มาถึง ฮิโรชิม่า แล้วจะพลาดชม "ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ" มรดกโลกอันโด่งดังจากประตูโทริอิกลางทะเลอันงดงามได้อย่างไร! ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบชินเดนสึคุริของขุนนาง ของสะสมสำคัญประมาณ 260 ชิ้นในพิพิธภัณฑ์สมบัติ หรือ ทางเดินเชื่อมสีแดงสดยาว 260 เมตร ล้วนควรค่าแก่การมารับชม บทความนี้ JapaiJAPAN ได้รวบรวมวิธีการเดินทางไปศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ข้อมูลตั๋วเข้าชม จุดชมวิว 6 แห่งที่ห้ามพลาด รวมถึงเครื่องรางและโกชูอินของศาลเจ้า ปลดล็อกศาลเจ้าอิสึคุชิมะแบบครบครันในบทความเดียว!

---

ประวัติศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

หนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น กับศาลเจ้ากลางทะเลอายุ 1400 ปี

คาดว่า "ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ" ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 593 บนเกาะมิยาจิมะ หรือ "เกาะของเทพเจ้า" โดดเด่นด้วย ประตูโทริอิยักษ์สีแดงสดที่ดูเหมือนลอยเหนือน้ำ พร้อมสถาปัตยกรรมแบบชินเดนสึคุริสไตล์ขุนนาง ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี 1996 และเป็น 1 ใน 3 ของ "สามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น"
จุดเด่นที่ต้องไปสัมผัส:
น้ำขึ้น ศาลเจ้าลอยน้ำ นั่งเรือลอดประตูโทริอิไปสักการะ บรรยากาศลึกลับเหนือจริง
น้ำลง เดินเข้าไปใกล้ชิดใต้ประตูโทริอิ ถ่ายรูปมุมเทพสุดประทับใจ

---

วิธีการเดินทางไปศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

ไปสถานีมิยาจิมะกุจิจากสถานีฮิโรชิมะ

หากต้องการไปนมัสการศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ ต้องนั่งรถไฟไปที่ สถานี JR "มิยาจิมะกุจิ" หรือสถานี "ฮิโรเดนมิยาจิมะกุจิ" ของรถไฟฮิโรชิม่า แล้วเปลี่ยนไปนั่งเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถ้านั่ง JR ส่วนรถไฟฮิโรชิม่าใช้เวลาประมาณ 70 นาที แบบแรกไปถึงเร็ว ประหยัดเวลา แบบหลังชมวิวไปตามทางได้สบายๆ เลือกตามสไตล์ที่ชอบได้เลย

---

นั่ง "JR"

---

นั่ง "ฮิโรชิม่าเดนเท็สสึ"

---

ไปศาลเจ้าอิสึกุชิมะจากสถานีมิยาจิมะกุจิ

เมื่อมาถึง "สถานีมิยาจิมะกุจิ" แนะนำให้ต่อเรือเฟอร์รี่ "JR West Miyajima Ferry (JR西日本宮島フェリー)" หรือ "Miyajima Matsudai Kisen" ใช้เวลาประมาณ 10 นาที รายละเอียดดังต่อไปนี้:

---

ขึ้นเรือ "JR West Miyajima Ferry"

เดินจาก "สถานีมิยาจิมะกุจิ" ประมาณ 6 นาที ก็จะถึงท่าเรือมิยาจิมะกุจิของ "JR West Miyajima Ferry" นอกจากค่าเรือแล้ว ยังต้องจ่ายภาษีเยี่ยมชมเกาะมิยาจิมะ 100 เยน ผู้ใหญ่ไป-กลับ 500 เยน เด็กไป-กลับ 300 เยน (ราคารวมภาษีเยี่ยมชมแล้ว) นอกจากเงินสดแล้ว ยังใช้บัตร IC การเดินทางทั่วประเทศได้ 10 ชนิด ได้แก่ Suica, ICOCA, Kitaca, PASMO, manaca, TOICA, PiTaPa, HAYAKAKEN (はやかけん), nimoca, SUGOCA ถ้ามี JR Pass ไม่ต้องจ่ายค่าเรือ จ่ายแค่ภาษีเยี่ยมชม 100 เยนเท่านั้น คุ้มค่าอย่างมาก!

※ เที่ยวที่มีเครื่องหมาย * สามารถชมประตูโทริอิยักษ์ได้ใกล้

---

JR West Miyajima Ferry
・เวลาเดินเรือ: ประมาณ 10 นาที
・การจอง: ไม่ต้องจองล่วงหน้า
・ค่าโดยสารไป-กลับ: ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน และเก็บภาษีเข้าเกาะอีกคนละ 100 เยน
・จุดเด่น: ใช้ JR Pass ได้ (ใช้หักค่าเรืออย่างเดียว ภาษีเยี่ยมชมใช้ไม่ได้)
・เว็บไซต์ทางการ

---

ขึ้นเรือ "Miyajima Matsudai Kisen"

เดินจาก "สถานีมิยาจิมะกุจิ" ของรถรางฮิโรชิม่าประมาณ 1 นาที ก็จะถึงท่าเรือมิยาจิมะกุจิของ "Miyajima Matsudai Kisen" ค่าโดยสารเท่ากับ "JR West Miyajima Ferry" ผู้ใหญ่ไป-กลับ 500 เยน เด็กไป-กลับ 300 เยน (ราคารวมภาษีเข้าเกาะแล้ว) นอกจากเงินสดแล้ว ยังใช้บัตร IC ของญี่ปุ่นได้ 10 ชนิด ได้แก่ Suica, ICOCA, Kitaca, PASMO, manaca, TOICA, PiTaPa, HAYAKAKEN (はやかけん), nimoca, SUGOCA และรองรับการชำระด้วยบัตรเครดิต VISA, JCB ด้วย

---

Miyajima Matsudai Kisen
・เวลาเดินเรือ：ประมาณ 10 นาที
・การจอง：ขึ้นเรือได้โดยไม่ต้องจอง
・จุดเด่น：เดินเรือเป็นเส้นตรง ใช้เวลาสั้นกว่านิดหน่อย
・ค่าโดยสารไป-กลับ：ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน และเก็บภาษีเข้าเกาะอีกคนละ 100 เยน
・เว็บไซต์ทางการ

---

ค่าเข้าชมศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

หากต้องการเข้าชมศาลเจ้าอิสึคุชิมะ พิพิธภัณฑ์สมบัติ เซ็นโจคาคุ และสถานที่อื่นๆ จะต้องเสียค่าเข้าชม แนะนำให้ซื้อตั๋วรวมศาลเจ้าอิสึคุชิมะ + พิพิธภัณฑ์สมบัติ จะประหยัดได้ 50-100 เยน ค่าเข้าชมรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ไม่รับบัตร IC หรือบัตรเครดิต อย่าลืมเตรียมเงินสดให้พร้อมก่อนไปด้วยล่ะ!

---

เวลาเปิดให้เข้าชมศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

นอกจากศาลเจ้าอิสึคุชิมะจะปรับเวลาเปิดให้เข้าชมตามช่วงเวลาต่างๆ แล้ว พิพิธภัณฑ์สมบัติและเซ็นโจคาคุก็เปิดให้เข้าชมเวลาเดียวกันตลอดทั้งปี เพื่อป้องกันน้ำขึ้น ทางเดินของศาลเจ้าอิสึคุชิมะออกแบบให้มีช่องว่าง รองเท้าส้นสูงอาจติดอยู่ในช่องแคบได้ แนะนำให้เลือกรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าส้นแบนที่เดินสะดวกเมื่อไปเข้าชม

---

ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

---

พิพิธภัณฑ์สมบัติ

---

เซ็นโจคาคุ

---

ดูคู่มือการท่องเที่ยวมิยาจิมะแบบหนึ่งวัน

---

---

6 จุดที่ห้ามพลาดในศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

① ประตูโทริอิยักษ์ของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

"ประตูโทริอิยักษ์" สูง 16 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1875 จากไม้การบูรธรรมชาติ ตั้งอยู่กลางทะเลได้ด้วยน้ำหนักตัวเองโดยไม่ต้องฝัง! ด้วยเทคนิคก่อสร้างใต้น้ำสุดอัจฉริยะนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมชาติ
จุดเด่นที่ห้ามพลาด:
ในช่วงน้ำขึ้น ประตูโทริอิจะลอยอยู่กลางทะเล เป็นภาพที่อัศจรรย์และเหนือจริง
ในช่วงน้ำลง จะสามารถเดินไปใต้ประตูได้ ชมโครงสร้างระยะประชิด และถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาสวยเทพ!

---

② มาโรโดะจินจา

"มาโรโดะจินจา" ตั้งอยู่ทางเข้าระเบียงฝั่งตะวันออก เป็นจุดเริ่มต้นสักการะศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ประกอบด้วย 4 อาคารสำคัญ: ฮอนเด็น (อาคารหลัก), เฮเด็น (อาคารเชื่อม), ไฮเด็น (อาคารสักการะ) และ ฮาราเอเด็น (อาคารชำระล้าง)
ภายในประดิษฐานเทพเจ้าชาย 5 องค์ อาคารหลักได้รับการขึ้นทะเบียนสมบัติแห่งชาติ สถาปัตยกรรมงดงามประณีต เหมาะแก่การถ่ายรูปและชมรายละเอียดอย่างใกล้ชิด

---

③ ฮิงาชิไคโร (ระเบียงฝั่งตะวันออก)

"ฮิงาชิไคโร" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติพร้อมกับโกฮอนเด็นและมาโรโดะจินจา เป็นระเบียงที่เชื่อมระหว่างมาโรโดะจินจากับโกฮอนเด็น เพื่อป้องกันน้ำขึ้น ระเบียงไม่ใช้ตะปู แต่ใช้การออกแบบโครงสร้างสองชั้นที่มีช่องว่าง ซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "เมะสุคาชิ (mesukashi)" เพื่อลดแรงกดดันจากคลื่นที่กระทบพื้นเวลาน้ำขึ้นน้ำลง โคมไฟแขวนบนระเบียงเดิมเป็นของถวายจากตระกูลโมริที่ทำจากเหล็กหล่อ ปัจจุบันเป็นของถวายที่ทำจากบรอนซ์จากยุคไทโช

---

④ โกฮอนเด็น (อาคารหลักศาลเจ้า)

"โกฮอนเด็น" ตั้งอยู่ใจกลางศาลเจ้าอิสึคุชิมะ อาคารหลักขนาดยักษ์ 266 ตารางเมตร ถือเป็น หนึ่งในอาคารศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น!
ภายในประดิษฐานเทพธิดา 3 องค์หลัก พร้อมเทพเจ้าอีก 30 องค์ อธิษฐานได้ทั้งความปลอดภัยในการเดินทาง โชคลาภ ชัยชนะ และเรื่องความรัก
ไฮไลต์คือสถาปัตยกรรม "ชินเด็นสึคุริ" สไตล์คฤหาสน์ขุนนางสมัยเฮอัน โครงสร้างอสมมาตรแปลกตาคุ้มค่าทุกก้าวการสำรวจแน่นอน!

---

⑤ โฮโมสึกัน (พิพิธภัณฑ์สมบัติ)

"โฮโมสึกัน" สร้างขึ้นในปีโชวะที่ 8 เป็นสถาปัตยกรรมล้ำค่าแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ทาสีลงบนคอนกรีต เพื่อสร้างรูปลักษณ์ของอาคารไม้ ภายในห้ามถ่ายรูป เป็นที่เก็บสมบัติแห่งชาติกว่า 260 ชิ้น มีป้ายบรรยายประวัติศาสตร์อย่างละเอียดทุกชิ้น
ไฮไลต์สุดยอดคือ คัมภีร์เฮเกะเคียว 33 ม้วน ที่ตระกูลไทระเขียนขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอัน - ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่าที่ต้องมาชม

---

⑥ ศาลเจ้าโฮโกกุ (เซ็นโจคาคุ)

"เซ็นโจคาคุ" เป็นอาคารไม้ที่ขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะมิยาจิมะ กว้างเกือบเท่าเสื่อทาทามิหนึ่งพันผืน!
อาคารถูกสร้างตั้งแต่สมัยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จจนถึงวันนี้ โดยทั้งหลังคาและเพดานยังค้างอยู่ ภายในมีลายชื่อนักแสดงคาบูกิและเซนริวจุสลักเต็มเสาไม้ บ่งบอกประวัติศาสตร์กว่า 400 ปี
จุดเด่น: ถ่ายรูปได้ครบทั้งเซ็นโจคาคุกับศาลเจ้าอิสึคุชิมะในเฟรมเดียว! ลองหามุมสวยจากหลายองศา รับรองได้ภาพปังๆ แน่นอน

---

ตารางเวลาน้ำขึ้นน้ำลงของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ: เวลาไหนเดินไปโทริอิได้? ถ่ายรูปประตูโทริอิกลางทะเลอย่างไรให้สวย?

อยากเดินไปใต้ประตูโทริอิ? แนะนำช่วงน้ำลง

ตามที่ระบุในเว็บไซต์ทางการ เมื่อระดับน้ำต่ำกว่า 100 เซนติเมตร สามารถเดินไปยังประตูโทริอิยักษ์ได้ แนะนำให้ถ่ายมุมเงยจากล่างขึ้นบน จะจับภาพประตูโทริอิทั้งหมดพร้อมป้ายชื่อได้

---

อยากถ่ายประตูโทริอิลอยน้ำ? แนะนำช่วงน้ำขึ้น

ตามที่ระบุในเว็บไซต์ทางการ เมื่อระดับน้ำสูงกว่า 250 เซนติเมตร จะเห็นศาลเจ้าอิสึคุชิมะลอยอยู่บนทะเล เมื่อระดับน้ำ 252 เซนติเมตร ยังเห็นสันทรายเล็กน้อย เมื่อระดับน้ำ 325 เซนติเมตร น้ำทะเลจะท่วมสันทรายทั้งหมด ศาลเจ้าดูเหมือนลอยอยู่บนผิวน้ำ

---

ตารางเวลาน้ำขึ้นน้ำลงปี 2025

หากต้องการทราบเวลาน้ำขึ้นน้ำลงล่วงหน้า สามารถดูตารางน้ำขึ้นน้ำลงท่าเรือฮิโรชิมะปี 2025 ได้ที่เว็บสมาคมการท่องเที่ยวมิยาจิมะ เพื่อใช้คาดการณ์ได้ ด้านล่างเป็นเวลาน้ำขึ้นน้ำลงเฉลี่ยปี 2025 ที่ต่ำกว่า 100cm และสูงกว่า 250cm สรุปจากตารางเวลาน้ำขึ้นน้ำลงที่ทางการพยากรณ์ไว้ ลองใช้อ้างอิงเวลาวางแผนการเดินทาง แต่ต้องระวังว่าเวลาน้ำขึ้นน้ำลงที่ท่าเรืออิสึคุชิมะจะเร็วกว่าท่าเรือฮิโรชิมะเล็กน้อย แนะนำให้เช็คสถานการณ์น้ำขึ้นน้ำลงแบบเรียลไทม์ที่เว็บไซต์ทางการ แล้วค่อยประเมินจะแม่นยำยิ่งกว่า!

---

ค้นหาเวลาน้ำขึ้นน้ำลงทันที

---

2 จุดถ่ายรูปแนะนำในช่วงฤดูซากุระที่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

ทุกปีช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนเป็นฤดูซากุระ ช่วงนี้แนะนำให้ไปที่ทาโฮโตะ (เจดีย์หลายชั้น) และสวนซากุระโมโมบายาชิ จะได้เห็นวิวสุดสวยของทะเลซากุระสีชมพูอ่อนพร้อมกับประตูโทริอิยักษ์ของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ!

---

แนะนำ ①: ทาโฮโตะ

รอบ "ทาโฮโตะ" มีซากุระหลากหลายสายพันธุ์บานสะพรั่ง รวมถึงซากุระยามา, ซากุระชิดาเระ, ซากุระโอชิมะ และอื่นๆ ประมาณ 1,900 ต้น ในช่วงฤดูซากุระ เมื่อมองจากที่สูงไปยังศาลเจ้าอิสึคุชิมะ จะเห็นทาโฮโตะที่ถูกโอบล้อมด้วยซากุระนับหมื่นดอก และประตูโทริอิขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล สร้างทัศนียภาพอันงดงาม

---

แนะนำ ②: สวนซากุระโมโมบายาชิ

"สวนซากุระโมโมบายาชิ" ตั้งอยู่ด้านข้างภูเขาของทาโฮโตะ เป็นสถานที่ชมซากุระที่ซ่อนอยู่บนเส้นทางเดิน "คายะโนะคิ โฮโด" ที่เชื่อมระหว่างไดโชอินกับสวนสาธารณะโอโมโตะ บริเวณเนินเขาในหุบเขาแห่งนี้ปลูกต้นซากุระไว้มากมาย เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิช่วงต้นเดือนเมษายน ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานเต็มที่ ทะเลดอกไม้สีชมพูจะบานสะพรั่งท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี ซึ่งสร้างทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาด

---

2 จุดถ่ายรูปแนะนำในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

ทุกปีช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงนี้แนะนำให้ไปถ่ายรูปที่สวนโมมิจิดานิและวัดไดโชอิน สองจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่ใกล้ๆ สัมผัสความตระการตาของการถูกล้อมรอบด้วยใบเมเปิลสีแดงสด

---

แนะนำ ①: สวนโมมิจิดานิ

เดินแค่ 10 นาทีจากศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ก็จะถึง สวนโมมิจิดานิ ที่มีต้นเมเปิลกว่า 700 ต้นรออยู่ ใช้เวลาเดินชมแค่ 15 นาทีก็เต็มอิ่มแล้ว!
ช่วง กลาง-ปลายพฤศจิกายน ใบเมเปิลจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดงสะพรั่ง สวยสุดที่ "สะพานโมมิจิ" ราวสะพานสีแดงส้มกลมกลืนกับใบไม้แดงรอบข้าง โชคดีหน่อยอาจได้เจอน้องกวางมาร่วมเฟรมด้วย!
กลางคืนยิ่งพิเศษ เพราะมี Illumination ประดับไฟ บรรยากาศลึกลับแตกต่างจากกลางวันโดยสิ้นเชิง คนรักใบไม้เปลี่ยนสีห้ามพลาด!

---

แนะนำ ②: วัดไดโชอิน

"วัดไดโชอิน" ตั้งอยู่ที่เชิงภูเขามิเซ็น ด้านหลังศาลเจ้าอิสึคุชิมะ เป็นวัดหลักนิกายชินงอนและศูนย์รวมจิตใจของเกาะมิยาจิมะ มีประวัติเก่าแก่ที่สุดบนเกาะ เคยเป็นสถานที่โคโบไดชิปฏิบัติธรรม ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมีไฮไลต์พิเศษ "Light Up ยามค่ำคืน" ชมใบเงาะป่าแดงรำไพท่ามกลางแสงไฟสุดโรแมนติก เป็นบรรยากาศสวยงามระดับเทพที่ไม่ควรพลาด

---

เครื่องรางและโกชูอินที่ต้องซื้อของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

บรรดาเครื่องรางของศาลเจ้าอิสึคุชิมะ เครื่องราง "โกชินอิมะโมริ" ที่ใช้อธิษฐานขอความปลอดภัยทางทะเล ขอให้การประมงดี ความปลอดภัยในการเดินทาง โชคลาภและความสำเร็จ จะได้รับความนิยมมากที่สุด
จุดเด่นสุดพิเศษ: ภายในห่อด้วยผ้าเก่าของเทพธิดาที่เปลี่ยนใหม่ทุกปี เชื่อว่าเสริมพลังคุ้มครองแบบเต็มๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางลายกวางและโกชูอินให้เลือกสะสมอีกด้วย
จุดจำหน่าย: หน้าต่างด้านหน้า "ไฮเด็น" กลางศาลเจ้า เดินผ่านห้ามพลาด!

---

มิยาจิม่า คือจุดหมายปลายทางที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวฮิโรชิม่า ทั้งศาลเจ้าอิสึคุชิมะที่เปลี่ยนโฉมตามน้ำขึ้นน้ำลง ประตูโทริอิลอยน้ำสุดอลังการ และวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวามตะลึงที่สวนโมมิจิดานิ วางแผนเที่ยวแบบอิสระง่ายๆ แล้วมาสัมผัสมรดกโลกแห่งนี้ด้วยตัวเอง!

---