[คู่มือฉบับสมบูรณ์] ปฏิทินดอกไม้ฮอกไกโด 4 ฤดู พร้อมช่วงเวลาชมทุ่งลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง จะดู ซากุระ ทุ่งลาเวนเดอร์ หรือทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ ควรไปเดือนไหนดีที่สุด ? JapaiJAPAN ได้รวบรวมข้อมูลดอกไม้ในฤดูกาลต่างๆ และ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้ในฮอกไกโด มาให้ทุกคนได้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการไปชมดอกไม้ที่ฮอกไกโดครั้งต่อไปไว้ที่นี่แล้ว มีอะไรบ้างไปชมกันเลย

ฟาร์มฟุรุทานิที่มีชื่อเสียง ไม่ได้มีเพียงแค่ดอกลาเวนเดอร์เท่านั้น แต่ยังสามารถชื่นชมดอกไม้ชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย

ต้นฤดูใบไม้ผลิหลังหิมะละลาย

ฤดูหนาวในฮอกไกโดตั้งแต่เริ่มมีหิมะตกจนกระทั่งหิมะละลายหมด ใช้เวลาประมาณครึ่งปี ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพืชหรือมนุษย์ พอถึงฤดูใบไม้ผลิต่างก็อดใจรอไม่ไหว อยากจะผุดโผล่ออกมาพร้อมกันทั้งหมด และดอกไม้ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิในฮอกไกโดที่มีความโดดเด่นที่สุดมีดังต่อไปนี้

ฟุคุจุโซ (フクジュソウ) - ปลายเดือนมีนาคม

เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของการสิ้นสุดฤดูหนาวและการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ
ภาพจาก 日本Wikipedia


ฟุคุจุโซ (福壽草) หรือ ดอกอาดอนิส เป็นดอกไม้ที่มีความหมายสื่อถึง ความสุขที่ยั่งยืน, ความทรงจำ และการนำโชคลาภมาให้ โดยมักเติบโตในพื้นที่ป่า ตามปกติดอกไม้ชนิดนี้จะบานในช่วงเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า เกนนิชิโซ (元日草) หรือ ซากุจิโซ" (朔日草) อย่างไรก็ตาม ในฮอกไกโดเนื่องจากมีฤดูหนาวที่ยาวนาน จึงจะเห็นดอกไม้ชนิดนี้ได้หลังจากหิมะละลายแล้วเท่านั้น แม้ว่ารากของมันจะมีพิษ แต่ดอกไม้ชนิดนี้ก็ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความเป็นมงคล สามารถพบเห็นได้ในหลายพื้นที่ของฮอกไกโด เช่น สวนนิชิโอกะ (เมืองซัปโปโร) สวนพืชป่าโอบิฮิโระ (เมืองโอบิฮิโระ) และ อุทยานธรรมชาติโอโตโคยามะ (เมืองอาซาฮิคาวะ)

ครอคัส (クロッカス) - ปลายเดือนมีนาคม

ที่สถาบัน Iai Gakuin ในเมืองฮาโกดาเตะ สามารถชมความงามของดอกครอคัสที่บานสะพรั่งในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ
ภาพจาก 函館公式観光情報 はこぶら


ดอกครอคัส (番紅花) เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่บ่งบอกการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ โดยจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งแตกต่างจากดอกหญ้าฝรั่นที่ใช้เป็นเครื่องเทศที่บานในฤดูใบไม้ร่วง สำหรับสายพันธุ์ที่พบในญี่ปุ่นจะบานในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ มีสีม่วงอ่อน สีขาว และสีเหลืองเป็นหลัก ในฮอกไกโดมีหลายสถานที่ที่สามารถชมดอกครอคัสได้ สถานที่ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สถาบันอิไอ (ในเมืองฮาโกดาเตะ) สวนนาคาจิมะ (ในเมืองซัปโปโร) สวนยูนิ (ในเมืองยูนิ) และ สวนกาแล็กซี่ในหมู่บ้านเอโคริน (ในเมืองเอนิวะ)

มิซึบาโช (ミズバショウ) - ต้นเดือนเมษายน

ดอกมิซึบาโชใน สวนสาธารณะโอนุมะ จะบานสะพรั่งในช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน
ภาพจาก 大沼国定公園の観光情報サイト


มิซึบาโช (水芭蕉) ส่วนใหญ่เติบโตในพื้นที่ชุ่มน้ำและบริเวณพรุ หลังจากแตกหน่อ จะมีดอกสีขาวบริสุทธิ์ผลิบานออกมาจากส่วนกลาง แต่ที่จริงแล้วส่วนที่เห็นเป็นสีขาวนั้นคือใบที่เปลี่ยนรูปร่างไป ในพื้นที่ระดับต่ำจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ส่วนในพื้นที่ภูเขาสูงจะออกดอกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม พื้นที่ที่มีการเจริญเติบโตเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้คือ พื้นที่ชุ่มน้ำมาคุนเบะสึ บริเวณปลายแม่น้ำอิชิคาริ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ได้แก่ พื้นที่กลุ่มมิซึบาโชฮิกาชิโอนุมะ (เมืองนานาเอะ) พื้นที่กลุ่มมิซึบาโชในเมืองยูเบะสึ พื้นที่ชุ่มน้ำอุริวนุมะ (เมืองอุริว) และ ริมทะเลสาบอาบาชิริ (เมืองโอโซระ)

ดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงต้นฤดูร้อน

หลังจากหิมะละลายและดอกเหมยที่บานต้อนรับการอำลาฤดูหนาวอันยาวนาน ต่อจากนั้นก็จะมีพืชพรรณนานาชนิดที่เร่งรีบแสดงตัวต่อผู้คนในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิอันสั้น ๆ เพียง 2 เดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ ดอกบ๊วย และพืชที่คุ้นหูอื่น ๆ ต่างพากันออกดอกแข่งขันความงามในช่วงเวลานี้

รวบรวมดอกไม้และพืชที่พบได้ทั่วไปในฮอกไกโด ตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิจนถึงก่อนหิมะแรก

ดอกบ๊วย - ปลายเดือนเมษายน - ช่วง Golden Week

สวนฮิราโอกะ ในเมืองซัปโปโรเป็นจุดชมดอกบ๊วยที่ดึงดูดผู้คนมากมายในแต่ละปี


ที่ฮอกไกโดดอกบ๊วยจะบานพร้อมกับดอกซากุระ ประมาณปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ในช่วงวันหยุด Golden Week มีการเล่าว่าในช่วงแรกของการพัฒนาฮอกไกโด ได้มีการนำต้นบ๊วยและซากุระมาจากเกาะฮอนชูเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่แตกต่าง จึงปลูกได้เฉพาะในพื้นที่ทางใต้และตอนกลางของเกาะเท่านั้น สถานที่แนะนำสำหรับชมดอกบ๊วย ได้แก่ สวนฮิราโอกะ (เมืองซัปโปโร) สวนโซบะสึ (เมืองโซบะสึ) สวนดอกบ๊วยอาสุกะ (เมืองมิคาสะ) และ สวนดอกบ๊วยคาริคัทสึ (เมืองชินโทกุ) หากมาท่องเที่ยวฮอกไกโดในช่วงนี้ จะสามารถชมความงามของทั้งดอกบ๊วยและดอกซากุระได้พร้อมกัน

ซากุระ - ช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม Golden Week

ชมดอกซากุระที่สวนเทะมิยะในวันที่อากาศดี จะสามารถชมวิวทะเลและภูเขาไปพร้อมๆกันได้


เมื่อพูดถึงซากุระของญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่มักนึกถึงซากุระพันธุ์โซเมะอิโยชิโนะ แต่ซากุระที่เติบโตตามธรรมชาติในฮอกไกโดส่วนใหญ่เป็นพันธุ์เอโซะยามะซากุระ ซากุระชนิดนี้มีดอกขนาดใหญ่กว่าและมีสีสันสดใสกว่า เมื่อเทียบกับซากุระในเกาะฮอนชู จะเห็นว่ามีสีชมพูที่เข้มกว่า นอกจากนี้ เนื่องจากทนต่อความหนาวเย็นได้ดี ลักษณะเด่นที่สุดคือดอกและใบจะผลิพร้อมกัน โดยทั่วไปสามารถชมได้ในหลายพื้นที่ทั่วฮอกไกโด ที่มีชื่อเสียงคือถนนนิจูคเค็น ในเมืองชิซุนาอิ ซึ่งมีต้นซากุระภูเขาประมาณ 3,000 ต้น นับเป็นแนวต้นซากุระที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงดอกบานเต็มที่จะสวยงามอลังการมาก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมทุกปี

สถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด :
สวนมัตสึมาเอะ (เมืองมัตสึมาเอะ - 松前町)
สวนโกะเรียวคาคุ (เมืองฮาโกดาเตะ - 函館市)
สวนเทมิยะ (เมืองโอตารุ - 小樽市)
สวนมารุยามะ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)
สวนโมเอเระนุมะ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)
สวนโทเมอิ (เมืองบิบาอิ - 美唄市)
ถนนซากุระนิจูเก็น ชิซุนาอิ (เมืองชินฮิดากะ - 新ひだか町)
ถนนยูชุน ซากุระ (เมืองอุราคาวะ - 浦河町)

ดอกเอโซะเอนโกซาคุ (エゾエンゴサク) ・ดอกคาตาคุริ (カタクリ) - ช่วงปลายเดือนเมษายน

ดอกเอโซะเอนโกซาคุ (Ezo-engosaku) และดอกคาตาคุริ (Katakuri) ช่วงปลายเดือนเมษายน ณ ศาลเจ้าอุราอุสุ
圖片來源:そらち・デ・ビュー

ที่บริเวณศาลเจ้าอุราอุสุ มีทุ่งดอกเอโซะเอนโกซาคุและดอกคาตาคุริบานสะพรั่งเหมือนพรมผืนใหญ่ เป็นจุดชมดอกไม้ลับๆแต่ได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกปี ดอกเอโซะเอนโกซาคุพบได้ในฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ในพื้นที่ป่าที่มีความชื้น มีดอกสีม่วงน้ำเงินขนาดเล็ก กลีบดอกมีลักษณะแยกเป็นริมฝีปาก ปลายดอกยื่นยาว มีหลากหลายเฉดสี ตั้งแต่ฟ้าอ่อน ม่วง แดง และบางครั้งพบสีขาว ส่วนดอกคาตาคุริ เติบโตในพื้นที่ป่า ดอกมีสีม่วงอ่อนหรือสีชมพู ขนาดค่อนข้างใหญ่ ดอกบานจากยอดลงล่าง ใช้เวลาประมาณ 8 ปีหลังจากเมล็ดงอกจึงจะออกดอก แต่ก่อนใช้หัวทำแป้งมัน แต่ปัจจุบันใช้มันฝรั่งเข้ามาแทน

ดอกอาซาเลีย (ツツジ)・ดอกทิวลิป (チューリップ) - เดือนพฤษภาคม

ในฮอกไกโดดอกอาซาเลียจะบานในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ โดยมักพบได้ตามสวนญี่ปุ่น สวนสาธารณะ หรือตามวัดต่างๆ สวนอาซาเลียเคซัง ในเมืองฮาโกดาเตะ เป็นจุดชมดอกอาซาเลียที่มีชื่อเสียง ในช่วงดอกไม้บาน จะมีดอกอาซาเลียเอโซะบานกว่า 600,000 ต้น ทำให้ทั้งภูเขาถูกย้อมด้วยสีชมพูอันสวยงาม

หลังจากที่ได้ชมดอกซากุระและดอกบ๊วยแล้ว ที่สวนสาธารณะใกล้บ้านของผู้เขียนก็เริ่มมีดอกทิวลิปหลากหลายสายพันธุ์บานเต็มไปหมดโดยไม่รู้ตัว ในตอนนั้นเองที่รู้สึกได้ว่าฤดูหนาวได้สิ้นสุดลงแล้ว และฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงจริงๆ หากพูดถึงจุดชมดอกทิวลิปที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด ก็คือ สวนทิวลิปคามิยูเบ็ทสึ ในเมืองยูเบ็ทสึ แต่ถ้าไม่อยากเดินทางไกล ก็สามารถชมได้ที่สวนสาธารณะในเมืองซัปโปโรเช่นกัน

เมกุซังในฮาโกดาเตะมีอุณหภูมิต่ำกว่าในเขตเมือง เมื่อไปชมดอกไม้อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปด้วย
ภาพจาก 函館市役所官網

สวนทาคิโนะ ซุซุรัน ในเขตมินามิ เมืองซัปโปโร ก็สามารถชมทุ่งดอกทิวลิปได้เช่นกัน

ดอกชิบะซากุระ (しばさくら) - บานช่วงปลายเดือนพฤษภาคม・ดอกคาโนะฮานะหรือดอกเรปซีด (油菜花) บานในเดือนพฤษภาคม

ครั้งแรกที่ได้เห็นดอกชิบะซากุระ (しばさくら) คือหลังจากมาถึงฮอกไกโดในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ภาพของดอกไม้สีชมพูที่บานเต็มเนินเขาราวกับพรมผืนใหญ่ ไม่เพียงแต่มีสีชมพูเท่านั้น ที่ฮอกไกโดยังมีดอกชิบะซากุระสีขาว สีม่วง และสีชมพูอ่อนอีกด้วย จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ สวนทากิโนะอุเอะ ในเมืองทากิโนะอุเอะ และในช่วงหลังมานี้ สวนชิบะซากุระของบ้านมิชิมะ ในเมืองคุชิโระก็กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน

ดอกคาโนล่า (菜の花) เป็นพืชที่ออกดอกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน บางส่วนปลูกเพื่อเป็นพืชเกษตร บางส่วนปลูกเพื่อใช้เป็นปุ๋ยสำหรับพืชเกษตรอื่นๆ เมื่อดอกบาน ทุ่งดอกไม้สีเหลืองทั้งผืนจะเปล่งประกายระยิบระยับใต้แสงแดด ดูยิ่งใหญ่และเหมือนความฝันมาก บริเวณที่ราบสูงมารุกะในเมืองทากิคาวะมีทุ่งดอกคาโนล่าที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลดอกคาโนล่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ

สวนทาคิโนะ ทั้งภูเขาปกคลุมไปด้วยดอกชิบะซากุระหลากสีสัน
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

ทุ่งดอกคาโนล่า ที่ที่ราบสูงมารุกะให้ความรู้สึกประทับใจจนไม่อาจบรรยายได้ว่ากำลังอยู่ที่ไหน
ภาพจาก たきかわ菜の花まつり公式

ดอกไลแลค (ライラック) - บานกลางเดือนพฤษภาคม・ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ (すずらん) - บานปลายเดือนพฤษภาคม

ดอกไลแลค (ライラック) เป็นดอกไม้ประจำเมืองซัปโปโร โดยในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จะสามารถชมดอกไม้สีม่วงและสีขาวที่บานเป็นช่อกลมได้ที่สวนโอโดริ นอกจากสวนโอโดริแล้ว ยังสามารถชมได้ที่สวนป่ามาเอดะและสวนคาวาชิตะอีกด้วย

ส่วนดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ (Lily of the Valley) เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของฮอกไกโดเช่นกัน ได้ชื่อมาจากรูปทรงของดอกที่คล้ายระฆัง บนก้านดอกหนึ่งต้นจะมีดอกเล็กๆ ห้อยลงมาหลายสิบดอก ดูเหมือนระฆังเล็กๆ แขวนอยู่ น่ารักและเป็นที่ชื่นชอบมาก ที่ ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์เมบาเอะ ในเมืองบิราโทริ ได้ชื่อว่าเป็นสวนดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน ประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถชมได้ที่สวนทาคิโนะซุซุรัง ในซัปโปโรได้

ทุกปีในเดือนพฤษภาคม ที่สวนสาธารณะโอโดริ เมืองซัปโปโร จะมีการจัดเทศกาลดอกไลแลค
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

เมืองบิราโทริ หมู่บ้านเมออิ มีทุ่งดอกลิลลี่ป่าที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และทุกปีในเดือนมิถุนายนจะมีการจัดงานชมดอกลิลลี่
ภาพจาก 平取町官網

ดอกไม้ที่บานรับฤดูร้อนอันแสนสั้น

ฮอกไกโดมีฤดูหนาวที่ยาวนาน ในทางกลับกันฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนกลับสั้นมาก ดังนั้นในช่วงเวลาอันสั้นนี้ พืชพรรณต่างๆ จึงแข่งขันกันอวดโฉมความงาม หวังที่จะสร้างความทรงจำอันงดงามและประทับใจ มาดูกันว่ามีดอกไม้อะไรบ้างในฤดูร้อนของฮอกไกโด

เมื่อพูดถึงดอกไม้ฤดูร้อนของฮอกไกโด ที่เป็นตัวแทนที่ชัดเจนที่สุดคงจะเป็นดอกลาเวนเดอร์

ดอกเรบุนอสึโมริโซ ตระกูลกล้วยไม้ (レブンアツモリソウ)・ดอกเอโซเคนโซ (エゾカンゾウ) - ออกดอกช่วงมิถุนายน

ในช่วงต้นฤดูร้อนเดือนมิถุนายน เป็นฤดูที่ดอกเรบุนอสึโมริโซ ซึ่งเป็นดอกไม้เฉพาะถิ่นของเกาะเรบุนกำลังบานสะพรั่ง แต่เดิมสามารถพบเห็นได้ทั่วเกาะ แต่เนื่องจากการลักลอบขุด ทำให้จำนวนลดลงอย่างมาก ปัจจุบันแทบจะพบเห็นได้เฉพาะในเขตอนุรักษ์เท่านั้น ดอกมีสีขาวนวลอ่อนๆ กลีบดอกชั้นล่างเป็นรูปทรงคล้ายถุง รูปทรงโดยรวมเล็กกะทัดรัดน่ารัก หากมีโอกาสไปเที่ยวเกาะเรบุนในเดือนมิถุนายน อย่าพลาดโอกาสไปชมดอกไม้ชนิดนี้

ส่วนดอกเอโซเคนโซ ที่บานในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคม มีรูปทรงคล้ายดอกลิลลี่ แต่มีสีเหลืองส้ม ลักษณะพิเศษคือจะบานในตอนกลางวันและร่วงโรยในตอนเย็นของวันเดียวกัน แม้จะเป็นดอกไม้อายุสั้น แต่ก็ยังสามารถชมทุ่งดอกไม้สีเหลืองส้มได้ที่สวนดอกไม้พื้นเมืองซาโรเบสึ เวลแลนด์ นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นได้ที่ อุตะไซ เวลแลนด์ และสวนดอกไม้ป่าโอชามาเบะ ทางตอนใต้ของฮอกไกโดด้วย

ดอกเรบุนอสึโมริโซ ตระกูลกล้วยไม้ไปชมเมื่อมีโอกาสได้ท่องเที่ยวที่เกาะ เรบุน
圖片來源:Garden Island Hokkaido

ในเดือนมิถุนายนดอกไม้สีเหลืองทองบานสะพรั่งพร้อมวิวภูเขาในระยะไกล สร้างทัศนียภาพที่งดงามตระการตา
圖片來源:サロべつ湿原センター

ดอกลูพิน (ルピナス) ดอกป๊อปปี้ (ポピー) และดอกกุหลาบชายหาด (ハマナス)

ดอกลูพินในฮอกไกโดจะบานช้ากว่าในเกาะฮอนชู โดยจะบานในช่วงปลายเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นต้นฤดูร้อน ในญี่ปุ่นเรียกอีกชื่อว่า Nobrifuji เพราะรูปทรงดอกคล้ายดอกวิสทีเรียกลับหัว ดอกลูพินในฮอกไกโดมีหลากหลายสีสันสวยงาม และมีช่อดอกที่ยาวมาก สามารถยาวได้ถึงกว่า 70 เซนติเมตร สามารถชมทุ่งดอกลูพินได้ที่ อิโระโดริ โระ โอกะ ในเมืองฟุคากาวะ และ ชิกิไซ โนะ โอกะ ในเมืองบิเอ

ดอกป๊อปปี้ เป็นดอกไม้ที่ทนความหนาวได้ดีแต่ไม่ชอบอากาศร้อน ในฮอกไกโดช่วงต้นฤดูร้อนอากาศยังเย็นสบาย จึงออกดอกประมาณปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ดอกป๊อปปี้มีหลากหลายสายพันธุ์และสี ทั้งขาว ส้ม แดง สามารถชมได้ที่ โทมิตะฟาร์ม ในเมืองฟุราโนะ ที่ฟาร์มกวางเรนเดียร์นอร์ธการ์เด้น ในเมืองโฮโรโนเบะมีป๊อปปี้สีฟ้าซึ่งหาชมได้ยากในญี่ปุ่น เรียกอีกชื่อว่า ดอกนางฟ้าแห่งสรวงสวรรค์ บานในช่วงมิถุนายน-กรกฎาคม

ส่วนดอกฮามานาสุ (浜梨) ถือเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดฮอกไกโด บางครั้งเรียกในภาษาอังกฤษว่า Japanese Rose ได้รับเลือกเป็นตัวแทนดอกไม้ของฮอกไกโดเพราะสีสันสดใส ใบสวยงาม และปลูกง่าย แข็งแรง ทนความหนาวได้ดี มักบานตามชายฝั่งทะเลในช่วงต้นฤดูร้อน สามารถชมได้ที่ สวนสาธารณะฮามานาสุโนะโอกะ ในเมืองอิชิคาริ ช่วงปลายมิถุนายน-ต้นกรกฎาคม

ดอกลูพิน (ルピナス)

ดอกป๊อปปี้ (ポピー)

และดอกกุหลาบชายหาด (ハマナス)
ภาพจาก 石狩観光協会

ดอกกุหลาบ (バラ) ดอกไอริส (アヤメ・ハナショウブ) และดอกลินิน (アマ)

ในช่วงที่ดอกกุหลาบชายหาดบานสะพรั่ง ก็เป็นฤดูกาลของดอกกุหลาบในสวนด้วยเช่นกัน สวนกุหลาบที่มีชื่อเสียงที่สุด 3 แห่งในฮอกไกโดได้แก่ สวนกุหลาบสวนสาธารณะอิวามิซาวะ สวนกุหลาบชิชิบุเบ็ทสึ และ สวนกุหลาบฮาโบโระ นอกจากนี้ยังมีสวนขนาดเล็กอีกมากมายที่สามารถชมดอกกุหลาบได้ เช่น สวนโอโดริในเมืองซัปโปโร สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด และสวนกุหลาบในสวนชิโรอิโคอิบิโตะ เป็นต้น

ดอกไอริสมีหลายชนิด ส่วนใหญ่จะบานในพื้นที่ค่อนข้างชื้น โดยจะบานในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ดอกมีสีสันหลากหลายทั้งสีม่วง ขาว ชมพู และน้ำเงิน สามารถชมได้ที่ สวนดอกไอริสโรงเรียนเกษตรกรรมฮอกไกโด ในเมืองซัปโปโร

เดือนกรกฎาคมเป็นฤดูกาลของดอกลินิน ซึ่งมีดอกเล็กๆ สีฟ้าอ่อนหรือสีขาวที่น่ารักมาก แต่เดิมสภาพอากาศที่เย็นสบายของฮอกไกโดเหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูก แต่ภายหลังเมื่อมีการใช้เส้นใยสังเคราะห์ ทำให้ลินินแทบจะสูญพันธุ์ไป อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเริ่มปลูกอีกครั้งเพื่อใช้ทำน้ำมันบริโภค ในเดือนกรกฎาคมสามารถชมทุ่งดอกลินินสีฟ้าอ่อนที่สวยงามได้ที่เมืองโทเบ็ทสึ

สวนดอกกุหลาบในสวนสาธารณะ Shiroi Koibito Park ในเมืองซัปโปโร
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

สวนดอกไอริสที่โรงเรียนเกษตรกรรมฮอกไกโด Hakko Gakuen ในเมืองซัปโปโร
ภาพจาก 札幌観光協会

ทุ่งดอกลินินในเมืองโทเบะสึ
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

ดอกมันฝรั่ง (ジャガイモの花) - กลางเดือนมิถุนายน)・ดอกโซบะ (そばの花) กรกฎาคม

ทุ่งดอกมันฝรั่งที่เมืองบิเอะ ซึ่งมีดอกสีขาวและชมพูบานสะพรั่งไกลสุดตา เป็นหนึ่งในภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโด ดอกมันฝรั่งมีสีแตกต่างกันตามสายพันธุ์ โดยพันธุ์ดันชาคุจะมีดอกสีขาวดูได้สบายตา

สำหรับดอกโซบะ เมื่อเดินทางขึ้นเหนือตามทางหลวงหมายเลข 275 ผ่านอุโมงค์โฮโรกะไน จะพบกับเมืองโฮโรกะไน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตโซบะอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ดอกโซบะจะบานในช่วงต้นกรกฎาคมถึงปลายสิงหาคม สร้างภาพทุ่งดอกไม้สีขาวที่ดูราวกับหิมะตกในฤดูร้อน

ทุ่งดอกมันฝรั่งที่เมืองบิเอะ ซึ่งมีดอกสีขาวและชมพูบานสะพรั่งไกลสุดตา
ภาพจาก 俱知安町官網

ดอกโซบะจะบานในช่วงต้นกรกฎาคมถึงปลายสิงหาคม
ภาพจาก 幌加内観光協会

ดอกลาเวนเดอร์ (ラベンダー) - เดือนกรกฎาคม

สวนฮิโนเดะที่คามิฟุราโนะก็มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์เช่นกัน

เมื่อพูดถึงดอกลาเวนเดอร์ในฮอกไกโด ทุกคนมักจะนึกถึงเมืองฟุราโนะ แท้จริงแล้วพื้นที่เพาะปลูกดอกไม้ได้ลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากปัจจัยบางประการ แต่ภายหลังเมื่อ JR ได้นำภาพฟาร์มโทมิตะมาใช้ในปฏิทิน นักท่องเที่ยวก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับความนิยมของละครทีวีเรื่อง 北の国から ทำให้ดอกลาเวนเดอร์กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จนกลายเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของฮอกไกโดที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ดอกลาเวนเดอร์มีสีหลักๆ คือ สีขาว สีชมพู และสีม่วง โดยสีม่วงได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนใหญ่ใช้เป็นน้ำหอมและเพื่อการชมความงาม ในแต่ละปีช่วงเดือนกรกฎาคม เขตฟุราโนะที่มีชื่อเสียงด้านดอกลาเวนเดอร์จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจนเมืองเล็กๆ แห่งนี้แน่นขนัด

สถานที่ชมดอกลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียง :
ฟาร์มโทมิตะ (นาคาฟุราโนะ - 中富良野町)
ลาเวนเดอร์อีสต์ (คามิฟุราโนะ - 上富良野町)
สวนฮิโนเดะ (คามิฟุราโนะ - 上富良野町)
สวนลาเวนเดอร์เทศบาลนาคาฟุราโนะ (เทศบาลนาคาฟุราโนะ - 中富良野町)
จุดชมวิวมิยามะโทเกะ (คามิฟุราโนะ - 上富良野町)
ไฮแลนด์ฟุราโนะ (เมืองฟุราโนะ - 富良野市)
จุดชมวิวโฮโรมิโทเกะ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)
สุสานทาคิโนะมาโคมานาอิ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง จะดู ซากุระ ทุ่งลาเวนเดอร์ หรือทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ ควรไปเดือนไหนดีที่สุด ? JapaiJAPAN ได้รวบรวมข้อมูลดอกไม้ในฤดูกาลต่างๆและ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้ในฮอกไกโด มาให้ทุกคนได้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการไปชมดอกไม้ที่ฮอกไกโดครั้งต่อไปไว้ที่นี่แล้ว มีอะไรบ้างไปชมกันเลย

ฟาร์มฟุรุทานิที่มีชื่อเสียง ไม่ได้มีเพียงแค่ดอกลาเวนเดอร์เท่านั้น แต่ยังสามารถชื่นชมดอกไม้ชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย

ต้นฤดูใบไม้ผลิหลังหิมะละลาย

ฤดูหนาวในฮอกไกโดตั้งแต่เริ่มมีหิมะตกจนกระทั่งหิมะละลายหมด ใช้เวลาประมาณครึ่งปี ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพืชหรือมนุษย์ พอถึงฤดูใบไม้ผลิต่างก็อดใจรอไม่ไหว อยากจะผุดโผล่ออกมาพร้อมกันทั้งหมด และดอกไม้ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิในฮอกไกโดที่มีความโดดเด่นที่สุดมีดังต่อไปนี้

ฟุคุจุโซ (フクジュソウ) - ปลายเดือนมีนาคม

เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของการสิ้นสุดฤดูหนาวและการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ
ภาพจาก 日本Wikipedia


ฟุคุจุโซ (福壽草) หรือ ดอกอาดอนิส เป็นดอกไม้ที่มีความหมายสื่อถึง ความสุขที่ยั่งยืน, ความทรงจำ และการนำโชคลาภมาให้ โดยมักเติบโตในพื้นที่ป่า ตามปกติดอกไม้ชนิดนี้จะบานในช่วงเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า เกนนิชิโซ (元日草) หรือ ซากุจิโซ" (朔日草) อย่างไรก็ตาม ในฮอกไกโดเนื่องจากมีฤดูหนาวที่ยาวนาน จึงจะเห็นดอกไม้ชนิดนี้ได้หลังจากหิมะละลายแล้วเท่านั้น แม้ว่ารากของมันจะมีพิษ แต่ดอกไม้ชนิดนี้ก็ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความเป็นมงคล สามารถพบเห็นได้ในหลายพื้นที่ของฮอกไกโด เช่น สวนนิชิโอกะ (เมืองซัปโปโร) สวนพืชป่าโอบิฮิโระ (เมืองโอบิฮิโระ) และ อุทยานธรรมชาติโอโตโคยามะ (เมืองอาซาฮิคาวะ)

ครอคัส (クロッカス) - ปลายเดือนมีนาคม

ที่สถาบัน Iai Gakuin ในเมืองฮาโกดาเตะ สามารถชมความงามของดอกครอคัสที่บานสะพรั่งในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ
ภาพจาก 函館公式観光情報 はこぶら


ดอกครอคัส (番紅花) เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่บ่งบอกการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ โดยจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งแตกต่างจากดอกหญ้าฝรั่นที่ใช้เป็นเครื่องเทศที่บานในฤดูใบไม้ร่วง สำหรับสายพันธุ์ที่พบในญี่ปุ่นจะบานในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ มีสีม่วงอ่อน สีขาว และสีเหลืองเป็นหลัก ในฮอกไกโดมีหลายสถานที่ที่สามารถชมดอกครอคัสได้ สถานที่ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สถาบันอิไอ (ในเมืองฮาโกดาเตะ) สวนนาคาจิมะ (ในเมืองซัปโปโร) สวนยูนิ (ในเมืองยูนิ) และ สวนกาแล็กซี่ในหมู่บ้านเอโคริน (ในเมืองเอนิวะ)

มิซึบาโช (ミズバショウ) - ต้นเดือนเมษายน

ดอกมิซึบาโชใน สวนสาธารณะโอนุมะ จะบานสะพรั่งในช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน
ภาพจาก 大沼国定公園の観光情報サイト


มิซึบาโช (水芭蕉) ส่วนใหญ่เติบโตในพื้นที่ชุ่มน้ำและบริเวณพรุ หลังจากแตกหน่อ จะมีดอกสีขาวบริสุทธิ์ผลิบานออกมาจากส่วนกลาง แต่ที่จริงแล้วส่วนที่เห็นเป็นสีขาวนั้นคือใบที่เปลี่ยนรูปร่างไป ในพื้นที่ระดับต่ำจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ส่วนในพื้นที่ภูเขาสูงจะออกดอกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม พื้นที่ที่มีการเจริญเติบโตเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้คือ พื้นที่ชุ่มน้ำมาคุนเบะสึ บริเวณปลายแม่น้ำอิชิคาริ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ได้แก่ พื้นที่กลุ่มมิซึบาโชฮิกาชิโอนุมะ (เมืองนานาเอะ) พื้นที่กลุ่มมิซึบาโชในเมืองยูเบะสึ พื้นที่ชุ่มน้ำอุริวนุมะ (เมืองอุริว) และ ริมทะเลสาบอาบาชิริ (เมืองโอโซระ)

ดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงต้นฤดูร้อน

หลังจากหิมะละลายและดอกเหมยที่บานต้อนรับการอำลาฤดูหนาวอันยาวนาน ต่อจากนั้นก็จะมีพืชพรรณนานาชนิดที่เร่งรีบแสดงตัวต่อผู้คนในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิอันสั้น ๆ เพียง 2 เดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ ดอกบ๊วย และพืชที่คุ้นหูอื่น ๆ ต่างพากันออกดอกแข่งขันความงามในช่วงเวลานี้

รวบรวมดอกไม้และพืชที่พบได้ทั่วไปในฮอกไกโด ตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิจนถึงก่อนหิมะแรก

ดอกบ๊วย - ปลายเดือนเมษายน - ช่วง Golden Week

สวนฮิราโอกะ ในเมืองซัปโปโรเป็นจุดชมดอกบ๊วยที่ดึงดูดผู้คนมากมายในแต่ละปี


ที่ฮอกไกโดดอกบ๊วยจะบานพร้อมกับดอกซากุระ ประมาณปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ในช่วงวันหยุด Golden Week มีการเล่าว่าในช่วงแรกของการพัฒนาฮอกไกโด ได้มีการนำต้นบ๊วยและซากุระมาจากเกาะฮอนชูเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่แตกต่าง จึงปลูกได้เฉพาะในพื้นที่ทางใต้และตอนกลางของเกาะเท่านั้น สถานที่แนะนำสำหรับชมดอกบ๊วย ได้แก่ สวนฮิราโอกะ (เมืองซัปโปโร) สวนโซบะสึ (เมืองโซบะสึ) สวนดอกบ๊วยอาสุกะ (เมืองมิคาสะ) และ สวนดอกบ๊วยคาริคัทสึ (เมืองชินโทกุ) หากมาท่องเที่ยวฮอกไกโดในช่วงนี้ จะสามารถชมความงามของทั้งดอกบ๊วยและดอกซากุระได้พร้อมกัน

ซากุระ - ช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม Golden Week

ชมดอกซากุระที่สวนเทะมิยะในวันที่อากาศดี จะสามารถชมวิวทะเลและภูเขาไปพร้อมๆกันได้


เมื่อพูดถึงซากุระของญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่มักนึกถึงซากุระพันธุ์โซเมะอิโยชิโนะ แต่ซากุระที่เติบโตตามธรรมชาติในฮอกไกโดส่วนใหญ่เป็นพันธุ์เอโซะยามะซากุระ ซากุระชนิดนี้มีดอกขนาดใหญ่กว่าและมีสีสันสดใสกว่า เมื่อเทียบกับซากุระในเกาะฮอนชู จะเห็นว่ามีสีชมพูที่เข้มกว่า นอกจากนี้ เนื่องจากทนต่อความหนาวเย็นได้ดี ลักษณะเด่นที่สุดคือดอกและใบจะผลิพร้อมกัน โดยทั่วไปสามารถชมได้ในหลายพื้นที่ทั่วฮอกไกโด ที่มีชื่อเสียงคือถนนนิจูคเค็น ในเมืองชิซุนาอิ ซึ่งมีต้นซากุระภูเขาประมาณ 3,000 ต้น นับเป็นแนวต้นซากุระที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงดอกบานเต็มที่จะสวยงามอลังการมาก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมทุกปี

สถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด :
สวนมัตสึมาเอะ (เมืองมัตสึมาเอะ - 松前町)
สวนโกะเรียวคาคุ (เมืองฮาโกดาเตะ - 函館市)
สวนเทมิยะ (เมืองโอตารุ - 小樽市)
สวนมารุยามะ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)
สวนโมเอเระนุมะ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)
สวนโทเมอิ (เมืองบิบาอิ - 美唄市)
ถนนซากุระนิจูเก็น ชิซุนาอิ (เมืองชินฮิดากะ - 新ひだか町)
ถนนยูชุน ซากุระ (เมืองอุราคาวะ - 浦河町)

ดอกเอโซะเอนโกซาคุ (エゾエンゴサク) ・ดอกคาตาคุริ (カタクリ) - ช่วงปลายเดือนเมษายน

ดอกเอโซะเอนโกซาคุ (Ezo-engosaku) และดอกคาตาคุริ (Katakuri) ช่วงปลายเดือนเมษายน ณ ศาลเจ้าอุราอุสุ
圖片來源:そらち・デ・ビュー

ที่บริเวณศาลเจ้าอุราอุสุ มีทุ่งดอกเอโซะเอนโกซาคุและดอกคาตาคุริบานสะพรั่งเหมือนพรมผืนใหญ่ เป็นจุดชมดอกไม้ลับๆแต่ได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกปี ดอกเอโซะเอนโกซาคุพบได้ในฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ในพื้นที่ป่าที่มีความชื้น มีดอกสีม่วงน้ำเงินขนาดเล็ก กลีบดอกมีลักษณะแยกเป็นริมฝีปาก ปลายดอกยื่นยาว มีหลากหลายเฉดสี ตั้งแต่ฟ้าอ่อน ม่วง แดง และบางครั้งพบสีขาว ส่วนดอกคาตาคุริ เติบโตในพื้นที่ป่า ดอกมีสีม่วงอ่อนหรือสีชมพู ขนาดค่อนข้างใหญ่ ดอกบานจากยอดลงล่าง ใช้เวลาประมาณ 8 ปีหลังจากเมล็ดงอกจึงจะออกดอก แต่ก่อนใช้หัวทำแป้งมัน แต่ปัจจุบันใช้มันฝรั่งเข้ามาแทน

ดอกอาซาเลีย (ツツジ)・ดอกทิวลิป (チューリップ) - เดือนพฤษภาคม

ในฮอกไกโดดอกอาซาเลียจะบานในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ โดยมักพบได้ตามสวนญี่ปุ่น สวนสาธารณะ หรือตามวัดต่างๆ สวนอาซาเลียเคซัง ในเมืองฮาโกดาเตะ เป็นจุดชมดอกอาซาเลียที่มีชื่อเสียง ในช่วงดอกไม้บาน จะมีดอกอาซาเลียเอโซะบานกว่า 600,000 ต้น ทำให้ทั้งภูเขาถูกย้อมด้วยสีชมพูอันสวยงาม

หลังจากที่ได้ชมดอกซากุระและดอกบ๊วยแล้ว ที่สวนสาธารณะใกล้บ้านของผู้เขียนก็เริ่มมีดอกทิวลิปหลากหลายสายพันธุ์บานเต็มไปหมดโดยไม่รู้ตัว ในตอนนั้นเองที่รู้สึกได้ว่าฤดูหนาวได้สิ้นสุดลงแล้ว และฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงจริงๆ หากพูดถึงจุดชมดอกทิวลิปที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด ก็คือ สวนทิวลิปคามิยูเบ็ทสึ ในเมืองยูเบ็ทสึ แต่ถ้าไม่อยากเดินทางไกล ก็สามารถชมได้ที่สวนสาธารณะในเมืองซัปโปโรเช่นกัน

เมกุซังในฮาโกดาเตะมีอุณหภูมิต่ำกว่าในเขตเมือง เมื่อไปชมดอกไม้อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปด้วย
ภาพจาก 函館市役所官網

สวนทาคิโนะ ซุซุรัน ในเขตมินามิ เมืองซัปโปโร ก็สามารถชมทุ่งดอกทิวลิปได้เช่นกัน

ดอกชิบะซากุระ (しばさくら) - บานช่วงปลายเดือนพฤษภาคม・ดอกคาโนะฮานะหรือดอกเรปซีด (油菜花) บานในเดือนพฤษภาคม

ครั้งแรกที่ได้เห็นดอกชิบะซากุระ (しばさくら) คือหลังจากมาถึงฮอกไกโดในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ภาพของดอกไม้สีชมพูที่บานเต็มเนินเขาราวกับพรมผืนใหญ่ ไม่เพียงแต่มีสีชมพูเท่านั้น ที่ฮอกไกโดยังมีดอกชิบะซากุระสีขาว สีม่วง และสีชมพูอ่อนอีกด้วย จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ สวนทากิโนะอุเอะ ในเมืองทากิโนะอุเอะ และในช่วงหลังมานี้ สวนชิบะซากุระของบ้านมิชิมะ ในเมืองคุชิโระก็กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน

ดอกคาโนล่า (菜の花) เป็นพืชที่ออกดอกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน บางส่วนปลูกเพื่อเป็นพืชเกษตร บางส่วนปลูกเพื่อใช้เป็นปุ๋ยสำหรับพืชเกษตรอื่นๆ เมื่อดอกบาน ทุ่งดอกไม้สีเหลืองทั้งผืนจะเปล่งประกายระยิบระยับใต้แสงแดด ดูยิ่งใหญ่และเหมือนความฝันมาก บริเวณที่ราบสูงมารุกะในเมืองทากิคาวะมีทุ่งดอกคาโนล่าที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลดอกคาโนล่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ

สวนทาคิโนะ ทั้งภูเขาปกคลุมไปด้วยดอกชิบะซากุระหลากสีสัน
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

ทุ่งดอกคาโนล่า ที่ที่ราบสูงมารุกะให้ความรู้สึกประทับใจจนไม่อาจบรรยายได้ว่ากำลังอยู่ที่ไหน
ภาพจาก たきかわ菜の花まつり公式

ดอกไลแลค (ライラック) - บานกลางเดือนพฤษภาคม・ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ (すずらん) - บานปลายเดือนพฤษภาคม

ดอกไลแลค (ライラック) เป็นดอกไม้ประจำเมืองซัปโปโร โดยในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จะสามารถชมดอกไม้สีม่วงและสีขาวที่บานเป็นช่อกลมได้ที่สวนโอโดริ นอกจากสวนโอโดริแล้ว ยังสามารถชมได้ที่สวนป่ามาเอดะและสวนคาวาชิตะอีกด้วย

ส่วนดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ (Lily of the Valley) เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของฮอกไกโดเช่นกัน ได้ชื่อมาจากรูปทรงของดอกที่คล้ายระฆัง บนก้านดอกหนึ่งต้นจะมีดอกเล็กๆ ห้อยลงมาหลายสิบดอก ดูเหมือนระฆังเล็กๆ แขวนอยู่ น่ารักและเป็นที่ชื่นชอบมาก ที่ ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์เมบาเอะ ในเมืองบิราโทริ ได้ชื่อว่าเป็นสวนดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน ประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถชมได้ที่สวนทาคิโนะซุซุรัง ในซัปโปโรได้

ทุกปีในเดือนพฤษภาคม ที่สวนสาธารณะโอโดริ เมืองซัปโปโร จะมีการจัดเทศกาลดอกไลแลค
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

เมืองบิราโทริ หมู่บ้านเมออิ มีทุ่งดอกลิลลี่ป่าที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และทุกปีในเดือนมิถุนายนจะมีการจัดงานชมดอกลิลลี่
ภาพจาก 平取町官網

ดอกไม้ที่บานรับฤดูร้อนอันแสนสั้น

ฮอกไกโดมีฤดูหนาวที่ยาวนาน ในทางกลับกันฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนกลับสั้นมาก ดังนั้นในช่วงเวลาอันสั้นนี้ พืชพรรณต่างๆ จึงแข่งขันกันอวดโฉมความงาม หวังที่จะสร้างความทรงจำอันงดงามและประทับใจ มาดูกันว่ามีดอกไม้อะไรบ้างในฤดูร้อนของฮอกไกโด

เมื่อพูดถึงดอกไม้ฤดูร้อนของฮอกไกโด ที่เป็นตัวแทนที่ชัดเจนที่สุดคงจะเป็นดอกลาเวนเดอร์

ดอกเรบุนอสึโมริโซ ตระกูลกล้วยไม้ (レブンアツモリソウ)・ดอกเอโซเคนโซ (エゾカンゾウ) - ออกดอกช่วงมิถุนายน

ในช่วงต้นฤดูร้อนเดือนมิถุนายน เป็นฤดูที่ดอกเรบุนอสึโมริโซ ซึ่งเป็นดอกไม้เฉพาะถิ่นของเกาะเรบุนกำลังบานสะพรั่ง แต่เดิมสามารถพบเห็นได้ทั่วเกาะ แต่เนื่องจากการลักลอบขุด ทำให้จำนวนลดลงอย่างมาก ปัจจุบันแทบจะพบเห็นได้เฉพาะในเขตอนุรักษ์เท่านั้น ดอกมีสีขาวนวลอ่อนๆ กลีบดอกชั้นล่างเป็นรูปทรงคล้ายถุง รูปทรงโดยรวมเล็กกะทัดรัดน่ารัก หากมีโอกาสไปเที่ยวเกาะเรบุนในเดือนมิถุนายน อย่าพลาดโอกาสไปชมดอกไม้ชนิดนี้

ส่วนดอกเอโซเคนโซ ที่บานในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคม มีรูปทรงคล้ายดอกลิลลี่ แต่มีสีเหลืองส้ม ลักษณะพิเศษคือจะบานในตอนกลางวันและร่วงโรยในตอนเย็นของวันเดียวกัน แม้จะเป็นดอกไม้อายุสั้น แต่ก็ยังสามารถชมทุ่งดอกไม้สีเหลืองส้มได้ที่สวนดอกไม้พื้นเมืองซาโรเบสึ เวลแลนด์ นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นได้ที่ อุตะไซ เวลแลนด์ และสวนดอกไม้ป่าโอชามาเบะ ทางตอนใต้ของฮอกไกโดด้วย

ดอกเรบุนอสึโมริโซ ตระกูลกล้วยไม้ไปชมเมื่อมีโอกาสได้ท่องเที่ยวที่เกาะ เรบุน
圖片來源:Garden Island Hokkaido

ในเดือนมิถุนายนดอกไม้สีเหลืองทองบานสะพรั่งพร้อมวิวภูเขาในระยะไกล สร้างทัศนียภาพที่งดงามตระการตา
圖片來源:サロべつ湿原センター

ดอกลูพิน (ルピナス) ดอกป๊อปปี้ (ポピー) และดอกกุหลาบชายหาด (ハマナス)

ดอกลูพินในฮอกไกโดจะบานช้ากว่าในเกาะฮอนชู โดยจะบานในช่วงปลายเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นต้นฤดูร้อน ในญี่ปุ่นเรียกอีกชื่อว่า Nobrifuji เพราะรูปทรงดอกคล้ายดอกวิสทีเรียกลับหัว ดอกลูพินในฮอกไกโดมีหลากหลายสีสันสวยงาม และมีช่อดอกที่ยาวมาก สามารถยาวได้ถึงกว่า 70 เซนติเมตร สามารถชมทุ่งดอกลูพินได้ที่ อิโระโดริ โระ โอกะ ในเมืองฟุคากาวะ และ ชิกิไซ โนะ โอกะ ในเมืองบิเอ

ดอกป๊อปปี้ เป็นดอกไม้ที่ทนความหนาวได้ดีแต่ไม่ชอบอากาศร้อน ในฮอกไกโดช่วงต้นฤดูร้อนอากาศยังเย็นสบาย จึงออกดอกประมาณปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ดอกป๊อปปี้มีหลากหลายสายพันธุ์และสี ทั้งขาว ส้ม แดง สามารถชมได้ที่ โทมิตะฟาร์ม ในเมืองฟุราโนะ ที่ฟาร์มกวางเรนเดียร์นอร์ธการ์เด้น ในเมืองโฮโรโนเบะมีป๊อปปี้สีฟ้าซึ่งหาชมได้ยากในญี่ปุ่น เรียกอีกชื่อว่า ดอกนางฟ้าแห่งสรวงสวรรค์ บานในช่วงมิถุนายน-กรกฎาคม

ส่วนดอกฮามานาสุ (浜梨) ถือเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดฮอกไกโด บางครั้งเรียกในภาษาอังกฤษว่า Japanese Rose ได้รับเลือกเป็นตัวแทนดอกไม้ของฮอกไกโดเพราะสีสันสดใส ใบสวยงาม และปลูกง่าย แข็งแรง ทนความหนาวได้ดี มักบานตามชายฝั่งทะเลในช่วงต้นฤดูร้อน สามารถชมได้ที่ สวนสาธารณะฮามานาสุโนะโอกะ ในเมืองอิชิคาริ ช่วงปลายมิถุนายน-ต้นกรกฎาคม

ดอกลูพิน (ルピナス)

ดอกป๊อปปี้ (ポピー)

และดอกกุหลาบชายหาด (ハマナス)
ภาพจาก 石狩観光協会

ดอกกุหลาบ (バラ) ดอกไอริส (アヤメ・ハナショウブ) และดอกลินิน (アマ)

ในช่วงที่ดอกกุหลาบชายหาดบานสะพรั่ง ก็เป็นฤดูกาลของดอกกุหลาบในสวนด้วยเช่นกัน สวนกุหลาบที่มีชื่อเสียงที่สุด 3 แห่งในฮอกไกโดได้แก่ สวนกุหลาบสวนสาธารณะอิวามิซาวะ สวนกุหลาบชิชิบุเบ็ทสึ และ สวนกุหลาบฮาโบโระ นอกจากนี้ยังมีสวนขนาดเล็กอีกมากมายที่สามารถชมดอกกุหลาบได้ เช่น สวนโอโดริในเมืองซัปโปโร สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด และสวนกุหลาบในสวนชิโรอิโคอิบิโตะ เป็นต้น

ดอกไอริสมีหลายชนิด ส่วนใหญ่จะบานในพื้นที่ค่อนข้างชื้น โดยจะบานในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ดอกมีสีสันหลากหลายทั้งสีม่วง ขาว ชมพู และน้ำเงิน สามารถชมได้ที่ สวนดอกไอริสโรงเรียนเกษตรกรรมฮอกไกโด ในเมืองซัปโปโร

เดือนกรกฎาคมเป็นฤดูกาลของดอกลินิน ซึ่งมีดอกเล็กๆ สีฟ้าอ่อนหรือสีขาวที่น่ารักมาก แต่เดิมสภาพอากาศที่เย็นสบายของฮอกไกโดเหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูก แต่ภายหลังเมื่อมีการใช้เส้นใยสังเคราะห์ ทำให้ลินินแทบจะสูญพันธุ์ไป อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเริ่มปลูกอีกครั้งเพื่อใช้ทำน้ำมันบริโภค ในเดือนกรกฎาคมสามารถชมทุ่งดอกลินินสีฟ้าอ่อนที่สวยงามได้ที่เมืองโทเบ็ทสึ

สวนดอกกุหลาบในสวนสาธารณะ Shiroi Koibito Park ในเมืองซัปโปโร
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

สวนดอกไอริสที่โรงเรียนเกษตรกรรมฮอกไกโด Hakko Gakuen ในเมืองซัปโปโร
ภาพจาก 札幌観光協会

ทุ่งดอกลินินในเมืองโทเบะสึ
ภาพจาก Garden Island Hokkaido

ดอกมันฝรั่ง (ジャガイモの花) - กลางเดือนมิถุนายน)・ดอกโซบะ (そばの花) กรกฎาคม

ทุ่งดอกมันฝรั่งที่เมืองบิเอ ซึ่งมีดอกสีขาวและชมพูบานสะพรั่งไกลสุดตา เป็นหนึ่งในภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโด ดอกมันฝรั่งมีสีแตกต่างกันตามสายพันธุ์ โดยพันธุ์ดันชาคุจะมีดอกสีขาวดูได้สบายตา

สำหรับดอกโซบะ เมื่อเดินทางขึ้นเหนือตามทางหลวงหมายเลข 275 ผ่านอุโมงค์โฮโรกะไน จะพบกับเมืองโฮโรกะไน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตโซบะอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ดอกโซบะจะบานในช่วงต้นกรกฎาคมถึงปลายสิงหาคม สร้างภาพทุ่งดอกไม้สีขาวที่ดูราวกับหิมะตกในฤดูร้อน

ทุ่งดอกมันฝรั่งที่เมืองบิเอ ซึ่งมีดอกสีขาวและชมพูบานสะพรั่งไกลสุดตา
ภาพจาก 俱知安町官網

ดอกโซบะจะบานในช่วงต้นกรกฎาคมถึงปลายสิงหาคม
ภาพจาก 幌加内観光協会

ดอกลาเวนเดอร์ (ラベンダー) - เดือนกรกฎาคม

สวนฮิโนเดะที่คามิฟุราโนะก็มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์เช่นกัน

เมื่อพูดถึงดอกลาเวนเดอร์ในฮอกไกโด ทุกคนมักจะนึกถึงเมืองฟุราโนะ แท้จริงแล้วพื้นที่เพาะปลูกดอกไม้ได้ลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากปัจจัยบางประการ แต่ภายหลังเมื่อ JR ได้นำภาพฟาร์มโทมิตะมาใช้ในปฏิทิน นักท่องเที่ยวก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับความนิยมของละครทีวีเรื่อง 北の国から ทำให้ดอกลาเวนเดอร์กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จนกลายเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของฮอกไกโดที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ดอกลาเวนเดอร์มีสีหลักๆ คือ สีขาว สีชมพู และสีม่วง โดยสีม่วงได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนใหญ่ใช้เป็นน้ำหอมและเพื่อการชมความงาม ในแต่ละปีช่วงเดือนกรกฎาคม เขตฟุราโนะที่มีชื่อเสียงด้านดอกลาเวนเดอร์จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจนเมืองเล็กๆ แห่งนี้แน่นขนัด

สถานที่ชมดอกลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียง :
ฟาร์มโทมิตะ (นาคาฟุราโนะ - 中富良野町)
ลาเวนเดอร์อีสต์ (คามิฟุราโนะ - 上富良野町)
สวนฮิโนเดะ (คามิฟุราโนะ - 上富良野町)
สวนลาเวนเดอร์เทศบาลนาคาฟุราโนะ (เทศบาลนาคาฟุราโนะ - 中富良野町)
จุดชมวิวมิยามะโทเกะ (คามิฟุราโนะ - 上富良野町)
ไฮแลนด์ฟุราโนะ (เมืองฟุราโนะ - 富良野市)
จุดชมวิวโฮโรมิโทเกะ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)
สุสานทาคิโนะมาโคมานาอิ (เมืองซัปโปโร - 札幌市)

ทานตะวัน (ひまわり) - เดือนสิงหาคม

สถานที่ชมทานตะวันที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด Hokuryu Himawari no Sato


ทานตะวันเป็นพืชที่ให้ความรู้สึกเต็มไปด้วยแสงแดดและพลังงานเชิงบวกและยังเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน ส่วนใหญ่ปลูกไว้เพื่อการชมความงาม แต่เนื่องจากเมล็ดและผลของมันสามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ยสำหรับพืชผลได้ จึงพบเห็นทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่ได้บ่อยในพื้นที่เกษตรกรรมทั่วฮอกไกโด ซึ่งไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรด้วย สถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Hokuryu Himawari no Sato ในเมืองโฮคุริว นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ เช่น Omagari Kohan Enchi ในเมืองอาบาชิริ และ Kenritsu Sunpillar Park Nayoro Himawari Batake ในเมือง นาโยโระ

พืชพรรณในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงช่วงก่อนหิมะแรก

ฤดูใบไม้ร่วงของฮอกไกโดนั้นสั้น และ งดงามเช่นเดียวกับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน โดยเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ใบเมเปิ้ลจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงก่อนในบริเวณภูเขาสูงอย่างเช่น อาซาฮิดาเกะ ส่วนในพื้นที่ราบจะเริ่มเปลี่ยนสีประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ดอกซังโกโซ ที่อยู่ทางฮอกไกโดตะวันออกก็จะแสดงสีสันแดงเข้มในช่วงเวลานี้ด้วย

ในมหาวิทยาลัยฮอกไกโดก็สามารถชมใบเมเปิ้ลแดงได้เช่นกัน

ดอกคอสมอส (コスモス) - บานช่วงเดือนกันยายน・ ดอกซังโกโซ (サンゴソウ) - บานช่วงปลายเดือนสิงหาคม

ดอกคอสมอสเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วง ในญี่ปุ่นเรียกว่า ซากุระฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากบานในฤดูใบไม้ร่วงและมีรูปร่างคล้ายดอกซากุระ ดอกมีหลายสี ทั้งสีชมพู ขาว แดง เป็นต้น มีความหมายสื่อถึงความจริงใจและความบริสุทธิ์ ที่สวนสาธารณะทาอิโยโนะโอกะ เอ็งงะรุ ในเมืองเอ็งงะรุ มีดอกคอสมอสกว่า 10 ล้านต้นบานสะพรั่งตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนตุลาคม

หญ้าปะการัง (サンゴソウ) เป็นพืชที่เติบโตในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความเค็ม สามารถพบได้ในทะเลสาบน้ำเค็มแถบชายฝั่งทะเลโอคอทสค์และแถวเนมุโระในฮอกไกโด โดยเฉพาะบริเวณทะเลสาบโนโทโระ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน ลำต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง กลายเป็นพรมสีแดงคล้ายปะการัง จึงได้ชื่อว่าหญ้าปะการัง ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ มาชมความงามนี้

สวนสาธารณะทะอิโยโนะโอกะ เอนกะรุ สวนที่มีชื่อเสียงว่ามีทุ่งดอกคอสมอสที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ภาพจาก 太陽の丘えんがる公園虹のひろば
ทะเลสาบโนโทโระ เป็นหนึ่งในจุดชมพืชทะเลสีแดง (Coral grass) ในฮอกไกโด
ภาพจาก 網走市観光協会

ใบไม้เปลี่ยนสี (ใบไม้แดง) ตั้งแต่เดือนกันยายน

ศูนย์พฤกษศาสตร์ฮิราโอกะ เป็นจุดชมใบไม้แดงที่ได้รับความนิยมในซัปโปโรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ภาพจาก 平岡樹芸センター


ตรงข้ามกับการชมซากุระ เนื่องจากฮอกไกโดอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น ช่วงกลางเดือนกันยายนจึงสามารถชมใบไม้แดงได้ที่ภูเขาอาซาฮิดาเกะทางตอนเหนือของเกาะ ต่างจากใบไม้แดงในเกาะฮอนชู สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของฮอกไกโดมีความพิเศษ ด้วยการผสมผสานของสีเขียว เหลือง และแดง ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากเกาะฮอนชูอย่างสิ้นเชิง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ฟุคุฮาระซันโซ ในเมืองชิคาโอ และ ศูนย์พฤกษศาสตร์ฮิราโอกะ ในเมืองซัปโปโร

ต้นแปะก๊วย (イチョウ) - ปลายเดือนตุลาคม

แนวต้นแปะก๊วยที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด


ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของต้นแปะก๊วยในฮอกไกโดจะใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงในพื้นที่ราบ โดยประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับแนวต้นแปะก๊วยที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนับหมื่นมาเยี่ยมชมเพื่อชื่นชมอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองอันยิ่งใหญ่ หากโชคดีก็จะได้ชมใบเมเปิ้ลสีแดงที่แทรกตัวอยู่ด้วย นอกจากมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแล้ว ยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมายที่สามารถชมความงามนี้ได้

การชมดอกไม้ที่ฮอกไกโดในแต่ละฤดูกาลล้วนมีเสน่ห์แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน หรือทุ่งดอกไม้หลากสีในฤดูใบไม้ร่วง วางแผนทริปฮอกไกโดของคุณให้ตรงกับช่วงดอกไม้บานที่ต้องการ เพื่อประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวฮอกไกโดได้ที่บทความแนะนำอื่นๆ ของเรา

☞ บทความอื่นๆที่แนะนำ
[แพลนเที่ยวฮอกไกโด 2025] แนะนำทริป 10 วัน 7 วัน 5 วัน ที่ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ โอตารุ และฟุราโนะ