไปชมวิวธรรมชาติระดับโลกที่ "โทจินโบ" และแวะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดมิคุนิซันเซ็ต → ตกดึกเข้าพักที่ "ออนเซ็นอวาระ" แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของฟุคุอิ |
---|---|
วันที่สอง | “ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ” สถานที่ชมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลหมอกในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว → “ศาลเจ้าเฮเซนจิฮาคุซัง” ศูนย์กลางศาสนาฮาคุซังอันมีเอกลักษณ์ในโฮคุริคุ → “เอจิเซ็น ไดบุทสึ “วัดเซไดจิ” → “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ " ที่ครอบครัวและเพื่อนฝูงสามารถไปเยือนได้ |
วันที่สาม | ตอนเช้าไปยัง "วัดเอเฮอิจิ" เพื่อสัมผัสความรู้สึกเงียบสงบเฉพาะผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น → ตอนเที่ยงไปยัง "เมืองสึรุกะ" ซึ่งเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของฟุคุอิ เพื่อชื่นชมหนึ่งในสามประตูโทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดของ "ศาลเจ้าคิฮิจิงกุ" และผู้ที่อยากขอความรักต้องมา "พระราชวังคานาซากิ" ที่สามารถขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคความรักและความยากลำบาก → ทะเลสาบทั้งห้าแห่งมิคาตะ |
จุดเด่นของกำหนดการ
วันแรกจะเน้นไปที่สถานที่ท่องเที่ยวในเขตตอนเหนือของจังหวัดฟุคุอิ โดยเฉพาะสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 2 แห่ง คือ "ปราสาทมารุโอกะ" และ "โทจินโบ" โทจินโบนั้นพิเศษตรงที่มีหน้าผาหินแอนดีไซต์ระดับโลก และเมื่อผสมผสานกับตำนานของวัดในท้องถิ่น ยิ่งทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ต้องมาเยือน! ถ้ามาเที่ยวโทจินโบ แนะนำให้ลองนั่งเรือท่องเที่ยวของที่นี่ดู จะได้เห็นวิวสวยที่มองไม่เห็นจากบนฝั่งเลยล่ะ!

ที่มาของภาพ:photoAC
ไฮไลต์ของกำหนดการวันที่สองคือ "ศาลเจ้าเฮเซนจิฮะคุซัง" ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางความเชื่อที่สำคัญของภูเขาฮะคุซังในแถบโฮคุริคุ พร้อมด้วยทิวทัศน์สวยงามของมอสสีเขียวในบริเวณศาลเจ้าที่ดูราวกับโลกแฟนตาซี ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป! นอกจากนี้ขอแนะนำให้ไปเที่ยวปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแถบโฮคุริคุว่าเป็น "ปราสาทลอยฟ้า"! หากมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วง แล้วขึ้นไปที่จุดชมวิวข้างปราสาทช่วงเช้าตรู่ จะมีโอกาสมองเห็นภาพมหัศจรรย์ของตัวปราสาทที่ลอยอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก! ก่อนออกเดินทางอย่าลืมเช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนล่ะ!
สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำสำหรับวันที่สาม คือ "ทะเลสาบมิคาตะโกะ" ซึ่งเป็นกลุ่มทะเลสาบสวยงาม 5 แห่งที่ตั้งอยู่ในอ่าววากาสะ เนื่องจากสัดส่วนของน้ำทะเลและน้ำจืดที่แตกต่างกัน เมื่อกระทบกับแสงแดด ทำให้ทะเลสาบแต่ละแห่งมีสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย นับเป็นทัศนียภาพพิเศษที่หาชมได้ยากแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ขอแนะนำให้ไปเที่ยวแถวเมืองสึรุงะด้วย เมืองนี้มีท่าเรือธรรมชาติที่สวยงาม มีประวัติการค้าขายที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่พันปีก่อน และในยุคใหม่ก็เคยเป็นท่าเรือทหารที่สำคัญในประวัติศาสตร์อีกด้วย ความทรงจำเหล่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่ในสถาปัตยกรรมและถนนหนทางของที่นี่ เพื่อรอให้ทุกคนได้มาค้นพบด้วยตัวเอง!
7 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในฟุคุอิ
โทจินโบ
"โทจินโบ" เป็นหนึ่งในสามแหล่งหินแอนดีไซต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทอดยาวแนวชายฝั่งกว่าหนึ่งกิโลเมตร เสาหินสูงกว่า 20 เมตรถูกกัดเซาะโดยทะเลญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน ชื่อ "โทจินโบ" มีตำนานเล่าว่ามาจากชื่อพระที่วัดเฮเซนจิชื่อโทจินโบและมาการะคาคุเนน ทั้งสองคนทะเลาะกัน จนมาการะคาคุเนนได้ผลักโทจินโบตกลงทะเล คนรุ่นหลังจึงตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า "โทจินโบ" เพื่อระลึกถึงเรื่องราวนี้ ถ้ามาเที่ยวที่นี่ แนะนำให้ลองนั่ง "เรือท่องเที่ยวโทจินโบ" ที่จะพาคุณชื่นชมความงามของหน้าผาสูงชันจากมุมมองที่แตกต่างกัน! และถ้ามาตอนพระอาทิตย์ตก แนะนำให้ไปที่ "Mikuni Sunset Beach" เพื่อเพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม!

ที่มาของภาพ:photoAC
ปราสาทมารุโอกะ
"ปราสาทมารุโอกะ" เป็นปราสาทที่มีหอคอยดั้งเดิมแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในภูมิภาคโฮคุริคุ โดยสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1576 โดยชิบาตะ คัตสุโตโยะ หลานชายของชิบาตะ คัตสุอิเอะ ซึ่งเป็นแม่ทัพคนสำคัญของโอดะ โนบุนางะ ตามที่นักประวัติศาสตร์หลายท่านได้ยืนยันไว้ ปราสาทมารุโอกะเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดจากปราสาทที่ยังคงเหลืออยู่ทั้ง 12 แห่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะเทคนิค "การก่อกำแพงหินแบบธรรมชาติ Nozura-zumi" วิธีการก่อสร้างนี้รับประกันความแข็งแรงและความยากในการสร้างปราสาทแห่งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว สิ่งที่ทำให้ปราสาทมารุโอกะมีชื่อเสียงที่สุดคือการได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "ร้อยสถานที่ชมซากุระชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น" คราวหน้าช่วงฤดูซากุระบาน หาเวลามาชมกำแพงเมืองโบราณที่ถูกโอบล้อมด้วยดอกซากุระกันเถอะ!

ที่มาของภาพ:photoAC

ที่มาของภาพ:photoAC
ปราสาทมารุโอกะ
・ที่ตั้ง:1-59 Kasumicho, Maruokacho, Sakai City, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:8:30-17:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30)
・การเดินทาง: ลงที่สถานี JR Maruoka จากนั้นขึ้นรถบัสและลงที่สถานีขนส่ง Maruoka แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
・ราคา: ผู้ใหญ่ 450 เยน นักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่า 150 เยน นิทรรศการต้องซื้อบัตรเพิ่มเติม
・Official website
ศาลเจ้าเฮเซนจิ ฮาคุซัง
ผู้อ่านที่ชื่นชอบทิวทัศน์ของมอสสีเขียวจะต้องหลงรักจุดลับนี้แน่นอน! ในฐานะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาคโฮคุริคุ ความเชื่อเกี่ยวกับภูเขาฮาคุซัง หนึ่งในศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อเดินผ่านทางเข้าที่มีป่าไม้เขียวครึ้ม จะพบกับเส้นทางเดินสีเขียวที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ยักษ์อายุกว่าพันปี บรรยากาศที่สง่างามและเงียบสงบของที่นี่ทำให้ผู้มาเยือนทุกคนรู้สึกเคารพศรัทธา เส้นทางนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็น "100 เส้นทางที่คัดสรรของประเทศญี่ปุ่น" เมื่อมาเที่ยวที่เมืองคัตสึยามะ ศาลเจ้าแห่งนี้จะต้องเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยล่ะ!




ศาลเจ้าเฮเซนจิ ฮาคุซัง
・ที่ตั้ง:56-63 Heisenji, Heisenji-cho, Katsuyama City, Fukui Prefecture
・การเดินทาง: ลงที่ "สถานีคัตสึยามะ" สถานีรถไฟเอจิเซ็น จากนั้นขึ้นรถบัสรับส่ง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
・Official website
เอจิเซ็น ไดบุทสึ (วัดเซไดจิ)
พระใหญ่เอจิเซ็น "วัดเซไดจิ" ต่างจากวัดเก่าแก่ในญี่ปุ่นที่มีอายุเป็นร้อยๆ ปี วัดนี้สร้างขึ้นโดยนักธุรกิจท้องถิ่นที่บริจาคเงิน และเริ่มเปิดให้สักการะตั้งแต่ปี 1987 เนื่องจากมีจุดประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว บริเวณวัดทั้งหมดจึงถูกออกแบบให้ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนฉากในภาพยนตร์เลยทีเดียว รูปลักษณ์ภายนอกสร้างตามแบบวัดโทไดจิที่นารา ส่วนพระพุทธรูปองค์หลักที่สูงถึง 17 เมตรนั้นสร้างตามแบบพระพุทธรูปที่ถ้ำหินหลงเหมิน เมืองลั่วหยาง หลังจากเข้าไปในห้องโถงหลักของวัดแล้ว พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่สองข้าง ทำให้บรรยากาศภายในดูขลังและน่าเกรงขาม เป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่อลังการมากเลยล่ะ




เอจิเซ็น ไดบุทสึ
・ที่ตั้ง:50-1-1 Katase, Katsuyama City, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:8:00 -17:00
・การเดินทาง:ลงที่ "สถานีคัตสึยามะ" สถานีรถไฟเอจิเซ็น จากนั้นขึ้นรถบัสรับส่ง
・ราคา:ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนมัธยมปลายและต่ำกว่า 300 เยน
・Official website
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จังหวัดฟุคุอิ
"พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จังหวัดฟุคุอิ" ในฐานะที่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่งของโลก ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงฟอสซิลไดโนเสาร์ 44 ตัวที่ขุดพบในเมืองคัตสึยามะ นอกจากนี้ด้านนอกยังมีพื้นที่ให้ทดลองขุดค้นฟอสซิลด้วยตัวเอง และสามารถชมการขุดค้นฟอสซิลจริงๆ ได้อย่างใกล้ชิด ทำให้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการศึกษาด้านบรรพชีวินวิทยา ที่นี่มีวิทยากรมืออาชีพคอยให้ความรู้ และนำเสนอพื้นที่สวนสนุกไดโนเสาร์ที่เหมาะกับคนทุกวัย แนะนำสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาที่เที่ยวด้วยกันอย่างมาก!

ที่มาของภาพ:Official website

ที่มาของภาพ:Wikipedia
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จังหวัดฟุคุอิ
・ที่ตั้ง:51-11 Terao, Muraoka-cho, Katsuyama City, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:9:00 - 17:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30) หยุดช่วงปีใหม่ และทุกวันพุธของสัปดาห์ที่สองและสี่ของแต่ละเดือน (หากวันนั้นเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดวันถัดไป และไม่มีวันหยุดช่วงฤดูร้อน)
・การเดินทาง:ลงที่ "สถานีคัตสึยามะ" รถไฟเอชิเซ็น จากนั้นต่อรถบัสประมาณ 15 นาที หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
・ราคา:ผู้ใหญ่ 730 เยน นักเรียนมหาวิทยาลัยและมัธยมปลาย 420 เยน นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่า 260 เยน
・Official website
วัดเอเฮอิจิ
"วัดเอเฮอิจิ" ตั้งอยู่ในภูเขาอันเงียบสงบของฟุคุอิ เป็นวัดหลักของนิกายโซโตะในญี่ปุ่น ซึ่งมีวัดในนิกายทั่วประเทศมากกว่า 15,000 แห่ง ท่าน "โดเก็น" ผู้ก่อตั้งนิกายนี้ เคยเดินทางไปศึกษาพุทธศาสนาในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง หลังจากกลับประเทศญี่ปุ่นได้ก่อตั้งนิกายโซโตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักเซนที่สำคัญ และได้รับพระสงฆ์จำนวนมากเข้าฝึกปฏิบัติที่วัดเอเฮอิจิ ด้วยเหตุนี้ วัดเอเฮอิจิจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "สำนักเซนอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น" และมีการฝึกปฏิบัติที่เข้มงวดอย่างมาก ห้องพัก "ซันโชคาคุ" ที่ใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับผู้มาเยี่ยมชมวัด ชั้นสองประกอบด้วยเสื่อทาทามิขนาด 156 ผืน และภาพวาดสี 230 ภาพ ซึ่งวาดขึ้นในปี 1930 โดยศิลปินญี่ปุ่นรวม 144 ท่าน นอกจากนี้ เนื่องจากพระสงฆ์ในวัดกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ ผู้มาเยี่ยมชมห้ามถ่ายรูปพวกเขาเด็ดขาด อย่าลืมปฏิบัติเป็นนักท่องเที่ยวที่มีมารยาทด้วยล่ะ!

ที่มาของภาพ:Wikipedia

ที่มาของภาพ:photoAC
วัดเอเฮอิจิ
・ที่ตั้ง:5-15 Shibi, Eiheiji-cho, Yoshida-gun, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:8:30 - 16:30
・การเดินทาง:ลงที่สถานี Eiheiji-guchi รถไฟ Echizen Railway จากนั้นต่อรถบัส Keifuku สาย Eiheiji Monzen/Eiheiji ลงที่ป้ายสุดท้าย แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
・ราคา:ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน
・Official website
ทะเลสาบทั้งห้าแห่งมิคาตะ
ทุกคนรู้จักทะเลสาบทั้ง 5 ที่ขึ้นชื่อของทวีปอเมริกาเหนือหรือไม่? ที่จังหวัดฟุคุอิก็มีกลุ่มทะเลสาบสวยงามที่เรียกว่า "มิคาตะโกะโคะ" (ทะเลสาบทั้งห้าแห่งมิคาตะ) เช่นกัน "ทะเลสาบมิกาตะ, ทะเลสาบซุยเก็ตสึ, ทะเลสาบซูกะ, ทะเลสาบคุคุโกะ, ทะเลสาบฮินาตะ" ทะเลสาบทั้ง 5 แห่งรวมกันสร้างทัศนียภาพอ่าวที่สวยงาม นอกจากจะเป็นแหล่งระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของท้องถิ่นแล้ว ยังมีคุณค่าทางโบราณคดีจากการทับถมของชั้นดินใต้ทะเลสาบมาเป็นเวลานาน ในบรรดาทะเลสาบทั้งหมด มีเพียงทะเลสาบมิกาตะเท่านั้นที่เป็นทะเลสาบน้ำจืดบริสุทธิ์ ส่วนที่เหลืออีก 4 แห่งเป็นทะเลสาบน้ำกร่อย ส่วนทะเลสาบซุยเก็ตสึเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด และมีลวดลายชั้นตะกอนใต้ทะเลสาบที่ได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงวิชาการของประเทศญี่ปุ่น โดยในปี 2018 ได้มีการก่อตั้ง "พิพิธภัณฑ์เน็นจิ จังหวัดฟุคุอิ" เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุสำคัญเหล่านี้ไว้ ครั้งหน้าเมื่อมาชมวิวสวยที่นี่ อย่าลืมแวะไปพิพิธภัณฑ์เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นด้วยล่ะ!

ที่มาของภาพ:photoAC

ที่มาของภาพ:Official website
พิพิธภัณฑ์เน็นจิ จังหวัดฟุคุอิ
・ที่ตั้ง:122-12-1 Torihama, Wakasa-cho, Mikata-Kaminaka-gun, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:9:00 - 17:00
・การเดินทาง: ลงที่สถานี JR มิกาตะ จากนั้นนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
・ราคา:ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนมัธยมปลายหรือต่ำกว่า 200 เยน
・Official website
3 อาหารที่ห้ามพลาดในฟุคุอิ
ปูเอจิเซ็น

ที่มาของภาพ:PR TIMES
ปูเอะจิเซ็นนับเป็นอาหารขึ้นชื่อที่สุดอย่างหนึ่งของจังหวัดฟุคุอิอย่างไม่มีใครกล้าโต้แย้ง ซึ่งเป็นอาหารเลิศรสที่หาทานได้ในฤดูหนาวของญี่ปุ่น อนุญาติให้จับปูชนิดนี้ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายนถึง 20 มีนาคมของทุกปี และเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่เนื้อปูอร่อยที่สุด โดยวิธีที่จะทำให้ได้รสชาติดั้งเดิมของปูมากที่สุด คือ การต้มด้วยน้ำเปล่าโดยตรง เริ่มจากการแช่ปูในน้ำเย็นเพื่อให้มันสลบ จากนั้นนำไปต้มในน้ำร้อนที่มีความเค็มเท่ากับน้ำทะเล แน่นอนว่ายังมีวิธีการทำอื่นๆ อีกมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการย่าง นึ่ง หรือเอาไปต้มเป็นซุป สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย!
อัตสึอาเงะ

ที่มาของภาพ:Official website
"อัตสึอาเงะ" (เต้าหู้ทอด) เป็นอาหารญี่ปุ่นที่มักจะเป็นแค่ส่วนประกอบรอง แต่ที่จังหวัดฟุคุอิ เนื่องจากความเชื่อดั้งเดิมของนิกายโจโดชินชู ช่วงเทศกาลสำคัญประจำปีจะต้องมีการถวายอาหารทอด ประเพณีนี้ได้แพร่หลายไปสู่ประชาชนทั่วไป และจากสถิติ ชาวจังหวัดฟุคุอิมียอดการบริโภคอัตสึอาเงะเฉลี่ยต่อปีสูงที่สุดในประเทศ ดูจุดนี้ก็พอจะรู้ได้ว่าอัตสึอาเงะเป็นที่นิยมในท้องถิ่นมากแค่ไหน! เต้าหู้ชิ้นใหญ่ที่มีหนังกรอบนอกนุ่มใน เนื้อเต้าหู้หนักแน่นเต็มคำ หอมกลิ่นถั่วเหลือง เมื่อทานคู่กับหัวไชเท้าบดและซอสโชยุ จะกลายเป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดฟุคุอิเลยล่ะ!
อัตสึอาเงะ
・ที่ตั้ง:37-26-1 Kamitakeda, Maruoka-cho, Sakai City, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:10:30 - 15:00 (Lo.15:00) เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เปิดให้บริการเวลา 11.00
・Official website
ข้าวหน้าหมูทอดซอสฟุคุอิ

ที่มาของภาพ:Official website
ข้าวหมูทอดเป็นอาหารยอดนิยมที่มักเห็นในละครญี่ปุ่น แต่ที่จังหวัดฟุคุอินำเสนอวิธีการทำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ การราดซอสพิเศษบนหมูทอดกรอบ เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ กลายเป็นเมนูข้าวหมูทอดราดซอสสไตล์ฟุคุอิที่เป็นตำนาน เนื้อหมูนุ่มเด้ง ไม่เหนียวแข็งเหมือนหมูทอดทั่วไป ทานง่ายและอร่อยสุดๆ แนะนำให้ลองอย่างมาก!
ร้านยุโรปเคน สาขาใหญ่
・ที่ตั้ง:1-7-4 Junka, Fukui City, Fukui Prefecture
・เวลาบริการ:11:00 - 20:00 หยุดทุกวันอังคารและวันจันทร์สลับกัน
・Official website

จังหวัดฟุคุอิเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม อาหารท้องถิ่นรสเลิศ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เหมาะสำหรับการวางแผนทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไป มาสัมผัสเสน่ห์ของฟุคุอิที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมกันเถอะ