จุดถ่ายรูปเช็กอินแห่งใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว! ที่ "ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" ณ จังหวัดชิซึโอกะ ที่ไม่ได้มีเพียงหอชมวิว พร้อมทิวทัศน์มุมกว้างของภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น แต่ยังมีสถาปัตยกรรมภายนอกที่มีลักษณะคล้ายภูเขาไฟฟูจิกลับหัว ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น ชิเงรุ บัน เมื่อรวมกับประตูโทริอิสีแดงขนาดยักษ์ของศาลเจ้า Fujisan Hongu Sengen Taisha แล้ว เกิดเป็นการผสมผสานที่ลงตัว และทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นตะลึงอย่างแน่นอน! และในบทความนี้ "Japai Japan" ขอนำทุกคนไปยังจุดถ่ายรูปที่ดีที่สุดก่อนนะ!
"ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" ในจังหวัดชิซึโอกะ ที่คุณจะได้รู้จักกับภูเขาไฟฟูจิอย่างละเอียดจากสุนทรียภาพ, ประวัติศาสตร์ และความเชื่อ!
ในฐานะที่ได้ชื่อว่าเป็น "ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น" ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์และศูนย์รวมความศรัทธาของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังเป็นจุดกำเนิดของในงานศิลปะต่างๆ มากมาย นับตั้งแต่ภูเขาไฟฟูจิได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในเดือนมิถุนายน 2556 นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็เดินทางมาเยี่ยมชมฟูจิซังกันอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนธันวาคม 2013 "ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" ในจังหวัดชิซึโอกะได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยมีคอนเซปต์คือการจำลองประสบการณ์การปีนเขาจากตีนเขาขึ้นไปจนถึงยอดภูเขาไฟฟูจิ การเดินทางจะแบ่งออกเป็น 7 ส่วน จากมุมมองที่แตกต่างกัน เริ่มจากศิลปะ ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ นิทานพื้นบ้าน ภูเขาไฟวิทยา มรดกโลก และวรรณกรรมญี่ปุ่น ที่จะแนะนำให้คุณรู้จักภูเขาไฟฟูจิในทุก ๆ ด้าน นอกจากนิทรรศการหลักแล้ว ยังมีร้านกาแฟและพื้นที่จำหน่ายของที่ระลึกบริเวณชั้น 1 ที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้จากนอกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน
จะเดินทางไป"ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" ได้อย่างไร?
สถานีที่ใกล้ที่สุดไปยัง "ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" ในจังหวัดชิซึโอกะได้ คือสถานี "ฟูจิโนะมิยะ" บนรถไฟสาย JR มิโนบุ ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 10 นาที หากคุณนั่งชินคันเซ็น คุณจะต้องขึ้นที่สถานีชิน-ฟูจิ จากทางออกฟูจิ ให้ขึ้นรถบัสสาย 6 ตรงไปยังทางเข้าสถานที่ หากคุณมั่นใจในความแข็งแกร่งของเท้า คุณสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นไปยัง "สถานีชิน-ฟูจิ" แล้วเดินไปที่สถานี "ฟูจิ" รถไฟสาย JR มิโนบุ จากนั้นขึ้นรถไฟไปยังสถานี "ฟูจิโนะมิยะ" และเดินต่อไปก็ได้
ชินคันเซ็นต่อรถบัส |
・ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นไปยัง "สถานีชิน-ฟูจิ" จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสาย 6 (สายชิน-ฟูจิ ~ เข้าศูนย์มรดกโลก) จาก "ฟูจิยามากุจิ" ไปยัง "ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ จังหวัดชิซึโอกะ" ・ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นไปยัง "สถานีชิน-ฟูจิ" จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสาย 6 (สายชิน-ฟูจิ ~ ฟูจิ) จาก "ฟูจิยามากุจิ" ไปยัง "ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ จังหวัดชิซึโอกะ" |
การเดินทางใช้เวลาประมาณ 36 นาที |
---|---|---|
ชินคันเซ็นต่อรถราง | ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นไปยัง "สถานีชิน-ฟูจิ" จากนั้นเดินไปที่สถานีรถไฟสาย JR มิโนบุ จาก "สถานีฟูจิ" ไปยัง "สถานีฟูจิโนะมิยะ" จากนั้นเดินต่อไปยังสถานที่ | ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการเดินจาก "สถานีชิน-ฟูจิ" ไปยัง "สถานีฟูจิ" และใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการเดินจาก "สถานีฟูจิโนะมิยะ" ไปยังสถานที่ |
รถราง | ขึ้นรถไฟสาย JR มิโนบุ ไปยัง "สถานีฟูจิโนะมิยะ" แล้วเดินต่อไปยังสถานที่ | เวลาในการเดินประมาณ 10 นาที |
รวบรวม 3 ไฮไลท์ที่ต้องถ่ายที่ “ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ”
1. "ภูเขาไฟฟูจิกลับหัว" ที่อาคารด้านนอก
"ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" ในจังหวัดชิซึโอกะได้รับการออกแบบโดย ชิเงรุ บัน สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น อาคารหลักสีขาวประกอบด้วยกระจกชิ้นใหญ่และโครงสร้างสามมิติประกอบด้วยแผ่นไม้ที่ประสานกันมีรูปร่างเหมือนภูเขากลับหัว และภาพสะท้อนของสระน้ำด้านหน้าอาคารสะท้อนยังสะท้อนให้เห็นถึงภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ไกลออกไป เราขอแนะนำให้ยืนอยู่ด้านหน้าบริเวณกลางสระน้ำเพื่อถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิที่เกิดจากโครงสร้างไม้ประสานรูปทรงภูเขาไฟฟูจิกลับหัวและภาพสะท้อนบนน้ำ ความสมดุลของจุดศูนย์กลางทำให้ภาพมีสัดส่วนที่งดงามและรู้สึกถึงความเงียบสงบ
2. หอชมวิวภูเขาไฟฟูจิ
"หอชมวิวภูเขาไฟฟูจิ" ตั้งอยู่บนชั้นสองของอาคาร โดยใช้ประโยชน์จากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานทั้งหมดที่หันหน้าไปทางภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชาญฉลาด ขอแนะนำให้คุณถ่ายภาพในมุมต่ำ เพื่อให้สามารถมองเห็นเงาสะท้อนบนพื้น และสามารถเก็บภาพของภูเขาไฟฟูจิทั้งของจริงและเงาสะท้อนไปได้พร้อมๆ กัน
3. ภูเขาไฟฟูจิจิ๋วมากมายภายในอาคาร
ไม่เพียงแต่ทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น แต่ยังมีภูเขาไฟฟูจิขนาดจิ๋วอีกมากมายในพิพิธภัณฑ์ที่รอให้คุณไปสำรวจ! ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตภูเขาไฟฟูจิ 3 มิติ กล่องกระดาษทิชชูรูปภูเขาไฟฟูจิ และกรวยสามเหลี่ยมรูปภูเขาไฟฟูจิขนาดเล็กน่ารัก ของทุกชิ้นล้วนทำออกมาอย่างปราณีตและเต็มไปด้วยลูกเล่น เหมาะอย่างยิ่งกับการซื้อเป็นของฝากกลับบ้าน!
แนะนำ "ไกด์พื้นที่นิทรรศการ" ที่แบ่งภูเขาไฟฟูจิอันศักดิ์สิทธิ์ออกเป็น 7 พื้นที่หลัก
สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดสร้างขึ้นในรูปแบบทางลาดรูปทรงเกลียว จากชั้น 1 ถึงชั้น 4 จะเป็นการจำลองประสบการณ์การปีนจากตีนเขาขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟฟูจิ แบ่งการเดินทางทั้งหมดออกเป็น 7 ส่วน ได้แก่ ภูเขาแห่งการสักการะ, หอชมวิว, ภูเขาแห่งความพิโรธ, ภูเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์, ภูเขาแห่งความงามอันบริสุทธิ์, ภูเขาแห่งการเลี้ยงดู และภูเขาแห่งมรดก ซึ่งให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา ศิลปะ และนิเวศวิทยาของภูเขาไฟฟูจิ
1: ปีนภูเขาแห่งการสักการะ
"ปีนภูเขาแห่งการสักการะ" จำลองทิวทัศน์และขั้นตอนการปีนภูเขาไฟฟูจิ เริ่มต้นจากชั้น 1 และวนขึ้นไปถึงทางลาดของชั้น 5 มีความยาวรวม 193 เมตร จากชายทะเลในจังหวัดชิซึโอกะซึ่งเป็นระดับความสูงต่ำสุดที่ผ่านแนวเขตแดนของเมฆจนไปถึงยอดเขา ภาพถ่ายระหว่างทางนำเสนอความกว้างใหญ่และรกร้างอย่างสมบูรณ์แบบ หากคุณยังไม่เคยปีนภูเขาไฟฟูจิ คุณสามารถดูทิวทัศน์ตามแนวภูเขาไฟฟูจิผ่านเส้นทางนี้ได้!
2: ภูเขาแห่งความพิโรธ
ในมุมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของภูเขาไฟในมหาสมุทรแปซิฟิก พลังงานอันไร้ขีดจำกัดได้ปะทุขึ้น เกิดเป็นภูเขาไฟฟูจิที่ยังเยาว์วัยและมีชีวิตชีวา ภูเขาแห่งความพิโรธแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 35,000 ปีก่อน ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้าระหว่างชาวเกาะกับภูเขาไฟฟูจิ และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทางวัฒนธรรมมากมาย
3: ภูเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์
เนื่องจากทิวทัศน์อันงดงามและธรรมชาติที่ภูเขาไฟฟูจิมอบให้ คนญี่ปุ่นซึ่งศรัทธาจึงได้เริ่มเผยแพร่ "ความเชื่อเทพเจ้าแห่งภูเขา" จนถึงขณะนี้ชาวญี่ปุ่นยังคงยกย่องภูเขาไฟฟูจิด้วยความกลัวและถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ โดยโซนพิเศษ "ภูเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์" มีการแนะนำภูเขาไฟฟูจิจากมุมมองทางศาสนาของชาวญี่ปุ่น
4: ภูเขาแห่งความงามอันบริสุทธิ์
นอกจากจะเป็นภูเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ในดวงใจของคนญี่ปุ่นแล้ว ภูเขาไฟฟูจิยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและหมอกตลอดทั้งปี แนวสันเขาที่สวยงามทั้งสองข้างเป็นที่ยกย่องในบทกวีของญี่ปุ่นหลายบทมาตั้งแต่สมัยโบราณ ความงดงามของมันมักพบเห็นได้ในภาพวาดหลายชิ้น โซนพิเศษ "ภูเขาแห่งความงามอันบริสุทธิ์" เป็นการวิเคราะห์อิทธิพลของภูเขาไฟฟูจิที่มีต่อสุนทรียศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นจากมุมมองของศิลปะและวรรณกรรม
5: ภูเขาแห่งการเลี้ยงดู
หากวัดจากด้านล่างของอ่าวสึรุกะ ภูเขาไฟฟูจินั้นมีความสูงกว่า 6,000 เมตร ไม่ว่าจะเป็นน้ำจากหิมะบนยอดเขา, น้ำฝนที่ไหลลงสู่พื้นดิน หรือน้ำที่ผุดออกมาจากใต้ทะเล น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิเป็นแหล่งสนับสนุนระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ของญี่ปุ่น โซนพิเศษ "ภูเขาแห่งการเลี้ยงดู" จะนำเสนอระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของภูเขาไฟฟูจิตั้งแต่อ่าวสึรุกะไปจนถึงแนวสันเขาจากมุมมองทางนิเวศวิทยา
6: ภูเขาแห่งมรดก
โซนพิเศษ "ภูเขาแห่งมรดก" ไม่เพียงแต่รวบรวมลักษณะต่าง ๆ ของภูเขาไฟฟูจิ เช่น ลักษณะภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ สัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงอนาคตของผู้คนและภูเขาไฟฟูจิว่าจะพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างไรอีกด้วย
ร้านกาแฟ & ร้านค้าพิพิธภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ของใช้รูปภูเขาไฟฟูจิและของที่ระลึกสุดน่ารัก!
หลังจากเยี่ยมชม "ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ" แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการซื้อของที่ระลึก! "ร้านค้าพิพิธภัณฑ์" ตั้งอยู่ด้านหน้าหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานบนชั้น 1 และคั่นด้วยชั้นวางรูปครึ่งวงกลม โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของใช้รูปภูเขาไฟฟูจิหลากหลายชนิด เช่น โปสการ์ด, การ์ดรูปภูเขาไฟฟูจิ ไปจนถึงผ้าเช็ดตัวรูปภูเขาไฟฟูจิ, ถุงช้อปปิ้ง, กล่องทิชชู่, หมวกภูเขาไฟฟูจิ และแม้แต่เต็นท์รูปภูเขาไฟฟูจิ ภายในร้านมีสิ่งของมากมายที่ทั้งมีความคิดสร้างสรรค์และใช้งานได้จริง! ของหวานสำหรับเป็นของขวัญ ได้แก่ คุกกี้ช็อกโกแลตรูปภูเขาไฟฟูจิ และช็อกโกแลตจำลอง 3 มิติ ที่ดูราวกับว่าภูเขาไฟฟูจิขนาดจิ๋วตั้งตระหง่านอยู่จริงๆ ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีมาโดยตลอด หากคุณชอบสะสมสิ่งของที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิ คุณจะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเมื่อมาที่นี่!
ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ จังหวัดชิซึโอกะ
・ที่อยู่: 5-12 Miyacho, Fujinomiya, Shizuoka
・เวลาทำการ: 9:00~17:00 น., เดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 9:00~18:00 น.
・วันปิดทำการ: วันอังคาร ในสัปดาห์ที่3 ของทุกเดือน, วันที่ 27 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม
・เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว ภูเขาไฟฟูจิได้รับความสนใจในฐานะที่เป็นจุดเช็กอินสำหรับถ่ายรูปมาโดยตลอด แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เข้าใจความหมายของภูเขาไฟฟูจิที่มีต่อประเทศญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ครั้งต่อไปนอกจากจะได้ถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว อย่าลืมไปเดินเล่นที่ “ศูนย์มรดกโลกภูเขาไฟฟูจิ” แล้วคุณจะได้รู้จักฟูจิซังอย่างละเอียดยิ่งขึ้นด้วยนะ1
เรียบเรียงและเขียน: AMO 2024.4
ภาพถ่าย: Yusho
บรรณาธิการบริหาร: Yusho, issue