ประเทศญี่ปุ่นมีหมู่บ้านกัสโช หรือหมู่บ้านกระท่อมมุงหลังคาสามแห่ง โดยหนึ่งในนั้น คือ หมู่บ้านชิราคาวาโกะที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคโฮคุริคุ โดยทุกปีช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์จะมีการจัดงานประดับไฟในยามค่ำคืน ทิวทัศน์หมู่บ้านกระท่อมหลังคามุงหญ้าท่ามกลางหิมะนั้นโรแมนติกและลึกลับสุด ๆ ซึ่งนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกิฟุเลย! ต่อไปนี้จะแนะนำเคล็ดลับการเดินทางไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะด้วยรถบัสด่วน 4 จุดเช็คอินยอดนิยมในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ พร้อมแนะนำแผนที่สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และของฝากที่ต้องซื้อ ผู้ที่วางแผนจะไปเที่ยวชิราคาวาโกะ ต้องตั้งใจอ่านบทความนี้เลยละ!

ทิวทัศน์หมู่บ้านกระท่อมหลังคามุงหญ้าท่ามกลางหิมะนั้นโรแมนติกและลึกลับสุดๆ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกิฟุ
ที่มาของภาพ:photo AC
มารู้จักหมู่บ้านชิราคาวาโกะกันก่อน
หมู่บ้านชิราคาวาโกะตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่นี่มีชื่อเสียงจากบ้านแบบ "กัสโชซึคุริ" ที่มีหลังคามุงหญ้าแบบพิเศษ ออกแบบให้เหมือนมือที่ประนมไว้ ช่วยต้านทานหิมะหนาในฤดูหนาวได้อย่างดี แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและความงามของสมัยโบราณ พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ป่าเขารอบหมู่บ้านจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสลับเหลือง สวยงามราวกับภาพวาด ใบไม้สีแดงตัดกับบ้านโบราณในหมู่บ้าน ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งนิยาย นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ทุกคนยังสามารถเข้าชมบ้านโบราณในหมู่บ้านได้ด้วย เช่น "บ้านวาดะ" เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง หมู่บ้านนี้สวยทุกฤดู แต่ถ้าถามถึงช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ต้องเป็นช่วงเทศกาลประดับไฟในฤดูหนาวแน่นอน สำหรับกิจกรรมประดับไฟในฤดูหนาว แนะนำให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความแนะนำกิจกรรม
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ภาพรวมสภาพอากาศของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ภาพจำของหมู่บ้านชิราคาวาโกะส่วนใหญ่ให้ความรู้สึกเป็นภาพหิมะสีขาวสวยงาม เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ในฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย ส่วนในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์หิมะให้ชม อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 10.9 องศา ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม อุณหภูมิต่ำสุดติดลบทั้งหมด ช่วงปลายเดือนธันวาคมของทุกปีจะเริ่มหิมะตก หิมะน่าจะตกต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมีนาคม เดือนกุมภาพันธ์ หิมะจะถมหนาขึ้นไปถึง 170 เซนติเมตรเลย! นอกจากต้องจับจังหวะไปชมวิวหิมะให้ดีแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวและอุปกรณ์ให้พร้อมด้วยล่ะ!

※ ข้างต้นเป็นข้อมูลเฉลี่ยตั้งแต่ปี 1991 ถึง 2020
(แหล่งที่มา:สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น)
วิธีการเดินทางไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
นั่งรถบัสจากทาคายามะและคานาซาวะแค่ 1 ชั่วโมง! วิธีการขึ้นรถบัส
① ตัดสินใจเลือกจุดเริ่มต้น: ทาคายาม่า คานาซาวะ หรือโทยาม่า?
วิธีเดินทางไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่สะดวกที่สุด คือ การนั่ง "รถบัสด่วนพิเศษ" ที่ร่วมกันให้บริการโดยบริษัท Nohi และบริษัท Hokuriku Railway นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางจากทาคายามะ และคานาซาวะ! นอกจากนี้ บริษัทรถไฟใต้ดินโทยามะและบริษัทโนฮิก็มีบริการรถบัสด่วนที่เริ่มเดินทางจากโทยามะ ตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นความแตกต่างของเวลาออกรถของแต่ละสถานที่ เพื่อช่วยให้ทุกคนวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น:
จุดออกเดินทาง | เวลาของรอบรถ | เวลาที่ใช้ในการเดินทาง | ค่าโดยสาร |
ทาคายามะ | ช่วง 7:20~19:00 หนึ่งถึงสองรอบต่อชั่วโมง ทั้งหมด 17 รอบต่อวัน |
ประมาณหนึ่งชั่วโมง | 2,600 เยนต่อหนึ่งเที่ยว |
คานาซาวะ | 8:10, 8:40, 9:10, 9:40 - 11:10, 13:00, 13:20, 14:00, 16:00 ทั้งหมด 9 รอบต่อวัน |
ประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที | 2,600 เยนต่อหนึ่งเที่ยว |
โทยาม่า | 9:00, 10:10, 12:00 ทั้งหมด 2 รอบต่อวัน |
ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที | 2,400 เยนต่อหนึ่งเที่ยว |
② จองตั๋วผ่านบริการจองออนไลน์สุดสะดวก
เนื่องจากหมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ดังนั้นจึงขอแนะนำจองตั๋วรถล่วงหน้าไว้ให้เรียบร้อย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวล้นหลาม ควรจองตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มเปิดขายเมื่อหนึ่งเดือนก่อน (ช่วงเทศกาลประดับไฟจะมีการจำกัดจำนวนคนเข้าชม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วิธีการจับฉลากเพื่อเข้าชมการประดับไฟที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ)! ตั๋วรถสามารถ "จองทางโทรศัพท์" และ "จองทางออนไลน์" แน่นอนว่าสามารถ "ซื้อตั๋วที่ศูนย์รถบัส" ได้โดยตรง ซึ่งในบรรดาวิธีเหล่านี้ แนะนำให้ทุกคนที่อยู่ต่างประเทศนั้นเลือกใช้ระบบการจองออนไลน์ของ "Japan Bus Online" มากที่สุด เพราะใช้งานง่ายมาก และสิ่งที่สำคัญ คือ หลังการจองสำเร็จไม่ต้องไปแลกตั๋วจริงที่ศูนย์รถบัส สามารถขึ้นรถด้วยวิธีการแสดงอีเมลการจองเท่านั้น

เว็บไซต์จองตั๋วออนไลน์!
ที่มาของภาพ:Japan Bus Online

การเดินทางจากโทยาม่าไปชิราคาวาโกะ ขอให้เลือกเส้นทางจากโทยาม่าไปทาคายามะก่อน จากนั้นค่อยเปลี่ยนจุดหมายปลายทางเป็นชิราคาวาโกะในหน้าถัดไป
ที่มาของภาพ:Japan Bus Online
นอกจากนี้ การจองตั๋วออนไลน์สามารถยกเลิกได้ตลอดเวลาก่อนรถออก (แต่บางเส้นทางอาจมีค่าธรรมเนียมนิดหน่อย) ถ้าหากสภาพอากาศย่ำแย่ หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถยืดหยุ่นแผนการเดินทางได้มากกว่า แต่อย่าลืมว่าถึงแม้หลังจากยกเลิกแล้ว ที่นั่งจะเหลือให้คนอื่นจองต่อทันที ก็ไม่ควรยกเลิกพร่ำเพรื่อนะ
ข้อควรระวังเป็นพิเศษ:ระบบจองออนไลน์ของ Japan Bus Online ไม่สามารถให้บริการต่อไปนี้ได้ ถ้าความจำเป็นต้องใช้บริการเหล่านี้ กรุณาจองผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือศูนย์บริการรถบัสโดยตรง
► ไม่สามารถจองตั๋วไปและกลับ
Japan Bus Onlineให้บริการจองตั๋วเที่ยวเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถรับส่วนลดราคาตั๋วไปและกลับได้
►ไม่รองรับการใช้ "ตั๋วท่องเที่ยวรอบภูมิภาคทาคายามะและโฮคุริคุ" หรือแพ็กเกจโปรโมชันอื่นๆ
ตั๋วที่จองล่วงหน้าผ่าน Japan Bus Online ไม่สามารถใช้แพ็กเกจราคาพิเศษได้ ผู้ที่ถือตั๋วแพ็กเกจ หรือต้องใช้ตั๋วแพ็กเกจไปชิราคาวาโกะนั้นไม่ค่อยเหมาะสม
Japan Bus Online
・หน้าเว็บไซต์จองตั๋ว "รถบัสด่วนสายชิราคาวาโกะ":กรุณาคลิกที่นี่
ศูนย์รถบัสทาคายามะโนฮิ
・โทรศัพท์:0577-32-1688
ศูนย์จำหน่ายตั๋วรถไฟโฮคุริคุ
・โทรศัพท์:076-234-0123
③ แสดงอีเมลยืนยันการจองก่อนขึ้นรถไปยังหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
จุดขึ้นรถบัสด่วนไปชิราคาวาโกะของทาคายามะ คานาซาวะ หรือโทยาม่า ต่างอยู่แถวสถานีรถไฟ JR ทั้งนั้น ถ้าจองตั๋วออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ก็แค่ไปถึงป้ายรถบัสก่อนเวลารถออก พอถึงคิวขึ้นรถ ให้แสดงอีเมลยืนยันให้คนขับ เพื่อตรวจสอบชื่อและที่นั่ง จากนั้นก็นั่งได้เลย ส่วนคนที่ซื้อตั๋วผ่านช่องทางอื่น อย่าลืมไปแลกตั๋วจริงที่ศูนย์บริการรถบัสก่อน แล้วค่อยไปขึ้นรถที่ป้ายล่ะ!

แผนที่ "ศูนย์บริการรถบัส" และ "จุดขึ้นรถ" ของทาคายามะโนฮิ, คานาซาวะ, โทยามะ และชิราคาวาโกะ
ที่มาของภาพ:เว็บไซต์ทางการ Nohi Bus
ขับรถไปเอง: ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงจากนาโกย่า!
สำหรับคนที่จะขับรถไปเอง เว็บไซต์ทางการของหมู่บ้านชิราคาวาโกะนำเสนอคู่มือเดินทางให้แล้ว ไม่ว่าจะมาจากโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า หรือคานาซาวะ ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวสามารถวางแผนทริปด้วยคู่มือนี้เลย ส่วนเรื่องที่จอดรถ ทางการแนะนำให้ใช้ลานจอดรถสาธารณะ อย่าง "ลานจอดรถหมู่บ้านเซเซรากิ" เนื่องจากสามารถจอดรถยนต์ทั่วไปประมาณ 200 คัน และยังมีพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย ถ้าที่จอดรถเต็ม ทางการจะพานักท่องเที่ยวไปยังลานจอดรถชั่วคราวที่อื่น หากเป็นผู้ร่วมงานประดับไฟ ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะช่วงเทศกาล "การประดับไฟฤดูหนาวที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ" จะเริ่มจำกัดการจอดรถตั้งแต่ 15.00 และ 17.00 จะเปิดให้เฉพาะรถบัสที่ร่วมมือกับทางการ หรือผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมจอดรถเท่านั้น ถ้าวางแผนจะมาช่วงค่ำ กรุณาเข้าร่วมการจับฉลากเพื่อเข้าร่วมงานประดับไฟที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ

คู่มือการขับรถท่องเที่ยวของทางการ
ที่มาของภาพ:Shirakawa-go Tourism Association
ลานจอดรถหมู่บ้านเซเซรากิ
・ที่ตั้ง:2495-3 Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ:8:00~17:00
・ค่าจอดรถ:รถทั่วไป: 1,000 เยน / รถจักรยานยนต์: 200 เยน
・การเดินทาง:ลงจากทางด่วนทางแยก "ชิราคาวาโกะ IC" แล้วตามป้ายบอกทางไปยัง "ลานจอดรถอุทยานเซเซรากิของหมู่บ้าน"
・เว็บไซต์ทางการ
ข้อควรระวังเป็นพิเศษ:
・หลังออกจากลานจอดรถหมู่บ้านเซเซรากิ และผ่านสะพาน DEAI ไปจะเข้าสู่บริเวณหมู่บ้านมรดกโลก!
・ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่จอดรถบางส่วนสำหรับรถยนต์ทั่วไปจะถูกนำไปใช้เป็นที่จอดรถบัสแทน
・วันเปิดงานกิจกรรมประดับไฟ ลานจอดรถจะจำกัดการให้บริการ คนที่ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานประดับไฟต้องขับรถออกจากลานจอดตั้งแต่ 15.00 เป็นต้นไป
・ค่าจอดรถบางส่วนจะถูกนำไปใช้ในงานอนุรักษ์มรดกโลก
แนะนำโปรแกรมเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ห้ามพลาดการชมไฟประดับยามค่ำคืน และจุดเช็คอินยอดนิยม
ต้องไปเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น: การประดับไฟยามค่ำคืนในฤดูหนาว!
บ้านมุงหญ้าในหมู่บ้านชิราคาวาโกะจังหวัดกิฟุ มีลักษณะเหมือนมือที่ประนมไว้ จึงได้รับการขนานนามว่า "บ้านหลังคามุง" และแน่นอนว่าที่นี่จึงกลายเป็น "หมู่บ้านมือพนม" เนื่องจากหมู่บ้านตั้งอยู่ในที่ลับตา จึงเคยเป็นที่ซ่อนตัวของเหล่าซามูไรตระกูลไทระที่พ่ายแพ้และหนีมา และยังคงรักษาสภาพเหมือนเมื่อหลายร้อยปีก่อนมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นหมู่บ้านแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน "สามสถานที่ลึกลับที่สุดของประเทศญี่ปุ่น"

ถึงแม้จะไม่มีสิทธิ์เข้าชมการประดับไฟยามค่ำคืน แต่ก็ยังสามารถมาเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะได้ก่อนกิจกรรมเริ่ม!
แม้ว่าหมู่บ้านชิราคาวาโกะจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ มีความเขียวขจีในฤดูร้อน และมีใบเมเปิ้ลสีแดงเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง แต่ฤดูกาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ฤดูหนาว! บ้านหลังคาทรงสามเหลี่ยมที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ดูราวกับบ้านขนมหวานที่โรยน้ำตาลไอซิ่ง เหมือนภาพในนิทานที่สมจริงขึ้นมา และได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม โดยเฉพาะ "กิจกรรมประดับไฟยามค่ำคืนที่หมู่บ้านชิราคาวาโก" ของช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ไม่เพียงแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ยังต้องจองล่วงหน้าด้วยการจับฉลากอีก... แต่ว่า! แม้จะลำบากมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถหยุดกระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวได้ เรียกได้ว่าเต็มโคต้าทุกปีเลยทีเดียว!
เคล็ดลับ:ทุกปีการจับฉลากสำหรับกิจกรรมประดับไฟในฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมของปีก่อน!
สถานที่ต้องไปเช็กอิน ①: ชมวิวหมู่บ้านที่สวยงามแบบเต็มตา - จุดชมวิวเท็นชูคาคุ
สามารถเดินประมาณ 20-30 นาทีจากศูนย์รถบัสชิราคาวาโกะเพื่อไปยัง "จุดชมวิวเท็นชูคาคุ" แต่ถ้ารู้สึกว่าการเดินขึ้นเขามันเหนื่อยเกินไป หรือหิมะตกจนเดินลำบาก ขอแนะนำให้ทุกคนใช้บริการรถรับส่งที่อยู่เยื้องกับ "Wada House" เพื่อไปยังจุดชมวิว พอถึงที่หมายสามารถชมวิวที่สวยงาม พร้อมทั้งร้านขายของฝากและร้านอาหารด้วย! นอกจากนี้ อยากเตือนทุกคนว่า ถ้ามีงานประดับไฟในฤดูหนาว จุดชมวิวจะปิดเร็วกว่าปกติ ขอให้ระวังเป็นพิเศษด้วยล่ะ
รถรับส่งไปยังจุดชมวิวเท็นชูคาคุ
・ค่ารถ:300 เยนต่อหนึ่งรอบ ชำระเงินก่อนลงรถ
・รอบการเดินทาง:ขึ้นรถที่ "ด้านเยื้องของบ้านวาดะ" รถออกทุก 20 นาทีตั้งแต่ 9:00-15:40 (รถออกนาทีที่ 00, 20 กับ 40 ของทุกชั่วโมง ไม่ออกรถช่วง 12:00-13:00 )
・รอบรถไปเมืองฮากิ (ผ่านบ้านตระกูลวาดะ):ขึ้นรถที่ "ลานจอดรถจุดชมวิวเท็นชูคาคุ" รถออกทุก 20 นาทีตั้งแต่ 9:10-16:10 (รถออกนาทีที่ 10, 30 และ 50 ของทุกชั่วโมง ไม่ออกรถช่วง 12:00-13:00)
・เว็บไซต์ทางการ:Shirakawa-go Town Hall
สถานที่ต้องไปเช็กอิน ②: ภาพโปสการ์ดที่โด่งดังที่สุด - กระท่อมน้อยสามหลัง
แม้ว่าจะต้องเดินประมาณ 15-20 นาทีจากจุดท่องเที่ยวอื่นๆ แต่เมื่อมาถึงหมู่บ้านชิราคาวาโกะแล้ว ก็ต้องแวะมาชมวิวสุดคลาสสิกที่เห็นบ่อยในโปสการ์ดสักหน่อยสิ! "กระท่อมน้อยสามหลัง"! กระท่อมน้อยสามหลังที่ชิราคาวาโกะ มีสองหลังเป็นเรือนรับรองของชูเบ (Chube) ส่วนอีกหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ถนนสายหลัก คือ อาคารหลักชูเบ สามารถรับประทานอาหารข้างในได้
ถ้าอยากจะเก็บภาพวิวสวย ๆ ของกระท่อมสามหลังชื่อดัง ต้องเดินอ้อมไปถ่ายจากด้านข้าง นอกจากภาพหิมะปกคลุมสวยงามในช่วงฤดูหนาวแล้ว ทุก ๆ ปีเดือนพฤษภาคม ช่วงที่นาข้าวทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำ จะสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของกระท่อมในน้ำได้ด้วย ดูเป็นภาพที่เหมือนความฝันเลยล่ะ! แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เรื่อง การถ่ายรูปโดยบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล อย่าเผลอเหยียบนาข้าวของชาวบ้านล่ะ! โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่พื้นดินปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน มองไม่ชัด แล้วถ้าออกนอกถนนใหญ่ไปเดินลุยหิมะตามอำเภอใจ อาจจะกำลังเหยียบพืชผลในไร่นาของชาวบ้านอยู่ก็ได้...อย่ากลายเป็นนักท่องเที่ยวนิสัยไม่ดีนะ!
ข้อควรระวังเป็นพิเศษ:ไม่ใช่แค่บริเวณกระท่อมน้อยสามหลัง แต่ไม่ควรเหยียบเข้าที่ไหนก็ตามที่มีหิมะหนาปกคลุมอยู่! เมื่อหิมะตกหนัก หลุม ร่องน้ำ สระน้ำ อาจถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ถ้าเผลอเดินไปเหยียบเข้าอาจเป็นอันตรายถึงตัวคุณ!
สถานที่ต้องไปเช็กอิน ③: ข้ามสะพานเพื่อพบกับโลกแห่งเทพนิยาย - Deai bashi
ถ้าขับรถมาที่ชิราคาวาโกะ ต้องข้ามสะพานนี้ก่อนที่จะถึงหมู่บ้านกัสโชซึคุริ── "Deai bashi(であい橋)" เนื่องจากที่นี่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ถ้าอยากถ่ายรูปสวย ๆ นอกจากต้องมีความอดทนแล้ว ยังต้องระวังไม่กีดขวางทางสัญจรด้วย แน่นอนว่า เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงฝูงชนก็คือ มาให้เช้ากว่าคนอื่น หรืออยู่จนดึกกว่าคนอื่นนั่นเอง!
ประสบการณ์ที่ห้ามพลาด: สำรวจมรดกทางวัฒนธรรมจากภายในสู่ภายนอก - บ้านกัสโชสึคุริ
อยากย้อนเวลากลับไปดูชีวิตของบรรพบุรุษเมื่อ 200 ปีก่อนไหม ? แค่เดินเล่นในถนนบอกเลยว่าไม่พอ! หมู่บ้านชิราคาวาโกะมีบ้านหลังคาสูงหลายหลังที่ยังคงสภาพภายในแบบดั้งเดิม และจัดแสดงของโบราณให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังคาสูงของตระกูล "Wada" ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ ตระกูล"Kanda" ที่แยกตัวออกมาจากตระกูลวาดะ บ้านตระกูลหมอ "Nagase" ที่มี 5 ชั้น หรือ "โรงครัวของวัดเมียวเซ็นจิ" ที่คงไว้ซึ่งวัดหลังคามุงหญ้า และเคยเป็นที่พักของเจ้าอาวาส ทั้งหมดล้วนคุ้มค่าแก่การมาสัมผัสด้วยตัวเอง
Wada House
・ที่ตั้ง:Ogimachi, Shirakawa Village, Gifu Prefecture Wada Family
・เวลาบริการ:9:00~17:00
・วันหยุด:วันหยุดไม่แน่นอน
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 400 เยน นักเรียนชั้นประถมศึกษา 200 เยน
・เว็บไซต์ทางการ:Shirakawa Village Office
Kanda House
・ที่ตั้ง:Kanda Family, Ogimachi, Shirakawa Village, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ:10:00~16:00
・วันหยุด:วันพุธ
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 400 เยน นักเรียนชั้นประถมศึกษา 200 เยน
・เว็บไซต์ทางการ:Gassho-style Folk Crafts Museum Kanda House
Nagase House
・ที่ตั้ง:Nagase family, Ogimachi, Shirakawa Village, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ:9:00~17:00
・วันหยุด:วันหยุดไม่แน่นอน
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 400 เยน นักเรียนชั้นประถมศึกษา 200 เยน
・เว็บไซต์ทางการ:Shirakawa Village Office
พิพิธภัณฑ์วัดเมียวเซ็นจิ
・ที่ตั้ง:679 Ogimachi, Shirakawa Village, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ:
【เดือนเมษายน-พฤษจิกายน】8:30〜17:00
【เดือนธันวาคม-มีนาคม】9:00〜16:00
・วันหยุด:วันหยุดไม่แน่นอน
・ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 400 เยน นักเรียนชั้นประถมศึกษา 200 เยน
・เว็บไซต์ทางการ:Shirakawa Village Office
แนะนำที่พักในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
Shirakawa go no Yu

หิมะตกหนาวจัง? มาแช่ออนเซ็นกันเถอะ!
ที่มาของภาพ:Shirakawago Onsen Official Website
มองดูกระท่อมหลังคาทรงสามเหลี่ยมที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน พร้อมกับแช่ตัวในบ่อออนเซ็นธรรมชาติที่อุ่น ช่างเป็นความสบายที่อยากให้เวลาหยุดนิ่งตลอดไปเลยละ! "Shirakawa go no Yu
" เป็นโรงแรมออนเซ็นเพียงแห่งเดียวในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ แม้ว่าจะไม่ได้สร้างในสไตล์บ้านกัสโชสึคุริ แต่ภายในตกแต่งด้วยไม้ฮิโนกิ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายทันทีที่ก้าวเข้าไป
ที่นี่ได้แบ่งออนเซ็นเป็นแบบในร่มและกลางแจ้ง ถึงจะไม่ได้เข้าพักก็สามารถจ่ายเงินเข้าใช้บริการได้ หากลืมผ้าเช็ดตัวก็สามารถซื้อที่นี่ได้เลย ถึงอยากแช่ออนเซ็นกะทันหันก็ไม่มีปัญหา แถมยังมีร้านอาหารในที่พักด้วย หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จ ก็ถึงเวลาอิ่มท้องแล้ว!
Shirakawa go no Yu
・ที่ตั้ง:337 Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
・วันหยุด:วันพฤหัสบดี
・เวลาบริการ:7:00~21:00 (เวลาเข้าสุดท้าย 20:30)
・ราคา:ผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียนประถม 400 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบเข้าฟรี
・เว็บไซต์ทางการ:กรุณาคลิกที่นี่
แนะนำอาหารอร่อยที่ต้องลองในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ของอร่อยริมทางที่กินแล้วหยุดไม่ได้: ขนมโกะเฮบิน และขนมเนื้อวัวฮิดะ
เดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกหิวขึ้นมาใช่ไหมล่ะ? มาแวะกินของว่างเล็กน้อยกันก่อนดีกว่า! ขอแนะนำขนมพื้นเมืองของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ "ขนมโกะเฮบิน" โดยเป็นขนมที่ทำจากข้าวบดที่ปั้นเป็นรูปไข่ ทาด้วยซอสมิโสะแล้วนำไปย่าง หลังจากกลิ่นหอมเริ่มลอยมา น้ำลายก็ไหลออกโดยไม่รู้ตัวเลย! ถ้าใครชอบดื่มเหล้า แนะนำให้สั่งน้ำข้าวหมักที่เป็นเครื่องดื่มท้องถิ่นมาจิบคู่กันด้วยนะ เพราะรสชาติหวานเค็มของโกะเฮบินั้นยิ่งเคี้ยวยิ่งหอม และเข้ากับเหล้าได้ดีมากเลยล่ะ! นอกจากนี้ หมู่บ้านกัสโชยังมีของกินเล่นที่ทำจาก "เนื้อวัวฮิดะ" จำนวนมาก เช่น เมนูพื้นฐาน อย่าง เนื้อย่างเสียบไม้ หรือโครอกเกะเนื้อวัวฮิดะ!

ขนมโกะเฮบินที่ย่างจนส่งเสียงซู่ซ่า
ที่มาของภาพ:photo AC
ช่วงเวลาน้ำชายามบ่าย: Ochūdo Cafe
"Ochūdo Cafe" เป็นร้านกาแฟที่โด่งดังในโลกออนไลน์สุด ๆ เพราะกาแฟที่นี่ชงด้วยน้ำพุธรรมชาติจากหมู่บ้านชิราคาวาโกะ แถมยังนำเสนอซุปถั่วแดงต้มสดอีกด้วย ส่วนอาหารนอกจากขนมปังปิ้งแล้ว ยังนำเสนอข้าวแกงกะหรี่ให้เลือกด้วย ตัวเลือกเมนูเยอะแยะ ถ้าสั่งเครื่องดื่มร้อน ทางร้านจะให้สิทธิ์การเลือกแก้วใบที่สวยงามจากชั้นวางทั้งหมด แล้วรินเครื่องดื่มให้แบบพิเศษสุด ๆ เลย การตกแต่งภายในร้านดูเรียบง่าย แต่ใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งประกอบด้วยของคลาสสิกน่ารักที่วางอยู่ทุกมุมห้อง ทำให้คนใจเย็นลงและอยากชื่นชมบรรยากาศไปโดยไม่รู้ตัว
Ochūdo Cafe
・ที่ตั้ง:792 Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ:11:30~16:00
・โทรศัพท์:05769-6-1603
・เว็บไซต์ทางการ:Shirakawa-go Tourism Association
เคล็ดลับ:ถ้าร้านกาแฟยอดนิยมนี้เต็มทั้งหมด ควรไปร้านไหนดีล่ะ? ไม่ต้องกังวลไป เพราะหมู่บ้านชิราคาวาโกะยังมีร้านกาแฟพิเศษอีกมากมาย! ซึ่งขอแนะนำร้านกาแฟอักหนึ่งร้านที่นำเสนอที่นั่งเป็นเบาะทาทามิทั้งร้าน อย่าง "”Kyoshu” Traditional Coffee Shop" การตกแต่งภายในและภายนอกเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และทางร้านจำกัดเฉพาะผู้ใหญ่เข้าใช้บริการ บรรยากาศภายในร้านจึงเงียบสงบและผ่อนคลายเป็นพิเศษ ทำให้สามารถดื่มด่ำกับชาและปลดปล่อยอารมณ์ให้สงบลงได้อย่างเต็มที่
อาหารพื้นเมืองสุดอลังการ: ชุดเนื้อวัวฮิดะย่างมิโซะห่อใบไม้
เวลาท่องเที่ยว ก็อยากลองชิมอาหารอร่อยที่มีเฉพาะในท้องถิ่นใช่ไหมล่ะ? ถ้ามาถึงหมู่บ้านกัสโช อย่าพลาดอาหารพื้นเมืองของเขตกิฟุ แบบ "ย่างมิโสะห่อใบโฮบะ" เชียวละ โดย "Konjaku", "IRORI(いろり)", "Shiraogi(しらおぎ)" ร้านอาหารญี่ปุ่นในชิราคาวาโกะต่างนำเสนอเมนูนี้! ซึ่งคือเนื้อวัวฮิดะย่างบนใบโฮบะที่ทาด้วยมิโสะ หลังจากเอาไปย่างบนเตาไฟ กลิ่นหอมลอยฟุ้งไปทั่ว รสชาติเฉพาะตัวของซอสผสมเขากับเนื้อวัวนุ่มฉ่ำอย่างลงตัว ทำเอาติดใจจนอยากกินเรื่อย ๆ อาหารอร่อยนี้ราคาไม่ถึง 2,000 เยนด้วย ถือว่าคุ้มสุด ๆ ไปเลยล่ะ!

การย่างมิโสะห่อใบโฮบะ ดูแล้วน้ำลายไหลเลย
ที่มาของภาพ:photo AC
ของฝากที่ต้องซื้อเมื่อไปเยือนหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
พูดถึงของฝากจากชิราคาวาโกะ สิ่งแรกที่นึกถึง คือ คุกกี้รูปบ้านกัสโชสึคุริ! โดยร้านแรกที่แนะนำ อย่าง Kondou Shoten นำเสนอ "ขนมเปี๊ยะพนมมือ(合掌せんべい)" หรือ ขนมโมจิไส้งาดำห่อใบชิโสะ(紫蘇もなか) ที่ห่อไส้ถั่วแดงผสมใบชิโสะ ซึ่งทั้งสองต่างเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากและกินเองอย่างยิ่ง นอกจากนี้ "ขนมข้าวตัง(結おこし)" ที่ทำจากข้าวขาวท้องถิ่น "ป๊อปคอร์นคาราเมล(キャラメルポップコーン)" ที่ทำมาจากข้าวโพด หรือของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดกิฟุ "มิโสะห่อใบโฮบะ" ก็เป็นของฝากที่มีเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างมากเลยล่ะ แต่ว่า ถ้าให้นักเขียนแนะนำของฝากที่ตัวเองชอบที่สุด ขอเสนอ "ขนมหวานถั่ว" ประเภทต่าง๐ ของร้าน Mame-kichi ถึงแม้ว่าจะมีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นกว่า 10 แห่ง แต่ที่สาขาชิราคาวาโกะนำเสนอรสชาติพิเศษเฉพาะท้องถิ่นและตามฤดูกาล ซึ่งกินเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อเลยล่ะ!

ขนมใบชิโสะ (มีรสชาติอื่น)
ที่มาของภาพ:ร้านขายขนมทากุจิยะ

ข้าวตัง
ที่มาของภาพ:Kondou Shoten
นอกจากของฝากที่กินได้แล้ว มาถึงหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ยังสามารถซื้อ "ลิงน้อย (ซารุโบโบะ)" ตุ๊กตามาสค็อตของฮิดะตอนกลางกลับบ้านได้ด้วย! ลิงน้อยแบบมาตรฐานจะมีตัวสีแดงสด ใส่ผ้าโพกหัวสีดำ ไม่มีหน้า ท่าทางเป็นรูปตัว "ไดะ" (大) ยกแขนทั้งสองข้างและดูทรงพลังมาก ว่ากันว่าแต่เดิมใช้มอบให้เด็กๆ เป็นเครื่องรางนำโชคเพื่อสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ ถ้าชอบของที่ผลิตจากไม้ไผ่ หญ้าสาน หรือเครื่องใช้ ก็อาจจะขุดเจอของดีในหมู่บ้านกัสโชได้เหมือนกัน!
Kondou Shoten
・ที่ตั้ง:226 Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
・วันหยุด:หยุดไม่แน่นอน
・เวลาบริการ:10:00~17:00
・เว็บไซต์ทางการ:กรุณาคลิกที่นี่
Mame-kichi Shirakawago store
・ที่ตั้ง:240 Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
・เวลาบริการ:9:00~17:00 (ช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเปิดถึง 18:00)
・เว็บไซต์ทางการ:กรุณาคลิกที่นี่
วางแผนเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ จังหวัดกิฟุ ให้คุ้มที่สุดด้วยคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ ทั้งการเดินทาง ที่เที่ยว ที่พัก และของอร่อย พร้อมพาคุณสัมผัสความงามของหมู่บ้านมรดกโลกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น!